Home / โรแมนติก / พ่ายรักเชลยสาว / Chapter 13. ผู้หญิงของเขา

Share

Chapter 13. ผู้หญิงของเขา

last update Last Updated: 2024-12-07 00:05:30

            บ่าวชราที่เคยทำตัวงกๆเงิ่นๆ มาบัดนี้ค่อมเอวคารวะบุรุษในชุดดำที่สวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับแล้วกวาดตามองไปทั่วเรือนหลังน้อย ที่เวลานี้ซ่อมแซมไปได้หลายส่วนแล้ว  หากไม่เกรงว่าเจ้าของบ้านจะแตกตื่น เขาคงจัดการสั่งรื้อถอนแล้วสร้างใหม่ไปนานแล้ว ไม่ต้องเปลืองสมองหาวิธีทำให้นางที่ละนิดละหน่อยเช่นนี้

            “นางเป็นอย่างไรบ้าง”

            “คุณหนูฟู่สุขสบายดีขอรับ”

            “ลำบากเจ้าแล้ว”

            “คุณหนูฟู่มีจิตใจเมตตา กับบ่าวไพร่ก็ใส่ใจดูแลอย่างดี จะว่าไปแล้วงานนี้นับว่าเป็นงานสบายที่สุดที่นายท่านมอบหมายให้พวกเราทำขอรับ”

            ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างยากที่จะได้เห็นนัก ‘ผู้หญิงของเขา’ ก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว  บุรุษหนุ่มยกมือเป็นสัญญาณ เหล่าคนในชุดดำรวมทั้งบ่าวชราพลันหายวับไปราวกับไร้ตัวตน  เขาหมุนตัวก้าวเท้าเข้ามาในเรือน  ตรงไปยังห้องนอนของหญิงสาว  ปลดหน้ากากที่ปิดบังครึ่งใบหน้าออกแล้ววางบนโต๊ะ แม้อยู่ในความมืดแต่เขาจดจำทุกตำแหน่งในห้องของนางได้อย่างแม่นยำ  มือแกร่งยื่นไปปัดม่านมุ้งออกแล้วนั่งลงริมเตียง มองใบหน้าหลับใหลด้วยดวงตาอ่อนโยน เป็นนางที่ทำให้เขากลายเป็นเช่นนี้ ใครเลยจะรู้ว่าบุรุษที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมไร้หัวใจจะกลายเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นได้ แต่คนที่เขาใส่ใจมีเพียงนางเท่านั้น

            สองปีแล้วสินะ

            ผ่านมาสองปีแล้ว

            นางไม่ใช่เด็กสาวผอมบางจนน่าเวทนาอีกแล้ว ในเวลานี้นางคือหญิงสาวที่ครอบครองความงามสะพรั่งดุจบุปผาบนสรวงสวรรค์ ผิวขาวราวหิมะ แก้มเนียนฝาดสีเลือด ขนตายาวเป็นแพหนา ริมฝีปากอิ่มดุจผลอิงเถาเผยอนิดๆ ดูไร้เดียงสาและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน  ร่างอรชรขยับตัวเล็กน้อย ผ้าห่มเลื่อนลงเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มที่ดุนดันชุดนอนที่สวมอยู่ เห็นนางมีน้ำมีนวลขึ้นค่อยเบาใจและคุ้มค่ากับที่ส่งคนมาคอยคุ้มครองนาง   

            มุมปากยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงครั้งแรกที่สบตากับดวงตาคู่นี้  ท่าทางมุ่งมั่นพยายามรักษาบาดแผลตลอดจนเสียงหัวเราะกังวานใส  ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ หลังจากที่เขาออกจากเรือนหลังนั้นก็มุ่งมั่นจัดการและสะสางปัญหาจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่ก็ใช้เวลาถึงสองปีกว่าจะได้มาพบหน้าอีกครั้ง แต่หากรู้ความจริงว่าเขาเป็นคนที่กำลังจะช่วงชิงแผ่นดินที่นางอาศัยอยู่ นางจะทำเช่นไร ยังคงทำดีกับเขาอยู่หรือไม่ ที่ผ่านมานางเคยคิดถึงเขาหรือเปล่า

            “เฉิน...อี้เฉิน”

            ชายหนุ่มถึงกับผงะไปเล็กน้อย แม้เสียงที่ส่งออกมาแผ่วเบาแต่เขาได้ยินชัดเจน แต่ดวงตาของนางยังปิดสนิท

            “เซียงเซียง”  เสียงทุ่มต่ำเรียกอยากยั้งใจไม่อยู่พลางโน้มหน้าลงสูดดมกลิ่นหอมที่โหยหา คนที่หลับใหลถูกรบกวนเอียงใบหน้าหลบอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากหยักแตะถูกลำคอขาวผ่อง ความเย้ายวนเบื้องหน้าทำให้เผลอขบเม้มลำคอแล้วกระซิบชิดผิวอ่อนนุ่ม

            “รอข้า...อีกไม่ช้า...ข้าจะรับเจ้ามาอยู่เคียงข้าง”

            ก่อนที่จะยั้งใจไม่อยู่  เขาตัดใจผละจากร่างอ่อนนุ่ม จับข้อมือเรียวเล็กขึ้นมาสวมกำไรหยกมันแพะแล้วจูบหลังมือเบาๆ แล้ววางมือลงตามด้วยห่มผ้าให้เรียบร้อย เขายืนมองอย่างอาลัยครู่หนึ่งจึงหมุนตัวกลับเดินไปหยิบหน้ากากมาสวมตามเดิม ร่างสูงก้าวเดินออกไปอย่างเงียบเฉียบ

            ในความฝัน  หญิงสาวถูกเหวี่ยงร่างลงแผ่นหลังกระแทกฟูกนอน มือหยาบกระด้างกุมลำคอของนางไว้ ดวงตาคมปลาบจ้องมองเขม็ง นางเปล่งเสียงเรียกชื่อเขาอย่างยากลำบาก

            “เฉิน...อี้เฉิน...”

            ฟู่เซียงเซียงผวาตื่นยันกายขึ้นจากที่นอน มือเล็กยังสั่นน้อยๆ แล้วยกมือกุมลำคอ ผ่านมาสองปีแล้ว แต่นางยังฝันถึงทาสหนุ่มผู้นั้น หญิงสาวปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงมองออกไปด้านนอก ฟ้ายังมืดอยู่ แต่ให้นอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว  นางจึงลุกขึ้นเดินไปจุดเทียนในห้อง

ก่อนย้ายมาอยู่ที่นี่ นางรับคัดลอกหนังสือ เพื่อให้ได้เงินมาซื้อข้าวสาร นางถึงกับนั่งทำงานตลอดคืน ทุกวันนี้จะเรียกว่าลำบากก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่นางกลับพอใจกับการใช้ชีวิตเช่นนี้ แม้ถูกมองอย่างดูแคลน การช่วยคนให้รอดพ้นความตายได้ก็เป็นความสุขและความท้าทายในเวลาเดียวกัน  แต่จะมีชายใดยอมรับหมอหญิงเป็นภรรยาบ้างไหมนะ

            “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”  จางลี่แง้มประตูโผล่หน้าเข้ามาอย่างเกรงใจ “บ่าวจะเตรียมน้ำให้ล้างหน้านะเจ้าค่ะ”

            “เจ้าไม่ใช้บ่าวของข้าแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกเรียกแทนตัวเองว่าบ่าวเสียที”

ฟู่เซียงเซียงเบ้ปากใส่ แต่จางลี่กลับหัวเราะออกมา สาวใช้ผลุบหายไปครู่หนึ่งแล้วกลับเข้ามาพร้อมอ่างใส่น้ำล้างหน้า  ก่อนออกจากเมืองหลวง คุณหนูคืนสัญญาทาสให้จางลี่  จางลี่ยังยืนกรานจะติดตามคุณหนู รวมทั้งแม่นมหวงเองก็เช่นกัน นางไม่มีญาติพี่น้องที่ใดมารดาของฟู่เซียงเซียงรับนางที่เป็นหญิงหม้ายมาช่วยเลี้ยงดูคุณหนูที่แบเบาะ ความผูกพันมีมากว่าสิบปีทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่เดินทางมาชายแดนด้วยกัน   

หญิงสาวล้างหน้าบ้วนปากแล้ว จึงนั่งลงให้จางลี่แปรงผมให้ ขณะยกมือขึ้นแตะทรงผมหน้ากระจก หญิงสาวเพิ่งรู้ตัวว่าที่ข้อมือมีกำไลหยกสวมอยู่

“เอ๊ะ! กำไลหยกวงนี้...” นางลูบกำไลอย่างประหลาดใจ เมื่อพิจารณาดีๆ รู้สึกคุ้นตา จะเป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นกำไลหยกมันแพะที่นางเคยหยิบขึ้นดูที่ตลาดกลางคืน พี่ลี่เฉี่ยวซื้อให้นางหรือ? เป็นไปไม่ได้ นางเห็นเขาเดินตามนางมาทันทีไม่ได้หวนกลับไปซื้อนี่ และที่สำคัญ มันมาอยู่ในข้อมือนางได้อย่างไร

“คุณหนูนี่รอยอะไรเจ้าคะ”  จางลี่ใช้นิ้วแตะรอยแดงที่ลำคอของหญิงสาว “โดนแมลงกัดรึเจ้าคะ”

นางชะโงกหน้ามองในกระจกเงาตรงหน้า แม้เห็นไม่ชัดนักแต่ก็พอมองออกว่าเป็นรอยแดงๆ นางยกมือขึ้นรูปบริเวณนั้นพลางคิดถึงภาพในความฝันที่ถูกบีบคอ หรือนางจะถูกแมลงกัดเอาจริงๆ จึงฝันถึงอี้เฉิน

“บ่าวจะไปหยิบยามาทาให้นะเจ้าค่ะ”

ฟู่เซียงเซียงอ้าปากจะเอ่ยถามแต่เปลี่ยนใจ เกรงว่าจางลี่จะตกใจมากกว่านาง  แล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่ทำให้วุ่นวายกันไปหมด แต่มีคนลอบเข้าในห้องนอนของนาง และสวมกำไลวงนี้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายนาง หรือจะเป็นคนที่นางเคยช่วยไว้? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็มาพบในเวลาปกติได้นี่ ทำไมต้องทำเช่นนี้  นางถอดกำไลวงนั้นออกแล้วเก็บใส่กล่องเครื่องประดับก่อนที่จางลี่จะเดินกลับเข้ามา

จู่ๆ กลับคิดถึงชายสวมหน้ากากแปลกประหลาดที่พบในตรอกนั้น  นางกลัวจนไม่กล้าสบตากับเขา แต่กระนั้นก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ภาพทาสหนุ่มซ้อนทับที่ชายคนนั้น นางสะบัดศีรษะไปมา แม้รู้สึกว่าอี้เฉินมีเบื้องหลังไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หายไปตั้งสองปีไม่เคยได้ยินข่าวเลย นางเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ใด

จางลี่กลับมาพร้อมตลับยาในมือและช่วยทายาบริเวณที่เป็นรอยแดงจากนั้นจึงช่วยคุณหนูผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดบุรุษ นางอยากเห็นคุณหนูแต่งกายสวยงามเช่นคืนที่ไปเดินตลาดด้วยกัน  คุณหนูดูมีความสุขมาก ได้เห็นรอยยิ้มของคุณหนูก็พลอยสุขใจไปด้วย

ฟู่เซียงเซียงกินอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวไปที่ค่ายทหาร  นางไม่มีม้า และห่างเหินการขี่ม้ามานาน จนไม่มั่นใจว่าตัวเองยังจำการบังคับม้าได้หรือไม่ ทุกวันที่นางไปทำงานก็จะ ‘บังเอิญ’มีชาวบ้านที่จะผ่านไปทางค่ายทหารให้นางอาศัยรถม้าไปด้วยกัน  วันนี้นางมาถึงก็เห็นใบหน้าเคร่งเครียดของท่านหมอกู้และหมอทหารคนอีกสองคน  หญิงสาวคารวะทักทายแล้วเอ่ยถามตรงไปตรงมา

“มีเรื่องใดรึเจ้าคะ”

Related chapters

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 14. คิดเห็นอย่างไร

    “ทหารแคว้นฉินมีการเคลื่อนไหวแล้ว” หมอกู้เนี่ยนเจินสีหน้าวิตกกังวล ไม่ใช่แค่ความน่าเกรงขามของทหารแคว้นฉินเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือแม่ทัพประจำชายแดนรวมทั้งเจ้าเมืองก็ไม่ได้มีความสามารถนัก ในเมืองหลวงแย่งชิงอำนาจแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ชายแดนก็อ่อนแอ เห็นว่าศึกครั้งนี้จะพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้รบ“ท่านหมอกู้คิดเห็นอย่างไรก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ”หมอกู้สูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย “เจ้าเป็นหญิงอยู่ที่นี่จะลำบาก หากมีหนทางอื่นก็ไปเถิด” “ไป...จะให้ข้าไปไหนเจ้าคะ” นางส่ายหน้าอย่างงุนงง “หากเกิดสงครามจริง ข้าจะไม่ไปไหนจะอยู่ช่วยท่านหมอกู้ที่นี่เจ้าค่ะ”“สิ่งที่เจ้าเห็นเป็นเพียงการปะทะกันเล็กๆน้อยๆ ของทหารชายแดน หากเกิดสงครามขึ้นจริง เจ้าจะรับมือไม่ไหว!”“เช่นนั้นข้ายิ่งต้องอยู่ที่นี่ หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตคน ถ้าข้าหนีเอาตัวรอดแล้วจะกล้าเรียกตัวเองว่าหมอได้อย่างไร”หมอกู้เห็นความตั้งใจของนางแล้วก็พยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวให้ดี หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าอาจจะช่วยเจ้าไม่ได้”“ท่านหมอกู้โปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้ผู้ใด และหากเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับข้า ข้าก็จะไม่โทษผู้อื่นเช่นกัน”แววตาของนางเปี่ยม

    Last Updated : 2024-12-07
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 15. นี่มันเรื่องอะไรกัน

    “ไปตรอกทางทิศตะวันตก” นางตอบแล้วอดกวาดตามองไม่ได้ “มีเรื่องใดรึ” “หมอฟู่ไม่รู้หรือ? ตอนนี้ทหารแคว้นฉินเข้ามาในเมืองของเราแล้ว” “เป็นไปได้อย่างไร!” ดวงตากลมเบิกกว้าง “เจ้าเมืองเปิดประตูให้ก็เดินเข้ามากันอย่างกับมาเดินตลาด!” “เขาพูดกันว่าทั้งแม่ทัพและเจ้าเมืองรู้เห็นเป็นใจกับการเปิดประตูเมือง เห็นว่าเพื่อไม่ใช่ชาวบ้านเดือดร้อน เหอะ! ข้าว่าเพราะต้องการเลือกอยู่ฝ่ายแคว้นฉินเสียมากกว่า” “ทำอย่างไรได้ ฮ่องเต้ไม่สนพระทัยเรื่องชายแดนมานาน” “ชายแดนถูกยึดเช่นนี้ ทัพแคว้นฉินก็บุกไปเมืองหลวงโดยง่ายแล้ว” ฟู่เซียงเซียงยืนฟังแล้วเผลอกัดริมฝีปากครุ่นคิด ไม่รู้ท่านหมอกู้จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้นางต้องรีบไปรับคนก่อน “อันตรายเช่นนี้ คุณหนูอย่าเพิ่งออกไปเลยขอรับ” บ่าวชราเอ่ยเตือน แต่ฟู่เซียงเซียงส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ ที่นั้นมีเด็กและคนแก่ ข้าต้องรีบไปพาพวกเขามา” นางพูดแล้วรีบขึ้นรถม้า สารถีสบตากับบ่าวชราเล็กน้อยแล้วบังคับม้าให้เดินไป บ่าวชราเดินหลบมาด้านหลังเรือนแล้วหยิบนกหวีดออก

    Last Updated : 2024-12-07
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 16.ปลดหน้ากากสิ

    หญิงสาวยืนตัวเกร็งอยู่กลางห้อง หลังจากบรรดาหญิงรับใช้หลายคนเข้ามาช่วยกันจับนางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและแปรงผม ในเวลานั้นนางพยายามขัดขืน แต่ทุกคนต่างขอร้องเพราะเกรงว่าหากทำให้ ‘ไต๋อ๋อง’ ไม่พอใจจะได้รับโทษทัณฑ์ นางจึงจำใจยอมให้หญิงรับใช้แต่งกายให้ใหม่ และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เหลือเพียงนางในห้องนี้คนเดียว ถูกชายที่เรียกตัวเองว่าอี้เฉินแบกขึ้นรถม้า ยังไม่ทันได้ซักถามอะไรก็ถูกเขาจี้สกัดจุดให้หมดสติ ฟื้นอีกครั้งก็อยู่ในห้องนี้กับบรรดาหญิงรับใช้ ปกติแต่งกายด้วยชุดบุรุษจนเคยชิน ยามนี้ถูกจับแต่งกายเป็นหญิง ซ้ำยังเป็นชุดนางรำเนื้อผ้าบางเบา ปกปิดก็เหมือนเปิดเผย ฟู่เซียงเซียงกัดริมฝีปากจนเจ็บเมื่อได้สติจึงเดินดูรอบๆ เผื่อหาทางหลบหนี ตอนเข้ามานางหมดสติจึงไม่รู้ว่าที่นี่ที่ใด แต่ดูจากหญิงรับใช้แล้วคงเป็นห้องๆ หนึ่งของจวนเจ้าเมืองแม้อยากรู้ความหมายในสิ่งที่เขาพูด แต่นางก็หวาดกลัวท่าทางคุกคามนั้น ทว่ายังไม่ทันหาทางออกให้กับตัวเองได้ บานประตูเปิดออกก็ขึ้นเสียก่อน นางยืนนิ่งอยู่กลางห้องประสานตากับบุรุษผู้สวมหน้ากากปิดครึ่งใบหน้า เมื่อพิจารณาดูนางจึงเข้าใจว่าเป็นหน้ากากใบหน้าของห

    Last Updated : 2024-12-11
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 17. เชลย 

    “หรือท่านอยากตอบแทนบุญคุณข้า?” ฟู่เซียงเซียงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกได้ว่ามือของเขาร้อนระอุจนแทบจะลวกนางได้แล้ว เขายื่นจอกสุราจ่อริมฝีปากของนาง คล้ายว่าถ้านางไม่ยอมดื่มเขาก็ไม่ยอมเลิกรา ทำให้นางจำใจจับรับจอกสุรามายกดื่มจนหมด ความร้อนวูบหนึ่งผ่านลำคอลงกระเพาะ แต่กระนั้นก็ทำให้ชีพจรเต้นแรงขึ้น “ท่านควรรู้ว่าข้าไม่ดื่มสุรา” นางผลักจอกสุราออก “เช่นนั้นเจ้าควรรู้ว่าฐานะของเจ้าตอนนี้คือเชลยของแคว้นฉิน” เขาเอ่ยดวงตาหรี่มองริมฝีปากที่ชุ่มด้วยหยาดสุรา อยากรู้ว่าสุราจากริมฝีปากนางจะรสชาติเดียวกับที่เขาดื่มหรือไม่ ดวงตาคู่งามฉายแววงุนงง “ข้า...” “เจ้าเป็นแค่เชลยทำตามคำสั่งของข้าเท่านั้น”นางผู้ไม่ชอบถูกบ่งการถึงกับขึงตาใส่ “ท่านไม่มีสิทธิ์!”“ข้าเป็นไต๋อ๋องไม่ใช่อี้เฉินของเจ้าอีกแล้ว” เขายิ้มชั่วร้ายจนหญิงสาวผงะถอยห่าง เขาโอบรัดร่างนางเข้ามาใกล้จนลมหายใจรดผิวแก้มที่แดงระเรื่อ“ถ้าข้าไม่ยินยอม...” “เซียงเซียง” เขาเรียกนางด้วยน้ำเสียงกวนโทสะ “เจ้าไม่ทำตามที่ข้าสั่งก็ย่อมทำได้ แต่เจ้าไม่เป็นห่วงเด็กกำพร้าเหล่านั้นหรือ? หรือแม้แต่ศพแม่เฒ่าผู้นั้น...” “ท่าน!” นางขึงตาใส่เขา

    Last Updated : 2024-12-11
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 18. เจ้ากำลังทวงบุญคุณกับข้า

    “เรื่องนั้นเพราะข้ามีฝีมือต่างหากละ!” นางโต้เถียงอย่างลืมตัวว่าสถานการณ์ตอนนี้ตกเป็นรอง “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่า ข้าเดินลมปราณขับพิษเองมิใช่เพราะเจ้ารักษา” “แต่ถ้าไม่ใช่ข้ารักษาแผล เช็ดเนื้อตัวดูแลจนไข้ลด เจ้าจะรอดตายได้เองหรือไรกัน” นางขึงตาใส่ อุตส่าอดตาหลับขับตานอนดูแลขนาดไหนกว่าจะรอดตายมาได้ “ซ้ำข้ายังเสียเงินสองตำลึงซื้อตัวท่านมาอีกด้วย!” “เจ้าเสียเงินสองตำลึงซื้อตัวข้า แต่ข้าเสียเงินเท่าไรคุ้มครองเจ้ามาสองปี” มุมปากยกยิ้มแต่ไปไม่ถึงดวงตา เพราะกระต่ายดิ้นรนสุดกำลัง เขากลัวนางจะเจ็บจึงปล่อยมือจากข้อมือของนาง หญิงสาวลนลานกระถดกายถอยหนีไปชิดหัวเตียง เพราะยันกายขึ้นนั่งเสื้อผ้าที่หลุดรุยจึงเลื่อนหล่น มือเรียวเล็กรีบคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมร่างทันที “ท่านต้องการสิ่งใด” คล้ายว่านางเคยถามเขามาแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน “ให้เจ้าอยู่ข้างกายข้า” นางส่ายหน้าไปมา เส้นผมยาวสลวยเคลียใบหน้าทำให้ชายหนุ่มยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมทัดใบหูให้อย่างอ่อนโยน “เจ้าปฏิเสธได้รึ” เขาหัวเราะในลำคอ “หากไม่เป็นผู้หญิ

    Last Updated : 2024-12-11
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 1. สองตำลึง

    แนะนำตัวละครฟู่เซียงเซียง : บุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีกรมพิธีการฟู่เจี้ยนกั๋ว อาศัยในแคว้นสือเจ้า สนใจวิชาแพทย์ปรารถนาจะเป็นหมอหญิงฟู่ซินอี๋ : บุตรสาวภรรยารองของเสนาบดีกรมพิธีการฟู่เจี้ยนกั๋ว มีศักดิ์เป็นน้องสาวฟู่เซียงเซียงแม่นมหวงเจียอี : แม่นมที่เลี้ยงดูฟู่เซียงเซียงตั้งแต่แบะเบาะ รักและเอ็นดูฟู่เซียงเซียงดุจลูกในไส้จางลี่ : สาวใช้ขาพิการ ที่ฟู่เซียงเซียงซื้อตัวมาอี้เฉิน : ทาสหนุ่มที่ฟู๋เซียงเซียงซื้อตัวมาฉินตงหยาง : ไต๋อ๋องแห่งแคว้นฉินชีอันฟาน : คนสนิทของไต๋อ๋อง ราวกับถูกสายตาคู่หนึ่งดึงดูดไว้ทำให้เด็กสาวที่แต่งกายด้วยชุดของเด็กชายที่ใหญ่เกินตัว ดวงตาเป็นประกายจ้องมองชายหนุ่มที่สภาพสะบักสะบอม เสื้อผ้าดูไม่ออกว่าสีเดิมเป็นสีอะไร ผมเผ้ารุงรังเกรอะกรังไม่น่ามอง ตามเนื้อตัวดูท่าจะมีแผลฟกช้ำห้อเลือดอยู่ไม่น้อย ริมฝีปากที่เม้มแน่นแต่เห็นได้ชัดว่าเขียวคล้ำ คงมีเพียงแววตาที่แข็งกร้าวที่บ่งบอกว่ายังมีชีวิต “สิบตำลึง...สิบตำลึงเท่านั้น” “สิบตำลึง!” เด็กสาวร้องเสียงหลงแต่ทำให้หลายคนหันมามอง นิ้วเรียวชี้ไปยังทาสหนุ่มที่ถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืน แม้ร่าง

    Last Updated : 2024-12-02
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 2. หมอหญิง

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กสาวรักษาคน แต่เป็นครั้งแรกที่นางซื้อคนมารักษา เงินสองตำลึงนั้นก็เพิ่งได้จากการรักษาฮูหยินท่านหนึ่ง เพราะเป็นสตรีจะพูดคุยกับหมอบุรุษก็รู้สึกขัดเขิน นางที่แอบลอบออกจากจวนติดตามหมอจูรักษาผู้คนจึงพอจะตรวจโรคพื้นฐานทั่วไปได้ แต่ถึงกระนั้น นางยังเจียมตัวไม่อาจเรียกตัวเองว่าหมอ “อดทนหน่อยนะ” นางเอ่ยแล้วใช้ปลายมีดกรีดเปิดปากแผล รับรู้ได้ถึงร่างกายที่เกร็งจนสั่นสะท้าน แผลตรงหัวไหล่เป็นมานานจนแผลอักเสบเป็นหนอง ทันทีที่ปากแผลเปิด หนองสีขาวขุ่นก็ไหลทะลักออกมา กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งจนแม่นมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก จากนั้นใช้แหนบคีบเอาหัวลูกศรที่ฝังอยู่ออกมา เสียงถอนหายใจโล่ง อกที่อุปสรรคแรกผ่านไป “ต้องเอาหนองออกให้หมด” นางอธิบายทั้งที่ไม่แน่ใจว่าทาสที่ซื้อตัวมาฟังอยู่หรือไม่ เด็กสาวล้างแผลด้วยน้ำผสมเกลือเจือจาง ซับแผลจนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างอีกจึงหยิบยาผงโรยที่แผลแล้วใช้ผ้าปิดปากแผล “คุณหนูเก่งจังเลยเจ้าค่ะ” จางลี่อดชื่นชมไม่ได้ “ยังมีอีกแผลที่ต้องเย็บ” “ยะ..เย็บ..เย็บแผล?” คราวนี้จางลี่พูดไม่

    Last Updated : 2024-12-02
  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 3.ทาสหนุ่ม

    สายลมพัดผ่านพาแสงเทียนวูบไหว ฟู่เซียงเซียงเงยหน้าขึ้นจากการคัดลอกตำราแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เสียงแมลงกลางคืนเงียบไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ นางนั่งทำงานเพลินจนลืมเวลาอีกแล้ว ในเรือนหลังนี้มีเพียงนาง แม่นมหวงเจียอีและจางลี่ ส่วนบุรุษอีกคนที่ยังหลับใหลนั้น นางไม่อยากนับรวมไปด้วย ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าแล้วหันมาเก็บสมุดบนโต๊ะให้เรียบร้อย เพราะทำงานเพลินจนดึกดื่นนางจึงไม่ให้แม่นมหวงกับจางลี่อยู่รอปรนนิบัติ สำหรับนางแล้ว ทั้งสองเป็นเสมือนญาติที่เหลืออยู่ ความตายของมารดาพรากความสุขที่เคยมีไปหมดสิ้น ในวัยเพียงสิบขวบ นางเพียรทำทุกวิถีทางให้บิดาหันกลับมาใส่ใจนางเช่นเวลาที่มารดายังอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่า หลังมารดาตายจากครึ่งปี บิดาก็ยกภรรยารองมาเป็นภรรยาเอก รวดเร็วเสียจนนางไม่คาดคิด ในคราวที่มารดายังอยู่ คนเหล่านั้นล้วนเอาใจใส่นาง ให้ความเคารพยำเกรง แต่เมื่อสิ้นมารดา นางกลายเป็นเพียงก้อนหินไร้ค่าที่บิดาเมตตาเก็บไว้ท้ายจวน เสื้อผ้าอาภรณ์ อาหารการกิน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกส่งมาอย่างจำกัด รวมทั้งบ่าวรับใช้ข้างกายก็ไม่มี ยังดีที่บิดาส่งแม่นมหวงมาอยู่เ

    Last Updated : 2024-12-02

Latest chapter

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 18. เจ้ากำลังทวงบุญคุณกับข้า

    “เรื่องนั้นเพราะข้ามีฝีมือต่างหากละ!” นางโต้เถียงอย่างลืมตัวว่าสถานการณ์ตอนนี้ตกเป็นรอง “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่า ข้าเดินลมปราณขับพิษเองมิใช่เพราะเจ้ารักษา” “แต่ถ้าไม่ใช่ข้ารักษาแผล เช็ดเนื้อตัวดูแลจนไข้ลด เจ้าจะรอดตายได้เองหรือไรกัน” นางขึงตาใส่ อุตส่าอดตาหลับขับตานอนดูแลขนาดไหนกว่าจะรอดตายมาได้ “ซ้ำข้ายังเสียเงินสองตำลึงซื้อตัวท่านมาอีกด้วย!” “เจ้าเสียเงินสองตำลึงซื้อตัวข้า แต่ข้าเสียเงินเท่าไรคุ้มครองเจ้ามาสองปี” มุมปากยกยิ้มแต่ไปไม่ถึงดวงตา เพราะกระต่ายดิ้นรนสุดกำลัง เขากลัวนางจะเจ็บจึงปล่อยมือจากข้อมือของนาง หญิงสาวลนลานกระถดกายถอยหนีไปชิดหัวเตียง เพราะยันกายขึ้นนั่งเสื้อผ้าที่หลุดรุยจึงเลื่อนหล่น มือเรียวเล็กรีบคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมร่างทันที “ท่านต้องการสิ่งใด” คล้ายว่านางเคยถามเขามาแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน “ให้เจ้าอยู่ข้างกายข้า” นางส่ายหน้าไปมา เส้นผมยาวสลวยเคลียใบหน้าทำให้ชายหนุ่มยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมทัดใบหูให้อย่างอ่อนโยน “เจ้าปฏิเสธได้รึ” เขาหัวเราะในลำคอ “หากไม่เป็นผู้หญิ

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 17. เชลย 

    “หรือท่านอยากตอบแทนบุญคุณข้า?” ฟู่เซียงเซียงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกได้ว่ามือของเขาร้อนระอุจนแทบจะลวกนางได้แล้ว เขายื่นจอกสุราจ่อริมฝีปากของนาง คล้ายว่าถ้านางไม่ยอมดื่มเขาก็ไม่ยอมเลิกรา ทำให้นางจำใจจับรับจอกสุรามายกดื่มจนหมด ความร้อนวูบหนึ่งผ่านลำคอลงกระเพาะ แต่กระนั้นก็ทำให้ชีพจรเต้นแรงขึ้น “ท่านควรรู้ว่าข้าไม่ดื่มสุรา” นางผลักจอกสุราออก “เช่นนั้นเจ้าควรรู้ว่าฐานะของเจ้าตอนนี้คือเชลยของแคว้นฉิน” เขาเอ่ยดวงตาหรี่มองริมฝีปากที่ชุ่มด้วยหยาดสุรา อยากรู้ว่าสุราจากริมฝีปากนางจะรสชาติเดียวกับที่เขาดื่มหรือไม่ ดวงตาคู่งามฉายแววงุนงง “ข้า...” “เจ้าเป็นแค่เชลยทำตามคำสั่งของข้าเท่านั้น”นางผู้ไม่ชอบถูกบ่งการถึงกับขึงตาใส่ “ท่านไม่มีสิทธิ์!”“ข้าเป็นไต๋อ๋องไม่ใช่อี้เฉินของเจ้าอีกแล้ว” เขายิ้มชั่วร้ายจนหญิงสาวผงะถอยห่าง เขาโอบรัดร่างนางเข้ามาใกล้จนลมหายใจรดผิวแก้มที่แดงระเรื่อ“ถ้าข้าไม่ยินยอม...” “เซียงเซียง” เขาเรียกนางด้วยน้ำเสียงกวนโทสะ “เจ้าไม่ทำตามที่ข้าสั่งก็ย่อมทำได้ แต่เจ้าไม่เป็นห่วงเด็กกำพร้าเหล่านั้นหรือ? หรือแม้แต่ศพแม่เฒ่าผู้นั้น...” “ท่าน!” นางขึงตาใส่เขา

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 16.ปลดหน้ากากสิ

    หญิงสาวยืนตัวเกร็งอยู่กลางห้อง หลังจากบรรดาหญิงรับใช้หลายคนเข้ามาช่วยกันจับนางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและแปรงผม ในเวลานั้นนางพยายามขัดขืน แต่ทุกคนต่างขอร้องเพราะเกรงว่าหากทำให้ ‘ไต๋อ๋อง’ ไม่พอใจจะได้รับโทษทัณฑ์ นางจึงจำใจยอมให้หญิงรับใช้แต่งกายให้ใหม่ และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เหลือเพียงนางในห้องนี้คนเดียว ถูกชายที่เรียกตัวเองว่าอี้เฉินแบกขึ้นรถม้า ยังไม่ทันได้ซักถามอะไรก็ถูกเขาจี้สกัดจุดให้หมดสติ ฟื้นอีกครั้งก็อยู่ในห้องนี้กับบรรดาหญิงรับใช้ ปกติแต่งกายด้วยชุดบุรุษจนเคยชิน ยามนี้ถูกจับแต่งกายเป็นหญิง ซ้ำยังเป็นชุดนางรำเนื้อผ้าบางเบา ปกปิดก็เหมือนเปิดเผย ฟู่เซียงเซียงกัดริมฝีปากจนเจ็บเมื่อได้สติจึงเดินดูรอบๆ เผื่อหาทางหลบหนี ตอนเข้ามานางหมดสติจึงไม่รู้ว่าที่นี่ที่ใด แต่ดูจากหญิงรับใช้แล้วคงเป็นห้องๆ หนึ่งของจวนเจ้าเมืองแม้อยากรู้ความหมายในสิ่งที่เขาพูด แต่นางก็หวาดกลัวท่าทางคุกคามนั้น ทว่ายังไม่ทันหาทางออกให้กับตัวเองได้ บานประตูเปิดออกก็ขึ้นเสียก่อน นางยืนนิ่งอยู่กลางห้องประสานตากับบุรุษผู้สวมหน้ากากปิดครึ่งใบหน้า เมื่อพิจารณาดูนางจึงเข้าใจว่าเป็นหน้ากากใบหน้าของห

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 15. นี่มันเรื่องอะไรกัน

    “ไปตรอกทางทิศตะวันตก” นางตอบแล้วอดกวาดตามองไม่ได้ “มีเรื่องใดรึ” “หมอฟู่ไม่รู้หรือ? ตอนนี้ทหารแคว้นฉินเข้ามาในเมืองของเราแล้ว” “เป็นไปได้อย่างไร!” ดวงตากลมเบิกกว้าง “เจ้าเมืองเปิดประตูให้ก็เดินเข้ามากันอย่างกับมาเดินตลาด!” “เขาพูดกันว่าทั้งแม่ทัพและเจ้าเมืองรู้เห็นเป็นใจกับการเปิดประตูเมือง เห็นว่าเพื่อไม่ใช่ชาวบ้านเดือดร้อน เหอะ! ข้าว่าเพราะต้องการเลือกอยู่ฝ่ายแคว้นฉินเสียมากกว่า” “ทำอย่างไรได้ ฮ่องเต้ไม่สนพระทัยเรื่องชายแดนมานาน” “ชายแดนถูกยึดเช่นนี้ ทัพแคว้นฉินก็บุกไปเมืองหลวงโดยง่ายแล้ว” ฟู่เซียงเซียงยืนฟังแล้วเผลอกัดริมฝีปากครุ่นคิด ไม่รู้ท่านหมอกู้จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้นางต้องรีบไปรับคนก่อน “อันตรายเช่นนี้ คุณหนูอย่าเพิ่งออกไปเลยขอรับ” บ่าวชราเอ่ยเตือน แต่ฟู่เซียงเซียงส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ ที่นั้นมีเด็กและคนแก่ ข้าต้องรีบไปพาพวกเขามา” นางพูดแล้วรีบขึ้นรถม้า สารถีสบตากับบ่าวชราเล็กน้อยแล้วบังคับม้าให้เดินไป บ่าวชราเดินหลบมาด้านหลังเรือนแล้วหยิบนกหวีดออก

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 14. คิดเห็นอย่างไร

    “ทหารแคว้นฉินมีการเคลื่อนไหวแล้ว” หมอกู้เนี่ยนเจินสีหน้าวิตกกังวล ไม่ใช่แค่ความน่าเกรงขามของทหารแคว้นฉินเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือแม่ทัพประจำชายแดนรวมทั้งเจ้าเมืองก็ไม่ได้มีความสามารถนัก ในเมืองหลวงแย่งชิงอำนาจแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ชายแดนก็อ่อนแอ เห็นว่าศึกครั้งนี้จะพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้รบ“ท่านหมอกู้คิดเห็นอย่างไรก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ”หมอกู้สูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย “เจ้าเป็นหญิงอยู่ที่นี่จะลำบาก หากมีหนทางอื่นก็ไปเถิด” “ไป...จะให้ข้าไปไหนเจ้าคะ” นางส่ายหน้าอย่างงุนงง “หากเกิดสงครามจริง ข้าจะไม่ไปไหนจะอยู่ช่วยท่านหมอกู้ที่นี่เจ้าค่ะ”“สิ่งที่เจ้าเห็นเป็นเพียงการปะทะกันเล็กๆน้อยๆ ของทหารชายแดน หากเกิดสงครามขึ้นจริง เจ้าจะรับมือไม่ไหว!”“เช่นนั้นข้ายิ่งต้องอยู่ที่นี่ หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตคน ถ้าข้าหนีเอาตัวรอดแล้วจะกล้าเรียกตัวเองว่าหมอได้อย่างไร”หมอกู้เห็นความตั้งใจของนางแล้วก็พยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวให้ดี หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าอาจจะช่วยเจ้าไม่ได้”“ท่านหมอกู้โปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้ผู้ใด และหากเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับข้า ข้าก็จะไม่โทษผู้อื่นเช่นกัน”แววตาของนางเปี่ยม

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 13. ผู้หญิงของเขา

    บ่าวชราที่เคยทำตัวงกๆเงิ่นๆ มาบัดนี้ค่อมเอวคารวะบุรุษในชุดดำที่สวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับแล้วกวาดตามองไปทั่วเรือนหลังน้อย ที่เวลานี้ซ่อมแซมไปได้หลายส่วนแล้ว หากไม่เกรงว่าเจ้าของบ้านจะแตกตื่น เขาคงจัดการสั่งรื้อถอนแล้วสร้างใหม่ไปนานแล้ว ไม่ต้องเปลืองสมองหาวิธีทำให้นางที่ละนิดละหน่อยเช่นนี้ “นางเป็นอย่างไรบ้าง” “คุณหนูฟู่สุขสบายดีขอรับ” “ลำบากเจ้าแล้ว” “คุณหนูฟู่มีจิตใจเมตตา กับบ่าวไพร่ก็ใส่ใจดูแลอย่างดี จะว่าไปแล้วงานนี้นับว่าเป็นงานสบายที่สุดที่นายท่านมอบหมายให้พวกเราทำขอรับ” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างยากที่จะได้เห็นนัก ‘ผู้หญิงของเขา’ ก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว บุรุษหนุ่มยกมือเป็นสัญญาณ เหล่าคนในชุดดำรวมทั้งบ่าวชราพลันหายวับไปราวกับไร้ตัวตน เขาหมุนตัวก้าวเท้าเข้ามาในเรือน ตรงไปยังห้องนอนของหญิงสาว ปลดหน้ากากที่ปิดบังครึ่งใบหน้าออกแล้ววางบนโต๊ะ แม้อยู่ในความมืดแต่เขาจดจำทุกตำแหน่งในห้องของนางได้อย่างแม่นยำ มือแกร่งยื่นไปปัดม่านมุ้งออกแล้วนั่งลงริมเตียง มองใบหน้าหลับใหลด้วยดวงตาอ่อนโยน เป

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 12. บุรุษผู้สวมหน้ากาก

    มีแต่การแต่งงานเท่านั้นหรือ? ที่จะทำให้นางหนีจากปัญหานี้ได้ “คุณหนู” แม่นมหวงเข้ามาตาม “มีเรื่องกังวลใจรึเจ้าคะ” “ข้าพบพี่ลี่เฉี่ยวแล้ว” นางพูดเสียงเบาแล้วเค้นหัวเราะออกมา “ผู้อื่นชื่นชมว่าข้าเป็นหมอที่เก่งกาจไม่น้อยไปกว่าผู้ใด แต่ปัญหาของตัวเองกลับแก้ไขเองไม่ได้” “คุณหนูไม่ชอบลี่เฉี่ยวหรือเจ้าคะ” อยู่กันมาขนาดนี้แล้ว นางก็รักคุณหนูเหมือนเป็นลูกสาวของตนคนหนึ่ง “แต่ถ้าคุณหนูยังเป็นคนของสกุลฟู่อยู่ หากที่บ้านเกิดเรื่อง คุณหนูก็ต้อง...” นางไม่กล้าพูดถึงเรื่องนั้นเลย นางเป็นเพียงคนรับใช้ก็ถูกขายเป็นทาส แต่คุณหนูเป็นบุตรสาวสายตรง เกรงว่าจะถูกส่งตัวไปเป็นหญิงนางโลม “ไม่ใช่ไม่ชอบ...แต่ข้าเห็นเขาเป็นพี่ชายมาตลอด” นางถอนหายใจแรงๆ แต่ก็ยังไม่หายกลุ้มใจ “แต่เท่าที่เห็น เขาจริงใจกับคุณหนูมากนะเจ้าคะ สองปีนี้เขาช่วยเหลือคุณหนูมาตลอด หรือจะพูดให้ถูกก่อนหน้านี้ก็ช่วยคุณหนูเสมอ” ฟู่เซียงเซียงมองแม่นมแล้วทำท่ากระเง้ากระงอด “แม่นมไม่รักข้าแล้วรึถึงผลักไสข้าให้ผู้อื่นเช่นนี้ หรือเขาจ่ายเงินให้ท่านมาพูดเอาใจข้า”

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 11. สองปีต่อมา ...

    “ข้า...” เรื่องในบ้านของนางคนนอกย่อมไม่รู้ หากไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงๆ จูลี่เฉี่ยวคงไม่เดินทางมาพบนางด้วยตนเอง นางซาบซึ้งในความหวังดีของเขา แต่เรื่องแต่งงานนั้น...นางไม่สามารถทำได้จริงๆ นางเองปรารถนาจะแต่งงานใช้ชีวิตกับคนที่ตนรัก สำหรับจูลี่เฉี่ยวแล้ว มีเพียงความเคารพนับถืออย่างพี่ชาย-น้องสาว “ช่างเถอะ” ถึงนางจะแต่งกายเป็นชายแต่อย่างไรนางก็เป็นหญิง คงเขินอายอยู่บ้าง แม้เวลานางรักษาคนจะไม่เคยเห็นสีหน้าเขินอายแต่อย่างใด “วันนี้ไม่มีอะไรก็กลับบ้านไปเสีย” “แต่...” นี่เพิ่งครึ่งวันจะให้นางกลับแล้ว ผู้อื่นจะคิดว่านางเป็นคนอย่างไรกัน “ข้าให้เจ้าไปก็ไป” หมอกู้โบกมือไปมาคล้ายรำคาญ “เจ้าค่ะ” ฟู่เซียงเซียงรับคำอย่างขัดไม่ได้ นางพับผ้าสำหรับทำแผลเรียบร้อยแล้วจึงลุกขึ้น หยิบล่วมยาแล้วเดินออกมาอย่างเงียบๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ บิดาแทบไม่สนใจความเป็นอยู่ของนางเลย ซึ่งนางก็คาดไว้อยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องที่นางระแคะระคายมาก่อนหน้านี้คือการที่บิดาแอบร่วมมือกับองค์ชายสามเพื่อขึ้นนั่งบัลลังก์มังกร เรื่องชิงอำนาจในวังหลวงก็เรื่องหนึ่ง

  • พ่ายรักเชลยสาว   Chapter 10. ทำปากเก่งให้ตลอดเถอะ

    พูดจบร่างเล็กในชุดสีแดงสดก็หมุนตัวเดินเร็วๆ จากไปพร้อมกับสาวใช้ที่ติดตามมาด้วย ฟู่เซียงเซียงโคลงศีรษะไปมา สองมือปลดผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปล้างมือ“คุณหนู” แม่นมหวงอดเป็นกังวลไม่ได้ นายท่านเรียกพบแต่ละครั้งมีแต่เรื่องให้คุณหนูของนางต้องลำบากใจ“จางลี่ช่วยงานแม่นมที่นี่ไม่ต้องตามข้าไปหรอก” นางแย้มยิ้ม “ข้าไปประเดี๋ยวเดียวก็มาแล้ว”ฟู่เซียงเซียงก้าวเดินด้วยฝีเท้ามั่นคง บ่าวไพร่ไม่เคยให้ความเคารพ แต่นั้นยิ่งทำให้นางต้องเชิดใบหน้าขึ้น ไม่เอาแต่เดินก้มหน้าเหมือนหนูกลัวแมว เด็กสาวในเสื้อผ้าเนื้อหยาบเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ของเรือน บิดานั่งดื่มชาโดยมีจือรั่ว-มารดาของฟู่ซินอี๋ปรนนิบัติอยู่ใกล้ๆ ในห้องไม่มีเงาร่างของลูกสาวคนโปรด แต่นางรู้ว่าคงแอบฟังอยู่ไม่ไกลนัก“คารวะท่านพ่อ”“นี่เจ้าแต่งตัวอะไรกัน” บิดาส่ายหน้าระอาใจ “ข้าให้เจ้าอยู่ในเรือนสบายๆ ก็มิใช่ว่าจะแต่งกายอย่างไรก็ได้”“อยู่ในจวนสบายๆ” ฟู่เซียงเซียงถึงกับทวนประโยคที่ได้ยิน นางอ้าปากจะโต้เถียงแต่บิดาโบกมือห้ามไว้ก่อน“ข้าอยากให้เจ้าไปพบ...”“ข้าไม่พบใครทั้งนั้น!” นางชิงพูดขึ้นก่อน“ไร้มารยาท” เด็กสาวสูดลมหายใจลึก มือกำแน่นข่มโทสะที่มีแล

DMCA.com Protection Status