วันเปิดเทอม
“ใบตองของฝากสำหรับแก” เบลส่งกล่องของขวัญที่ห่ออย่างบิดเบี้ยวเอ่อนั้นเรียกว่าผูกโบหรือเปล่านะ
“…” ใบตองจับกล่องพลิกไปมามองสำรวจ
“โอ๊ยนี่เพื่อนตั้งใจห่อมากๆ เลยนะ แต่ทำได้ดีสุดเท่านี้จริงๆ เฮ้อห่อกล่องของขวัญตั้งห้ารอบ เบลว่างานฝีมือไม่ใช่ทางจริงๆ” ยัยเบลบ่นเมื่อเห็นสายตาของใบตอง เธอยิ้มให้เพื่อนแล้วกระโดดกอดตบบ่าอย่างให้กำลังใจ
“เอาตรงๆ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แกฝึกห่อบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละอย่าท้อสิเพื่อนรัก”
“หวังว่าจะดีขึ้นนะ งั้นพรุ่งนี้เบลจะลองห่อข้าวกล่องมากินตอนเช้าเพื่อฝึกฝีมือ!” เบลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสายตาเธอดูมุ่งมั่นมาก
“ส่วนนี้ของนัทตี้ ไม่ได้ห่ออะไรนะใส่ถุงมาเลยเพราะฉันก็ไม่ต่างกับยัยเบลฝีมือไม่ได้เรื่องเหมือนกันเฮ้อ” นัทตี้ยื่นถุงของฝากจากต่างประเทศให้ใบตอง
“ขอบใจพวกแกสองคนมากๆ เลยนะ ส่วนสองกล่องนี้ให้พวกแกเป็นของฝากจากใบตอง” ใบตองยื่นกล่องของฝากให้เพื่อนสนิททั้งสองของเธอ
“โอ้โหทำไมแกห่อกล่องของขวัญสวยแบบนี้ใบตอง!!” เพื่อนสนิททั้งสองคนร้องตะโกนเสียงดังแล้วจับกล่องของขวัญมองสำรวจ
“แกก็พูดเว่อร์ไม่ขนาดนั้น ไหนขอแกะกล่องของขวัญเลยนะคะ” พวกเราสามคนนั่งอยู่ในห้องเรียนแลกกล่องของขวัญกันในวันแรกของการเปิดภาคเรียน เหมือนเป็นธรรมเนียมของกลุ่มมาสามปีแล้วตั้งแต่คบเป็นเพื่อนกันมา
“พาเลทชุดแต่งหน้า!?” กล่องแรกที่ใบตองแกะเป็นของเบลและสิ่งที่เธอเห็นคือพาเลทเครื่องสำอางแบรนด์เนมต่างประเทศที่เธอเคยเห็นเบลใช้เมื่อปีที่แล้ว
“ใช่แล้วชอบไหม” เบลยิ้มอย่างลุ้นสุดตัวไหนทีแรกยัยนี้บอกว่าจะหาซื้อหนังสือนวนิยายฝรั่งมาให้เธอ
“เบลก็รู้ว่าใบตองแต่งหน้าไม่เป็นและเครื่องสำอางพวกนี้ก็ดูมีราคาแพงเกินไปหรือเปล่า” ใบตองขมวดคิ้วยุ่งอย่างเกรงใจเพื่อนและอีกอย่างคือเธอไม่เคยแต่งหน้ามากสุดคือทาครีมกันแดดกับลิปมันไม่มีสีเพียงเท่านั้น
“ก็เพราะเห็นใบตองเป็นยัยเชยหน้าไม่แต่งแบบนี้เบลเลยคิดว่าจะมาจับใบตองแต่งหน้าและสอนไปพร้อมๆ กันตอนพักเที่ยงเข้าใจไหม” ใบตองพยักหน้าแบบหงุดงง แล้วเธอก็เปิดถุงของฝากจากนัทตี้ที่ดูใหญ่มากสำหรับเด็กผู้หญิงเกรดเก้าวันแรกอย่างเธอ
“ช็อกโกแลต!” ใบตองหยิบชิ้นแรกขึ้นมาแล้วยิ้มเพราะว่ามันในห่อที่น่ากินมาก “เดี๋ยวนะ!” ใบตองกำลังก้มมองในถุงของฝากแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนสนิทของเธอแล้วก้มลงมองใหม่อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“นะนี่คือ!?”
“เบียร์!”
“หะ!!” สองเสียงประสานกันตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ ยัยเบลรีบเปิดถุงของตัวเองแล้วทำมองใบตองตาโตอ้าปากค้างพยักหน้าว่าถุงของเธอก็เหมือนกัน ต่างก็แค่มีน้ำหอมแบรนด์ดังแทนช็อกโกแลตอย่างที่ใบตองได้รับเพราะเธอไม่ชอบกินของหวานมันทำให้น้ำหนักตัวเธอขึ้นเร็วเกินไป
“พวกเธอสองคนตะโกนอะไรกันเสียงดังออกไปหน้าห้องหะ!มิสเบล!มิสใบตอง!”
“ยานแม่มา!!!” ทั้งสามสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ไม่ว่าเด็กนักเรียนจะทำอะไรอยู่ทุกคนจะต้องรีบหยุดกิจกรรมของตัวเองแล้วนั่งทีอย่างเรียบร้อย แต่วันนี้ไอ้คนส่งสัญญาณเตือนภัยประจำห้องแจ็กแหลกมาเรียนวันแรกไม่ได้ เพื่อนขาดเรียนแต่เห็นทีพวกเธอสามคนจะคอขาดใบตองถึงกับเหงื่อออกทั้งที่ห้องเรียนเปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“พวกเธอสามคนเรียกฉันว่าอะไรนะ เรียกใหม่อีกทีสิ” ก็ว่าอยู่เสียงตะโกนเล่นกันของเพื่อนในห้องทำไมเงียบชัดเจนเลยทำไมไม่มีใครสะกิดพวกเธอสามคนบางทีตอนลอกการบ้านทำไมสะกิดกันจนจะถีบ…
“ทีชเออะพรนภาสวัสดีค่ะ!!!” พวกเราสามคนพร้อมใจกันขยับตัวบังถุงของฝากแล้วไหว้ย่อทีชเออะพรนภาครูดนตรีไทยประจำโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องมหาโหดไม่มีเด็กคนไหนไม่กลัวแก
“หืม…ว่าแต่ถุงอะไรใหญ่ๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังพวกเธอสามคน” ทีชเออะพรนภามองมายังพวกเราทั้งสามคนอย่างจับผิด แล้วค่อยๆ ก้าวเดินอย่างช้าๆ มาที่โต๊ะของพวกเธอทั้งสามคน เธอทั้งสามคนมองเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อย่างระทึกขวัญ รู้ตัวอีกทีรอยเหี่ยวย่นเหมือนจะเป็นรอยตีนกาเด่นชัดสามเส้นใต้ตาบวมเหมือนคนอดนอนใบหน้าขาวโพกเหมือนจูออน มองเรื่อยลงมาเจอกับปากสีแดงเหมือนพึ่งกินเลือดมาใหม่ๆ ทั้งสามถึงกับผงะซนโต๊ะถุงใบใหญ่ที่วางชิดขอบโต๊ะตกลงสู่พื้นห้อง
“เพ้ง!!!” เสียงแก้วแตก ใบตองอยากให้มันเป็นเพียงแก้วน้ำใบหนึ่งที่ตกแตกแต่มีเพียงเสียงเท่านั้นที่เหมือนความจริงมันไม่ใช่ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีน้ำไหลออกมาจากถุงกระดาษหนา ที่ตกลงมาแตกและยังตอกย้ำด้วยการส่งกลิ่นคลุ้งไปด้วยแอลกอฮอล์ทั่วห้องเรียน ดวงตาโตเท่าไข่ห่านจ้องมองพวกเธอเหมือนมันจะหล่นหลุดออกมาจากเบ้าตาให้ได้ ทั้งสามคนสะดุ้งสุดตัวมองอย่างสยองขวัญ!
ทีชเออะพรนภาเอามือแตะน้ำที่ไหลออกมาจากขวดที่แตกยกขึ้นสูดดมแล้วตะโกนเสียงดังลั่นห้องเรียน “มันคือเบียร์!!!”
“T_T”
“มิสใบตอง มิสเบล มิสนัทตี้ เชิญพวกคุณทั้งสามคนที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้!!!” ทีชเออะพรนภาเดินนำออกไปจากห้องเรียน
“T_T!” น้ำตาของเราทั้งสามคนไหลทะลักออกมา
ห้องปกครอง
“เข้าไปสิ มัวแต่สิรออะไรกันอยู่!” ยืนทำใจค่ะอาจารย์ ตอบได้แค่ในใจใครจะกล้าตอบออกไปอย่างนั้นกัน
“ขะขอ…” ใบตองกำลังจะพูดขึ้น
“พวกเธอจะขออะไรกัน รีบเปิดประตูเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้” ทีชเออะพรนภาเปิดประตูเข้าไปภายในห้องปกครอง แอร์ที่เย็นลอยมากระทบใบหน้าขนแขนถึงกับลุกชู่ด้วยความสยอง ก้าวเท้าเข้าไปในห้องปกครองครั้งแรกในชีวิตของพวกเธอทั้งสามคน
“อ้าวน้องใบตองไปทำอะไรผิดมาถึงได้เข้าห้องปกครองตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียนเลยฮึเรา” พี่สีครามทักใบตองที่ก้าวเดินด้วยขาที่สั่นเทาเข้าไปในห้องปกครอง
“บะเบียร์…” ใบตองยิ้มแหย่ๆ ให้พี่สีคราม
“หื้มเอาเหล้าเบียร์เข้ามาในวันเปิดเรียนวันแรกเนี้ยนะ” สีหน้าอึ้งๆ ของพี่สีครามมองหน้าใบตองเหมือนเหลือเชื่อ
“พี่ครามอย่ามองใบตองแบบนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ใบตองไม่ได้จะกินเหล้าเบียร์ในห้องเรียนนะ”
“หึ!ขอให้โชคดีนะครับ พี่ไปล่ะ” พี่สีครามสายตาพี่มันกำลังมองใบตองอย่างเยาะเย้ยหาได้มีความเห็นใจเจือปนอยู่ในนั้นเลยใจร้ายมาก
“ไปไหนก็ไปเลยเชอะ!” เธอเชิดหน้าใส่เขาอย่างแง่งอนแล้วสะบัดหน้าหนีเดินไปรวมกับเพื่อนที่ยืนตัวสั่นอยู่โต๊ะยานแม่พรนภา คุณครูภาษาไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุที่สุดในโรงเรียน
“พวกเธอรู้ใช่ไหมว่าการเอาเบียร์ซึ่งจัดเป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งเข้ามาในภายในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้เป็นเรื่องที่ทำผิดกฎข้อที่10ของโรงเรียนเรา” เสียงนุ่มๆ แต่ประโยคคาดคั้นเอาความผิดอยู่ในที สายตาของยานแม่พรนภาจ้องพวกเราสามคนอย่างคาดโทษและมองใบตองด้วยความผิดหวัง
“ทราบค่ะ!!!” พวกเราทั้งสามคนตอบพร้อมเพรียงแล้วรอรับความผิดที่ก่อเรื่อง
“เล่ามาว่าทำไมเด็กผู้หญิงมอสี่อย่างพวกเธอถึงใจกล้านำเอาเบียร์เข้ามาภายในโรงเรียนตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรกแบบนี้” นัทตี้เอามือดันร่างใบตองกับเบลให้ขยับถอยลงไป แล้วเธอก็ยืดตัวขึ้นตรงยิ้มมุมปากบางๆ เสียถอดหายใจแผ่วเบามือสองข้างที่จับกุมมือของฉันกับเบลเอาไว้เย็นเฉียบ
“หนูเป็นคนเอาเข้ามาค่ะทีเชอะพรนภา พอดีช่วงปิดเทอมหนูกับครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศมาเลยซื้อมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ มิสใบตองกับมิสเบลไม่ได้มีความผิดอะไรด้วยเลยนะคะเรื่องนี้หนูผิดเต็มๆ คนเดียวที่ดันลืมกฎของโรงเรียนไปเลย…” นัทตี้พูดด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้สั่น ยอมรับความผิดของตัวเองโดยปกป้องเพื่อนรักทั้งสองของเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ลืมกฎอะไรนั้นหรอกเรียกว่าจำไม่ได้ตั้งแต่แรกเลยน่าจะจริงกว่า
“อืมลืม!? ดีถ้าอย่างนั้นพวกเธอทั้งสามคนก็เขียนกฎทั้ง100ข้อของโรงเรียนมา100แผ่นกระดาษA4มาส่งครูที่ห้องพรุ่งนี้” เฮ้อแค่เขียนกฎเองไม่ถือว่าเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงอะไรมากก็ยังชั่ว พวกเราทั้งสามคนถอดหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่โดนไม้เรียวที่วางอยู่โต๊ะด้านหน้า
“แต่!” ฮื้อยังมีแต่อีกเหรอคะยานแม่พรนภา พวกเราสามคนพร้อมใจกันยืนตัวตรงกลั่นหายใจด้วยความหวาดเสียว
“ครูจะไม่หักคะแนนความประพฤติของพวกเธอทั้งสามคนในครั้งนี้ แต่ต้องไปล้างห้องน้ำนักเรียนหญิงต้นให้สะอาดไม่ต้องเข้าห้องเรียนวันนี้ ก่อนจะไปล้างห้องน้ำเธอมิสนัทตี้ไปทำความสะอาดพื้นห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเศษแก้วและเบียร์ที่หกเลอะเต็มพื้นห้องเรียนให้สะอาดโทษฐานที่เธอเป็นคนเอาเบียร์เข้ามา” ล้างห้องน้ำใบตองหันไปมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่สีหน้าถอดสีจนซีดเผือดเพราะพวกเธอสองคนไม่เคยทำงานบ้าพวกนี้มาก่อนมือที่กุมกันเอาไว้รับรู้ถึงอาการสั่นเทา
“ดะได้ค่ะทีเชอะพรนภา”
“เดี๋ยวช่วงบ่ายสามโมงเย็นฉันจะเดินไปตรวจดูความสะอาด ออกไปทำตามที่สั่งได้แล้ว” พวกเราทั้งสามคนยกมือขึ้นไหวลาทีเชอะพรนภา แล้วเดินออกมาจนถึงหน้าประตูห้องปกครอง
“ไปทางไหนก่อนดีพวกแก” เบลถามด้วยเสียงไม่มั่นใจเพราะจิตใจของเธอหลุดลอยออกจากร่างตั้งแต่ได้ยินคำว่าไปล้างห้องน้ำหญิงมอต้นแล้ว มันอี๋และรับไม่ได้ถึงโรงเรียนจะมีการจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเช้าเย็นแต่เด็กมอต้นก็คือเด็กที่ไม่รักษาความสะอาดเลยเพราะพวกเธอยังไม่เป็นสาวเต็มตัวยังมีคราบของเด็กประถมมาด้วย เวลาช่วงบ่ายโมงที่ทุกคนเข้าเรียนกันพวกเธอยังเคยขอครูไปเข้าห้องน้ำและแอบไปเข้าห้องน้ำของรุ่นพี่มอปลายเลย ไม่ต้องบอกสภาพตอนนี้ที่ตอนเช้าเข้าห้องเรียนกันแล้วสภาพจะเละขนาดไหน
“นัทตี้ต้องไปทำความสะอาดพื้นในห้องเรียนก่อน เบลกับใบตองไปห้องน้ำรอเลย”
“ให้เราสองคนไปช่วยไหม” ใบตองถามเพื่อนสนิทของเธอด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร นัทตี้ไปทำคนเดียวดีกว่าเดี๋ยวทีเชอะพรนภารู้มีหวังโดนลงโทษเพิ่มอีกแน่ๆ ถ้ามีอะไรเพิ่มอีกไม่ไหวแล้วน๊าจ๊ะเพื่อนๆ ฮ่าๆ” ถึงทางบ้านของนัทตี้จะร่ำรวยและมีอำนาจพอที่จะไม่ต้องรับบทลงโทษอะไรแต่เธอก็เลือกที่จะยิ้มรับและยอมทำตามที่ครูสั่งเพราะมีความผิดติดตัวที่เล่นแผลงๆ เอง
“เอ่อแค่คิดว่าต้องทำอะไรเพิ่มอีกก็ไม่ไหวแล้วจริงๆ” เบลพูดขึ้นส่วนฉันพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันเข็ดไปจนวันเรียนจบแล้วพวกแก” เบลคำครวญหลังจากทำความสะอาดห้องน้ำห้องสุดท้ายเสร็จ พวกเราสามคนถึงกับนอนลงกับพื้นโดยที่ไม่รังเกียจว่ามันจะสกปรกเลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ร่างกายมันเหนื่อยจนลุกไม่ไหวมันเป็นแบบนี้นี่เอง พวกหนูเข็ดแล้วจะไม่ทำอีกแล้วอะไรที่ผิดกฎของโรงเรียน“จริงไม่กล้าแล้วค่า” นัทตี้พูดขึ้นอีกคน ส่วนฉันทำเพียงพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนๆ อย่างคนที่เหนื่อยจนพูดไม่ออก“ว่าแต่แกจะเดินกลับบ้านไหวไหมใบตองติดรถกับฉันกลับเดี๋ยวให้คนขับรถแวะไปส่งนะ” ปกติฉันจะเลือกปฏิเสธเพื่อนสนิททั้งสองเสมอ เมื่อพวกมันสองคนอาสาจะไปส่งที่บ้านเพราะด้วยความเกรงใจเพื่อนๆ แต่ตอนนี้คงต้องพยักหน้าตอบตกลงแล้วเพราะคงเดินกลับไม่ไหวแน่ๆ เย็นนี้“อื่อตกลง” จากนั้นเราทั้งสามก็ลุกขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนบนห้องเรียนแล้วกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกไม่มีการบ้านอะไรที่ครูสั่งเพราะถือว่ายังไม่ได้เริ่มเรียนแต่เป็นวันที่ครูเล่าแจกแจงเนื้อหารายวิชาที่จะต้องเรียนในเทอมนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสามคนคงไม่มีการบ้านส่งแน่ๆ กลับถึงบ้านหัวถึงหมอนคงนอนหลับยาวถึงเช้าเหนื่อยขนาดนี้หน้าบ้านใบตอง“ขอบใจที่มาส่งนะเบล
วันเวลาผ่านไปถึงวันกีฬาสีประจำปีมาถึงทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนคึกครื้นเพราะถือว่าเป็นสัปดาห์แห่งการแข่งกีฬาแทบจะไม่ต้องเข้าเรียนทั้งสัปดาห์ยิ่งคนเป็นนักกิจกรรมยิ่งวิ่งวุ่นทำกิจกรรมทั้งวัน"พี่สีครามอยู่สีเดียวกับห้องเราด้วย ใครจะคิดว่าผู้ชายหล่อๆ เวลารับตำแหน่งประธานสีจะดุขนาดนั้น แกเลิกชอบเถอะใบตอง" ยัยเบลทำหน้าตาสยอง ภาพพี่สีครามคุมซ้อมแสตนเชียร์ลอยเข้ามาในหัวตะโกนสีหน้าเขร่งขรึมพร้อมจะลงโทษคนผิดจังหวะ โอ๊ยน่ากลัวจริงๆ"อืมน่ากลัวจริงพวกแก ส่งสารน้อยมอต้นที่ต้องขึ้นแสตนเชียร์เลยพวกแก" ฉันสะดุ้งยิ้มแหย่ๆ ด้วยความเห็นด้วยกับเพื่อนๆ พูดถึงพี่สีคราม"นัทตี้เคยได้ยินพี่น้ำลูกพี่ลูกน้องที่อยู่มอหกเล่าว่าพี่สีครามโหดเอาเรื่องเลย เขาเคยยกพวกตีกับโรงเรียนพาณิชย์ที่อยู่อีกสองซอยนี้เอง สภาพฝ่ายตรงข้ามเลือดอาบทุกคน!" ยัยนัทตี้ผู้มีสายข่าวเยอะพูดอแกมาอย่างออกรส"ไม่มั้งจากที่ใบตองได้สัมผัสนิสัยพี่สีครามดีมากเลย ข่าวเลื่อนลอยเกินจริงหรือเปล่า" ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดพี่สีครามของฉันออกจะเป็นคนดีสุภาพบุรุษชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน"จริงและไม่ใช่แค่พี่สีครามยังมีเพื่อนของเขาทั้งกลุ่มเลย แกไม่ค่อยสนใจใค
หลังจากจบงานกีฬาสีก็เข้าสู่ช่วงเวลาเรียนเหมือนปกติที่เริ่มจะเข้มข้นเพราะมีเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนกว่าๆ ก็จะเข้าสู่เดือนสอบปลายภาคแล้ว"ช่วงหลังกีฬาสีคือช่วงเรียนต่อที่เข้มข้นประจำปีเฮ้อจะอ้วกออกมาเป็นตัวหนังสือแล้วตอนนี้"เบลบ่นฟุตหน้าลงกลางหนังสือที่เปิดกางเอาไว้อยู่"เห็นด้วยจะอ้วกแล้วแม่" นัทตี้ฟุตหน้าลงกับหนังสือไปอีกคนด้วยความอ่อนล้าอาจารย์ที่สอนเสร็จแล้วสั่งงานกลุ่มและงานเดี่ยวติดกันสองชิ้นเร่งส่งก่อนสอบปลายภาคเท่าน้้น ไม่อย่างนั้นต้องติดF"ใช่เลยสั่งงานเยอะมากจริงๆ คราวนี้" ฉันเห็นด้วยกับเพื่อนๆ ที่บ่นไม่หยุด ก้มมองหัวข้อที่จดใส่กระดาษเอาไว้แล้วปรากฏว่าช่วงนี้สั่งงานทุกวิชาพร้อมกันอย่างกับนักเรียนมีคนล่ะสิบมือถึงจะว่างทำทันทั้งหมด"พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้านเถอะวันนี้"หน้าโรงเรียนฉันโบกมือลาเพื่อนๆ แล้วเดินกลับบ้านเองเช่นทุกวัน"อ้าวน้องใบตองนี่ครับ" พี่ลีเพื่อนพี่สีครามเหลือบสายตามองมาเห็นฉันพอดีขนาดที่พวกพี่เขาทั้งกลุ่มกำลังยืนเกาะกลุ่มเหมือนคุยกันอยู่ข้างรั้วโรงเรียน"สวัสดีค่ะพี่ๆ" วันนี้ไม่เพียงมีแค่พวกพี่เขาทั้งสี่คนเหมือนปกติยังมีผู้หญิงอีกสองคนยืนอยู่ในกลุ่มด้วย"สวัสดีครั
ฉันรู้สึกว่าน้ำตาของตัวเองกำลังไหลออกมาไม่หยุดความรู้สึกเจ็บแป๊บอยู่ภายในใจ ตอนนี้เริ่มจินตนาการว่าพี่สีครามกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกันภาพที่พวกเขาจะสวีทหวานกันก็ฉายออกมาเป็นเรื่องราวฮื่อๆ ทำไมคนไม่สมหวังต้องเป็นใบตองคนนี้ด้วย"เหมี่ยว!เหมี่ยว!เหมี่ยว!""โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!" ฉันที่กำลังอารมณ์อกหักเศร้าเสียใจเหมือนในเอ็มวีต้องหยุดสะงักอารมณ์ทันที"ไอ้เจ้าชาแปงไอ้ชาเปามาส่งเสียงดังอะไรตอนนี้มันใช่เวลาไหมเนี้ย!" ฉันร้องตะโกนขึ้นด้วยความขัดใจสุนัขกับแมวเพื่อนชี้ต่างสายพันธุ์สองตัวที่ถีบประตูจนเกิดเสียงดังอยู่กน้าประตูห้องนอนตอนนี้"โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!"ปังๆ ตึกๆเสียงดังเร่งให้ฉันเดินไปเปิดประตูให้พวกมันสองตัว เฮ้อชีวิตมีน้องๆ เป็นสุนัขกับแมวนี้จะต้องไม่ให้มีเวลาเศร้าอกหักกันเลยหรือไง"มาแล้วๆ" ฉันเช็ดคราบน้ำตาออกแล้วถืออุปกรณ์การทำรายงานออกไปทำที่หน้าทีวีกับคุณยาย"โฮ่ง!เหมี่ยว!" เจ้าลูกสุนัขลูกแมวต่างกระโดดเข้ามาคลอเคลียอ้อนฉันกันอย่างประจบ"คุณยายใช้ให้มาตามพี่ใบตองสินะ เฮ้อไป!ลงไปข้างล่างกัน" เจ้าชาเปาเจ้าชาแปงรีบวิ่งลงไปข้างล่างนำหน้าฉันทันทีท่าทางพวกมันสองตัวจะวิ่งแข่งกันเล่นอย่างซุกซนจนทำให
"หืมเข้าใจ?" พี่สีครามยังจะมาถามเพื่อความแน่ใจของเขาอีกเหรอ"ค่ะก็ใบตองเข้าใจเรื่องที่สงสัยแล้ว" ใบตองยอมรับความจริงที่กลัวมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายความจริงที่ได้รับเธอก็ไม่สามารถหนีมันพ้นอยู่ดี"พี่คิดว่าเรากำลังคิดไปไกลแล้วนะใบตอง" เสียงผู้ชายตรงหน้าเข้มดุขึ้นอย่างแปลกกว่าปกติจนฉันที่กำลังเหม่อลอยก็ยังสัมผัสมันได้"ไม่ได้คิดไปไกลเสียหน่อย ก็พี่สีครามกับพี่ผู้หญิงคนนั้นกำลังคบกันไม่ใช่เหรอคะ!" เขาจะจี้ให้เธอพูดถึงว่าเขากำลังคบกับผู้หญิงคนอื่นให้ฉันที่แอบชอบเขาไปทำไมกัน"พี่ไม่ได้คบกับเมย์เป็นแฟนกันแล้วครับตอนนี้ ที่บอกว่าไม่เชิงเพราะตอนม.4เคยคุยคบกันอยู่1อาทิตย์ แล้วก็เลิกกันมาจะสองสามปีแล้ว เหลือไว้เพียงความเป็นเพื่อนต่างห้องที่รู้จักกันเท่านั้นเข้าใจไหมครับ" ใบตองมองพี่สีครามพูดออกมาด้วยประโยคยาวๆ ของเรื่องราวที่ใบตองกำลังเข้าใจผิดแบบกระจ่าง"พี่สีครามพะพูดจริงเหรอคะ" น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจอย่างปิดไม่มิดของใบตองรู้สึกเลยว่าตอนนี้แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่แล้ว"เอานี่เดี่ยวเด็กแถวนี้จะไม่ยอมเชื่อ!" พี่สีครามกดโทรออกหาพี่เมย์ตามที่เขาบันทึกรายชื่อเอาไว้รอไม่นานปลายสายก็กดรับ"ฮัลโหลสีครามม
"อืมคือว่า..." ใบตองหยุดด้วยความเขินอายเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจ้องมาอย่างรอคอยคำตอบจากปากของเธอ"ว่า!?" สองสาวต่างกดดันให้เธอรีบๆ เล่าออกมาเดียวนี้"เอ่อๆ เล่าแล้วสรุปพี่สีครามกับพี่เมย์ไม่ได้คบกัน" ใบตองรีบตอบแบบเคลียร์ให้จบๆ แบบไม่ลงรายละเอียดจะได้กระชับเข้าใจง่ายเพราะตอนนี้คนเข้ามานั่งเยอะจนเต็มทุกโต๊ะแล้วดูท่าจะไม่เหมาะที่จะเล่าแบบลงรายละเอียดกันเดียวคนอื่นได้ยินจะเอาไปนินทาต่อ"ว่าอยู่ทำสีผน้าดูดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ" นัทตี้พูดขึ้นพยักหน้าเออออ"แล้วใบตองนั่งเหม่อลอยอะไรตั้งนาน" เบลถามอย่างสงสัย"เดียวบอกในแชทนะ" ใบตองหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความเหล่าเรื่องและบอกเพื่อนสนิททั้งสองว่าตอนนี้เธอคบกับพี่สีครามเป็นแฟนแล้ว"จริงดิ๊!!" สองสาวเงยหน้าจากจอขึ้นมาถามพร้อมๆ กัน สีหน้าตกใจสุดขีด"จริงพี่เข้าพูดขอใบตองเองเมื่อกี้" เธอพูดด้วยความเขินอายจนต้องหันไปมองทางอื่นเพื่อหลบหลีกสายตาของเพื่อนทั้งสองคน"โอ้ไม่อยากจะเชื่อ" เบลเอามือทาบอกอ้าปากค้างด้วยความตกใจ"ไม่ๆ ต้องบอกว่ายินดีด้วยนะเพื่อน!!" เบลจับมือของใบตองเขย่าด้วยความตื่นเต้นเมื่อตั้งสติได้"ใช่ๆ ยินดีด้วยนะใบตอง" นัทตี้ก็เ
ความเร็วของรถชะลอตัวลงเมื่อถึงหน้าปากซอยบ้านของใบตองแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่สถานะของเราสองคนเปลี่ยนไปเดิม"พี่สีครามเจอตรงนี้!" ใบตองเขย่าบ่าพี่สีครามเอาไว้ให้เขาหยุดรถ"อ้าวทำไมไม่เข้าไปจอดหน้าบ้านเราล่ะ" รถบิ๊กไบค์จอดลงจุดที่ใบตอง"คือว่าหนูอยากบอกเล่าเรื่องมีแฟนคร่าวๆ ให้คุณยายได้รับรู้ก่อน ค่อยพาพี่สีครามไปหาท่าน" เรื่องมีแฟนก็เป็นเรื่องที่ตั้งค่อยๆ เล่าให้ท่านฟังจะได้ดูท่าทีของท่านก่อนว่ารับได้ไหม"เอาอย่างนั้นเหรอ" พี่สีครามทำท่าเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วย"ค่ะของเวลาใบตองหน่อยนะ" ใบตองวางมือลงบนฝ่ามือของพี่สีคราม มือหนาจับมือของเธอกุมเอาไว้แทน"พี่เข้าใจแล้ว" พอเราสองคนตกลงกันได้แล้วใบตองก็เอ่ยลาเขาแล้วเดินเข้าซอยไปบ้านของตนเองเดินไปออกมาไม่นานพี่สีครามก็สตาร์ทรถขับออกไปจากซอยบ้านใบตอง"กลับมาแล้วค่ะคุณยาย" เปิดประตูเข้ามาในบ้านก็ร้องบอกคุณยายที่นั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนครูวัยเกษียณอย่างออกรสอยู่"จ้า ยายขอคุยกับเพื่อนอีกแป๊บใบตองขึ้นไปอาบน้ำบนห้องเลยลูก" คุณยายโบกมือไล่ให้ใบตองขึ้นไปบนห้องคนแก่ก็กลัวเสียจังหวะเมาส์กับเพื่อนเหมือนกันนะเนี้ยเอาไว้กินข้าวเย็นเสร็จค่อยเล่าให้คุณยายฟั
โรงเรียนนานาชาติเราสองคนเดินเคียงคู่กันหลังจากที่เอารถไปจอดเอาไว้ในที่ประจำของพี่สีครามพอดีกับที่เพื่อนในกลุ่มของเขาสามคนนั่งคล่อมบิ๊กไบค์คุยกันอยู่ทำให้ใบตองรู้สึกเขินอายกับสายตาทั้งสามคู่ที่มองพวกเราสองคนอย่างตั้งคำถามและล้อเลียน"อะไรยังไงครับไอ้คราม ไหงน้องใบตองถึงซ้อนท้ายมาได้วันนี้" พี่ลีเป็นคนเปิดประเด็นถามคนแรก"ก็ไม่มีอะไรมากแค่คบเป็นแฟนกันแล้วเลยาโรงเรียนพร้อมกัน" พี่สีครามรับเอาหมวกกันน็อคของฉันไปเก็บไว้ใต้เบาะรถของเขาแล้วเงยหน้ามาตอบเพื่อนๆ กลุ่มเขา"จริงดิ๊" ทั้งสามคนทำท่าตกใจแล้วมองใบตองสลับกับพี่สีครามอย่างคนที่ไม่อยากจะเชื่อ"มึงเนี้ยนะมีแฟนไอ้คราม" พี่กรที่ปกติเป็นคนพูดน้อยที่สุดก็อดที่จะถามพี่สีครามไม่ได้เหมือนกัน"ก็กูเนี้ยแหละมีแฟนแม้งแปลกตรงไหนวะพวกมึงเลิกถามได้แล้วรำคาญวะ" พี่สีครามผลักเพื่อนให้เปิดทางให้เขาเดินออกไป"แล้วนั้นมึงจะไปไหนอีกเป็นชั่วโมงจะถึงเวลาเข้าเรียนคาบแรก" พี่บีมร้องตะโกนถามพี่สีครามที่ตอนนี้เขาจับมือพาใบตองออกเดินห่างจากกลุ่มของเขาแล้ว"ขอเวลาอยู่ส่วนตัวกับแฟนสองคนครับเพื่อนไม่ต้องตามมานะเว้ย" พี่สีครามโบกมือลาเพื่อนๆ ของเขาแล้วพาใบตองเดินต่อ
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ