“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็น
เหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี
“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”
เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”
“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”
“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้
“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบกวนผู้อื่นทำไม อีกอย่างอาณาเขตของจวนนี้ใหญ่โตพอๆ กับเมืองใหญ่หนึ่งเมือง เจ้าจะหาทรายหาดินที่ไหนมาถม นอนเถอะ ข้าแค่ไม่อยู่ใกล้น้ำก็พอ”
“อืมได้” ซินเค่อซีล้มตัวลงนอนแล้วจุมพิตที่หน้าผากของเหอชุนหลานอย่างแผ่วเบา “ไว้ข้าจะพาเจ้าเที่ยวที่แคว้นซีหนานนะ”
~~~~~~~~
เมืองหลวงแคว้นซีหนาน ร้านเหม่ยหลาน
“นี่มันของของข้านี่ เจ้าเอามาขายหรือ” เหอชุนหลานยกมือเรียวจับชุดนอนสายเดี่ยวที่วางขายอยู่ในร้าน ดวงตากลมมองหน้าซินเค่อซีแววตาคาดคั้น นางไม่เคยบอกเขาว่าตนเองพักอยู่ที่ใดและเอาเสื้อผ้าเหล่านี้ไปซุกไว้ที่ไหน เขาช่างเก่งนักที่ส่งคนไปหาจนพบ ทั้งยังเปิดหน้าร้านขายอย่างโจ่งแจ้ง
บุรุษก้มหน้ากระแอมแก้เขิน เขาพูดเสียงเบาข้างหูหญิงสาวให้พอได้ยินแค่สองคน “ข้าเห็นว่าเจ้าใส่แบบนี้แล้วงดงามดี จึงคิดว่ากิจการขายชุดแบบนี้น่าจะไปได้สวย”
“เจ้าขโมยความคิดข้า” เหอชุนหลานสะบัดหน้าแล้วเดินไปดูด้านใน ดวงตาคมสวยเห็นชุดชั้นในวางเรียงรายบนชั้น นางรีบเดินกลับไปกระซิบถามซินเค่อซีอีกครั้ง
“เจ้าขนของๆ ข้าที่อยู่ในบ้านเช่ามาหมดหรือไม่”
บุรุษพยักหน้ารับ “ข้าให้คนไปนำทรัพย์สินและสิ่งของที่บ้านเจ้ามาไว้ที่จวนแล้ว ชุดของเจ้าถูกเก็บไว้อย่างดี ส่วนสินค้าพวกนี้ข้าสั่งให้คนทำเลียนแบบขึ้นมา รายได้จากการขายทั้งหมดยกให้เจ้าคนเดียวเลยนะ ร้านนี้ข้าก็เปิดให้เจ้า” ซินเค่อซีรีบอธิบาย
“อ่อ” สตรียังคงจ้องตาบุรุษ “แล้วของที่หอหยกขาว เจ้าเอามาด้วยหรือไม่”
“อืม เอามาหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรไว้ แถมยังเพิ่มให้ด้วย เจ้าอยากใช้เท่าไหร่ก็ใช้ได้เลย” ซินเค่อซีตอบอย่างรวดเร็วราวกับกลัวเหอชุนหลานจะโกรธ
กลายเป็นสตรีอมยิ้มชอบใจ ซินเค่อซีที่เงียบไม่เคยพูดมากความ ตอนนี้กลับเอาใจและพูดมากราวกับเป็นคนละคน
“รู้งาน เจ้าใช่ซินเค่อซีจริงๆ ใช่หรือไม่ หรือเจ้าคือ ซินเค่อเป่ย ซินเค่อหนาน” สตรีเอ่ยแซวก่อนถูกมือแกร่งรวบตัวไปซุกหลังชั้นวางเสื้อผ้าโดยไม่ทันตั้งตัว
“จวี๋เอ๋อร์ เจ้ามาดูชุดพวกนี้สิ แปลกตาหรือไม่ ข้าคิดว่าหากเจ้าสวมใส่คงงดงามจนหาคำมาบรรยายไม่ได้” สยงฺคุนดึงมือเรียวของเหอชิวจวี๋มาดูชุดชั้นในสตรีที่วางอยู่ในชั้น
เขาใช้มือข้างที่ยังว่างหยิบทุกชุดส่งให้นางกำนัลที่เดินติดตามนำไปจ่ายเงิน “ต้องเหมากลับไปให้หมด”
“ท่านทะลึ่งไปแล้ว” เหอชิวจวี๋พูดน้ำเสียงเขินอาย “หม่อมฉันชอบชุดแบบนั้นมากกว่า” มือเรียวชี้ไปที่ชุดนอนสายเดี่ยวหลากหลายแบบที่แขวนอยู่ด้านข้าง
“ซื้อ” บุรุษจ้องตาสตรี เขากล่าวซ้ำอีกครั้งโดยไม่ต้องคิด “เหมาหมด”
“ฮึก” เหอชุนหลานกลั้นหัวเราะ แค่องค์รัชทายาทสยงฺคุนก้าวเข้ามาในร้าน เขาก็เหมือนตู้เงินตำลึงเดินได้ คาดว่าวันนี้นางน่าจะได้เงินจากเขาจำนวนไม่น้อย
“นั่นเสียงใคร” สยงฺคุนหันมองตามเสียง ก่อนที่เขาจะเดินถึงหลังชั้นวางเสื้อผ้า ซินเค่อซีก็คว้าชุดที่อยู่ใกล้มือมาคลุมหน้าของเขากับเหอชุนหลานอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบประคองนางเดินออกนอกร้านโดยไม่หยุดฝีเท้า
“คุ้นมาก” สยงฺคุนมองบุรุษสตรีที่ปิดบังใบหน้า ลักษณะรูปร่างและท่าทางการเดินของชายร่างสูงทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก
“พวกเจ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เขาออกคำสั่งเสียงดัง “ชุดพวกนั้นข้าเหมาหมดแล้ว”
แต่ยิ่งเขาพูด บุรุษร่างสูงก็เปลี่ยนจากประคองสตรีเป็นอุ้มนางในอ้อมแขน “ชุดตัวนี้ข้าซื้อไว้แล้ว” ซินเค่อซีดัดเสียงพูดแล้วจากไปอย่างว่องไว มีเสียงหลุดขำของเหอชุนหลานดังขึ้นไม่ดังมากนัก
“เสียงนั่น” เหอชิวจวี๋เดินตามสยงฺคุนออกมา นางก็ได้ยินเสียงของซินเค่อซี แม้จะดัดเสียงแล้วแต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“จิ่งซี ต้องเป็นเจ้าหมอนั่นแน่ๆ ข้าไปที่สุสานเจ้านั่นมาตั้งหลายครั้ง ไม่เคยเห็นไห่ซานกับไห่ต้าเลย ลูกน้องคนสนิทก็ต้องไปเคารพสุสานบ้างสิ แถมที่จวนอ๋องก็ไม่อยู่เช่นกัน ข้ายังเคยคิดเลยว่าเจ้าหมอนั่นออกจะตายง่ายเกินไปหน่อย”
สยงฺคุนหมายจะเร่งฝีเท้าตามไป แต่ก็เปลี่ยนใจเดินกลับไปซื้อชุด “ไม่ได้ ข้าต้องเหมาชุดให้เจ้าก่อน” เขายิ้มหวานให้เหอชิวจวี๋พลางสั่งให้บรรดานางกำนัลขนเสื้อผ้าไปเก็บที่รถม้า
“ไม่กลัวว่าจะตามไม่ทันหรอกหรือ” เหอชิวจวี๋เอ่ยแซวบุรุษข้างกาย
“กลัวไม่ได้ซื้อชุดให้เจ้ามากกว่า ส่วนเจ้าหมอนั่นหนีข้าไม่พ้นหรอก” สยงฺคุนหัวเราะชอบใจ
“ถ้าหม่อมฉันไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาก่อน คงคิดว่าท่านกับเสิงโหย่วอ๋องเป็นคู่รักกัน” เหอชิวจวี๋แกล้งพูดจนสยงฺคุนสะดุ้งแล้วแก้ตัวเป็นพัลวัน
“ไม่ใช่ๆ นะ ข้าอยู่กับเจ้าทุกคืน เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าชอบแบบไหน” เขาพูดไม่ทันจบก็อุ้มสตรีขึ้นรถม้าทันที “หากไม่เชื่อ ข้าจะทำให้เจ้าเชื่อ บนรถม้าเลยดีหรือไม่”
“ไม่เอา กลับที่พักก่อนสิเพคะ” เหอชิวจวี๋หยิกแขนแล้วซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกของชายหนุ่ม
~~~~~~~~
“เจ้าคิดว่าจะหนีรัชทายาทพ้นหรือ” เหอชุนหลานหัวเราะก่อนถามซินเค่อซี “ขนาดเรามาอยู่ที่แคว้นซีหนานก็ยังเจอพวกเขา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน”
“ฮ่องเต้ซีหนานจัดงานหาคู่ให้องค์หญิงรอง ข้าก็คิดว่าองค์ชายเป่ยจ้านที่ยังโสดอยู่จะมา คิดไม่ถึงว่ากลายเป็นสยงฺคุนที่มา ซ้ำยังพาเหอชิวจวี๋มาอีก”
“เอาน่าๆ คู่แล้วไม่แคล้วกัน” เหอชุนหลานคิดไม่ต่างกับเหอชิวจวี๋ บุรุษสองคนนี้จากที่แค้นหาเรื่องแกล้งกันตลอด ตอนนี้คล้ายกับคนงอนกันเสียมากกว่า
“คู่แค้นน่ะสิไม่ว่า” ซินเค่อซีถอนหายใจโล่งอกที่ไม่เห็นสยงฺคุนตามมา
“คู่แค้นแสนรัก” เหอชุนหลานหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง “ข้าว่าหากพวกเจ้าไม่ได้เกลียดกัน ก็คืนดีกันไปเถอะ รัชทายาทคงรักษาความลับให้เจ้า ไม่เอาไปประกาศหรอกว่าเจ้ายังไม่ตาย”
“ข้าขอคิดก่อนละกัน” ซินเค่อซีกล่าว ดวงตาเหม่อลอยมองทอดยาวออกนอกหน้าต่างรถม้า
~~~~~~~~
เรือนกล้วยไม้
วันถัดมา ไห่ซานยืนลังเลอยู่หน้าประตูเรือนรอซินเค่อซีกับเหอชุนหลานตื่นขึ้นในตอนเช้า
ตอนแรกเขาจะเคาะประตูและร้องเรียก แต่เสี่ยวเหมยรีบมาบอกว่าเจ้านายทั้งสองคนน่าจะเพิ่งได้นอนหลับตอนใกล้รุ่งสาง เขาจึงได้แต่เดินไปมารอด้านหน้า
เขายืนรอประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็ได้ยินซินเค่อซีร้องเรียกเสี่ยวเหมยให้เตรียมอาหารสำหรับเหอชุนหลาน
“หลานหลาน ตื่นขึ้นมากินอะไรรองท้องสักหน่อย ลูกของเราหิวแล้ว” บุรุษโอบสตรีร่างเล็กในอ้อมแขน ฝ่ามือหนาอีกข้างลูบท้องของนางอย่างแผ่วเบา
“ข้ายังอยากนอน” เหอชุนหลานพูดพึมพำ นางส่ายหน้าแล้วนอนต่อไม่สนใจอีกฝ่าย
“เจ้าไม่กลัวลูกหิวหรือ หากเจ้าไม่กินลูกอาจจะขาดสารอาหารได้นะ” ซินเค่อซีใช้คำกล่าวที่เหอชุนหลานมักพูดประจำ ลูกขาดสารอาหารไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเจริญเติบโตและมีพัฒนาการไม่เต็มที่
“ดื่มนมก่อนก็ได้ หรือจะน้ำเต้าหู้ โจ๊กใส่ไข่ก็ดีนะ”
สตรีได้ฟังก็งัวเงียลุกขึ้นให้แผ่นหลังพิงหน้าอกของซินเค่อซี นางรับถ้วยใส่นมมาดื่มแล้วนอนต่อ “เจ้าไปหาไห่ซานเถอะ เสี่ยวเหมยบอกว่าเขายืนรอมานานแล้ว”
“อืม” ซินเค่อซีรับคำ แต่เขาไม่ออกนอกเรือน กลับเรียกให้ไห่ซานเข้ามารายงานแทน
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
“อ๊ะ อ้า อืม” เสียงครางหวานจากปากสตรีที่ยังไม่ได้สติสัมปชัญญะดังขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ร่างแกร่งที่คร่อมอยู่บนตัวนางขยับเอวสอบเร็วและแรงมากขึ้น“ขนาดหลับอยู่ยังตอบสนองดีขนาดนี้ คุณหนูสามสกุลเหอนี่เก่งเสียงจริง” บุรุษใบหน้าหล่อเหลาพูดขณะที่เหงื่อซึมออกทั่วสรรพางค์กายเขาเริ่มบรรเลงเพลงรักกับสตรีสกุลเหอ เหอชิวจวี๋ คุณหนูสามผู้ที่ขึ้นชื่อว่างดงามในระดับต้นๆ ของแคว้นเป่ยจ้านเมื่อได้ตัวนางมา แม้ว่านางจะยังไม่ฟื้น แต่เขาก็ไม่ลังเลลงมือ เพราะหากนางตื่นแล้วอาจจะรับมือยากขึ้นกว่านี้‘เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ทั้งคับแน่นทั้งเสียว อื้อ’ สตรีที่กำลังอยู่ในภวังค์ นางยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้เพียงแต่ว่าร่างกายในตอนนี้เสียวซ่านไปทั่วทั้งตัวร่างบางแอ่นหน้าอกอวบอิ่มลอยสูงขึ้น นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองแล้วก้มลงดูดยอดถันสีชมพูหวานทั้งสองข้างสลับไปมาด้วยความพึงพอใจ“ข้าจะทำให้เจ้าสุขสมทั้งคืนแน่นอน” เขากระซิบข้างหูหญิงสาวก่อนที่จะจับนางเปลี่ยนท่าตามความชอบของตนช่วงสายของอีกวัน สตรีเรือนร่างอรชรที่มีรอยรักประทับทั่วเรือนร่างก็ลืมตาขึ้นช้าๆ นางกวาดสายตามองรอบห้องด้วยความงุนงง“นี่ที่ไหนกัน” หญิงสาวพูดพลา
จวนสกุลเหอ“นายท่าน มีคนนำกล่องไม้นี้มาให้ขอรับ บอกว่าเป็นของคุณหนูสาม” พ่อบ้านของจวนยื่นกล่องไม้ขนาดไม่ใหญ่นักส่งให้เหอตง ผู้นำสกุลเหอ ทั้งยังเป็นบิดาของเหอชิวจวี๋บุรุษวัยกลางคนรับกล่องไม้มาเปิดดูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห็นสิ่งของข้างในก็เขวี้ยงทิ้งลงพื้นแทบจะทันที“ใครกันมันบังอาจเช่นนี้ หยามหน้าข้าเหอตงผู้เป็นราชครูของฮ่องเต้ยิ่งนัก”“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น” ฮูหยินใหญ่ของเหอตง ลู่หลิง เดินผ่านมาพอดีจึงเข้ามาถามด้วยความสงสัยนางเดินไปดูกล่องไม้และผ้าที่หล่นบนพื้น เมื่อสังเกตจนรู้ว่าคือสิ่งใด มือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาปิดปากก่อนกรีดร้องออกมา“ไม่จริง จวี๋เอ๋อร์ของเราใช่หรือไม่” พวกเขาสามีภรรยาสกุลเหอฟูมฟักทนุถนอมเหอชิวจวี๋มาเป็นอย่างดี จนนางเป็นสตรีที่งามล่มเมือง ความรู้ความสามารถที่สตรีควรมีนางล้วนเป็นทุกอย่างและไม่เป็นรองผู้ใด พวกเขาหวังจะให้นางเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท บุรุษผู้ที่ได้ชื่อว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในแคว้นเป่ยจ้านแต่ตอนนี้สิ่งที่ได้เห็นคือผ้าเปื้อนเลือดพรหมจรรย์ของบุตรสาวตนเอง ไม่ว่าใครก็ย่อมตกใจและโกรธแค้นเป็นธรรมดายังดีที่องค์รัชทายาทตอนนี้ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง มิเช่น
เหอชุนหลานกลับถึงเรือนนอนของตนก็สั่งสาวใช้ให้เตรียมน้ำอุ่น จากนั้นนางก็อาบน้ำและทำความสะอาดแทบจะทุกซอกทุกมุมเสี่ยวเหมยเห็นดังนั้นก็ตกใจแต่ก็ต้องเก็บอาการ นางเพิ่งเคยเห็นนายท่านบ้านตนมีอะไรกับสตรีซ้ำครั้งที่สอง ทั้งยังกลางวันแสกๆ ในห้องหนังสือ นางรีบช่วยเหอชุนหลานอาบน้ำขัดผิวด้วยความตั้งใจเห็นทีคุณหนูเหอผู้นี้จะเป็นที่สนใจของนายท่านจริงๆ ไม่แน่ว่าต่อไปนางจะได้มาเป็นฮูหยินของจวนนี้“เสี่ยวเหมย ข้าอยากได้สมุดกับปากกา เอ่อ หมายถึงกระดาษกับพู่กันน่ะ ขอกระดาษหลายแผ่นหน่อยนะ” เหอชุนหลานบอกสาวใช้ตัวน้อย นางอยากได้มาจดรายรับรายจ่ายของตน ตอนนี้รายรับยังไม่มี แต่ถ้าไอ้รูปหล่อคนนั้นยังหื่นใส่อีก นางก็จะจดเพิ่มเงินไปเรื่อยๆผู้ใดจะกล่าวหาว่านางเป็นสตรีขายตัวก็ช่าง นางอยู่ในบ้านคนอื่นก็คงต้องหากินแบบนี้ไปก่อน หากมีที่มีทางอยู่ข้างนอกคงต้องคิดวิธีหาเงินใหม่พร้อมกับหาวิธีกลับบ้าน“เสี่ยวเหมย” ชุนเหอหลานเรียกสาวใช้อีกครั้ง “ข้าใบหน้าเหมือนคุณหนูสามเหอมากเลยหรือ” นางถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจสาวใช้ตัวน้อยยื่นหน้าเข้าใกล้เหอชุนหลาน ดวงตาจ้องทั่วหน้าและมองต่ำสำรวจเรือนร่าง“เหมือนมากเจ้าค่ะ ราวกับคน
‘ไอ้รูปหล่อเป็นท่านอ๋องหรอกหรือ แต่ผู้ชายมักมากไม่เห็นจะน่าคบสักนิด’ เหอชุนหลานดูแคลนบุรุษในใจ ยิ่งเห็นสตรีข้างกายเขาก็รู้สึกทั้งสงสารและสมเพชในเวลาเดียวกัน คิดดังนั้นก็จูงมือเสี่ยวเหมยให้รีบเดินออกห่างจากพวกเขาทันที “ตลาดกลางคืนมักขายอาหารกับเครื่องประดับ พวกของขวัญชิ้นเล็กๆ สินะ” เหอชุนหลานกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อที่จะคิดธุรกิจของตนเองบ้าง พอได้เงินจากอ๋องหื่นกามมานางจะได้เอามาเป็นเงินทุนตรงนี้ นางเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลบมุมตัวหนึ่ง พลางมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา สังเกตเห็นว่ามีแต่คู่หนุ่มสาวที่มาด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ “ข้าเย็บชุดชั้นในขายดีกว่า เอาแบบยั่วๆ ผู้หญิงซื้อใส่ยั่วผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ซื้อให้คนรัก สร้างกิจกรรมบนเตียงที่จืดชืดให้กลับมาเร่าร้อนเหมือนดั่งครั้งแรกที่ถึงเนื้อถึงตัวกัน” เหอชุนหลานยิ้มภูมิใจกับความคิดของตนเอง นางวางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จะต้องหาเวลาออกไปสำรวจตลาดผ้า จะได้เลือกแบบและลวดลายไว้ล่วงหน้า ~~~~~~~~เมื่อกลับมาถึงจวนไป๋หลิน เหอชุนหลานก็ลงอ่างแช่น้ำร้อนให้ร่างกายผ่อนคลาย ดีที่ท่านอ๋องเจ้าของจวนยังไม่กลับ นางจึ
ด้านบุรุษเมื่อเดินออกจากเรือนของเหอชุนหลาน ในหัวก็ครุ่นคิดแต่เรื่องของหญิงสาว“จูบปากยังหวานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าตรงส่วนนั้นจะหวานขนาดไหน” เขาเคยมีสัมพันธ์กับสตรีหลายคนก็จริง แต่แทบไม่เคยใช้ปากกับผู้ใด เรียกได้ว่าเหอชุนหลานเป็นสตรีคนแรกที่เข้าใช้ปากเกือบทุกส่วนแล้ว เหลือเพียงสำรวจส่วนล่างที่อ่อนไหวที่สุดเท่านั้น "คราวหน้าข้าจะทำเต็มรูปแบบ" เขาพูดพลางเดินเข้าเรือนตนเอง “ทำอะไรเต็มรูปแบบหรือขอรับ” ไห่ต้าลูกน้องคนสนิทถามด้วยความสงสัย “จะปรับปรุงหอเทียบสวรรค์หรือขอรับ” บุรุษสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียง เขาถลึงตาใส่ไห่ต้ากลบเกลื่อนความเคอะเขิน “ก็ประมาณนั้น” ~~~~~~~~ เช้าตรู่ของอีกวัน เหอชุนหลานยังไม่ทันได้ตื่นนอน ไห่ต้าก็ส่งเสียงร้องเรียกจนเสี่ยวเหมยรีบมาเปิดประตูให้ “มีอะไรหรือ” สาวใช้ตัวน้อยถามบุรุษตัวใหญ่ด้วยความสงสัย ไห่ต้ายื่นกล่องไม้ในมือตนให้อีกฝ่ายทันที “นายท่านให้นำมามอบแก่คุณหนูเหอ ของอื่นๆ จะตามมาทีหลัง” เขาพูดโดยไม่อธิบายอะไรปล่อยเสี่ยวเหมยยืนงุนงงก่อนเดินกลับเข้าเรือน เมื่อเหอชุนหลา
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั