ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก
“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย
“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”
เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น
“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้าน
พรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้
~~~~~~~~
“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร
“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว
“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหัน
เรือนกายสูงใหญ่ผลักประตูลงจากรถม้าด้วยความรวดเร็ว เมื่อครู่เขาปรายหางตามองผ่านหน้าต่างรถม้า เห็นสตรีคล้ายกับเหอชุนหลานเดินอยู่ในซอยใกล้ๆ
“นายท่าน ไม่มีใครหรอก ข้าบอกแล้วว่าท่านคงเห็นภาพหลอน” ไห่ซานรีบออกความคิดเห็นก่อนปิดปากตนเองทันที
ซินเค่อซีเดินไปบริเวณปากซอย ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองโดยรอบ เมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงกลับขึ้นรถม้าของตน “กลับจวน”
“เฮ้อ เกือบไปแล้ว” เหอชุนหลานที่หลบอยู่หลังถังขยะใส่เศษผักและผลไม้ถอนหายใจโล่งอก “อี๋ เหม็นๆ กลับไปคงต้องรีบอาบน้ำแล้ว” นางมองซ้ายมองขวาดั่งหนูที่หวาดระแวง เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ จึงรีบกลับบ้านของตน
~~~~~~~~
บ้านของเหอชุนหลาน
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เหอชุนหลานก็มานอนเล่นบนเตียง มือเรียวลูบหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมาจนสังเกตเห็นได้ ริมฝีปากอวบอิ่มก็พูดคุยกับลูกน้อยในครรภ์ด้วยความเคยชิน
“เป่าเป้ย หนูเป็นของหม่าม้าคนเดียวรู้มั้ย ผู้ชายที่มีเมียหลายคนอย่าไปเอามาเป็นป่าป๊า เดี๋ยวหม่าม้าจะหาป่าป๊าคนใหม่ให้เอง”
สตรีลูบท้องตนเองสักพักก็นึกถึงวันพรุ่งนี้ วันแต่งงานของซินเค่อซีกับสตรีทั้งสองนาง
“ช่างเขาสิ ใครจะสนใจคนบ้ากามกัน” นางพ่นลมหายใจออกมาแล้วหลับตาลงเพื่อที่จะนอนหลับพักผ่อน
เช้าวันถัดมา เหอชุนหลานตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงประทัดที่ดังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หญิงสาวรีบล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“พี่หลิน มีอะไรหรือทำไมเสียงดังจัง” นางถามเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน
“วันแต่งงานเสิงโหย่วอ๋องก็ต้องจัดยิ่งใหญ่เป็นธรรมดา เจ้าดูสิขบวนยาวเต็มถนน ถ้าไม่ใช่ระดับองค์ชายหรืออ๋องก็ไม่มีใครจัดขนาดนี้” หลินซีหลิงตอบ มือเรียวชี้ให้ดูขบวนเจ้าบ่าวไปรับเจ้าสาวที่เห็นอยู่ไกลๆ
“อ่อ” เหอชุนหลานพยักหน้า นางหยิบหมวกที่มีผ้าบังหน้ามาสวมแล้วเดินลัดเลาะเพื่อไปมุงดูข้างถนนใหญ่ แม้จะเป็นงานแต่งของบุรุษที่ไม่อยากเจอหน้า แต่งานแต่งโบราณอวดรวยระดับนี้ไม่ได้หาดูได้ง่าย เหอชุนหลานจึงอดใจไม่ไหวมาแอบดูด้วยเช่นกัน
ระหว่างที่เหอชุนหลานหาที่ว่างริมถนนเพื่อจะดูขบวนนั้น อาชาตัวใหญ่สีนิลที่เจ้าบ่าวขี่อยู่ก็ผ่านหน้านางไปพอดี สตรีมองหน้าเจ้าบ่าวด้านข้างด้วยความรู้สึกที่ประหลาด
ใจหนึ่งก็โหยหา แต่อีกใจก็ชิงชัง
นางไม่ควรมีใจให้บุรุษคนนี้ เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดก็แค่มีผลประโยชน์เอื้อซึ่งกันและกัน เมื่อหมดประโยชน์ก็ควรแยกย้าย อีกอย่างคนที่มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตน นางจะไม่เอาตัวและหัวใจไปยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด
เมื่อคิดได้ดังนั้น เหอชุนหลานก็หันตัวกลับ ขณะที่จะก้าวเท้าไปยังทางที่เดินมา ก็มีชายชุดดำสี่คนลงมาจากหลังคา แล้วยิงธนูใส่ซินเค่อซี
ร่างแกร่งของบุรุษในชุดเจ้าบ่าวกระเด็นร่วงลงจากม้ามานอนอยู่ด้านหน้าเหอชุนหลาน บุรุษกระอักเลือดคำโต เขาจ้องมองสตรีที่มาขวางทางแวบหนึ่ง เมื่อเห็นดวงตาคุ้นเคยก็มีสีหน้าตกใจ
‘ตาย ข้าต้องแกล้งตาย’ ซินเค่อซีคิดในใจ แต่เขาก็กลัวสตรีที่อยู่ตรงหน้าหนีหายไป มือหนาข้างหนึ่งจึงคว้าข้อเท้าของนางแน่นไม่ยอมปล่อย
“เสิงโหย่วอ๋องถูกลอบสังหาร” “เสิงโหย่วอ๋องเสียชีวิตแล้ว” ผู้คนที่มาดูขบวนแห่รับตัวเจ้าสาวต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ
เหอชุนหลานรีบลงนั่งเขย่าตัวบุรุษด้วยความลืมตัว “คุณๆ อย่าตายนะ ไม่ใช่สิ เจ้าอย่าหลับนะ” มือเรียวตบหน้าบุรุษถี่ๆ จนแก้มของอีกฝ่ายแดงเป็นรอยฝ่ามือของนาง
เมื่อเห็นว่าไห่ต้ากับไห่ซานจะมาถึงตัว เหอชุนหลานก็พยายามจะหลบหนี แต่ก็ขยับขาไม่ได้เพราะข้อเท้าถูกฝ่ามือแกร่งของซินเค่อซีจับไว้แน่น
สตรีตัดสินใจยืนขึ้นแล้วยกเท้าจะสะบัด ‘ฮึ่ม จะตายแล้วยังแรงเยอะ ได้ คอยดูกัน’ หญิงสาวยกเท้าอีกข้างขึ้นมาเตะมือแกร่งของบุรุษให้ปล่อยข้อเท้าตน
‘แสบเช่นนี้ ต้องเป็นนางแน่ๆ ไม่ผิดตัว’ ซินเค่อซีแกล้งกระอักเลือดอีกครั้งแล้วสลบไม่ได้สติ ส่วนมือหนาก็จับแรงขึ้นไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
ช่วงที่เหอชุนหลานยกเท้าจะเหยียบมือของบุรุษ ไห่ต้าก็มาคว้าตัวนางออกทันที เขาสังเกตเห็นแล้วว่าเจ้านายบ้านตนคว้าสตรีนางนี้ไว้ อย่างไรเสียด้วยความเป็นลูกน้องที่ดีเขาจะไม่ปล่อยตัวนางไปเด็ดขาด
“ท่านอ๋องๆ โถ่ ท่านอ๋อง” ไห่ซานที่ทำท่าทางเป็นไล่จับนักฆ่าทั้งสี่ไม่สำเร็จ วิ่งย้อนกลับมาคุกเข่าต่อหน้าเรือนกายที่แกล้งจะไร้ลมหายใจ
“พาท่านอ๋องกลับจวนด่วน” เขายกแขนมาปาดน้ำตา คว้าร่างหนาของเจ้านายขึ้นมาอุ้ม แม้จะดูทุลักทุเลบ้าง เพราะเขาก็มีขนาดตัวใหญ่ๆ พอกันกับซินเค่อซี แต่เขาก็กัดฟันอุ้มร่างเจ้านายไปพาดอาชาสีนิลตัวเดิม
‘อึก’ ซินเค่อซีที่บริเวณท้องถูกกระแทกกับอานม้า เขารู้สึกจุกจนอยากส่งเสียงร้องออกมา
‘ฮึ่ม ฝากไว้ก่อนเถอะ’ เขาโมโหตั้งแต่ถูกอุ้มราวกับสตรี ตอนนี้ยังเจ็บตัวอีก ไว้ผ่านวันนี้ไปคงต้องลงโทษให้รู้จักคิดเสียบ้าง
“เดี๋ยวสิ ข้าไม่เกี่ยวอะไรด้วยจะพาข้าไปทำไม” เหอชุนหลานดิ้นพยายามจะให้ไห่ต้าปล่อยมือ นางไม่รู้ว่ายุคนี้แคว้นนี้มีธรรมเนียมที่ว่าหากคนระดับอ๋องตาย บรรดาสตรีของเขาต้องตายตามด้วยหรือไม่ แต่ที่รู้ก็คือนางมีลูกน้อยอยู่ในท้อง และจะไม่ยอมตายง่ายๆ แน่นอน
“เอ๊ะเสียงนี้ คุณหนูเหอชุนหลานหรือคุณหนูเหอชิวจวี๋” ไห่ต้าร้องถามด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่ทั้งคู่” เหอชุนหลานรีบปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกจับตัวไปที่จวนไป๋หลินของซินเค่อซี
นางถูกขังในเรือนที่ตัวเองเคยพัก สตรีเดินวนไปมา ใจนึกห่วงบุรุษที่รักษาตัวอยู่อีกเรือน เมื่อเห็นเสี่ยวเหมยเปิดประตูเรือนเข้ามา เหอชุนหลานนึกขึ้นได้จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักอีกฝ่าย
“เจ้านายของพวกเจ้าคือเสิงโหย่วอ๋องใช่หรือไม่ เขาถูกลอบสังหารเหตุใดถึงพาตัวข้ามา ข้าไม่ได้วางยาเขานะ”
“คุณหนู” เสี่ยวเหมยจำเสียงของเหอชุนหลานได้จึงร้องดีใจออกมา
“เดี๋ยวก่อน เจ้านายเจ้ากำลังจะตาย เจ้ายังดีใจออกหรือ” เหอชุนหลานอยากยกนิ้วมาดีดหน้าผากสาวใช้ตัวน้อยแต่ก็ข่มใจไว้
ยังไม่ทันที่เหอชุนหลานจะได้เอ่ยถามข่าวของซินเค่อซี ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังระงมทั่วจวน “ท่านอ๋องสิ้นแล้ว”
“ตะ ตายแล้วจริงๆ หรือ” สตรีสีหน้าซีดเผือก คิดไว้ว่าซินเค่อซีดวงแข็ง และร่างกายก็แข็งแรง เขาไม่น่ามาตายง่ายๆ แบบนี้
นางนั่งปิดปากเงียบ ในใจเศร้าอย่างบอกไม่ถูก แม้จะยังไม่รู้สึกรักใคร่แต่ก็เคยมีสัมพันธ์ทางกายกันมาก่อน เคยนอนคุยกันย่อมต้องมีความรู้สึกผูกพันเป็นธรรมดา
~~~~~~~~
“นางร้องไห้เสียใจหรือไม่” ซินเค่อซีที่แกล้งนอนตายบนเตียงกระดิกนิ้วมือเรียกไห่ต้ามาถามถึงสตรีที่จับตัวมา เขามั่นใจมากว่านางต้องเป็นเหอชุนหลานแน่นอน
“นางแค่เงียบ แต่ไม่มีน้ำตาสักหยดขอรับ” ไห่ต้าส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่สิ นางคงตกใจจนทำตัวไม่ถูกแน่ เดี๋ยวต้องร้องไห้คร่ำครวญออกมา” ซินเค่อซีพูดพึมพำเบาๆ
“นายท่านตายต่อได้แล้ว องค์รัชทายาทมาแล้วขอรับ” ไห่ซานกระซิบบอก พวกเขาต้องรอคนมาตรวจสอบให้เรียบร้อย ถึงจะเคลื่อนย้ายร่างไปประกอบพิธีตามความเชื่อได้
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
“อ๊ะ อ้า อืม” เสียงครางหวานจากปากสตรีที่ยังไม่ได้สติสัมปชัญญะดังขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ร่างแกร่งที่คร่อมอยู่บนตัวนางขยับเอวสอบเร็วและแรงมากขึ้น“ขนาดหลับอยู่ยังตอบสนองดีขนาดนี้ คุณหนูสามสกุลเหอนี่เก่งเสียงจริง” บุรุษใบหน้าหล่อเหลาพูดขณะที่เหงื่อซึมออกทั่วสรรพางค์กายเขาเริ่มบรรเลงเพลงรักกับสตรีสกุลเหอ เหอชิวจวี๋ คุณหนูสามผู้ที่ขึ้นชื่อว่างดงามในระดับต้นๆ ของแคว้นเป่ยจ้านเมื่อได้ตัวนางมา แม้ว่านางจะยังไม่ฟื้น แต่เขาก็ไม่ลังเลลงมือ เพราะหากนางตื่นแล้วอาจจะรับมือยากขึ้นกว่านี้‘เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ทั้งคับแน่นทั้งเสียว อื้อ’ สตรีที่กำลังอยู่ในภวังค์ นางยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้เพียงแต่ว่าร่างกายในตอนนี้เสียวซ่านไปทั่วทั้งตัวร่างบางแอ่นหน้าอกอวบอิ่มลอยสูงขึ้น นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองแล้วก้มลงดูดยอดถันสีชมพูหวานทั้งสองข้างสลับไปมาด้วยความพึงพอใจ“ข้าจะทำให้เจ้าสุขสมทั้งคืนแน่นอน” เขากระซิบข้างหูหญิงสาวก่อนที่จะจับนางเปลี่ยนท่าตามความชอบของตนช่วงสายของอีกวัน สตรีเรือนร่างอรชรที่มีรอยรักประทับทั่วเรือนร่างก็ลืมตาขึ้นช้าๆ นางกวาดสายตามองรอบห้องด้วยความงุนงง“นี่ที่ไหนกัน” หญิงสาวพูดพลา
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั