จวนสกุลเหอ
“นายท่าน มีคนนำกล่องไม้นี้มาให้ขอรับ บอกว่าเป็นของคุณหนูสาม” พ่อบ้านของจวนยื่นกล่องไม้ขนาดไม่ใหญ่นักส่งให้เหอตง ผู้นำสกุลเหอ ทั้งยังเป็นบิดาของเหอชิวจวี๋
บุรุษวัยกลางคนรับกล่องไม้มาเปิดดูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห็นสิ่งของข้างในก็เขวี้ยงทิ้งลงพื้นแทบจะทันที
“ใครกันมันบังอาจเช่นนี้ หยามหน้าข้าเหอตงผู้เป็นราชครูของฮ่องเต้ยิ่งนัก”
“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น” ฮูหยินใหญ่ของเหอตง ลู่หลิง เดินผ่านมาพอดีจึงเข้ามาถามด้วยความสงสัย
นางเดินไปดูกล่องไม้และผ้าที่หล่นบนพื้น เมื่อสังเกตจนรู้ว่าคือสิ่งใด มือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาปิดปากก่อนกรีดร้องออกมา
“ไม่จริง จวี๋เอ๋อร์ของเราใช่หรือไม่” พวกเขาสามีภรรยาสกุลเหอฟูมฟักทนุถนอมเหอชิวจวี๋มาเป็นอย่างดี จนนางเป็นสตรีที่งามล่มเมือง ความรู้ความสามารถที่สตรีควรมีนางล้วนเป็นทุกอย่างและไม่เป็นรองผู้ใด พวกเขาหวังจะให้นางเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท บุรุษผู้ที่ได้ชื่อว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในแคว้นเป่ยจ้าน
แต่ตอนนี้สิ่งที่ได้เห็นคือผ้าเปื้อนเลือดพรหมจรรย์ของบุตรสาวตนเอง ไม่ว่าใครก็ย่อมตกใจและโกรธแค้นเป็นธรรมดา
ยังดีที่องค์รัชทายาทตอนนี้ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง มิเช่นนั้นหากเสด็จมาหาพวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไร
“เก็บมันเอาไปเผาทิ้งซะ อย่าให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูผู้ใดทั้งนั้น” เหอตงบอกลู่หลิงและคนที่อยู่ในที่นี้ หากเขาได้ยินว่าผู้ใดปากสว่าง นำไปเล่าจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เขาไม่มีทางปล่อยไปแน่
“ส่งคนไปตามหาจวี๋เอ๋อร์เพิ่ม ต้องให้นางกลับจวนโดยเร็ว”
~~~~~~~~
จวนไป๋หลิน
เหอชุนหลานเดินกระสับกระส่ายไปมาในเรือน เพราะรับรู้ว่าสถานการณ์ของตนเองตอนนี้ผิดปกติ นางมาอยู่ในสถานที่แปลกประหลาด ผู้คนแต่งกายยุคโบราณ เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์ที่เคยเรียนมาก็นึกไม่ออกว่ามีราชวงศ์สยงฺมาก่อน
“นี่ฉันย้อนอดีตมาหรือหลงเข้ามาในเมืองลับแลกันแน่นะ” สตรีขมวดคิ้วครุ่นคิด แต่คิดจนหัวแทบจะระเบิดก็คิดไม่ออก
“คุณหนูสาม นายท่านเรียกพบเจ้าค่ะ” สาวใช้ของจวนเดินมาเรียกอยู่หน้าประตู เหอชุนหลานได้ยิน นัยน์ตาหวานรีบมองไปยังที่มาของเสียงทันที
“นายท่านพวกเจ้าจับตัวข้ามาใช่หรือไม่ ทำแบบนี้เรียกว่าลักพาตัวนะ” สตรีพูดพร้อมกับเดินตามสาวใช้มาถึงห้องหนังสือของผู้ที่ถูกเรียกว่านายท่าน
เห็นบุรุษรูปร่างสูงกำยำใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม เหอชุนหลานหยุดเดินแล้วมองสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
‘เมื่อคืนฉันทำเรื่องอย่างว่ากับคนนี้หรือ รูปร่างหน้าตาไม่เลว’ หญิงสาวเลิกคิ้ว แล้วรีบทำสีหน้าเรียบเฉย
จะให้อีกฝ่ายรู้ถึงความคิดไม่ได้ เป็นสตรีมันไม่งาม
“คุณหนูสามช่างแตกต่างจากสตรีทั่วไปเสียจริง สตรีทั่วไปถ้าเจอแบบเรื่องเมื่อคืนคงคิดสั้นไปแล้ว” บุรุษรูปงามพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่ท่านก็ต้องรู้ไว้ การแต่งงานของท่านกับองค์รัชทายาทคงหมดหวังแล้ว”
“อ่อ” เหอชุนหลานลากเสียงยาว “พอดีข้าเป็นคนคิดบวก เรื่องเมื่อคืนท่านก็อย่าไปใส่ใจ มันเป็นเรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาว”
บุรุษที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มสำลักน้ำทันที เขารีบเก็บอาการอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากพูด สตรีตรงหน้าก็ชิงพูดต่อจนคนฟังตกใจ
“อีกเรื่อง ข้าชื่อเหอชุนหลาน ไม่ใช่เหอชิวจวี๋ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสกุลเหออะไรนั่น ถ้าท่านเก่งจริงคงสืบได้ว่า เหอชิวจวี๋ไม่มีรอยสักรูปกล้วยไม้ที่เอว ท่านก็ไปตามหานางแล้วปล่อยตัวข้าไปซะ พาข้าไปส่งที่ๆ ท่านเจอข้า” เหอชุนหลานพูดความจริง นางมิอยากสวมรอยเป็นคนอื่น นางยังไม่ตาย ไม่ได้มาอยู่ในร่างคนอื่น ที่ควรทำตอนนี้คือหาวิธีกลับบ้านให้เร็วที่สุด
“ไห่ซาน เจ้าไปสืบมาว่าสิ่งที่นางพูดจริงหรือไม่” บุรุษกล่าวด้วยความตกใจ ลูกน้องข้างกายที่ชื่อไห่ซานรับคำสั่งด้วยความตกใจไม่ต่างกัน เขารีบออกไปทำหน้าที่โดยไม่รีรอ
“ก่อนที่ข้าจะรู้ความจริง เจ้ายังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“ก็ได้” เหอชุนหลานพยักหน้า “ข้าก็ยังไม่มีที่ไปเช่นกัน พักอยู่ที่นี่สักหน่อยก็ได้” ก่อนที่เหอชุนหลานจะเดินออกนอกห้องหนังสือ นางหันหน้าไปคุยกับบุรุษราวกับนึกขึ้นมาได้ “ท่านจับตัวคนมาผิด ต้องจ่ายค่าชดเชยกับข้า ค่าทำขวัญ ค่าเสียเวลา อีกอย่างครั้งแรกของข้า ก็จ่ายมาด้วยละกัน”
ประโยคหลังเหอชุนหลานพูดไม่ดังนัก ตอนแรกนางไม่อยากคิดเงินเพราะตนเองไม่ได้ขายบริการ แต่ตอนนี้จำเป็นต้องหาเงินมาใช้ จึงเปลี่ยนเป็นเรียกเก็บเงินดีกว่า อะไรที่คิดเงินได้นางจะคิดทุกอย่าง
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นสตรีเช่นนี้ ยอมขายเรือนร่าง มิน่าถึงไม่คร่ำครวญจะเป็นจะตาย” มือหนาคว้าร่างบางที่อยู่ใกล้หน้าประตูเข้ามาในห้องอีกครั้ง ปลายจมูกของชายหนุ่มวนเวียนอยู่แถวคอยาวระหง
“แล้วอย่างไรเล่า เสียตัวก็เสียไปแล้ว ข้าคร่ำครวญแล้วได้อะไร เอาเงินดีกว่า ชีวิตยังต้องกินต้องใช้”
พูดยังไม่ทันจบร่างบางก็ถูกอุ้มวางบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มือหนาคว้าสาบเสื้อแล้วเปิดออกจนเห็นเต้าอวบอิ่มทั้งสอง
ชายหนุ่มไม่รอช้า ก้มหน้าลงซุกไซ้ที่เต้าสวยทันที ริมฝีปากครอบลงบนยอดถันแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างจนเหอชุนหลานได้แต่ดิ้นไปมาบนโต๊ะ
“อื้ม” นางครางออกมาก่อนต่อว่าชายผู้นั้น “เจ้าคนบ้ากาม”
แต่ถึงจะต่อว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่สนใจ เขาจับกางเกงของสตรีดึงลงจนหล่นลงพื้น แล้วส่งนิ้วร้ายเข้าสำรวจโพรงหวานของสตรีด้วยความช่ำชอง
เหอชุนหลานเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวและแข็งแรงสอดเข้าโพรงรัก นางก็แอ่นสะโพกลอยสูงโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเวลานิ้วร้ายนั้นขยับเข้าออกเร็วๆ จนเกิดเสียงน่าอาย นางก็ได้แต่สูดปากครวญครางออกมา
“อยากได้เงินใช่หรือไม่ เช่นนั้นก็อยู่ข้างกายปรนนิบัติข้า ข้าจะให้ค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอน” บุรุษเอ่ยบอก เขาขยับนิ้วอีกไม่กี่ครั้งก็ส่งสตรีถึงฝั่งฝัน
จากนั้นเขาก็ปลดอาภรณ์ส่วนล่างของตน แล้วจับแก่นกายแกร่งขนาดใหญ่หมุนวนปากโพรงรักของหญิงสาว พอได้จังหวะเขาก็สอดกายแกร่งเข้าช่องทางรักแล้วกระทุ้งเอวสองสามครั้งจนลำใหญ่ยาวเข้าไปจนมิด
“โอ้ย” เหอชุนหลานร้องเสียงดัง นี่นับว่าเป็นครั้งที่สองของนาง โพรงรักของนางยังไม่ชินกับของใหญ่เช่นนี้ ทั้งยังคราวก่อนยังไม่ได้สติเต็มที่ แต่ครั้งนี้ถูกสอดใส่ทั้งๆ ที่เพิ่งเล้าโลมเพียงนิดเดียว นางจึงรู้สึกเจ็บกว่าครั้งก่อนมาก
“เจ็บๆ” สตรีร้องบอกชายหนุ่ม ก่อนจะครางเสียงหวานเมื่อเขากระแทกเอวใส่ต่อเนื่อง “อ่า”
“อืม” บุรุษส่งเสียงออกมาจากลำคอ เขารับรู้ถึงการตอดรัดของโพรงนุ่มที่ชุ่มชื้นและคับแคบจึงเผลอส่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว
เคยทำรักกับสตรีมาหลายคนก็รู้สึกพอใจระดับธรรมดา แต่สตรีนางนี้เป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่าส่วนสำคัญของเขากับนางนั้นสอดรับกันได้อย่างเหมาะเจาะพอดี สามารถเติมเต็มความรู้สึกให้กันได้อย่างสมบูรณ์
เขากระแทกบั้นเอวต่ออีกไม่กี่ครั้ง ก็ส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ร่างทั้งร่างได้ปลดปล่อยจนรู้สึกสบายตัว
ส่วนสตรีใต้ร่างเมื่อกระตุกเกร็งและครางออกมาแทบจะพร้อมกันนั้น นางหายใจหอบเหนื่อยต่อสักพักก็ก่นด่าบุรุษไม่หยุดปาก
“ใครสั่งให้เจ้าปล่อยข้างใน ให้คนเอายามาให้ข้ากินเลยนะ แค่ความสัมพันธ์ชั่วคราว ข้าไม่อยากท้อง” เหอชุนหลานบ่นก่อนคว้าชุดบุรุษบางส่วนที่ยังคงสวมใส่อยู่มาเช็ดที่ส่วนล่างของตนทันที จากนั้นสตรีก็รีบลุกสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ววิ่งกลับห้องพักโดยไม่สนใจชายหนุ่ม
นางต้องรีบกลับไปอาบน้ำล้างตัว โดยเฉพาะล้างตรงส่วนนั้น
บุรุษยืนอึ้งตะลึงกับการกระทำของหญิงสาว ไม่เคยมีสตรีนางใดทำกับเขาเช่นนี้ หลายๆ คนอยากปีนเตียงเพื่อมีบุตรกับเขาด้วยซ้ำไป
สตรีนางนี้เป็นคนแรกที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ได้ไว และเมื่อในหัวคิดถึงเรือนร่างและสัมผัสเร่าร้อนของนาง ส่วนล่างของเขาก็พร้อมปฏิบัติการได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด
มิเช่นนั้นเขาคงไม่จัดนางในห้องหนังสือ ห้องที่เขาให้ความสำคัญมากกว่าห้องนอนด้วยซ้ำไป
เหอชุนหลานกลับถึงเรือนนอนของตนก็สั่งสาวใช้ให้เตรียมน้ำอุ่น จากนั้นนางก็อาบน้ำและทำความสะอาดแทบจะทุกซอกทุกมุมเสี่ยวเหมยเห็นดังนั้นก็ตกใจแต่ก็ต้องเก็บอาการ นางเพิ่งเคยเห็นนายท่านบ้านตนมีอะไรกับสตรีซ้ำครั้งที่สอง ทั้งยังกลางวันแสกๆ ในห้องหนังสือ นางรีบช่วยเหอชุนหลานอาบน้ำขัดผิวด้วยความตั้งใจเห็นทีคุณหนูเหอผู้นี้จะเป็นที่สนใจของนายท่านจริงๆ ไม่แน่ว่าต่อไปนางจะได้มาเป็นฮูหยินของจวนนี้“เสี่ยวเหมย ข้าอยากได้สมุดกับปากกา เอ่อ หมายถึงกระดาษกับพู่กันน่ะ ขอกระดาษหลายแผ่นหน่อยนะ” เหอชุนหลานบอกสาวใช้ตัวน้อย นางอยากได้มาจดรายรับรายจ่ายของตน ตอนนี้รายรับยังไม่มี แต่ถ้าไอ้รูปหล่อคนนั้นยังหื่นใส่อีก นางก็จะจดเพิ่มเงินไปเรื่อยๆผู้ใดจะกล่าวหาว่านางเป็นสตรีขายตัวก็ช่าง นางอยู่ในบ้านคนอื่นก็คงต้องหากินแบบนี้ไปก่อน หากมีที่มีทางอยู่ข้างนอกคงต้องคิดวิธีหาเงินใหม่พร้อมกับหาวิธีกลับบ้าน“เสี่ยวเหมย” ชุนเหอหลานเรียกสาวใช้อีกครั้ง “ข้าใบหน้าเหมือนคุณหนูสามเหอมากเลยหรือ” นางถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจสาวใช้ตัวน้อยยื่นหน้าเข้าใกล้เหอชุนหลาน ดวงตาจ้องทั่วหน้าและมองต่ำสำรวจเรือนร่าง“เหมือนมากเจ้าค่ะ ราวกับคน
‘ไอ้รูปหล่อเป็นท่านอ๋องหรอกหรือ แต่ผู้ชายมักมากไม่เห็นจะน่าคบสักนิด’ เหอชุนหลานดูแคลนบุรุษในใจ ยิ่งเห็นสตรีข้างกายเขาก็รู้สึกทั้งสงสารและสมเพชในเวลาเดียวกัน คิดดังนั้นก็จูงมือเสี่ยวเหมยให้รีบเดินออกห่างจากพวกเขาทันที “ตลาดกลางคืนมักขายอาหารกับเครื่องประดับ พวกของขวัญชิ้นเล็กๆ สินะ” เหอชุนหลานกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อที่จะคิดธุรกิจของตนเองบ้าง พอได้เงินจากอ๋องหื่นกามมานางจะได้เอามาเป็นเงินทุนตรงนี้ นางเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลบมุมตัวหนึ่ง พลางมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา สังเกตเห็นว่ามีแต่คู่หนุ่มสาวที่มาด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ “ข้าเย็บชุดชั้นในขายดีกว่า เอาแบบยั่วๆ ผู้หญิงซื้อใส่ยั่วผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ซื้อให้คนรัก สร้างกิจกรรมบนเตียงที่จืดชืดให้กลับมาเร่าร้อนเหมือนดั่งครั้งแรกที่ถึงเนื้อถึงตัวกัน” เหอชุนหลานยิ้มภูมิใจกับความคิดของตนเอง นางวางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จะต้องหาเวลาออกไปสำรวจตลาดผ้า จะได้เลือกแบบและลวดลายไว้ล่วงหน้า ~~~~~~~~เมื่อกลับมาถึงจวนไป๋หลิน เหอชุนหลานก็ลงอ่างแช่น้ำร้อนให้ร่างกายผ่อนคลาย ดีที่ท่านอ๋องเจ้าของจวนยังไม่กลับ นางจึ
ด้านบุรุษเมื่อเดินออกจากเรือนของเหอชุนหลาน ในหัวก็ครุ่นคิดแต่เรื่องของหญิงสาว“จูบปากยังหวานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าตรงส่วนนั้นจะหวานขนาดไหน” เขาเคยมีสัมพันธ์กับสตรีหลายคนก็จริง แต่แทบไม่เคยใช้ปากกับผู้ใด เรียกได้ว่าเหอชุนหลานเป็นสตรีคนแรกที่เข้าใช้ปากเกือบทุกส่วนแล้ว เหลือเพียงสำรวจส่วนล่างที่อ่อนไหวที่สุดเท่านั้น "คราวหน้าข้าจะทำเต็มรูปแบบ" เขาพูดพลางเดินเข้าเรือนตนเอง “ทำอะไรเต็มรูปแบบหรือขอรับ” ไห่ต้าลูกน้องคนสนิทถามด้วยความสงสัย “จะปรับปรุงหอเทียบสวรรค์หรือขอรับ” บุรุษสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียง เขาถลึงตาใส่ไห่ต้ากลบเกลื่อนความเคอะเขิน “ก็ประมาณนั้น” ~~~~~~~~ เช้าตรู่ของอีกวัน เหอชุนหลานยังไม่ทันได้ตื่นนอน ไห่ต้าก็ส่งเสียงร้องเรียกจนเสี่ยวเหมยรีบมาเปิดประตูให้ “มีอะไรหรือ” สาวใช้ตัวน้อยถามบุรุษตัวใหญ่ด้วยความสงสัย ไห่ต้ายื่นกล่องไม้ในมือตนให้อีกฝ่ายทันที “นายท่านให้นำมามอบแก่คุณหนูเหอ ของอื่นๆ จะตามมาทีหลัง” เขาพูดโดยไม่อธิบายอะไรปล่อยเสี่ยวเหมยยืนงุนงงก่อนเดินกลับเข้าเรือน เมื่อเหอชุนหลา
“เจ้ามันพวกอันธพาล” เหอชุนหลานบ่นอุบก่อนเดินเข้าไปใกล้กับเตียง ดวงตางามกวาดมองเผื่อจะมีพวกตั่งยาวที่พอจะให้ตัวเองนอนได้ “ข้าจะนอนบนพื้น” สตรีพูดเมื่อไม่เห็นสิ่งที่หวัง “อยู่เตียงเดียวกับเจ้าคงไม่ได้นอน” “จะนอนบนพื้นให้ปวดหลังทำไม มานี่” บุรุษออกคำสั่งเสียงเข้ม เขาลุกจากเตียงเดินมาฉุดแขนเหอชุนหลานให้ไปที่เตียงกับเขา “ใส่ชุดที่เจ้าตัดเย็บให้ข้าดูหน่อย” เขาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นนุ่มนวลชวนขนลุกแทน เหอชุนหลานกรอกตาพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ข้าจะเอาไว้ขาย ไม่ได้เอามาใส่เล่น” “เช่นนั้นข้าซื้อ เจ้าใส่ให้ข้าดูจะเพิ่มราคาให้” “ข้าขอเพิ่มอีกอย่าง เจ้าตกลงชื่อแซ่อะไรกันแน่” เหอชุนหลานถาม นางรู้ว่าคนสมัยนี้มีหลายชื่อ จิ่งซีเป็นเพียงชื่อที่คนในครอบครัวและคนสนิทเรียกเท่านั้น นางจึงไม่เคยรู้ชื่อที่ผู้คนทั่วไปใช้เรียกเขาเลย ถ้ารู้ ต่อไปเมื่อได้ยินคนนินทาถึงเขาจะได้หยุดฟังได้ บุรุษยกยิ้มมุมปาก มือหนาคว้าร่างให้ล้มนั่งบนตักของตน ริมฝีปากจ่อที่ข้างหูหญิงสาว “ข้าชื่อซินเค่อซี แต่คนที่บ้านจะเรียกข้าว่าจิ่งซี ข้าบอก
“องค์รัชทายาทรู้ว่านายท่านพักที่นี่เลยแวะเข้ามาทักทายขอรับ” “ดีจริง ข้าจะไปหาเขาแต่ยังไปไม่ถึง เขากลับมาหาข้าเสียเอง เจ้าให้รัชทายาทรอที่ห้องด้านข้างสักครู่ กั้นฉากบังตาไว้ เดี๋ยวข้าออกไปทั้งอย่างนี้” ซินเค่อซีสั่งสั้นๆ แต่ไห่ต้ารับคำเข้าใจสิ่งที่เจ้านายบ้านตนต้องการทันที “ไปหาทั้งอย่างนี้ คืออะไร ปล่อยข้าลงนะ” เหอซีหลานได้สติจึงดิ้นหวังจะลงจากแขนแกร่งของเขา นางไม่ยินยอมที่จะมีสัมพันธ์ทางกายต่อสายตาผู้อื่น เรื่องเช่นนี้ต้องทำกันในที่ส่วนตัว การทำเช่นนี้ถือว่าไม่ให้เกียรตินางอย่างมาก “อย่าดิ้น” บุรุษดุ เขาปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อเปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจสิ่งที่สตรีร้องขอ เหอชุนหลานโมโหมาก ได้แต่ซุกหน้าอยู่ที่อกแกร่งของชายหนุ่ม ทั้งยังหลับตาเพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นใบหน้าของตน ดังนั้นนางจึงไม่รู้เลยว่าไห่ต้าให้คนมากางผ้าบดบังสายตาไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นเรียบร้อยแล้ว ซินเค่อซีเดินเข้าห้องด้านข้าง เมื่อเห็นเงาหลังฉากกั้นก็เอ่ยทักทายตามมรรยาท “ต้องขออภัยที่ต้อนรับเช่นนี้ รัชทายาทมาหากระหม่
“คุณคะ” เสียงเรียกรวมถึงร่างกายที่ถูกเขย่าเบาๆ ทำให้เหอชุนหลานฟื้นขึ้น ดวงตาคู่สวยมองรอบบริเวณ เห็นคนที่ถามเธอสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวที่ดูคุ้นตา “นี่ข้า เอ่อ ฉันกลับมาปัจจุบันแล้วสินะ” เธอพึมพำเสียงเบาจนผู้เรียกก็ไม่ได้ยิน “คุณคะ จำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” เมื่อถูกถามอีกครั้ง เหอชุนหลานจึงหันมองหน้าคนถาม “คุณพยาบาลคะ ฉันหลับไปกี่วัน วันนี้วันที่เท่าไหร่ปีอะไรหรือคะ” เธอถามน้ำเสียงแหบแห้ง “คุณสลบไปสามวัน วันนี้วันที่สิบเอ็ดเดือนสิบเอ็ดค่ะ” พยาบาลตอบก่อนตรวจประเมินอาการเบื้องต้นแล้วถามเหอชุนหลานอีกครั้ง “คุณจำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” “ฉันชื่อเหอชุนหลาน” “คุณเหอชุนหลานคะ เดี๋ยวฉันจะตามคุณหมอมาตรวจดูอาการนะคะ หากต้องการอะไรกดปุ่มสีแดงตรงหัวเตียงเรียกฉันได้” พยาบาลยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนออกนอกห้อง~~~~~~~~เรือนไม้ริมน้ำหลังเล็กใกล้ลำธารแห่งหนึ่ง คนของซินเค่อซีเดินทางมาถึงก็พบกับสตรีนางหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับเหอชุนหลานมาก พวกเขาเข้าใจว่าคือสตรีที่เจ้านายบ้านตนต้องการตามหาจึงพาตัวนางกลับจวนไป๋หลินจวนไป๋หลินซินเค่อซี
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั