“องค์รัชทายาทรู้ว่านายท่านพักที่นี่เลยแวะเข้ามาทักทายขอรับ”
“ดีจริง ข้าจะไปหาเขาแต่ยังไปไม่ถึง เขากลับมาหาข้าเสียเอง เจ้าให้รัชทายาทรอที่ห้องด้านข้างสักครู่ กั้นฉากบังตาไว้ เดี๋ยวข้าออกไปทั้งอย่างนี้” ซินเค่อซีสั่งสั้นๆ แต่ไห่ต้ารับคำเข้าใจสิ่งที่เจ้านายบ้านตนต้องการทันที
“ไปหาทั้งอย่างนี้ คืออะไร ปล่อยข้าลงนะ” เหอซีหลานได้สติจึงดิ้นหวังจะลงจากแขนแกร่งของเขา นางไม่ยินยอมที่จะมีสัมพันธ์ทางกายต่อสายตาผู้อื่น
เรื่องเช่นนี้ต้องทำกันในที่ส่วนตัว การทำเช่นนี้ถือว่าไม่ให้เกียรตินางอย่างมาก
“อย่าดิ้น” บุรุษดุ เขาปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อเปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจสิ่งที่สตรีร้องขอ
เหอชุนหลานโมโหมาก ได้แต่ซุกหน้าอยู่ที่อกแกร่งของชายหนุ่ม ทั้งยังหลับตาเพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นใบหน้าของตน
ดังนั้นนางจึงไม่รู้เลยว่าไห่ต้าให้คนมากางผ้าบดบังสายตาไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นเรียบร้อยแล้ว
ซินเค่อซีเดินเข้าห้องด้านข้าง เมื่อเห็นเงาหลังฉากกั้นก็เอ่ยทักทายตามมรรยาท “ต้องขออภัยที่ต้อนรับเช่นนี้ รัชทายาทมาหากระหม่อมตั้งแต่เช้า กระหม่อมจึงไม่มีเวลาเตรียมตัว”
กล่าวจบก็จับสะโพกสตรีกระแทกเข้าออกจนเกิดเสียงกระทบเนื้อดังทั่วทั้งห้อง
เหอชุนหลานได้แต่เม้มริมฝีปากไม่ให้ตนเองส่งเสียงครางออกมา
“โอ้ เสิงโหย่วอ๋องนี่ช่างหาความสุขให้กับตนเองได้ตั้งแต่เช้า ข้านี่อิจฉาเสียจริง” น้ำเสียงประหลาดใจของบุรุษหลังฉากกั้นดังขึ้น
“ใช่ กระหม่อมกำลังหาความสุขให้กับตนเอง ไม่ทราบว่ารัชทายาทมีธุระใดหรือไม่ รอกระหม่อมและคุณหนูเหอเสร็จสมอารมณ์หมายกันก่อน แล้วจะออกมาพูดคุยกับรัชทายาทอีกครั้ง”
“คุณหนูเหอหรือ” คู่สนทนาถามด้วยความตกใจ ลักษณะอาการของเขาเช่นนี้เป็นสิ่งที่ซินเค่อซีต้องการเห็นที่สุด
ซินเค่อซียกยิ้มมุมปาก เขาไม่เอ่ยตอบตรงๆ แต่ขยับบั้นเอวหนักและเร็วกว่าเดิมจนเหอชุนหลานกลั้นไม่ไหวครางเสียงหวานออกมา
“อื้อออ”
“เหอชิวจวี๋” รัชทายาทเมื่อได้ยินเสียงก็รีบถลามาทางฉากกั้น ก่อนที่เขาจะมาถึงซินเค่อซีก็อุ้มเหอชุนหลานกลับห้องด้านข้างไปแล้ว
แม้จะเดินอย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำให้รัชทายาททันมองเห็นใบหน้าด้านข้างของเหอชุนหลาน “จวี๋เอ๋อร์” บุรุษพูดเสียงเบา สีหน้าเริ่มเกรี้ยวกราดไม่พอใจ
เขาสาวเท้าไปหน้าห้องของซินเค่อซีแต่ก็ถูกไห่ต้ากับไห่ซานขวางเอาไว้ “องค์รัชทายาททรงอย่าบุ่มบ่าม อีกสักพักท่านอ๋องคงจะเสร็จ พระองค์รออีกสักครู่เถอะ”
ช่วงที่รัชทายาทคิดจะพังประตูเข้าไปนั้น เขาก็ได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อพร้อมทั้งเสียงครางหวานของสตรีที่คุ้นเคยดังออกมาต่อเนื่อง จึงตัดสินใจกลับไปรอที่ห้องรับรองด้านข้างด้วยความว้าวุ่นใจ
~~~~~~~~
“จิ่งซี เจ้ามันนิสัยไม่ดี อื้อ เสียว เจ้ามัน อื้อ เจ้ามันเลว อืม อืม” เหอชุนหลานบ่นบุรุษทั้งที่ร่องรักฉ่ำน้ำของนางถูกท่อนใหญ่ตอกใส่ไม่หยุด
“ตอนเช้าเจ้าอึดเกินไปแล้วนะ รีบๆ เสร็จสักที อื้อ อื้อ อื้อ” สตรีบ่น ร่างทั้งร่างเสียวซ่านจนจุกหวานชูยอดเต่งตึง การมีอะไรท่านี้ทำให้ปลายหัวหยักของชายหนุ่มกระแทกเข้าไปลึกมาก อาจจะถึงมดลูกของนางด้วยซ้ำ
ซินเค่อซีหัวเราะชอบใจ เขารู้สึกว่าโพรงรักที่ตอดรัดกำลังจะกระตุกในไม่ช้า จึงตอกแก่นกายใส่รัวๆ จนคนทั้งสองถึงฝั่งฝันในเวลาไล่เลี่ยกัน
“เจ้าชอบความตื่นเต้นสินะ เมื่อครู่ที่ข้าพาออกนอกห้อง เจ้าตอดข้าแรงมาก” บุรุษหยอกเย้าสตรี เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของอีกฝ่ายจึงปล่อยนางลงจากอ้อมแขน
“ไปใส่เสื้อผ้าเถอะ หรือจะอาบน้ำก่อนก็ได้ เจ้าตัวเลอะคราบของข้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” เขาหัวเราะชอบใจแล้วเดินไปสวมชุดของตน
ทั้งหมดนี้เซินเค่อซีพูดเสียงดัง เขาตั้งใจให้รัชทายาทได้ยิน แต่ถ้าไม่ได้ยินก็ไม่เป็นไร
ส่วนรัชทายาทนั้น เขาได้ยินทุกประโยคที่หนุ่มสาวพูดคุยกัน
~~~~~~~~
“ทำให้รัชทายาทรอเสียนาน” ซินเค่อซีเข้าไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของแขกที่มาเยือน “พอดีกระหม่อมต้องปลดปล่อยให้หมดเสียก่อน มิเช่นนั้นจะปวดจนไม่มีอารมณ์อยากทำงาน รัชทายาทก็เป็นผู้ชาย คงจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี”
“อืม” รัชทายาทรับคำ เขาจ้องมองซินเค่อซีราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “แล้วแม่นางเหอผู้นั้นล่ะ”
“นางกำลังอาบน้ำอยู่และต้องกินอาหารเช้าต่อ คงมาพบรัชทายาทไม่ได้” ซินเค่อซีตอบ มือหนารินน้ำชาใส่ถ้วยชาบนโต๊ะแล้วยกขึ้นจิบโดยไม่รินให้อีกฝ่าย
“ใช่เหอชิวจวี๋หรือไม่” รัชทายาทจับถ้วยชาของตนแล้วบีบไว้แน่น ตอนนี้เขาอยากจะชกบุรุษตรงหน้ามาก แต่ยังต้องเก็บอาการไว้
ถึงจะแน่ใจว่าสตรีที่ซินเค่อซีอยู่ด้วยคือเหอชิวจวี๋คู่หมั้นของตน แต่การที่นางอยู่กับอีกฝ่ายนั้น เขาก็ไม่มั่นใจว่านางเต็มใจหรือถูกบังคับ แต่จากที่ฟังเสียงคราง สตรีไม่มีทีท่าว่าถูกบังคับขืนใจเลยแม้แต่น้อย
“แล้วแต่พระองค์จะคิด ไม่ทราบว่ารัชทายาทเดินทางมาหากระหม่อมตั้งไกล มีธุระแค่นี้หรือ” ซินเค่อซีลอบยิ้มมุมปากไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้
รัชทายาทได้ยินก็ปั้นหน้านิ่ง เขาทำท่าทางเคร่งขรึมก่อนเอ่ย “ข้ามาพูดเรื่องการช่วยเหลืออุทกภัยที่ซีซาน ต้องการหาแรงงานมาช่วยซ่อมแซมเพิ่ม และหางบประมาณสนับสนุนหลังฟื้นฟูเสร็จ”
รัชทายาทกล่าวจบก็ยังเห็นซินเค่อซีนั่งเงียบไม่ไหวติง เขาจึงเอ่ยต่อ “ ข้าผิดเองที่เคยแย่งคู่หมั้นเจ้าและเป็นต้นเหตุทำให้นางเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต แต่เรื่องอุทกภัยครั้งนี้ร้ายแรงมาก อาศัยแค่คนของข้าและที่ฝ่าบาทรับสั่งมาก็ยังไม่เพียงพอ มีแค่เสิงโหย่วอ๋องที่สามารถช่วยได้ อ่อ อีกอย่างเจ้าก็ได้คู่หมั้นข้าเหอชิวจวี๋ไปแล้ว บางเรื่องก็ต้องวางความโกรธแค้นได้แล้ว”
“รัชทายาทอย่าตรัสเช่นนี้ ตั้งแต่ยังเล็กอะไรที่กระหม่อมชอบ พระองค์ก็จะแย่งไปเป็นของตัวเองหมด ตอนนี้กระหม่อมได้คุณหนูเหอมาครอบครองโดยที่นางเต็มใจ เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับพระองค์ ส่วนเรื่องช่วยเหลือผู้ประสบภัย กระหม่อมจะส่งคนไปช่วยแน่นอน”
“เรื่องเป็นอย่างนี้สินะ” เหอชุนหลานที่แอบยืนฟังหน้าห้องได้ยินสิ่งที่บุรุษทั้งสองพูดคุยกันชัดเจน “หากเอาข้าไปเป็นหมากใช้แกล้งองค์รัชทายาท ชาตินี้เขาก็คงไม่ปล่อยข้าเป็นอิสระแน่นอน อีกอย่าง ถ้าเจอตัวเหอชิวจวี๋...” สตรีเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนแสดงสีหน้าหม่นหมอง
“ข้ามีทรัพย์สินและเงินทองพอสมควรแล้ว รีบไปให้ไกลจากเขาดีกว่า”
~~~~~~~~
ระหว่างที่คนอื่นสนใจอยู่กับซินเค่อซีและรัชทายาท เหอชุนหลานก็เก็บข้าวของส่วนตัวแล้วออกไปจากโรงเตี๊ยมอย่างเงียบๆ โดยไม่มีผู้ใดรู้
นางเดินไปที่ตลาดแล้วถามเส้นทางออกนอกเมือง ซึ่งเส้นทางนอกเมืองในเวลานี้มีผู้อพยพเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากเมืองซีซาน เมื่อเหอชุนหลานผ่านเส้นทางดังกล่าวจึงต้องหลบเลี่ยงผู้คนเพื่อขึ้นภูเขาข้ามไปเมืองใกล้เคียง
ช่วงที่เป็นทางเดินริมหน้าผา เหอชุนหลานเดินเบี่ยงไปที่ข้างทางเดินริมขอบเหว เพราะว่าบริเวณนี้เล็กแคบแต่ผู้สัญจรเบียดเสียดจนแน่น
“คนเยอะขนาดนี้แทรกไปไม่ไหวแน่” สตรีมองผู้คนบนถนนก่อนเอียงหน้ามองเหวใกล้ตัว เหวนี้นอกจากจะลึก ด้านล่างยังเป็นแม่น้ำสายใหญ่ น้ำในแม่น้ำเป็นสีโคลนและไหลแรงเพราะมีน้ำป่าทะลักมารวมกับแม่น้ำนี้ต่อเนื่อง
ขณะที่เหอชุนหลานเอียงหน้ามองอยู่นั้น ก็มีชายหญิงคู่หนึ่งพยายามแทรกตัวฝ่าฝูงชนเพื่อต้องการไปเร็วขึ้น ทำให้ผู้คนที่ถูกเบียดทรงตัวไม่อยู่ เดินเซแล้วกระแทกเหอชุนหลานด้วยความแรง คนผู้นั้นล้มลงอยู่ที่พื้นดิน แต่เหอชุนหลานที่ถูกกระแทกกลับกระเด็นตกหน้าผาลงไปในแม่น้ำท่ามกลางความตกใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์
“กรี๊ด” เหอชุนหลานร้องตกใจเสียงดัง เมื่อร่างบางกระทบน้ำ นางก็หมดสติทันที
“มีคนตกเหวๆ” เสียงผู้อพยพดังขึ้นเซ็งแซ่ แต่เนื่องจากเป็นเหวลึก ทั้งด้านล่างเป็นแม่น้ำที่น้ำเชี่ยวกราก จึงไม่มีผู้ใดกล้าลงไปช่วย
“เปิดทางๆ ใครตกน้ำ” ไห่ซานที่ตามมาหลังจากรู้ว่าเหอชุนหลานหายตัวไปส่งเสียงถามอย่างดุดัน
“สตรีผู้หนึ่ง นางแต่งกายไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป แต่คล้ายกับคุณหนูตระกูลใหญ่ ถือห่อผ้าสีครามลายดอกโบตั๋น” เด็กชายคนหนึ่งที่มองเหอชุนหลานตั้งแต่แรกเห็นรีบอธิบายทันที
“คุณหนูเหอ” ไห่ซานอุทานด้วยความตกใจ เขามองไปเบื้องล่างก่อนหาทางลงด้วยความรวดเร็ว
~~~~~~~~
“อะไรนะ หาตัวไม่พบ” ซินเค่อซีพูดเสียงสั่นเครือเมื่อได้ยินข่าวของเหอชุนหลาน อุทกภัยที่เมืองซีซานทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลลงสู่แม่น้ำสายต่างๆ นอกจากนั้นยังมีดินโคลน ท่อนซุงและกิ่งไม้ที่มาตามน้ำจำนวนมาก เหอชุนหลานเป็นสตรีตัวเล็ก เมื่อตกน้ำคงถูกสายน้ำพัดพาไปไกล ความหวังที่จะมีชีวิตรอดริบหรี่ยิ่งนัก
“ไม่ว่านางจะรอดหรือจะตาย ก็ต้องหาตัวให้พบ” เขาออกคำสั่งโดยไม่มองหน้าผู้ใด
“แต่นายท่าน เกรงว่าในน้ำน่าจะมีร่างของคนที่หนีไม่ทันถูกน้ำพัดพาเป็นจำนวนมาก หากหลายวันกว่าจะพบคงแยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร” ไห่ต้ากล่าวเตือนสติอีกฝ่าย
“ข้าสั่งอย่างไรพวกเจ้าก็ไปทำตามนั้น” ซินเค่อซีทุบโต๊ะก่อนที่จะสั่งสุรามาดื่มเพื่อคลายกังวล
“คุณคะ” เสียงเรียกรวมถึงร่างกายที่ถูกเขย่าเบาๆ ทำให้เหอชุนหลานฟื้นขึ้น ดวงตาคู่สวยมองรอบบริเวณ เห็นคนที่ถามเธอสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวที่ดูคุ้นตา “นี่ข้า เอ่อ ฉันกลับมาปัจจุบันแล้วสินะ” เธอพึมพำเสียงเบาจนผู้เรียกก็ไม่ได้ยิน “คุณคะ จำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” เมื่อถูกถามอีกครั้ง เหอชุนหลานจึงหันมองหน้าคนถาม “คุณพยาบาลคะ ฉันหลับไปกี่วัน วันนี้วันที่เท่าไหร่ปีอะไรหรือคะ” เธอถามน้ำเสียงแหบแห้ง “คุณสลบไปสามวัน วันนี้วันที่สิบเอ็ดเดือนสิบเอ็ดค่ะ” พยาบาลตอบก่อนตรวจประเมินอาการเบื้องต้นแล้วถามเหอชุนหลานอีกครั้ง “คุณจำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” “ฉันชื่อเหอชุนหลาน” “คุณเหอชุนหลานคะ เดี๋ยวฉันจะตามคุณหมอมาตรวจดูอาการนะคะ หากต้องการอะไรกดปุ่มสีแดงตรงหัวเตียงเรียกฉันได้” พยาบาลยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนออกนอกห้อง~~~~~~~~เรือนไม้ริมน้ำหลังเล็กใกล้ลำธารแห่งหนึ่ง คนของซินเค่อซีเดินทางมาถึงก็พบกับสตรีนางหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับเหอชุนหลานมาก พวกเขาเข้าใจว่าคือสตรีที่เจ้านายบ้านตนต้องการตามหาจึงพาตัวนางกลับจวนไป๋หลินจวนไป๋หลินซินเค่อซี
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั