“เจ้ามันพวกอันธพาล” เหอชุนหลานบ่นอุบก่อนเดินเข้าไปใกล้กับเตียง ดวงตางามกวาดมองเผื่อจะมีพวกตั่งยาวที่พอจะให้ตัวเองนอนได้
“ข้าจะนอนบนพื้น” สตรีพูดเมื่อไม่เห็นสิ่งที่หวัง “อยู่เตียงเดียวกับเจ้าคงไม่ได้นอน”
“จะนอนบนพื้นให้ปวดหลังทำไม มานี่” บุรุษออกคำสั่งเสียงเข้ม เขาลุกจากเตียงเดินมาฉุดแขนเหอชุนหลานให้ไปที่เตียงกับเขา
“ใส่ชุดที่เจ้าตัดเย็บให้ข้าดูหน่อย” เขาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นนุ่มนวลชวนขนลุกแทน
เหอชุนหลานกรอกตาพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ข้าจะเอาไว้ขาย ไม่ได้เอามาใส่เล่น”
“เช่นนั้นข้าซื้อ เจ้าใส่ให้ข้าดูจะเพิ่มราคาให้”
“ข้าขอเพิ่มอีกอย่าง เจ้าตกลงชื่อแซ่อะไรกันแน่” เหอชุนหลานถาม นางรู้ว่าคนสมัยนี้มีหลายชื่อ จิ่งซีเป็นเพียงชื่อที่คนในครอบครัวและคนสนิทเรียกเท่านั้น นางจึงไม่เคยรู้ชื่อที่ผู้คนทั่วไปใช้เรียกเขาเลย
ถ้ารู้ ต่อไปเมื่อได้ยินคนนินทาถึงเขาจะได้หยุดฟังได้
บุรุษยกยิ้มมุมปาก มือหนาคว้าร่างให้ล้มนั่งบนตักของตน ริมฝีปากจ่อที่ข้างหูหญิงสาว “ข้าชื่อซินเค่อซี แต่คนที่บ้านจะเรียกข้าว่าจิ่งซี ข้าบอกเจ้าแล้ว ทีนี้ก็ถึงตาที่เจ้าเปลี่ยนชุดได้” พูดจบเขาก็หยิบชุดนอนสายดี่ยวสีแดงสดจับยัดใส่มือของอีกฝ่าย
เหอชุนหลานมุ่ยหน้า หากปฏิเสธอีกคงถูกเขาจับใส่เสื้อผ้าด้วยตนเอง มิสู้นางยอมใส่ดีๆ น่าจะเหนื่อยน้อยกว่า
สตรีเดินไปหลังฉากไม่นานนัก ร่างอรชรก็เดินออกมาอวดโฉมแก่บุรุษ ไหล่มน แขนเรียวเล็ก เนินอกอวบอิ่ม เอวบาง ขาอ่อนเรียวสวยจนบุรุษอยากจับขาคู่นั้นมาพาดบ่าของตน
“งดงามมาก ชุดแบบนี้ต้องขายดีแน่นอน” ซินเค่อซีรีบลุกจากเตียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาอุ้มเรือนร่างอวบอิ่มเข้าอ้อมแขนแล้วอุ้มกลับเตียงโดยไม่รีรอ
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงเข้าใกล้ใบหน้างามของหญิงสาว เขาขยับจมูกของตนให้ชนกับจมูกของอีกฝ่าย จากนั้นจึงส่งริมฝีปากของตนประกบกับริมฝีปากสีแดงอิงถาว จากนั้นก็เผยอริมฝีปากงับและดูดริมฝีปากอีกฝ่ายด้วยความเพลิดเพลิน
เหอชุนหลานเมื่อถูกงับริมฝีปากหลายครั้ง นางจึงอ้าริมฝีปากเพื่อที่จะดูดตอบ ทว่าเมื่อนางแง้มริมฝีปากออก ก็ถูกลิ้นร้อนรุกล้ำเข้ามาภายใน
หญิงสาวตกใจที่ถูกจูบแบบลิ้นแลกลิ้น แต่เมื่อตั้งสติได้ก็จูบตอบตามที่เขานำทาง ลิ้นเกี่ยวลิ้น สลับดูดจนสติพร่าเลือน
ในขณะเดียวกัน นิ้วยาวเรียวของซินเค่อซีที่ลูบอยู่แถวไหล่ขาวเนียนก็เกี่ยวสายเดี่ยวให้หล่นลงมา ชุดนอนวาบหวิวจึงลงมากองอยู่ที่เอวบางแทน
มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นมาจับเต้านมนุ่มแทบจะทันที ส่วนขาแกร่งของบุรุษถูกนำมาแทรกกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้างของหญิงสาว
การถูกเล้าโลมเช่นนี้ทำให้เหอชุนหลานกางขาออกกว้างโดยไม่รู้ตัว ซินเค่อซีรับรู้ถึงอาการของหญิงสาว เขาถอนปากออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม ย้ายจมูกและปากมาซุกที่หน้าอกอวบพร้อมกับดูดยอดถันสองข้างเล่นชั่วครู่จึงเปลี่ยนมาตรงใจกลางเนินเนื้อที่มีไรขนปกคลุมบางเบา
นี่เป็นครั้งแรกที่ซินเค่อซีได้พินิจมองความงามยั่วยวนของสตรี ปกติเขาแค่จับแก่นกายใส่ร่องรักแล้วปลดปล่อยความต้องการโดยไม่เคยสนใจเลยสักครั้ง เหอชุนหลานเป็นสตรีคนแรกคนเดียวที่เขายินดีจะปรนนิบัติให้นางไปถึงฝั่งฝันพร้อมกันกับเขา
“อื้ม” สตรีส่งเสียงเบาๆ ออกมาเมื่อถูกปลายลิ้นร้อนสัมผัสที่กลีบเนื้อนุ่ม นางยกสะโพกลอยสูงขึ้นเมื่อมือแกร่งของบุรุษมาวนเวียนแถวโคนขาหนีบของตน
ซินเค่อซีไม่รีบร้อน เขาค่อยๆ เลื่อนลิ้นร้อนลากไปตามกลีบนุ่มทั้งซ้ายและขวา ปากก็อ้าแล้วงับให้ริมฝีปากสัมผัสเกสรงามที่เริ่มชูชันขึ้นมา
น้ำขาวใสเริ่มหลั่งออกมาจากปากโพรงรักเป็นจำนวนมาก บุรุษไม่รอช้า ดูดเลียน้ำหวานจนหมด
ยิ่งเขาโลมเลียอยู่แถวปากโพรงรัก เหอชุนหลานก็ยิ่งส่งเสียงครางหวานต่อเนื่องไม่หยุด
“อ้า จิ่งซี ข้าเสียวจังเลย” สตรีร้องบอกบุรุษ ตอนนี้ร่องรักของนางชุ่มฉ่ำพร้อมสำหรับการสอดใส่ของเขาแล้ว
แต่แทนที่เขาจะหยุด เขากลับเร่งจังหวะดูดและขบเม้ม ไม่นานนักร่างบางก็เกร็งกระตุก น้ำหวานใสหลั่งออกมาเพิ่มจนเลอะหน้าขาของสตรี
เห็นสตรีเสร็จสมไปแล้ว ซินเค่อซีก็ขยับร่างกายของตน มือหนาจับต้นขาสตรีกางออกกว้างจนเห็นปากทางรัก จากนั้นเขาก็จับท่อนเอ็นแกร่งของตนที่ขยายตัวเต็มที่จ่อที่ปากทางนั้นแล้วขยับสะโพกสองครั้งจนดันเอ็นแกร่งเขาไปจนมิด
“อืม คับแน่นเหมือนเดิม” เขาพูดด้วยความพึงพอใจ เอวสอบเริ่มขยับเข้าออกทันทีตามสัญชาตญาณ
“อืม” เหอชุนหลานส่งเสียงออกมาแทบจะพร้อมกับเขา ส่วนล่างของนางรู้สึกแน่นและเสียว โพรงนุ่มขมิบรัดราวกับต้องการกลืนกินท่อนเอ็นและดูดเอาน้ำรักของอีกฝ่ายออกมาจนหมด
“ดีมาก ครางชื่อข้าสิ” ซินเค่อซีสั่งหญิงสาว ดวงตาคมของเขามองใบหน้าสตรีที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
งดงาม ยั่วยวน ชวนให้เขาหลงใหลอยากจับนางตอกแบบนี้ทั้งคืน
เหอชุนหลานที่ร่างกายรู้สึกเบาหวิว ทั้งยังรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อโบยบินไปมาในท้องน้อย ทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย “จิ่งซี จิ่งซี ข้าชอบแบบนี้จังเลย” สตรีพูดพร้อมกับยกมือเรียวมาขยำเต้านมตัวเองเพื่อระบายความเสียว
ซินเค่อซียิ้มชอบใจ เขาก้มหน้าลงจุมพิตนางทั้งที่เอวสอบยังคงขยับส่งท่อนเอ็นผลุบเข้าออกไม่หยุด
เมื่อร่องรักตอดรัดมากยิ่งขึ้น เขาก็ยิ่งเร่งความเร็ว ทั้งกระทุ้งหนักๆ เพียงไม่กี่ครั้งสตรีใต้ร่างก็ร้องเสียงดังและเกร็งอีกครั้ง ก่อนปรือตาที่หวานฉ่ำมองหน้าชายหนุ่ม
สายตาเช่นนี้ทำให้ซินเค่อซีถึงฝั่งและแตกในออกมามากจนน้ำขาวข้นล้นออกจากโพรงรักของหญิงสาว
“หลังจากนี้ไม่ต้องกินยาแล้วนะ” เขาบอกสตรี แต่เห็นนางค่อยๆ หลับตาไม่ตอบรับคำพูดของเขา
“อะไรกัน หลับแล้วหรือ” ซินเค่อซีจับแก้มอีกฝ่ายเบาๆ เมื่อเห็นว่านางเพลียจนหลับเขาจึงล้มลงนอนด้านข้างแล้วคว้าร่างบางมานอนกอดทั้งคืน
หากเป็นเขาในอดีต แม้สตรีจะหลับหรือสลบ เขาก็สามารถทำต่อได้อีกหลายยกจนกว่าตัวเองจะอิ่มหนำสำราญ
~~~~~~~~
เมื่อแสงสว่างลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เหอชุนหลานก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น ดวงตาหวานเห็นใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษที่คุ้นเคยอยู่ใกล้หน้าของตน แถมทั้งร่างยังถูกแขนแกร่งของเขารวบเอาไว้จนขยับแทบไม่ได้ นางจึงพยายามยกแขนของเขาขึ้นโดยที่ไม่รบกวนให้เขาตื่น
“ตื่นแล้วหรือ” ซินเค่อซีลืมตามองหญิงสาว เมื่อเขาคลายแขนของตน ก็เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของนางอีกครั้ง
ร่างแกร่งจับสตรีนอนหงายอีกครั้งในทันที ริมฝีปากบางก้มลงทักทายจุกหวานทั้งสองข้างโดยเหอชุนหลานไม่ทันตั้งตัว
“นี่มันเช้าแล้วนะ” สตรีหน้ามุ่ย นางเริ่มหิวเล็กน้อย กะว่าจะอาบน้ำชำระร่างกายแล้วไปหาของกิน กลับถูกจับตัวแล้ววุ่นวายแถวจุดเสียวอีกครั้ง
ซินเค่อซีไม่สนใจเสียงบ่นของนาง เขาดูดเม้มยอดถันสีกุหลาบจากจุกเล็กจนขยายเป็นจุกใหญ่ภายในเวลาไม่นาน
มือหนาลูบวนแถวกลีบดอกไม้ด้านล่าง เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มแฉะ เขาก็ส่งสองนิ้วแหย่เข้าโพรงรักแล้วขยับเข้าออกตามความเคยชิน
เจอการรุกเร้าแต่เช้า ความหิวของเหอชุนหลานก็ถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน บุรุษเริ่มกล่าวโทษให้นางฟัง
“เมื่อคืนข้ายังไม่ทันอิ่มเจ้าก็ชิงหลับไปก่อน เช้านี้ขอสักน้ำแล้วค่อยไปกินข้าว” เขาขยับนิ้วเร็วขึ้นจนโพรงรักกระตุกรัดนิ้วของเขา น้ำหวานใสแรกของวันหลั่งออกมา
ส่วนมือหนาอีกข้างจับท่อนเอ็นของตนรูดขึ้นลงไปมาจนขยายเต็มที่ จากนั้นก็ยัดเข้าไปแทนนิ้วมือนั้น
ปัก! ครั้งนี้เขาตอกเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว สตรีไม่ทันตั้งตัวร้องครางออกมาทันที “อ่า”
“หิวใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะทำเร็วๆ” เมื่อบุรุษกล่าวจบก็มีเสียงเรียกจากหน้าห้อง
“นายท่านๆ” ไห่ต้าร้องเรียก เขาได้ยินเสียงครางหวาวนของเหอชุนหลานที่ดังออกนอกห้องจึงไม่กล้าเคาะประตูเสียงดัง
ซินเค่อซีชำเลืองมองที่ประตู เขาดึงร่างบางขึ้นจากเตียงแล้วจับนางอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง จากนั้นก็พานางเดินไปกระแทกร่องรักไปจนถึงหน้าประตู
“มีอะไร” เขาถามทั้งที่เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังคงดังรบกวน
“องค์รัชทายาทรู้ว่านายท่านพักที่นี่เลยแวะเข้ามาทักทายขอรับ” “ดีจริง ข้าจะไปหาเขาแต่ยังไปไม่ถึง เขากลับมาหาข้าเสียเอง เจ้าให้รัชทายาทรอที่ห้องด้านข้างสักครู่ กั้นฉากบังตาไว้ เดี๋ยวข้าออกไปทั้งอย่างนี้” ซินเค่อซีสั่งสั้นๆ แต่ไห่ต้ารับคำเข้าใจสิ่งที่เจ้านายบ้านตนต้องการทันที “ไปหาทั้งอย่างนี้ คืออะไร ปล่อยข้าลงนะ” เหอซีหลานได้สติจึงดิ้นหวังจะลงจากแขนแกร่งของเขา นางไม่ยินยอมที่จะมีสัมพันธ์ทางกายต่อสายตาผู้อื่น เรื่องเช่นนี้ต้องทำกันในที่ส่วนตัว การทำเช่นนี้ถือว่าไม่ให้เกียรตินางอย่างมาก “อย่าดิ้น” บุรุษดุ เขาปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อเปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจสิ่งที่สตรีร้องขอ เหอชุนหลานโมโหมาก ได้แต่ซุกหน้าอยู่ที่อกแกร่งของชายหนุ่ม ทั้งยังหลับตาเพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นใบหน้าของตน ดังนั้นนางจึงไม่รู้เลยว่าไห่ต้าให้คนมากางผ้าบดบังสายตาไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นเรียบร้อยแล้ว ซินเค่อซีเดินเข้าห้องด้านข้าง เมื่อเห็นเงาหลังฉากกั้นก็เอ่ยทักทายตามมรรยาท “ต้องขออภัยที่ต้อนรับเช่นนี้ รัชทายาทมาหากระหม่
“คุณคะ” เสียงเรียกรวมถึงร่างกายที่ถูกเขย่าเบาๆ ทำให้เหอชุนหลานฟื้นขึ้น ดวงตาคู่สวยมองรอบบริเวณ เห็นคนที่ถามเธอสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวที่ดูคุ้นตา “นี่ข้า เอ่อ ฉันกลับมาปัจจุบันแล้วสินะ” เธอพึมพำเสียงเบาจนผู้เรียกก็ไม่ได้ยิน “คุณคะ จำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” เมื่อถูกถามอีกครั้ง เหอชุนหลานจึงหันมองหน้าคนถาม “คุณพยาบาลคะ ฉันหลับไปกี่วัน วันนี้วันที่เท่าไหร่ปีอะไรหรือคะ” เธอถามน้ำเสียงแหบแห้ง “คุณสลบไปสามวัน วันนี้วันที่สิบเอ็ดเดือนสิบเอ็ดค่ะ” พยาบาลตอบก่อนตรวจประเมินอาการเบื้องต้นแล้วถามเหอชุนหลานอีกครั้ง “คุณจำชื่อตัวเองได้หรือเปล่าคะ” “ฉันชื่อเหอชุนหลาน” “คุณเหอชุนหลานคะ เดี๋ยวฉันจะตามคุณหมอมาตรวจดูอาการนะคะ หากต้องการอะไรกดปุ่มสีแดงตรงหัวเตียงเรียกฉันได้” พยาบาลยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนออกนอกห้อง~~~~~~~~เรือนไม้ริมน้ำหลังเล็กใกล้ลำธารแห่งหนึ่ง คนของซินเค่อซีเดินทางมาถึงก็พบกับสตรีนางหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับเหอชุนหลานมาก พวกเขาเข้าใจว่าคือสตรีที่เจ้านายบ้านตนต้องการตามหาจึงพาตัวนางกลับจวนไป๋หลินจวนไป๋หลินซินเค่อซี
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ
“เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้” รัชทายาทที่เข้ามาดูศพซินเค่อซีนั่งจ้องมองใบหน้าซีดเผือกของบุรุษที่นอนบนเตียงพูดเสียงเบา‘เจ้านั่นแหละจะมานั่งจ้องข้าเช่นนี้ทำไม’ ซินเค่อซีบ่นในใจ เขาแกล้งนอนตายกลั้นลมหายใจมาหนึ่งเค่อ (สิบห้านาที) แล้ว รัชทายาทเจ้าปัญหาก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนหากยังนั่งต่ออีกหนึ่งก้านธูปหรือหนึ่งชั่วยามความต้องแตกแน่นอน“เฮ้อ ข้าจะส่งเหอชิวจวี๋ไปเฝ้าสุสานเจ้าดีหรือไม่” รัชทายาทนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นมาเท้าต้นขาแล้วส่งเสียงครุ่นคิด‘เฝ้าสุสานเจ้าน่ะสิ’ ซินเค่อซีโต้เถียงในใจ“นางเป็นของเจ้าแล้ว ข้าคงไม่เอานางมาดูแลต่อหรอก” รัชทายาทยังคงพูดไปเรื่อยๆ ไม่สังเกตร่างที่แกล้งไร้วิญญาณ‘นางยังไม่ได้เป็นของข้า เจ้าอยากเอาก็เอาไปสิ’ คิ้วของซินเค่อซีเริ่มขมวดเป็นปมจนไห่ซานสังเกตเห็น เขารีบกระแอมเตือนเสียงดัง“เอ่อ องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมของพวกเราแล้ว ต้องนำร่างของท่านอ๋องไปฝังที่เมืองเกิดภายในสามวันขอรับ หากไปช้าเดี๋ยวจะไม่ทัน”“งั้นหรือ ข้าไปด้วยละกัน” รัชทายาทหนุ่มลุกขึ้นหมายจะร่วมเดินทางเพื่อไปทำพิธีที่สุสาน“ไม่ต้องพะย่ะค่ะ ขบวนต้องการความเงียบเพื่อส่งผู้วายชนม์ไปสรวงสวรรค์” ไห่ต้าอธิบ
ในช่วงที่กลับมาอยู่ในยุคอดีตอีกครั้ง เหอชุนหลานก็ทยอยไปเอาเสื้อผ้าในกระสอบมาแอบขายที่ตลาดกลางคืน นางไม่รู้ว่าแคว้นเป่ยจ้านมีกฎหมายหรือข้อห้ามอะไรบ้าง จึงต้องทำลับๆ ล่อๆ ในช่วงแรก“ชุดของแม่นางเหอใส่ดีมาก ทำเอาสามีข้าขยันขึ้นเตียงทุกคืนเลย” เสียงชมของลูกค้าทำให้เหอชุนหลานดีใจจนตัวแทบลอย“แม่นางเหอน่าจะเอาชุดไปลองขายให้เสิงโหย่วอ๋องดูนะ อาจจะร่ำรวยจนตั้งตัวได้เลยทีเดียว”เหอชุนหลานยิ้มแหย ที่มีตอนนี้ก็ตั้งตัวได้อยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่กล้าไปเอาออกมาก็เท่านั้น“ข้าจะลองพิจารณาดู” เหอชุนหลานตอบก่อนที่จะเก็บร้านพรุ่งนี้ขบวนของซินเค่อซีต้องผ่านถนนใหญ่ด้านหน้าตลาดกลางคืน ทหารของเสิงโหย่วอ๋องจึงมาเดินตรวจตราตั้งแต่วันนี้~~~~~~~~“ข้าจะตายที่ไหน ตายอย่างไรดี” ซินเค่อซีนั่งรถม้าวนไปเวียนมา เพราะเขามัวแต่คิดถึงเหอชุนหลาน จนลืมคิดว่าแผนการของตนเองต้องมีรายละเอียดอย่างไร“จะตายที่ไหนก็ตายได้ คนที่มีดวงจะตาย เดินสะดุดเปลือกกล้วยก็ตายได้” ไห่ต้าได้ฟังก็พูดตอบออกมาอย่างลืมตัว“หุบปากไปซะ” ซินเค่อซีส่งเสียงตะคอกออกมาจากรถม้า “จอดรถ” เขาส่งเสียงดังในเวลาไล่เลี่ยกันจนรถม้าต้องหยุดอย่างกะทันหันเรือนกาย
หลังจากออกจากวังหลวง ซินเค่อซีก็สั่งให้รถม้าไปยังหอเทียบสวรรค์ หอเทียบสวรรค์นี้เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารสำคัญทั้งยุทธภพ ข้อมูลการบริหารปกครองของทุกๆ แคว้นในดินแดนซีเป่ย ทั้งยังมีกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาสมดุลอำนาจระหว่างแต่ละราชวงศ์และยุทธภพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของหอเทียบสวรรค์จึงมีฐานะสูงส่ง แม้แต่ฮ่องเต้ของแต่ละแคว้นและประมุขยุทธภพต่างก็เกรงใจจนถึงขั้นเกรงกลัวไม่อยากมีปัญหาด้วย“หอเทียบสวรรค์ที่เป่ยจ้านก็มั่นคงแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านจริงๆ เสียที”ซินเค่อซีพูดพลางทอดถอนหายใจ เดิมเขาแค่อยากแกล้งรัชทายาทที่มักสร้างปัญหาให้เขาตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือ คู่หมั้นคนแรกของเขาถูกองค์รัชทายาทแย่งตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางไม่ดีจนนางตกน้ำเสียชีวิต เขาจึงพยายามเอาคืนองค์รัชทายาท จนถึงขั้นจะแย่งเหอชิวจวี๋และพาไปด้วยกันกับเขาแต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาจับผิดคนจนมีความสัมพันธ์กับเหอชุนหลาน แผนการอื่นของเขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขายังอยากอยู่ที่แคว้นเป่ยจ้านตามหาเหอชุนหลานที่หายตัวไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้าคาดหวั