Share

ตอนที่31

เมื่อพิกุลรู้ว่าภูผาถูกหมามุ่ยมาจึงให้เขาถอดเสื้อผ้าออกให้หมดใส่แต่ผ้าขาวม้าผูกเอวเอาไว้แล้วนั่งที่แคร่ใต้ถุนบ้านแล้วจึงใช้เทียนขี้ผึ้งลนไฟจนอ่อนคลึงไปตามเนื้อตัวเพื่อให้ขนหมามุ่ยนั้นหลุดออกจากผิวหนัง

“อีกเดี๋ยวก็จะเบาแล้วล่ะ”พิกุลใช้เทียนคลึงตามเนื้อตัวหลานเขยพร้อมกับผ้าแพรโดยพิกุลคลึงด้านหลังและผ้าแพรนั้นจัดการคลึงที่แผงอกด้านหน้า

“ดีนะที่ยังรู้ตัวทันไม่งั้นคงเกาเป็นลิงล่ะทีนี้” พิกุลพูดไปอมยิ้มไปสงสารหลานก็สงสารแต่ก็ยังรู้สึกขบขันที่ภูผานั้นไม่ระวังจนเจอพิษของหมามุ่ยจนได้

“เอ..ย่าว่าโดนที่ตัวแต่ทำไมแดงที่หน้าล่ะ” สายทองยืนมองหลานเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วรู้สึกว่าหน้าของหลานเธอจะแดงเป็นพิเศษทั้งที่ไม่ใช่จะถูกหมามุ่ยคงจะเป็นพิษความเขินคนที่ก้มๆเงยๆตรงหน้ามากกว่า

“ที่หน้าก็โดนหมามุ่ยเหมือนกันเหรอคะ” ใบหน้านวลได้ยินสายทองว่าเช่นนั้นจึงหยุดมือจากการคลึงเทียนขี้ผึ้งบนหน้าอกของภูผาและเงยหน้ามาจับจ้องผิวหน้าของภูผาใกล้ๆจนคนตัวโตเบนหน้าหนี

“อ๋อ..เปล่าไม่มีอะไรหรอก” ภูผาเอ่ยเสียงเรียบทั้งเพ่งมองไปยังต้นไม้ต้นหญ้าใกล้ๆที่ไม่ใช่ใบหน้าหวานของหญิงสาว

“จะว่าไปมันก็แดงอย่างที่คุณย่าว่าจริงๆนะคะ” มือน้อยวางก้อนเทียนขี้ผึ้งและจับคางใบหน้าคมพร้อมขมวดคิ้วเพ่งดูใกล้ๆไม่ใช่แค่หน้าของภูผาแต่รวมถึงหูด้วยที่แดง

“ไม่มีอะไรหรอกน่า..เอ้านี่ทำๆซะจะได้หายคันซะที” มือหนาของคนถูกพิษหมามุ่ยรีบดึงมือทั้งสองของหญิงสาวออกและจับเทียนขี้ผึ้งที่หญิงสาววางเอาไว้ใส่มือน้อยของเธอเช่นเดิมเพื่อให้เธอนั้นจัดการกับตัวเขาต่อ

สามวันต่อมา

วันนี้ทั้งสี่มาที่แม่อายกันอีกครั้งเพื่อมาดูเรือนรับรองที่ทำเสร็จตามที่ธีรดลคิดเอาไว้พอดี

เมื่อธีรดลและภูผาตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรต้องแก้จึงค่อนข้างที่จะสบายใจที่งานนั้นดำเนินจนเสร็จเรียบร้อยไปแล้วหนึ่งส่วนตอนนี้ก็เหลือแค่สร้างในส่วนบ้านพักแต่ละหลังให้เสร็จเท่านั้นก็จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างของรีสอร์ทขึ้นมาแล้ว

“คุณแพรครับพอดีมีคนมาส่งของต้องการให้เซ็นรับอยู่ทางห้องข้างหลังน่ะครับ” ในขณะที่ผ้าแพรกำลังนั่งรอทุกคนอยู่ที่เรือนรับรองเพราะถูกห้ามไม่ให้ตามไปดูงานก่อสร้างตัวบ้านพักเพราะอากาศร้อนจู่ๆก็มีคนงานเข้ามาเรียกเธอให้ช่วยเซ็นเอกสารรับของ

“ได้ค่ะ..พี่นำแพรไปเลยค่ะ” เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ว่างเธอจึงไม่ได้ปฏิเสธอะไรและตามชายคนงานนั้นไปด้านหลังเรือนรับรอง

“ไหนคะ..ไม่เห็นมีใครอยู่เลย” เมือเข้ามาในห้องโล่งด้านหลังที่น่าจะเตรียมเป็นห้องเก็บของเธอก็ไม่เห็นจะมีคนอยู่สักกะคนเดียวจึงหันหลังมาถามคนที่พาเธอมา

แกร๊กกก

“เอ่อ...พี่คะ” แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะชายคนนั้นได้ล็อกประตูขังเธอเอาไว้

ครู่ต่อมา

“ไฟไหม้ครับ.. ไฟไหม้.. คุณธีครับ” ไม่นานเสียงเอะอะโวยวายก็เกิดขึ้นจนธีรดลภูผาและเพียงฟ้าที่ยืนดูการก่อสร้างบ้านพักหลังใหญ่ต่างก็ตกใจไปตามกัน

“ไฟไหม้ที่ไหน”  ธีรดลรีบตะโกนถามคนงานที่มาโวยวายหน้าบ้านทันที

“เรือนรับรองครับ”

“แพร” จบเสียงคนงานชายภูผาก็รีบวิ่งกลับไปที่เรือนรับรองทันทีเพราะรู้ว่าผ้าแพรนั้นอยู่ที่นั่น

ปั้งๆๆ

“แค่กๆๆ” ผ้าแพรพยายามเคาะประตูเท่าไรก็ไม่มีใครมาช่วยแถมตอนนี้ยังรู้สึกแสบคอเพราะควันที่พวยพุ่งเข้ามาจากด้านนอกซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าใครมาจุดกองไฟอะไรในเวลานี้

“ใครอยู่ข้างนอกบ้างคะช่วยด้วยย..แค่กๆๆ..คุณพ่อขา..คุณภู.. แพรร้อน.. ฮือๆๆ” เมื่อกลุ่มควันพวยพุ่งเข้ามามากจนเธอแสบหูแสบตาหายใจไม่ออกก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าน่าจะไม่ใช่แค่คนจุดกองไฟน่าจะเป็นไฟไหม้ที่นี่มากกว่าเพราะเธอเริ่มร้อนและเสียงไฟที่กำลังลั่นประทุก็ลั่นจนความกลัวมันเข้ามาในใจของเธอไม่น้อยน้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมาไม่ขาดสายร่างบางที่เหนื่อยอ่อนค่อยๆฟุบกองกับพื้นเสียงเรียกแสนเบาของเธอตอนนี้เรียกหาคนด้านนอกเพื่อหวังว่าพวกเขาจะมาช่วย

“แพร..แพรรร..” ภูผาวิ่งหาหญิงสาวรอบๆเรือนรับรองหวังว่าจะเห็นเธอยืนอยู่แต่เปล่าเลยทำให้ตอนนี้เขาใจเสียไม่น้อยจนต้องร้องเรียกหญิงสาวเสียงฝาดยิ่งเห็นไฟโหมแรงเท่าไรเขาก็ยิ่งหน้าเสีย

“ทำไมไฟโหมขนาดนี้ล่ะทั้งที่ก็พึ่งไหม้” มือน้อยของเพียงฟ้าหยิบถังที่วางอยู่ใกล้ๆตักน้ำจากถังน้ำที่เอาไว้ล้างอุปกรณ์ก่อสร้างที่วางอยู่ใกล้ๆแล้วส่งให้พ่อเธอเพื่อที่จะดับไฟทั้งยังสงสัยไม่น้อยว่าเธอห่างจากเรือนรับรองไปไม่กี่นาทีไฟก็เกิดไหม้โหมหนักขนาดนี้คิดว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุแน่นอน

“นั่นสิ” ธีรดลคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีคนจงใจไม่อย่างนั้นไฟไม่แรงขนาดนี้แน่ภายในเวลาไม่เท่าไรแต่ก็ยังเก็บความแครงใจนั้นเอาไว้ก่อนและรีบสาดน้ำเข้าไปในเรือนรับรองเพื่อที่จะดับไฟลงอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าผ้าแพรน่าจะติดอยู่ในนั้นแลเขาคงทำใจไม่ได้แน่หากเห็นลูกกับหลานในท้องเป็นอะไรไป

“แพร.. แพรรร.. เธออยู่ที่ไหน” ภูผาเริ่มเสียงสั่นขึ้นทุกทีเมื่อเรียกชื่อของผ้าแพรเพราไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาวแม้แต่น้อย

“คุณภูคะแพรอยู่ในนี้ค่ะ.. แค่กๆๆ..” ผ้าแพรรีบรวบแรงฮึดส่งเสียงเรียกภูผาเมื่อได้ยินเสียงของเขาตะโกนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“แพร..ใครมันเล่นบ้าอะไรวะเนี่ย” ภูผาได้ยินเสียงหญิงสาวที่ห้องเก็บของจึงรีบวิ่งมาดูแต่ก็เห็นว่ามีโซ่เส้นใหญ่พร้อมกุญแจล็อกเอาไว้ที่หน้าประตูมือหนาลูบหน้าอย่างอารมณ์เสียที่รู้ว่าหญิงสาวถูกขังเอาไว้ในนี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status