Share

ตอนที่35

“เออ..” มนัสได้ยินเช่นนั้นจึงค่อยๆลดปืนลงด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจแล้วทำท่าจะเดินกลับแต่เขาก็แว้งกัดอัสนีในขณะที่เผลอใช้กระบอกปืนในมือฟาดไปที่ใบหน้าของอัสนีอย่างจัง

พลั้ก

“ว้ายย” เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นต่อหน้าหญิงสาวระยะประชิดทำให้เธอตกใจอย่างมากจึงกรีดร้องออกมาเสียงดัง

พลั้กก อัสนีหันกลับมาชกมนัสจนอีกฝ่ายล้มพับลงไป

“หยุดนะโว้ย” จักรกฤษมือขวาของอัสนีเห็นว่าพัสสนกำลังชักปืนจ่อมาที่เจ้านายของเขาจึงรีบจ่อปืนไปที่หัวของพัสสนก่อนพร้อมกับลูกน้องอีกสี่ห้าคนที่ยืนอยู่

“หมาหมู่เหรอวะกูไปก็ได้โว้ย” มนัสเอ่ยเสียงฝาดด้วยความแค้นจัดวันนี้เขาเสียหน้าวันหน้าเขาจะต้องเอาคืนอัสนีให้ได้เอ่ยจบก็รีบขึ้นรถตัวเองออกไป

เรือนสายฟ้า

“โอ้ยย..ผู้หญิงอะไรมือหนักชะมัด” อัสนีเอี้ยวหน้าหนีมือเพียงฟ้าแทบไม่ทันไม่รู้ว่าเธอจะทำแผลให้เขาหรือจะทำให้เขาระบมหนักมากกว่าเดิม

“ฉันเบามือสุดแล้วนะคุณ...” เพียงฟ้าหน้าเสียเล็กน้อยเธอคิดว่าเธอเบามือสุดแล้วด้วยซ้ำกับการใช้สำลีเช็ดเลือกที่มุมปากของเขา

“แล้วมาทำอะไรที่นี่คนเดียวไม่รู้หรือไงมันอันตรายถ้าพวกผมไม่ผ่านไปแถวนั้นป่านนี้..”

“รู้แล้ว.. ไม่ต้องพูด..ฉันแค่มาดูความเสียหายเฉยๆไม่คิดว่าจะเจอคนพวกนั้น” ยังไม่ทันที่อัสนีพูดจบเพียงฟ้าก็เอ่ยทัดทานขึ้นมาก่อนเธอรู้ดีว่าเขาจะพูดอะไรและเธอก็ไม่ได้อยากได้ยินคำนั้นให้แสลงใจด้วย

“แล้วคุณพ่อคุณล่ะ” อัสนีไม่รู้ว่าธีรดลปล่อยลูกสาวมาที่นี่คนเดียวได้อย่างไรหรือไม่เธอก็ดื้อที่จะมาเอง

“พ่อฉันกลับไปคุยกับผู้รับเหมาเรื่องชะลอการก่อสร้าง” อัสนียิ้มมุมปากเป็นอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด

“ผมว่าถ้าคุณยังคิดจะสร้างต่อคงต้องงัดข้อกับเสี่ยน่านบ่อยหน่อยแล้วล่ะ” อัสนีเตือนหญิงสาวอีกครั้งเพราะเขาไม่อยากให้พวกเธอมามีปัญหากับศรีน่านเพราะมันจะไม่รู้จักจบจักสิ้นเพราะนิสัยของศรีน่านค่อนข้างเป็นอันธพาลพอตัว

“ฉันไม่เห็นจะกลัวสักนิดคนเลวไม่มีวันได้ดีไปได้หรอก” เพียงฟ้าไม่ได้เชื่อในคำเตือนของอัสนีเธอเชื่อกฎแห่งกรรมมากว่าคนที่เลวทรามไม่มีวันจะได้ดีไปตลอด

“ดูมั่นใจจังเลยนะคุณ”

“ฉันกลับก่อนนะคะขอบคุณที่ช่วยฉัน” เมื่อทำแผลให้ชายหนุ่มเสร็จเธอก็ขอตัวกลับทันทีและไม่ลืมที่จะขอบคุณอีกฝ่ายที่มีกะใจช่วยเหลือเธอในครั้งนี้

“เดี๋ยวผมไปส่ง” มือหนาเอื้อมรั้งแขนร่างบางเอาไว้ก่อนเธอจะออกไป

“ไม่ต้องหรอกฉันขับรถมาเองกลับเองได้ค่ะ” เพียงฟ้ารีบดึงแขนของเธอออกจากมือของอัสนีแม้ว่าเขาจะช่วยเธอก็ใช่ว่าเขาจะมาถึงเนื้อถึงตัวกับเธอได้ง่ายๆ

“ไม่กลัวมีใครดักอยู่หรือไง”

“อืม..ก็ได้” สิ้นเสียงอัสนีแววตาของเพียงฟ้าก็เริ่มโลเลแม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้สนิทกับอัสนีจนไว้ใจได้แต่เธอก็ไว้ใจเขากว่าไอ้คนที่มันทำร้ายเธอเมื่อพักใหญ่ที่ผ่านมาจึงยอมให้เขาขบรถตามไปส่งเธอที่บ้านแต่โดยดี

วันต่อมา

เมื่อทุกคนอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วก็ถึงเวลากลับกรุงเทพกันเสียที

“ดูแลสุขภาพด้วยนะคะยายน้าพิม” ก่อนกลับผ้าแพรกอดยายและน้าของตนไม่อยากจะปล่อย

“เราก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ” พิมพรรณลูบผมหลานสาวของเธอเบาๆ

“น้ำตาล่วงอีกแล้วทำอย่างกับจะจากกันไปตลอดอย่างนั้นแหละเดี๋ยวก็เจอกัน” เมื่อเห็นน้ำตาหลานสาวพิกุลจำต้องแสร้งมองไปทางอื่น

“แพรไปแล้วนะคะ” ร่างบางกระชับกอดทั้งน้าและยายครู่ใหญ่กว่าจะผละตัวออกได้

กรุงเทพมหานคร

บ้านริมน้ำ

21.30 น.

“ทำหน้าแบบนี้ตั้งแต่กลับมาถึงแล้วนะ” ภูผาจับมือเรียวกุมเอาไว้ขณะที่นอนอยู่บนเตียงในเขาเห็นเธอทำหน้าหดหู่ตั้งแต่กลับมาถึงแล้ว

“คิดถึงคุณยายกับน้าพิมค่ะ” คนตัวเล็กก้มหน้างุด

“ถ้าฉันมีงานน้อยๆอีกเมื่อไรจะพาเธอกลับบ้านดีหรือเปล่า” มือหนาเปลี่ยนจากกุมมือมารั้งร่างบางไปกอดไว้แนบอกแทน

“ค่ะ...ขอบคุณนะคะ” เมื่อได้ยินคำพูดของภูผาหญิงสาวจึงค่อยยิ้มออกได้

วันต่อมา

โรงแรมXXX

“เอกสารรอการอนุมัติค่ะบอส”  มิรันตีเลขาสาววัยยี่สิบแปดของภูผาหอบเอาแฟ้มเอกสารกองโตมากองตรงโต๊ะทำงานของภูผา

“เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ” ภูผามองกองเอกสารด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย

“ค่ะช่วงที่บอสไม่อยู่ก็จะเยอะประมาณนี้แหละค่ะ”  ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์อ่อนยิ้มกว้างเธอเองก็ไม่คิดว่าช่วงที่เจ้านายของเธอพักผ่อนแต่ละแผนกจัดส่งเอกสารรอการเซ็นอนุมัติเยอะมากมายขนาดนี้

“เดี๋ยวผมจัดการเสร็จแล้วจะเรียกนะครับ”

“ค่ะแล้วบอสเป็นยังไงบ้างคะโอเคหรือเปล่าที่ต้องอยู่กับผู้หญิงคนนั้น” มิรันตีถามเสียงห้วนสายตาของเะอรอฟังคำตอบของภูผาอย่างใจจดใจจ่อ

“ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับขอบคุณที่เป็นห่วง” ภูผาเงยหน้ามาตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยและสนใจงานในมือของเขาต่อ

“ค่ะ...ดีแล้วค่ะขอตัวนะคะ” เลขาสาวมีสีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัดกับคำตอบของภูผาแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องช้าๆเพราะเธอค่อนข้างไม่ปลื้มกับคำที่ภูผาบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร

บ้านริมน้ำ

“แก” ทับทิมบุกเข้ามาที่นี่เพราะแค้นผ้าแพรที่เธอนั้นทำให้ภูผาต้องเลิกติดต่อไปมาหาสู่เธอ

“คุณภูไม่ได้อยู่ที่นี่นะคะ” ผ้าแพรเห็นหน้าทับทิมเธอจึงรีบเอ่ยว่าภูผานั้นไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะวันนี้เขาไปทำงาน

เพียะ

“โอ้ย” ทับทิมไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอเงื้อมมือเรียวฟาดไปที่ใบหน้านวลของผ้าแพรเต็มแรงจนเธอล้มลงไปกองกับพื้นร้องเสียงหลง

“อีหน้าด้านอีเมียน้อยอย่าคิดว่าจะแย่งภูไปจากฉันได้นะนี่คงปล่อยให้ท้องเพื่อหวังที่จะจับเขาสินะ” ทับทิมกระชากคอเสื้อคนที่ล้มลงจนตัวลอยขึ้นนั่งทั้งสาดน้ำเสียงแข็งฝาดใส่ผ้าแพรด้วยความโมโห

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status