เมื่อถึงเวลาแถลงข่าวนักข่าวหลายคนต่างก็มุ่งประเด็นของข่าวที่ออกมาเมื่อเช้ากันก่อนเป็นอันดับแรก
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นผมยอมรับครับว่าคนในรูปเป็นผมแต่ผมกับทับทิมเราไม่ได้เป็นแฟนกันครับ” และนี่ก็เป็นคำตอบของภูผาที่ให้ข่าวแก่ทุกคนทำเอานักข่าวหลายสิบคนต่างก็มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจหากไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมถึงมีภาพหลุดแบบนั้นออกมา
“ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วมีภาพหลุดว่านอนด้วยกันได้ยังไงคะ” เสียงนักข่าวสาวตะโกนออกมาระหว่างที่ตอนนี้มีแต่ความเงียบ
“เสร็จงานก็จ่ายเงินคำนี้พี่ๆนักข่าวน่าจะเข้าใจนะครับ” ชายหนุ่มตอบคำถามสั้นๆแต่ความหมายของมันก็ทำให้ทุกคนต่างก็ตาลุกวาวเพราะไม่คิดว่าดาราสาวสวยที่กำลังดังอย่างทับทิมจะขายบริการ
“หมายความว่าคุณทับทิมขายตัวอย่างนั้นเหรอคะ” ความเป็นนักข่าวแม้จะเข้าใจความหมายก็อยากจะถามซ้ำเพื่อที่จะได้รับคำตอบจากปากภูผาตรงๆ
“ตามที่ผมพูดเมื่อครู่ครับ” เขาจะพูดเพียงแค่ครั้งเดียวและคิดว่าคำพูดของเขาเมื่อครู่ก็น่าจะกระจ่างแล้ว
“ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคุณภูแต่งงานแล้วแต่ยังซื้อบริการงั้นเหรอครับ” เมื่อคำถามประเด็นหลักหมดไปประเด็นต่อมาก็ถูกถามขึ้นเสียงดังฟังชัดจากนักข่าวชายหนุ่มอีกสำนัก
“หลังจากผมแต่งงานผมไม่เคยยุ่งกับใครครับและไม่คิดจะยุ่งด้วยเพราะผมรักภรรยาของผมคนเดียวครับ” ภูผามองไปยังนักข่าวหนุ่มคนที่ตั้งคำถามด้วยแววตาที่จริงจังไม่มีล่อกแล่กแม้แต่น้อย
“ข่าวที่ว่าภรรยาของคุณไม่มีหัวนอนปลายเท้าตามที่มีคนให้ข่าวจริงหรือเปล่าคะ” ภูผาถึงกับขมวดคิ้วเพราะไม่คิดว่าจะมีข่าวนี้ให้ตั้งประเด็นกันได้หากไม่มีใครเสี้ยมให้นักข่าวถามคำถามนี้มา
“คนเรามีหัวนอนปลายเท้ากันทุกคนครับและคนที่คุณกำลังพูดถึงเธอคือลูกสาวอีกคนของผม” คำถามนี้เป็นธีรดลที่นั่งอยู่ข้างๆภูผาก่อนหน้านี้นานแล้วเป็นคนตอบไหนๆเขาก็จะเปิดตัวลูกสาวอีกคนของเขาแล้วก็ตอบคำถามสื่อแทนภูผาไปตอนนี้เลยก็แล้วกันเพราะเขาไม่ค่อยชอบนักกับคำว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้า
“หา... ลูกสาวอีกคน” คำตอบของธีรดลดูจะทำให้ทุกคนอึ้งมากกว่าคำตอบที่ภูผาให้ข่าวว่าทับทิมขายบริการเสียอีก
“ใช่ครับผ้าแพรเป็นลูกสาวของผมเมื่อรู้ว่าใครเป็นพ่อแล้วคงจะไม่มีใครพูดอีกนะครับว่าลูกสาวของผมไม่มีหัวนอนปลายเท้า” ธีรดลยิ้มอ่อน
บ้านริมน้ำ
“มันต้องอย่างนี้สิหลานฉัน” สายทองที่นั่งดูการถ่ายทอดสดแถลงข่าวอยู่ที่บ้านรู้สึกสะใจกับการตอบคำถามของภูผาอยู่ไม่น้อย
“รักภรรยาคนเดียว...” ผ้าแพรที่นั่งรวมกับทุกคนในบ้านเธอรู้สึกดีที่ภูผาให้เกียรติเธอขนาดบอกรักเธอออกสื่อแต่ที่เธอสงสัยคือเขาสามารถพูดคำหวานที่ไม่จริงได้หน้าตาเฉยต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้เลยหรือ
คอนโดxxx
“นังโง่ให้ข่าวฆ่าตัวเองชัดๆเป็นดาราอยู่ดีๆได้ยศนำหน้าว่าโสเภนีซะงั้นหมดกันงานที่มีจะถูกแคนหมดหรือเปล่าเนี่ย” มัทรีผู้จัดการสาวของทับทิมวัยสามสิบเธอนั่งดูการแถลงข่าวของภูผาถ่ายทอดสดพร้อมกับทับทิมด้วยความโมโหเพราะความใจร้อนไม่มีหัวคิดและบ้าผุ้ชายของทับทิมทังนั้นที่ทำทุกอย่างพังหมด
“โถ่เอ้ยย..” ทับทิมกำหมัดแน่นเธอไม่คิดว่าการที่เธอให้ข่าวทุกอย่างเองกลับเป็นดาบสองคมมาเชือดเฉือนเธอเองจนตอนนี้เหมือนเธอจะบาดเจ็บมากกว่าภูผาด้วยซ้ำ
“คนที่แกให้ข่าวว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่นลูกสาวคุณธีไฮโซตัวพ่อของวงการธุรกิจถ้าเค้าจะเอาเรื่องแกตัวแกหมดอนาคตแน่จะทำอะไรทำไมไม่รู้จักคิดห้ะ” มัทรีชี้หน้าทับทิมอย่างเหลืออดที่ชอบทำอะไรให้เธอตามเช็ดตามล้างตลอดจนตอนนี้เธอจะไม่ไหวกับทับทิมเสียแล้ว
“ใครจะไปรู้เล่าว่าพ่อมันคนเดียวกับพ่อนังฟ้า” ทับทิมกัดฟันกรอดใครจะไปรู้ว่าผ้าแพรนั้นจะเป็นลูกมหาเศรษฐีไปได้ทั้งที่เธอรู้จักว่าผ้าแพรนั้นเป็นแค่หลานชาวสวนธรรมดา
23.00 น.
แกร๊กก
“คุณภูคะ” เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดร่างบางของผ้าแพรก็ดีดผึงนั่งพิงหัวเตียงมองคนที่กำลังเข้ามาด้วยสายตาที่มีคำถามภายในใจ
“ยังไม่นอนอีกเหรอ” ภูผายิ้มอ่อนที่เห็นหญิงสาวรอเขากลับขายาวก้าวเดินไปหย่อนก้นนั่งข้างหญิงสาว
“ยังค่ะแพรจะรอคุยกับคุณภูเรื่องที่แถลงข่าวก่อน” ผ้าแพรพยายามข่มตาแล้วก็หลับไม่ลงเพราะยังคาใจว่าทำไมภูผาถึงต้องทำเพื่อเธอขนาดนั้น
“เอ่อ..เรื่องอะไรล่ะ” ภูผาเลิกคิ้วมองหน้าหญิงสาวอย่างสงสัย
“ขอบใจนะคะที่พูดให้เกียรติแพรต่อหน้าคนอื่นแบบนั้้น” มือน้อยยกมือของภูผาขึ้นมากุมด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ฉันไม่ได้พูดให้เกียรติเธอ” ภูผาจ้องตาคมของเขาไปในดวงตากลมโตทั้งยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
“หืม” คิ้วบางขมวดเข้าหากันทันทีเพราะไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มพูด
“ที่ฉันพูดฉันคิดแบบนั้นจริงๆ...แล้วเธอล่ะ” ริมฝีปากหนาค่อยๆเอ่ยบางคำออกมาทำเอาผ้าแพรชะงักค้างรีบก้มหน้าหลบสายตาของอีกฝ่าย
“เอ่อ..” หญิงสาวพูดอะไรไม่ออกที่รู้ว่าคำที่เขาตอบคำถามนักข่าวคือความจริงและคำถามที่เขาถามเธอกลับยังทำเธอตกใจไม่น้อย
“เธอยังไม่ต้องตอบฉันก็ได้แต่อย่าปฏิเสธหัวใจของฉันก็พอ” ภูผายิ้มอ่อนและค่อยๆยื่นมือหนาเชยคางใบหน้านวลให้เงยขึ้นค่อยๆยื่นจมูกโด่งไปกดหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่จนชื่นใจ
ฟอดดด...เสร็จแล้วจึงลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยทิ้งให้หญิงสาวนั่งตัวเกร็งเบิกตาโพรงค้างด้วยความตกใจ
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะเธอก็พักผ่อนได้แล้ว” สิ้นเสียงนุ่มของคนที่ตะโกนมาจากห้องน้ำทำเอาหญิงสาวรีบทิ้งตัวลงนอนกอดหมอนอมยิ้มอ่อนด้วยความรู้สึกที่เขินอีกฝ่ายโดยที่ไม่รู้ตัว
เช้าวันต่อมาผ้าแพรตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าตรู่เมื่อสายตามองเห็นคนที่นอนอยู่ข้างๆสมองประมวลเรื่องราวเมื่อคืนที่เขาทำกับเธอจนสร้างความสับสนใจใจขึ้นมาอีกครั้ง“...” หญิงสาวพลิกตะคงหันหน้ามองใบหน้าคมที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยสีหน้าครุ่นคิดทั้งเมื่อลองขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายช้าๆหัวใจของเธอกลับเต้นเร็วผิดปกติแถมยังรู้สึกไม่ค่อยกล้าที่จะมองหน้าเขาใกล้ๆทั้งที่เขาก็ไม่ได้รู้ตัว“จะจ้องหน้าฉันอีกนานหรือเปล่า” แขนแกร่งตวัดรวบร่างบางเข้าไปกอดเอาไว้แน่นเขารู้สึกตัวตั้งแต่ก่อนเธอตื่นแล้วแต่เมื่อเห็นหญิงสาวตื่นจึงแกล้งหลับ“เอ่อ..อืม” เมื่อถูกจับได้สาวเจ้าก็เอาแต่ก้มหน้างุดพ่นลมหายใจอ่อนลงบนอกแกร่งของคนที่กอดเธอเอาไว้“วันนี้พักผ่อนเยอะๆรู้ไหมฉันจะรีบไปรีบกลับ”ฟอดดดด พูดจบก็เชยใบหน้านวลขึ้นมาหอมฟอดใหญ่แล้วจึงค่อยลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะรีบไปทำงานจะได้รีบกลับหากเป็นไปได้ทุกวันเขาอยากจะพาเธอไปด้วยกันด้วยซ้ำทิ้งให้หญิงสาวนั้นนอนกำผ้าห่มแน่นหน้าแดงแทบจะเป็นลูกตำลึงอยู่บนเตียง“หน้าตาสดใสขึ้นนะเรา” สายทองชวนหลานสะใภ้ของเธอมานั่งคุยกันที่ห้องโถงในช่วงสายเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นหน้าตาสดใสขึ้นก็พลอยสบายใจไปอ
“พวกแกมาทำอะไรที่นี่” ภูผาพึ่งกลับมาถึงบ้านเห็นแดเนียลกับปกรณ์นั่งคุยอยู่กับผ้าแพรหัวร่อต่อกระซิกจึงรีบเข้ามาหย่อนก้นนั่งข้างๆคนเป็นภรรยาใบหน้าคมมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไรเพราะเพื่อนของเขามาที่นี่โดยไม่บอกไม่กล่าว“เอาผ้าไหมลายใหม่มาให้คุณย่าน่ะสิแดนมันว่างพอดีฉันเลยชวนมันมากะทันหันไม่ทันได้บอก”“เดี๋ยวนี้แกกลับบ้านเร็วเป็นด้วยเหรอวะ” แดเนียลเอ่ยจบก็หันไปยิ้มอ่อนกับปกรณ์“ไม่มีอะไรสำคัญก็เลยกลับ” ใบหน้าคมยังมีสีหน้าที่ตึงเล็กน้อยเหตุด้วยยังไม่หายเคืองใจที่สองหนุ่มเพื่อนเขาเข้ามาคุยกับภรรยาเขาอย่างสนิทสนมครู่ต่อมาตอนนี้ผ้าแพรปล่อยให้สามหนุ่มได้นั่งคุยกันตามประสาเพื่อนโดยเธอขอปลีกตัวไปเตรียมของว่างให้ทั้งสามอยู่ในครัว“เฮ้ย..ฉันเห็นในแถลงแกพูดจริงเหรอวะ...เปลี่ยนเป็นสนใจเมียแกแค่คนเดียวได้จริงเหรอ” ปกรณ์ว่าจะคุยเรื่องนี้กับภูผานานแล้วเมื่อเห็นผ้าแพรปลีกตัวออกไปเลยได้จังหวะถามต่อหน้า“แกเคยเห็นฉันโกหกหรือไง..ฉันคือคนที่ชัดเจนกับคำพูดและการกระทำสุดแล้ว” ภูผาพยักหน้าเบาๆเขาเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจนรักก็รักไม่รักก็บอกไม่รักไม่ชอบเก็บความรู้สึก“ฉันดีใจนะที่แกเปลี่ยนได้แล้วน้องแพรล่ะเค้าคิ
“คุณภูอย่าแกล้งแพรค่ะ” มือน้อยจับมือของเขากำเอาไว้แน่นไม่ให้เขานั้นแกล้งเธอได้เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะมองหน้าเขาตอนนี้“ฉันว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเดินเล่นดีกว่านะดวง” สายทองเอ่ยกับดวงใจเสียงดังคิดว่าวันนี้เธอคงจะไม่นั่งเล่นริมน้ำยามเย็นเหมือนเคยๆเสียแล้วเมื่อเอ่ยจบก็เดินอมยิ้มกลับเข้าไปในตัวบ้าน“ค่ะคุณท่าน” ดวงใจลอบมองภูผาและผ้าแพรด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินตามสายทองเข้าบ้านไป“คุณย่ามาเห็นจนได้” สาวเจ้าขมวดติ้วเล็กน้อยจากที่เขินภูผาอยู่พอตัวแล้วเมื่อรู้ว่าสายทองนั้นเห็นพฤติกรรมของพวกเธอตอนนี้ผ้าแพรก็ยิ่งรู้สึกอายเข้าไปใหญ่“ท่านเข้าใจน่าสามีภรรยาก็ต้องหวานกันเป็นธรรมดา...แพร”“คะ”“ทุกๆอย่างที่ฉันพูดออกไปไม่เคยโกหกสักคำเธอเชื่อใจฉันได้ว่าหลังจากนี้จะไม่มีเรื่องผู้หญิงคนอื่นมากวนใจเธออีก” ดวงตาคมจ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมอกอย่างไม่วางตาทั้งเอ่ยกับเธอด้วยน้ำสียงที่หนักแน่นชัดถ้อยชัดคำให้หญิงสาวนั้นได้มั่นใจว่าสิ่งที่เขาลั่นวาจาไว้แล้วนั้นจะไม่คืนคำแน่นอน“จริงใช่ไหมคะ” ผ้าแพรเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้ามองคนเป็นสามีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังหากเขาทำได้อย่างที่พูดเธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลั
20.30 น.“กลัวจะไม่ได้ไปหรือไง” ภูผาเห็นหญิงสาวเตรียมเก็บเสื้อผ้าเสียตั้งแต่อาบน้ำเสร็จจึงเอ่ยหยอก“ก็อยากเตรียมพร้อมเอาไว้ค่ะ” มือน้อยบรรจงพับผ้าลงกระเป๋าเดินทางทังที่เสื้อผ้าตัวเองนั้นมีไม่กี่ชุดเก็บก่อนจะไปก็ยังทัน“เอาไว้ก่อนเถอะพรุ่งนี้ก็ยังมีเวลา” ภูผาเดินยกกระเป๋าของคนเป็นภรรยาไปไว้หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยอยากให้หญิงสาวหยุดมือแล้วจึงเดินกลับมานอนกอดเอเอาไว้แน่น“เอ่อ..จ..จะทำอะไรคะ” ผ้าแพรเอ่ยถามคนที่กำลังกอดด้วยสีหน้าตกใจเพราะชายหนุ่มไม่ได้กอดเธอเฉยๆอย่างเมื่อก่อนแต่ตอนนี้เขาเริ่มกดจมูกโด่งหอมเธอไม่ยอมหยุด“ฉันก็จะมีความสุขกับภรรยาฉันบ้างสิ” คนตัวโตเอ่ยเสียงแหบพร่าทั้งยังไม่ยอมหยุดการกระทำ “ค..คุณภู..แต่ว่า..เจ้าตัวเล็ก” สาวเจ้าฟังคำภูผาจบก็เบิกตาโพรงตัวเกร็งเธอเข้าใจความหมายที่ภูผาพูดจึงค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักหากเขาจะมีความสุขกับเธอตอนนี้แล้วลูกเธอในท้องจะเป็นอย่างไร“ฉันคุยกับพี่หมอเรียบร้อยแล้วลูกเราจะไม่เป็นอะไร..” สายตาคมมองคนเป็นภรรยาหยาดเยิ้มทั้งยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยนี่เองคือเหตุผลที่ภูผาขอตัวไปคุยกับหมอน้ำก่อนจะลับเป็นการส่วนตัว“อื้อ..” ว่าจบก็บดจูบริมฝีปากบางโดย
ภูผารู้ว่าเรื่องทุกอย่างมันเป้รนความผิดของเขาหากเขาไม่เผลอตัวไปทุกอย่างมันคงไม่เป็นเช่นนี้แต่หากจะยังดึงดันเห็นใจมิรันตีให้เธอใกล้ชิดเขาต่อก็อาจจะเกิดปัญหาครอบครัวของเขาตามมาได้ซึ่งเขาก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นเช่นนั้นสามวันต่อมาเชียงใหม่“เห็นว่าวันนี้คุณธีจะเข้ามาพร้อมกับหลานๆเลยนะคะแม่” พิมพรรณเอ่ยกับคนเป็นแม่ในขณะที่นั่งทำกับข้าวเพื่อต้อนรับหลานๆที่กำลังจะมา“เราก็อยู่รับเองละกันแม่พิม” พิกุลเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก“แม่ยังไม่หายโกรธคุณธีอีกเหรอคะเรื่องมันผ่านมานานมากแล้วคุณธีเองเค้าก็รู้สึกผิดไม่แน่นะคะวันนั้นที่รูปพี่พรหล่นอาจจะอยากให้ทุกคนได้รู้ความจริงก็ได้” พิมพรรณละมือมองหน้าคนเป็นแม่อย่างอ่อนใจหากแม่เธอให้อภัยธีรดลได้เธอเชื่อว่าผ้าแพรน่าจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่“....” สิ้นเสียงคนเป็นลูกสาวพิกุลก็ยังคงเงียบไม่พูดไม่จาอะไรจนพิมพรรณนั้นเลิกที่จะพูดอะไรอีกช่วงสายของวัน“สวัสดีครับน้าพิมคุณยาย” เมื่อเดินทางมาถึงบ้านสวนกันได้ทุกคนก็กรูกันขึ้นไปทักทายเจ้าบ้านที่ชานเรือน“ไหว้พระเถอะลูก” พิกุลรับไหว้ภูผา“ยายคะ” ผ้าแพรโผข้าไปกอดคนเป็นยายพร้อมพิมพรรณเช่นเคยด้วยใบ
วันต่อมาวัดxx“ทำไมคุณพ่อถึงอยากมาที่วัดนี้ล่ะคะ” วันนี้เพียงฟ้ามาวัดที่แม่อายกับพ่อของเธอสองคนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจที่พ่อของเธอเลือกที่จะมาวัดไกลขนาดนี้เพราะที่แม่ริมก็มีวัดตั้งหลายวัดพ่อเธอไม่ยักจะไป“พ่ออยากมาไหว้พระทำบุญที่นี่เผื่องานที่เราทำจะสะดวกขึ้น” อันที่จริงธีรดลอยากจะมาดูความเป็นอยู่ของชุมชนแถวนี้ด้วยเพราะถ้าหากสร้างรีสอร์ทไปแล้วจะมีกิจกรรมหรือสถานชนที่ที่ไหนให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมกันบ้าง“สวัสดีครับคุณธี” อัสนีเห็นธีรดลเดินอยู่ที่หน้าโบสถ์จึงเข้ามาทักทาย“อ้าว..พ่อเลี้ยงบังเอิญจังเลยนะครับ”“คุณธีมาทำอะไรที่นี่ครับ” อัสนีเหลือยบสายตามองหญิงสาวที่กำลังก้มหน้างุดอาการของเธอเป็นเช่นนี้เขารู้ได้เลยว่าเธอคงยังไม่บอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอเป็นแน่“ไหว้พระขอพรกับวัดในพื้นที่เผื่องานจะราบรื่นน่ะครับ” ในระหว่างที่ธีรดลคุยกับอัสนีเพียงฟ้าก็เริ่มหน้าเสียเพราะกลัวว่าเรื่องวันนั้นที่เธอมาที่นี่จะหลุดให้พ่อของเธอได้รู้แล้วเธอจะโดนดุครั้งใหญ่“อ่อ..ดีแล้วล่ะครับ..คุณก็ไปไหนมาไหนกับคุณพ่อคุณแบบนี้ดีแล้ว” อัสนีพยักหน้าเบาๆและหันไปคุยกับเพียงฟ้า“ทำไมเหรอครับ” ธีรดลเริ่มสงสัยกับคำ
“ฮือๆๆ..” มิรันตีเมื่อเห็นหน้าคนเป็นแม่ก็ยอมอ่อนลงเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากคัตเตอร์“ผมขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ” ภูผาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากการกระทำอันไม่มีหัวคิดของเข่าทำร้ายคนไปหลายคนเขาฟุบนั่งก้มลงพนมมือด้วยน้ำตาคลอเอ่ยขอโทษแม่ของมิรันตีจากใจจริงไม่มีคำไหนที่ดีไปกว่าคำนี้แล้ว“ฉันรู้ทุกอย่างรู้มาตลอด...ฉันผิดเองที่น่าจะดึงลูกฉันกลับมาตั้งแต่แรก” แสงดาปาดน้ำตาเอ่ยกับภูผาเสียงสั่นเธอรู้มาตอลดว่าลูกสาวของเธอรักคนที่ไม่เคยรักตัวเองแต่เธอก็ไม่เคยห้ามปรามทั้งยังพาลูกเอมาที่นี่เพราะไม่อยากให้ลูกสาวของเธอได้เจอกับภูผาเผื่ออาการเสียใจจะดีขึ้นแต่ไม่เลยกลับทำให้เรื่องมันดูแย่ลงไปอีก“คุณควรจะรักตัวเองให้มากๆเพราะคนที่เจ็บที่สุดเมื่อเห็นคุณเป็นทุกข์คือแม่ของคุณ...ผมมันก็แค่ผู้ชายไม่ดีคนนึงที่ทำให้ใจคุณเป็นทุกข์ยังจะสนใจผมอยู่อีกทำไม” ภูผาพูดย้ำให้หญิงสาวได้คิด“แม่คะ..” มิรันตีเงียบไปครู่หนึ่งเธอยอมวางคัตเตอร์ลงและหันไปกอดแม่ของเธอสะอื้นตัวโยนที่ทำอะไรสิ้นคิดลงไป“กลับบ้านกันนะลูก...ฉันจะไม่ปล่อยให้ลุกฉันมายุ่งกับคุณอีกและคุณก็ห้ามมายุ่งกับลูกฉันเหมือนกัน” แสงดาเอ่ยเสียงหน
สี่เดือนต่อมาตลอดเวลาสี่เดือนกว่าที่ผ่านมาภูผาและผ้าแพรดูจะรักกันมากขึ้นทุกวันทั้งคำพูดคำจาก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนตอนนี้ผ้าแพรก็ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้วจึงมาอยู่ที่บ้านสวนส่วนภูผานั้นก็หาคนเก่งมาบริหารงานแทนไปก่อนเพราะต้องการพักงานยาวเพื่อดูแลคนเป็นภรรยาที่ใกล้จะคลอด“ค่อยๆลูกค่อยๆ” พิมพรรณค่อยๆพยุงหลานเธอนั่งบนแคร่เพราะท้องที่โตเกินตัวของผ้าแพรทำให้เธอเดินเหินลุกนั่งลำบาก“ทานผลไม้สิแพร” เป็นเช่นเคยที่ผ้าแพรอยู่ตรงไหนภูผาก็จะคอยอยู่ด้วยไม่ห่างทั้งยังหาของนั่นนี่ให้หญิงสาวได้ทานเพื่อบำรุงอยู่ตลอดเวลา“แพรยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยค่ะพี่ภู” ผ้าแพรส่ายหัวทั้งมองสามีเธอด้วยสายตาที่อ่อนใจเพราะเขาแทบจะหาอะไรให้เธอได้ทานไม่หยุดปากจนจุกไปหมดแล้ว“อิ่มก็ต้องทานเราอิ่มแต่ลูกอาจจะหิวก็ได้” “.แม่อิ่มลูกก็อิ่มนั่นแหละเดี๋ยวท้องเมียเราจะแตกเอาเล่นยัดโน่นยัดนี่ให้ทานแบบนี้” พิกุลเห็นทีหากจะไม่ปรามภูผามีหวังหลานเธอคงได้อิ่มจนแทบออกปากแน่20.30 น.“ดิ้นเก่งแบบนี้ออกมาวิ่งเล่นก็พ่อเร็วๆสิครับลูก” ตกดึกก่อนที่จะเข้านอนภูผาจะคุยเล่นหับลูกในท้องผ้าแพรพักใหญ่และดูเหมือนเจ้าตัวเล็กในท้องจะชอบให้พ่อพ