“ฮือๆๆ..” มิรันตีเมื่อเห็นหน้าคนเป็นแม่ก็ยอมอ่อนลงเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากคัตเตอร์
“ผมขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ” ภูผาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากการกระทำอันไม่มีหัวคิดของเข่าทำร้ายคนไปหลายคนเขาฟุบนั่งก้มลงพนมมือด้วยน้ำตาคลอเอ่ยขอโทษแม่ของมิรันตีจากใจจริงไม่มีคำไหนที่ดีไปกว่าคำนี้แล้ว
“ฉันรู้ทุกอย่างรู้มาตลอด...ฉันผิดเองที่น่าจะดึงลูกฉันกลับมาตั้งแต่แรก” แสงดาปาดน้ำตาเอ่ยกับภูผาเสียงสั่นเธอรู้มาตอลดว่าลูกสาวของเธอรักคนที่ไม่เคยรักตัวเองแต่เธอก็ไม่เคยห้ามปรามทั้งยังพาลูกเอมาที่นี่เพราะไม่อยากให้ลูกสาวของเธอได้เจอกับภูผาเผื่ออาการเสียใจจะดีขึ้นแต่ไม่เลยกลับทำให้เรื่องมันดูแย่ลงไปอีก
“คุณควรจะรักตัวเองให้มากๆเพราะคนที่เจ็บที่สุดเมื่อเห็นคุณเป็นทุกข์คือแม่ของคุณ...ผมมันก็แค่ผู้ชายไม่ดีคนนึงที่ทำให้ใจคุณเป็นทุกข์ยังจะสนใจผมอยู่อีกทำไม” ภูผาพูดย้ำให้หญิงสาวได้คิด
“แม่คะ..” มิรันตีเงียบไปครู่หนึ่งเธอยอมวางคัตเตอร์ลงและหันไปกอดแม่ของเธอสะอื้นตัวโยนที่ทำอะไรสิ้นคิดลงไป
“กลับบ้านกันนะลูก...ฉันจะไม่ปล่อยให้ลุกฉันมายุ่งกับคุณอีกและคุณก็ห้ามมายุ่งกับลูกฉันเหมือนกัน” แสงดาเอ่ยเสียงหนักแน่นก่อนจะจูงมือลูกสาวของเธอหันหลังกลับ
“ผมรับปากว่ามันจะไม่มีวันนั้น” ภูผาพนักหน้ารับเขารับปากว่ามันจะไม่มีวันนั้นแน่นอนวันที่เขาจะยุ่งกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน
“แพรไม่ได้อยากร้องแต่น้ำตามันไหลมาเอง..” ทางด้านผ้าแพรตอนนี้ยังนั่งปาดน้ำตาอยู่ในห้องไม่หยุด
“มันไหลออกมาเพราะรู้สึกข้างในไม่ต้องเก็บนะแพรอยากร้องก็ร้องมันออกมาได้เลยจะได้สบายใจขึ้น” เพียงฟ้ากอดปลอบน้องของเธอเอาไว้แน่นเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวเธอดีว่ารู้สึกอย่างไร
“เรื่องคุณทับทิมแพรกลับทำใจได้แต่เรื่องคุณเมแพรรู้สึกปวดใจเอามากเลยค่ะ” น้ำเสียงของผ้าแพรเอ่ยออกมาปนเสียงสะอื้น
“พี่เข้าใจ..เรื่องทับทิมเรารู้ตั้งแต่เรายังไม่ได้รักแต่เรื่องเมเราพึ่งรู้ในตอนที่รักไปแล้วน่ะสิมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกไม่ดีเป็นธรรมดาแต่เราก็ต้องดูอีกทีว่าพี่ภูเลือกใครซึ่งมันก็มีคำตอบอยู่แล้วว่าพี่ภูเลือกแพร”
“คงต้องใช้เวลากว่าจะหายปวดใจค่ะ” ตอนนี้ผ้าแพรเข้าใจทุกอย่างแต่เพียงแค่ห้ามตัวเองให้เลิกร้องให้ไม่ได้เท่านั้น
“พี่เข้าใจถึงบอกให้ร้องออกมาให้หมดไงจะได้สบายใจขึ้น” มือเรียวยกขึ้นลูบหัวน้องสาวของเธอเบาๆ
ชั่วโมงต่อมา
เพียงฟ้าออกมาจากห้องนอนของผ้าแพรเมื่อน้องสาวของเธอหลับไปแล้ว
“อ้าวพี่ภูทำไมมานั่งตรงนี้ไม่เข้าไปข้างในล่ะคะ” เมื่อเห็นภูผานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องจึงถามพ่ายของเธอด้วยสีหน้าแปลกใจว่าทำไมไม่เข้าไปด้านใน
“พี่ไม่อยากเห็นแพรร้องให้...มันยิ่งตอกย้ำว่าพี่คือคนที่ทำให้แพรทุกข์ใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ภูผาเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไรนัก
“แพรหลับไปแล้วล่ะค่ะ..เรื่องทั้งหมดมันเป็นผลจากอดีตนี่คะแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครตั้งใจจะให้เกิด” หญิงสาวหย่อนก้นลงนั่งข้างๆคนเป็นพี่ชาย
“ถ้าพี่ไม่ทำตัวเสเพลผลทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้” ภูผายังคงโทษตัวเองเมื่อนึกถึงน้ำตาของผ้าแพรและสองแม่ลูกที่เขาทำให้เจ็บ
“ถ้าทุกคนรู้ชะตาตัวเองล่วงหน้าได้ทุกคนก็ทำสิ่งที่ถูกหมดแล้วสิคะ...ตอนนี้เราก็แก้ไขปัญหากันไปเท่าที่ทำได้ละกันค่ะ”
“พี่เข้าใจทุกอย่างที่ฟ้าพูด..แต่พี่ก็ยังเสียใจที่ทำแพรเจ็บอยู่ดี” ภูผาประสานมือหนาทั้งสองบีบกันแน่นสิ่งที่เขาทำไปโดยความคึกคะนองรักสนุกไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นดาบสองคมที่คอยมาทิ่มแทงตัวเขาและคนอื่น
“ฟ้าเข้าใจค่ะแล้วก็เชื่อว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้” เพียงฟ้ากุมมือชายหนุ่มเอาไว้หลวมๆ
“ขอบใจนะ” ภูผาหวังให้มันเป็นอย่างที่เพียงฟ้าพูด
บ่ายของวัน
“โกรธฉันหรือเปล่า” ภูผาพาผ้าแพรมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้านและถือโอกาสนี้คุยกับเธอถึงเรื่องที่พึ่งเกิด
“ไม่ค่ะ...แค่แพรรู้สึกปวดใจนิดหน่อยที่พึ่งรู้เรื่องค่ะ” มือน้อยกุมมือสามีของเธอเอาไว้แน่น
“ฉันขอโทษที่อดีตของฉันมันทำให้เธอเจ็บอีกแล้วยิ่งฉันเห็นเธอเจ็บฉันยิ่งเจ็บมากกว่าเธอรู้หรือเปล่า” เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้นน้ำตาลูกผู้ชายของภูผาก็ไหลออกมาแขนแกร่งรวบกอดเมียรักเอาไว้แน่น
“งั้นแพรจะเลิกคิดเรื่องนี้ค่ะถ้ามันทำให้คุณภูไม่สบายใจ”
“ทำไมเธอถึงแสนดีแบบนี้นะ” ริมฝีปากหนากดจูบกระหม่อมคนในอ้อมกอดด้วยความรู้สึกขอบคุณที่หญิงสาวเข้าใจ
“แล้วเธอโอเคหรือเปล่าคะ” ดวงตากลมโตเงยหน้ามองคนเป็นสามีเธออยากรู้ว่ามิรันตีนั้นเนอย่างไร
“ฉันชัดเจนมาแต่แรกอยู่แล้วว่ารักใครแล้วก็คิดว่าเมก็น่าจะไม่ยุ่งกับเราแล้วล่ะเธอไม่ต้องเป็นกังวล”
“แพรไม่กังวลอยู่แล้วค่ะแพรเชื่อใจคุณภู” มือน้อยยกขึ้นทาบที่หัวใจของภูผา
ดวงตาคมมองคนในอ้อมกอดด้วยความอ่อนโยนทั้งบอกตัวเองในใจว่าจะไม่ทำให้ยอดดวงใจของเขานั้นเสียใจอีกเป็นเด็ดขาด
สี่เดือนต่อมาตลอดเวลาสี่เดือนกว่าที่ผ่านมาภูผาและผ้าแพรดูจะรักกันมากขึ้นทุกวันทั้งคำพูดคำจาก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนตอนนี้ผ้าแพรก็ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้วจึงมาอยู่ที่บ้านสวนส่วนภูผานั้นก็หาคนเก่งมาบริหารงานแทนไปก่อนเพราะต้องการพักงานยาวเพื่อดูแลคนเป็นภรรยาที่ใกล้จะคลอด“ค่อยๆลูกค่อยๆ” พิมพรรณค่อยๆพยุงหลานเธอนั่งบนแคร่เพราะท้องที่โตเกินตัวของผ้าแพรทำให้เธอเดินเหินลุกนั่งลำบาก“ทานผลไม้สิแพร” เป็นเช่นเคยที่ผ้าแพรอยู่ตรงไหนภูผาก็จะคอยอยู่ด้วยไม่ห่างทั้งยังหาของนั่นนี่ให้หญิงสาวได้ทานเพื่อบำรุงอยู่ตลอดเวลา“แพรยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยค่ะพี่ภู” ผ้าแพรส่ายหัวทั้งมองสามีเธอด้วยสายตาที่อ่อนใจเพราะเขาแทบจะหาอะไรให้เธอได้ทานไม่หยุดปากจนจุกไปหมดแล้ว“อิ่มก็ต้องทานเราอิ่มแต่ลูกอาจจะหิวก็ได้” “.แม่อิ่มลูกก็อิ่มนั่นแหละเดี๋ยวท้องเมียเราจะแตกเอาเล่นยัดโน่นยัดนี่ให้ทานแบบนี้” พิกุลเห็นทีหากจะไม่ปรามภูผามีหวังหลานเธอคงได้อิ่มจนแทบออกปากแน่20.30 น.“ดิ้นเก่งแบบนี้ออกมาวิ่งเล่นก็พ่อเร็วๆสิครับลูก” ตกดึกก่อนที่จะเข้านอนภูผาจะคุยเล่นหับลูกในท้องผ้าแพรพักใหญ่และดูเหมือนเจ้าตัวเล็กในท้องจะชอบให้พ่อพ
ครู่ต่อมา“จะมองหน้าลูกอีกนานหรือเปล่าคะ” ผ้าแพรเห็นภูผามองลุกชายที่หลับสนิทมาพักใหญ่แล้วจึงทักขึ้น“ลูกเราน่ารักขนาดนี้พี่จะหยุดมองได้ยังไง...รู้ใช่ไหมว่าแพรกับลูกเหมือนดวงใจของพี่” คนตัวโตหันมากอดภรรยาของเขาเอาไว้หลวมๆ“แพรรู้ค่ะ..แล้วก็ขอบคุณพี่ภูมากนะคะที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีตลอดมา” มือเรียวของหญิงสาวกุมมือหนาของภูผาเอาไว้แน่นใครจะไปคิดกันว่าคนที่มีการใช้ชีวิตต่างกันราวฟ้ากับเหวจะต้องมาแต่งงานอยู่กินด้วยกันเพราะต้องมีหน้าที่ที่รับผิดชอบร่วมกันแถมสองคนยังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในเวลาอันรวดเร็วถ้าไม่ใช่พรหมลิขิตที่ขีดเอาไว้แล้วห้าเดือนต่อมาบ้านริมน้ำ“หลานป้าจ้ำม่ำที่สุดเลย” เพียงฟ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเล่นกับหลานชายตัวกลมวัยแปดเดือนของเธออยู่พักใหญ่แล้วตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่ยอมวางมือ“ทำไมลงมากรุงเทพได้ล่ะท่าทางฝนจะตกหนักใหญ่แล้วล่ะมั้ง” ภูผาเอ่ยหยอก“ฟ้ามีธุระจะคุยกับคุณพ่อนิดหน่อยน่ะค่ะ” “เรื่องอะไรเหรอคะ” ผ้าแพรอดที่จะถามเพียงฟ้าไม่ได้เพราะพี่สาวเธอมากรุงเทพได้ก็น่าจะเป็นธุระสำคัญน่าดู“พี่อยากจะทำรีสอร์ทอีกสักตั้ง” เพียงฟ้าตัดสินใจแล้วว่าเธอจะสานต่อโครงการนี้เองบ้านธีรดล
บ้านริมน้ำ“ไปเอาลูกเค้ามาแม่เค้าไปไหนล่ะ...มาให้ทวดอุ้มหน่อยสิตาวิน...ทวดคิดถึงจังเลยลูก” สายทองที่กำลังไกวเปลเหลนชายวัยแปดเดือนเมื่อเห็นภูผาอุ้มธาวินเด็กชายวัยขวบกว่าลูกของวีนาเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปอุ้มเพราะพักหลังมานี่ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไร“คือ...” ผ้าแพรมองหน้ากับคนเป็นสามีด้วยสายตาที่เป็นกังวลเพราะเรื่องที่เธอพึ่งรู้มานั้นก็ทำให้ใจเสียอยู่ไม่น้อยผ้าแพรเธอพึ่งได้รับข่าวจากศรีนวลหญิงชราข้างบ้านของวีนามาว่าวีนานั้นรักษาตัวโรคหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็เข้าขั้นโคม่าศรีนวลจึงอาสาดูธาวินเพราะสงสารหากผ้าแพรและภูผาไม่เดินทางไปที่บ้านของวีนาวันนี้ก็ไม่มีทางรู้...สาเหตุที่พาธาวินมาที่นี่เพราะเธอขอกับศรีนวลว่าจะรับธาวินมาดูแลเอง“ตายจริงทำไมชีวิตหนูวีนาถึงได้เป็นแบบนี้กันนะ” สายทองได้รับฟังเรื่องราวก็หน้าเสียอยู่ไม่น้อยพรางมองไปที่ธาวินว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้อาภัพนักพ่อก็ไม่มีแล้วแม่ก็ยังมาป่วยอีกไร่ปรานโชค“พ่อเลี้ยงจะไปไหนคะ” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เพียงฟ้านั้นมาหาพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขารีบร้อนจะออกไปข้างนอกจึงรีบลงรถและเดินมาถามเขาทันทีว่าเขากำลังจะไปที่ไหน“ผมมีธุระ” ตอนนี
“ผมอยากให้คุณจดทะเบียนเป็นพ่อแม่บุญธรรมให้กับธาวินเพราะผมกลัวว่าพ่อจริงๆของธาวินจะมารับตัวเค้าไปคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นรับผิดชอบชีวิตของใครไม่ได้แน่” พูดจบก็รีบยื่นจดหมายของวีนาให้กับหญิงสาวอ่าน ในจดหมายวีนาขอให้อัสนีรับเป็นพ่อให้กับธาวินและหาคนที่ไว้ใจได้จดทะเบียนเป็นแม่เพื่อที่ลูกของเธอจะได้มีครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ในวันที่เธอไม่อยู่ที่เธอตัดสินใจขอร้องอัสนีเช่นนี้เพราะกลัวว่าสักวันพ่อจริงๆของธาวินจะมาทวงลูกของเธอคืนซึ่งเธอคงจะต้องเสียใจมากเป็นแน่หากคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นจะมาเลี้ยงดูลูกของเธอวันต่อมาเมื่อคืนคำถามของอัสนีทำให้เพียงฟ้านั้นนอนคิดอยู่แทบทั้งคืนเธอเห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอแม้จะเป็นแม่ให้ธาวินแค่ในนามตามที่อัสนีบอกเท่านั้นแต่ในเมื่อเธอมีชื่อเป็นแม่ของเด็กคนนี้แล้วเธอก็คงจะต้องทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดข้อนี้เธอถึงคิดหนักเพราะเธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนคงต้องศึกษากับน้องสาวเธออีกเยอะ“ฉันตกลงค่ะ” เพียงฟ้าเข้ามาหาอัสนีแต่เช้าเพื่อตอบตกลงในสิ่งที่เธอครุ่นคิดมาทั้งคืน“ปรึกษาครอบครัวคุณแล้วเหรอ” อัสนีมองหน้าหญิงสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดนอนสี
วันต่อมา“แง่ๆๆๆ..แง่ๆๆๆๆ..” ธาวินร้องงอแงไม่ยอมหยุดมาพักใหญ่แล้วใครอุ้มปลอบก็เหมือนกันหมดจนตอนนี้เล่นเอาเครียดกันทั้งบ้านแล้ว“เป็นอะไรไปครับทำไมวันนี้งอแงแต่เช้าเลย” ภูผาลองอุ้มหลานชายพร้อมทั้งยื่นรถคันเล็กสีแดงของเล่นชิ้นโปรดให้ในมือเด็กชายก็ยังไม่ยอมหยุดร้องง่ายๆ“แอ้ๆ..แอ้” พีรพัตรที่นั่งอยู่บนตักของแม่เห็นคนเป็นพี่ร้องงอแงไม่หยุดก็เอื้อมมือป้อมไปที่ธาวินทั้งมองด้วยแววตาไร้เดียงสา“เราไม่กวนพี่เค้าดีกว่านะลูก” “ตัวก็ไม่ร้อนท้องก็ไม่อืดแล้วเป็นอะไรถึงร้องไม่หยุดล่ะเนี่ย..มาส่งตาวินมาให้ย่า” สายทองรับธาวินจากภูผาเพื่อที่จะลองเปลี่ยนกันอุ้มเผื่อธาวินจะลดอาการงอแงลงบ้าง“นั่นสิครับคุณย่า” ภูผายืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตาวินเป็นอะไรเหรอครับ” อัสนีได้ยินเสียงร้องตั้งแต่ยังไม่เข้ามาในบ้านเมื่อเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นของบ้านริมน้ำก็เห็นทุกคนรวมกันอยู่ที่นี่ทั้งธาวินยังร้องให้หน้าดำหน้าแดงจึงตกใจไม่น้อย“อยู่ดีๆก็ร้องครับปลอบยังไงก็ไม่หยุด” ภูผาเอ่ยเสียงอ่อนRrrrrrrrrrrrrr“ครับคุณหมอ...อ..อะไรนะครับ” ยังไม่ทันที่อัสนีจะเข้าไปอุ้มธาวินจากสายทองมือถือของเขาก็ด็มีเสียงเรียกเข้าเมื่อเห็นว
“พี่คิณทำได้อยู่แล้วค่ะพี่ชายของแพรเก่งที่สุด” ผ้าแพรเชื่อในคำพูดของคนินทร์เสมอหากพี่เธอดูมุ่งมั่นขนาดนี้เธอก็เชื่อว่าไม่นานศรีน่านจะต้องถูกจัดการแน่นอนพูดจบร่างบางก็เอียงหัวทุยซบบ่าของคนินทร์ใบหน้านวลนั้นระรื่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อรู้ว่าไม่นานคงจะมีเรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้น“แอะ...แอ้มม..” ภูผารีบกระแอมกระไอยกใหญ่เมื่อเห็นว่าภรรยาตนนั้นกำลังถึงเนื้อถึงตัวกับคนินทร์ เสียงกระแอมกระไอเสียงดังทำเอาหญิงสาวแทบจะผละตัวออกจากคนินทร์ไม่ทันเพราะรู้ว่าตัวเองเผลอตัวผิดสัญญากับภูผาเรื่องที่จะไม่ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอื่นจนเกินเหตุแม้จะนับถือเป็นพี่ก็ตาม“หึ่มๆ..” คนินทร์อมยิ้มอ่อนเขาค่อยๆยื่นมือหน้าลูบหัวผ้าแพรเบาๆเขาคิดว่าผ้าแพรนั้นระวังตัวมากแล้วหากเป็นเมื่อก่อนคงกระโดดกอดคอเขาตั้งแต่มาถึงไร่ปรานโชควันนี้เพียงฟ้าและอัสนีก็ได้เซ็นเอกสารรับธาวินเป็นลูกเสียทีหลังจากที่ให้ทนายนั้นจัดการเดินเรื่องให้อยู่หลายวัน“ตอนนี้คุณทั้งสองคนก็เป็นพ่อแม่บุญธรรมธาวินสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วนะครับ” เศรษฐาเอ่ยยินดีกับทั้งสองเมื่อธุระที่ต้องการจัดการเสร็จสิ้่นก่อนจะกลับ“ขอบคุณนะครับคุณอา” เพียงฟ้าและอัสนีรีบยกมือไหว
ครู่ต่อมา“อย่างนี้ทุกทีสิน่าลูกสาวฉัน” ธีรดลถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องหน้าลูกสาวคนโตที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ค่อนข้างปลงเมื่อรุ้เรื่องทั้งหมดจากปากคนเป็นลูก“คุณพ่ออย่าโกรธฟ้าเลยนะคะฟ้าขอโทษ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงออดอ้อนคนเป็นพ่อเช่นที่เคยทำ“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นแม่คนได้” เรื่องที่เพียงฟ้ารับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินเขาไมได้ติงอะไรแค่เขากลัวว่าเพียงฟ้าจะตัดสินใจเพียงเพราะอยากให้อัสนียื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องรีสอร์ทเท่านั้น“ฟ้าตัดสินใจแล้วค่ะ” ดวงตากลมมองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาที่มุ่มมั่น“ในเมื่อฟ้าตัดสินใจแล้วพ่อจะว่าอะไรได้...พ่อขอบอกไว้อย่างนะลูกหน้าที่แม่เป็นแล้วเลิกไม่ได้” ธีรดลพยักหน้าเบาๆและอดเตือนเพียงฟ้าไม่ได้ว่าหากลูกของเขาเลือกที่จะเป็นแม่ให้กับธาวินแล้วหน้าที่นี้มันจะคงอยู่ตลอดไปดังนั้นจะมาทำเป็นเล่นกับชีวิตคนๆนึงไม่ได้“ฟ้าเข้าใจค่ะ..เอ่อ..คุณพ่อพูดแบบนี้ไม่โกรธฟ้าใช่ไหมคะ” ธีรดลยิ้มอ่อนเขารู้ดีว่าลูกเขาอยากทำอะไรคงห้ามได้ยากคงต้องปล่อยให้เรียนรู้ผิดถูกเอาเองเพราะโตแล้ว“ขอบคุณนะคะคุณพ่อที่เข้าใจฟ้า” นับว่าตอนนี้เพียงฟ้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกนึกว่าจะโดนดุชุดใหญ่เสียอี
“ค่อยโล่งใจ..” อัสนีได้ยินเช่นนี้เขาก็พอโล่งใจที่ทุกอย่างราบรื่นแต่ดูจะไม่ราบรื่นก็ตรงที่เพียงฟ้าดูจะทำอะไรตามใจตัวเองกับบ้านของเขาจนเกินไป“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”“นี่มันบ้านผมจะมานอนบ้านผู้ชายไม่กลัวตัวเองเสียหายหรือไง” อัสนีคิดว่าหญิงสาวจะไม่ทำเรื่องอะไรให้เขาลำบากใจแล้วเสียอีกแต่คำที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อครู่ทำให้เขาต้องปวดหัวอีกรอบ“ไม่...ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแลตาวินกับคุณ...” เพียงฟ้าพูดไปยิ้มไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการไม่ยินดีกับอัสนีเลยสักนิดเพราะคนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้“ผมแค่ให้คุณเซ็นรับเป็นแม่ตาวินเฉยๆไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบเต็มหน้าที่ขนาดนี้” อัสนีเห็นว่าเขาคงต้องทวนข้อตกลงกับหญิงสาวให้เข้าใจเสียใหม่แล้วเพราะเขาไม่ได้ให้เธอทำหน้าที่ตอลดเวลาแบบนี้“ไม่รู้ล่ะไหนๆฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ธาวินแล้วยังไงฉันก็จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ...ดึกแบบนี้คุณไล่ฉันกลับไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง” ร่างบางกอดอกมองหน้าอัสนีด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์“เฮ้อ..” พ่อเลี้ยงหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองหน้าคนเอาแต่ใจพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเขาก็ต้องยอมในความเผด็จการของเพียง