สี่เดือนต่อมา
ตลอดเวลาสี่เดือนกว่าที่ผ่านมาภูผาและผ้าแพรดูจะรักกันมากขึ้นทุกวันทั้งคำพูดคำจาก็ดูสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ตอนนี้ผ้าแพรก็ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้วจึงมาอยู่ที่บ้านสวนส่วนภูผานั้นก็หาคนเก่งมาบริหารงานแทนไปก่อนเพราะต้องการพักงานยาวเพื่อดูแลคนเป็นภรรยาที่ใกล้จะคลอด
“ค่อยๆลูกค่อยๆ” พิมพรรณค่อยๆพยุงหลานเธอนั่งบนแคร่เพราะท้องที่โตเกินตัวของผ้าแพรทำให้เธอเดินเหินลุกนั่งลำบาก
“ทานผลไม้สิแพร” เป็นเช่นเคยที่ผ้าแพรอยู่ตรงไหนภูผาก็จะคอยอยู่ด้วยไม่ห่างทั้งยังหาของนั่นนี่ให้หญิงสาวได้ทานเพื่อบำรุงอยู่ตลอดเวลา
“แพรยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยค่ะพี่ภู” ผ้าแพรส่ายหัวทั้งมองสามีเธอด้วยสายตาที่อ่อนใจเพราะเขาแทบจะหาอะไรให้เธอได้ทานไม่หยุดปากจนจุกไปหมดแล้ว
“อิ่มก็ต้องทานเราอิ่มแต่ลูกอาจจะหิวก็ได้”
“.แม่อิ่มลูกก็อิ่มนั่นแหละเดี๋ยวท้องเมียเราจะแตกเอาเล่นยัดโน่นยัดนี่ให้ทานแบบนี้” พิกุลเห็นทีหากจะไม่ปรามภูผามีหวังหลานเธอคงได้อิ่มจนแทบออกปากแน่
20.30 น.
“ดิ้นเก่งแบบนี้ออกมาวิ่งเล่นก็พ่อเร็วๆสิครับลูก” ตกดึกก่อนที่จะเข้านอนภูผาจะคุยเล่นหับลูกในท้องผ้าแพรพักใหญ่และดูเหมือนเจ้าตัวเล็กในท้องจะชอบให้พ่อพูดคุยเสียเหลือเกินเมื่อได้ยินเสียงพ่อเท่านั้นก็ดิ้นถีบจนคนเป็นแม่ต้องหน้าเบ้กันเลยทีเดียว
“พี่หมอบอกว่าคงคลาดเคลื่อนจากกำหนดคลอดไม่กี่วันหรอกค่ะอดทนรออีกนิดนะคะ..อ..อืม” สิ้นเสียงคำพูดให้ภูผาได้อดทนรอผ้าแพรก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมากะทันหันจนภูผาหน้าตาตื่น
“ป..ปวดท้องเหรอแพร”
“ค่ะ” เมื่อเมียรักพยักหน้าภูผาก็รีบอุ้มเธอไปที่รถเพื่อขับไปที่โรงพยาบาลทันทีโดยไมได้บอกคนในบ้านด้วยอาการตื่นเต้น
โรงพยาบาล
ห้องคลอด
“หายใจเข้าลึกๆแล้วลองเบ่งอีกทีนะคะคุณแพร” ตอนนี้ผ้าแพรเข้ามาในห้องคลอดได้พักใหญ่แล้วโดยมีหมอน้ำมาทำคลอดเพราะเธอก็ทำงานที่โรงพยาบาลนี้ที่เปิดคลินิกก็ทำแค่นอกเวลางานเท่านั้น
“อืม..อื้อออออ” ผ้าแพรเบ่งจนหน้าดำหน้าแดงภูผาเองก็นั่งจับมือให้กำลังใจหญิงสาวอยู่ไม่ขาดยิ่งเห็นเธอเจ็บปวดเขาก็ยิ่งหน้าเสีย
“หัวออกมาแล้วค่ะ..เบ่งอีกทีนะคะ” ไม่นานทุกอย่างก็กำลังจะผ่านพ้นเมื่อเจ้าตัวเล็กนั้นหัวโผล่ออกมาแล้ว
“อื้อออออ” ผ้าแพรกลั้นใจเบ่งอีกครั้งเพื่อให้ตัวลูกของเธอออกมา
“แอ้..แง่ๆๆๆ”
“คุณพ่อคุณแม่ได้ลูกชายนะคะสมบูรณ์ดีค่ะ” พอได้เห็นหมอชูเจ้าก้อนกลมให้ทั้งสองได้ดูและได้ยินเสียงลูกร้องความเจ็บของคนเป็นแม่ก็หายเป็นปลิดทิ้งคนเป็นพ่อก็นั่งน้ำตาไหลเพราะดีใจที่เห็นลูกครั้งแรก
“เราได้ลูกชายนะแพร..จ้ำม่ำมากเลย” ริมฝีปากหนาบดจูบหน้าผากคนที่นอนเหนื่อยอ่อนด้วยความรัก
อาทิตย์ต่อมา
“ห้องนี้มันร้อนเกินไปนะครับคุณยายเดี๋ยวผมให้ช่างมาติดแอร์เพิ่มดีกว่า” ผ้าแพรกลับมาจากโรงพยาบาลได้สามสี่วนแล้วเมื่อมาถึงก็ต้องมาอยู่ที่ห้องร้อนๆแม้กระทั่งพัดลมก็เปิดไม่ได้จนภูผารู้สึกไม่ยินดีกับเรื่องนี้เท่าไรนักที่ทั้งเมียและลูกจะต้องลำบาก
“ไม่ได้ๆ” พิกุลรีบส่ายหัว
“นั่นสิตาภูติดแอร์เค้าจะเรียกว่าอยู่ไฟได้ยังไงล่ะ” สายทองเห็นทีจะพูดกับหลานชายเธอไม่เข้าใจเสียแล้วว่าการอยู่ไฟคือต้องการทำให้ร่างกายร้อนจะได้ฟื้นตัวสดชื่นได้เร็ว
“แต่ผมสงสารลูกกับเมียผมนี่ครับ” คนตัวโตเอ่ยด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด
“เด็กไม่รู้หรอกน่าว่าร้อนหรือหนาวแล้วการอยู่ไฟจะได้ให้ร่างกายหนูแพรฟื้นตัวสดชื่นโดยเร็ว”
“เอาน่าอีกสามสี่วันก็เลิกอยู่แบบนี้แล้วล่ะ” โสพิศจับบ่าลูกชายของเธอเบาๆ
เมื่อคนเป็นภรรยาต้องอยู่ในห้องร้อนๆแบบนี้แต่ภูผาก็ยังอดทนที่จะอยู่ใกล้ๆเธอไม่ห่าง
“ตาพีทานนมเก่งเหมือนกันนะ” คนเป็นพ่อนั่งมองลูกชายดูดนมไปปาดเหงื่อไปพราง
“ค่ะ..ถ้าพี่ภูร้อนก็ออกไปข้างนอกก่อนก็ได้นะคะ” ผ้าแพรเห็นสภาพสามีของเธอก็รู้สึกสงสารไม่รู้ว่าเขาจะมาทรมานตัวเองทนอุดอู้ร้อนๆอยู่ในห้องนี้กับเธอทำไม
“ไม่..แพรกับลูกอยู่ได้พี่ก็ต้องอยู่ได้” คนตัวโตส่ายหัวหากเขาไม่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียคงจะเป็นห่วงพะวงเป็นแน่ยอมรับว่าอยู่ในห้องนี้มันร้อนก็จริงแต่เมื่อหญิงสาวกับลูกอยู่ได้เขาก็ต้องอยู่ได้
สามเดือนต่อมา
20.00 น.
ตอนนี้หนูน้อยพีรวัตรก็ได้สามเดือนกว่าแล้วแถมยังจ้ำม่ำตัวเป็นปล้องจนใครเห็นก็หลงกันแทบทุกคน
“แอ้..แอ้...” เมื่อถูกคนเป็นพ่อกวนในขณะที่ดูดนมเพลินๆเจ้าก้อนกลมก็ละปากเอ่ยเสียงดุไม่พอใจ
“เล่นกับพ่อก่อนสิครับ” ภูผาที่พึ่งกลับจากการประชุมที่กรุงเทพเพียงแค่ละสายตาจากลูกไปแค่สามวันเขาก็คิดถึงใจจะขาดเมื่อกลับมาถึงลูกก็ไม่อยากเล่นด้วยจึงมีสีหน้าผิดหวังอยู่นิดหน่อย
“พรุ่งนี้ก็เล่นได้ค่ะ..เดี๋ยวลูกจะงอแงเอานะคะ” ผ้าแพรมองหน้าสามีทั้งอมยิ้มอ่อนเธอเข้าใจว่าเขาคิดถึงลูกแต่นี่จะได้เวลานอนของลูกแล้วเธอไม่อยากจะให้ภูผานั้นกวนเพราะเดี๋ยวจะพาเจ้าก้อนกลมนี่งอแง
“ก็ได้” คนตัวโตเอ่ยอู้อี้ด้วยสีหน้าผิดหวัง
ครู่ต่อมา“จะมองหน้าลูกอีกนานหรือเปล่าคะ” ผ้าแพรเห็นภูผามองลุกชายที่หลับสนิทมาพักใหญ่แล้วจึงทักขึ้น“ลูกเราน่ารักขนาดนี้พี่จะหยุดมองได้ยังไง...รู้ใช่ไหมว่าแพรกับลูกเหมือนดวงใจของพี่” คนตัวโตหันมากอดภรรยาของเขาเอาไว้หลวมๆ“แพรรู้ค่ะ..แล้วก็ขอบคุณพี่ภูมากนะคะที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีตลอดมา” มือเรียวของหญิงสาวกุมมือหนาของภูผาเอาไว้แน่นใครจะไปคิดกันว่าคนที่มีการใช้ชีวิตต่างกันราวฟ้ากับเหวจะต้องมาแต่งงานอยู่กินด้วยกันเพราะต้องมีหน้าที่ที่รับผิดชอบร่วมกันแถมสองคนยังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในเวลาอันรวดเร็วถ้าไม่ใช่พรหมลิขิตที่ขีดเอาไว้แล้วห้าเดือนต่อมาบ้านริมน้ำ“หลานป้าจ้ำม่ำที่สุดเลย” เพียงฟ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเล่นกับหลานชายตัวกลมวัยแปดเดือนของเธออยู่พักใหญ่แล้วตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่ยอมวางมือ“ทำไมลงมากรุงเทพได้ล่ะท่าทางฝนจะตกหนักใหญ่แล้วล่ะมั้ง” ภูผาเอ่ยหยอก“ฟ้ามีธุระจะคุยกับคุณพ่อนิดหน่อยน่ะค่ะ” “เรื่องอะไรเหรอคะ” ผ้าแพรอดที่จะถามเพียงฟ้าไม่ได้เพราะพี่สาวเธอมากรุงเทพได้ก็น่าจะเป็นธุระสำคัญน่าดู“พี่อยากจะทำรีสอร์ทอีกสักตั้ง” เพียงฟ้าตัดสินใจแล้วว่าเธอจะสานต่อโครงการนี้เองบ้านธีรดล
บ้านริมน้ำ“ไปเอาลูกเค้ามาแม่เค้าไปไหนล่ะ...มาให้ทวดอุ้มหน่อยสิตาวิน...ทวดคิดถึงจังเลยลูก” สายทองที่กำลังไกวเปลเหลนชายวัยแปดเดือนเมื่อเห็นภูผาอุ้มธาวินเด็กชายวัยขวบกว่าลูกของวีนาเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปอุ้มเพราะพักหลังมานี่ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไร“คือ...” ผ้าแพรมองหน้ากับคนเป็นสามีด้วยสายตาที่เป็นกังวลเพราะเรื่องที่เธอพึ่งรู้มานั้นก็ทำให้ใจเสียอยู่ไม่น้อยผ้าแพรเธอพึ่งได้รับข่าวจากศรีนวลหญิงชราข้างบ้านของวีนามาว่าวีนานั้นรักษาตัวโรคหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็เข้าขั้นโคม่าศรีนวลจึงอาสาดูธาวินเพราะสงสารหากผ้าแพรและภูผาไม่เดินทางไปที่บ้านของวีนาวันนี้ก็ไม่มีทางรู้...สาเหตุที่พาธาวินมาที่นี่เพราะเธอขอกับศรีนวลว่าจะรับธาวินมาดูแลเอง“ตายจริงทำไมชีวิตหนูวีนาถึงได้เป็นแบบนี้กันนะ” สายทองได้รับฟังเรื่องราวก็หน้าเสียอยู่ไม่น้อยพรางมองไปที่ธาวินว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้อาภัพนักพ่อก็ไม่มีแล้วแม่ก็ยังมาป่วยอีกไร่ปรานโชค“พ่อเลี้ยงจะไปไหนคะ” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เพียงฟ้านั้นมาหาพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขารีบร้อนจะออกไปข้างนอกจึงรีบลงรถและเดินมาถามเขาทันทีว่าเขากำลังจะไปที่ไหน“ผมมีธุระ” ตอนนี
“ผมอยากให้คุณจดทะเบียนเป็นพ่อแม่บุญธรรมให้กับธาวินเพราะผมกลัวว่าพ่อจริงๆของธาวินจะมารับตัวเค้าไปคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นรับผิดชอบชีวิตของใครไม่ได้แน่” พูดจบก็รีบยื่นจดหมายของวีนาให้กับหญิงสาวอ่าน ในจดหมายวีนาขอให้อัสนีรับเป็นพ่อให้กับธาวินและหาคนที่ไว้ใจได้จดทะเบียนเป็นแม่เพื่อที่ลูกของเธอจะได้มีครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ในวันที่เธอไม่อยู่ที่เธอตัดสินใจขอร้องอัสนีเช่นนี้เพราะกลัวว่าสักวันพ่อจริงๆของธาวินจะมาทวงลูกของเธอคืนซึ่งเธอคงจะต้องเสียใจมากเป็นแน่หากคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นจะมาเลี้ยงดูลูกของเธอวันต่อมาเมื่อคืนคำถามของอัสนีทำให้เพียงฟ้านั้นนอนคิดอยู่แทบทั้งคืนเธอเห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอแม้จะเป็นแม่ให้ธาวินแค่ในนามตามที่อัสนีบอกเท่านั้นแต่ในเมื่อเธอมีชื่อเป็นแม่ของเด็กคนนี้แล้วเธอก็คงจะต้องทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดข้อนี้เธอถึงคิดหนักเพราะเธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนคงต้องศึกษากับน้องสาวเธออีกเยอะ“ฉันตกลงค่ะ” เพียงฟ้าเข้ามาหาอัสนีแต่เช้าเพื่อตอบตกลงในสิ่งที่เธอครุ่นคิดมาทั้งคืน“ปรึกษาครอบครัวคุณแล้วเหรอ” อัสนีมองหน้าหญิงสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดนอนสี
วันต่อมา“แง่ๆๆๆ..แง่ๆๆๆๆ..” ธาวินร้องงอแงไม่ยอมหยุดมาพักใหญ่แล้วใครอุ้มปลอบก็เหมือนกันหมดจนตอนนี้เล่นเอาเครียดกันทั้งบ้านแล้ว“เป็นอะไรไปครับทำไมวันนี้งอแงแต่เช้าเลย” ภูผาลองอุ้มหลานชายพร้อมทั้งยื่นรถคันเล็กสีแดงของเล่นชิ้นโปรดให้ในมือเด็กชายก็ยังไม่ยอมหยุดร้องง่ายๆ“แอ้ๆ..แอ้” พีรพัตรที่นั่งอยู่บนตักของแม่เห็นคนเป็นพี่ร้องงอแงไม่หยุดก็เอื้อมมือป้อมไปที่ธาวินทั้งมองด้วยแววตาไร้เดียงสา“เราไม่กวนพี่เค้าดีกว่านะลูก” “ตัวก็ไม่ร้อนท้องก็ไม่อืดแล้วเป็นอะไรถึงร้องไม่หยุดล่ะเนี่ย..มาส่งตาวินมาให้ย่า” สายทองรับธาวินจากภูผาเพื่อที่จะลองเปลี่ยนกันอุ้มเผื่อธาวินจะลดอาการงอแงลงบ้าง“นั่นสิครับคุณย่า” ภูผายืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตาวินเป็นอะไรเหรอครับ” อัสนีได้ยินเสียงร้องตั้งแต่ยังไม่เข้ามาในบ้านเมื่อเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นของบ้านริมน้ำก็เห็นทุกคนรวมกันอยู่ที่นี่ทั้งธาวินยังร้องให้หน้าดำหน้าแดงจึงตกใจไม่น้อย“อยู่ดีๆก็ร้องครับปลอบยังไงก็ไม่หยุด” ภูผาเอ่ยเสียงอ่อนRrrrrrrrrrrrrr“ครับคุณหมอ...อ..อะไรนะครับ” ยังไม่ทันที่อัสนีจะเข้าไปอุ้มธาวินจากสายทองมือถือของเขาก็ด็มีเสียงเรียกเข้าเมื่อเห็นว
“พี่คิณทำได้อยู่แล้วค่ะพี่ชายของแพรเก่งที่สุด” ผ้าแพรเชื่อในคำพูดของคนินทร์เสมอหากพี่เธอดูมุ่งมั่นขนาดนี้เธอก็เชื่อว่าไม่นานศรีน่านจะต้องถูกจัดการแน่นอนพูดจบร่างบางก็เอียงหัวทุยซบบ่าของคนินทร์ใบหน้านวลนั้นระรื่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อรู้ว่าไม่นานคงจะมีเรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้น“แอะ...แอ้มม..” ภูผารีบกระแอมกระไอยกใหญ่เมื่อเห็นว่าภรรยาตนนั้นกำลังถึงเนื้อถึงตัวกับคนินทร์ เสียงกระแอมกระไอเสียงดังทำเอาหญิงสาวแทบจะผละตัวออกจากคนินทร์ไม่ทันเพราะรู้ว่าตัวเองเผลอตัวผิดสัญญากับภูผาเรื่องที่จะไม่ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอื่นจนเกินเหตุแม้จะนับถือเป็นพี่ก็ตาม“หึ่มๆ..” คนินทร์อมยิ้มอ่อนเขาค่อยๆยื่นมือหน้าลูบหัวผ้าแพรเบาๆเขาคิดว่าผ้าแพรนั้นระวังตัวมากแล้วหากเป็นเมื่อก่อนคงกระโดดกอดคอเขาตั้งแต่มาถึงไร่ปรานโชควันนี้เพียงฟ้าและอัสนีก็ได้เซ็นเอกสารรับธาวินเป็นลูกเสียทีหลังจากที่ให้ทนายนั้นจัดการเดินเรื่องให้อยู่หลายวัน“ตอนนี้คุณทั้งสองคนก็เป็นพ่อแม่บุญธรรมธาวินสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วนะครับ” เศรษฐาเอ่ยยินดีกับทั้งสองเมื่อธุระที่ต้องการจัดการเสร็จสิ้่นก่อนจะกลับ“ขอบคุณนะครับคุณอา” เพียงฟ้าและอัสนีรีบยกมือไหว
ครู่ต่อมา“อย่างนี้ทุกทีสิน่าลูกสาวฉัน” ธีรดลถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องหน้าลูกสาวคนโตที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ค่อนข้างปลงเมื่อรุ้เรื่องทั้งหมดจากปากคนเป็นลูก“คุณพ่ออย่าโกรธฟ้าเลยนะคะฟ้าขอโทษ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงออดอ้อนคนเป็นพ่อเช่นที่เคยทำ“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นแม่คนได้” เรื่องที่เพียงฟ้ารับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินเขาไมได้ติงอะไรแค่เขากลัวว่าเพียงฟ้าจะตัดสินใจเพียงเพราะอยากให้อัสนียื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องรีสอร์ทเท่านั้น“ฟ้าตัดสินใจแล้วค่ะ” ดวงตากลมมองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาที่มุ่มมั่น“ในเมื่อฟ้าตัดสินใจแล้วพ่อจะว่าอะไรได้...พ่อขอบอกไว้อย่างนะลูกหน้าที่แม่เป็นแล้วเลิกไม่ได้” ธีรดลพยักหน้าเบาๆและอดเตือนเพียงฟ้าไม่ได้ว่าหากลูกของเขาเลือกที่จะเป็นแม่ให้กับธาวินแล้วหน้าที่นี้มันจะคงอยู่ตลอดไปดังนั้นจะมาทำเป็นเล่นกับชีวิตคนๆนึงไม่ได้“ฟ้าเข้าใจค่ะ..เอ่อ..คุณพ่อพูดแบบนี้ไม่โกรธฟ้าใช่ไหมคะ” ธีรดลยิ้มอ่อนเขารู้ดีว่าลูกเขาอยากทำอะไรคงห้ามได้ยากคงต้องปล่อยให้เรียนรู้ผิดถูกเอาเองเพราะโตแล้ว“ขอบคุณนะคะคุณพ่อที่เข้าใจฟ้า” นับว่าตอนนี้เพียงฟ้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกนึกว่าจะโดนดุชุดใหญ่เสียอี
“ค่อยโล่งใจ..” อัสนีได้ยินเช่นนี้เขาก็พอโล่งใจที่ทุกอย่างราบรื่นแต่ดูจะไม่ราบรื่นก็ตรงที่เพียงฟ้าดูจะทำอะไรตามใจตัวเองกับบ้านของเขาจนเกินไป“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”“นี่มันบ้านผมจะมานอนบ้านผู้ชายไม่กลัวตัวเองเสียหายหรือไง” อัสนีคิดว่าหญิงสาวจะไม่ทำเรื่องอะไรให้เขาลำบากใจแล้วเสียอีกแต่คำที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อครู่ทำให้เขาต้องปวดหัวอีกรอบ“ไม่...ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแลตาวินกับคุณ...” เพียงฟ้าพูดไปยิ้มไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการไม่ยินดีกับอัสนีเลยสักนิดเพราะคนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้“ผมแค่ให้คุณเซ็นรับเป็นแม่ตาวินเฉยๆไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบเต็มหน้าที่ขนาดนี้” อัสนีเห็นว่าเขาคงต้องทวนข้อตกลงกับหญิงสาวให้เข้าใจเสียใหม่แล้วเพราะเขาไม่ได้ให้เธอทำหน้าที่ตอลดเวลาแบบนี้“ไม่รู้ล่ะไหนๆฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ธาวินแล้วยังไงฉันก็จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ...ดึกแบบนี้คุณไล่ฉันกลับไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง” ร่างบางกอดอกมองหน้าอัสนีด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์“เฮ้อ..” พ่อเลี้ยงหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองหน้าคนเอาแต่ใจพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเขาก็ต้องยอมในความเผด็จการของเพียง
“อ้าวคุณจันทร์มีเอกสารที่ต้องเซ็นเหรอครับ” อัสนีเห็นณจันทร์เขชาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานลายวันที่หญิงสาวมาที่นี่คงเป็นเรื่องเอกสารเป็นแน่“ค่ะ..”“สักครู่นะครับ..ฝากตาวินหน่อยคุณ”“อืม..ไปจัดการธุระของคุณเถอะ”ชายหนุ่มวางธาวินลงให้เพียงฟ้านั้นช่วยดูและเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อคุยธุระเรื่องงานกับณจันทร์เป็นการส่วนตัว“เธออยู่ที่นี่เหรอคะ” ในขณะที่อัสนีกำลังเซ็นเอกสารณจันทร์ก็ถือโอกาสถามเรื่องเพียงฟ้าด้วยเลยเพราะเธอรู้ว่าเพียงฟ้านั้นรับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินแต่ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่กับอัสนีด้วย“เห็นเธอว่าอย่างนั้นนะครับ” อัสนีเลยหน้าขึ้นมาให้คำตอบกับณจันทร์ครู่หนึ่งแล้วจึงก้มมองเอกสารต่อ“อ่อ..ค่ะ” ณจันทร์พยักหน้ารับเบาๆ“เรียบร้อยแล้วครับ...ช่วงนี้ผมคงไม่ค่อยได้เข้าไปที่สำนักงานคงต้องลำบากคุณจันทร์มาที่นี่บ่อยๆแล้วล่ะครับ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะจันทร์ยินดี” ณจันทร์ยิ้มอ่อนเธอไม่ได้ลำบากเลยที่จะมาที่นี่“ขอบคุณนะครับ” หลายวันต่อมา“รีสอร์ทฉันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคุณรั้วรอบขอบชิดก็มีแล้วตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้งคุณไม่ต้องลำบากส่งคนมาเฝ้าก็ได้”ว