บ้านริมน้ำ
“ไปเอาลูกเค้ามาแม่เค้าไปไหนล่ะ...มาให้ทวดอุ้มหน่อยสิตาวิน...ทวดคิดถึงจังเลยลูก” สายทองที่กำลังไกวเปลเหลนชายวัยแปดเดือนเมื่อเห็นภูผาอุ้มธาวินเด็กชายวัยขวบกว่าลูกของวีนาเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปอุ้มเพราะพักหลังมานี่ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไร
“คือ...” ผ้าแพรมองหน้ากับคนเป็นสามีด้วยสายตาที่เป็นกังวลเพราะเรื่องที่เธอพึ่งรู้มานั้นก็ทำให้ใจเสียอยู่ไม่น้อย
ผ้าแพรเธอพึ่งได้รับข่าวจากศรีนวลหญิงชราข้างบ้านของวีนามาว่าวีนานั้นรักษาตัวโรคหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็เข้าขั้นโคม่าศรีนวลจึงอาสาดูธาวินเพราะสงสารหากผ้าแพรและภูผาไม่เดินทางไปที่บ้านของวีนาวันนี้ก็ไม่มีทางรู้...สาเหตุที่พาธาวินมาที่นี่เพราะเธอขอกับศรีนวลว่าจะรับธาวินมาดูแลเอง
“ตายจริงทำไมชีวิตหนูวีนาถึงได้เป็นแบบนี้กันนะ” สายทองได้รับฟังเรื่องราวก็หน้าเสียอยู่ไม่น้อยพรางมองไปที่ธาวินว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้อาภัพนักพ่อก็ไม่มีแล้วแม่ก็ยังมาป่วยอีก
ไร่ปรานโชค
“พ่อเลี้ยงจะไปไหนคะ” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เพียงฟ้านั้นมาหาพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขารีบร้อนจะออกไปข้างนอกจึงรีบลงรถและเดินมาถามเขาทันทีว่าเขากำลังจะไปที่ไหน
“ผมมีธุระ” ตอนนี้อัสนีมีธุระด่วนไม่ได้ว่างมาคุยเล่นกับหญิงสาวเขาจึงไม่ได้ใส่ใจที่จะสนทนากับเธอนัก
“ฉันไปด้วยค่ะ” เพียงฟ้ารีบวิ่งมาดักหน้าอัสนีก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“ผมจะบินไปกรุงเทพคุณอย่าพึ่งมากวนผมได้หรือเปล่า” อัสนียืนเท้าเอวมองเพียงฟ้าด้วยสายตาที่ค่อนข้างระอาอยู่ไม่น้อยไม่เคยเห็นใครที่โตแล้วเอาแต่ใจอย่างเพียงฟ้ามาก่อนเลยในชีวิต
“ไม่อยากให้กวนก็รับปากว่าจะช่วยฉันสิคะ” เพียงฟ้ายกยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เพราะเวลานี้เหมาะที่สุดที่เขาจะต่อรองกับชายหนุ่ม
“ไม่..” อัสนีรู้ทันเพียงฟ้าว่าเธอกำลังใช้สถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ให้เขานั้นตอบตกลงแต่มีหรือคนอย่างเขาจะตอบตกลงง่ายๆ
“งั้นฉันตามไปด้วย” เพียงฟ้าขมวดคิ้วหากเขาใจแข็งเช่นนี้เธอก็ไม่ย่อท้อถ้าเขาทนรำคาญเธอได้ก็ทนไป
กรุงเทพมหานคร
โรงพยาบาล
“อาการของเธอเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” ภูผาคุยกับหมอเจ้าของไข้ของวีนาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักเพราะไม่คิดว่าอาการของวีนาจะหนักจนถึงขั้นไม่ตอบสนองอะไรแล้ว
“ตอนนี้เธอไม่ตอบสนองอะไรแล้วครับเธอปล่อยให้อาการหนักเกินกว่าจะเยียวยาแล้วเธอก็ยังมีโรคอื่นแทรกซ้อนอยู่ด้วย” หมอหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงอ่อนตอนนี้อาการข้างเคียงโรคหัวใจของวีนานั้นมีมากพอสมควรตอนนี้ไตก็เสื่อมแถมเส้นเลือดในสมองที่ตีบก็ยังผ่าตัดไม่ได้เพราะร่างกายนั้นไม่แข็งแรงพอที่จะให้ผ่าตัด
“ผมพร้อมจ่ายค่ารักษาทั้งหมดนะครับหมอไม่ว่าจะเท่าไร”
“..ตอนนี้ก็ยื้อเธอไว้ให้นานที่สุดก่อนที่ญาติของเธอจะมาถึงครับ..” สายตาของหมอหนุ่มตอนนี้ไม่มีความหวังให้ผ้าแพรกับภูผาเลยแม้แต่น้อย
“ญาติ” ภูผาขมวดคิ้วมองหน้ากับคนเป็นภรรยาเมื่อได้ยินหมอหนุ่มพูดถึงญาติของวีนา
“พี่ภูกับแพรมาทำอะไรที่นี่คะ” เพียงฟ้าตามอัสนีมาถึงโรงพยาบาลในกรุงเทพเธอค่อนข้างมีสีหน้าที่แปลกใจอยู่มากเมื่อเห็นผ้าแพรและภูผายืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับหมอหนุ่มที่หน้าห้องไอซียู
...เมื่ออัสนีแจ้งกับหมอว่าเขาเป็นญาติของวีนาที่มีพยาบาลติดต่อไปทุกคนต่างก็ตกใจไม่คิดว่าอัสนีกับวีนาจะเป็นญาติกันเพราะวีนาไม่เคยเอ่ยถึงญาติของเธอเลย
วีนาเป็นลูกของลุงอัสนี..ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีวีนาเป็นพี่สาวที่คอยดูแลตลอดมาจวบจนลุงของเขาเสียเมื่อเขาจบม.ต้น แม่ของวีนาจึงพาวีนาย้ายออกไปจากไร่และไม่ได้ส่งข่าวคราวมาอีกเลยว่าอยู่ที่ไหนเป็นอย่างไรบ้างตอนนั้นทำเอาเขาหงอยไปเป็นปีๆ..จนวันนี้ที่พยาบาลโทรไปหาเขาทำให้เขาได้มาเจอพี่สาวของเขาในเวลาที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร
“คนที่โทรไปเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลครับเธอทำตามสิ่งที่คุณวีนาได้เขียนสั่งเอาไว้ว่าหากเธอไม่ตอบสนองอะไรแล้วให้ติดต่อคุณและมอบจดหมายนี้ให้คุณครับ” หมอหนุ่มว่าจบก็ยื่นจดหมายสีขาวให้กับมือของอัสนี
ครู่ต่อมา
“บังเอิญจังเลยนะคะ” เมื่ออัสนีเข้าไปดูอาการของวีนาในห้องไอซียูเพียงฟ้าก็ออกมาคุยกับภูผาและผ้าแพรรออัสนีอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆกับโรงพยาบาล
“โลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอกฟ้าทั้งหมดมันได้ขีดเอาไว้หมดแล้ว” ภูผาเอ่ยจบก็ยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นมาจิบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันคือสิ่งที่ฟ้ากำหนดเอาไว้แล้ว
20.00 น.
โรงแรมXXX
เพียงฟ้าเห็นว่าอัสนียังไม่ได้จองที่พักเพราะรีบมากะทันหันหลังจากที่อัสนีอยู่ดูอาการวีนาเรียบร้อยแล้วเธอจึงพาชายหนุ่มมาพักที่โรงแรมของพ่อเธอ
“หดหู่น่าดูเลยสินะ...” เพียงฟ้านั่งขมวดคิ้วมองหน้าอัสนีบนโซฟาในห้องพักของชายหนุ่มเธอเห็นอัสนีหน้าเจื่อนเป็นหมาหงอยตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้วเธอเลยพลอยหดหู่ไปด้วย
“เธอเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆของผมไม่คิดว่าเธอจะต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้เลย” อัสนีก้มหน้างุดเอ่ยเสียงอ่อนในมือข้างขวายังคงกำจดหมายที่วีนาเขียนเอาไว้ให้แน่น
“คุณก็คิดอีกแง่สิอย่างน้อยคุณก็ยังมีตัวแทนของพี่คุณอยู่อีกอย่างก็ยังมีเวลาดูใจพี่คุณก่อนที่เธอจะจากไป” เพียงฟ้าเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยๆยื่นมือจับบ่าอีกฝ่ายเธอรู้จะสรรหาคำไหนมาพูดให้เขาสบายใจได้ที่ดีที่สุดเธอก็หาข้อดีได้เท่านี้
“ถ้าผมยอมช่วยคุณเรื่องที่คุณขอร้องแล้วคุณจะยอมทำตามที่ผมบอกได้หรือเปล่า” อัสนีถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเงยหน้ามาจ้องหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“คุณจะให้ฉันทำอะไร” เพียงฟ้าไม่ค่อยเข้าใจที่ชายหนุ่มเอ่ยมานัก
“ผมอยากให้คุณจดทะเบียนเป็นพ่อแม่บุญธรรมให้กับธาวินเพราะผมกลัวว่าพ่อจริงๆของธาวินจะมารับตัวเค้าไปคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นรับผิดชอบชีวิตของใครไม่ได้แน่” พูดจบก็รีบยื่นจดหมายของวีนาให้กับหญิงสาวอ่าน ในจดหมายวีนาขอให้อัสนีรับเป็นพ่อให้กับธาวินและหาคนที่ไว้ใจได้จดทะเบียนเป็นแม่เพื่อที่ลูกของเธอจะได้มีครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ในวันที่เธอไม่อยู่ที่เธอตัดสินใจขอร้องอัสนีเช่นนี้เพราะกลัวว่าสักวันพ่อจริงๆของธาวินจะมาทวงลูกของเธอคืนซึ่งเธอคงจะต้องเสียใจมากเป็นแน่หากคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นจะมาเลี้ยงดูลูกของเธอวันต่อมาเมื่อคืนคำถามของอัสนีทำให้เพียงฟ้านั้นนอนคิดอยู่แทบทั้งคืนเธอเห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอแม้จะเป็นแม่ให้ธาวินแค่ในนามตามที่อัสนีบอกเท่านั้นแต่ในเมื่อเธอมีชื่อเป็นแม่ของเด็กคนนี้แล้วเธอก็คงจะต้องทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดข้อนี้เธอถึงคิดหนักเพราะเธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนคงต้องศึกษากับน้องสาวเธออีกเยอะ“ฉันตกลงค่ะ” เพียงฟ้าเข้ามาหาอัสนีแต่เช้าเพื่อตอบตกลงในสิ่งที่เธอครุ่นคิดมาทั้งคืน“ปรึกษาครอบครัวคุณแล้วเหรอ” อัสนีมองหน้าหญิงสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดนอนสี
วันต่อมา“แง่ๆๆๆ..แง่ๆๆๆๆ..” ธาวินร้องงอแงไม่ยอมหยุดมาพักใหญ่แล้วใครอุ้มปลอบก็เหมือนกันหมดจนตอนนี้เล่นเอาเครียดกันทั้งบ้านแล้ว“เป็นอะไรไปครับทำไมวันนี้งอแงแต่เช้าเลย” ภูผาลองอุ้มหลานชายพร้อมทั้งยื่นรถคันเล็กสีแดงของเล่นชิ้นโปรดให้ในมือเด็กชายก็ยังไม่ยอมหยุดร้องง่ายๆ“แอ้ๆ..แอ้” พีรพัตรที่นั่งอยู่บนตักของแม่เห็นคนเป็นพี่ร้องงอแงไม่หยุดก็เอื้อมมือป้อมไปที่ธาวินทั้งมองด้วยแววตาไร้เดียงสา“เราไม่กวนพี่เค้าดีกว่านะลูก” “ตัวก็ไม่ร้อนท้องก็ไม่อืดแล้วเป็นอะไรถึงร้องไม่หยุดล่ะเนี่ย..มาส่งตาวินมาให้ย่า” สายทองรับธาวินจากภูผาเพื่อที่จะลองเปลี่ยนกันอุ้มเผื่อธาวินจะลดอาการงอแงลงบ้าง“นั่นสิครับคุณย่า” ภูผายืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตาวินเป็นอะไรเหรอครับ” อัสนีได้ยินเสียงร้องตั้งแต่ยังไม่เข้ามาในบ้านเมื่อเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นของบ้านริมน้ำก็เห็นทุกคนรวมกันอยู่ที่นี่ทั้งธาวินยังร้องให้หน้าดำหน้าแดงจึงตกใจไม่น้อย“อยู่ดีๆก็ร้องครับปลอบยังไงก็ไม่หยุด” ภูผาเอ่ยเสียงอ่อนRrrrrrrrrrrrrr“ครับคุณหมอ...อ..อะไรนะครับ” ยังไม่ทันที่อัสนีจะเข้าไปอุ้มธาวินจากสายทองมือถือของเขาก็ด็มีเสียงเรียกเข้าเมื่อเห็นว
“พี่คิณทำได้อยู่แล้วค่ะพี่ชายของแพรเก่งที่สุด” ผ้าแพรเชื่อในคำพูดของคนินทร์เสมอหากพี่เธอดูมุ่งมั่นขนาดนี้เธอก็เชื่อว่าไม่นานศรีน่านจะต้องถูกจัดการแน่นอนพูดจบร่างบางก็เอียงหัวทุยซบบ่าของคนินทร์ใบหน้านวลนั้นระรื่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อรู้ว่าไม่นานคงจะมีเรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้น“แอะ...แอ้มม..” ภูผารีบกระแอมกระไอยกใหญ่เมื่อเห็นว่าภรรยาตนนั้นกำลังถึงเนื้อถึงตัวกับคนินทร์ เสียงกระแอมกระไอเสียงดังทำเอาหญิงสาวแทบจะผละตัวออกจากคนินทร์ไม่ทันเพราะรู้ว่าตัวเองเผลอตัวผิดสัญญากับภูผาเรื่องที่จะไม่ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอื่นจนเกินเหตุแม้จะนับถือเป็นพี่ก็ตาม“หึ่มๆ..” คนินทร์อมยิ้มอ่อนเขาค่อยๆยื่นมือหน้าลูบหัวผ้าแพรเบาๆเขาคิดว่าผ้าแพรนั้นระวังตัวมากแล้วหากเป็นเมื่อก่อนคงกระโดดกอดคอเขาตั้งแต่มาถึงไร่ปรานโชควันนี้เพียงฟ้าและอัสนีก็ได้เซ็นเอกสารรับธาวินเป็นลูกเสียทีหลังจากที่ให้ทนายนั้นจัดการเดินเรื่องให้อยู่หลายวัน“ตอนนี้คุณทั้งสองคนก็เป็นพ่อแม่บุญธรรมธาวินสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วนะครับ” เศรษฐาเอ่ยยินดีกับทั้งสองเมื่อธุระที่ต้องการจัดการเสร็จสิ้่นก่อนจะกลับ“ขอบคุณนะครับคุณอา” เพียงฟ้าและอัสนีรีบยกมือไหว
ครู่ต่อมา“อย่างนี้ทุกทีสิน่าลูกสาวฉัน” ธีรดลถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องหน้าลูกสาวคนโตที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ค่อนข้างปลงเมื่อรุ้เรื่องทั้งหมดจากปากคนเป็นลูก“คุณพ่ออย่าโกรธฟ้าเลยนะคะฟ้าขอโทษ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงออดอ้อนคนเป็นพ่อเช่นที่เคยทำ“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นแม่คนได้” เรื่องที่เพียงฟ้ารับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินเขาไมได้ติงอะไรแค่เขากลัวว่าเพียงฟ้าจะตัดสินใจเพียงเพราะอยากให้อัสนียื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องรีสอร์ทเท่านั้น“ฟ้าตัดสินใจแล้วค่ะ” ดวงตากลมมองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาที่มุ่มมั่น“ในเมื่อฟ้าตัดสินใจแล้วพ่อจะว่าอะไรได้...พ่อขอบอกไว้อย่างนะลูกหน้าที่แม่เป็นแล้วเลิกไม่ได้” ธีรดลพยักหน้าเบาๆและอดเตือนเพียงฟ้าไม่ได้ว่าหากลูกของเขาเลือกที่จะเป็นแม่ให้กับธาวินแล้วหน้าที่นี้มันจะคงอยู่ตลอดไปดังนั้นจะมาทำเป็นเล่นกับชีวิตคนๆนึงไม่ได้“ฟ้าเข้าใจค่ะ..เอ่อ..คุณพ่อพูดแบบนี้ไม่โกรธฟ้าใช่ไหมคะ” ธีรดลยิ้มอ่อนเขารู้ดีว่าลูกเขาอยากทำอะไรคงห้ามได้ยากคงต้องปล่อยให้เรียนรู้ผิดถูกเอาเองเพราะโตแล้ว“ขอบคุณนะคะคุณพ่อที่เข้าใจฟ้า” นับว่าตอนนี้เพียงฟ้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกนึกว่าจะโดนดุชุดใหญ่เสียอี
“ค่อยโล่งใจ..” อัสนีได้ยินเช่นนี้เขาก็พอโล่งใจที่ทุกอย่างราบรื่นแต่ดูจะไม่ราบรื่นก็ตรงที่เพียงฟ้าดูจะทำอะไรตามใจตัวเองกับบ้านของเขาจนเกินไป“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”“นี่มันบ้านผมจะมานอนบ้านผู้ชายไม่กลัวตัวเองเสียหายหรือไง” อัสนีคิดว่าหญิงสาวจะไม่ทำเรื่องอะไรให้เขาลำบากใจแล้วเสียอีกแต่คำที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อครู่ทำให้เขาต้องปวดหัวอีกรอบ“ไม่...ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแลตาวินกับคุณ...” เพียงฟ้าพูดไปยิ้มไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการไม่ยินดีกับอัสนีเลยสักนิดเพราะคนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้“ผมแค่ให้คุณเซ็นรับเป็นแม่ตาวินเฉยๆไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบเต็มหน้าที่ขนาดนี้” อัสนีเห็นว่าเขาคงต้องทวนข้อตกลงกับหญิงสาวให้เข้าใจเสียใหม่แล้วเพราะเขาไม่ได้ให้เธอทำหน้าที่ตอลดเวลาแบบนี้“ไม่รู้ล่ะไหนๆฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ธาวินแล้วยังไงฉันก็จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ...ดึกแบบนี้คุณไล่ฉันกลับไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง” ร่างบางกอดอกมองหน้าอัสนีด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์“เฮ้อ..” พ่อเลี้ยงหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองหน้าคนเอาแต่ใจพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเขาก็ต้องยอมในความเผด็จการของเพียง
“อ้าวคุณจันทร์มีเอกสารที่ต้องเซ็นเหรอครับ” อัสนีเห็นณจันทร์เขชาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานลายวันที่หญิงสาวมาที่นี่คงเป็นเรื่องเอกสารเป็นแน่“ค่ะ..”“สักครู่นะครับ..ฝากตาวินหน่อยคุณ”“อืม..ไปจัดการธุระของคุณเถอะ”ชายหนุ่มวางธาวินลงให้เพียงฟ้านั้นช่วยดูและเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อคุยธุระเรื่องงานกับณจันทร์เป็นการส่วนตัว“เธออยู่ที่นี่เหรอคะ” ในขณะที่อัสนีกำลังเซ็นเอกสารณจันทร์ก็ถือโอกาสถามเรื่องเพียงฟ้าด้วยเลยเพราะเธอรู้ว่าเพียงฟ้านั้นรับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินแต่ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่กับอัสนีด้วย“เห็นเธอว่าอย่างนั้นนะครับ” อัสนีเลยหน้าขึ้นมาให้คำตอบกับณจันทร์ครู่หนึ่งแล้วจึงก้มมองเอกสารต่อ“อ่อ..ค่ะ” ณจันทร์พยักหน้ารับเบาๆ“เรียบร้อยแล้วครับ...ช่วงนี้ผมคงไม่ค่อยได้เข้าไปที่สำนักงานคงต้องลำบากคุณจันทร์มาที่นี่บ่อยๆแล้วล่ะครับ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะจันทร์ยินดี” ณจันทร์ยิ้มอ่อนเธอไม่ได้ลำบากเลยที่จะมาที่นี่“ขอบคุณนะครับ” หลายวันต่อมา“รีสอร์ทฉันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคุณรั้วรอบขอบชิดก็มีแล้วตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้งคุณไม่ต้องลำบากส่งคนมาเฝ้าก็ได้”ว
“ตาวินเป็นอะไรคะ” เพียงฟ้าได้ยินเสียงร้องของธาวินดังขึ้นจึงรีบวิ่งเข้ามาในบ้านหน้าตาตื่นอย่างรวดเร็ว“ลูกอมในโหลนี่ของคุณใช่หรือเปล่า” อัสนีมองต่ำไปที่พื้นทั้งพูดกับเพียงฟ้าเสียงแข็ง“อืมใช่..” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับว่าเจ้าโถลูกอมเป็นของเธอแต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำไมมาอยู่กับพื้นได้“คุณเกือบทำให้ตาวินตายแล้วรู้ตัวหรือเปล่าผมไม่น่าไว้ใจคุณเลย” “ฮือๆๆๆ”“ฉันทำอะไร” สองหนุ่มสาวสาดอารมณ์ใส่กันในขณะที่ธาวินยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด“ก็ไอ้นี่มันอยู่ในคอตาวินไงดีนะที่ลุงพันช่วยไว้ทัน” อัสนีหยิบลูกอมชิ้นที่ติดคอธาวินเมื่อครู่ชูให้เพียงฟ้าได้ดู“แต่โหลแก้วนี่ฉันจำได้ว่าเอาไว้บนโต๊ะนี่คะ” เพียงฟ้าค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้หยิบโถลูกอมลงมาเพราะเธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อธาวินนั่งเล่นอยู่กับพื้น“ยังจะแก้ตัวอีกแค่ยอมรับว่าตัวเองผิดมันยากนักหรือไง” อัสนีแผดเสียงฝาดจนเพียงฟ้าสะดุ้งตัวโยนพูดอะไรไม่ออก“ใจเย็นๆกันก่อนเถอะครับ” ประพันธ์เห็นท่าอัสนีจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จึงอาศัยความเป็นผู้ใหญ่ของตนปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาก็เข้าใจว่าเพียงฟ้าคงไมได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกันจี๊ดๆๆๆ“อีตา
“ผมไม่เคยพูดเล่น”“คุณอัส..เมื่อวานฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นเลยนะคะฉันก็เสียใจเหมือนกันในที่ตาวินต้องเจ็บเพราะฉัน”“ออกไปได้แล้ว” อัสนียังคงยืนยันเสียงแข็งสิ้นเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มดวงตากลมโตของหญิงสาวก็เหลือบมองเด็กชายที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ตาละห้อยหากตอนนี้เธอต้องไปจริงๆคงคิดถึงธาวินแย่แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมใจอ่อนให้เธอขนาดนี้อยู่ไปก็คงจะอึดอัดกันน่าดูจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินหันหลังออกไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว“แม่..แม่..” เด็กชายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่พร้อมมองตาแป๋วด้วยความไร้เดียงสา“ครับลูก” เพียงฟ้าแทบน้ำตาตกเมื่อได้ยินธาวินเรียกเธอเอาไว้“ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย” อัสนีกัดฟันกรอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันไปบอกกับหญิงสาวเสียงแข็ง“ฉันจะรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีค่ะ” ริมฝีปากบางที่กำลังบุ้ยอยู่คราแรกตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจรีบสัญญากับอีกฝ่ายว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ธาวินมีอันตรายอย่างครั้งก่อนแน่นอนหลายวันต่อมาเพียงฟ้าและอัสนีได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกเกือบเดือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆจนทั้งคู่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแต่ก็ยังไม่มีใครรู้คว