Share

ตอนที่39

“พวกแกมาทำอะไรที่นี่” ภูผาพึ่งกลับมาถึงบ้านเห็นแดเนียลกับปกรณ์นั่งคุยอยู่กับผ้าแพรหัวร่อต่อกระซิกจึงรีบเข้ามาหย่อนก้นนั่งข้างๆคนเป็นภรรยาใบหน้าคมมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไรเพราะเพื่อนของเขามาที่นี่โดยไม่บอกไม่กล่าว

“เอาผ้าไหมลายใหม่มาให้คุณย่าน่ะสิแดนมันว่างพอดีฉันเลยชวนมันมากะทันหันไม่ทันได้บอก”

“เดี๋ยวนี้แกกลับบ้านเร็วเป็นด้วยเหรอวะ” แดเนียลเอ่ยจบก็หันไปยิ้มอ่อนกับปกรณ์

“ไม่มีอะไรสำคัญก็เลยกลับ” ใบหน้าคมยังมีสีหน้าที่ตึงเล็กน้อยเหตุด้วยยังไม่หายเคืองใจที่สองหนุ่มเพื่อนเขาเข้ามาคุยกับภรรยาเขาอย่างสนิทสนม

ครู่ต่อมา

ตอนนี้ผ้าแพรปล่อยให้สามหนุ่มได้นั่งคุยกันตามประสาเพื่อนโดยเธอขอปลีกตัวไปเตรียมของว่างให้ทั้งสามอยู่ในครัว

“เฮ้ย..ฉันเห็นในแถลงแกพูดจริงเหรอวะ...เปลี่ยนเป็นสนใจเมียแกแค่คนเดียวได้จริงเหรอ” ปกรณ์ว่าจะคุยเรื่องนี้กับภูผานานแล้วเมื่อเห็นผ้าแพรปลีกตัวออกไปเลยได้จังหวะถามต่อหน้า

“แกเคยเห็นฉันโกหกหรือไง..ฉันคือคนที่ชัดเจนกับคำพูดและการกระทำสุดแล้ว” ภูผาพยักหน้าเบาๆเขาเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจนรักก็รักไม่รักก็บอกไม่รักไม่ชอบเก็บความรู้สึก

“ฉันดีใจนะที่แกเปลี่ยนได้แล้วน้องแพรล่ะเค้าคิดยังไงกับแก” แดเนียลเชื่อในความรู้สึกของภูผาแต่เขาอยากรู้ว่าผ้าแพรจะคิดเหมือนเพื่อนของเขาหรือไม่หากเป็นไปได้ทุกอย่างจะดูลงตัวมาก

“ไม่รู้เหมือนกัน...แต่ฉันเชื่อว่าฉันทำให้แพรรักฉันได้เร็วๆนี้” ภูผาอมยิ้มทุกวันนี้เขาก็หยอดเธอเช้าเย็นไม่มีใจให้เขาได้ก็ให้มันรู้ไป

“มั่นใจซะเหลือเกินนะรักกันได้ก็ดีแล้วก้อย่าให้มีเล็ดมีลอดออกมาอีกล่ะเรื่องข่าวกับผู้หญิงอื่น” ปกรณ์เอ่ยหยอกภูผา

“ไม่มีหรอกน่าผู้หญิงที่ฉันเคยยุ่งฉันตัดออกจากชีวิตไปหมดแล้ว”

“แล้วแม่เลขาใกล้ตัวแกล่ะ” แดเนียลยังคิดว่าภูผาน่าจะตัดกับผู้หญิงที่เคยยุ่งเกี่ยวออกไม่หมดเพราะยังเก็บอีกคนใกล้ตัว

“เรื่องฉันกับเมฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดแล้วเธอก็เป็นคนบอกฉันเองว่าให้ลืมๆเรื่องนี้ไปตอนนี้ก็เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น” ภูผาไม่ได้คิดอะไรกับมิรันตีตั้งแต่แรกที่นอนด้วยกันครั้งนั้นก็เพราะว่าเขาเมาและหญิงสาวก็เป็นคนบอกเองว่าให้จบเรื่องนี้ไป

“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีไปเพราะฉันคิดว่าถ้าแกกับน้องแพรอยู่กันนานกว่านี้ความรู้สึกรักผูกพันคงต้องมีแน่แล้วถ้าเรื่องแกเคยมีสัมพันธ์กับเลขาตัวเองแดงขึ้นมาคนที่เสียใจที่สุดก็คือน้องแพร” แดเนียลอดที่จะเอ่ยเตือนเรื่องนี้กับภูผาไม่ได้เขาคิดว่าอารมณ์ผู้หญิงมันไม่แน่ไม่นอนยิ่งทำงานด้วยกันทุกวันความรู้สึกอะไรๆมันก็อาจจะเปลี่ยนไปได้

“อืม..” ภูผาเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยคิดเรื่องมิรันตีแต่เขาก็เชื่อในคำยืนยันของหญิงสาวว่าเธอจะไม่คิดอะไรกับเขาหากมีอะไรเปลี่ยนไปเขาก็คงจะจัดการตัดเธอออกไปเองไม่ให้เรื่องถึงหูผ้าแพรให้เธอทุกข์ใจแน่นอน

หลังจากที่สองหนุ่มภูผาและปกรณ์กลับกันไปแล้วผ้าแพรก็ชวนภูผาออกมาเดินเล่นที่ริมแม่น้ำเงียบๆกันสองคนในช่วงเย็นที่บรรยากาศดีๆ

“วันหลังแพรจะชวนพี่ๆไปที่บ้านสวนคุณภูว่าดีหรือเปล่าคะ” หญิงสาวอยากจะชวนชายหนุ่มทั้งสงไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอเพราะเห็นว่าสนิทสนมกันดีแล้ว

“มันไม่ค่อยว่างไม่ต้องไปชวนมันหรอก” ภูผาขมวดคิ้วรีบปฏิเสธเสียงแข็งเขาอยากจะให้สองคนนั้นอยู่ห่างผ้าแพรจะตายมีหรือจะยอม

“ก็ได้ค่ะ...คุณภูคะ” มือน้อยเอื้อมไปเขย่าแขนแกร่งของคนที่เดินข้างๆเบาๆ

“อะไรเหรอ” ดวงตาคมมองคนข้างๆด้วยสายตาสงสัย

“เวลาที่คุณภูอยู่ใกล้แพรรู้สึกยังไงคะใจสั่นหรือเปล่า” ผ้าแพรหยุดฝีเท้าแล้วเงยหน้ามองชายหนุ่มเบิกดวงตากลมโตด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ถามจบก็ก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่ายเล็กน้อย

“ลองเข้ามาใกล้อีกสิ”  ภูผาอมยิ้มอ่อนทั้งรวบร่างบางเข้ามากอดก้มหน้ามองคนที่กำลังอมยิ้มก้มหน้างุดด้วยสายตาหยาดเยิ้ม

“คุณภู..”  ผ้าแพรหน้าชาวาบที่จู่ๆชายหนุ่มก็รวงบกอดเธอในที่โจ่งแจ้งเช่นนี้พลันสายตากลมโตก็เหลือบมองซ้ายมองขวากลัวว่าใครจะมาเห็น

“แทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกอยู่แล้วทำไมถึงอยากรู้ว่าฉันอยู่ใกล้เธอแล้วจะใจสั่น” มือหน้าเอื้อมดึงมือน้อยขึ้นมาวางตรงหัวใจที่มันกลังเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาด้านนอกทั้งยังเอ่ยเสียงแหบพร่าข้างๆใบหูของหญิงสาวว่าทำไมเธอถึงได้มาถามเขาเรื่องนี้

“คุณย่าบอกว่า...ถ้ามีความรู้สึกรักใครก็จะใจสั่นคิดถึงคนๆนั้นตลอดไม่ว่าทุกข์หรือสุข” ดวงตากลมเลยมองคนที่กอดได้เพียงน้อยก็ต้องหลบสายตาเพราะรู้สึกเขินจนเริ่มทำตัวไม่ถูก

“แล้วเธอล่ะรู้สึกยังไง”

ฟอดดด  เมื่อถามจบคนตัวโตก็กดจมูกโด่งหอมที่แก้มนวลฟอดใหญ่

“คุณภู” มือน้อยทั้งสองยกขึ้นมาจับแก้มตัวเองที่กำลังเห่อร้อนผ่าว

“หน้าแดงขนาดนี้คงไม่ต่างจากฉันหรอกมั้ง” ภูผาเชยคางใบหน้านวลพยายามให้เธอเงยหน้ามามองเขาให้ได้ด้วยอาการขบขันอันที่จริงเขารู้ได้ตั้งแต่ที่หญิงสาวมาถามเขาแบบนี้แล้วต่างหากเพราะถ้าเธอไม่มีความรู้สึกคงไม่ใส่ใจจะถามเป็นแน่

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status