ในเมื่อจัดการเรียบเรียงความคิดตัวเองได้แล้ว สิ่งที่จะต้องทำก็คือการไปที่ไร่พูนสุข
เธอไม่ได้อยากเจอพี่เตลองซ์ แต่ที่ต้องไปที่นั่นเพราะว่าพื้นที่ ที่อลิสาจะตัดใจขายมันอยู่ติดกับไร่พูนสุขพอดี ในระหว่างที่อลิสากำลังจะเดินออกมาจากออฟฟิต ฟ้าด้านนอกก็เริ่มสว่างแล้ว “คุณลิสา จะไปไหนแต่เช้าคะ” อลิสาส่งยิ้มให้พี่นก แม่บ้านของที่นี่ “หนูว่าจะไปที่ไร่พูนสุขค่ะ มีงานที่จะต้องไปคุยที่นั่นพอดี” “ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะคุณหนู วันนี้เป็นวันพระ ที่ไร่พูนสุขในช่วงเช้าไม่น่าจะมีคนอยู่ เพราะทุกคนน่าจะไปที่วัดกันหมด คุณลิสาเองก็แวะไปที่วัดพร้อมกับคุณยายก่อนสิคะ แล้วค่อยไปคุยงาน” อลิสาเหลือบมองปฏิทินก็พบว่าวันนี้เป็นวันพระ เธอเดินเข้าไปหาพี่นกเพื่อช่วยแม่บ้านถือกับข้าวมาใส่รถเอาไว้ “ปกติแล้วคนที่นี่จะไปวัดในทุกวันพระเลยใช่ไหมคะ” พี่นกพยักหน้าเบาๆ “ใช่แล้วค่ะ ในวันพระ ไม่ว่าจะเป็นคนงานในไร่หรือว่าเจ้าของสวนต่างก็จะต้องเดินทางไปที่วัดก่อน แล้วถึงจะแยกย้ายกันไปทำงาน” เธอไม่ได้อยู่ที่นี่มานานนับสิบปีเลยสินะ ถึงได้หลงลืมความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านไปจนเกือบหมดสิ้น ยายเดินลงบันไดมาพร้อมกับรอยยิ้ม หากดูภายนอกคุณยายอุดมของเธอนั้นยังแข็งแรงมากๆ เลยล่ะ หากว่ายายไม่ได้เป็นอันไซเมอร์ ป่านนี้ยายคงจะกำลังช่วยเธอยื้อไร่นี้จนสุดกำลังเหมือนกัน แต่การที่ยายเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะว่ายายจะมีความสุขในโลกของยาย ยายเหนื่อยเพราะเธอมามากแล้วมันคงจะถึงเวลาที่เธอต้องทำเพื่อยายบ้าง “วันนี้ลิสาจะไปวัดกับยายเองนะคะ” ยายอุดมหัวเราะเบาๆ “ได้สิๆ ไม่รู้ว่าวันนี้ที่วัดมีข้าวต้มมัดรึเปล่า ลิสาของยายชอบกินข้าวต้มมัดมากเลยนี่ เอาอย่างนี้นะ ในตอนที่เรากลับมาจากวัดแล้วให้ส้มแป้นไปตัดกล้วยมาห่อข้าวต้มดีไหม แบบไม่ใส่ถั่วที่ลิสาชอบไง” ถึงแม้ว่ายายจะจำเรื่องราวอย่างอื่นไม่ค่อยได้ แต่พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับเธอ..ยายกลับจำได้อย่างแม่นยำเลย “ได้สิคะ ตอนนี้ยายเดินไปขึ้นรถก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวไปสายนะ” “ว่าแต่ลิสาจะไปชุดนี้เหรอ นี่นก ให้ส้มแป้นหาผ้าถุงให้ลิสาใส่หน่อยสิ ไม่มีผู้หญิงที่ไหนใส่กางเกงไปวัดหรอกนะ” หลังจากนั้นพี่ส้มแป้นก็ฉุดมือของเธอขึ้นไปบนบ้าน “วันนี้เป็นวันแรกที่คุณหนูจะเปิดตัวในหมู่บ้านของเรา หลานยายอุดมทั้งทีจะต้องสวยที่สุดในวัดสิคะ” อลิสาถอนหายใจเบาๆ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้พี่ มือลิสาเจ็บอยู่ด้วย” “เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาค่ะ ไฉไลขึ้นมานี่หน่อย” เมื่อสิ้นเสียงเรียกของพี่ส้มแป้น ไฉไลก็เดินขึ้นมาพร้อมกับผ้าถุงที่ทำจากผ้าไหมและเสื้อสีขาวแขนสั้นที่ทอจากผ้าฝ้าย “เรื่องนี้ไว้ใจไฉไลได้เลยค่ะป้า ป้าไปส่งคุณยายไปที่วัดก่อนได้เลย เดี๋ยวไฉไลพาคุณลิสาไปเอง” อลิสารีบดึงเสื้อของพี่ส้มแป้นเอาไว้ “ไปแบบเมื่อวานไม่เอาแล้วนะคะ ลิสาขับรถไม่ได้ด้วยวันนี้ รอไปพร้อมกัน..” ไฉไลรีบดึงมือของอลิสากลับมา “วางใจได้เลยค่ะวันนี้หนูขี่จักรยานไฟฟ้ามา หนูพาคุณลิสาไปถึงวัดโดยสวัสดิภาพแน่นอน ไม่เหมือนที่คุณหนูพาลงคลองเมื่อวานหรอก มาเถอะค่ะ มาอาบน้ำจะได้เปลี่ยนเสื้อ” แล้วเมื่อวานที่ซาเล้งพุ่งลงคลองมันความผิดเธอที่ไหนกันเล่า!! แต่อลิสาก็เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำกับไฉไลอีกเธอยอมเดินไปอาบน้ำอย่างว่าง่ายถึงแม้ว่าจะลำบากมากก็ตามทีเพราะว่าจะต้องห้ามแขนอีกข้างโดนน้ำ “เรียกพี่ว่าพี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเรียกคุณอะไรหรอก” ไฉไลจัดการใส่ผ้าถุงให้กับอลิสาด้วยท่าทางคล่องแคล่ว “ได้ค่ะพี่ พี่ผิวดีจังเลยนะคะ แถมหน้าตาของพี่ก็สวยมากๆ อีกต่างหาก พี่ลิสาไม่มีแฟนเหรอคะ?” อลิสามองสบตากับไฉไลผ่านกระจกเพราะว่าตอนนี้ไฉไลกำลังม้วนผมของเธอขึ้นไปอยู่ “ไม่มีหรอก..มีแต่แอบชอบเขา” “อ้าว แล้วพี่ไม่บอกผู้ชายคนนั้นเหรอคะ” อลิสาขบเม้มริมฝีปาก “ไม่กล้านะสิ เพราะแบบนั้นคนที่พี่ชอบก็เลยไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วความสัมพันธ์ของพี่กับเขาก็เป็นพี่น้องกันไปตลอดกาล ไฉไลหากว่าเรามีคนที่ชอบก็รวบรวมความกล้าไปสารภาพรักกับเขาซะนะ อย่าขี้ขลาดแบบพี่” ไฉไลบรรจงติดดอกกาสะลองสีขาวลงไปบนผมของพี่ลิสาที่ม้วนขึ้นมา เมื่อวานตอนที่เธอเห็นพี่ลิสาครั้งแรก บอกได้คำเดียวเลยว่าคำพูดของป้าส้มแป้นไม่เกินจริงที่ว่าหลานของคุณยายอุดม สวยเหมือนนางงาม สวยแบบที่เธอเป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดตะลึงไม่ได้เลย และเพราะพี่ลิสามาจากกรุงเทพ เธอก็เลยคิดว่าพี่ลิสาจะหยิ่งและเข้าถึงยาก แต่ไม่เลยพี่ลิสาคนสวยเป็นกันเองมากกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก “หนูยังไม่มีคนที่ชอบหรอกค่ะ” อลิสาหรี่ตามองหน้าไฉไล “แล้วพ่อหนุ่มคนเมื่อวานล่ะ สาบานว่าไม่ได้ชอบเขา?” “โห..ให้สาบานเลยเหรอพี่ หนูแค่แอบๆ ปลื้ม แต่คุณออสก้าร์เป็นหลานของคุณปู่สุข ไร่พูนสุข หนูที่เป็นลูกหัวหน้าคนงานกับเขา..มันต่างกันไปหน่อยไหมพี่” อลิสารีบหันหน้าไปหาไฉไล เธอยกมือขึ้นมาจับไหล่ของไฉไลเอาไว้ “มีแค่ความรักในวัยเรียนเท่านั้นแหละที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น ถ้าชอบเขาก็พุ่งใส่เลยสิไฉไล เรื่องฐานะหรือความแตกต่าง ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตในตอนที่เราโตกว่านี้” ไฉไลยกมือขึ้นมาปิดปาก “พี่นี่เป็นนางฟ้าชัดๆ เลย นอกจากจะสวยแล้วยังใจดีอีกด้วย ไฉไลจะช่วยพี่ลิสาทุกอย่างทุกเรื่องเลยค่ะ” อลิสาหัวเราะเบาๆ เธอมองตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ไม่ค่อยได้เห็นตัวเองในแบบนี้เท่าไหร่ ปกติเธอจะใส่ชุดเดรสและใส่ส้นสูงแหลมๆ เพื่อเสริมความมั่นใจให้ตัวเองในเวลาทำงาน แต่พอมาสวมผ้าถุงกับเสื้อผ้าฝ้ายแบบนี้.. เหมือนกับว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของอลิสา ที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เป็นภาพลวงตาทั้งนั้น “พี่คะ ตอนนี้เราควรจะรีบไปวัดนะคะเดี๋ยวจะสาย” อลิสาพยักหน้าก่อนจะรีบเดินตามไฉไลเพื่อลงไปชั้นล่าง จนมาพบกับจักรยานไฟฟ้าสีชมพู “ปลอดภัยแน่นอนค่ะ หนูขี่ไปเรียนทุกวัน” เมื่อได้ยินเช่นนั้นอลิสาจังนั่งลงที่เบาะด้านหลัง ไฉไลยกยิ้มก่อนจะเริ่มบิดคันเร่งจักรยานไฟฟ้าคู่ใจของเธอ วัดอยู่ไม่ไกลจากไร่อุดมรักเท่าไหร่ และดูเหมือนเราจะมาสายพอสมควรเพราะเมื่อมาถึงที่วัด คนก็นั่งกันเต็มศาลาแล้วพี่ส้มแป้นยกมือขึ้นเพื่อเรียกอลิสาไปนั่งตรงนั้น อลิสายื่นเหม่ออยู่พักหนึ่งเพราะว่าตรงที่พี่ส้มแป้นและยายนั่งมันอยู่ด้านหน้าสุด แถมยังมีทั้งพี่เตลองซ์และพี่จองชัยนั่งอยู่ตรงนั้นอีกด้วยหรือว่าเธอจะนั่งข้างหลัง หลบๆ มุมตรงนี้ดี ในขณะที่อลิสากำลังใช้ความคิด ไฉไลก็จับมือเธอเดินฝ่าฝูงชนที่นั่งอยู่ในไปหาพี่ส้มแป้นในทันทีสายตาของไฉไลเป็นประกายเพราะว่าเด็กน้อยเห็นออสก้าร์นั่งอยู่ข้างๆ คุณเตลองซ์ดวงตาของเตลองซ์นั่นพลันอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเขามองเห็นเฝือกที่แขนเธอ ในใจรู้สึกผิดที่เมื่อวานเขาออกแรงบีบแขนเธอจนเลือดออกเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากเธอเขาฉุดแขนของอลิสาให้นั่งลงข้างๆ เขา แล้วขยับตัวเองมานั่งขวางระหว่างลิสาและจองชัย“เจ็บขนาดใส่เฝือกเลยงั้นเหรอ?”ต้องพูดดีๆ นะลิสา วันนี้เธอมีเรื่องที่จะต้องไปคุยงานกับเขาอีกด้วย เพราะอย่างนั้นอย่าโกรธและอย่าใช้อารมณ์กับพี่เตเด็ดขาด“พอดีเมื่อคืนนอนๆ อยู่แล้วหนูปวดแขนค่ะ มันเจ็บจนนอนไม่หลับก็เลยให้พี่แป้นพาไปส่งโรงพยาบาล..”“โถ หนูลิสา ในเมื่อแขนเจ็บขนาดนี้ก็ทำอะไรไม่สะดวกสินะ แบบนั้นก็ให้พี่เตเค้าไปดูแลหนูเถอะ หรือไม่ก็ขนงานมาทำที่ไร่พูนสุขดีไหม?”
รถยนต์เคลื่อนตัวมาจอดยังท้ายไร่พูนสุข ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่เขาพาเธอไปเมื่อวันก่อน แต่กลับเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ทำจากไม้สนแบบเดียวกันกับบ้านหลังใหญ่ของเขาเมื่อมองจากตรงที่เธอยืนจะสามารถมองเห็นไร่อุดมรักของเธอได้ เพียงแค่เดินข้ามสะพานไม้เก่าๆ นั้นมาก็จะสามารถมาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย“เข้ามาสิ..”ที่ด้านหน้าบ้านหลังน้อยปลูกดอกไม้เอาไว้หลายชนิด และดอกไม้เหล่านั้นกำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ..มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นอลิสาเดินตามเขาเข้าไปด้านใน เธอเห็นโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารมากมายวางอยู่บนนั้น ถัดจากโต๊ะทำงานคือโซฟาตัวยาว และตรงมุมห้องคือเตียงนอนเท้าของเธอพลันชะงักพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่และเมื่อเตลองซ์มองเห็นสายตาหวาดระแวงของอลิสาเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆเตลองซ์เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจูงมือของเธอไปนั่งบนโซฟา เขาไม่ลืมปิดประตูบ้านลงพร้อมลงกลอนอย่างแน่นหนา..สิ่งแรกที่เขามองเห็นใบหน้าของอลิสาตอนที่อยู่ที่วัดคือความสวยของเธอก็จริง ทว่าเมื่อมองเข้าไปในดวงตาเขามองเห็นความเหนื่อยล้าและความทุกข์ใจเท่าที่เขาพอจะเดาได้ เรื่องราวที่ทำให้เธอต้องใช้ความคิดมากเช่นนี
อลิสากำมือแน่นเมื่อเธอได้ยินคำกล่าวนั้นของพี่เตลองซ์ รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขามันไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย“ลิสาต้องทำงานนะคะ..คงจะไม่สามารถมาอยู่กับพี่ทั้งวันได้หรอก”เขามิได้กล่าวคำใด ดวงตาคมเข้มของเตลองซ์จ้องมองที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ หลังจากนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ รู้สึกตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงโดยอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสหวานของจุมพิตร่างกายของอลิสาสั่นเทิ้มเบาๆ อย่างไม่คิดยินยอมเมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงมา แต่ทว่ามือของเขากลับจับมือของเธอเอาไว้ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ส่วนมืออีกข้างก็กำลังใส่เฝือกอยู่ถึงแม้ว่าจะโน้มตัวไปด้านหลังก็ไม่สามารถหลบหนีจากจุมพิตของเขาได้เพราะว่าหลังของเธอมันชนกับพนักพิงโซฟาแล้ว“อื้อ!”เธอส่งเสียงร้องครางในลำคออย่างไม่คิดยินยอม แต่ทว่าเกลียวลิ้นของเขาก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน โพรงปากอ่อนนุ่มเสียดสีกันอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากของเขากำลังไล่ตามเพื่อช่วงชิงลมหายใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่ามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ครั้งนี้กับครั้งที่แล้ว..อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้เธอมีสติครบถ้วนทุกอย่าง แถมนี่ยังเป็นตอนกลางวันที่ทุกอย่างชัดเจนไปหมด
ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนไปที่สีข้าง เอว จนถึงหว่างขาเขากดแทรกก้านนิ้วเข้าไปในร่องแคบที่ชื้นแฉะ ทุกครั้งที่ขยับปลายนิ้วเบาๆ ก็จะมีเสียงเฉอะแฉะดังออกมาอย่างน่าอายอลิสาใช้มือของตัวเองมาปิดหน้าเอาไว้ด้วยความขวยเขิน เธอขบเม้มริมฝีปากจนห้อเลือดเพราะไม่ต้องการส่งเสียงร้องครางออกมา“ทำไมล่ะ ทั้งๆ ที่พี่อยากได้ยินเสียงครางของลิสามากแท้ๆ ไม่ต้องอายหรอก”เขาจับมือของเธอที่กำลังปิดบังหน้าตัวเองให้มันมากอบกุมแท่งกายของเขาอลิสาช้อนสายตามองหน้าเขา“เราไม่ได้พึ่งทำเป็นครั้งแรกสักหน่อย หรือหากว่าอายอยากให้พี่ป้อนเหล้าให้อีกไหม..”น่าแปลก..ที่วันนี้เธอไม่นึกอยากเมาเลย เพราะการมองหน้าเขาโดยที่ยังมีสติครบถ้วนแบบนี้มันทำให้เธอเผลอลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่างหมดสิ้นทั้งเสียงกระซิบที่เย้ายวนหรือปลายลิ้นที่ลากไล้อย่างเน้นย้ำก็ล้วนกระตุ้นความต้องการของเธออย่างร้ายกาจมือของเขากำลังจับมือเธอเพื่อนำพาให้เธอขยับปลายนิ้วรูดรั้งความเป็นชายของเขาขึ้นลงตามจังหวะอลิสารู้สึกเหมือนกันว่ามือของเธอมันเริ่มเปียกชื้นและพอมองดูดีๆ เธอก็พบว่าตรงส่วนหัวบวมแดงมันมีน้ำสีใสไหลย้อยออกมาสะ
เตลองซ์โทรกลับไปหาส้มแป้นเพื่อขอดูบัญชีทั้งหมดของไร่อุดมรัก ใช้เวลาไม่นานส้มแป้นก็ใช้ให้คนงานในไร่อุดมรักเอาเอกสารมากมายมาให้เขาถึงที่นี่อลิสายังคงนอนหลับอยู่ ท่าทางว่าเธอจะเหนื่อยมากจริงๆ เพราะนี่ก็ใกล้จะห้าโมงแล้วเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาเลยเขายังคงตรวจดูบัญชีที่มียอดติดลบมาตั้งแต่ปีที่แล้วของไร่อุดมรักด้วยแววตาเรียบเฉยโลกพัฒนาไปทุกวัน ไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ตามหากว่าไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดการตลาดในทันโลก ย่อมไม่สามารถยืนอยู่ในตลาดได้หรอกส้มแป้นเป็นคนของไร่พูนสุข ปู่ของเขาส่งคนไปทำงานที่นั่นตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้วเพื่อคอยช่วยเหลือคุณยายอุดมที่ไม่มีใครในเวลานั้นปู่คอยให้ความช่วยเหลือไร่อุดมรักลับๆ มาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นที่นั่นคงจะไม่สามารถประคับประคองตัวเองมาได้จนถึงทุกวันนี้และเรื่องไหทองคำอะไรนั่น มันคือแผนการของปู่ที่อยากให้หลานสาวเพียงคนเดียวของคุณอุดมกลับมาที่นี่เพื่อแต่งงานกับเขาเตลองซ์นับถือความรักที่มั่นคงและยาวนานของปู่นะ แต่เขาก็สงสารคุณย่าไปในเวลาเดียวกัน เพราะแบบนั้นย่าถึงได้หย่ากับปู่แล้วไปอยู่ที่อื่น เพราะว่าปู่ไม่ได้รักย่าเลยในสมัยก่อนแต่งงานกันตามที่พ่อและแม่เห็นชอบ คนเป็นลูก
เมื่ออลิสาเดินมาทางถึงที่บ้าน เธอก็ตรงเข้าห้องนอนในทันที ตอนนี้ในไร่ไม่มีใครที่น่าไว้ใจสักคนรวมไปถึงพี่ส้มแป้นด้วยเพราะการจะเข้าถึงบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่จะต้องเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอพอสมควรอลิสากดโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่ที่เธอสนิท“ว่าไงยัยลิสา”“พี่ไคโรคะ ลิสามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือค่ะ”พี่ไคโรเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย เธอสนิทกับพี่ไคโรเพราะว่าพี่เขาบ้าดูดวงเหมือนสกาย แต่เธอไม่ได้บ้าถึงขนาดนั้นนะ กับพี่ไคโรจะใช้คำว่าบ้าดูดวงก็คงไม่ได้เพราะว่าพี่เขาคลั่งดูดวงมาก มันเลยขั้นของคำว่าบ้าไปไกลเลย“ว่ามาสิ”“ลิสาขอยืมเงินหน่อยค่ะ”ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้ไร่พูนสุขและพี่เตลองซ์มาถือไพ่เหนือกว่าเธออีกแล้วเธอจะทำให้พวกเขารู้ว่า ต่อให้ไม่มีพูนสุข อุดมรักก็สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง!!วันรุ่งขึ้นพี่ไคโรก็ขับรถมาที่ไร่ของเธอพร้อมกับ..ซินแส“ที่ตรงนี้ดีมากเลยครับ เป็นเนินที่สายลมแห่งทรัพย์พัดผ่านมา ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรก็แล้วแต่ มีแต่จะงอกงามไม่มีหด”ไคโรพยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาให้ซินแสกลับไปก่อนเพื่อดูฤกษ์งามยามดีในการสร้างโรงแรม..“เรื่องไร่องุ่นพี่ว่ามันต่อยอดได้เยอะมาก เราเองก็เรียนม
สายตาของอลิสานั้นไล่มองไปตามกิ่งก้านที่แผ่ออกอย่างสวยงามราวกับว่านี่คืองานศิลปะบนใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ มุมปากปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างน่ามอง“หวังว่าปีหน้าลิสาจะได้ชิมองุ่นอร่อยๆ ของเจ้าร้อยปีบ้างนะคะ”“แน่นอนสิ ลิสาจะต้องได้ชิมและได้มาเก็บด้วยตัวเองเลย ว่าแต่ในมือของเรามันคืออะไรกัน?”อ่า..เธอมัวแต่ชื่นชมเจ้าต้นองุ่นร้อยปีจนลืมเป้าหมายในการมาที่นี่ไปซะสนิทเลย อลิสายื่นเอกสารในมือให้กับพี่จองชัย“ลิสาคิดว่าจะแบ่งขายที่ดินค่ะ”จองชัยยกมือขึ้นมาลูบผมของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู“เป็นเจ้าของไร่ เหนื่อยมากเลยใช่ไหม มาสิ มาบอกรายละเอียดให้พี่ฟังหน่อยว่าเรายังขาดเงินอีกเท่าไหร่?”จะกี่ครั้งความอ่อนโยนของพี่จองชัยก็ทำให้เธอรู้สึกดีได้เสมอเลย อลิสาอธิบายคร่าๆ ว่าเธอจะขายตรงไหนบ้างและกี่ไร่“ลิสากำลังจะทำโรงแรมค่ะ เพราะแบบนั้นก็เลยต้องการเงินทุนสักก้อนในการลงทุนกับพี่ที่รู้จักกัน”จองชัยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ“แสดงว่าเราต้องการเงินประมาณสามสิบล้าน ลงทุนทำโรงแรมยี่สิบล้านส่วนอีกสิบล้านเอามาหมุนเวียนในสวนและทำโรงบ่มไวน์?”อลิสาหยักหน้าเร็วๆ“ใช่เลยค่ะ แบบนั้นเลย”“ถ้าเป็นอย่างนั้นลิสาไม่ต้อง
สองมือสั่นระริกยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา เมื่อเธอมองเห็นหน้าของเจ้าของเสียงนั่น ลิสาก็รีบหันหน้าหนีและเช็ดน้ำตาในทันทีแต่ทว่าเขากลับไวกว่า เตลองซ์อุ้มอลิสาขึ้นมาจากพื้นหญ้าเขาเปิดประตูรถก่อนจะโยนเธอเข้าไปในนั้น“ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ”เมื่อเขากำลังจะปิดประตูรถเธอก็รีบเอามือมาดันไว้“ไม่พาไปขายหรอกน่า..”เรื่องนั้นเธอรู้ แถมยังรู้อีกต่างหากว่าเธอหลบหนีเขาไม่ได้“ช่วยเอาจักรยาน..ขึ้นรถไปด้วยได้ไหมคะ”เธอพึ่งจะทำซาเล้งพัง อลิสายังไม่อยากทำจักรยานหายไปอีกคัน และเมื่อพูดจบอลิสาก็ก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาตัวเองอีกครั้ง“รู้แล้ว นั่งดีๆ”เขาปิดประตูรถก่อนจะยกจักรยานเธอขึ้นเอาไว้ท้ายรถ เขาตามหาเธอซะทั่วเลย..เพราะส้มแป้นบอกว่าอลิสากำลังไปที่ไร่เจริญรุ่งเพื่อไปหาจองชัย แต่พอเขาไปที่ไร่เจริญรุ่งจองชัยก็ทำหน้าหงอยๆ พร้อมกับบอกว่าอลิสาออกมาแล้ว พอเขาโทรเช็คที่ส้มแป้นก็พบว่าเธอยังไม่กลับไปที่ไร่ เขาก็เลยขับรถตามหาเธอไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่นี่เมื่อเขารู้ว่าเธอไปหาจองชัย ภายในใจของเขาก็ปั่นป่วนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ทว่าพอเขามองเห็นไหล่ของเธอที่มันกำลังสั่นไหวจากการร้องไห้..มันเหมือนกับมีเข็มที
“พูดก็พูดเถอะ เรื่องของแกมันเหมือนกับในละครหลังข่าวเลยวะลิสา”สกายพูดพร้อมกับหมุนตัวของลิสาเบาๆ เพราะตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เพื่อนของเธอสวยมากกว่าทุกวันเลยอลิสาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโปรงยาวฟูฟ่อง ที่บนเรือนผมสวมมงกุฎดอกไม้เอาไว้ ส่วนที่มือก็ถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้ด้วย“นั่นสินะ บางทีเราก็คิดนะว่าเหมือนเราเกิดมาเพื่อแต่งงานกับพี่เตเลย..”โรงแรมของเธอสร้างเสร็จก่อนปีใหม่สองเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเพจของโรงแรมเปิดตัวก็มียอดจองเข้าพักยาวจนถึงปีหน้าเลย อาจจะเพราะผู้คนโหยหาธรรมชาติ อีกทั้งพี่ไคโรยังมีความสามารถในการสร้างโรงแรมของเราออกมาได้เหมือนกับอยู่ที่อิตาลีจริงๆ เลยเรื่องนั้นต้องยกความดีความชอบให้เขา และเรื่องฤกษ์แต่งงานก็เป็นพี่ไคโรเหมือนเดิมที่หาวันที่ดีที่สุดแบบที่เร็วที่สุดตามความต้องการของพี่เตลองซ์ได้“พรหมลิขิตสุดๆ ไปเลย”สกายพูดพร้อมกับจับมือของอลิสาเอาไว้“ขอให้แกมีความสุขมากๆ นะ”ส่วนอีกด้านเป็นพี่อาร์มที่เข้าไปแสดงความยินดีกับเตลองซ์“ให้ตายเหอะ นี่อย่าบอกนะว่าได้แต่งงานกันเพราะกู เหลือเชื่อจริงๆ เลย”เตลองซ์หัวเราะ เขาตบไหล่ของอาร์มเบาๆ“แต่งงานกันเพราะกู
ร่างกายของเรากอดก่ายกันอย่างแนบชิดกระทั่งไม่มีช่องว่างของอากาศแทรกผ่าน ฝ่ามือของเขาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่ชวนให้หลงใหลจนมันปริออกมาตามง่ามนิ้ว ปลายยอดสั่นระริกถูกเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขา สลับกับการใช้ปลายนิ้วบี้ลงไป.. “อา..” ช่องทางด้านล่างร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูเหมือนจะยั่วเย้าปลายนิ้วที่กำลังสอดลึกเข้าไปด้านใน ชั่วพริบตาเมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านบนด้านล่างพร้อมๆ กัน ร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงร้องครางที่ดังสนั่น “ชอบให้ใช้นิ้วขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า..คิดถึงพี่จนทนไม่ไหว” เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา เตลองซ์รูดรั้งแก่นกายขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะกดสะโพกของอลิสาลงไป.. “อะ..อึ่ก” เขาไม่ยินยอมให้เธอได้พักแม้เพียงเสี้ยวนาที ฝ่ามือหนาใหญ่กำลังลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนใบหน้าของเขาก็ฝังลงไปบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มก่อนจะออกแรงดูดดึงมันเบาๆ ความตื่นตัวร้อนผ่าวเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกายเรื่อยๆ จนสุดท้าย ร่างกายกำลังถูกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งจะเสร็จสมไป ความรู้สึกต่างๆ ยิ่งไวต่อสัมผัสมากกว่าครั้งไหนๆ อลิสาบดเบียดสะโพกลงไปยังแท่งร้อนเผาก่อ
อลิสามองแผ่นหลังของพี่จองชัยและคุณเบลินดาที่เดินเคียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มหวังว่าคำพูดของเธอมันจะสามารถสะเทือนกำแพงในใจของพี่จองชัยได้ไม่มากก็น้อยทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนผิด ถ้ายอมหันหน้ามาคุยกันตั้งนานก็คงไม่ต้องทะเลาะกันยาวนานมากขนาดนี้“กลับบ้านกันเถอะครับ พี่ง่วงแล้ว”“ที่นี่บ้านลิสาค่ะ จะกลับไปไหนได้อีก”เตลองซ์หน้ามุ่ย“งั้นขึ้นห้องกันเถอะครับ..เมียจ๋า ไม่ว่าจะยังไงคืนนี้พี่ไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน พี่นอนคนเดียวมาหลายคืนแล้วนะ เมื่อวานลิสาก็อ้างว่าติดงาน เดี๋ยวนี้ติดงานมากกว่าพี่อีกเหรอครับ”จะว่าไป..เธอไม่ได้ไปอยู่กับเขานานแล้วเหมือนกัน“ก็ได้ค่ะ รอก่อนนะคะ เดี๋ยวลิสาช่วยไฉไลเก็บจานก่อน”“ได้เลยครับ เพื่อเมียนานแค่ไหนก็รอ”อลิสาหันหน้ามาหาเตลองซ์ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ“ไปนั่งรอตรงนั้นเลยค่ะ”เธอชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อให้เขาไปนั่งรอดีกว่ามายืนรอแบบนี้ เตลองซ์ยกมือขึ้นมาถูแก้มเบาๆ ตรงที่ลิสาพึ่งจะจุมพิตไปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้คงกำลังยิ้มอยู่สินะ เขารู้สึกร้อนไปทั่วทั้งหน้าเลยอลิสาไม่ได้
จองชัยจับมือของเบลินดาเอาไว้“วันนี้พอเท่านี้เถอะครับ เรากลับกันเถอะ”เมื่อจองชัยพูดจบเขาก็จูงมือของเบลินดาออกไปจากที่นี่“ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ มาทำท่าเหมือนรู้สึกผิดงั้นเหรอไอ้จอง ทุเรศฉิบหายเลยว่ะ”จองชัยหันหลังกลับมามองหน้าของเตลองซ์“เออ กูมันทุเรศ แล้วยังไงล่ะ? หากว่ามึงมั่นใจในความรักของมึงทำไมจะต้องกลัว..”เตลองซ์ทำท่าจะถลาเข้าไปหาจองชัยแต่อลิสาเอาตัวเข้ามาขวางไว้ เธอมองหน้าเตลองซ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเล็กน้อย“ไปขอโทษคุณเบลินดาแบบตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ”อลิสาชี้นิ้วไปที่คุณเบลินดาเพื่อให้เตลองซ์ไปขอโทษเธอ ทว่าเตลองซ์กลับขมวดคิ้วมองหน้าของอลิสา“ลิสา..นี่พี่เป็นคนผิดงั้นเหรอ?”“หากถามลิสาก็ผิดทั้งคู่นั้นแหละ เพราะอย่างนั้นพี่เตไปขอโทษของลินดา หลังจากนั้นคุณลินดาก็ขอโทษพี่เตนะคะ ไม่เหนื่อยงั้นเหรอ โกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ ให้มันพอแค่นี้และหลังจากนี้ไปก็สนใจแค่ความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการแก้แค้นหรือว่าอะไรแล้ว..นับจากนี้ไปใครมีความสุขมากกว่าคนนั้นชนะค่ะ”เตลองซ์เม้มปากเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปหาเบลินดาที่กำลังทำท่าจะร้องไห้ออกมา“ผม..ขอโทษครับ หวังว่
เบลินดากำมือแน่นเมื่อเธอมองเห็นคุณปู่สุขมองหน้าของอลิสา สายตาเอ็นดูแบบนั้นในตอนที่เธอเป็นแฟนกับเตลองซ์ เธอไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้งเดียว“ผมได้ข่าวมาว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นคนที่อลิสาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย..แต่เธอไม่เคยบอกกล่าวความในใจออกไปเลย”เบลินดาส่งเสียงร้องเหอะออกมา“พึ่งรู้ว่านายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนะจองชัย อย่าบอกนะว่าที่นายทุ่มเทช่วยพี่ทำลายเต เพราะว่านายชอบอลิสา?”ความรู้สึกในใจมันขุ่นมัวไปหมดจนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนหรือเต็มปากได้ ว่าตกลงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับอลิสากันแน่รักเธอ หรือว่าต้องการเธอมาเพื่อจะให้คุณตาภูมิใจในตัวเขา“แต่นายจะรู้สึกยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะจองชัย เพราะว่าพี่จะทำลายความรักครั้งนี้ของเตลองซ์เอง จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้หมอนั่นมีความสุขกับคนรักเหมือนกับที่มันทำกับพี่”อลิสาเดินไปดูปลาก็พบว่ามันถูกเผาจนได้ที่แล้ว เธอใช้กรรไกรตัดหนังออกเบาๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทานแล้วใช้ให้คนยกปลาเผาไปให้คุณตาและคุณยายที่อยู่บนบ้าน“น่าทานสุดๆ เลยพี่ลิสา พี่ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไฉไลพูดพร้อมกับทำจมูกขยับไปมาเพื่อสุดดมกลิ่นปลาเผาที่หอมฟุ้งไปทั่วไร่“ไม่ขนาด
สายลมในยามเย็นพัดผ่านใบหน้าของคุณยายอุดมไป คุณยายหันไปมองหน้าของคนที่คุณยายรักจนสุดหัวใจครั้งหนึ่งเราเคยจะหนีตามกันไป หนีไปจากที่นี่เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในฐานะของคนรักแต่ทว่าที่บ้านของคุณยายไม่มีใครอีกแล้ว หากว่าคุณยายหนีไปคุณแม่ของคุณยายก็จะต้องอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นคุณยายจำต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอเพื่อแต่งงานกับคุณตาเสริมส่วนคุณปู่สุขก็ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ทางครอบครัวบอกว่าดี..ย่ารตีเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับครอบครัวของคุณปู่สุข แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณปู่เลยเมื่อคลอดลูกคนแรกเราก็หย่ากันในทัน หลังจากนั้นคุณปู่ก็เลี้ยงลูกมาโดยลำพังและพอมีเตลองซ์ ปู่ก็อยู่กับเตลองซ์สองคนเพราะเจ้าลูกชายตัวดีไปอยู่กับแม่ของมันส่วนคุณยายอุดม ลูกสาวของยายคลอดอลิสาทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะหนีไปกับผู้ชาย หลังจากนั้นอีกสิบปีคุณตาก็เสียชีวิตคุณยายไม่โกรธเคืองลูกสาวเลย เพราะว่าอลิสาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณยาย เด็กน้อยที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวันเหมือนกับว่าหน้าที่สุดท้ายของคุณปู่สุขและคุณยายอุดมคือการส่งหลานให้ถึงฝั่งฝัน..“ได้สิ หากว่าพี่ต้องการให้ฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็จะไปอยู่กับพี่..จะไปสร้างภา
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลยสินะ..แต่ปัญหาของพี่เตลองซ์กับคุณเบลินดามันดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนรักกันเหมือนที่เธอได้คาดเดาไปก่อนหน้า แต่ว่าเป็นคู่แค้นกันมากกว่า“แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ได้ยินมาว่าลินดาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วทำไมยัยนั่นถึงกลับมากันนะ แถมมาร่วมหุ้นทำโรงแรมกับลิสาอีก บอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วงมากๆ เลย”อลิสาล้มตัวนอนลงไปบนพื้นหญ้า เธอมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ด้านบนก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง“มีคำกล่าวจากหนังสือว่า ในการทำอะไรสักอย่างหากทางไหนที่เดินไปแล้วไม่เจออุปสรรคแสดงว่ามาผิดทาง เพราะแบบนั้นลิสาไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่กลัวทั้งปัญหาเรื่องการทำโรงแรม และไม่กลัวว่าความสัมพันธ์ของลิสากับพี่เตจะมีปัญหาด้วย..อย่ากลัวไปเลยค่ะ เห็นแบบนี้ลิสามั่นคงมากกว่าที่พี่คิดอีกนะคะ”เตลองซ์ยกมือขึ้นมาเพื่อปังแดดที่กำลังส่องมาที่ใบหน้าของลิสา รอยยิ้มของเธอวันนี้มันช่างสวยงามเหมือนกับดอกทานตะวันที่กำลังผลิบานเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีคนรัก มันจะดีแบบนี้..“นั่นสินะ ไม่ว่าลิสาจะมีปัญหาอะไรพี่จะปกป้องลิสาเอง”เตลองจุมพิตลงไปบนหน้า
หลังจากที่คุณจอมทัพและคุณเบลินดา กลับไปแล้วก็เหลือแค่พี่ไคโรที่กำลังทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่“นี่พี่..ทำให้แกลำบากรึเปล่า ขอโทษด้วยนะครับคุณเต”อลิสาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับคนรักของเธอ เราทั้งสองต่างมีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เรื่องในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันที่ได้ตั้งตัว แต่ทว่ามือของเราสองคนกลับกอบกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยเลยตอนนี้เธออยากจะพูดคุยกับพี่เตลองซ์เป็นการส่วนตัวและลิสาเองก็คิดว่าเขาน่าจะอยากคุยกับเธอมากๆ เหมือนกัน“ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะพี่ไคโร ลิสาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะก้าวผ่านเรื่องในอดีตไปไม่ได้ พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ก็ลงเสาเข็มก่อสร้างได้เลย”ไคโรขยี้มือลงไปบนผมของลิสาเบาๆ แต่ทว่าที่ด้านหลังของลิสากลับมีสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่มองมา เขารีบยกมือขึ้นมาจากศีรษะของเธอในทันทีเขาเอ็นดูลิสาและมองว่ายัยเด็กนี่เหมือนน้องสาว แต่จากนี้ท่าทางว่าเขาจะต้องรักษาระยะห่างให้ดีซะแล้ว“ไว้เจอกันวันก่อสร้างนะ ช่วงนี้พี่อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะว่าต้องมาคุมการก่อสร้างทั้งหมด”“เข้าใจแล้วค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะพี่”ไคโรพยักหน้าให้ลิสา เขามองหน้าของคุณเตลองซ์ก
เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ไร่อุดมรัก อลิสาก็มองเห็นรถยนต์ยุโรปสามคันที่จอดอยู่หน้าไร่ของเธอเตลองซ์จอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาจับมือของอลิสาเอาไว้ พร้อมกับพาเธอเดินไปหาผู้ชายที่กำลังเดินมาหาเราเช่นกัน“สวัสดีค่ะพี่ไคโร นี่พี่เตแฟนหนูเองค่ะ”อลิสาช้อนสายตาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอแนะนำให้พี่ไคโรรู้จักกับพี่เตลองซ์“อ่า..นี่พามาแนะนำหรือว่าพามาอวด”อลิสาหัวเราะเบาๆ“มาอวด เอ้ย..มาแนะนำค่ะ เพราะว่าในบางทีพี่เตอาจจะมาช่วยงานลิสาด้วย เลยอยากจะพามาแนะนำให้รู้จักกันไว้”ไคโรมองหน้าเตลองซ์ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับแฟนของเด็กที่นับถือกันเป็นน้องสาว“ผมไคโรครับ ยินดีอย่างยิ่งที่เด็กซนๆ แบบลิสามีแฟนกับเขาสักที และผมอยากจะแนะนำหุ้นส่วนคนอื่นให้รู้จัก..นี่พี่จอมทัพครับ”รอยยิ้มของอลิสาค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้า เธอหุบยิ้มในทันทีพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดสาดไม่หยุดใบหน้าที่เธอเฝ้ามองมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี ดวงตาของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเธอ แต่แล้วจากดวงตาที่ตกใจก็กลับกลายเป็นดวงตาที่แสนยินดี“ลิสา..บังเอิญจังเลยนะ”ความรู้สึกหนักอึ้งกระจายตัวออกมา