เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ”
View Moreภาวัตที่กำลังจะเตรียมเซอร์ไพรส์คนรักอีกครั้งในตอนดูดาวด้วยกันถึงกับเป็นฝ่ายตกใจเสียเองเขาเมื่อเดินมาที่สวนดอกไม้แล้วเจอกับซุ้มลูกโป่งสีหวานในศาลากลางสวน บรรยากาศโรแมนติกด้วยไฟระยิบระยับ ขาดก็แต่ไม่มีดินเนอร์ท่ามกลางหมู่ดาว แต่ก็มีบางอย่างที่พิเศษยิ่งกว่ารอเขาอยู่ลลิสานั่งรอเขาอยู่ที่ศาลานั่น เธอสวมเดรสสีชมพูอ่อนขับผิวสวยจนเขานึกว่ากำลังมองเทพธิดาตัวน้อยในป่าวิเศษ เมื่อเขาเดินมาถึงเธอก็บอกให้เขานั่งลงข้าง ๆ“เอ้า อึ้งอยู่ทำไม...รีบ ๆ ขอสิคะ”“หา!”ภาวัตที่กำลังตะลึงยังตั้งสติไม่ทันจึงออกการเหรอหรา“ก็จะขอฉันแต่งงานไม่ใช่เหรอคะคุณวัต”ชายหนุ่มถึงกับเบิกตาโตพร้อมรอยยิ้มกว้าง รีบลงไปนั่งคุกเข่าจนเธอตกใจ เขาคว้าเอากล่องกำมะหยี่ที่เตรียมไว้ออกมา และสวมสร้อยข้อเท้าที่สั่งทำเป็นพิเศษเข้ากับข้อเท้าของลลิสา“ผมดีใจที่คุณให้โอกาสผมอีกครั้งนะลูกไม้ แต่งงานกับผมนะ”ภาวัตเงยหน้ามองเธอที่ยิ้มให้เขาอยู่ก่อนแล้ว แล้วก้มลงจุมพิตที่หลังมือเธอแผ่วเบา“คุณนี่...ใครเขาใช้สร้อยข้อเท้าขอสาวแต่งงานกันบ้างคะ”ถึงเธอจะทำเสียงดุแต่ใบหน้ากับเต็มไปด้วยร่องรอยของความสุขแบบปิดไม่มิด“ก็ที่รักเคยบอกว่า จะยอมแต่งงานด
ด้านกรณ์กิตติหลังจากที่พาเจ้านายหนุ่มไปตรวจร่างกายเสร็จแล้วเขาก็กลับมาที่บ้านหลังหนึ่งที่ให้คนเฝ้าญาดาเอาไว้ ร่างบางที่ถูกมัดข้อมือจับโยนไว้บนเตียงนอนยังคงโวยวายไม่หยุด กระทั่งเขาต้องเดินเข้าไปหาญาดาที่เห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาก็เริ่มด่าทอทันที “ไอ้บ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”กรณ์กิตติมองคนที่อยู่บนเตียงนิ่ง เธอจัดว่าเป็นคนสวยจัดคนหนึ่ง แต่ก็แค่เปลือกนอก เพราะจิตใจของเธอช่างสกปรกดำมืดเกินกว่าจะหาอะไรมาเปรียบ มิเช่นนั้นเธอจะวางแผนการณ์ร้ายอย่างนั้นได้หรือเขาเหยียดยิ้มแล้วตรงเข้าไปหาเธอ มือใหญ่คว้าเข้าที่ใบหน้าเล็กแล้วบีบให้เธออ้าปากพร้อมกับจับกรอกด้วยไวน์ที่เตรียมมาเป็นพิเศษญาดาดิ้นเร่าให้หลุดจากพันธนาการ แต่เขาไม่ยอมผ่อนปรน จนเธอกลืนไปหมดแก้วนั่นแหละ“ไอ้ชั่ว!! แกเอาอะไรให้ฉันกินฮะ!” เธอตวาดเขาทันทีที่มือใหญ่ปล่อยให้เป็นอิสระ“ก็ยาแบบเดียวกับที่คุณให้เจ้านายผมกินไงล่ะ...ถ้าผมชั่วคุณมันก็หน้าด้าน ไร้ยางอาย จ้องจับผู้ชายที่มีแฟนแล้ว”กรณ์กิตติด่ากลับอย่างไม่ไว้หน้า มองดูร่างกายที่เริ่มนั่งไม่นิ่งเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์“ไหวไหมล่ะ ...ขอร้องผมสิ”“ไม่ ฉันไม่มีวันขอร้องคนอย่างแก”ญาดากัดฟันพูดแม
หลายวันมาแล้วที่ภาวัตติดต่อลลิสาไม่ได้เลย โทรไปเธอก็ไม่รับ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ชายหนุ่มขับรถไปตามโรงแรมในเครือทริปเปิลแอลหลาย ๆ ที่เผื่อว่าเธอจะไปดูงานต่างสาขาแต่แล้วก็ไม่เจอ มือหนากระดกเหล้าไม่ยอมหยุดอย่างที่ใครหลายคนบอกว่ากรอกเหล้าเข้าปากแทนน้ำนี่แหละ ขนาดพี่ชายทั้งสองคนของลลิสายังตอบว่าไม่รู้เลยว่าน้องตัวเองอยู่ที่ไหน“เฮ้ย...คุณภาวัตทำไมมานั่งดื่มอยู่คนเดียว”ภาวัตชะงักมือที่กำลังจะจดแก้วเข้าปากแล้วหันมองคนที่เดินเข้ามาทัก แต่พอเห็นหน้าก็กลับมาทำหน้าอมทุกข์เหมือนเดิม หมอนี่คือเจ้าบ่าวที่จัดงานแต่งที่กระบี่ในคราวนั้นนี่แหละ ตั้งแต่ตอนนั้นก็เริ่มสนิทกันขึ้นมา“ทะเลาะกับแฟน” ภาวัตบอกออกไปแล้วกลับไปสนใจกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว“อ๋อ มิน่าล่ะน้องลูกไม้เขาถึงไปคนเดียว ก็ว่าอยู่ ตอนแรกนึกว่าคุณไปด้วยผมจะทักซะหน่อย”เมื่อได้ยินอย่างนั้นภาวัตก็หูผึ่งทำตาโต ไม่นึกไม่ฝันว่าจะโชคดีขนาดนี้“คุณเจอลูกไม้เหรอ!”เสียงของเขาเต็มไปด้วยความดีใจจนอีกฝ่ายนึกขำ แต่ก็อยากช่วยเพื่อนใหม่คนนี้บ้าง“ใช่ครับ วันก่อนที่
หลังผ่านวันหยุดที่แสนเร่าร้อนลลิสาก็ต้องกลับไปตรวจงานสาขาอื่น ๆ ต่อ ส่วนภาวัตก็เร่งเคลียร์งาน เขาตั้งใจจะได้บินไปหาเธอบ้างเพื่อที่จะได้เคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันกับคนรัก นอกจากนี้เขายังมีแพลนสำคัญที่วาดหวังไว้ ดังนั้นจึงตัดสินใจโทรไปปรึกษากับบรรดาพี่ ๆ ของคนลลิสาถึงเรื่องแผนการต่าง ๆ ด้วยตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงานในวันนั้นขณะเดียวกันร่างเล็กของญาดาที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานของภาวัตปิดประตูที่แง้มลงอย่างเงียบเชียบ ทำให้เจ้าของห้องที่ยืนหันหน้าเข้าหากระจกหน้าต่างบานใหญ่ไม่สังเกตเห็นเธอ เธอยิ้มกริ่มอย่างมาดหมาย เพราะเลขาคนสนิทตัวติดกันอย่างกรณ์กิตติไม่อยู่ เธอถึงบังเอิญได้ยินแผนการขอแต่งงานของเขาในครั้งนี้“หึ ๆ คุณคอยดูก็แล้วกันว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” และแน่นอนว่าคนอย่างเธอคงไม่ยอมให้แผนสำคัญของเขาสำเร็จ ไม่อย่างนั้นเธอคงพลาดโอกาสที่จะได้เป็นคนรักของเขา พลาดตำแหน่งลูกสะใภ้ภัควเดชาที่มีหน้ามีตาไปแน่ ๆ“แก...ฉันมีเรื่องสนุกแต่สำคัญให้ช่วยหน่อย”ญาดาเดินออกห่างจากห้องทำงานของชายหนุ่มที่หมายปองมาในมุมลับตาแล้วกดต่อสา
เช้าวันหยุดนี้ลลิสารู้สึกว่าแฮปปี้กว่าในทุก ๆ วันเมื่อเธอลืมตาตื่นมาในอ้อมกอดของใครบางคนที่คุ้นเคย ลมหายใจของเขายังสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่ายังหลับสนิท หญิงสาวขยับตัวขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากของเขาแรง ๆ หลายครั้งอย่างตั้งใจจะแกล้ง เจ้าตัวก็ได้แต่ครางฮือราวกับรำคาญที่ถูกก่อกวนตอนนอนแบบนี้มือเรียวเริ่มสอดเข้าใต้ผ้าห่มจนเจอกับผิวเนื้อแน่นของคนรักที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด ก่อนจะลูบไล้ไปมารอบ ๆ และเริ่มลงต่ำจนน่าหวาดเสียว จนเมื่อมันสัมผัสกับขอบกางเกงนอนก็ถูกมือหนาคว้าหมับ“ที่รักจะซนแต่เช้าแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเหนื่อย”เสียงยานคางทว่าแหบพร่าของเขาดังประท้วง ดวงตาสีอ่อนปรืออย่างง่วงงุนแต่ทำคนมองร้อนฉ่าขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก“เหนื่อยยังไงคะก็นอนเฉย ๆ เดี๋ยวที่รักทำเอง”“แน่ะมีรุกด้วยนะเดี๋ยวนี้”เมื่อได้ยินเมียบอกจะทำเองชายหนุ่มก็ตื่นเต็มตาแทบจะทันที แถมตื่นทั้งบนทั้งล่างเสียด้วย มือหนานำทางให้เธอสัมผัสตัวตนของเขาที่กำลังร้อนฉ่าและแข็งขึง“ปลุกแล้วรับผิดชอบด้วยนะที่รัก”เขากระซิบข้างหูพร้อมกับงับใบหูเธอเบา ๆ จนเธอขนลุกไปทั้งตัว จากนั
ผ่านไปเกือบครึ่งปีตั้งแต่ภาวัตกลับกรุงเทพฯ ไปทำงานทั้งสองจึงเจอกันด้วยการผลัดกันเดินทางไปกลับแทน หญิงสาวมักจะขึ้นไปเยี่ยมเขาบ่อย ๆ เนื่องจากเธอต้องกลับไปดูแลโรงแรมสาขาหลักที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกันวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ลลิสาแวะมาเยี่ยมเขาที่ออฟฟิศพร้อมกับของฝากหลังจากที่เธอต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศไม่ได้เจอคนรักเกือบสองอาทิตย์ได้ หญิงสาวแวะส่งของฝากให้พนักงานตามแผนกก่อนจะขึ้นไปหาภาวัตที่ห้องทำงานเหมือนเคยแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องเจอกับช็อตละคร ที่ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะล้มและฝ่ายชายที่เป็นเจ้าของห้องรีบเข้าไปประคอง เส้นเลือดที่ขมับของเธอเต้นตุบขึ้นมาทันที เธอหอบของฝากไปวางบนโต๊ะทำงานของชายหนุ่มอย่างพยายามใจเย็น แล้วจึงเดินมาที่คนทั้งคู่ที่นิ่งเหมือนโดนสตาฟไว้“จะประคองกันอีกนานไหมคะ” ผู้มาใหม่ถามเสียงเย็น ทำให้คนรักรู้สึกตัวรีบปล่อยมือออกจากผู้หญิงร่างเล็กทันที“ไม่มีอะไรนะที่รัก พอดีเขาจะล้มผมก็เลยช่วยไว้” ภาวัตพยายามอธิบายกลัวใจกลัวอารมณ์ของเมียสุดที่รักเหลือเกิน“ฉันเห็นค่ะไม่ได้ตาบอด” ลลิสาปรายสายตาไปยังผู้หญิงอีกค
พอเริ่มพิธีแห่ขันหมากภาวัตก็ถูกเชิญไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกิตติมศักดิ์เพราะบังเอิญรู้จักกับพ่อของเจ้าบ่าวพอดี เมื่อขบวนฝ่าด่านประตูเงินประตูทองที่ยาวไปจนเลยหน้าประตูโรงแรมมาได้ เจ้าบ่าวก็ได้พบกับเจ้าสาวที่บรรดาเพื่อนของเธอจับจูงมาส่งในห้องจัดงานเจ้าสาวสวมชุดไทยจักรีสีชมพูมุกทำให้ผิวที่ขาวนวลยิ่งมีออร่าจนผู้ชายในงานต่างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวไม่ได้ที่เจ้าสาวสวยมากขนาดนี้ แต่สาวเจ้าก็ก้มหน้ายิ้มด้วยความเขินเมื่อมองเห็นสายตาของว่าที่สามีในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า“ได้ฤกษ์สวมแหวนหมั้นแล้วค่ะเจ้าบ่าว อย่ามัวเหม่อมองเจ้าสาวสิคะ”แขกที่มาเป็นสักขีพยานเมื่อเจ้าของโรงแรมสาวรับหน้าที่เป็นพิธีกรเอ่ยเย้า งานนี้จัดแบบหมั้นเช้าแต่งเย็น แต่ตอนเย็นจะย้ายไปจัดที่ริมหาดตามคอนเซ็ปต์ที่เจ้าสาวขอมาแหวนหมั้นวงใหญ่ประดับเพชรน้ำงามถูกสวมให้เจ้าสาวคนสวย เสียงฮือฮาดังขั้นรอบตัว เมื่อไม่มีการประกาศเรื่องสินสอดทองหมั้นให้คนนอกครอบครัวรับรู้มาก่อน แต่พิธีกรและคนเคียงข้างนั้นชินเสียแล้ว ต่างรู้ดีว่ายิ่งเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ใครเล่าจะปล่อยให้แขกเหรื่อที่มา
การตื่นมาในอ้อมกอดของใครสักคนเป็นสิ่งที่ลลิสาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเธอในวันนี้ หญิงสาวนอนมองเพดานกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ใต้ผ้านวมผืนใหญ่ที่ปกคลุมร่างของเธอกับคนผู้ชายคนแรกที่มีสิทธิ์รุกล้ำร่างกาย แขนของคนข้าง ๆ ยังพาดอยู่ที่บั้นเอวของเธออยู่เลย เธอมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาสักพักแล้วจึงเอี้ยวตัวไปคว้าโทรศัพท์เพื่อมาดูเวลา“ซี้ด...”ความเจ็บปวดรวดร้าวตรงกึ่งกลางกายจู่โจมขึ้นมากะทันหันแต่เธอเมินมันเสีย วันนี้เธอยังมีงานที่ต้องรับผิดชอบ จะมัวมานอนเอ้อระเหยเพียงเพราะผลกระทบจากการเสียพรหมจรรย์ไม่ได้“ตีห้า ตื่นเลยดีกว่าแฮะ เดี๋ยวต้องไปดูเขาจัดงานอีก” เธอพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา แต่คนหูดีที่ตื่นได้สักพักแล้วก็ยังอุตส่าห์ได้ยิน“จะไปไหนอะคุณ” น้ำเสียงงัวเงียบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังเรียกสติกลับมาไม่เต็มร้อยแน่นอน หญิงสาวหันไปจับแขนชายหนุ่มออกพลางจะเบี่ยงตัวลงจากเตียง“ไปดูงานแต่งสิคุณ เดี๋ยวเผื่อมีอะไรไม่พร้อม”“แต่ผมพร้อมนะ พร้อมจริงจังกับคุณแล้ว ตอนนี้เลยด้วย”“เร็วไปไหมคุณ เราเพิ่งนอนด้วยกันเมื่อคืนเองนะ”
ลลิสาถูกช้อนตัวอุ้มตรงไปยังเตียงกว้าง ยังไม่ทันที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าจะแตะลงบนที่นอนนุ่มดีภาวัตก็นำพาเรือนร่างกำยำของเขามาทาบทับเสียแล้ว ทั้งคู่สบตากันชั่วครู่หนึ่ง มันมีอะไรบางอย่างในนั้นที่ดึงดูดให้ต่างคนต่างค้นหาไปในความมืดสนิทที่ลึกลงไป แรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้คนที่ระแวดระวังตัวทุกอย่างอย่างลลิสายินยอมที่จะกระโจนเข้าหาโดยโยนเหตุผลทุกอย่างทิ้งไปริมฝีปากของเธอกำลังถูกครอบครอบและบดเคล้า เธอไม่เคยนอนกับใครก็จริงแต่ไม่ใช่จูบ เธอจูบตอบเขาไปอย่างไม่น้อยหน้าเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองจึงแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม สอดลิ้นเกี่ยวกันรัดรึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อุณหภูมิของร่างกายจึงไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากไฟปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นมา ควาเหน็บหนาวจากการตากฝนจึงปลาสนาการไปสิ้นภาวัตละจากกลีบปากนุ่มแล้วจูบซับลงมาตามลำคอระหง กลิ่นน้ำหอมติดผิวกายนวลเนียนให้ความรู้สึกยั่วยวนทำให้เลือดในกายหนุ่มเดือดพล่านสูบฉีดไปยังกึ่งกลางกาย มันพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมที่จะเข้าไปสำรวจในกายสาวให้หายอยาก ติดอยู่ตรงที่ว่าเธอยังไม่เคย เขาจึงต้องข่มใจไว้แล้วใช้เวลาในการสร้างอารมณ์ร่วมใ
เสียงดนตรีดังกระหึ่มเรียกการเคลื่อนไหวของเหล่านักท่องราตรีให้ออกมาขยับโยกปลดปล่อยความสนุกท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นในโซนชั้นล่างของผับชื่อดังในเมืองใหญ่ลลิสาเดินออกจากห้องน้ำในโซนชั้นสองที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ราวกั้นแล้วกวาดสายตามองหาเพื่อนบางคนในกลุ่มที่ปลีกตัวลงไปสนุกด้านล่างมาสักพักใหญ่ตามประสาคนชอบห่วงที่ต้องรับหน้าที่ดูแลและเก็บตกเพื่อนยามเมาไม่มีสติอยู่ตลอด“ยายแก้วกับยายปรายไปเต้นอยู่ไหนกันวะเนี่ย แล้วคนเยอะแบบนี้ฉันจะหายังไงเจอล่ะทีนี้”หญิงสาวบ่นไปมองหาไป มือก็กดโทรศัพท์โทรตามเพื่อนไปด้วย โทรทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าแม่พวกนั้นคงไม่ได้ยินเสียงนี่แหละ จนหลายรอบเข้าก็ยังไม่มีหวัง เธอจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วยอมแพ้ สองขาจึงก้าวฉับ ๆ ไปทางบันไดทางขึ้นโซนวีไอพีชั้นสาม แต่ก็ต้องหงุดหงิดหนักกว่าเก่าเมื่อเจอคู่รักนักเที่ยวยืนนัวเนียขวางทางอยู่เธอปรายสายตาอย่างรังเกียจไปที่คนทั้งคู่ บันไดมันก็แคบแค่นี้ เดินสวนกันยังแทบจะสิงร่างยังอุตส่าห์เจอคนอดอยากได้อีก นี่คือสิ่งที่เธอคิดแต่เธอก็ฉลาดพอที่จะไม่พูดออกไปให้ลำบากตัวเองแน่นอน ยิ่งในสถานที่แบบนี้และไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เกิด...
Comments