Share

การพบกันที่ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย 2

“หึ! กว้างบ้านป้าเธอสิ แหกตามองไหมว่ามันยังกว้างไม่ถึงเมตรครึ่งเลย ฉันคงเป็นไรฝุ่นมั้งถึงจะเดินแทรกเธอกับเขาที่รัดกันอย่างกับงูเหลือมไปได้”

ลลิสาตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าหลังจากที่อดทนสงบปากสงบคำมานาน ความแสบสันของเจ้าหล่อนเรียกรอยยิ้มพอใจจากผู้ชายที่ยืนเงียบอยู่ได้ เขาเกิดนึกสนใจในตัวเธอขึ้นมาทันที จะว่าไปแล้วเธอก็ดูสวยปราดเปรียวไม่หยอก

“อีบ้า แกว่าฉันเหรอ”

ผู้หญิงชุดแดงแสนสั้นรีบปล่อยแขนที่กอดอยู่มายืนดิ้นอยู่ตรงหน้าเพราะคำพูดที่ด่าเสมือนว่าเธอโง่ ใจจริงอยากเดินเข้าไปตบคนขัดจังหวะใจจะขาด แต่กลัวคู่ควงอย่างภาวัตไม่พอใจเลยต้องรักษาความเรียบร้อยเอาไว้สักหน่อย

“ไม่ได้ว่าหรอก ชมอยู่” คู่กรณีลอยหน้าลอยตาตอบอย่างยียวน

“หน็อย อี.....” สาวชุดแดงที่ถูกยั่วโมโหทนไม่ไหวจึงยกนิ้วที่มีเล็บยาวถูกเคลือบด้วยสีแดงเงาวับขึ้นชี้หน้าคู่กรณี

“พอได้แล้ว” คนที่ยืนเงียบอยู่นานแทรกขึ้นมาอย่างระอากับเหตุการณ์ประเภทนี้ เขาถูกพวกผู้หญิงตบตีแย่งกันบ่อยจนชินชา

เขาเลิกสนใจคู่ขาด้านข้างแต่กลับส่งยิ้มหวานให้กับสาวอีกคนแทน แววตาคมขยับไหวตามความพอใจที่พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเขามีปฏิกิริยากับเจ้าของร่างบางนี้ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในชุดที่ดูแล้ววาบหวิวจนน่ากลัว แต่มันกลับกระตุ้นเขาได้ดีเกินคาด

“แต่คุณภาวัตคะ นังนี่มันว่าเรานะคะ” คู่ขาสาวยังคงไม่ยอมแพ้

“เฉยเถอะน่า แล้วเธอก็ไปได้แล้วไป” ภาวัตตัดบทอย่างรำคาญ แล้วพยักหน้าให้เธอเดินลงไปโซนล่างโดยไม่ต้องรอเขา

ธนบัตรสีเทาสามสี่ใบถูกยื่นให้อีกฝ่ายที่รับไปอย่างรู้งานโดยไม่อิดออด ถึงคืนนี้จะไม่ได้ไปต่อกับชายหนุ่มที่ว่ากันว่าร้อนแรงและแซ่บมาก แต่อย่างน้อยก็ได้ค่าเสียเวลามาใช้สบาย ๆ

“ขอบคุณค่ะคุณภาวัตขา ไว้เรียกใช้เจนอีกนะคะ” หญิงสาวเอ่ยปากขอบคุณด้วยเสียงหวานหยดย้อยที่ประดิษฐ์มาเพื่อลูกค้ากระเป๋าหนักเป็นพิเศษพร้อมกับเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสองข้างของชายหนุ่มก่อนจะผละออกไป

“อ้าว ยังยืนอยู่อีกเหรอครับคุณ....”

ภาวัตจงใจถามกวนประสาททั้งที่เขาก็ยังคงมองเห็นอยู่ตลอด แต่อยากแหย่เธอเล่นไปอย่างนั้นเอง ไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าเธอไม่พอใจเขากลับรู้สึกว่ามันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

“ก็ต้องยืนอยู่สิคะ พวกคุณเล่นร่ำลากันไม่เว้นที่เดินให้ใครเลยนี่”

หญิงสาวอดตำหนิไม่ได้ เหมือนวันนี้อะไรก็ไม่เป็นใจให้เธอ เพื่อนก็หาไม่เจอ มีคนหื่นมาขวางทางจนต้องมายืนรอพวกหน้าด้านนัวเนียกันไม่พอ ต้องมาเป็นพยานตอนพวกเขากอดฟัดร่ำลากันไปอีก

โอ๊ย! เธออยากจะกรีดร้องในใจสักร้อยครั้งพันครั้ง

“อ้อเหรอครับ ผมภาวัต ภัควเดชานะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

เขายื่นมือมาข้างหน้าอย่างแสดงออกว่าต้องการทำความรู้จักกับเธอ ทว่าเธอกลับเมินเฉยเสีย เธอไม่นึกอยากจะให้ร่างกายแตะสัมผัสกับคนแปลกหน้าอย่างเขาแม้กระทั่งการจับมือก็ตาม จะบอกว่าไม่ไว้ใจก็ถูก ใครก็ไม่รู้นี่นา แต่ที่แน่ ๆ พฤติกรรมน่ารังเกียจเมื่อครู่ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง

“ค่ะ” เธอจึงทำเพียงตอบรับไปอย่างส่ง ๆ

“ไม่คิดจะบอกชื่อของคุณหน่อยเหรอครับ ใจร้ายจัง”

แววตาเจ้าชู้เปิดเผยของเขาทำให้เธออยากจะเดินออกจากตรงนี้ไว ๆ ติดก็แต่ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนนี้นี่แหละที่ขวางทางไม่ยอมขยับ

“ไม่ดีกว่าค่ะ เราแค่บังเอิญเจอกันเท่านั้นเอง ขอทางหน่อยค่ะ”

เมื่อถูกหญิงสาวตัดสัมพันธ์ชายหนุ่มก็ไหวไหล่คล้ายไม่ใส่ใจ เขาไม่ตื๊อเธอต่อและยอมขยับหลบทางให้แต่โดยดีจนเธอแปลกใจไม่น้อย

แต่ในจังหวะที่เธอกำลังเดินผ่านเขาไป มือใหญ่ก็คว้าแขนของเธอเอาไว้แน่น จนเธอหันขวับมาด้วยความตกใจ

“ปล่อยนะ!” เธอร้องพร้อมกับกระชากแขนตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

“ใจเย็นที่รัก ผมแค่จะถามอีกครั้งว่าคุณอยากเปลี่ยนใจไปต่อกับผมไหม”

น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเองของคนถามทำเอาเธอถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่

คนหน้าด้าน!

ดวงตากลมโตของเธอสบกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาคมเข้มของเขาสวยมาก มากขนาดที่แสงสว่างไม่มากพอก็ยังคงมองเห็นสีน้ำตาลอ่อนในดวงตาของเขาได้ชัดเจน แต่ใช่ว่าเธอจะอ่อนระทวยกับสายตาของเขาเสียเมื่อไหร่

“ไม่ค่ะ ขอตัวนะคะ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status