ความปรารถนารุนแรงที่มีเส้นบาง ๆ กั้นไว้ “ไหน ๆ พี่เคนก็คิดว่าเค้กง่าย เค้กมั่ว งั้นพี่ก็ไม่ต้องถนอมน้ำใจน้องสาวคนนี้อีกต่อไป เราจะตัดขาดคำว่าพี่น้อง เหลือแค่เรื่องเซ็กส์แค่เรื่องเดียวระหว่างเราสองคน!!” “แลกกับอะไร” “ถ้าพี่เคนต้องการ...แค่บอกตรง ๆ” “...” “จบเรื่องบนเตียงก็แยกย้ายกันไป ไม่มีสิทธิ์บังคับ” “อืม ตกลง”
Lihat lebih banyakตึกตึก...คนตัวเล็กเดินวนไปวนมา สับสนกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำไมเธอถึงได้ไม่รู้สึกเจ็บหรือมีอาการอย่างที่เคยอ่านเจอในโซเชี่ยลเลยสักนิด แล้วถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจริง คราบบ้า ๆ นั่นจะมาติดอยู่ที่ขาเธอได้ยังไงกัน“เลือดล่ะ” หลังจากชำระสิ่งสกปรกออกจากร่างกายเธอก็คิดไม่ตกจนสมองสั่งการบางอย่าง คัพเค้กในชุดคลุมอาบน้ำจึงสาวเท้าไปที่เตียงนอนดูสภาพยับยู่ยี่บนเตียง แต่ก็ไร้ร่องรอยของคราบเลือดฟึ่บ!“ทำไมถึงไม่มีเลือด” ก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งลง ใช้มือนวดขมับตัวเองทันที“ไม่น่าซ่าเลยเรา แล้วอย่างงี้จะมองหน้ากันติดไหมเนี่ย ปกติก็เกลียดขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาเกิดเรื่องบ้า ๆ ขึ้นอีก โอ๊ยยยย~ อยากจะบ้าตาย!!” คัพเค้กล้มตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นยืนเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเตียงที่เธอล้มลงไปนอนเพิ่งจะผ่านกิจกรรมมาสด ๆ ร้อน ๆคัพเค้กย่นจมูกแล้ววิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว รีบใส่ชุดแต่งหน้าจะได้รีบออกจากบ้าน หนีหน้าคนนิสัยไม่ดีร่างสูงใหญ่เข้ามาในห้องอาหาร หลังจากนั่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอยู่นานสองนาน“คัพเค้กยังไม่ลงมาอีกเหรอ” เคนตะถามแม่บ้านทันที“คุณหนูยังไม่ลงมาเลยค่ะ คุณเคนตะจะทานเลยไหม
“อื้ออ~”“ปวดหัวชะมัด ไม่น่าดื่มเยอะเลยเรา” รุ่งเช้าในวันต่อมาคัพเค้กบิดร่างกายด้วยความมึน ๆ กำหมัดเล็ก ๆ เคาะศีรษะตัวเองเบา ๆ เพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนที่เธอจะยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียงจนผ้าห่มร่วงลงไปกองที่เอว ความเย็นของอากาศภายในห้องส่งผลให้เธอก้มมองเรือนร่างของตัวเอง“กรี๊ดดดดดด~” คัพเค้กกรีดร้องด้วยความตกใจ ทำไมเธอถึงได้...นอนเปลือยเปล่าอย่างนี้ มันเกิดอะไรขึ้น“เฮ้ย! หนวกหูเว้ยคนจะนอน” ทว่าคนที่นอนหลับอยู่ชะโงกหัวขึ้นตวาดอย่างรำคาญ“พะ...พี่เคน~” คนตัวเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าทันทีพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงข้าง ๆ ด้วยความงุนงง“...” เคนตะฟุบหน้าลงบนหมอนอีกครั้งเพื่อหลับตานอนต่อ โชว์แผนหลังเปลือยเปล่าให้คัพเค้กได้เห็น โชคยังดีที่ด้านล่างพอจะมีผ้าห่มปิดอยู่ไม่อย่างนั้นคงจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว“นี่มันอะไรกัน!!” คัพเค้กกัดฟันถามออกไป“...” แต่เคนตะยังคงนอนต่ออย่างไม่ใส่ใจหมับ!“ตื่นมาคุยให้รู้เรื่องนะ..พี่เคน!!” มือบางเขย่าหมัดกล้ามด้วยความแรง เรียกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาคุยให้รู้เรื่อง“โอ๊ยย~ ไม่รู้!?” เคนตะเสยผมขึ้นไปด้านบนแล้วตอนตะแคงข้าง ใช้มือเท้าคางถามอย่าง
บรึ้นนนน~“คออ่อนแล้วยังจะซ่าอีก เป็นภาระฉิบ!” เคนตะบ่นอย่างเอือมระอา สายตาเหลือบมองน้องสาวกับถนนสลับกันไปมา นับวันเขากับคัพเค้กความสัมพันธ์ไกลห่างออกไปทุกที ถ้าเป็นเหมือนเมื่อก่อนคงจะมีสิทธิ์เอ่ยเตือนได้บ้าง แต่มาตอนนี้คำพูดของเขาไม่มีอิทธิพลพอจะสั่งหรือเตือนคัพเค้กได้เลย“อื้ออ~” คัพเค้กบิดร่างกายด้วยความมึนเมา สมองพอจะจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ลาง ๆหมับ!“ร้อน เปิดแอร์ยังเนี่ย!!” มือบางเลื่อนไปกดด้านหน้ารถมั่ว ๆ โดยที่ยังคงหลับตาอยู่“ยัยเค้กอยู่นิ่ง ๆ” เคนตะบอกพร้อมปัดมือบางให้กลับไปตั้งบนหน้าขาเรียวเหมือนเดิม ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่าย“ก็คนมันร้อน โจ้เปิดแอร์ให้หน่อย” ทว่า...คัพเค้กไม่เพียงแต่ตะคอก แต่ยังเอ่ยถึงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ร่วมในรถด้วย“นั่งรถฉันอย่าเอ่ยถึงคนอื่น!!” ร่างสูงใหญ่เริ่มจะหัวเสีย แยกกันไม่ทันไรก็เอ่ยถึงอีกแล้ว น่าเจ็บนักขนาดเมาแล้วยังไม่ลืมไอ้เวรนั่นอีก“แล้วนายเป็นใคร!!” ศีรษะทุยสอดเข้าไปใต้วงแขนเงยหน้าถามชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่ แววตาใสซื่อกระพริบถามอย่างน่าเอ็นดู“...” เคนตะถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อสบดวงตาหวาน กลิ่นประจำตัวน้องสาวลอยมาแตะจมูก ทำเอาเขากลืนน้ำ
หมับ!“ปล่อยนะ..พี่เคน” คัพเค้กสะบัดตัวออกห่างจากร่างสูง“มาเที่ยวกับแฟนเหรอ พาไปแนะนำหน่อยสิ” เคนตะโอบเอวพร้อมยักคิ้วอย่างกวนๆ ในหัวมีแผนบางอย่าง“จะทำอะไร” คนตัวเล็กถามอย่างรู้ทัน“หึ คิดมากน่า พี่จะทำไรน้องสาวได้” เขาแสยะยิ้มมุมปาก แววตามีเลศนัยชัดเจน“อย่าคิดจะทำไรบ้าๆต่อหน้าแฟนเค้กนะ” คัพเค้กรีบข่มขู่ไว้ก่อน ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายมีแผนแต่ก็แสดงออกมามากไม่ได้ ไม่รู้ว่าแผนนั่นคืออะไร แต่ที่แน่ๆไม่ดีกับตัวเธอหรือไม่ก็แฟนหนุ่มกำมะลอแน่นอน“...” เคนตะไม่รับปากกลับกระชากคนตัวเล็กไปที่โต๊ะทันที“ปล่อยได้แล้ว” เมื่อถึงโต๊ะคัพเค้กจึงแกะมือหนาออกจากเอว ทว่าอีกฝ่ายกดตัวเธอให้นั่งลงฝั่งเดียวกับเขา“นั่งข้างฉัน” ก่อนที่เคนตะจะกดเสียงเรียบนิ่ง“ไม่”ฟึ่บ! เคนตะออกแรงบีบหัวไหล่ไม่ให้คัพเค้กลุกออกไป ทำเอาชายหนุ่มอีกคนมองสลับไปมา ไม่รู้จะเอ่ยแทรกหรือหาจังหวะช่วยตอนไหนดี“คบกันนานยัง” เคนตะทำหน้าที่ผู้ปกครองทันที ถามในสิ่งที่อยากรู้มากกว่าหน้าที่“...” โจโจ้หันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งข้างพี่ชาย พยายามกระพริบตาบอกบางอย่างเป็นนัยน์ ๆ“ว่าไง ฉันถาม” เคนตะถามย้ำจ้องใบหน้าชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างเอาเรื่อง เรื่อง
“บ้าที่สุดเลย ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้กับฉัน” คัพเค้กระบายความในใจทั้งหมดที่มีให้ชายหนุ่มตรงกันข้ามฟัง“นายลองคิดดูนะ ว่าพี่น้องที่ไหนเขาจูบกัน ถ้าลงโทษอย่างอื่นฉันพอเข้าใจ” เธอทิ้งตัวพิงโซฟา นึกเจ็บใจไม่หายที่ตัวเองต้องแสดงรสจูบที่ร้อนแรงกลับไป“นายว่าพี่ฉันบ้ากามจนหน้ามืดตามัวรึเปล่า” ก่อนจะหันไปถามความคิดเห็นจากเพื่อนหนุ่ม“...” แต่แล้วสิ่งที่ได้คือความเงียบ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้น“โจ้” คัพเค้กเอ่ยเรียกชื่อทันที“...” เงียบ..ชายหนุ่มตรงข้ามเธอไม่ได้สนใจเสียงเรียกนั้น ทว่ากำลังใช้สายตาสื่อสารบางอย่างกับผู้หญิงโต๊ะอีกฝั่งกึก!“โจโจ้!!” คัพเค้กกระแทกแก้วไวน์พร้อมโน้มหน้าไปตะโกนใส่หูเพื่อนหนุ่มเสียงดังลั่น“เฮ้ย! อะไรวะ จะเสียงดังทำไมเนี่ย ฉันตกใจหมด” โจโจ้หันมาตะคอกทันที หน้าเหวอจนแทบหมดความหล่อ ยกมือขึ้นมาลูบแผงอกอย่างเรียกขวัญ“เวอร์ชะมัด” เธอหย่อนตัวไปนั่งเหมือนเดิม ก่อนจะส่ายหน้าให้กับท่าทีโจโจ้ที่มีสถานะอื่นด้วยนอกจากความเป็นเพื่อน ก็เพราะความเสน่ห์แรงเป็นเหตุทำให้โจโจ้เลื่อนสถานะจากเพื่อนสนิทมาเป็นแฟนกำมะลอไปพรางๆ ระหว่างที่คัพเค้กกำลังหาแฟนตัวจริง เขาจะไ
คนตัวเล็กสาวเท้าตามทางฟุตบาท ปล่อยให้อารมณ์โมโหสงบนิ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ของเธอและพี่ชายจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้จุดที่ยากที่จะสานความเป็นพี่น้องกันอีก เพราะไม่มีพี่น้องคู่ไหนที่เขาลงโทษด้วยรสจูบที่แทบจะกลืนกินกันแบบนั้นหรอก นอกจากคนที่จิตใจตกต่ำทำได้แม้กระทั่งน้องสาวตัวเอง!“ไอ้พี่บ้า” คัพเค้กกัดฟันแล้วด่าทอถึงคนที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์เธอตอนนี้มากที่สุด ก่อนจะล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาบอดี้การ์ดประจำตระกูลทันทีที่ปลายสายกดรับ...“มารับฉันตามโลเคชั่นที่ส่งไป ด่วนที่สุด” เอ่ยจบก็ตัดสายทิ้งแล้วเดินเข้าร้านกาแฟ รอเวลาตามตามที่สั่งออกไปอีกด้านบรึ้นนน~ รถสปอร์ตหรูเร่งเครื่องออกจากจุดนั้นทันที เคนตะไม่คิดจะลงไปตามคนตัวเล็กที่วิ่งเตลิดไปไกล“เอาแต่ใจตัวเองชะมัด” มือหนาฟาดบนพวงมาลัย เจ็บใจที่ไม่สามารถพาคนตัวเล็กกลับบ้านได้ทว่า...“ทำไรลงไปวะ!!” ก่อนจะนึกถึงสิ่งที่เขาลงโทษคัพเค้กอย่างลืมตัว มือหนาเลื่อนขึ้นมาขยี้ผมด้วยอารมณ์บางอย่างหวังเรียกสติให้ลืมรสจูบนั้น“ยัยเค้กนี่” จู่ๆ สายตาก็ไปปะทะเข้ากับรถตู้คันหนึ่งที่กำลังเลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์ เดาได้ทันทีว่าในนั้นมีใคร ว่าแล้วเค
“พี่เคน!!” คัพเค้กดีดตัวออกห่างจากเพื่อนหนุ่มทันทีที่เห็นพี่ชาย“...” เคนตะลุกขึ้นเดินไปขวางทางเดินไว้ ดวงตาสีน้ำข้าวเหลือบมองชายหนุ่มอีกคนด้วยหางตา“พี่เคนมาทำไม” คนตัวเล็กถามออกไปอย่างสงสัยในเมื่อก่อนหน้านี้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว“สวัสดีครับ พี่เคน” ชายหนุ่มข้างคัพเค้กเอ่ยอย่างให้เกียรติทว่า...“แน่ใจว่ามาเรียน” เคนตะไม่ได้คิดจะตอบกลับ นอกจากหันไปถามน้องสาวตัวดี ด้วยสายตาดูหมิ่น“หมายความว่าไง”“...” เคนตะนิ่งแต่ใช้สายตาสื่อสารออกไปแทนคัพเค้กรู้ทันทีโดยไม่ต้องถามซ้ำ ทำให้เธอเลือกที่จะเอื้อมไปจับมือร่างสูงข้างๆเพื่อออกจากที่นี่“ไปเถอะโจ้ เค้กอยากกลับแล้ว”หมับ!“กลับกับฉัน ส่วนมึงปลอยมือจากน้องสาวกู” ทั้งๆที่คัพเค้กเป็นคนเอื้อมไปจับเอง แต่เคนตะเลือกที่จะให้อีกฝ่ายเป็นแกะมือออกไปเอง“คงไม่ได้อ่ะครับ ในเมื่อเค้กอยากกลับกับผม” โจโจ้เอ่ยทันที“พี่เคน ถอยไปดีกว่า เค้กว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะตอนเช้า”“พูดมาก!!” ทว่าเคนตะหันไปตะคอกพร้อมทั้งกระชากคนตัวเล็กจนหลุดจากมือหนาของโจโจ้“นี่พี่เคน เป็นบ้าไรเนี่ย เค้กอายรู้ไหม” คัพเค้กเหลียวหน้ามองรอบๆที่ตอนนี้เริ่มจะมีกลุ่มนักศึกษาให้ความสนใจกัน
มาเฟียเฒ่าหยุดชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นรถคันโปรดของหลานชายคนกลางจอดอยู่ที่เดิม ทั้งๆที่ไม่ควรอยู่ตรงนี้“เคนตะ ยังอยู่บ้านอีกเหรอ”“ครับนายท่าน”“คัพเค้กล่ะ” คางูยะถามถึงอีกคนเพราะในสมองพอจะประมวลบางอย่างได้“คุณหนูออกไปมหา’ลัยได้สักพักแล้วครับ”“ไปเอง!?” เขาเหลียวหน้ามองบอดี้การ์ด เลิกคิ้วเป็นคำถาม“ครับ”“ไปตามไอ้หลานชายตัวดีมาพบฉันหน่อย” ทำเอามาเฟียเฒ่าต้องหมุนตัวเข้าไปในบ้านอีกครั้ง เพื่อจัดการสิ่งที่เพิ่งจะออกคำสั่งเมือคืนนี้ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาในห้องรับรองด้วยสีหน้าไม่สมอารมณ์นัก“ทำไมไม่ไปส่งน้อง” ทันทีที่เคนตะเดินเข้ามา คางูยะถามออกไปอย่างไม่ลังเล“ยัยเค้กไม่ยอมให้ผมไปส่งเอง” เคนตะรู้อยู่แล้วว่าปู่ของเขาจะต่อว่าเรื่องอะไร ทำให้เคนตะโยนความผิดให้กับน้องสาวตัวดีทันที“แกโตมายังไงวะ ถึงได้ไม่มีปัญญาจัดการเรื่องง่ายๆ”“ปู่ไม่รู้เหรอว่าผมโตมายังไง!?” เขายียวนออกไปตามนิสัยเดิมๆ“อย่ามาย้อน ไอ้เคน!!” คางูยะถึงกับตะคอกเสียงดังลั่น จ้องใบหน้าคมของหลานชายอย่างคาดโทษ“อ้าว ก็ปู่ถามเอง ผมย้อนตรงไหน”“เคนตะ!!” เสียงเข้มเก็บกลั้นเก็บอารมณ์ไม่ให้ฟาดไม้เท้าใส่หน้าหลานชาย“ครับ” ทว่าเค
ตึก!ตึก!“กว่าแกจะโผล่หัวมาได้ ต้องให้ฉันรอถึงพรุ่งนี้เช้าเลยไหม” คางูยะเงยหน้ามองหลานชายอย่างไม่สมอารมณ์นัก ก่อนจะเอ่ยกระแหนะกระแหนออกไป“วันนี้วันดี ปู่จะอะไรนักหนา” เคนตะหย่อนตัวนั่งตรงกันข้าม สีหน้าท่าทางไม่ค่อยทุกข์ร้อน“ช่วยพี่แกสืบเรื่องฆาตกรตัวจริงสักที ไม่ใช่ทำตัวไร้สาระไปวันๆ” มาเฟียเฒ่าไม่อยากต่อปากต่อคำนานจึงพูดสิ่งที่สำคัญที่สุดทันที“วันอื่นก็มี ค่อยคุยเรื่องนี้ก็ได้”“ฉันจะคุยวันนี้และตอนนี้ แกมีหน้าที่ฟังและทำตามเท่านั้น” คางูยะออกคำสั่งวางอำนาจอย่างที่เป็นมาตลอด เขาคงปล่อยให้มีทายาทคนที่สองอีกไม่ได้ถ้าเรื่องยังค้างคาอยู่แบบนี้“...” ทำเอาร่างสูงใหญ่ถึงกับพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย“ช่วงนี้ห้ามไปไหนจนกว่าพี่ชายแกจะฮันนีมูนเสร็จ จะลากผู้หญิงไปกินกี่คนก็เรื่องของแก แต่ต้องกลับไปนอนบ้าน”“...” เคนตะแบมือทั้งสองข้างอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าเหวอไปทันที คอนโดเขาก็มีทำไมต้องกลับไปนอนบ้าน ทั้งๆที่ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด“ต่อไปหน้าที่หลักของแกคือ...” คางูยะเอ่ยออกมาเว้นจังหวะเพื่อมองหน้าหลานชาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ดูแลคัพเค้ก!!”“ไม่มีทาง!!” เคนตะรีบปฏิเสธคำสั่งนั้นอย่างไ
“ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องทุเรศๆ ตลอดเลยเนี่ย” หญิงสาวใบหน้าสวย ดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้น รับกับปากอวบอิ่มสีชมพูอ่อนกำลังยืนลังเลกับสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนที่จะยืนพิงผนังเพื่อตัดสินใจบางอย่าง“เอาหว่า เปิดก็เปิด” มือบางเอื้อมไปเพื่อแตะคีย์การ์ด ทว่าเธอก็ชักมือกลับ เปลี่ยนใจหมุนตัวสาวเท้าไปฝั่งลิฟต์ของโรงแรมแทนตึกตึก...คนตัวเล็กที่มีส่วนสูงเพียงร้อยหกสิบเซนติเมตรเท่านั้น แต่เธอกลับมีเรียวขาที่สวยและสมส่วนจนเป็นจุดดึงดูดต่อเพศตรงข้าม สะโพกมนส่ายไปมา ในระหว่างเดิน แล้วกดลิฟต์รัว ๆ ตามอารมณ์ขุ่นเคืองกี่ครั้งแล้วที่เธอต้องมาเจอสถานการณ์อย่างเมื่อกี้ ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เธอเพิ่งจะเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาว คัพเค้กจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดีเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องพี่ชายคนกลางเพื่ออวดกระเป๋าใบใหม่ที่คางูยะเพิ่งส่งมาให้ แต่แล้วสิ่งที่เห็นกลับทำให้คัพเค้กยืนอึ้งและชาไปทั้งตัว จนเวลาผ่านไปสี่ปีเธอก็ไม่สามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างปกติอีกเลย...ไม่รู้เป็นเพราะอะไรแค่รู้สึกว่าไม่สามารถเข้าหน้าให้ติดเหมือนเก่าได้อีก“เห้อ!!” คัพเค้กหมุนตัวกลับไปเปิดประตูห้องอีกครั้ง เพราะถ้าเธอไม่สามารถตามเขาลงไปในงานได้ มีหวั...
Komen