แชร์

บทที่ 2

กู้หนานเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา มองเซียวเหยียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างอึ้งๆ

ในชาติก่อนเซียวเหยียนไม่เคยพูดอะไรแบบนี้

ในเวลานั้นนางรู้สึกกลัวมาก เซียวเหยียนบอกว่าเซี่ยเหิงได้วางยานางและจงใจให้คนพาเขามาที่นี่

แต่นางไม่เชื่อ ร้องไห้ด่าซีเซียวเหยียนว่าไอคนต่ำช้าไร้ยางอาย

ตอนที่เซี่ยเหิงและแม่สามีนางมาจับชู้ เซี่ยเหิงก็ได้เชิญเซียวเหยียนออกไปคุย

เซียวเหยียนมองนางอย่างเย็นชาและทิ้งประโยคหนึ่งไว้: โง่จนไร้เยียวยา

จากนั้นเซี่ยเหิงก็จากไป

ตอนนี้เซียวเหยียนบอกว่าจะช่วยนาง นางเชื่อเขาได้ไหม?

ริมฝีปากกู้หนานสั่นสะท้าน ยกมือเช็ดน้ำตา กัดฟันชี้ไปทางโต๊ะปาเซียน

"ไม่ต้องให้เจ้าช่วย เจ้าไปนั่งตรงนั้นอย่าทำให้แผนของข้าพัง"

"แผนของเจ้า?"เซียวเหยียนเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัยและเดินไปนั่งที่โต๊ะปาเซียนช้าๆ

กู้หนานสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็น รีบเก็บกวาดให้เรียบร้อย

หน้าต่างหลังบ้านและประตูหลังบ้านได้เปิดออกทั้งหมด กลิ่นดอกไม้ที่อยู่ในบ้านก็ได้จางไป

ได้เอาผ้าปูเตียงที่เปื้อนเลือดยัดเข้าไปในตู้และเปลี่ยนผ้าอันใหม่

ผ้าห่มพับเรียบร้อยวางไว้ข้างเตียง หมอนก็ได้จัดวางให้เรียบร้อยเช่นกัน

เซียวเหยียนพิงเก้าอี้ใหญ่ มือข้างหนึ่งท้าวคาง มองดูการเคลื่อนไหวที่มีหลักการของกู้หนาน นัยน์ตาแฝงด้วยความสนใจ

น่าสนใจ

ทว่าในความเป็นจริงนั้น กู้หนานไม่ได้ดูใจเย็นอย่างที่เห็น นางรู้สึกร้อนรนอย่างมาก

เสียงฝีเท้าข้างนอกก็ได้ที่ค่อยๆ ใกล้เข้ามา แต่ละก้าวก็เหมือนได้เหยียบลงบนหัวใจของนาง ทำให้นางกังวลใจเอามาก

ไม่กลัว กู้หนาน การเกิดใหม่อีกครั้งเป็นไพ่ที่ดีที่สุดของเจ้า

นางหลับตาแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตอนที่ลืมตามานั้นดวงตาได้สงบและใจเย็นลง

นอกประตู เซี่ยเหิงและเจ้าหญิงห้วยหยางพากันเดินเข้าในห้องหลัก

โดยเฉพาะเซี่ยเหิงที่เดินอยู่ข้างหน้า ดวงตาของเขาเปล่งประกายความรู้สึกที่ยากจะอ่านออก

เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่จะได้เห็น เขาก็กำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น

คนสนิทที่อยู่ข้างกายท่านแม่ได้ส่งข่าวกลับมาแล้ว ว่าสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

ขอแค่วันนี้เขามีจุดอ่อนที่ว่าองค์ชายจิ่งได้ไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาของคนอื่น เขาก็สามารถให้องค์ชายจิ่งรับปากว่าจะให้เขาได้ตำแหน่งเหวินชางโฮวเจวี่ย

ส่วนกู้หนาน......เห้อๆ เดิมทีที่แต่งงานกับนางก็เพื่อทรัพย์สินของตระกูลกู้

ผู้หญิงโง่คนนั้น ขอแค่เขาพูดคำหวานไม่กี่คำเพื่อปกป้องนางหลังเสร็จเรื่อง รับรองว่านางจะซาบซึ้งจนลืนหน้าลืมหลัง และเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อเขา

เซี่ยเหิงสูดทายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เปิดประตู

ขณะที่เดินเข้าไปข้างใน ก็เรียกไปด้วย:"ลุงสาม ท่านอยู่ข้างในหรือเปล่า? อ่า พวกเจ้า......"

อารมณ์โกรธที่เขาเตรียมที่จะแสดงไว้อย่างดีและเสียงที่ดังขึ้นที่เหมาะสม แต่ก็ได้หยุดลงทันทีเมื่อเห็นสภาพในห้อง

เหมือนกับว่าได้ถูกบีบคออย่างกะทันหัน คำพูดของเซี่ยเหิงก็ได้ติดอยู่ที่คอ

เห็นเซียวเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ใหญ่ ไขว้ห้าง สีหน้าของเขาได้ดูมืดมนอยู่ไม่น้อย

กู้หนานคุกเข่าอยู่บนพื้น ดวงตาแดงก่ำ เหมือนเพิ่งร้องไห้มา

ในเวลานี้ทั้งสองคนควรจะอยู่บนเตียงไม่ใช่หรือ?

แต่ว่าผ้าปูที่นอนบนเตียงก็ยังเรียบร้อยอยู่ ไม่เหมือนกับสถานที่ที่กำลังเล่นชู้กัน

เซี่ยเหิงก็ได้สงสัย แต่ดีที่เขาตั้งตัวได้ทัน ก็ได้มีสีหน้าที่ตกใจในทันที

"ลุงสาม ท่านกำลังรังแกภรรยาของข้าเหรอ?"

บรรพบุรุษของเรือนเหวินชางโฮวมีความสัมพันธ์กับราชวงศ์ ตามลำดับชั้นแล้ว เซี่ยเหิงควรเรียกเซียวเหยียนว่า ลุงสาม

เพื่อให้มองว่าสนิทใกล้ชิด เขามักจะเรียกเซียวเหยียนว่า 'ลุงสาม' ตลอด

เซี่ยเหิงก็ได้แกล้งทำเป็นโกรธแล้วมองเซียวเหยียน จากนั้นก็ได้หันไปถามกู้หนานอย่างอ่อนโยน

"นายหญิงอย่ากลัวไปเลย ลุงสามได้รังแรกเจ้ายังไง เจ้าบอกมาได้เลย ข้าจะช่วยเจ้าเอง

แม้ว่าตระกูลของพวกข้าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้ผู้อื่นรังแกเจ้า”

ก็ใบหน้าหล่อเหลาที่อ่อนโยนนี้แหละ ที่ทำให้ตนนั้นรู้สึกผิดทุกครั้งที่ได้เห็น และรู้สึกว่าตนนั้นสกปรกมาก ไม่คู่ควรกับเซี่ยเหิงที่สมบูรณ์แบบ

แต่บัดนี้เพิ่งรู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่งดงามนี้ ได้มีหัวใจที่เห็นแก่ตัวและโหดร้ายมาก

นางได้ทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อเขา ทำเพื่อเรือนเหวินชางโฮว แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นเขาและครอบครัวของเขา ที่วางแผนทำร้ายนาง

พวกเขากินของนาง ดื่มของนาง ใช้ของนาง เหยียบย่ำเลือดเนื้อของนางเพื่อก้าวให้สูงขึ้นไปอีก แต่ยังคงดูถูกนาง

กู้หนานรู้สึกขยะแขยงจนคลื่นไส้ ความเกลียดชังในใจทำให้นางเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

นางได้ลุกขึ้นเดินไปหาเซี่ยเหิง จ้องมองเขา น้ำเสียงได้สั่นเครือ

"ท่านผู้สืบทอดใครรังแกข้าก็ไม่ได้ใช่ไหม?"

"แน่นอน วันนี้ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะปกป้องเจ้า เจ้ารีบพูดมาสิ"

เซี่ยเหิงก็ได้เร่งกู้หนานอยากเรียบร้อน

ใบหน้าที่อ่อนโยนและดูรักใคร่ของเซี่ยเหิงในปัจจุบันก็ได้ซ้อนทับกับใบหน้าที่หยิ่งยโสและอวดดีในชาติที่แล้วตอนที่นางจะสิ้นใจ

มือของกู้หนานที่ห้อยอยู่ข้างตัวสั่นเทาไม่หยุด ก็ได้เก็บความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านในใจไม่ได้อีกต่อไป ยกแขนขึ้นและตบหน้าเซี่ยเหิงอย่างสั่นเทา

เพี้ยะ

เสียงตบได้ดังมาก หน้าที่ขาวราวหยกของเซี่ยเหิงก็ได้มีรอยแดงของผ่ามือ

มองออกว่ากู้หนานออกแรงไปมาก

เซียวเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อย สายตากวาดผ่านมือของกู้หนานที่ห้อยอยู่ข้างตัว

ปลายนิ้วที่ขาวบางสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับกำลังประกาศความโกรธของเจ้าตัว

เซียวเหยียนไม่มองต่อ มือที่อยู่ด้านหลังสัมผัสรอยข่วนบนหลังมือโดยไม่รู้ตัว ตอนที่ได้ยินเสียงตะคอกของเซี่ยเหิง นัยน์ตาก็ได้เข้มเล็กน้อย

"กู้หนาน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ข้ากำลังช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับมาตีข้า?"

กู้หนานก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความเกลียดชังในดวงตา

ตบนี้่ มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น

จากนั้นใบหน้าของนางก็ได้มีสีหน้าที่น้อยใจ

"ท่านผู้สืบทอดบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ว่าใครก็รังแกข้าก็ไม่? คนที่รังแกข้าก็คือเจ้าไง"

เซี่ยเหิงลูบหน้า สายตาก็ได้เต็มด้วยความโกรธ

"ข้าไปรังแกเจ้าตั้งแต่เมื่อไร?"

สีหน้าของกู้หนานก็ได้เข้มขึ้น

"วันนี้เป็นวันมงคลของเราสองคน แต่ท่านเข้ามาก็เอาแต่ถามว่าลุงสามได้รังแกข้าหรือไม่?

คนที่รู้ก็คิดว่าเจ้าปกป้องข้า แต่คนที่ไม่รู้ว่าก็คงจะคิดว่าเจ้านั้นอยากให้ลุง......องค์ชายจิ่งรังแกข้านะ"

เมื่อนึกถึงความล้อแหลมเมื่อครู่ นางก็ได้นิ่งไป ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถเรียกว่าลุงสามออกมาได้

จากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาเรียกองค์ชายจิ่ง

"ชื่อเสียงของผู้หญิงสำคัญเพียงใด ถ้าคำพูดนี้ของผู้สืบทอดได้หลุดออกไป ชื่อเสียงของข้าก็จะเสียหาย

ผู้สืบทอดไม่สนใจชื่อเสียงของข้าเลยแบบนี้ เพราะต้องการให้ข้าตายใช่ไหม นี่ไม่ใช่การรังแกข้าให้เรียกว่าอะไร?"

เซี่ยเหิงอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่รู้จะเถียงยังไง

กู้หนานมองเขา ตากลมโต สีหน้าก็ได้ดูน้อยใจเอามากๆ

"ผู้สืบทอดอยากให้องค์ชายจิ่งรังแกข้าอย่างไร? สวมเขาให้เจ้าอย่างนั้นหรือ?"

"พระเจ้า ไม่หรอกหรือว่าผู้สืบทอดท่านอยากให้ตัวเองโดนสวมเขาอย่างนั้นหรือ?"

แก้มของเซี่ยเหิงกระตุก ใบหน้าก็ได้รู้สึกเจ็บมากขึ้น

แน่นอนว่าจะยอมรับไม่ได้

"แน่นอนว่าไม่ใช่ นายหญิง เจ้าเข้าใจผิดไปแล้ว ข้าก็แค่พอเข้ามาก็เห็นเจ้าและลุงสามอยู่ในห้องด้วยกัน

ในห้องที่มีชายโสดและสาวโสดอยู่ด้วยกัน มันไม่เหมาะสมจริงๆ ข้าก็เลยได้คิดมากไป"

กู้หนานตาแดงก่ำ ก็ได้มีสีหน้าน้อยใจ

"ก็ไม่รู้ว่าคนรับใช้ในบ้านนำทางกันยังไง ถึงได้พาตัวองค์ชายจิ่งมาที่เรือนของข้า

ข้าไม่ค่อยได้พบกับองค์ชายจิ่งบ่อยนัก แต่ข้าก็รู้ว่าผู้สืบทอดกังวลเรื่องการสืบทอดอยู่เสมอ ข้าจึงคุกเข่าขอร้ององค์ชายจิ่งให้ผู้สืบทอดสืบทอดตำแหน่งเร็วๆ

ข้านั้นเอาแต่คิดเรื่องของผู้สืบทอดอยู่ตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าผู้สืบทอดจะเข้าใจข้าผิดไปแบบนี้"

นางปิดหน้าแล้วหันหลังไป ท่าทางเหมือนคนที่รู้สึกเสียใจอย่างมาก

เซี่ยเหิงสงสัย แต่ไม่สามารถหาข้อโต้แย้งใดๆ ได้ จึงได้แต่แก้ตัวอย่างลวกๆ

"ข้าก็แค่เห็นว่าประตูและหน้าต่างปิดสนิท และมีแค่ชายโสดสาวโสดอยู่ด้วยกันสองต่อสอง มันยากที่จะไม่คิดมาก นายหญิงก็อย่าใส่ใจเลย"

กู้หนานหัวเราะอย่างเย็นชา

"ใครบอกว่าพวกข้าได้ปิดประตูหน้าต่าง? พวกข้าได้ปิดหน้าต่างและประตูอยู่นะคะ

ส่วนที่ที่เจ้าบอกว่าชายโสดสาวโสดอยู่ด้วยกันสองต่อสองก็ยิ่งไม่ใช่ใหย่ ข้างนอกมีสาวใช้เฝ้าอยู่มากมายนะ"

เซี่ยเหิงก็ได้อึ้ง เห็นว่าประตูหลังได้เปิดอยู่จริง ขนาดหน้าต่างข้างเตียงก็เปิดอยู่

เขายังสามารถมองเห็นจั๊กจั่นตัวหนึ่งอยู่บนต้นไม้ในลานหลังบ้าน เสียงร้องนั้นก็ได้ให้คนรู้สึกน่ารำคาญมาก

กู้หนานยื่นหัวออกไปมองข้างนอกด้วยความสงสัย

"อ๊ะ วันนี้ไม่มีสาวใช้หรือแม่บ้านเฝ้าอยู่ข้างนอกหรือ? พวกนางไปไหนกันหมด?"

สายตาของเซี่ยเหิงก็ได้มีพิรุธ

เพื่อให้องค์ชายจิ่งเข้าเรือนของกู้หนานได้อย่างราบรื่น เขาจึงให้คนสนิทของท่านแม่สั่งให้คนรับใช้ในเรือนฃออกไปให้หมด

เมื่อมองไปที่ดวงตาที่ใสซือของกู้หนาน เขาก็ได้ก้มตาลงเล็กน้อยอย่างมีพิรุธ ก่อนจะส่งสัญญาณให้กับเจ้าหญิงห้วยหยางที่อยู่ข้างหลัง

ตอนที่เจ้าหญิงห้วยหยางเห็นกู้หนานตีลูกชายของตัวเอง นางก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นด่าคน

เพียงแต่นางรู้ว่าลูกชายนางมักจะมีแผนการอะไรอยู่ กลัวว่าถ้าพูดผิดทำให้แผนของลูกชายพัง ดังนั้นนางจึงทนไว้

ตอนนี้ก็ได้ไม่ทนอีกต่อไป ก็ได้เข้าไปแล้วก็กระชากเสื้อของกู้หนาน

ฉีก

คอเสื้อถูกดึกออก เผยให้เห็นลำคอขาวของกู้หนาน และรอยแดงที่อยู่บนนั้น

"นางแพศยาที่น่ารังเกียจ ถ้าเจ้ากับองค์ชายจิ่งไม่มีอะไรกันจริง? ก็บอกข้าทีว่าคอของเจ้านี่คืออะไร?"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status