เมื่อคิดดูแล้ว กู้หนานเพิ่งได้รับความไม่ยุติธรรมมา ถ้านางยืนกรานไม่ให้นางกลับบ้าน ก็จะทำให้นางอยู่ในฐานะแม่สามีที่ไม่มีความเมตตาดวงตาของนางหมุนไปมา นางนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ และรอยยิ้มก็กลับมาปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง"ก็ดี เจ้ากลับบ้านไปพักผ่อนสักสองวัน และอยู่กับแม่ของเจ้า อีกสองวันข้าจะให้เหิงเอ๋อไปรับเจ้ากลับมา"กู้หนานโค้งคำนับ"ขอบคุณท่านแม่ยาย"เป้าหมายสำเร็จแล้ว นางจึงไม่อยู่ต่อ หันหลังเดินออกจากเรือนหนานซานนางเพิ่งออกไป เซี่ยเหิงก็มาทันทีเขามาเพื่อขอร้องแทนกับเมิ่งหยุนซาง"หยุนซางเพิ่งเข้ามาเมื่อวานนี้ ท่านแม่ก็ลงโทษให้นางคุกเข่าในลานเป็นเวลาสองชั่วยามวันนี้ คนรับใช้จะมองนางอย่างไร?ไม่ว่ายังไงนางก็เป็นแม่ของรุ่ยเกอ ขายหน้าแบบนี้จะทำให้รุ่ยเกอโดนดูถูกไม่ใช่เหรอ?"เมื่อพูดถึงหลานรักของตัวเอง เจ้าหญิงห้วยหยางก็ลังเล"เดี๋ยวๆ กู้หนานจะกลับบ้านในไม่ช้า ไม่คุกเข่าก็ได้ แต่ต้องคัดกฎของผู้หญิง ต้องให้นางรู้กฎของเรือนโฮวฝู"เซี่ยเหิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดีแล้วที่ไม่ต้องถูกลงโทษให้คุกเข่าหยุนซางจงในสาดน้ำชากับตัวเองเพื่อใส่ร้ายกู้หนาน ก็สมควรได้รับบทเรียนบ้างเขาถามถึงเรื
"อย่า ข้ามีสามีแล้ว"เสียงที่อ่อนหวานได้ดังขึ้น กู้หนานกัดริมฝีปากด้วยความอับอาย จับมือใหญ่ของชายหนุ่มที่ลูบไล้ที่เอวของนางชายหนุ่มจับคว้ามือของนางกดไปที่หมอน น้ำเสียงเย็นชา"ฮะ เจ้าคิดว่าเป็นใครกันที่ส่งเจ้ามายังเตียงของข้า? "กู้หนานตัวแข็งทื่อเล็กน้อย เสียงเยาะเย้ยของชายหนุ่มก็ได้ดังขึ้นข้างหู"ชายที่สวมเขาให้ตัวเอง ชายที่อยากกลายเป็นควายเช่นนี้ ข้ายังไม่เคยเจอมาก่อน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะทำให้ความตั้งใจของเขาสูญเปล่าได้อย่างไร"ประโยคนี้เหมือนฟ้าที่ผ่าลงมา ทำเอากู้หนานที่กำลังมึนนั้นก็ได้สติจากความเร้าร้อนนั้นความเจ็บปวดราวฉีกขาดที่ตามมา ทำให้นางได้สติทันทีแต่ที่ปรากฏตรงหน้าคือใบหน้าของชายหนุ่มที่หล่อเหลา แม้จะทำเรื่องนั้นไปแล้ว แต่ใบหน้านั้นก็ยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ มีเพียงดวงตาเรียวยาวคู่นั้นที่เย็นชาและเข้ม ราวกับสามารถดูดคนเข้าไปได้ใบหน้านี้นางจะจดจำไปจนตายเซียวเหยียน เจ้าชายผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ เป็นผู้ชายคนแรก และคนเดียวของนางแต่นางถูกขังอยู่ในเรืองหลังบ้านของเรือนเหวินชางโฮวเป็นเวลาหลายปี อย่างน้อยก็สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกับเซียวเหยียนได้?ทำไมตอ
กู้หนานเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา มองเซียวเหยียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างอึ้งๆในชาติก่อนเซียวเหยียนไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ในเวลานั้นนางรู้สึกกลัวมาก เซียวเหยียนบอกว่าเซี่ยเหิงได้วางยานางและจงใจให้คนพาเขามาที่นี่แต่นางไม่เชื่อ ร้องไห้ด่าซีเซียวเหยียนว่าไอคนต่ำช้าไร้ยางอายตอนที่เซี่ยเหิงและแม่สามีนางมาจับชู้ เซี่ยเหิงก็ได้เชิญเซียวเหยียนออกไปคุยเซียวเหยียนมองนางอย่างเย็นชาและทิ้งประโยคหนึ่งไว้: โง่จนไร้เยียวยาจากนั้นเซี่ยเหิงก็จากไปตอนนี้เซียวเหยียนบอกว่าจะช่วยนาง นางเชื่อเขาได้ไหม?ริมฝีปากกู้หนานสั่นสะท้าน ยกมือเช็ดน้ำตา กัดฟันชี้ไปทางโต๊ะปาเซียน"ไม่ต้องให้เจ้าช่วย เจ้าไปนั่งตรงนั้นอย่าทำให้แผนของข้าพัง""แผนของเจ้า?"เซียวเหยียนเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัยและเดินไปนั่งที่โต๊ะปาเซียนช้าๆกู้หนานสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็น รีบเก็บกวาดให้เรียบร้อยหน้าต่างหลังบ้านและประตูหลังบ้านได้เปิดออกทั้งหมด กลิ่นดอกไม้ที่อยู่ในบ้านก็ได้จางไปได้เอาผ้าปูเตียงที่เปื้อนเลือดยัดเข้าไปในตู้และเปลี่ยนผ้าอันใหม่ผ้าห่มพับเรียบร้อยวางไว้ข้างเตียง หมอนก็ได้จัดวางให้เรียบร้อยเช่
กู้หนานรีบดึงเสื้อผ้ากลับจัดให้เรียบร้อย ใบหน้าที่สวยงามของนางก็ได้มีความโกรธเจ้าหญิงห้วยหยางก็คิดว่าเจอหลักฐานแล้ว จึงได้ด่าอย่างแรง"นังแพศยา นี่คือร่องรอยที่องค์ชายจิ่งทิ้งไว้บนตัวเจ้าใช่ไหม? หลักฐานชัดเจนแบบนี้ ยังจะปฏิเสธอะไรอีก?โชคร้ายจริงๆ เรือนเหวินชางโฮวของพวกข้าโดนรังแกถึงบ้านแบบนี้ นี่ไม่อยากให้สตรีให้เรือนของพวกข้ามีทางให้รอดหรืออย่างไร?"ขณะที่พูดก็หันไปมองเซียวเหยียนด้วยความโกรธ มือสั่นอยากจะด่าเซียวเหยียนเหมือนที่ด่ากู้หนานคำพูดมาถึงปากแล้ว ทันใดนั้นก็นึกได้ถึงนิสัยของเซียวเหยียน ก็ได้รีบกลืนคำด่าลงไป"องค์ชายจิ่ง แม้ว่าท่านจะเป็นเชื้อพระวงศ์ มีสถานะสูงส่ง แต่ท่านจะเหยียบหยามลูกสะใภ้ของข้าเช่นนี้ไม่ได้""มานี่ เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปขอให้พระพันปีมาช่วยตัดสินใจว่า ลูกหลานของราชวงศ์นั้นสามารถเข้าเรือนในของขุนนางและนอนกับผู้หญิงของขุนนางได้หรือไม่""ข้าไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะไม่มีที่ที่จะพูดเหตุผลไม่ได้"ขณะที่เจ้าหญิงห้วยหยางพูด นางก็ส่งสายตาให้หญิงชราที่กำลังชะโงกดูที่ประตูเรือนหญิงชรารับรู้และตอบรับเสียงดัง"เจ้าค่ะ ข้าจะไปเตรียมเกี้ยวเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"เจ้าหญิ
"วันนี้ขอบคุณหลานสะใภ้มากสำหรับการต้อนรับ~"เสียงที่พูดคำว่าต้อนรับก็ได้ลากยาว ก็ได้มาพร้อมความขบขันเล็กน้อยที่แฝง รอยยิ้มที่มุมปากของกู้หนานแข็งทื่อในทันทีภาพที่ล้อแหลมเหล่านั้นแวบเข้ามาในหัวของนางอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางเต้นแรง ใบหน้าของนางได้แดงระเรื่อเซียวเหยียนมองนางอย่างลึกซึ้ง จากนั้นหันหลังเดินจากไปออกจากเรือนเหวินชางโฮว องครักษ์ประจำกาผิงอันก็ได้มองเซียวเหยียนด้วยสีหน้าแปลกๆเซียวเหยียนก็ได้หึเบาๆ"มีอะไรก็พูด มีตดก็ไปปล่อยข้างๆ"ผิงอันก็ได้อดทน แต่สุดท้ายผิงอันก็ทนไม่ไหว"องค์ชาย ท่านเพิ่งจะจีบหลานสะใภ้ของท่าน ท่านรู้ไหม? โอ้พระเจ้า นี่มันคือการเสื่อมสลายของศีลธรรมหรือการสูญสิ้นของมนุษยธรรมกันแน่?"เซียวเหยียนเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วก็ขำอย่างเย็นชา"ส่วนไหนของข้าที่ดูมีศีลธรรม?"ผิงอันเกาหัว”ก็ไม่มีอยากว่าและครับ แต่......"องค์ชายไม่จำเป็นต้อง มั่นหน้าขนาดนี้ก็ได้จริงไหม? ราวกับว่าเข้าใจคำพูดที่ยังพูดไม่จบของเขา เซียวเหยียนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย"นางเคยช่วยชีวิตข้าตอนเด็ก"ผิงอันตกใจจนตาเบิกกว้าง"ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต แล้วท่านก็ไปกับทำนี้......"ผิงอันยื่
ที่พักเรือนหนานซานของเจ้าหญิงห้วยหยางเซี่ยเหิงก็ได้บ่นอย่าหงุดหงิด”ถ้ารู้ว่ากู้หนานสามารถขอร้องลุงสามได้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนเสียเวลาเปล่า ๆ ไม่พอ ยังทำให้ลุงสามดูเรื่องตลกพวกนี้ ความประทับใจที่มีต่อข้าก็ได้ลดลงไปมากข้าบอกแล้วว่าแผนนี้มีความเสี่ยง แต่ท่านแม่ยังอยากเสี่ยง"เจ้าหญิงห้วยหยางส่ายหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม"พวกมันสองคนต้องได้กันแน่ๆ กลิ่นในห้องไม่ถูก พวกเราทุกคนถูกกู้หนานคนนี้หลอกแล้วข้าบอกแล้วว่าแม่ค้าผู้หญิงแบบนี้มีความคิดยากจะเดา แต่พ่อเจ้าตอนนั้นกลับเลือกให้นางมาเป็นนายหญิงผู้สืบทอดถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่านางมีเงินเน่าๆ อยู่บ้าง ข้าคงจะให้เจ้าทิ้งนางไปนานแล้ว"เซี่ยเหิงรู้สึกวุ่นวายใจเพราะคำวิจารณ์ขององค์ชายจิ่ง และยิ่งรู้สึกหงุดหงิดลงเมื่อได้ยินแม่บ่นแบบนี้"ต่างก็พูดจับชู้จับเป็นคู่ ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้มีประโยชน์อะไร? แผนล้มเหลวตอนนี้ไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งโฮวเจวี่ย หยุนซางก็ไม่สามารถเข้ามาในบ้านในฐานะภรรยาเท่าเทียบ"ตามแผนเดิม วันนี้กู้หนานจะสูญเสียความบริสุทธิ์ จากนี้ไปจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้อีกเมื่อถึงเวลานั้นเขาที่เสนอให้แต่งงานกับหยุนซางเป็นภร
กู้หนานดึงมือกลับมาแล้วใช้ผ้าเช็ดอย่างแรงสีหน้านิ่งเรียบ"จงใจ แก้แค้น ให้พวกข้าแตกคอ?""แน่นอน"แม้ว่าเซี่ยเหิงจะไม่พอใจที่นางไม่ขอโทษ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของนางที่ดูนิ่งเรียบ ก็คิดว่านางยอมรับคำพูดนี้แล้วเขาใช้สายตาสั่งคนรับใช้"มานี่ มาลากพวกคนที่ใส่ร้ายเจ้านายลงไปและตีจนตายทันที"คนรับใช้ในเรือนโฮวฝูเข้ามาลากคนออกไปแค่สายตาเดียวของกู้หนาน บ่าวและคนรับใช้ที่นางนำมาด้วยก็รีบขวางหน้าภรรยาของฉางชุนทันทีทั้งสองฝ่ายม้าเผชิญหน้ากันไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียวสายตาของเซี่ยเหิงก็ได้มีความหงุดหงิด แต่ก็ได้มองกู้หนานราวโดนทำร้าย"นายหญิงจะทำอะไร? หรือเจ้ายอมเชื่อคำกล่าวหาของคนใช้? แต่ก็ไม่เชื่อใจสามีของตัวเองหรือ?พวกเราคือคนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตนะ เจ้าไม่เชื่อใจข้าแบบนี้ ทำให้ข้าเสียใจมาก"เห้อ ใครอยากจะอยู่กับเจ้าไปตลอดชีวิตกู้หนานก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความเย็นชาในดวงตา"ข้าเชื่อในความจริงเท่านั้น ในเมื่อภรรยาของฉางชุนและท่านผู้สืบทอดพูดแตกต่างไปกัน งั้นก็ไปที่ศาลผู้ตรวจราชการราชสำนัก ให้ท่านผู้ตรวจราชการราชสำนักมาตัดสินคดีเถอะมาดูว่าเป็นคนใช้ที่เกลียดท่านผู้สืบทอด ก
เจ้าหญิงห้วยหยางมองไปที่ใบหน้าซีดของกู้หนาน สายตาก็ได้มีความได้ใจ"เรื่องของวันนี้เป็นเพียงคนใช้ใส่ร้ายเจ้านายเท่านั้น ถ้าไปถึงศาลแล้ว เรือนเหวินชางโฮวก็เป็นตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียงมาสามชั่วอายุคน ผู้พิพากษาก็น่าจะให้เกียรติเรือนเหวินชางโฮวบ้างส่วนเรื่องที่ใช้สินสอดของเจ้า ก็พูดแล้วว่าเป็นการยืม เราไม่ได้บอกว่าจะไม่คืน เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเงินเท่านั้นในเมื่อเจ้าแต่งเข้ามาในตระกูลเซี่ย ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลเซี่ยแล้ว ครอบครัวเดียวกัน เจ้ามาทวงหนี้แม่สามีและสามีของตัวเอง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เจ้าก็ไม่ได้อะไรดี""กู้หนาน ถ้าเจ้ามีฉลาดสักหน่อย เจ้าควรรู้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้เจ้าเสียเปรียบมากกว่าแทนที่จะเก็บความขุ่นเคืองไว้ เรามาคุยกันอย่างสงบสุขดีกว่า ข้าจะยังคงถือว่าเจ้าเป็นภรรยาของผู้สืบทอดเรือนโฮวฝู และเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน"เซี่ยเหิงก็ได้รีบพูดเสริม ปลอบกู้หนานเสียงต่ำ"ท่านแม่พูดถูก แม้ว่าคนรับใช้จะน่ารังเกียจ แต่เจ้าก็ไม่ได้รับอันตรายเจ้ามักจะรู้จักเหตุผลและเข้าใจง่ายเสมอ อย่าทำให้มันยุ่งยากอีกเลย ข้าสัญญาว่าจะรักเจ้าให้มากขึ้นไปอีก"กู้หนานรู้สึกขยะแขยงกับใบหน