เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะหย่ากับเซี่ยเหิง"หรูฮวาตะลึงงันไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมาอย่างดุเดือดว่า:"หย่าดีแล้ว ครอบครัวที่ไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้ ไม่เหมาะกับคุณหนูเลยเจ้าค่ะ"กู้หนานยิ้มและพูดว่า"ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะหย่า ดังนั้นเราต้องอดทนไปก่อนเจ้าและหรูอี้ต้องระวังตัวให้ดี และพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเซี่ยเหิงและเมิ่งซื่อ"ดวงตาของหรูฮวาหมุนไปมา"แล้วเราต้องทนอีกนานแค่ไหน? คุณหนูรู้ดีว่า บ่าวอารมณ์ร้อน ถ้าทนไม่ไหว......"กู้หนานกลั้นหัวเราะไม่อยู่"ไม่นานหรอก ตราบใดที่คนในตระกูลกู้สนับสนุนข้าในการหย่า และยินดีที่จะออกหน้าเจรจากับเรือนเหวินชางโฮว เราก็มีโอกาสที่จะไปจากเรือนเหวินชางโฮว"พ่อและพี่ชายของนางไม่อยู่แล้ว หากต้องการหย่ากับเซี่ยเหิง นางทำได้เพียงขอให้คนในตระกูลกู้ช่วยออกหน้าเมื่อพูดถึงผู้อาวุโสของตระกูลกู้ ใบหน้าของหรูฮวาก็หม่นหมองลง"เกรงว่าคนในตระกูลกู้จะกังวลว่าการหย่าของคุณหนูจะส่งผลต่อชื่อเสียงของหญิงสาวที่รอแต่งงานในตระกูล พวกเขาจะต้องมีความกังวลมากมายแน่ยิ่งไปกว่านั้น คุณท่านสอง คุณท่านสามและผู้เฒ่าตระกูลเหล่านั้นต่างก็โกรธที่คุณหนูมอบกิจการของตร
เรือนหนานซานเจ้าหญิงห้วยหยางที่ได้ยิ้นคนสนิทแม่จางพูดเรื่องที่เมิ่งหยุนซางเสิร์ฟก็ได้หรี่ตาลง ก็ได้กัดฟันอย่างโมโห "กู้หนานรู้ดีว่าตอนเด็กๆ เหิงเอ๋อเคยถูกหมาบ้าไล่ จึงกลัวแมวและหมามาก แต่นางยังเลี้ยงหมาในเรือนอีก นางคิดอะไรอยู่กันแน่"แม่จางพูดว่า"จริงเจ้าค่ะ บ่าวถามมาแล้ว หมาตัวนั้นนายหญิงผู้สืบทอดได้เก็บมาระหว่างทางกัลบมาจากศาลาว่าการ"เมื่อพูดถึงเรื่องที่ศาลาว่าการเมื่อวานนี้ เจ้าหญิงห้วยหยางก็ยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม"ตระกูลกู้มาจากตระกูลพ่อค้า ไม่ว่ายังไงก็มองการใกล้ไปหน่อย เมื่อวานถ้านางปกป้องเหิงเอ๋อในศาลาว่าการสักหน่อย เรือนโฮวฝูของเราก็คงไม่ขายหน้าขนาดนั้นวันนี้นางปล่อยหมากัดเหิงเอ๋อ ข้าคิดว่านางอิจฉาเหิงเอ๋อที่ได้รับเมิ่งซื่อมาขี้หึงหวงแบบนี้ ลำบากเหิงเอ๋อจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะทรัพย์สินของตระกูลกู้......"เจ้าหญิงห้วยหยางก็ได้นิ่ง หยุดพูดไปได้ทันทีตอนนี้เรือนโฮวฝูยังแยกจากกู้หนานไม่ได้ นางจึงไปด่าเมิ่งหยุนซางแทน"เมิ่งซื่อไอโง่นั่น รุ่ยเกอยังไม่ได้เข้ามาเลย นางไม่ไปประจบกู้หนาน แต่กลับหาเรื่องนาง โง่เอามากๆ"ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้นจากข้างนอก"นายหญ
เมื่อคิดดูแล้ว กู้หนานเพิ่งได้รับความไม่ยุติธรรมมา ถ้านางยืนกรานไม่ให้นางกลับบ้าน ก็จะทำให้นางอยู่ในฐานะแม่สามีที่ไม่มีความเมตตาดวงตาของนางหมุนไปมา นางนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ และรอยยิ้มก็กลับมาปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง"ก็ดี เจ้ากลับบ้านไปพักผ่อนสักสองวัน และอยู่กับแม่ของเจ้า อีกสองวันข้าจะให้เหิงเอ๋อไปรับเจ้ากลับมา"กู้หนานโค้งคำนับ"ขอบคุณท่านแม่ยาย"เป้าหมายสำเร็จแล้ว นางจึงไม่อยู่ต่อ หันหลังเดินออกจากเรือนหนานซานนางเพิ่งออกไป เซี่ยเหิงก็มาทันทีเขามาเพื่อขอร้องแทนกับเมิ่งหยุนซาง"หยุนซางเพิ่งเข้ามาเมื่อวานนี้ ท่านแม่ก็ลงโทษให้นางคุกเข่าในลานเป็นเวลาสองชั่วยามวันนี้ คนรับใช้จะมองนางอย่างไร?ไม่ว่ายังไงนางก็เป็นแม่ของรุ่ยเกอ ขายหน้าแบบนี้จะทำให้รุ่ยเกอโดนดูถูกไม่ใช่เหรอ?"เมื่อพูดถึงหลานรักของตัวเอง เจ้าหญิงห้วยหยางก็ลังเล"เดี๋ยวๆ กู้หนานจะกลับบ้านในไม่ช้า ไม่คุกเข่าก็ได้ แต่ต้องคัดกฎของผู้หญิง ต้องให้นางรู้กฎของเรือนโฮวฝู"เซี่ยเหิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดีแล้วที่ไม่ต้องถูกลงโทษให้คุกเข่าหยุนซางจงในสาดน้ำชากับตัวเองเพื่อใส่ร้ายกู้หนาน ก็สมควรได้รับบทเรียนบ้างเขาถามถึงเรื
"อย่า ข้ามีสามีแล้ว"เสียงที่อ่อนหวานได้ดังขึ้น กู้หนานกัดริมฝีปากด้วยความอับอาย จับมือใหญ่ของชายหนุ่มที่ลูบไล้ที่เอวของนางชายหนุ่มจับคว้ามือของนางกดไปที่หมอน น้ำเสียงเย็นชา"ฮะ เจ้าคิดว่าเป็นใครกันที่ส่งเจ้ามายังเตียงของข้า? "กู้หนานตัวแข็งทื่อเล็กน้อย เสียงเยาะเย้ยของชายหนุ่มก็ได้ดังขึ้นข้างหู"ชายที่สวมเขาให้ตัวเอง ชายที่อยากกลายเป็นควายเช่นนี้ ข้ายังไม่เคยเจอมาก่อน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะทำให้ความตั้งใจของเขาสูญเปล่าได้อย่างไร"ประโยคนี้เหมือนฟ้าที่ผ่าลงมา ทำเอากู้หนานที่กำลังมึนนั้นก็ได้สติจากความเร้าร้อนนั้นความเจ็บปวดราวฉีกขาดที่ตามมา ทำให้นางได้สติทันทีแต่ที่ปรากฏตรงหน้าคือใบหน้าของชายหนุ่มที่หล่อเหลา แม้จะทำเรื่องนั้นไปแล้ว แต่ใบหน้านั้นก็ยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ มีเพียงดวงตาเรียวยาวคู่นั้นที่เย็นชาและเข้ม ราวกับสามารถดูดคนเข้าไปได้ใบหน้านี้นางจะจดจำไปจนตายเซียวเหยียน เจ้าชายผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ เป็นผู้ชายคนแรก และคนเดียวของนางแต่นางถูกขังอยู่ในเรืองหลังบ้านของเรือนเหวินชางโฮวเป็นเวลาหลายปี อย่างน้อยก็สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกับเซียวเหยียนได้?ทำไมตอ
กู้หนานเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา มองเซียวเหยียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างอึ้งๆในชาติก่อนเซียวเหยียนไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ในเวลานั้นนางรู้สึกกลัวมาก เซียวเหยียนบอกว่าเซี่ยเหิงได้วางยานางและจงใจให้คนพาเขามาที่นี่แต่นางไม่เชื่อ ร้องไห้ด่าซีเซียวเหยียนว่าไอคนต่ำช้าไร้ยางอายตอนที่เซี่ยเหิงและแม่สามีนางมาจับชู้ เซี่ยเหิงก็ได้เชิญเซียวเหยียนออกไปคุยเซียวเหยียนมองนางอย่างเย็นชาและทิ้งประโยคหนึ่งไว้: โง่จนไร้เยียวยาจากนั้นเซี่ยเหิงก็จากไปตอนนี้เซียวเหยียนบอกว่าจะช่วยนาง นางเชื่อเขาได้ไหม?ริมฝีปากกู้หนานสั่นสะท้าน ยกมือเช็ดน้ำตา กัดฟันชี้ไปทางโต๊ะปาเซียน"ไม่ต้องให้เจ้าช่วย เจ้าไปนั่งตรงนั้นอย่าทำให้แผนของข้าพัง""แผนของเจ้า?"เซียวเหยียนเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัยและเดินไปนั่งที่โต๊ะปาเซียนช้าๆกู้หนานสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็น รีบเก็บกวาดให้เรียบร้อยหน้าต่างหลังบ้านและประตูหลังบ้านได้เปิดออกทั้งหมด กลิ่นดอกไม้ที่อยู่ในบ้านก็ได้จางไปได้เอาผ้าปูเตียงที่เปื้อนเลือดยัดเข้าไปในตู้และเปลี่ยนผ้าอันใหม่ผ้าห่มพับเรียบร้อยวางไว้ข้างเตียง หมอนก็ได้จัดวางให้เรียบร้อยเช่
กู้หนานรีบดึงเสื้อผ้ากลับจัดให้เรียบร้อย ใบหน้าที่สวยงามของนางก็ได้มีความโกรธเจ้าหญิงห้วยหยางก็คิดว่าเจอหลักฐานแล้ว จึงได้ด่าอย่างแรง"นังแพศยา นี่คือร่องรอยที่องค์ชายจิ่งทิ้งไว้บนตัวเจ้าใช่ไหม? หลักฐานชัดเจนแบบนี้ ยังจะปฏิเสธอะไรอีก?โชคร้ายจริงๆ เรือนเหวินชางโฮวของพวกข้าโดนรังแกถึงบ้านแบบนี้ นี่ไม่อยากให้สตรีให้เรือนของพวกข้ามีทางให้รอดหรืออย่างไร?"ขณะที่พูดก็หันไปมองเซียวเหยียนด้วยความโกรธ มือสั่นอยากจะด่าเซียวเหยียนเหมือนที่ด่ากู้หนานคำพูดมาถึงปากแล้ว ทันใดนั้นก็นึกได้ถึงนิสัยของเซียวเหยียน ก็ได้รีบกลืนคำด่าลงไป"องค์ชายจิ่ง แม้ว่าท่านจะเป็นเชื้อพระวงศ์ มีสถานะสูงส่ง แต่ท่านจะเหยียบหยามลูกสะใภ้ของข้าเช่นนี้ไม่ได้""มานี่ เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปขอให้พระพันปีมาช่วยตัดสินใจว่า ลูกหลานของราชวงศ์นั้นสามารถเข้าเรือนในของขุนนางและนอนกับผู้หญิงของขุนนางได้หรือไม่""ข้าไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะไม่มีที่ที่จะพูดเหตุผลไม่ได้"ขณะที่เจ้าหญิงห้วยหยางพูด นางก็ส่งสายตาให้หญิงชราที่กำลังชะโงกดูที่ประตูเรือนหญิงชรารับรู้และตอบรับเสียงดัง"เจ้าค่ะ ข้าจะไปเตรียมเกี้ยวเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"เจ้าหญิ
"วันนี้ขอบคุณหลานสะใภ้มากสำหรับการต้อนรับ~"เสียงที่พูดคำว่าต้อนรับก็ได้ลากยาว ก็ได้มาพร้อมความขบขันเล็กน้อยที่แฝง รอยยิ้มที่มุมปากของกู้หนานแข็งทื่อในทันทีภาพที่ล้อแหลมเหล่านั้นแวบเข้ามาในหัวของนางอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางเต้นแรง ใบหน้าของนางได้แดงระเรื่อเซียวเหยียนมองนางอย่างลึกซึ้ง จากนั้นหันหลังเดินจากไปออกจากเรือนเหวินชางโฮว องครักษ์ประจำกาผิงอันก็ได้มองเซียวเหยียนด้วยสีหน้าแปลกๆเซียวเหยียนก็ได้หึเบาๆ"มีอะไรก็พูด มีตดก็ไปปล่อยข้างๆ"ผิงอันก็ได้อดทน แต่สุดท้ายผิงอันก็ทนไม่ไหว"องค์ชาย ท่านเพิ่งจะจีบหลานสะใภ้ของท่าน ท่านรู้ไหม? โอ้พระเจ้า นี่มันคือการเสื่อมสลายของศีลธรรมหรือการสูญสิ้นของมนุษยธรรมกันแน่?"เซียวเหยียนเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วก็ขำอย่างเย็นชา"ส่วนไหนของข้าที่ดูมีศีลธรรม?"ผิงอันเกาหัว”ก็ไม่มีอยากว่าและครับ แต่......"องค์ชายไม่จำเป็นต้อง มั่นหน้าขนาดนี้ก็ได้จริงไหม? ราวกับว่าเข้าใจคำพูดที่ยังพูดไม่จบของเขา เซียวเหยียนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย"นางเคยช่วยชีวิตข้าตอนเด็ก"ผิงอันตกใจจนตาเบิกกว้าง"ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต แล้วท่านก็ไปกับทำนี้......"ผิงอันยื่
ที่พักเรือนหนานซานของเจ้าหญิงห้วยหยางเซี่ยเหิงก็ได้บ่นอย่าหงุดหงิด”ถ้ารู้ว่ากู้หนานสามารถขอร้องลุงสามได้ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนเสียเวลาเปล่า ๆ ไม่พอ ยังทำให้ลุงสามดูเรื่องตลกพวกนี้ ความประทับใจที่มีต่อข้าก็ได้ลดลงไปมากข้าบอกแล้วว่าแผนนี้มีความเสี่ยง แต่ท่านแม่ยังอยากเสี่ยง"เจ้าหญิงห้วยหยางส่ายหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม"พวกมันสองคนต้องได้กันแน่ๆ กลิ่นในห้องไม่ถูก พวกเราทุกคนถูกกู้หนานคนนี้หลอกแล้วข้าบอกแล้วว่าแม่ค้าผู้หญิงแบบนี้มีความคิดยากจะเดา แต่พ่อเจ้าตอนนั้นกลับเลือกให้นางมาเป็นนายหญิงผู้สืบทอดถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่านางมีเงินเน่าๆ อยู่บ้าง ข้าคงจะให้เจ้าทิ้งนางไปนานแล้ว"เซี่ยเหิงรู้สึกวุ่นวายใจเพราะคำวิจารณ์ขององค์ชายจิ่ง และยิ่งรู้สึกหงุดหงิดลงเมื่อได้ยินแม่บ่นแบบนี้"ต่างก็พูดจับชู้จับเป็นคู่ ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้มีประโยชน์อะไร? แผนล้มเหลวตอนนี้ไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งโฮวเจวี่ย หยุนซางก็ไม่สามารถเข้ามาในบ้านในฐานะภรรยาเท่าเทียบ"ตามแผนเดิม วันนี้กู้หนานจะสูญเสียความบริสุทธิ์ จากนี้ไปจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้อีกเมื่อถึงเวลานั้นเขาที่เสนอให้แต่งงานกับหยุนซางเป็นภร