แชร์

บทที่ 4

"วันนี้ขอบคุณหลานสะใภ้มากสำหรับการต้อนรับ~"

เสียงที่พูดคำว่าต้อนรับก็ได้ลากยาว ก็ได้มาพร้อมความขบขันเล็กน้อยที่แฝง

รอยยิ้มที่มุมปากของกู้หนานแข็งทื่อในทันที

ภาพที่ล้อแหลมเหล่านั้นแวบเข้ามาในหัวของนางอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางเต้นแรง ใบหน้าของนางได้แดงระเรื่อ

เซียวเหยียนมองนางอย่างลึกซึ้ง จากนั้นหันหลังเดินจากไป

ออกจากเรือนเหวินชางโฮว องครักษ์ประจำกาผิงอันก็ได้มองเซียวเหยียนด้วยสีหน้าแปลกๆ

เซียวเหยียนก็ได้หึเบาๆ"มีอะไรก็พูด มีตดก็ไปปล่อยข้างๆ"

ผิงอันก็ได้อดทน แต่สุดท้ายผิงอันก็ทนไม่ไหว

"องค์ชาย ท่านเพิ่งจะจีบหลานสะใภ้ของท่าน ท่านรู้ไหม? โอ้พระเจ้า นี่มันคือการเสื่อมสลายของศีลธรรมหรือการสูญสิ้นของมนุษยธรรมกันแน่?"

เซียวเหยียนเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วก็ขำอย่างเย็นชา

"ส่วนไหนของข้าที่ดูมีศีลธรรม?"

ผิงอันเกาหัว”ก็ไม่มีอยากว่าและครับ แต่......"

องค์ชายไม่จำเป็นต้อง มั่นหน้าขนาดนี้ก็ได้จริงไหม?

ราวกับว่าเข้าใจคำพูดที่ยังพูดไม่จบของเขา เซียวเหยียนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย

"นางเคยช่วยชีวิตข้าตอนเด็ก"

ผิงอันตกใจจนตาเบิกกว้าง

"ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต แล้วท่านก็ไปกับทำนี้......"ผิงอันยื่นมือทั้งสองข้างออกมาต่อหน้าเขา ข้างหนึ่งขึ้น ข้างหนึ่งลงตบสามครั้ง

ใบหน้าที่มีความหมายลึกซึ้ง”ตามลำดับญาติแล้วนางเป็นหลานสะใภ้ของท่าน องค์ชายแน่ใจหรือว่ากำลังตอบแทนบุญคุณอยู่?"

เซียวเหยียนมองเขาแวบหนึ่ง

"เซี่ยเหิงวางยาหมอกดอกท้อให้นาง ถ้าไม่แก้พิษภายในหนึ่งชั่วยาม แม้จะกินยาแก้พิษแล้ว ก็จะทิ้งรากโรคไว้ ทรมานยิ่งกว่าตาย"

ผิงอันสูดลมหายใจเข้าไปลึก

"ผู้สืบทอดเซี่ยโหดร้ายจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าองค์ชายช่วยถอนพิษให้นาง ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิต เอาตัวเข้าแลก"

เซียวเหยียนจ้องมองเขา

"ข้าคือคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ......ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังทำไม? เจ้าเป็นนายหรือข้าเป็นนาย?"

ผิงอันยิ้มและพูดว่า”เป็นท่านขอรับ แน่นอนว่าท่านเป็นนาย ข้าน้อยจะไปเตรียมรถม้า"

เซียวเหยียนยืนอยู่ที่เดิม มองลงไปเห็นรอยข่วนที่มีเลือดซึมอยู่บนหลังมือ

นึกถึงท่าทางของกู้หนานที่จัดเตียงก่อนหน้านี้ ชัดเจนว่านางกลัวจนมือเท้าสั่น แต่สายตากลับเยือกเย็นจนน่าตกใจ

ในช่วงเวลาที่วุ่นวายเช่นนี้นางยังคิดที่จะปกปิดร่องรอยบนร่างกาย

ก่อนที่เซี่ยเหิงกำลังจะเปิดประตูเข้ามา นางก็รีบคว้าถั่วลิสงใส่ปาก แล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขา

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาจ้องมองการกระทำของนางตลอดเวลา เขาคงจะตกใจจนกระโดดขึ้น

เซียวเหยียนลูบไล้รอยข่วนบนหลังมือ ดวงตาเรียวยาวเผยความสนใจออกมาเล็กน้อย

"โตขึ้นมาหน่อยก็เหมือนแมวป่าตัวน้อยเลยนะ"

------

เรือนเหวินชางโฮว

หรูฮวารีบเข้ามา"นายหญิง บ่าวเห็นนายหญิงชราและท่านผู้สืบทอดออกไปอย่างหงุดหงิด พวกเขารังแกท่าน......

โอ้ย นายหญิง หน้าของท่านเป็นอะไรไป? ท่านกินถั่วลิสงอีกแล้วใช่ไหม?

บ่าวก็ว่าแล้วว่าแขกที่เรือนนอกก็ไม่ได้เยอะขนากนั้น ทำไมแม่จางถึงต้องเรียกข้ากับพี่หรูอี้ไปช่วย ที่แท้ก็อยากจะหาทางเล่นงานท่าน"

หรูฮวาเห็นผื่นแดงขนาดใหญ่บนใบหน้าของกู้หนาน สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที ไม่สนใจที่จะถามเรื่องก่อนหน้านี้ต่อ นางได้หันไปหายาทา

"บ่าวได้บอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่านายหญิงกินถั่วลิสงไม่ได้ ใครกันที่ยังเอาถั่วลิสงมาให้อีก"

กู้หนานพอจะเดาได้ว่าถั่วลิสงนั้นใครเป็นคนส่งมา

แต่โชคดีที่วันนี้มีถั่วลิสงจานนี้ ไม่เช่นนั้นร่องรอยบนร่างกายของนางคงปกปิดได้ยากจริงๆ

หรูฮวาหายามา ก็ได้ค่อยๆทาไปพร้อมด่า

"อย่าให้บ่าวรู้ว่าใครที่เป็นคนใจมารส่งมานะ ข้าจะไปดึงหูของนางให้ขาด......"

กู้หนานฟังเสียงที่ดังของนาง ความร้อนในดวงตาค่อยๆ ปรากฏขึ้น

ในชาติก่อน นางมีสาวใช้ประจำสองคน คือหรูอี้และหรูฮวา

หรูอี้อ่านหนังสือออก ฉลาดพึ่งพาได้ แล้วก็ได้ดูแลบัญชีแผงขายของของนาง แต่ก็ถูกเซี่ยเหิงเล่นงานก่อนคนแรก

เซี่ยเหิงให้ชายแก่คนหนึ่งมาย้ำยีหรูอี้ หรูอี้ที่ทนความอับอายไม่ได้ ก็ได้แขวนคอตาย

หรูฮวาเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาและปากไว ทำให้เมิ่งหยุนซางที่เพิ่งได้รับตำแหน่งสิทธิ์จัดการเรือนโกรธ ก็ได้ถูกตีจนตาย

เมื่อนึกถึงเรื่องต่างๆในชาติที่แล้ว กู้หนานก็อยากจะตบตัวเองสักที

โง่จริงๆ ทำไมถึงให้เซี่ยเหิงเล่นงานได้ขนาดนี้

"เรียบร้อย เดี๋ยวบ่าวเอาผ้ามาพันให้ วันนี้เป็นวันมงคลของท่านกับท่านผู้สืบทอดนะคะ

ไอ้คนใจมารที่เอาถั่วลิสงมาให้น่ะ ดูยังไงก็ไม่มีเจตนาดีแน่ ท่านผู้สืบทอดก็ไม่......"

หรูฮวาคิดอะไรได้ จู่ๆก็ได้เงียบไม่พูดต่อ

เก็บยาทาอย่างหงุดหงิด พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นกู้หนานที่มีน้ำตาคลอเบ้า ทำให้ตกใจไม่น้อย

หลุดปากเรียกคำเรียกของตอนที่ยังไม่ออกเรือนออกมา"คุณหนู ท่านเป็นอะไร? สายตาที่ท่านมองบ่าวเหมือนว่าไม่ได้เจอกันมาหลายปีแบบนั้น"

ก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้วไง

กู้หนานยิ้มทั้งน้ำตา ตบมือนางเบาๆ แล้วบอกว่า"ต่อไปก็เรียกข้าว่าคุณหนู ฟังแล้วสบายใจ"

หรูฮวามีหน้าตกใจ

คุณหนูของนางหลังจากแต่งงานเข้าเรือนเหวินชางโฮว วันที่สอง ก็สั่งให้คนข้างกายเปลี่ยนคำเรียกเป็นนายหญิง ห้ามเรียกนางว่าคุณหนูอีก

ทำไมวันนี้ถึงได้สั่งให้นางเปลี่ยนคำพูดในตอนที่จะเข้าเรือนหอกับท่านผู้สืบทอดด้วยล่ะ

หรูฮวามองดูสีหน้าของนาง ถามอย่างอดไม่ได้ว่า:"คุณหนู ท่านแต่งเข้ามาในบ้านนี้สามปีแล้ว นอกจากตอนที่ท่านผู้สืบทอดต้องการเงินแล้ว เขาเคยมีสีหน้าดีๆ ให้ท่านไหม?

ทำเหมือนพวกเราติดหนี้เขาหลายพันล้านอย่างนั้น ก็ไม่คิดๆดู ตอนนั้นเป็นพวกเขาเรือนโฮวฝูที่มาขอแต่งงานก่อน

การแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นตระกูลของพวกเราที่อยากแต่ง ตอนนี้ดีเลย วันมงคลอย่างเข้าเรือนหอแบบนี้ คนครอบครัวเขายังรังแกท่าน

ท่านผู้สืบทอดไม่พูดขอโทษเลยด้วยซ้ำ รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว"

ใช่ การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางอยากได้เอง

เมื่อสามปีที่แล้ว นางออกจากบ้านไปไหว้พระที่วัด และพบกับพวกอันธพาลบนทางภูเขา

จู่ๆเซี่ยเหิงก็ปรากฏตัว ให้คนใช้ไล่พวกนั้นไป

นางรู้สึกขอบคุณเซี่ยเหิงที่ช่วยชีวิตนางไว้ ไม่กี่วันต่อมา ตระกูลเซี่ยก็มาขอแต่งงาน

เมื่อรู้ว่าคนที่มาขอแต่งงานคือบุตรชายของตระกูลใหญ่ที่ช่วยชีวิตนางในวันนั้น นางก็ตอบรับการแต่งงานด้วยความยินดี

ต่อมา เหวินชางโฮวก็เสียชีวิตที่ชายแดนในขณะที่ขนส่งเสบียง และนางก็แต่งงานในช่วงไว้ทุกข์

แม่สามีเจ้าหญิงห้วยหยางบอกว่าต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาสามปี ไม่ให้เข้าเรือนหอ ต้องทำให้นางลำบากแล้วเสร็จ ก็ได้ยกหน้าที่ดูแลบ้านให้นาง

นางเคยรู้สึกซาบซึ้งใจที่แม่สามีใส่ใจ แต่หลังจากที่รับหน้าที่ดูแลบ้านแล้ว นางถึงได้รู้ว่าเรือนเหวินชางโฮวนั้นมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ กลายเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

เป็ฯครั้งแรกที่เซี่ยเหิงกอดยางไว้ในอ้อมกอด ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

"ขอโทษที่ทำให้นายหญิงต้องลำบาก บ้านเราไม่ค่อยดี ข้าจะพยายามทำให้บ้านเราดีขึ้นเพื่อให้เจ้าไม่ต้องลำบากอีก"

ในเวลานั้นใจนางเต็มไปด้วยความยินดี คิดว่าจะได้แต่งงานกับคนดี จึงยินดีที่จะใช้สินสอดของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเรือนโฮวฝู

แต่ไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการที่ชั่วร้ายของพวกเขา

กู้หนานได้สติกลับมา มุมปากก็ได้ยิ้มเย็นชา

"ไม่ต้องห่วง ต่อไปพวกเขาจะรังแกข้าไม่ได้อีกแล้ว ต่อไปพวกเจ้าก็ไม่ต้องฟังคำสั่งของแม่จางอีกต่อไป

คนในเรือนของเรา ฟังที่ข้าสั่งก็พอ"

สายตาของของหรูฮวาก็เป็นประกายขึ้น

"จริงเหรอคะ? คุณหนู"

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่นางบ่นเรื่องที่ท่านผู้สืบทอดไม่ดียังไง แม่ที่อยู่ข้างเจ้าหญิงห้วยหยางทำตัวอวดดียังไงต่อหน้าคุณหนู คุณหนูก็มักจะสั่งสอนนางด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม บอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าไปใส่ใจ

กู้หนานเห็นนางมีท่าทางไม่อยากเชื่อ จึงอดยิ้มไม่ได้

"แน่นอน ตอนนี้ข้ามีเรื่องด่วนให้เจ้าไปทำ เจ้าไปเรียกแม่ที่มาพร้อมกันตอนแต่งงาน ที่ครัวน่ะ"

หรูฮวาพับแขนเสื้อขึ้นอย่างกระตือรือร้นและพูดว่า:"คุณหนู ท่านจะไปจับคนที่ส่งถั่วลิสงให้ใช่ไหมคะ?

บ่าวจะไปพาคนนั้นมาแล้วฉีกปากของนางเดี๋ยวนี้ ดูสิว่าพวกนางจะกล้ารังแกคุณหนูอีกไหม"

กู้หนานส่ายหัว ชี้ไปที่จานขนมฟู่หลิงบนโต๊ะ

"ไม่ เจ้าไปจับคนที่ทำขนมฟู่หลิง และคนที่ส่งขนมฟู่หลิงมาเชิญมาอย่างสุภาพ บอกว่าข้ามีรางวัลให้ ต้องทำอย่างเงียบๆ อย่าให้ใครรู้"

หืม? ไม่ได้ไปจับคนหรอเหรอ?

หรูฮวาก็ได้งง

ไม่จับคนส่งถั่วลิสงเหรอ? ทำไมกลายเป็นเชิญคนมาแทนล่ะ?

แต่นั่นไม่สำคัญ

คุณหนูของนางให้เชิญ นางไปเชิญก็พอแล้ว

"คุณหนูดูให้ดีล่ะ"

หรูฮวายิ้มแย้มแจ่มใสไปที่ห้องครัวเพื่อเชิญคนมา

ทันทีที่คนเข้ามาในเรือนบ้าน กู้หนานก็มีสีหน้าไม่ดี และสั่งหรูฮวาด้วยเสียงเย็นชา

"ปิดประตูเรือน ปิดปากแล้วตี"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status