ในจดหมายมีเพียงประโยคเดียว"คน ข้าจะช่วยหลานสะใภ้ดูแล~ไว้ก่อน"เป็นประโยคธรรมดาๆ แต่ปัญหาอยู่ที่สัญลักษณ์โค้งๆ หลังคำว่าหลานสะใภ้ เพียงชั่วครู่เดียวก็ทำให้กู้หนานนึกถึงตอนที่เซียวเหยียนจากไปเมื่อวานนี้ คำนั้นที่ลากเสียงยาว"วันนี้ขอบคุณหลานสะใภ้มากสำหรับการต้อนรับ~"เสียงที่ยืดยาวนั้นเมื่อใส่เข้าไปในคำว่าหลานสะใภ้ ก็ทำให้กู้หนานหน้าแดงโดยไม่รู้ตัวสูดหายใจเข้าลึก ๆ กดความร้อนบนใบหน้า นางจึงอธิบายให้หรูอี้ฟัง"เป็นทหารองครักษ์ขององค์ชายจิ่งที่พาภรรยาฉางชุนไป""องค์ชายจิ่ง?"หรูอี้มีสีหน้าตกใจ"ทหารองครักษ์ขององค์ชายจิ่งทำไมจู่ๆ ถึงปรากฏตัวในเรือนของเรา?"กู้หนานก็ไม่แน่ใจสีหน้าของหรูอี้ดูแปลกไปเล็กน้อย พูดเบาๆ ว่า:"หรือว่าองค์ชายจิ่งมีความคิดอื่นกับคุณหนูหรือเปล่า?"ความร้อนที่เพิ่งจางหายไปจากใบหน้าของกู้หนานก็กลับมาอีกครั้ง"คำพูดนี้พูดมั่วๆไม่ได้นะ""งั้นคุณหนูจะอธิบายอย่างไรว่าทำไมคนขององค์ชายจิ่งถึงปรากฏตัวในเรือนของเราในตอนดึก? ทันทีที่ไฟลุกขึ้นก็พาคนออกไปได้พอดี?นอกจากองครักษ์คนนั้นจะคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวในเรือนของเรา?"เป็นแบบนั้นเหรอ?หรือว่าเซียวเหยียนให้คนจ
กู้หนานยังไม่มีแผนที่จะออกไปข้างนอกในตอนนี้หลังจากเฉินลี่จากไป หรูฮวารายงานจากข้างนอกว่า:"แม่บ้านกำลังรอคำตอบอยู่ในห้องโถงดอกไม้ คุณหนูจะไปเมื่อไหร่เจ้าค่ะ?"กู้หนานมองไปที่นาฬิกาทรายในห้อง ตอนนี้เป็นเวลาเช้าเจ็ดโมงสิบห้านาทีปกติเวลานี้ นางมักจะนั่งอยู่ในห้องดอกไม้เพื่อจัดการเรื่องต่างๆฟังการรายงานจากสาวใช้ในแต่ละที่ สั่งงานในแต่ละที่ แจกจ่ายป้ายประจำตัว ไม่ว่าจะลมพัดหรือฝนตก ในช่วงสามปีที่ผ่านมาไม่เคยหยุดพัก และไม่เคยเกิดข้อผิดพลาดเซี่ยเหิงและเจ้าหญิงห้วยหยางกลับว่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องสมควร โดยไม่ได้ใส่ใจในความพยายามของนางเลยกู้หนานหัวเราะเยาะเย้ยและสั่งหรูฮวา"ไปเอาสมุดบัญชี กุญแจ และป้ายส่งไปที่เรือนหนานซาน บอกนายหญิงว่าข้าป่วย ไม่สามารถดูแลบ้านได้ชั่วคราว"หรูฮวาถือสมุดบัญชีและป้ายเดินออกไปกู้หนานเตือนหรูอี้อีกครั้ง"หาคนที่เก่งในการทำอาหารจากคนที่ข้าพามาเป็นสินสอด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คนเรือนซงเสวี่ยถังของเราถังจะไม่ไปกินข้าวที่ครัวใหญ่แล้วเปิดครัวเล็กๆ ในเรือน ต่อไปจะใช้อะไรกินอะไร ให้คนของเราไปซื้อของเอง"หรูอี้:"คุณหนูกลัวว่าจะมีคนวางยาพวกเราอีก?"กู้หน
เจ้าหญิงห้วยหยางตบมือของกู้หนาน ในหน้ารู้สึกผิด"ข้ามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งตอนที่ยังไม่ออกเรือน ปีนั้นเราตั้งท้องพร้อมกัน และเคยสัญญาว่าถ้าต่างฝ่ายต่างมีลูกชายและลูกสาว ก็จะให้แต่งงานกันแต่ต่อมาตระกูลของเพื่อนข้ามีปัญหา นางจึงตามสามีไปจากเมืองหลวง แล้วขาดการติดต่อ และไม่รู้ว่านางให้กำเนิดลูกชายหรือลูกสาวเดิมทีคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอแล้ว ใครจะรู้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ลูกสาวของเพื่อนข้าก็ได้มาหาถึงเรือนโฮวฝู"กู้หนานฟังอย่างเงียบๆ จนถึงตรงนี้ แล้วจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามอง"มาหาเมื่อไม่กี่วันก่อน คือวันไหน?"เจ้าหญิงห้วยหยางสีเจอกับสายตาที่ใสซื่อของกู้หนาน ตาที่กลมโตแบบนั้น จู่ๆ ก็ได้รนขึ้นมาหรือว่ากู้หนานสังเกตอะไรได้?นางพูดอย่างคลุมเครือว่า:"เมื่อเดือนที่แล้ว ข้าจำไม่ได้ว่าเป็นวันไหน"กู้หนาน:"แปลกจัง ข้าที่ดูแลบ้านทุกวัน ทำไมไม่รู้ว่ามีคนมาหาเมื่อเดือนที่แล้วล่ะ?"ตาของเจ้าหญิงห้วยหยางก็ได้มีพิรุธเล็กน้อย"อ้อ ข้าจำได้แล้ว วันนั้นเจ้าออกไปงานเลี้ยงชมดอกไม้ที่บ้านตระกูลหลี่ ไม่ได้อยู่ในเรือน""คนรับใช้พาคนมาเจอข้าเลย ต่อมามีหลายเรื่องเกิดขึ้นในเรือน ข้าก็ลืมบอกเจ้าเกี่ยวกับเร
เจ้าหญิงห้วยหยางมีสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย ในใจคิดกู้หนานไม่ยอมรับง่ายๆ อย่างที่คิด"แต่ทำไม? เด็กดี เจ้ามีเงื่อนไขอะไรพูดมาเถอะ"กู้หนานรอคำพูดนี้จากนาง"แต่งให้นางเข้ามาเป็นภรรยาก็ได้ แต่ข้ากังวล......""กังวลอะไร?"กู้หนานแสดงสีหน้าดูน่าสงสาร"เมื่อวานนี้ที่เรือนของข้ามีขนมสองจานที่ส่งมา ขนมฟู่หลิงถูกวางยาอีกจานคือถั่วลิสง ข้าได้ยินมาว่าเฉียวหยู่ให้คนใช้ส่งมาคนที่รู้คงบอกว่าคนรับใช้ไม่มีมารยาท คนที่ไม่รู้ยังคิดว่าเฉียวหยู่ต้องการทำร้ายพี่สะใภ้อย่างข้าถ้าภรรยาเท่าเทียบแต่งเข้าบ้าน ก็จะมีเจ้านายเพิ่มอีกคนหนึ่ง คนในบ้านมีคนเยอะ ข้าล่ะกลัวจริงๆ อาหารในบ้านก็ไม่กล้ากินแล้ว"เซี่ยเฉียวหยู่เป็นลูกคนเล็กที่เจ้าหญิงห้วยหยางรักเอามากเซี่ยเฉียวหยู่อยากได้เครื่องประดับที่นางเตรียมไว้ในวันเข้าเรือนหอในขณะนั้นนางที่เต็มไปด้วยความดีใจที่จะได้เข้าห้องหอกับเซี่ยเหิง ก็ไม่ได้ตอลงกับคำขอไร้เหตุผลที่เซี่ยเฉียวหยู่ขอเซี่ยเฉียวหยู่ก็ได้ไม่พอใจ ก็จงใจสั่งให้สาวใช้ได้เปลี่ยนของว่างที่ส่งมาที่ห้องนางเป็นถั่วลิสง อยากที่จะทำให้นางที่เข้าเรือนหอถูกเซี่ยเหิงรังเกียจแม้ว่ามันได้ช่วยนางหลุดรอด
พร้อมกับเสียงตะโกนเสียงแหลม เซี่ยเฉียวหยู่เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบเมื่อเห็นกู้หนานในชุดกระโปรงยาวสีแดง นางก็อึ้งไปเล็กน้อยยังไม่ทันที่นางจะพูดอะไร แม่บ้านก็พุ่งเข้ามาทันที"คุณหนูรอง ในที่สุดท่านก็มา ข้าไม่รู้ว่าข้าได้ทำอะไรให้นายหญิงผู้สืบทอดโกรธ นายหญิงผู้สืบทอดถึงได้อยากจะตบปากข้า"เซี่ยเฉียวหยู่ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ"วันนี้เป็นวันที่พี่สะใภ้คนใหม่แต่งเข้ามา ข้ารู้ว่าพี่สะใภ้ไม่ชอบใจ แต่เจ้าก็ไม่ควรระบายอารมณ์กับแม่บ้านของข้า"กู้หนานถูกเซี่ยเฉียวหยู่ตำหนิอย่างไม่ยุติธรรมก็ได้ขำ"ที่แท้นี่คือแม่บ้านของเจ้า ในเวลาที่ควรทำงาน แต่กลับมายืนขวางที่ประตูเรือนของข้าและพูดจาไม่ดีแต่เช้าตรู่ตอนแรกที่เจอข้าก็คิดว่าท่านแม่ยายที่เพิ่งดูแลบ้านไม่กี่วัน บ้านก็ได้ไม่มีระเบียบอะไรไปเลย"เซี่ยเฉียวหยู่ก็ได้เถียงอย่างโมโห"พูดอะไรไร้สาระแม่ของข้าดูแลบ้านอย่างมีหลักเกณฑ์ ในบ้านไม่ได้ไม่มีระเบียบ"กู้หนาน:"แล้วทำไมในเวลานี้ แม่บ้านถึงมาที่หน้าประตูเรือนของข้าเพื่อพูดนินทา? อ้อ ข้ารู้แล้ว เป็นคำสั่งของคุณหนูรองใช่ไหม?หรือว่าคุณหนูรองไม่พอใจที่ท่านแม่ลงโทษให้เจ้ามาขอโทษข้า จึงจงใจส่งค
เสียงของกู้หนานนุ่มนวลมาก แฝงด้วยความเย็นชา"ข้าไม่เห็นด้วย!"เสียงแตรที่ครึกครื้นหยุดลงอย่างกะทันหันเซี่ยเหิงหันไปจ้องกู้หนานอย่างไม่พอใจแต่เมื่อเห็นกู้หนานก็ได้อึ้งไปเลยทันที กู้หนานสวมชุดยาวสีแดงสดที่ทำจากผ้าไหมลายเมฆ ที่เอวมีเข็มขัดสีเหลืองอ่อนปักด้วยด้ายทองเป็นรูปผีเสื้อที่กำลังจะบิน ทำให้เอวของนางดูบางและน่าทะนุถนอมนางมีใบหน้าที่สวยงามอยู่แล้ว เมื่อสวมใส่สีแดงสด ยิ่งทำให้นางดูสูงและผิวขาวสวยงาม น่าหลงใหล กู้หนานสวยขนาดนี้เลยเหรอ?เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เมิ่งหยุนซางในชุดแต่งงานสีแดงสดที่อยู่ข้างๆ ดูหมองไปเลยเซี่ยเหิงมองกู้หนาน สายตาก็ได้เข้มลงแม้ว่าเมื่อวานนางจะอ้วกใส่ตน แต่ในใจยังคงมีตนอยู่ไม่ว่าจะโวยวายยังไง กู้หนานก็แค่อยากให้เขารักและเอาใจใส่มากขึ้นเท่านั้นใช่ไหม?แม้ว่าในใจเขาได้มีหยุนซางแล้ว ก็ไม่ชอบที่กู้หนานมาจากตระกูลพ่อค้า ที่เอาแต่คิดแต่เรื่องเองแต่ถ้านางเชื่อฟัง เขาก็ไม่รังเกียจที่จะให้ความเอ็นดูนางความหงุดหงิดของเซี่ยเหิงก็ได้จางไปเล็กน้อย น้ำเสียงได้อ่อนลง"นายหญิงเจ้าไม่เห็นด้วยที่หยุนซางจะเข้าประตูหลักหรือ?"กู้หนานมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาข
ตามหลักการแล้ว หยุนซางกับเหิงเอ๋อหมั้นหมายกันก่อน นางต่างหากที่ควรจะเป็นภรรยาหลวงแต่เหิงเอ๋อรักและห่วงใยเจ้า ไม่อยากให้เจ้าต้องเจอเรื่องน้อยใจ แต่ก็ไม่สามารถไม่ปฏิบัติตามสัญญาการแต่งงานกับหยุนซางได้ จึงต้องให้หยุนซางเป็นภรรยาเท่าเทียบหยุนซางได้ถอยให้ก้าวหนึ่งแล้ว เจ้าก็ยอมถอยให้อีกก้าวเถอะ ให้นางเข้าทางประตูหลักถือว่าข้าที่เป็นแม่สามีขอร้องเจ้าได้ไหม?"เจ้าหญิงห้วยหยางกุมมือของกู้หนาน ใบหน้าเต็มไปด้วยการอ้อนวอนผู้คนที่มุงดูรอบๆ เริ่มพูดคุยกัน "ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้สืบทอดเซี่ยต้องแต่งภรรยาเท่าเทียม ที่แท้ก็เพราะมีเรื่องแบบนี้""ฝ่ายหนึ่งคือภรรยาที่แต่งงานเข้ามาช่วงไว้ทุกข์ อีกฝ่ายคือคุณหนูที่หมั้นหมายตั้งแต่เด็ก ช่างเป็นเรื่องที่ลำบากใจจริงๆ""เรือนโฮวฝูสงสารเด็กกำพร้า แล้วก็ทำตามคำสัญญาผู้สืบทอดเซี่ยเป็นคนที่ซือสัตย์จริงๆ""ถ้าจะให้ข้าว่าภรรยาเท่าเทียมควรเข้าทางประตูหลักนะ""ใช่แล้ว ควรเปิดประตูหลัก"ทุกคนต่างเห็นด้วยกับเจ้าหญิงห้วยหยางที่ให้เข้าประตูหลักแววตาของเจ้าหญิงห้วยหยางก็ได้มีความได้ใจเซี่ยเหิงถอนหายใจอย่างลับๆ ว่าความคิดเห็นของสาธารณชนอยู่ข้างเขาเมิ่งหยุ
เมิ่งหยุนซางตกใจมาก จนเกือบล้มลงบันไดเซี่ยเหิงมือไม่ไว ก็ได้ลากแขนนางไว้เมิ่งหยุนซางยืนได้อย่างน่าสังเวช น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ"เหิงหลาง ท่านพี่ขัดขวางข้าไม่ให้เข้าบ้านหลายครั้งหรือว่านางไม่อยากให้ข้าแต่งงานกับท่าน?ถ้าเป็นแบบนี้ หยุนซางก็ตัดผมไปวัดเป็นแม่ชีไปเลย ดีกว่าถูกคนรังแกแบบนี้"เซี่ยเหิงกอดเอวนางไว้ แล้วก็เช็ดน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน"หยุนซาง ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ จะไม่ให้ใครมาทำให้เจ้าลำบากใจได้หรอก"กู้หนานมองดูเขาปลอบโยนเมิ่งหยุนซางอย่างอ่อนโยน ในใจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในชาติก่อนเซี่ยเหิงก็เคยพูดแบบเดียวกันกับนางเพื่อที่จะให้นางยกสมบัติให้เซี่ยรุ่ย เมิ่งหยุนซางที่อยู่ต่หน้านางก็ได้ทำตัวต่ำต้อย อ่อนโยน ไม่เคยที่จะแย่งความรักกับนางแต่บางครั้งนางก็บังเอิญเห็นฉากที่เซี่ยเหิงกอดเมิ่งหยุนซางด้วยความอ่อนโยนและเอาใจใส่อยู่หลายครั้ง ในตอนนั้นนางก็รู้สึกขมขื่นและอิจฉาขมขื่นที่ในสายตาของสามีของนางก็เต็มไปด้วยผู้หญิงคนอื่น อิจฉาเมิ่งหยุนซางที่ได้รับความรักและความอ่อนโยนจากเซี่ยเหิงดังนั้นนางจึงทุ่มเทมากขึ้นในการสอนเซี่ยรุ่ย และดูแลเรือนโฮวฝูนี้ทุกครั้งที่เซี่ยรุ่ยป