แชร์

บทที่ 7

เจ้าหญิงห้วยหยางมองไปที่ใบหน้าซีดของกู้หนาน สายตาก็ได้มีความได้ใจ

"เรื่องของวันนี้เป็นเพียงคนใช้ใส่ร้ายเจ้านายเท่านั้น ถ้าไปถึงศาลแล้ว เรือนเหวินชางโฮวก็เป็นตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียงมาสามชั่วอายุคน ผู้พิพากษาก็น่าจะให้เกียรติเรือนเหวินชางโฮวบ้าง

ส่วนเรื่องที่ใช้สินสอดของเจ้า ก็พูดแล้วว่าเป็นการยืม เราไม่ได้บอกว่าจะไม่คืน เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเงินเท่านั้น

ในเมื่อเจ้าแต่งเข้ามาในตระกูลเซี่ย ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลเซี่ยแล้ว ครอบครัวเดียวกัน เจ้ามาทวงหนี้แม่สามีและสามีของตัวเอง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เจ้าก็ไม่ได้อะไรดี"

"กู้หนาน ถ้าเจ้ามีฉลาดสักหน่อย เจ้าควรรู้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้เจ้าเสียเปรียบมากกว่า

แทนที่จะเก็บความขุ่นเคืองไว้ เรามาคุยกันอย่างสงบสุขดีกว่า ข้าจะยังคงถือว่าเจ้าเป็นภรรยาของผู้สืบทอดเรือนโฮวฝู และเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน"

เซี่ยเหิงก็ได้รีบพูดเสริม ปลอบกู้หนานเสียงต่ำ

"ท่านแม่พูดถูก แม้ว่าคนรับใช้จะน่ารังเกียจ แต่เจ้าก็ไม่ได้รับอันตราย

เจ้ามักจะรู้จักเหตุผลและเข้าใจง่ายเสมอ อย่าทำให้มันยุ่งยากอีกเลย ข้าสัญญาว่าจะรักเจ้าให้มากขึ้นไปอีก"

กู้หนานรู้สึกขยะแขยงกับใบหน้าที่ไร้ยางอายของพวกเขา

อะไรคือนางไม่ได้ถูกทำร้าย?

ถ้าไม่ใช่เพราะนางฉลาด และเกิดใหม่ ตอนนี้คนที่ถูกกดลงบนพื้นและโดนเยาะเย้ยก็คงเป็นนางไปแล้ว

ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้นางสั่นมือไม่หยุด

นางไม่สามารถเก็บความโกรธในใจได้อีกต่อไป นางยกมือขึ้นและตบหน้าเซี่ยเหิงอย่างแรงอีกครั้ง

เพี้ยะ

ใบหน้าซ้ายของเซี่ยเหิงก็ได้มีรอยนิ้วมือห้านิ้วปรากฏ ส่วนรอยฝ่ามือที่แก้มขวายังไม่จางหาย ซ้ายขวาอย่างละหนึ่ง พอดีเลย

"กู้หนาน อย่าทำตัวบอกบุญไม่รับ"

เซี่ยเหิงคิดไม่ถึงว่ากู้หนานกล้าตบเขาอีกครั้ง ก็ได้ตะคอกออกมาดังๆ

กู้หนานมองเขาอย่างเย็นชา

"ท่านผู้ตรวจราชการราชสำนักให้เกียรติเรือนเหวินชางโฮวไหม ข้าไม่รู้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์ชายจิ่ง

ก็ไม่รู้ว่าในใจของท่านผู้ตรวจราชการราชสำนักนั้น หน้าตาเรือนโฮวฝูหรือองค์ชายจิ่งทั้งสองคนไหนใหญ่กว่า"

นางสั่งให้หรูอี้และหรูฮวา"พาคนไป เราไปกันเถอะ"

หรูอี้และหรูฮวาจ้องมองเซี่ยเหิงอย่างดุเดือด ดึงภรรยาของฉางชุนออกไปข้างนอก

"ขวางพวกมันไว้"

เซี่ยเหิงก็ได้ตะโกนอย่างหงุดหงิด

ทันทีที่พูดจบ คนใช้ในเรือนเรือนโฮวฝูก็รีบวิ่งเข้ามา

แม้ว่าคนที่ที่มาพร้อมกับกู้หนานจะพยายามต่อต้านอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังถูกทำให้แยก

พอเห็นว่าจะถูกขวางไว้ที่ประตูใหญ่ ในตอนนั้นมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งพุ่งออกมาจากกลุ่มคนใช้

เขามีแขนขายาว ออกแรงไม่กี่ที ก็ได้ทำให้องครักษ์ของเรือนโฮวฝูล้มไปกพื้นบ

ทางไปยังประตูเปิดถูกออก

กู้หนานพาคนไปที่ประตูแล้ว

เซี่ยเหิงกลัวว่ากู้หนานจะสู้จนตายกันไปข้าง แล้วเรื่องจะไปถึงศาลผู้ตรวจราชการราชสำนักจริง จึ่งรีบตะโกนว่า:"ข้าตกลง"

กู้หนานหยุดเดิน หันกลับไปมอง

สีหน้าของเซี่ยเหิงดูไม่ดี"ข้าจะคืนหมู่บ้าน ร้าน และเงินให้เข้า พอใจยัง?"

กู้หนานพยักหน้า"คืนตอนนี้"

เซี่ยเหิงกัดฟัน หันไปมองเจ้าหญิงห้วยหยาง

"ท่านแม่คืนให้นาง"

เจ้าหญิงห้วยหยางส่ายหน้า"ไม่ได้ ในบ้านมีเงินที่ไหน?"

"ท่านแม่!"เซี่ยเหิงพูดด้วยความโมโห น้ำเสียงแทบจะลอดออกมาจากฟันของเขา

"ให้นาง หรือว่าท่านอยากนางเอาเรื่องนี้ไปโวยวายถึงหูองค์ชายจิ่งฬ"

เจ้าหญิงห้วยหยางนึกถึงนิสัยขององค์ชายจิ่ง และในใจรู้สึกกลัวเล็กน้อย

แต่การให้นางเอาเงินออกมาคืนกู้หนานก็เหมือนกับการดื่มเลือดของนาง ตัดเนื้อของนาง นางทำไม่ได้

เซี่ยเหิงเข้าใจแม่ตัวเองดี จึงต้องแม่จางด้วยตัวเอง

"ไปที่ห้องของข้าและเอาร้านค้าและโฉนดที่ดินของหมู่บ้าน"

กู้หนานแกว่งสมุดเล่มเล็กในมือ"และยังเงินห้าหมื่นตำลึง"

เซี่ยเหิงทำได้เพียงกัดฟันและพูดเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง

"เอาเงินอีกห้าหมื่นตำลึงมาด้วย"

เจ้าหญิงห้วยหยางมองกู้หนานราวจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ"ไม่ ห้ามให้นาง"

เซี่ยเหิงนวดหว่างคิ้วอย่างโมโห:"ยังไม่รีบไป"

แม่จางรีบไปและกลับมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กลับมาจากเรือนหนานซาน พร้อมกับถือสัญญาแดงสองสามใบและตั๋วเงินหนึ่งปึกในมือ

เจ้าหญิงห้วยหยางเจ็บปวดใจจนสั่นสะท้าน ก็ยื่นมือไปแย่ง แต่ถูกเซี่ยเหิงจับไว้แล้วส่งให้กู้หนาน

กู้หนานมองดูเงินในมือด้วยความโกรธ

ถ้าสามารถเอาเงินห้าหมื่นตำลึงออกมาให้เห็นได้ชัดเลย ว่าเรือนเหวินชางโฮวไม่ได้ขัดสนอะไร

ก็แค่ร่วมหัวกันหลอกนางเท่านั้นเอง

นางยื่นให้กับหรูอี้

"นับให้ละเอียด บัญชีจะได้ไม่ผิดพลาด"

เจ้าหญิงห้วยหยางโมโหเอามากๆ

สีหน้าของเซี่ยเหิงก็ไม่ดีกว่าเดิม

หรูอี้ก็ได้รับเอาโฉนกมาแล้วก็ดูอย่างละเอียด จากนั้นก็ได้นับเงิน :

"เรียนคุณหนู นายหญิงชราและท่านผู้สืบทอดได้คืนร้านค้าหกแห่งที่ยืมไป สองหมู่บ้านและเงินห้าหมื่นตำลึงแล้วเจ้าค่ะ

ของเหล่านี้หากอยู่ในธนาคาร สามปีอย่างน้อยก็มีดอกเบี้ยสองพันตำลึงนะ"

กู้หนานแกล้งทำเป็นตกใจ"ดอกเบี้ยเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ?งั้นข้าก็ขาดทุนไปเยอะแล้วนะสิ?"

หรูอี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่คุณหนูของนางตอบ ก็ได้รีบพยักหน้า

"ก็ใช่น่ะสิ คุณหนูใจดีเกินไปแล้ว ถึงได้ยืมไปนานขนาดนี้แล้วยังไม่ทวงคืนอีก"

กู้หนานหัวเราะอย่างเย็นชา

ในชาตินี้นางจะไม่เป็นคนใจดีอีก

"แม่สามีก็ได้ยินแล้ว งั้นก็เพิ่มดอกเบี้ยอีกสองพันสองดีกว่า"

เจ้าหญิงห้วยหยางโกรธจนอยากจะกระอักเลือด ชี้ไปที่กู้หนานแล้วด่าอย่างแรง

"ไอคนใจมาร กครอบครัวตัวเองยืมเงินยังคิดดอกเบี้ยอีก เจ้าคิดเงินจนบ้าไปแล้วเหรอ?"

กู้หนานเลิกคิ้วเล็กน้อย

"แม่สามีพูดแบบนี้ไม่ถูกเลยนะ ตามที่กล่าวว่าพี่น้องยังต้องคำนวณบัญชีให้ชัดเจน การยืมเงินจะคิดดอกเบี้ยหรือไม่ แน่นอนว่าเจ้าหนี้เป็นคนตัดสินใจ"

"เห้อ ไม่ให้ดอกเบี้ยก็ได้ งั้นพวกเราก็ไปที่ศาลผู้ตรวจราชการราชสำนักเพื่อตัดสินกันเถอะ"

เจ้าหญิงห้วยหยางกุมหน้าอกของนางด้วยความโกรธจนตาเหลือก

เซี่ยเหิงที่มีสีหน้าไม่ดี ก็ได้ลากเอากระเป๋าแล้วก็โยนให้กู้หนาน

"ข้างในมีเงินสองพันสอง เจ้าเอาไป จบเรื่องวุ่นวายนี้ได้ยัง?"

กู้หนานใช้สองนิ้วจับกระเป๋า ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เปิดออก หยิบเงินสองใบออกมาจากข้างใน

จากนั้นก็โยนกระเป๋ากลับไปอีกครั้ง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดมือออกมาเช็ดนิ้วให้สะอาดทีละนิด

ท่าทางรังเกียจนั้นเหมือนกับว่าถ้าทิ้งช้าหน่อย เช็ดช้าหน่อย มือจะถูกกระเป๋าทำให้เปื้อน ทำเอาเซี่ยเหิงที่มองตาเป็นไฟ

สามารถทำให้เขาโกรธได้ กู้หนานรู้สึกมีความสุขมาก

"ที่แม่สามีและท่านผู้สืบทอดพูดมีเหตุผล การไปที่ศาลผู้ตรวจราชการราชสำนักมันไม่เหมาะจริงๆ ถ้าเช่นนั้น วันนี้ข้าจะไม่ไป"

นางหันหลังและพาคนของนางออกไป

เจ้าหญิงห้วยหยางรู้สึกเหมือนมีเสียงดังในหัว ราวกับว่าทั้งตัวจะระเบิดออกมา

นางรีบผลักเซี่ยเหิง"ยืนงงทำไมล่ะ ให้นางเอาตัวภรรยาของฉางชุนคืนมาสิ"

เซี่ยเหิงมองกู้หนานที่เดินออกไป เม้มปากแน่น

เขามีลางสังหรณ์ว่า แม้จะขอร้อง กู้หนานก็ไม่ยอม

ทำไมกู้หนานที่เคยถูกกล่อมได้ด้วยคำพูดดีๆ เพียงไม่กี่คำในอดีตถึงได้เปลี่ยนไป?

เซี่ยเหิงหงุดหงิดจนนวดหว่างคิ้ว มองคนรอบข้างอย่างโมโห

"เรื่องของวันนี้ห้ามพูดออกไป ถ้ามีมีหลุดออกไปแม้แต่คำเดียว จะถูกตีจนตายทันที"

------

พระราชวังจิ่ง

ผิงอันรีบเดินเข้าไปในห้องหนังสือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

"องค์ชายข่าวลือร้อนๆ สดๆ ใหม่ๆ ท่านอยากฟังไหม?"

เซียวเหยียนที่กำลังเช็ดดาบอยู่ไม่ได้มองไป

"ไม่สนใจออกไป"

"อ้อ"ผิงอันลูบจมูกของเขา หันหลังเดินออกไปและบ่นพึมพำเบา ๆ"ข้าเองก็ไปตามข่าวของเรือนเหวินชางโฮวมาอย่างยากลำบาก ไม่ฟังก็ช่าง ข้าไปพูดกับคุณชายเย่"

ได้ยินคำว่า"เรือนเหวินชางโฮว"หูของเซียวเหยียนกระดิกเล็กน้อย

"กลับมา"

ดวงตาของผิงอันหมุนไปมา ยิ้มแย้มแจ่มใสและพิงบนโต๊ะมองเจ้านายของตัวเอง

"บ่าวก็รู้ว่าองค์ชายยังคงห่วงใยหลานสะใภ้ของท่านอยู่ ก็เพราะว่าท่านทั้งสองได้ทำแบบนั้นมาแล้ว"

เขาตบมือสามครั้งด้วยมือทั้งสองข้างแล้วหัวเราะเบา ๆ

ปากเพิ่งเปิดออก แสงเย็นตรงหน้าวาบขึ้น ดาบในมือเซียวเหยียนก็เหวี่ยงมา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status