18
ขอแต่งงานพร้อมข้อเสนอ
“คืนนี้พี่ขอคุยเรื่องสำคัญด้วยนะ ” ชายหนุ่มเดินมาบอกหญิงสาวที่โต๊ะทำงาน
“คุยที่ไหนคะ” ปาลิดาวางมือจากงานก่อนหันหน้ามาสบตา
“ร้านอาหาร บนดาดฟ้า โรงแรมแถวนี้แหละ ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ทำอะไรลิดาหรอก”
คนพูดเปลี่ยนสายตาจากจริงจัง เป็นสายตาที่เศร้าลงทันที
ปาลิดาเอง ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ต้องการเขา แต่เธอรู้ว่าเธอมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำมากกว่า ความรักสำหรับเธอตอนนี้ มันมีค่าน้อยกว่าความแค้น
“ได้ค่ะ ลิดาเชื่อใจพี่เขม”
ปาลิดาไม่อยากเห็นสายตาที่ดูเศร้า ของชายหนุ่มตรงหน้า เธอจึงก้มหน้ากับงานต่อไป
คำพูดของคนที่เคยนอนกอด และนอนทำอะไรกันมามากกว่านี้ แต่วันนี้มันช่างดูเหินห่าง ดูเหมือนเป็นแค่เพียงคนรู้จักกันเท่านั้น
ตลอดเวลาทั้งวัน หญิงสาวแอบมองชายหนุ่มตลอด เพราะเธอก็อยากรู้ว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอ
ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากเขาถึงได้ไม่ยอมคุยที่ทำงาน แต่กลับต้องรอถึงเย็น
“ไปกันได้แล้ว”
เมื่อเวลาเลิกงานมาถึง ชายหนุ่มก็เดินมารับ ปาลิดาที่ตะทำงาน ด้วยสายตาที่ยังดูเศร้าอยู่ จนหญิงสาวไม่กล้าที่จะสบตาเขา เพราะกลัวเธอจะเผลอใจอ่อน
“ลิดาไม่เคยรู้ว่ามีร้านอาหารแบบนี้เลยนะคะ บรรยากาศดีมากเลย มองเห็นกรุงเทพได้เกือบทั้งเมือง”
หญิงสาวไม่เคยไปไหนนอกจากที่ ที่พ่อกับแม่เธอพาไป โดยเฉพาะสถานที่แบบนี้
“แต่งงานกับพี่นะ”
ปาลิดาตกใจกับสิ่งที่เธอได้ยิน ทุกคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ต่างพากันปรบมือและตะโกนว่า
“แต่งเลย แต่งเลย”
ข้างๆของเธอก็มีนักดนตรี สีไวโอลินเป็นบทเพลงที่แสนโรมแมนติก เหมาะกับบรรยากาศมากๆ
“เราจะย้ายไปอยู่บ้านของลิดา ที่จะกลับมาเป็นของลิดาอีกครั้ง”
เขมกรรีบยื่นขอเสนอทันที เพราะเขาเห็นปาลิดาเอาแต่เงียบ เขากลัวคำตอบจะทำร้ายหัวใจของเขา และทำให้เขาต้องอับอายคนทั้งร้าน
“แต่งค่ะ” หญิงสาวยื่นนิ้วเรียวให้ชายหนุ่มสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย
ความจริงปาลิดายอมรับคำขอแต่งงาน ตั้งแต่แรกแล้ว แต่สมองของเธอมันสั่งให้ความแค้นทำงาน เสียงของอัสมาดังก้องในความคิดของเธอ
แต่เมื่อเขาบอกว่าจะไปใช้ชีวิตที่บ้านของเธอ และบ้านนั้นจะกลับมาเป็นบ้านของเธออีกครั้ง จึงไม่มีสิ่งไหนต้องกังวลอีกแล้ว
“ขอบคุณนะครับ”
เขมกรโอบกอดหญิงสาว ที่เขาไม่รู้ตัวเลย ว่าเริ่มรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่รู้ว่าพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ และจะไม่ยอมเสียเธอให้ใครไปแน่ๆ
การขอแต่งานผ่านพ้นไป ปาลิดาบอกเล่าทุกอย่างให้ อัสมาฟัง คนปลายสายได้ยินแล้วรู้สึกลังเล เพราะข้อดีคือบ้านจะกลายเป็นชื่อของปาลิดา
มันคงไม่ยากถ้าเธอจะวางแผนให้เปลี่ยนเป็นชื่อเธอ แต่ติดตรงที่เขมกรจะเข้ามาอยู่ในบ้านนี่ด้วยสิ
“น้ายินดีด้วยนะ แต่น้าไม่เห็นด้วย ที่จะเอาเขาเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา” อัสมาลองหยั่งเชิง
“ทำไมล่ะคะ ในเมื่อเขาก็เป็นสามีของลิดาแล้ว อย่างไงบ้านก็เป็นชื่อลิดา เขาไม่มีทางมาเอามันไปได้แน่นอนค่ะ”
เมื่อหญิงสาวยืนยันแบบนั้น อัสมาจึงต้องถอยทับ แล้วค่อยรอเวลานั้น แล้วค่อยคิดการใหม่
“เงินที่หนูฝากน้าไว้ น้าก็จะเก็บเอาไว้ซื้อหุ้นของบริษัทคืน น้าขายไปสิบล้าน เขาต้องขายกลับแพงกว่าแน่ๆ”
อัสมารีบอธิบาย เพราะกลัวปาลิดาจะทวงคืนเงินที่ฝากไว้คืน
“ค่ะ คุณน้า ลิดาเป็นสะใภ้บ้านนี้แล้ว เงินแค่ไม่กี่ล้านคงหาได้ไม่ยากค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ อัสมาก็รู้สึกโล่งใจ ที่เธอยังพอจะหาเงินจากลูกเลี้ยงแสนซื่อได้
กานดารับรู้จากธรรมสรณ์ว่าปาลิดาจะแต่งานกับเขมกรในเร็วๆนี้ เธอทั้งตกใจและแปลกใจ เพราะไม่เคยได้ยินปาลิดาพูดถึงเรื่องนี้เลย
“ลิดาหนูจะแต่งงานเหรอ ไม่เห็นเคยพูดเรื่องนี้กับน้าเลย”
กานดาทนไม่ไหว โทรศัพท์ทางไกลจากอเมริกา มาถามหลานสาวให้รู้เรื่อง ว่าความจริงมันเป็นอย่างไรกัน
“พี่เขม เขาขอลิดาแต่งงาน แต่เรายังไม่ได้กำหนดวันอะไรกัน ลิดาเลยยังไม่กล้าบอกคุณน้า อยากรอให้ทุกอย่างมันแน่นอนก่อน”
“แล้วไปรัก ไปชอบกันตอนไหน”
กานดาต้องการคำอธิบายที่ละเอียดกว่านี้ เพราะอยากรู้ต้นสายปลายเหตุ
“พี่เขมเขาคงชอบลิดา ตั้งแต่เจอแล้วมั้งคะ อยู่ดีๆก็มาขอแต่งงานเลย”
ปาลิดาไม่กล้าพอที่จะเล่าความจริง เพราะเธอรู้จักน้าสาวของเธอดี
“แล้วเราล่ะ พูดเหมือนไม่ได้รักเขาเลย” กานดาฟังคำตอบหลานแล้วรู้สึกแปลกๆ
“ชอบสิคะ ถ้าไม่ชอบจะยอมแต่งไหม”
ปาลิดาตอบตามจริงว่าเธอชอบเขมกรเหมือนกัน แต่เธอแค่บอกเหตุผลไม่ครบแค่นั้น
“ตัดสินใจดีๆนะลิดา มีอะไรก็โทรหาน้าได้ตลอด”
กานดารู้ว่า คงต้องมีอะไรมากกว่าที่หลานสาวบอก แต่ก็คิดว่าถ้าปาลิดาต้องการที่ปรึกษาเมื่อไหร่ คงจะเล่าทั้งหมดให้เธอฟังเอง
“ขอบคุณคุณน้ามากนะคะ ลิดาแต่งงานเมื่อไหร่จะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน บ้านที่ได้กลับมาเป็นชื่อของลิดาอีกครั้ง”
คำพูดสุดท้ายก่อนวางสาย ทำให้กานดาแอบเดาเหตุผล ที่หลานสาวต้องการแต่งงานได้ แต่ถ้าเขมกรไม่ได้รักปาลิดา เขาคงไม่เป็นฝ่ายมาขอเธอแต่งงานแน่ๆ
ถึงแม้จะห่วงแค่ไหน แต่อยู่ไกลกันเกินกว่าจะดูแลได้ และปาลิดาก็โตแล้ว กานดาจึงได้แต่ห่วงอยู่ห่างๆ
19ตาสว่าง นักสืบที่เขมกร จ้างให้คอยตามทั้งปาลิดาและ อัสมา รายงานมาว่า ปาลิดาถอนเงินจำนวนมากออกจากธนาคาร และกำลังจะนัดเจอกับอัสมาอีกเร็วๆนี้ “พรุ่งนี้ทั้งวัน พี่ขอพาตัวลิดาไปกับพี่ทั้งวันหน่อยนะ” เขมกรบอกหญิงสาวในขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้านด้วยกันหลังเลิกงาน “ไปไหนเหรอคะพี่เขม” ปาลิดาถามอย่างแปลกใจ “เดี๋ยวก็รู้ ” เขมกรคิดว่าถ้าบอกเธอ ว่าเขาจะพาไปไหน มีหวังหญิงสาวไม่ยอมไป และไม่เชื่อในสิ่งที่เขาจะพาไปเจอด้วย ปาลิดาถอนเงินมาคราวนี้เธอถอนมาหมดบัญชีเลย เพราะต้องการเอาไปฝากอัสมา เพื่อให้แม่เลี้ยงของเธอซื้อหุ้นของบริษัทคืน การตัดสินใจแต่งงานกับเขมกรครั้งนี้ หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเธอรักเขาไหม แต่ก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งที่เขาเป็นลูกชายของศัตรู “จะหลอกไปฆ่าหรือเปล่าคะ จะพาไปไหนก็ไม่ยอมบอก” ปาลิดาพูดหยอก เมื่อเธอขึ้นมานั่งข้างๆคนขับ เพราะเธอพยายามถามเขาหลายครั้งว่ากำลังจะพาเธอไปไหน แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ “จะพาไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง”คนขับยื่นหน้ามาจนแทบจะติดหน้าของปาลิดา
20กระดาษในกรอบรูป บ้านหลังนี้ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง จากที่ตอนแรก ลิดาคิดว่าคงมีฝุ่นเต็มไปหมด แต่จะเห็นที่เปลี่ยนไป คือข้าวของมีค่าแทบจะไม่มีเหลือเลยซักชิ้น “คุณพ่อคะลิดา มาหาพ่อแล้วนะ” หญิงสาวหยุดลง นั่งพูดกับรูปภาพครอบครัวของเธอ ที่ถ่ายพร้อมกัน พ่อแม่ลูก ก่อนวันที่แม่ของเธอจะจากไปเพียงวันเดียว “ความจริงมันคืออะไร ทำไมคุณพ่อต้องเป็นหนี้สิน ทำไมคุณพ่อต้องเสียใจ จนขาดสติและจากลิดาไปแบบนี้” หญิงสาวคร่ำครวญกับรูปภาพ อย่างคนเสียสติ น้ำตาของเธอไหลออกมาจากตากลมโต เหมือนสายฝน ที่กำลังตกหนัก “สิ่งที่คุณน้าอัสมาบอกมันคือเรื่องจริงหรือโกหก ครอบครัวนู้นทำให้พ่อต้องตายใช่ไหมคะ หรือมันไม่ใช่ คุณพ่อกลับมาบอกลิดาเดี๋ยวนี้”เสียงที่เค้นออกจากลำคอ เหมือนต้องการจะเอาความทุกข์ในใจออกมาตามเสียงนั้น“ลิดาจะแต่งงาน ลิดาจะเอาทุกอย่างคืนมาให้ครอบครัวเรา คุณพ่อต้องภูมิใจในตัวลิดา”หัวใจลึกๆของเธอ รู้ว่าความจริงครอบครัวของ เขมกรน่าจะไม่มีส่วนในการตายของบิดาเธอ แต่ปาลิดาก็ยังอยากหลอกตัวเองต่อไป ตราบใดที่เธอยังไม่รู้ความจริงปาลิดาค่อยๆเอาเก้าอี้มาเ
21บ้านของเรา งานแต่งานถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหลายคนพากันซุบซิบนินทา ว่าเจ้าสาวท้องหรือเปล่าถึงได้รีบแต่ง แต่สำหรับทั้งเจ้าบ่าว และเจ้าสาว ต่างรู้ดี ว่าความรักและความต้องการของทั้งสองคนต่างหากคือตัวเร่งเร้า เขมกรได้ไปดูแลการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านด้วยตัวเอง เพราะอยากให้ทุกอย่างดีที่สุด ธรรมสรณ์ยกหุ้นในบริษัทของนิรัช คืนแก่ปาลิดาทั้งหมด พร้อมทั้งโอนบ้านและที่ดินให้เป็นชื่อของหญิงสาวหลังการจดทะเบียนสมรส อัสมาเอง เมื่อติดต่อปาลิดาไม่ได้ เธอก็รู้ตัว ว่าลูกเลี้ยงของเธอคงรู้ความจริงเข้าแล้ว หลังจากซื้อบ้านใหม่ได้ไม่ถึงสองปี เขมกรก็ได้ข่าวว่า อัสมาติดหนี้จนต้องขายบ้าน และพาตัวเองย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เพื่อกลับไปทำอาชีพเดิม “เอาสีเดิมนะคะ พี่เขม”ปาลิดาเลือกสีทาบ้านใหม่ แต่เธอยังยืนยันที่จะเอาสีเดิม แต่ยอมให้เปลี่ยนสีภายนอกได้ เพราะอย่างน้อยมันคงช่วยให้เธอลืมความสูญเสียลงได้บ้าง“ลิดาว่าจะทุบห้องให้รวมกัน เพราะเราอยู่กันแค่สองคน มีตั้งหลายห้องมันดูเหงานนะคะ”หญิงสาวไม่เห็นด้วยที่เขมกร ตกแต่งห้องทั้งสี่ห้อง บนชั้นสองให้เป็
ตอนที่1ตบตี “แพททำอะไรผิด ดิวถึงได้ทำกับแพทแบบนี้” หญิงสาวในชุดโรงงานคว้ามือแฟนหนุ่มที่ใส่ชุดไม่ต่างกัน เพื่อหวังให้เขาใจอ่อน “มึงยังจะมาถามกูอีกเหรอ ทุกวันนี้มึงเอาแต่ส่งเงินให้พ่อแม่พี่น้องมึง แล้วกูล่ะ ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง กูเหนื่อยกูพอแล้ว ต่างคนต่างไปเถอะ” ดิวไม่ได้ต้องการจะบอกเลิกแพท แต่ในเมื่อเธอดิ้นรนจนรู้ความจริง ว่าตอนนี้เขามีผู้หญิงอีกคน เมื่อถึงเวลาต้องเลือก ชายหนุ่มคิดไม่ยากเลย เพราะเขาทั้งเบื่อและหมดรักในตัวหญิงสาวบ้านนาที่เคยอยู่กินกันมานานเป็นปี “ไหนมึงบอกว่ามึงรักกู มึงจะดูแลกูให้ดีที่สุด ถ้ากูยอมเป็นเมียมึง แล้วผลสุดท้ายมึงกลับทิ้งกูไปกับอีคนใหม่ มึงมันหน้าตัวเมีย” เพี๊ย! สิ้นคำด่าสุดท้ายชายหนุ่มก็หมดความอดทน มือหนาตบไปที่ใบหน้าเล็กของแพทอย่างแรง จนหน้าของเธอหันไปอีกด้านและแทบจะทรงตัวไม่อยู่ “มึงตบกู ไอ้ชั่ว! คนอย่างมึงมันสารเลว” แพทพยายามทรงตัวให้อยู่ ก่อนที่จะรวบรวมกำลังพุ่งตัวเข้าหาคนที่ตบเธอและพยายามจะเอาคืนให้ได้มากที่สุด แรงที่น้อยกว่าเพราะตัวเล็กผอมบาง
ตอนที่2พระเอกของสาวบ้านนอก “เธออยู่ห้องแบบนี้กันเหรอ” เมื่อทั้งคู่ไปถึงราเชนถึงกับตกใจ ที่เห็นที่อยู่ของหญิงสาวเป็นเพียงแค่ห้องเล็ก ๆ เล็กกว่าห้องนอนของเขาด้วยซ้ำ ห้องเล็กนี้ยังเป็นทั้งห้องครัว ห้องซักผ้า ห้องน้ำ ชายหนุ่มเห็นแล้วยิ่งรู้สึกสงสาร “แพทเธอเก็บเฉพาะของที่สำคัญ ของส่วนตัว ของอย่างอื่นเดี๋ยวค่อยไปซื้อใหม่เอา” ระหว่างที่รอ ราเชนก็ช่วยหญิงสาวขนของลงไปใส่รถ เพื่ออยากให้เธอรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ได้มีของอะไรมากมาย “เมื่อเลือกจะเดินหน้า อย่าหันหลังไปมองข้างหลังอีก” ราเชนจับมือลูกน้องที่กำลังทำหน้าเศร้า เพื่อต้องการให้กำลังใจ กับการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในครั้งนี้ “ขอบคุณผู้จัดการมากนะคะ” หญิงสาวหลับตาลง เธออ่อนเพลียเหลือเกินที่ต้องมาเจอเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ ชีวิตของเธอทำดีมาตลอด ไม่คิดว่าสุดท้าย ต้องกลายเป็นคนถูกทิ้งถูกหักหลัง และโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ แพทเผลอหลับไป มารู้ตัวอีกทีเมื่อรถจอดสนิท เธอลืมต
ตอนที่3ในคืนที่เราต่างก็เหงา เมื่อความมืดเข้ามาสู่ในห้อง ทั้งสองคนต่างหันหลังให้กัน พยายามข่มตาให้หลับลง แต่ไม่มีใครสามารถทำอย่างที่สมองสั่งได้เลย แพทเธอนอนคิดถึงอ้อมกอดของดิว ที่เมื่อคืนนี้เขายังกอดเธออยู่ แต่วันนี้เขากลับมีผู้หญิงคนอื่นในอ้อมกอดแทน ความเหงามันทำให้หัวใจของหญิงสาวปั่นป่วนไปหมด ราเชนชายหนุ่มที่ภายนอกดูมีพร้อมทุกอย่าง ครอบครัวของเขากับภรรยาดูรักกันมากในสายตาของคนอื่น ยกเว้นคนใกล้ชิดบางคนเท่านั้นที่รู้ แต่ละคืนที่ภรรยาของเขาออกจากบ้านไป เขาไม่เคยเชื่อว่าเธอไปหาเพื่อน แต่หัวใจของเขามันไม่กล้ายอมรับความจริง จึงได้แต่ยอมโง่อยู่แบบนี้ นานแค่ไหนชายหนุ่มก็จำไม่ได้ที่เขากับภรรยาไม่ได้มีอะไรกัน เพราะกว่าเธอจะกลับ เขาก็หลับแล้ว หรือบางวันราเชนเองก็เลือกที่จะมานอนที่นี่คนเดียวแทนการกลับบ้าน เขารู้สึกว่าความจริงแล้ว เขาไม่ได้มีภรรยาเพราะสุดท้ายมันก็เหมือนมีเขาอยู่คนเดียวตลอด เมื่อความเหงาก่อตัวขึ้นกับคนทั้งคู่ หัวใจมันก็สั่งให้ร่างกาย มองหาที่ให้ความอบอุ่น ชายหนุ่มค่อย ๆ กอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ขัดข
ตอนที่4เร็วไปไหมกับการเริ่มต้นใหม่ อาหารเช้าที่ชายหนุ่มทำไว้ให้เธอ คือข้าวต้มหมู ถึงรสชาติจะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่สำหรับสาวโรงงานอย่างแพท มันเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดในโลก ความรู้สึกเสียใจที่ถูกอดีตแฟนหนุ่มบอกเลิกมันจางลงจากหัวใจที่มันบอบช้ำจนไม่เหลือความเจ็บแล้ว แต่สิ่งที่ยังตกตะกอนอยู่คือความหวาดระแวง แพทเองเธอคิดว่าตอนนี้เธอลืมความเจ็บปวดได้ เพราะมีราเชนเข้ามาเติมเต็ม แต่ในเมื่อเขานอกใจภรรยาได้ สักวันเขาก็คงเบื่อและทิ้งเธอไปอีกคน หญิงสาวที่เป็นเด็กดีของบุพการีมาโดยตลอด จนเธอยอมเสียตัวให้ดิวและตอนนี้เธอก็กำลังจะเป็นเมียน้อย แพทสับสนกับหัวใจตัวเอง ค่ารถที่ต้องไปหาหมอของพ่อทุกเดือนก็เป็นพัน ค่าไปโรงเรียนของน้องๆอีก ข้าวที่พ่อกับแม่ทำก็อีกเกือบสองเดือนกว่าจะได้เกี่ยว ความดีกับความชั่วมันกำลังเอาชนะกันอยู่ ในความคิดของผู้หญิงที่ชีวิตแทบจะไม่เหลือทางเลือก “ไหนๆก็เสียไปแล้ว อย่างน้อยเราก็ขอเป็นเมียน้อยที่เจียมตัว” หญิงสาวพูดกับตัวเอง เธอเสียตัวให้เขาไปแล้ว อย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นเมีย แต่เธอจะไม่แสดงตัว จะเจียมตัวให้มากที่สุด รอยช้ำที
ตอนที่5ครอบครัวที่เคยฝัน “เลือกซื้อเลยนะ ผมทำอาหารไม่เป็นแต่ชอบให้คนทำให้กิน ผมขอตัวเดินไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าทางด้านหลัง” ราเชนเขาเคยมีแม่ที่คอยทำกับข้าวให้เขากินทุกมื้อมาตั้งแต่เด็กๆ แม้แต่ตอนไปโรงเรียนเขายังไม่ยอมกินข้าวของโรงเรียน ต้องให้แม่ทำใส่กล่องไปให้ แม่ของเขาเสียไปได้หลายปี ก่อนที่เขาจะแต่งงานได้ไม่นาน พอหลังจากแต่งงาน ราเชนตั้งใจที่จะทำครอบครัวให้อบอุ่น อยากให้นิศาอยู่บ้านคอยเป็นแม่บ้านแม่เรือนดูแลเขา แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ แรกๆ ภรรยาของเขาก็กลับบ้านตามปกติ ตั้งแต่เพื่อนที่กลับจากอเมริกากลับมา เธอก็เที่ยวกลางคืนตลอด ส่วนกลางวันก็เอาแต่ช่วยบิดาของเธอดูแลกิจการ บางวันแทบจะไม่ได้คุยกันสักคำ การมีแพทเข้ามาในชีวิต ขายหนุ่มหวังว่าความฝันของเขาคงจะได้เป็นจริง ถ้าเธอไม่ทิ้งเขาไปก่อน เพราะราเชนก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนดี คงทนกับสภาพภรรยาน้อยได้ไม่นาน “สวัดดีจ๊ะ ไม่ไปทำงานแต่มีเวลามาเดินซื้อของ อยากให้ฝ่ายบุคคลได้มาเห็นจัง” หญิงสาวหันไปตามเสียง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้หญิงที่แย่งคนรักของเธอไปนั่นเอง “ทรายไปกลับเถอะได้ครบแล