[ณ โรงแรมสุดหรู...เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า]
ปึก! เสียงธนบัตรจำนวนหนึ่งถูกโยนลงบนเตียงใหญ่
สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า รีบคลานเข้าไปคว้าเงินก้อนนั้นทันที หลังจากที่บทรักอันเร่าร้อนของเธอกับมาเฟียหนุ่มนั้นล่มไม่เป็นท่าไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น นั่นก็เป็นเพราะเธอ โซน่าไม่คิดว่ามาเฟียหนุ่มจะรู้ทันเธอเลยจริงๆ
“เอ่อ...คุณเบนคะ คือโซน่าขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งที่จะ...”
“ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ! ฉันไม่ได้โง่นะ ที่จะให้เธอหลอกฉันแบบนี้นะ...รีบออกไป!”
‘เบน’ หรือ ‘เบนจามิน เฮมสวอร์ธ’ กระชากอารมณ์ออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขานี้กล้าที่จะหลอกลวงเขา แกล้งหลอกเขาว่าเธอนั้นบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านใคร
“เดม่อน!!” เบนจามินร้องเรียกบอร์ดี้การ์ดคนสนิททันที
แกร๊ก! เสียงประตูใหญ่ถูกเปิดในทันใด ราวกับคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นก่อนแล้ว ร่างของชายหนุ่มสูงใหญ่ปรากฏกายต่อหน้าผู้เป็นนายทันที
“ครับนาย”
“เอาผู้หญิงคนนี้ออกไป!”
“ทำไมครับนาย”
เดม่อนถามกลับด้วยความสงสัย เพราะความสนิทสนมระหว่างเขากับเจ้านายนั้นมีมากพอ ที่จะกล้าถามกลับเช่นนี้
“ใครเป็นคนจัดเธอมาให้ฉัน”
ความชอบของเบนจามินก็คือความบริสุทธิ์เท่านั้น ซึ่งเธอคนนี้ไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการ กล้าคิดจะหลอกคนอย่างเบนจามิน อย่างนั้นหรือ
“เอ่อ ผมให้ไอ้โรเจอร์มันหาให้ครับนาย อย่าบอกนะว่าเธอไม่ซิง...”
เดม่อนหันไปมองผู้หญิงต้นเรื่องทันที งั้นก็แสดงว่าเธอเล่นละครตบตาเขางั้นสิ กล้าทำขนาดนี้เชียวเหรอ
“เอ่อ โซน่าไม่ได้ตั้งใจนะคะ คือ โซน่าเคยมีอะไรกับผู้ชายตอนอายุสิบหก ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว ไม่คิดว่าคุณเบนจามินจะ...”
“ไม่คิดว่าผมจะรู้งั้นเหรอ! ออกไป! เดม่อนนายเอาเธอออกไปให้พ้นๆ หน้าฉันเดี๋ยวนี้!”
“ครับๆ นาย”
“ขอโทษค่ะคุณเบน”
สาวสวยหุ่นเซ็กซี่รีบลุกขึ้นแต่งตัว และไม่ลืมที่จะคว้าเงินก้อนโตนั้นติดมือไปด้วย ‘ทำงานยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ได้เงินเยอะขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มนะ อะไรกัน! ไม่เคยหลอกผู้ชายคนนี้สำเร็จเลย เธออุตส่าห์ลงทุนบริหารช่วงล่างมาซะดิบดี’
“แล้วนายต้องการคนใหม่มั้ยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ครับนาย รับรองว่าคนนี้เธอซิงแน่นอนครับนาย”
เดม่อนนึกแค้นไอ่เพื่อนทรยศเขานัก อุตส่าห์ไว้ใจให้จัดการเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะทำให้เดม่อนเสียหน้าได้ขนาดนี้
“ไม่! ฉันหมดอารมณ์แล้ว...”
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนของบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม
“ว่าไง...อืม...อยู่...อะไรนะ! โอเค เดี๋ยวฉันโทรกลับ”
เดม่อนวางสายร้อนที่สั่งตรงมาที่เขาถึงนายของตัวเอง
“นายครับ...โรมันโทรมาบอกผมครับ คือนายลูคัสอยากให้นายไปเพนท์เฮ้าส์ครับ ตอนนี้ครับนาย”
“ไปทำไม” เบนจามินชะงัก เมื่อเอ่ยชื่อของพี่ชายเขา
“นายลูคัสจะให้นายไปดู ลูกหนี้ที่นายจับมาได้น่ะครับ คือพูดตรงๆ ก็เหมือนเดิมแหละครับนาย...นายลูคัสอยากให้นายไปดูการทำงานของนายลูคัสครับ”
นายลูคัสพยายามจะให้นายเบนจามินเป็นเหมือนกับตัวเอง เลยต้องสอนเรื่องต่างๆ ให้กับนายเบนจามิน เพราะนายลูคัสรู้ว่า น้องชายตัวเองยังอ่อนหัดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก
“บอกพี่ลูคัสว่าฉันไม่ว่าง”
“เอ่อ นายจะไม่ว่างยังไงครับ ตอนนี้นายก็ว่างนี่ครับ ไปหน่อยดีมั้ยครับ นายลูคัสจะสอนงานนายนะครับ เรื่องแบบนี้ต้องไปเห็นด้วยตาครับนาย”
เดม่อนพยายามโน้มน้าวนายหนุ่มของตัวเอง อีกหน่อยนายของเขาก็จะขึ้นเป็นใหญ่แทนนายลูคัสแล้ว
“ไม่เห็นจะต้องสอนอะไรเลย เรื่องความโหดของพี่ลูคัสเนี่ยเหรอจะต้องให้ฉันไปดูทำไม”
“แต่ว่า...”
“บอกไปว่าฉันไม่ว่าง!”
“ครับนาย”
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้กลับเป็นสายเข้าของเจ้านายหนุ่ม สายตาคมจับจ้องไปที่สายเรียกเข้านั้น พลัน! แววตาของมาเฟียเจ้าอารมณ์ก็อ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด
“พี่เบนคะ”
“อืม ว่าไงน้องสาวสุดที่รักของพี่ มีเรื่องอะไรถึงโทรหาพี่ ปกติเธอไม่โทรหาพี่ก่อนเลยนี่”
น้ำเสียงของมาเฟียหนุ่มปรับโทนทันที ‘ไรลีย์’ น้องสาวสุดรักสุดหวงแค่ได้ยินเสียง ก็ทำให้อารมณ์ของมาเฟียหนุ่มเปลี่ยนไปทันที
“ก็จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะคะ ก็เรื่องที่ไรลีย์จะเปิดร้านน่ะสิ พี่ลูคัสไม่ยอมค่ะพี่เบน ไรลีย์อยากให้พี่เบนช่วยพูดกับพี่ลูคัสหน่อยได้มั้ยคะ”
“แล้วเราทำไมจะต้องอยากเปิดร้านนั่นด้วย พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เราอยู่เฉยๆ ก็สบายอยู่แล้วนี่”
“ไรลีย์ชอบนี่คะ อยากทำอะไรที่ตัวเองรัก และไม่อยากใช้เงินของพวกพี่ๆ นี่คะ”
“เงินพวกพี่มีมากมายมหาศาล ใช้กี่สิบชาติก็ไม่หมด ไรลีย์ไม่ทำงาน นั่งกินนอนกินชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่หมด ทำไมจะต้องไปทำตัวเองให้เหนื่อย”
“ไรลีย์เบื่อนี่คะ อยู่ว่างๆ ไรลีย์อยากทำในสิ่งที่ตัวเองรักและเรียนมาค่ะพี่เบน นะคะ พี่เบนช่วยคุยกับพี่ลูคัสหน่อยได้มั้ยคะ”
เหตุผลที่ไรลีย์คิดจะเปิดร้านกาแฟและขนมนั้น เธอไม่สามารถบอกแบบตรงๆ กับพี่ชายทั้งสองของเธอได้ ไรลีย์ไม่อยากใช้เงินจากธุรกิจสีเทานั่น แม้กระทั่งทุนในการเปิดร้านเอง เธอก็หามาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เธอไม่ชอบที่พี่ชายของเธอทำธุรกิจนี้เลยสักนิด
“แน่ใจนะ ว่าเราเบื่อจริงๆ”
“แน่ใจสิคะพี่เบน ไรลีย์อยากทำตามความฝันของตัวเองค่ะ ไม่อย่างนั้นไรลีย์จะเรียนด้านอาหารและโภชนาการทำไมคะพี่เบน นะคะ ช่วยไรลีย์ด้วยนะคะ”
ไรลีย์รู้ว่า ถ้าเป็นพี่ชายคนรองนี้ขอร้องล่ะก็ พี่ชายคนโตจะต้องยอมตกลงอย่างแน่นอน
“โอเค ไว้พี่จะลองคุยกับพี่ลูคัสให้ก็แล้วกัน แล้วถ้าได้ เรามีร้านแล้วหรือไงที่จะเปิดน่ะ”
“มีแล้วค่ะ ร้านนี้ไรลีย์แอบซื้อไว้นานแล้วค่ะพี่เบน”
ไรลีย์บอกพี่ชายคนรองไปแบบตรงๆ พี่เบนจามินจะมีความดุน้อยกว่าพี่ลูคัสมาก เพราะฉะนั้นไรลีย์เลยเข้าทางพี่ชายคนนี้ดีกว่า อย่างน้อยพี่เบนจามินก็เข้าใจเธอมากกว่าแน่นอน
“นี่ พี่ลูคัสยังไม่รู้เรื่องนี้ของเราเลยใช่มั้ย”
พี่ชายคนโตมักมีความหวังดีให้กับน้องๆ เสมอ แต่ความหวังดีของพี่ชายนั้น ไม่เคยถามความสมัครใจของน้องแต่ละคนเลย รวมทั้งเขาด้วยอีกคน ความเป็นจริงเบนจามินไม่ชอบที่จะทำธุรกิจสีเทา และเจริญรอยตามพี่ชายเขาเลย แต่ทว่าก็ไม่อาจขัดใจผู้เป็นพี่ได้ สักวันหนึ่งเบนจามินจะโน้มน้าวให้พี่ชายเลิกทำธุรกิจนี้ให้ได้
“ไม่รู้ค่ะพี่เบน แต่ไรลีย์เชื่อว่าพี่เบนก็คงไม่บอกพี่ลูคัสแน่นอนค่ะ ไหนๆ พี่เบนจะช่วยไรลีย์แล้ว ก็ช่วยต่อสิคะ นะคะ พี่ชายที่แสนดีของน้องสาวคนนี้”
“โอเคๆ พี่จะจัดการเรื่องนี้ให้ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะพี่เบน”
“เราเองก็เข้าบ้านได้แล้ว เห็นว่าพี่ลูคัสให้คนตามหาเราอยู่ ถ้าไม่อยากให้พี่เขาโกรธก็กลับบ้านซะ”
เพราะความที่มีน้องสาวเพียงคนเดียวของบ้าน พี่ชายทั้งสองจึงต้องห่วงน้องคนนี้เป็นพิเศษ วัยของไรลีย์ ห่างจากเบนจามินถึง 8 ปี และห่างจากพี่ชายคนโตถึง 15 ปี ด้วยเหตุนี้ น้องสาวของเขาจึงมีความกลัวพี่ลูคัสมากกว่าเขา
[ณ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งบนถนนเดอะสตริป (The Strip) เมืองลาสเวกัส...]
“นี่มันที่ของฉันนะ! ออกไป! มาใหม่ล่ะสิ”
เสียงของชายวัยกลางคนเกรี้ยวกราดออกมาทันที เมื่อมีบุคคลนิรนามเข้ามายึดพื้นที่ของเขา
“ขอโทษครับ”
‘ศรากร’ ตอบกลับด้วยภาษาสากล เขาพึ่งจะนั่งลงเพียงไม่กี่นาที ก็มีเจ้าของพื้นที่(ชายไร้บ้าน) แสดงตัวเข้าครอบครองทันที
ศรากรไม่คิดว่า การออกตามหาผู้เป็นพ่อนั้น จะทำให้เขาเจอกับความโชคร้ายขนาดนี้ และในเวลานี้เขาคือผู้ประสบภัยคนหนึ่ง ที่ดันไปเสียท่าให้กับพวกมิจฉาชีพ ‘กระเป๋าของเขาถูกขโมย’ ข้าวของสิ่งมีค่าเอกสารทุกอย่างของเขานั้นมลายหายไปทันที แม้กระทั่งเครื่องมือสื่อสารที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเขา ก็ถูกโจรกรรมไป
“นายมาจากไหน”
ชายไร้บ้านคนเดิมถามกลับ เขามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูแล้วชายคนนี้ไม่น่าที่จะเป็นคนเมืองนี้แน่นอน
“ผมมาจากประเทศไทยครับ”
“คงจะโดนพวกโจรมันปล้นมาสิ...อ่ะ...ฉันมีขนมปังสองก้อน แบ่งให้นายก้อนหนึ่งแล้วกัน ดูแล้วนายน่าจะยังไม่ได้กินอะไรมาล่ะสิ...ลาสเวกัสเป็นเมืองที่พวกเศรษฐีเข้ามาขุดทองกันเยอะ โจรเองก็เยอะเหมือนกัน นายจะต้องระวัง แต่ก็คงไม่ทันแล้วแหละ”
“ครับ ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลย พวกมันเอาไปหมด ผมแค่นั่งพักและวางกระเป๋าสัมภาระไว้ข้างๆ หันกลับมาอีกทีไปหมดทุกอย่างแล้ว เลยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยครับ”
ป่านนี้แม่และน้องของศรากร คงเป็นห่วงเขาเป็นแน่ ผ่านมาสามวันแล้วที่เขาประสบเหตุอยู่ตรงนี้ เขาจะไปตามพ่อได้จากตรงไหนกัน เมืองลาสเวกัสออกกว้างขวางขนาดนี้ ตอนนี้สมองเขามันมืดแปดด้าน ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย ยากมากที่จะเจอคนใจดีมีน้ำใจ ศรากรคงต้องหาทางแก้ปัญหาต่อไป ยังมีคนที่เป็นห่วงรอเขาอยู่
.....................
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ
[ณ เพนท์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง เมืองลาสเวกัส] “แกอย่าคิดตุกติกกับนายลูคัสอีกเด็ดขาด โทรติดต่อครอบครัวของแกตามที่ตกลงไว้กับนายลูคัสไว้ เร็ว!”โรมันยื่นสมาร์ทโฟนให้กับลูกหนี้ของนายเขาทันที “อืม ฉันจะคุยเป็นภาษาของฉัน นายมีล่ามแปลหรือเปล่าล่ะ”ก้องภพถามกลับ มันถึงเวลาแล้ว ที่ทางบ้านของเขาจะทราบความจริงอันเลวร้ายที่เขาได้ก่อมันขึ้นมาทั้งหมดนี้ “นายไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว วันนี้นายจะต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่ทำตามที่ตกลงล่ะก็ นายตายแน่นอน นายลูคัสไม่เอานายไว้แน่” “โอเค ฉันไม่แน่ใจหรอกนะว่าจะสำเร็จ เพราะฉันไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ ลูกชายกับลูกสาวฉันต่างหาก”ก้องภพกำลังหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา ความหายนะของครอบครัวกำลังจะเกิดขึ้น ลูกและเมียเขาจะต้องมาลำบากเพราะความชั่วร้ายของเขา [ฝากฝั่ง...ประเทศไทย] ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนของผู้เป็นแม่กำลังแผดร้องขึ้นท่ามกลางความตกใจของสามแม่ลูก ที่กำลังนั่งเตรียมการกันอยู่นั้น “สวัสดีค่ะ” “ไหม...นั่นสายไหมใช่มั้ย ผมก้องเองนะ” “คุณก้อง! นั่นคุณจริงๆ ใช่มั้ย
[ณ คลับหรูภายในคาสิโนของตระกูลเฮมสวอร์ธ] บรรยากาศภายในคลับที่ตั้งอยู่ในคาสิโนขนาดใหญ่ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางหลายเอเคอร์นั้น เต็มไปด้วยผู้คนมากมายชายหญิง และนักท่องเที่ยวที่มองหาความหรูหราและความสำราญ ส่วนนักแสวงหาโชคก็เข้ามาเพื่อทำธุรกิจการค้าสีเทา ซึ่งผู้คนเหล่านั้นล้วนมาจากทั่วทุกมุมโลก เมืองลาสเวกัสจึงเป็นเหมือนเมืองแห่งสวรรค์ของใครหลายๆ คน ถึงแม้อดีตกาลเมืองนี้จะถูกขนานนามว่า เป็นเมืองคนบาปก็ตาม “นายครับ...คุณชาร์ลอตต์มาครับ”เดม่อนกระซิบบอกผู้เป็นนายที่กำลังนั่งเอนกายอยู่บนโซฟาใหญ่ วันนี้นายเบนจามินเข้ามาคุมงาน และกำลังนั่งพักผ่อนในคลับแห่งนี้ เหล่าบรรดาสาวๆ จึงเฝ้ามาตามติดผู้เป็นนายตลอดเวลา รวมถึงเธอผู้นี้ ลูกสาวมาเฟียมากอิทธิพลคนหนึ่งในลาสเวกัส “มาบอกอะไรฉันตอนนี้ เธอเดินมาเกือบจะถึงตัวฉันอยู่แล้วเดม่อน นายนี่มันไม่ได้เรื่องเลย”เบนจามินหันไปดุลูกน้องคนสนิทแต่เป็นแบบไม่จริงจัง เขากับเดม่อนมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้เดม่อนกับเขานั้น ไม่ใช่เป็นแค่บอร์ดี้การ์ดเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นเพื่อนซ่อนอยู่ “ผมก็พึ่งจะเห็นเหมือนกันครับนาย ครั้งนี้
[ท่าอากาศยานนานาชาติแมคคาร์แรน ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา] สองสาวเดินทางถึงลาสเวกัสด้วยเที่ยวบินแบบต่อเนื่อง นานเกือบ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ความเมื่อยล้าจากการเดินทางทำให้เธอทั้งสองซึ่งในตอนแรกออกจะตื่นเต้น กลับอิดโรยลงทันที “เราต้องนั่งแท็กซี่ไปลงโรงแรมที่เราจองไว้อีกประมาณยี่สิบนาทีนะ”ศลิษาบอกกับเพื่อนรักของเธอ การเดินทางครั้งนี้เธอคงมาคนเดียวไม่ได้แน่ถ้าไม่มีเมธิตา อย่างน้อยสองหัวก็ยังดีกว่าหัวเดียวแน่นอน ความกลัว ความกังวลต่างๆ ที่ศลิษามีอยู่ก่อนหน้านั้น แทบจะไม่หลงเหลืออีกแล้ว เพราะได้คำพูดให้กำลังใจจากเพื่อนเธอคนนี้ “โอเค งั้นเราเดินไปเรียกแท็กซี่ตรงโน้นดีกว่านะ” “อือ ฉันเมื่อยไปหมดแล้วแก” “คืนนี้เรานอนพักเอาแรงก่อนแล้วกันนะ” “แน่นอนอยู่แล้วสิ แกดูอากาศบ้านเรากับที่นี่ดิ ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะ บ้านเราร้อนตับแตก แต่ที่นี่หนาวสุดขั้ว แถมยังมีหิมะตกด้วย ดีนะที่เราวางแผนกันมาดี หอบเสื้อโค้ทหนาๆ มาด้วย ไม่งั้นคงต้องหาซื้อกันวุ่นวายเลยแหละ” “อืม หาของกินเข้าไปโรงแรมเลยดีกว่านะ ฉันไม่อยากออกมาอีก แกเห็นด
[เช้าวันต่อมา...ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง...ลาสเวกัส] “โอเค ฉันจะโทรแล้วนะ”ศลิษาถือสมาร์ทโฟนไว้ในมือ วันนี้เธอจะต้องนัดหมายทางฝ่ายมาเฟีย บอกให้คนพวกนั้นรู้ว่า เธอกับเมธิตาได้มาถึงเมืองลาสเวกัสแล้ว มาก่อนกำหนดถึงสองวัน “อืม ฉันพร้อมแล้วแก กดเลย”เมธิตาก็ลุ้นระทึกกับเพื่อนของเธออยู่ไม่น้อยเลย เอาเข้าจริงๆ มันตื่นเต้นมาก และออกจะน่ากลัวขึ้นไปอีก เมื่อเธอและศลิษามาเหยียบเกือบจะถึงถิ่นของมาเฟียแล้ว ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! นิ้วเรียวยาวกำลังกดต่อสายด้วยความระทึก “Hello!” เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ “ฉันติดต่อเรื่องพ่อของฉัน”ศลิษาสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ใจของเธอตอนนี้มันเต้นรัวแรงเป็นอย่างมาก แทบจะกระโดดออกมากองอยู่ตรงหน้า เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าพวกมาเฟียนั้น “ลูกของนายก้องภพใช่มั้ย” โรมันตอบกลับทันที “ชะ-ใช่...ค่ะ” ศลิษาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น นี่เธอกำลังสนทนากับพวกมาเฟียอยู่นะ น่ากลัวมาก เธอหันไปคว้ามือของเพื่อนเอามาบีบเอาไว้แน่น เพื่อขอกำลังใจ “ดี...พวกแกจะเข้ามาเอาตัวพ่อเลยหรือเปล่าวันนี้” “พวกคุณสะดวกวันนี้มั้ย
“ฉันสองคนหมายถึง งานที่ทำระหว่างรอพ่อของฉันกลับไปเอาเงินมาคืนคุณ พวกเราทำได้”เมธิตาพูดตอบกลับมาเฟียหนุ่มออกไปเช่นกัน เธอต้องช่วยกัน ลำพังศลิษาคงพูดคนเดียวไม่ไหวแน่ มีแต่คนน่ากลัวทั้งนั้น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง เกิดมาจนอายุ 22 ปีไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวเท่าตอนนี้มาก่อนแล้ว“แล้วงานบนเตียงล่ะ เธอทำได้หรือเปล่า”เสียงแหบพร่าถามกลับ ความสวยเซ็กซี่ของเรือนร่างอวบอิ่มของสองสาวทำให้ลูคัสเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ซาตานร้ายกำลังครอบงำเรือนร่างของเขาแล้ว เพียงแค่เห็น ร่างของลูคัสก็ตึงเครียดไปทุกส่วน“ไม่ค่ะ! ฉันมาเป็นแค่ตัวประกัน ถ้าพ่อฉันหาเงินมาให้คุณได้ ฉันก็จะเป็นอิสระ”“เธอคิดกันแบบนั้นเหรอ พ่อของเธอมีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือไง นี่ฉันยังไม่คิดดอกเบี้ยนะ แค่เงินต้น พ่อของเธอจะหาได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ลูคัสขู่ตามสัญชาตญาณของพ่อค้า“แต่ฉันก็มาตามสัญญาแล้วนี่ คุณควรจะทำในสิ่งที่เราตกลงกันไว้ พ่อฉันอยู่ที่ไหน”ศลิษาเริ่มที่จะร้อนเพราะคำพูดบ้าๆ ของเขาแล้ว เธอเตรียมใจรับกับเรื่องนี้มาแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับน่ากลัวกว่าที่เธอคิดไว้มาก“นายครับ เราให้เธอทำงานที่คลับไปก่อนก็ได้ครับ ตราบ
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น “ค่ะ ลุงอดัม” “คุณหนูยังไม่กลับเข้าบ้านอีกหรือครับ” “อีกสองชั่วโมงเดี๋ยวกลับ บอกพี่ลูคัสด้วยแล้วกันค่ะคุณลุง”ไรลีย์เหลือบมองบุรุษผู้หนึ่งที่เธอได้ช่วยเหลือไว้ เขายังคงไม่ได้สติ นอนบนโซฟาภายในร้านของเธอ เธอได้ปฐมพยาบาลเขาเบื้องต้นแล้ว และกำลังรอดูอาการของเขา ถ้าเขาไม่ตื่น เธอก็ยังกลับบ้านไม่ได้ “แต่นี่เวลาเย็นแล้วนะครับคุณหนู คุณลูคัสโทรมาที่บ้าน ถามถึงคุณหนูสองรอบแล้วนะครับ” “อีกสองชั่วโมงค่ะ ถ้าพี่ลูคัสโทรมาอีก ก็บอกไปอย่างนี้ค่ะ คือพอดีไรลีย์ติดธุระกับเพื่อนอยู่ค่ะ ลุงอดัมไม่ต้องเป็นห่วงไรลีย์ค่ะ” “ครับ งั้น อีกสองชั่วโมงคุณหนูคงกลับมาที่บ้านนะครับ ถ้าไม่กลับมา คุณลูคัสอาจต้องให้คนไปตามคุณหนูแน่นอนครับ” “โอเคค่ะ ตามนั้นค่ะคุณลุง” “ครับ” ตู๊ด! ตู๊ด! ปลายสายสนทนาถูกตัดไป ไรลีย์หันไปมองชายนิรนามที่นอนบนโซฟา ลมหายใจของเขายังคงสม่ำเสมอ เขาเป็นใครกันนะ ทำไมต้องมาหมดสติอยู่ตรงร้านของเธอ “คุณ คุณ...” ไรลีย์ตัดสินใจเรียกเขา ขืนปล่อยให้เขานอนอยู่แบบนี้ล่ะก็ ไร
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัสห้อง 701] “พ่อบ้านที่นั่นเขาดูอันตรายมั้ยแก”ศลิษาโทรกลับหาเพื่อน หลังจากที่แอบแชทคุยกันและเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เธอเลยโทรหาเพื่อน เพื่อที่จะได้คุยอย่างสะดวกขึ้น “ไม่นะ เขาเป็นผู้ชายมีอายุ น่าจะราวๆ 50-60ปีนี่แหละแก แต่ว่าที่นี่ ไม่น่าจะใช่บ้านหรอกแก มันคือคฤหาสน์หรือปราสาทอะไรสักอย่างแน่เลยแก มันใหญ่มาก คือฉันเข้ามายังตกใจเลยแก” “แล้วมีใครอยู่บ้านหลังนั้นบ้างล่ะ” “เห็นพ่อบ้านบอกว่า ก็คุณหนูทั้งสามคน ไม่รู้ใครบ้างนะ แต่คนที่อยู่ประจำก็คือ อีตามาเฟียนั่นแหละแก” “ห๊ะ! แล้วแกจะปลอดภัยมั้ยมด อีตามาเฟียนั่น ท่าทางไม่น่าไว้ใจนะ แกเห็นเมื่อตอนที่คุยกับพวกเรามั้ย สายตาของมันดูแบบน่ากลัวมากอ่ะแก” “คงไม่มีอะไรหรอก เห็นตาลุงอดัมนี่บอกฉันว่า พวกคุณๆ ทั้งหลายแทบจะไม่ได้เจอหน้ากับพวกคนใช้หรอก ฉันมีหน้าที่ช่วยพ่อบ้านเตรียมอาหารแค่นั้นเองแก ส่วนห้องนอนก็อยู่ด้านล่างตรงมุมของบ้าน อืม ใช่สิคฤหาสน์น่ะ มันหลังใหญ่มาก เดิน 10 วันจะครบทุกพื้นที่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะแก” “โล่งอกไปที ฉันก็คิดว่าแกจะเสี่ยงอันตร
[เวลา 23.30 p.m.] “นายช่วยจัดการต่อเลยแล้วกันเดม่อน ฉันจะกลับแล้ว” “คุณชาร์ลอตต์ล่ะครับนาย เธอเมาจนหลับสนิทแบบนี้ จะให้เธอไปอยู่ตรงไหนครับนาย” “นายก็เอาเธอไปส่งที่บ้านสิ จะยากอะไร” “จะไปได้ยังไงครับนาย ขืนผมเอาไปส่งที่บ้าน ผมอาจจะไม่มีชีวิตเหลือกลับมาน่ะสิครับ คุณอัลเบิร์ดไม่เอาผมไว้แน่” “งั้น นายก็โทรตามคนของเธอให้มารับสิ นายนี่เรื่องมากชะมัด...อึก!”เบนจามินเอนตัวพิงโซฟาใหญ่ในสภาพที่เมามายอย่างที่สุด ชาร์ลอตต์มาหาเขาสองวันติดแล้ว ซึ่งเธอพยายามที่จะจัดการเขาด้วยแอลกอฮอร์ แต่ขอโทษ เรื่องนี้ใช้กับเบนจามินไม่ได้หรอก “นี่ก็ไม่ได้ครับนาย ผมไม่เสี่ยงหรอก เอาแบบนี้ ผมพาเธอไปนอนที่เพนท์เฮ้าส์ของนายก็แล้วกันนะครับ” “เฮ้ย! ไม่เอา นายจะทำอย่างนั้นได้ไงวะเดม่อน ฉันจะนอนที่ไหนกันล่ะ นายนี่มัน” “งั้น นายก็ไปนอนเพนท์เฮ้าส์อีกที่หนึ่งสิครับ เดี๋ยวผมขอพาคุณชาร์ลอตต์นอนที่นี่ก่อนแล้วกัน อีกอย่างมันใกล้ เอาแบบนี้แล้วกันนะครับนาย นายกับคุณชาร์ลอตต์ไม่ได้นอนที่เดียวกันนี่ครับ พ่อของเธอจะได้ไม่มาโทษนายได้ไงครับ” “อืม
“ไม่นะ! ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ และไม่อยากเป็น!” “ไม่อยากเป็น คุณก็ต้องเป็น ต่อจากนี้คุณจะเป็นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นแม่ของลูกผมนะเบบี๋ รู้หรือเปล่าว่าผมไม่มีวันที่จะปล่อยคุณไปหรอก ระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ผมจะพิสูจน์ให้ดู” “ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไป เราไม่รู้จักกัน และจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง และอีกอย่างคุณก็มีผู้หญิงมากมาย ในตอนนั้นถ้าฉันหมดความสำคัญกับคุณ และคุณก็อาจจะ...” “อาจจะทิ้งคุณงั้นเหรอ คุณกลัวว่าผมจะทอดทิ้งคุณไป อืม ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงไทยถึงได้เป็นคนคิดมากขนาดนี้ วัฒนธรรมบ้านคุณคงทำให้คุณเป็นแบบนี้สินะ” “ไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอะไรของบ้านฉันเลย เราเจอกันแค่ไม่กี่วัน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณจะให้ฉันตกลงปลงใจที่จะอยู่กับคุณตลอดไปเลยงั้นเหรอคะ” “ถ้าคุณไม่รู้จักผม หรือเราอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ คุณก็ลองเปิดใจดูสิ ตอนนี้ทั้งคุณและผม เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราลองคบหาดูใจกันไป เราก็อาจจะรักกันได้นะ คุณเล่นปิดผมทุกทางแบบนี้ แล้วเราจะไปต่อความสัมพันธ์แบบอื่นได้ยังไง คุณลองคิดดูสิ” “...” ศลิษาคิดตามในสิ่งที่เข
[โต๊ะอาหารเวลายามเย็นคฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] “วันนี้ลุงอดัมจัดเมนูพิเศษต้อนรับพวกคุณเลยนะคะ อาหารไทยหลายอย่างจากเชฟคนไทย ที่คุณอดัมคัดสรรเป็นพิเศษ คุณทั้งสามคนคงคิดถึงอาหารไทยมากๆ เลยใช่ไหมคะ”เสียงของไรลีย์ที่กำลังเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในฐานะเจ้าของบ้านใหญ่ ซึ่งรับหน้าที่ภารกิจนี้แทนพี่ชายเธอทั้งสองคน พี่ลูคัสกับพี่เบนจามินออกไปทำงานที่คลับและในคาสิโน มอบหมายให้ไรลีย์ดูแลคนของตระกูลเฮมสวอร์ธ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราทานได้ค่ะ เกรงใจคุณลุงนะคะที่จะต้องเป็นธุระจัดการค่ะ”ศลิษามองอาหารไทยหลายอย่างบนโต๊ะ เธอย้ายเข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังนี้เรียบร้อย โดยในตอนแรกเธอขอพักอยู่ห้องเดียวกับเมธิตา แต่ทว่าลุงพ่อบ้านกลับไม่ยอม เลยจัดที่พักให้เธออยู่ห้องตรงข้ามกับเพื่อนของเธอ ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ศลิษาต้องพักอยู่ที่นี่ จนกว่าจะครบกำหนดตามที่ทุกคนได้ตกลงกันไว้ “ไม่เป็นไรค่ะคุณตอง เราคนกันเองแล้วนะคะ ไรลีย์อยากให้ทุกคนอยู่ที่นี่อย่างสบายใจนะคะ อีกอย่างไรลีย์จะได้มีเพื่อนไงคะ เป็นผู้หญิงคนเดียวของบ้านเหงามากเลยค่ะ” “ได้ข่าวว่าคุณไรลีย์กำลังจะเปิดร้านใช่มั้ยคะ อืม
[วันต่อมา...ณ คฤหาสน์หลังใหญ่] บรรยากาศตอนสายๆ ของการนัดหมายในคฤหาสน์หลังใหญ่เกิดขึ้น อดัมพ่อบ้านประจำคฤหาสน์กำลังเตรียมการและดูแลความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบอร์ดี้การ์ด การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านอย่างเขา เหล่าสาวใช้ที่ต้องคอยเสิร์ฟอาหาร ดูแลความเรียบร้อย อีกทั้งประมุขของบ้านเองก็ต้องเตรียมรับสิ่งนี้เช่นกัน “มาเรีย...เธอไปดูนายหญิงทีว่าเธอเรียบร้อยแล้วหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวรอแล้วค่ะ คุณอดัมไม่ต้องห่วงค่ะ เด็กนั่นอยากจะเจอเพื่อนและพ่อของเธอใจจะขาดแล้วค่ะ” “แล้วเธอได้พูดอะไรกับนายหญิงหรือเปล่า”อดัมเปลี่ยนสรรพนามเรื่องเด็กสาวคนนั้นทันที เมื่อรู้ว่าคุณลูคัสนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยเด็กนั่น จะเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกนอกจากผู้หญิงคนนี้จะทำให้นายของอดัมเปลี่ยนไป อืม และเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีด้วยสิ อีกหน่อยคฤหาสน์หลังนี้จะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เสียงเด็กๆ คงปลุกอดัมทุกเช้าสินะ “ก็พูดนิดหน่อยค่ะคุณอดัม ส่วนใหญ่ก็จะสอนเธอแหละค่ะ อยากให้เ
[อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] ร่างอันบอบบางกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความยากลำบาก ความบอบช้ำจากการโดนกระทำอันโหดร้ายและป่าเถื่อนของมาเฟียโหดเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทำให้เธอแทบทรงตัวไม่ไหวจนเกือบจะล้มลง หมับ! ร่างเล็กถูกรับเอาไว้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะล้มลงบนพื้น สายตาคมดุจับจ้องไปที่ใบหน้างามฉายแววตำหนิอย่างชัดเจน “ระวังสิ!” น้ำเสียงห้วนดุคนที่อยู่ในอ้อมแขนทันที “กะ-แก!” ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา ร่างบางก็ออกแรงขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนนั้น แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เมื่อเรี่ยวแรงของเธอนั้นหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด “หยุดด่าฉันสักพักได้มั้ย ดูสภาพของเธอสิ” “นั่นมันเป็นเพราะแกไง ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” “เธอเลิกคิดที่จะไปจากฉันได้แล้ว เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ พ่อของเธอมาเมื่อไหร่ ฉันจะตกลงด้วยข้อเสนอที่ทำให้พ่อเธอปฏิเสธฉันไม่ได้”เงินเท่านั้นที่เป็นทางออกของลูคัสตอนนี้ เขาเสนอเงินที่มากกว่า พร้อมกับสารภาพกับนายก้องภพไปตรงๆ ว่าเขาขอแลกกับตัวเธอ “น้าก้องไม่ใช่พ่อของฉัน เพราะฉะนั้นแกอย่าเอาเรื่องนี้มาอ้าง แกมันไม
แคว่ก!! เสียงชุดเดรสสวยถูกกระชากจนขาดวิ่น ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของมาเฟียหนุ่มทันที แววตาคมดุอ่อนแสงลงเมื่อเห็นเนินเนื้ออวบของเธอ “กรี๊ดดดด!!! ปล่อยนะ! ฮึก!! ไม่!”ศลิษาทั้งดิ้นและร้องในคราวเดียวกัน มือบางพยายามยกขึ้นมาปิดทรวงอกของเธอที่ถูกเปลือยด้วยฝีมือของชายที่นั่งคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ “ปล่อยเหรอ! มันสายไปแล้วเบบี๋! ผมเสนอทางเลือกให้คุณไปแล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้คุณจะได้เจอของจริงเสียที!”พูดจบมาเฟียหนุ่มก็โฉบวูบลงไปที่ปากบางทันที จูบร้อนถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ไม่ยอมเปิดปากให้ลิ้นเขากดแทรกเข้าไปได้ มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมา ‘นี่เธอคงยังไม่รู้จักคนอย่างนายเบนจามินดีสินะ’ “ฮึก! กรี้ดดดดด!!!” ศลิษาร้องเสียงหลง เมื่อส่วนล่างของเธอจุดที่อ่อนไหวที่สุดนั้น ถูกมือใหญ่ตะปปอย่างหนักหน่วง พร้อมกับดึงกระชากเพนตี้ตัวจิ๋วของเธอออก เนินเนื้ออวบอูมถูกนิ้วแกร่งลากไล้เข้าไปตรงร่องแก่นกลางทันที เรียวขาสวยหนีบเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือใหญ่นัก! “ร้องไปสิ ร้องดังๆ ผมชอบนะ มันกระตุ้นอารมณ์ผมได้ดีสุดๆ อึ้มมม์ วันนี้คุณหนี
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัส...ในเวลาต่อมา] “เชิญคุณคุยเรื่องของคุณได้เลยค่ะ ฉันพร้อมรับฟังแล้วค่ะ”ศลิษานั่งลงบนโซฟาใหญ่กลางห้อง หลังจากที่เขาบอกเธอว่าจะขอคุยกับเธอก่อนที่เขาจะพาศลิษาไปเจอเพื่อนของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณรอบๆ ห้องขนาดใหญ่ ความหรูหราและราคาคงไม่ต้องพูดถึง พวกมาเฟียมีกินมีใช้เสียจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร สิ่งนี้คงเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขาสินะ “โอเค นี่คุณรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ความจริงรับเครื่องดื่มสักแก้วก่อนก็ได้นะ น้ำเปล่าก็ได้ เผื่อคุณจะคอแห้ง”เบนจามินมองดวงหน้านวลเนียนของอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม หญิงไทยน่ารักก็จริง แต่พวกเธอมักจะคิดมาก และดูจะเคร่งกับวัฒนธรรมของตัวเอง ถ้าตัดสิ่งนี้ไป เขาคงเข้าถึงตัวเธอได้มากกว่านี้เป็นแน่ “ฉันไม่ต้องการค่ะ คุณพูดมาเลยค่ะว่าเรื่องอะไร” “โอเค! เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน เมื่อเช้าผม พี่ชาย และน้องสาวของผมได้คุยกันแล้วถึงเรื่องทั้งหมด คุณอาจจะสงสัยสินะ ว่าน้องสาวของผมมาเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม” “ค่ะ” ศลิษาจ้องไปที่เขาด้วยความลุ้นระทึกอยู่พอสมควร มีตัวละครเพิ่มมาคือน้องสาวของเขางั้นเหรอ
“คุณชาร์ลอตต์ครับ พอเถอะครับ”เดม่อนดึงร่างของหญิงสาวมา ก่อนที่เธอนั้นจะถลาเข้าไปทำร้ายผู้หญิงของนาย ในเมื่อเธอจำคืนก่อนนั้นไม่ได้ เดม่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรื้อความจำของเธอขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวหรอกนะ บางทีให้เธอคิดว่าเป็นความฝันก็น่าจะดีที่สุด “แก! ปล่อยฉันนะ! กล้าดียังไงมาจับตัวฉันไว้ ปล่อย!” “คุณก็หยุดดิ้นสิครับ...เอายังไงครับนาย”เดม่อนหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นนาย “นายก็จัดการไปสิ จะถามฉันอีกทำไม”คนที่เบนจามินสนใจไม่ใช่ชาร์ลอตต์มาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเบนจามินจะต้องแคร์เธอด้วย ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อของเธอล่ะก็ เบนจามินก็ไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว แต่ที่เบนจามินไม่ได้ขัดอะไร นั่นก็เป็นเพราะไม่อยากหักหน้าของเธอก็เท่านั้นเอง ถึงได้ยอมมาตลอด “เบน! คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ ชาร์ลอตต์รักคุณนะคะ เราคบกันมาหลายปีแล้ว ทำไมคะ! ทำไมคุณไม่เคยรักชาร์ลอตต์เลยหรือคะ” “คุณรู้ดีชาร์ลอตต์ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่คุณพูดเลย ลองทบทวนดีๆ สิ ว่าระหว่างคุณกับผมมันเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเรื่องนี้เป็นจร
[ณ คลับหรูคาสิโนตระกูลเฮมสวอร์ธ] “สาวๆ ที่นี่อิจฉาเธอทั้งนั้นเลยนะ ที่เมื่อวานคุณเบนไปส่งเธอ...รู้มั้ย...หนึ่งในนั้นก็มีฉันนี่แหละที่อิจฉาเธอที่สุด ได้ไปกับคุณเบนจามิน น้องชายเจ้าของธุรกิจที่รวยเป็นหมื่นล้านแสนล้านอย่างคุณลูคัส...ฉันคิดว่าวันนี้หล่อนจะไม่มาทำงานซะอีก...ทำไมยังมาอยู่อีกล่ะ อย่าบอกนะว่าหล่อนปฏิเสธคุณเบนจามิน” “อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้กลับบ้านแล้ว ฉันไม่มัวมาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก”ศลิษาตอบกลับโมนิซ่าด้วยท่าทีที่ไม่สนใจเรื่องของอีกฝ่ายพูดมา ทำไมศลิษาจะต้องสนใจเขาด้วย เรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เขาก็เป็นคนทำ เธอไม่คิดที่จะเอาเรื่องของเขาไปใส่ใจหรอกนะ อีกไม่กี่วันพ่อของเธอก็จะกลับมาพร้อมเงินเพื่อใช้หนี้ เรื่องร้ายๆ นี่จะได้จบสิ้นเสียที “เธอนี่เล่นตัวจังเลยนะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้” “ทำไมคุณไม่เสนอเขาไปล่ะ เผื่อเขาจะสนใจคุณ” “ถ้าคุณเบนสนใจฉันล่ะก็ ฉันคงไม่มายืนขาแข็งทำงานอยู่นี่หรอกย่ะ ป่านนี้คงนอนสบายอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ไปแล้ว บ้าจริง! เธอนี่ มีโอกาสไม่คว้าไว้ เสียดายสุดๆ” “เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ได้คิดอย่างคุณ”
“ใช่ค่ะ ความรักเท่านั้นที่ผู้หญิงต้องการ แต่ว่าพี่เองก็ต้องใช้เวลานะคะ ถ้าหากว่าพี่ถูกใจเธอจริงๆ เพราะฉะนั้นไรลีย์เชื่อว่าพี่สองคนทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยเธอสองคนกลับประเทศของเธอไปเถอะนะคะ” “พี่ไม่คิดจะทำแบบที่เราพูดอยู่แล้วไรลีย์”ลูคัสมั่นใจว่าเขาจะใช้อำนาจบังคับให้เธออยู่กับเขาให้ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ความรักนั่นเลยด้วยซ้ำ “แล้วพี่ลูคัสจะทำยังไงคะ ไรลีย์คิดว่าพ่อแม่และพี่ชายของเธอก็ต้องห่วงเธอสองคนเหมือนกัน อย่างที่พี่ลูคัสกับพี่เบนห่วงไรลีย์นะคะ พี่ลูคัสลองคิดดีๆ สิคะ ผู้หญิงมีตั้งมากมาย พี่จะใช้เงินซื้อกี่คนก็ได้นี่คะ ถ้าพี่ไม่ได้ชอบเธอจริงๆ และไม่ยอมที่จะใช้ความรักกับเธอล่ะก็ ไรลีย์ขอร้องค่ะ ปล่อยเธอไปเถอะนะคะ” “พี่มีวิธีของพี่ก็แล้วกันไรลีย์ ส่วนของนายล่ะเบน นายจะทำยังไง พี่รู้ว่านายก็จัดการเธอไปแล้วเหมือนกันนี่” “นั่นมันเป็นเพราะพี่ ที่ทำอะไรไม่เคยบอกผมเลย แต่ผมคงต้องกลับไปคุยกับเธอก่อน วันนั้นผมเองก็ไม่ได้ป้องกัน บางทีเธออาจจะท้องกับผมก็ได้นะครับ”เบนจามินก็ไม่ต่างกันกับพี่ชายของเขาเลย เขาก็ถูกใจหญิงชาวไทยคนนั้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว