Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 6 ผู้เฝ้าแห่งโดม

Share

ตอนที่ 6 ผู้เฝ้าแห่งโดม

Author: Abyssgloom
last update Last Updated: 2024-10-28 23:06:26

เสียงบางอย่างแว่วมาแต่ไกล ราวกับคลื่นทะเลกระทบชายฝั่ง มันไม่ใช่เสียงที่คุ้นเคย แต่กลับปลอบโยนอย่างน่าประหลาด สติของเขาค่อยๆ ฟื้นขึ้นจากความมืดมิด ดวงตาที่พร่ามัวลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า เหมือนยังติดอยู่ในห้วงฝันที่ยาวนาน

เขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน แต่สิ่งที่สัมผัสได้ คือความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ร่างที่เคยเล็กและอ่อนแอกลับมาหนักแน่น นิ้วมือที่เคยเหมือนเด็กเล็กบัดนี้เรียวยาวและหยาบกร้าน รอยแผลที่คุ้นเคยปรากฏบนผิวอย่างชัดเจน มันเป็นหลักฐานของชีวิตที่เขาเคยมี

เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ขาที่มั่นคงและร่างกายที่สมส่วน ทำให้เขารู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่หายไปนาน ชุดเสื้อโค้ทสีดำและกางเกงขายาวกลับคืนมาราวกับมันไม่เคยหายไปไหน ความคุ้นเคยที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับสัมผัสของเนื้อผ้า ทำให้เขารู้ว่าสิ่งนี้เป็นความจริง ไม่ใช่ภาพหลอน

"เกิดอะไรขึ้น..." เขาพึมพำ เสียงแหบแห้งแต่หนักแน่นกว่าที่เคยเป็น

เมื่อมองไปรอบตัว เขาเห็นเพียงหมอกดำหนาทึบที่ปกคลุมทุกสิ่ง แต่ในความมืดนั้น มีบางสิ่งดึงดูดสายตา โดมขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกลางความมืด โครงสร้างสีขาวมุกสะท้อนแสงเลือนรางจากหมอก มันดูทั้งน่าค้นหาและน่าหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน

ชายหนุ่มหยิกที่มือของตัวเองอย่างแรง ความเจ็บปวดที่สัมผัสได้ ยืนยันว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ความฝัน

"ไม่ใช่ความฝัน... เรื่องจริงงั้นหรอ?" เขาเอ่ยกับตัวเอง ขณะเริ่มก้าวไปข้างหน้า

ทุกย่างก้าวให้สัมผัสของพื้นดินแข็งกระทบฝ่าเท้า แต่ละก้าวเต็มไปด้วยความมั่นคง แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถาม แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในใจคือเขาต้องไปให้ถึงโดมนั้น

เมื่อเข้าใกล้ โครงสร้างของโดมยิ่งดูน่าเกรงขาม พื้นหินอ่อนเย็นเฉียบสะท้อนเสียงฝีเท้าของเขาก้องในความเงียบ เบื้องบน เพดานกระจกแตกร้าวในบางส่วน แสงอาทิตย์เลือนรางลอดผ่านรอยร้าว ทาบเงาลวดลายซับซ้อนบนพื้นหิน เงากิ่งไม้ใหญ่ที่ทับซ้อนสร้างบรรยากาศที่ทั้งลึกลับและกดดัน

เขาเดินตรงไปยังศาลาหินเก่าที่ตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ โครงสร้างเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา แต่ยังตั้งตระหง่านอย่างมั่นคง เบาะหินที่ปกคลุมด้วยมอสเขียวบ่งบอกว่ามันไม่ได้ถูกใช้งานมานาน

ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนขอบหินของศาลา สัมผัสหยาบกร้านปลุกความทรงจำที่เลือนรางขึ้นมา เสียงหัวเราะใสๆ ของเด็กเล็กๆ ดังสะท้อนในหัว ภาพเด็กชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ตรงบันไดที่เขายืนอยู่ พร้อมกับเด็กสาวอีกสองคน รอยยิ้มของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะดังก้องในบรรยากาศ แต่ภาพเหล่านั้นเลือนหายไปราวกับหมอกถูกพัดด้วยลม

เขาหลับตา พยายามจะจับภาพเหล่านั้นไว้ แต่ยิ่งพยายาม มันก็ยิ่งหลุดลอยไปเหมือนทรายร่วงหล่นจากฝ่ามือ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้น สายตากลับสะดุดกับร่างของใครบางคนที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นก่อนหน้านี้

ใต้เงาไม้ใหญ่ หญิงสาวคนหนึ่งนั่งพิงเสาศาลา ผมยาวสีดำขลับพลิ้วไหวรอบใบหน้าที่นิ่งสงบ ราวกับคนที่กำลังหลับไหล อ้อมแขนของเธอกอดกรงเหล็กเล็กๆ ที่ภายในมีหัวใจสีแดงฉานเต้นเป็นจังหวะ โซ่เงินบางพันธนาการหัวใจนั้นไว้แน่น แสงสะท้อนจากโซ่ทำให้ทุกอย่างดูน่าหวาดหวั่น

เขาก้าวเข้าไปใกล้ ความรู้สึกหนักหน่วงจากพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากเธอ ทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวเหมือนอากาศที่บิดเบี้ยวในวันร้อนจัด เหมือนกับพลังเวทย์ที่เขาสัมผัสมาก่อนหน้านี้ แต่หนักหน่วงเกินไปจนหัวใจเต้นแรง

ผิวของเธอขาวนวลดุจไข่มุก เผยเงาอ่อนๆ เมื่อแสงลอดผ่านปลายผมดำขลับที่ตกลงมาถึงขอบพื้น เดรสสีดำผสมสีขาวที่เรียบหรู ผูกริบบิ้นสีดำไว้คอปกอย่างเรียบง่าย

เขาหยุดห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว มองตรงไปยังร่างที่สงบนิ่ง หัวใจที่เคยเต็มไปด้วยคำถามเริ่มสั่นคลอน มันไม่ใช่เพียงความงามของเธอที่ทำให้เขาหยุด แต่เป็นพลังเวทย์มหาศาลที่เก็บซ่อนไว้ในร่างเล็กๆเหล่านั้น

ขณะนั้นเอง เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ ใบไม้สั่นไหวในบรรยากาศที่สงบนิ่งแต่แฝงความลึกลับ หญิงสาวค่อยๆลืมตา ดวงตาสีเงินเข้มจ้องมองเบื้องหน้า ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อยราวกับเพิ่งตื่นจากภวังค์ เธอสูดลมหายใจลึก พยายามระงับความรู้สึกประหลาดที่เกาะกินในใจ ศาลาแห่งนี้ราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ชั่วขณะนั้น ดวงตาของเธอเหลือบเห็นเงาบุคคลหนึ่ง—ตัวตนอื่นที่ไม่ควรอยู่ที่นี้ตอนนี้ เขายืนอยู่ใต้แสงที่ส่องผ่านใบไม้ไม่ไกลจากเธอ ราวกับธรรมชาติรอบตัวหยุดนิ่งเพื่อต้อนรับการมาของเขา หัวใจของหญิงสาวกระตุก สัญชาตญาณเตือนถึงอันตราย ชายหนุ่มผู้นั้นสามารถลอบผ่านเวทมนตร์ของเธอ โดยที่เธอไม่รู้สึกตัว

พลังเวทย์ในตัวเธอพลุ่งพล่านราวกับทะเลเดือด ดวงตาของเธอเบิกกว้างก่อนจะระเบิดพลังเวทย์ออกมา คลื่นพลังทำให้ใบไม้ปลิวกระจาย บรรยากาศเปลี่ยนจากสงบเป็นความกดดันหนักอึ้ง

ชายหนุ่มสะดุดลมหายใจ แรงกดดันมหาศาลโถมเข้าใส่จนแทบขยับไม่ได้ แม้แต่ต้นไม้รอบศาลายังสั่นสะเทือน แต่เขายังคงยืนหยัด กัดฟันแน่น ดึงพลังจากจิตวิญญาณที่เคยกลืนกิน วงแหวนสีแดงเข้มปรากฏรอบหัวใจของเขา หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง พลังเวทย์ร้อนระอุแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทา ผิวหยาบกร้านคล้ำขึ้น แสงสีแดงจากมานาเรืองรองใต้ผิวหนัง บรรยากาศรอบตัวเขากลายเป็นมวลความร้อนที่แผ่ซ่าน กระจายแรงกดดันจากพลังเวทย์ของเธอให้เจือจางลงเพียงเล็กน้อย

หญิงสาวมองการเปลี่ยนแปลงของเขาด้วยความตกใจปนสงสัย เธอถอยหลังจนชิดผนังหิน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องเขาด้วยความหวาดระแวง แต่ก็มีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวเขาที่เธอไม่อาจละสายตา เธอใช้เวทมนตร์ตรวจสอบจิตวิญญาณของเขา และพบว่ามีจิตวิญญาณอีกดวงที่กำลังหลอมรวมกับเขาอยู่—จิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง และ บิดเบี้ยว ถูกผสมกับอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมีอยู่ในมนุษย์

ชายหนุ่มกัดฟัน ขณะที่พลังเวทย์ในตัวเขาก่อตัวเป็นเกราะบางๆ คลุมร่างกาย พลังสีแดงเข้มลุกโชน ดินและใบไม้รอบตัวเขาเหี่ยวแห้ง หญิงสาวค่อยๆลดแรงกดดัน แม้ยังไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความลับที่อยู่ตรงหน้าได้ พลังเวทย์ในศาลาค่อยๆจางหาย ใบไม้ร่วงลงอย่างเงียบงัน

เธอยืนมองเขาที่พยายามฟื้นคืนสู่ร่างเดิม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า หอบหายใจหนักหน่วงเหมือนร่างกายกำลังรับภาระอันใหญ่หลวง เขามีทั้งพลังและข้อจำกัดในคราวเดียวกัน มันทำให้เธอรู้สึกขัดแย้ง—ทั้งสับสนและสนใจในตัวเขาอย่างประหลาด

บรรยากาศรอบตัวค่อยๆกลับสู่ความสงบ แต่หัวใจของหญิงสาวยังคงเต้นแรง ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในใจ—ชายตรงหน้าอาจทำให้สิ่งที่เธอปรารถนามาโดยตลอดเป็นจริงได้ แต่มันจะเป็นไปได้งั้นหรอ? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจเธอขณะที่สายตาของทั้งสองประสานกัน ราวกับว่าความลับในจิตใจของทั้งคู่กำลังจะเปิดเผย

Related chapters

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 7 หัวใจต้องห้ามของจอมปราชญ์

    สายลมเย็นพัดผ่านศาลาหินกลางป่า หญิงสาวนั่งบนม้านั่งหิน ท่าทางสงบนิ่ง ข้างกายของเธอคือกรงนกเหล็กที่บรรจุหัวใจสีแดงสดเอาไว้ สายตาสีน้ำเงินเข้มของเธอจับจ้องผู้มาเยือนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับกดดันราวกับถูกตรวจสอบจากดวงตานับพันมวลมานาอันเข้มข้นปกคลุมทั่วบริเวณ พลังเวทย์ที่แฝงความกดดันจนทำให้รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกในกระดูก"นายเข้ามาได้ยังไง?" เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ ดวงตาไม่ละไปจากเขา "ยังไม่ถึงเวลาทดสอบเลย...ทำไมถึงเข้ามาที่นี้ได้?"คำพูดนั้นทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ยังคงเลือกที่จะเงียบ เธอยิ้มบางๆ ก่อนพูดต่อ"ถ้านายไม่อยากตอบ ฉันจะไม่บังคับ" เธอเอนตัวพิงพนักม้านั่ง "ดูเหมือนนายจะสงสัยว่าที่นี้คืออะไร….เห็นแก่ความกล้านั้นของนาย ฉันจะยอมให้ถามก่อนก็ได้"หลังจากครุ่นคิด เขาเอ่ยคำถามขึ้น "การทดสอบที่ว่าคืออะไร?"เธอหัวเราะเบาๆ ราวกับพบเรื่องที่น่าสนใจ "นายเข้ามาโดยที่ไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ?"สายตาของเธอกวาดมองเขา ก่อนหยุดนิ่งอย่างครุ่นคิด "น่าสนใจ... ในตัวนายไม่มีร่องรอยพลังเวทย์หลงเหลืออยู่เลย… ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีอยู่แท้ๆ"น้ำเสียงราบเรียบแฝงความกดดันของเธอทำให้บรรยากาศ

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 8 ในเงามืดแห่งความสงสัย

    "น่าสนใจใช่ไหม?" หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง เธอมองเขาอย่างพึงพอใจ "แต่ล่ะคนก็มีแนวทาง และ วิธีรับมือต่างกันไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถเข้ากับมันได้"เธอสบัดมือ คริสตัลที่รายล้อมหายไปในพริบตา พื้นดินที่เคยถูกกดทับกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรอยู่ตรงนั้น กลิ่นหอมจางๆของหญ้าสดโชยขึ้นมาจากบริเวณที่โดนกดทับ พร้อมกับมานาที่ซึมลงดินอย่างแผ่วเบา ราวกับมันพยายามทำให้พื้นที่นั้นกลับมาเหมือนเดิมเขามองสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงระวังตัว "พวกเขาสมัครใจรับการทดสอบเองงั้นหรอ?"หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบเรียบๆ “แน่นอนอยู่แล้ว ทุกคนที่มาที่นี้ต่างก็สมัครใจรับการทดสอบ”ก่อนจะพูดปิดท้ายอย่างเย้ยหยัน"มีแค่นายเท่านั้นแหละทีี่ไม่รู้อะไรเหมือนคนอื่น"ก่อนจะยักไหล่น้อยๆตอบ น้ำเสียงดูเหมือนจะไม่ใส่ใจนัก"เอาเถอะ ครั้งนี้การทดสอบมันยากเกินไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครได้มันไปอยู่แล้ว"คำว่า "ครั้งนี้" ทำให้เขาสะดุด ใจเขาเริ่มตั้งคำถาม—แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ?เขาจ้องเธออีกครั้ง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย "แล้วของรางวัลก่อนหน้านี้ล่ะ?"หญิงสาวไม่ตอบในทันที เธอเพียงยิ้มบางๆ ก่อนส่ายหัวช้

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 9 รอยขีดแห่งอดีต

    ศาลาหินกลางสวนที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกสงบ ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ เสียงลมพัดแผ่วเบา แทรกซึมผ่านบรรยากาศที่เงียบงันเขาหยุดพูดไปชั่วครู่หลังจากเอ่ยปากว่าจะเล่าเรื่อง ดวงตาสีเทาหม่นทอดต่ำ ราวกับกำลังพยายามจับเศษเสี้ยวของความทรงจำที่กระจัดกระจาย“จริงๆ แล้ว… ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” น้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นเจืออารมณ์บางอย่างที่ซ่อนลึก“ที่นี่… มันให้ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนว่าฉันเคยมาที่นี่ แต่กลับจำอะไรไม่ได้”หญิงสาวมองด้วยความสนใจ ดวงตาสีน้ำเงินเปล่งประกายอยากรู้อยากเห็น“แล้วอะไรที่ทำให้นายมั่นใจว่าเคยมาที่นี่?”ไม่มีคำตอบในทันที สายตาเลื่อนลอยกวาดมองรอบๆ ก่อนจะหยุดที่เสาไม้ด้านหนึ่ง มือยื่นออกไปแตะรอยขีดสามเส้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนเกิดจากการแกะสลัก นิ้วลูบเบาๆบนพื้นผิวหยาบกร้าน สีหน้าฉายแววบางอย่างที่ยากจะอธิบาย“นี่คือ...” เขาพึมพำอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ ก้มมองรอยขีดด้วยความสงสัย“นี่อะไร?”“ที่ๆเราเคยใช้วัดส่วนสูงด้วยกัน ตอนนั้นเรามีกันสามคน…” เสียงแผ่วเบาดังขึ้น ร่องรอยความทรงจำเลือนลางเหมือนจะกลับมาชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่ปลายนิ้วสัมผัสรอยขีดนั้น“ใครคือ ‘เรา’?” อีกฝ่ายถามด้วยคว

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 10 มรดกแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

    สายลมที่พัดผ่านต้นไม้ใหญ่นั้นแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่กลับนำพาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า—กลิ่นอายของอดีตที่หวนคืนมาในทุกลมหายใจชายหนุ่มพลิกสมุดภาพในมืออย่างแผ่วเบา ทุกหน้ากระดาษเหมือนพาเขาดำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ ภาพเลือนรางที่เคยจางหายกลับชัดเจนขึ้น เสียงหัวเราะในวัยเยาว์สะท้อนขึ้นมาในใจ คำสัญญาที่หลงลืมกลับมาก่อตัวอีกครั้ง ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อยหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมามองเขาด้วยสายตาสงสัย “เกิดอะไรขึ้น...” เธอเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อสายลมรอบๆ ต้นไม้เริ่มพัดไหวเบาๆ ราวกับกำลังแหวกม่านบางๆ เผยให้เห็นบางสิ่งที่อยู่อีกฟากของเวลาและแล้ว...ภาพในสมุดภาพก็เหมือนจะก้าวข้ามหน้ากระดาษเบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นภาพลวงตาที่ไม่อาจอธิบายได้ เด็กชายในชุดเรียบง่ายปรากฏตัวพร้อมเด็กสาวสองคน พวกเขาหัวเราะสดใสราวกับไม่ได้รับรู้ถึงสายตาของผู้ชมจากอนาคต ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนมองผ่านหน้าต่างแห่งเวลาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มมองภาพเหล่านั้นอย่างตกตะลึง “นี่มัน...” เธออ้าปากค้าง แต่เสียงของเธอกลับถูกกลืนหายไปกับเสียงหัวเราะ

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 11 การรอคอยในความเงียบสงบ

    เวลา 2 ทุ่ม ลมหนาวจากค่ำคืนพัดความหนาวเย็นเอื่อยๆมาแตะผิวเบาๆ ชวนให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงระเบียงยกผ้าคลุมไหล่ขึ้นห่มตัวแน่นขึ้น เธอทอดสายตามองบันไดหินที่ทอดยาวจากถนนเบื้องล่างขึ้นมาถึงหน้าห้องพัก ไม่มีเงาร่างของคนที่เธอเฝ้ารอเธอรอเขามาทั้งบ่าย ทั้งเย็น จนกระทั่งค่ำคืนนี้มาถึงอย่างเงียบงัน เพื่อจะมาขอความช่วยเหลือจากเขา ก่อนหน้านี้ เธอเคยส่งจดหมายไปแล้ว เนื้อความในนั้นสั้นแต่เร่งด่วน เป็นคำร้องขอให้ช่วยตามหาคู่หมั้นของเธอที่หายตัวไป ทว่าจดหมายนั้นกลับไร้คำตอบ กระทั่งเธอได้ยินข่าวมาว่าเขาออกเดินทางไปไกลเสียก่อนจดหมายนั้นจะไปถึงเสียอีกมันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เธอโล่งใจที่เขาไม่ได้ตั้งใจเมินเฉยต่อเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่กับความโล่งใจของตัวเอง เธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ความรู้สึกผิดที่ไม่เคยเลือนหายจากใจและในเช้าวันนี้ เธอจึงตัดสินใจจะทำในสิ่งที่หลีกเลี่ยงมานาน เธอไปดักรอเขาที่ริมถนนสายเล็กๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เขามักใช้ประจำจนกระทั่งเธอเห็นเขาชายหนุ่มยืนอยู่ที่อีกฟากของถนน ร่างสูงในชุดทำงาน ใบหน้าของเขานิ่งเฉยจนแทบอ่านอารมณ์ไม่ได้ แต่แววตาของเขา—ดวงตาคู่นั้นเต็มไป

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 12 เงาในห้วงวิญญาณ

    ชายหนุ่มอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น สติเลือนรางขณะที่สายตาเหลือบมองรูโหว่บริเวณหน้าอกของตัวเอง แม้หัวใจจะหายไป แต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมพังทลาย มันกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยพลังบางอย่างที่ไม่อาจระบุได้ร่างของเขาลอยอยู่กลางอากาศ มวลมานาขนาดใหญ่แผ่กระจายโอบล้อมร่างที่กำลังถูกแทรกแซงจากจิตวิญญาณอีกดวงที่แฝงตัวอยู่ภายใน มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เฝ้ามองอีกต่อไป แต่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเองด้วยการพยายามครอบงำทุกส่วนของร่างกายเขาผิวสีขาวของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มในหลายจุด ผมที่ดำสนิทกระเซอะกระเซิง บัดนี้มีสีเทาแซมอย่างเด่นชัด ดวงตาข้างหนึ่งกลายเป็นสีแดงเข้ม บ่งบอกถึงการแผ่ขยายอิทธิพลของจิตวิญญาณแปลกปลอม แม้ว่าการครอบงำจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ร่องรอยของมันปรากฏชัดในทุกเส้นสายของร่างกายจิตวิญญาณที่แฝงอยู่พยายามอย่างสิ้นหวังที่จะฟื้นฟูรูโหว่บริเวณหน้าอก โดยการเปลี่ยนพลังงานที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ฟื้นฟูหัวใจของเขาอย่างสิ้นหวัง แม้ว่ามันจะเป็นการพยายามที่สูญเปล่าก็ตามขณะเดียวกัน หญิงสาวผมดำ ดวงตาสีเงิน จับจ้องเขาด้วยความพึงพอใจปนความระแวดระวังเธอมองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่กำล

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 13 แผนหลบหนีที่พังทลาย

    ยามค่ำคืนที่เงียบสงัดปกคลุมเมืองไว้ด้วยความมืด เข็มนาฬิกาเดินเข้าสู่เวลาสามทุ่มครึ่ง บรรยากาศที่ควรคึกคักกลับดูอึดอัดและไม่ปกติ เอรอสเดินอยู่บนถนนสายเล็ก มุ่งหน้าไปยังหอพัก ดวงตาจับจ้องไปข้างหน้า แต่ในหัวของเขากำลังคำนวณแผนการหลบหนี‘สถานการณ์แบบนี้ อยู่ต่อไม่ได้แน่... ทางที่ดีที่สุดคือหาที่กบดานเมืองอื่นสักครึ่งปี แล้วค่อยกลับมาใหม่’เขาคิดในใจพลางประเมินตัวเลือกต่างๆ การสร้างตัวตนใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก หากใช้เครือข่ายเดิมที่มีหรือจ่ายเงินให้คนที่ไว้ใจได้ เขาสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในตระกูลสาขาสักตระกูล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นก็ค่อยส่งนักเรียนบางคนแทรกซึมเข้าไปในหอคอย เพื่อล้วงข้อมูลที่จำเป็น‘ขอแค่หนีออกไปจากเมืองนี้ให้ได้ก่อน... แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย’เอรอสเลือกเดินผ่านตรอกวอยเล็กๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดไปยังหอพัก ถนนแคบๆ มีเพียงแสงจากโคมไฟเก่าๆ สลัวๆ ให้เห็นทาง เขาชอบทางนี้เพราะมันเปลี่ยวและไม่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่คืนนี้มันกลับเงียบเกินไปอย่างผิดปกติ ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อเขาเดินมาถึงลานกว้างข้างหน้า ความรู้สึกผิดปกติเริ่มกัดกินความสงบในใจ มันไม่มีผู้คนอยู่เลย เง

    Last Updated : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 14 ศึกแห่งเกียรติยศ และ อำนาจ

    ในขณะที่หญิงสาวคนนึงกำลังเดินกลับคฤหาสน์ด้วยความเสียใจ เสียงพลังเวทที่แตกกระจายดังก้องสะท้อนผ่านตรอกแคบๆ ในยามค่ำคืน ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก หัวใจของเอเลน่าเต้นแรงด้วยความกังวลและตื่นเต้น เธอกระชับดาบข้างกายและเร่งฝีเท้าตรงไปยังต้นตอของเสียงที่ลานเปิดกลางตรอก เธอพบกลุ่มจอมเวทย์ในชุดคลุมดำยืนล้อมร่างชายคนหนึ่งที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่เวทมนตร์ที่เปล่งแสงริบหรี่ใต้แสงจันทร์ กลิ่นอายเวทมนตร์ที่เข้มข้นแผ่กระจายจนทำให้บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้ง ชายที่ถูกจับมีผ้าคลุมหนาคลุมร่างจนมองไม่เห็นใบหน้า ข้างกายเขามีคฑาเวทมนตร์ที่ปลายแตกหักวางอยู่เอเลน่าก้าวออกจากเงามืด ดวงตาจับจ้องไปยังกลุ่มนั้นก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงด้วยความมั่นใจ"ข้า เอเลน่า วัลธอเรน ขอถามว่าพวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่ที่นี่?"ชายสูงวัยในชุดคลุมดำค่อยๆหันมามองเธอ ใบหน้าใต้ฮู้ดของเขาเผยรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจน เขาก้าวออกมาด้านหน้าอย่างมั่นคง ก่อนโค้งตัวเล็กน้อยด้วยท่าทีที่เสแสร้ง "ท่านเอเลน่า แห่งตระกูลวัลธอเรน...นี้เอง นึกไม่ถึงว่าจะได้รับเกียรติพบเจอท่านในยามค่ำคืนเช่นนี้"เอเลน่าขมวดคิ้ว เธอยืดตัวตรงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น "การจั

    Last Updated : 2024-10-28

Latest chapter

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 27 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    หญิงสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมสีม่วงอมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในสถานที่แห่งนี้ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ทำให้เธอรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของมือสังหาร จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มานานแล้ว แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับเรื่องราวนั้น หนักเกินกว่าจะเล่าออกมาดวงตาสีชมพูอ่อนสะท้อนแสงจากโคมไฟ หญิงสาวนั่งนิ่งราวกับกำลังขบคิดอะไรบาง แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ อยากให้ชายหนุ่มเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่เธอก็รู้ดี เขาก็ยังเป็นตัวเขา—คนที่เลือกจะแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง ไม่ยอมพึ่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 53 อดีตของเด็กสาวไร้ชื่อ

    ใต้ดินที่มืดมิดและอับชื้น กลิ่นดินและสนิมเหล็กตลบอบอวลเหมือนกลิ่นความตาย กรงขังที่ทำจากเหล็กเส้นเก่าๆ ถูกสร้างไว้ตามผนังของคุกโบราณแห่งนี้ แสงจากรูเล็กๆบนเพดานสูงเปิดให้เห็นเพียงเศษเสี้ยวของท้องฟ้าด้านบน เป็นแสงที่ไม่เพียงพอจะทำให้พื้นที่รอบตัวสว่าง แต่เพียงพอที่จะเตือนให้เธอจำได้ว่ายังมีโลกภายนอกเธอนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของกรง ดวงตาสีฟ้าอ่อนจ้องมองแสงที่ลอดผ่านลงมา ราวกับหวังว่ามันจะพาเธอหลุดพ้นจากกรงแห่งนี้ ผมสีดำยุ่งเหยิงของเธอห้อยปิดหน้าซีดเซียวที่ครั้งหนึ่งเคยดูสดใส แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเธอถูกกักขังในฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่นเธอจำได้ถึงคืนที่ทุกอย่างพังทลาย หมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยสงบสุขกลายเป็นนรกบนดินเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา เพลิงไฟโหมกระหน่ำ เสียงกรีดร้องของผู้คน เสียงไม้ลั่นดังขณะบ้านพังถล่ม ทุกสิ่งดูเหมือนภาพฝันร้ายที่เธอไม่มีวันลืม สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือเสียงแม่ตะโกนเรียกเธอท่ามกลางควันไฟ แล้วความมืดก็เข้าครอบงำสองเดือนก่อน เธอยังอยู่บนเรือทาส ลอยกลางทะเลอันกว้างใหญ่ เสียงน้ำทะเลซัดกระแทกกับไม้กระดานดังแผ่วเบา แต่สำหรับเด็กสาวไร้ชื่อ เสียงนี้เหมือนเพลงบรรเลงแห่งความสิ้นหวัง แสงจัน

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 52 ผู้ครอบครองแก่นสีดำ

    ห้องลับใต้ดิน คลินิกหลังจากตกลงแผนการทั้งหมด พวกเขาเดินลงไปยังห้องทดลองใต้ดินของคลินิก โจชัวถือกล่องที่ใส่อุปกรณ์และแก่นเวทย์สีดำไว้ในมือ ขณะที่เอรอสเดินตามหลังมาเงียบๆ ความเงียบครอบงำบรรยากาศ มีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งสองที่ดังก้องในทางเดินแคบเมื่อมาถึงห้องทดลองใต้ดิน ประตูเหล็กบานหนาถูกปิดอย่างแน่นหนา โจชัวเปิดสวิตช์ไฟ เผยให้เห็นเครื่องมือและอุปกรณ์มากมายที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ โต๊ะกลางห้องมีเตียงหินสำหรับการผ่าตัด โจชัววางกล่องลงก่อนหันไปมองเอรอส“ฉันต้องถามอีกครั้ง” โจชัวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะทำตอนนี้? อย่างน้อยถ้ามีเวลาเตรียมตัวอีกสักวัน…”เอรอสส่ายหัว “ไม่จำเป็น เริ่มลงมือกันเถอะ” น้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงความกดดันโจชัวถอนหายใจยาว “ก็ได้… ถ้างั้นขึ้นไปนอนบนเตียง ผมจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อน”เอรอสปีนขึ้นไปนอนบนเตียงหิน เย็นเยียบจากพื้นหินแผ่ซ่านผ่านร่างกาย แต่เขากลับไม่ใส่ใจ สายตาจับจ้องไปยังเพดานห้อง ขณะที่โจชัวจัดเตรียมเครื่องมือ มีดเวทย์เรืองแสงสีฟ้า และแก่นเวทย์สีดำที่ยังคงเปล่งประกายลึกลับ“ถึงจะมั่นใจในฝีมือ” โจชัวพูดขึ้นขณะเตรียมเครื่องมือ “แต่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 51 ความจริงในรสขม

    “ไหนบอกว่านัดไว้แล้วไง ทำไมเขาบอกว่าไม่รู้เรื่อง?” ไอลีนหันมากระซิบถามอาร์วินด้วยสีหน้าไม่สบายใจอาร์วินยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองโจชัวที่ยังคงจับจ้องพวกเขาด้วยสายตานิ่งสงบ แฝงแววประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ"จำไม่ได้แล้วเหรอว่าเราเคยเดินทางด้วยกันตั้งเป็นเดือน? ตอนนั้นฉันต้องพกงานวิจัยของนายติดตัวไปด้วยตลอด เพราะกลัวว่านายจะสติหลุดแล้วเผลอทำลายมันไปซะเอง ตอนนี้ยังเก็บไว้อยู่ใช่ไหม? หรือว่าเผลอทำหายไปแล้ว?"คำพูดของอาร์วินทำให้โจชัวชะงักไปเล็กน้อย แววตาของเขาที่เดิมดูระวังตัว กลับฉายแววสงสัยปนระลึกอะไรบางอย่าง“งานวิจัย...” เขาทวนคำเบาๆคล้ายจะนึกย้อนถึงอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆราวกับจับทิศทางได้แล้ว“อ้อ คุณนี่เอง” โจชัวเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้า“จำได้แล้วครับ ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะ”อาร์วินพยักหน้าเล็กน้อย ท่าทางดูเหมือนสบายๆ แต่ในแววตากลับมีอะไรบางอย่างที่อ่านยาก“ใช่ ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย ฉันก็สงสัยอยู่ว่านายจะยังจำฉันได้อยู่หรือเปล่า”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ ผมไม่ทีทางลืมหรอกครับ” โจชัวตอบ พลางหัวเราะเบาๆอาร์วินเอน

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 50 คนที่ไม่คุ้นเคย

    ไอลีนถือสมุดบันทึกเวทมนตร์เล่มเล็กไว้ในมือ ขณะเดินไปตามทางเดินในคฤหาสน์ที่เงียบสงบ ผมยาวสีดำสนิทของเธอถูกมัดรวบไว้หลวมๆด้านหลัง ปลายเส้นผมพลิ้วไหวไปตามจังหวะก้าวเดิน เธอสวมชุดคลุมสีม่วงอ่อนที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์สะท้อนแสงจันทร์เล็กน้อย ผ้าคลุมบางเบาดูสง่างามแต่คล่องตัวพอสำหรับการเคลื่อนไหวในยามค่ำคืน มืออีกข้างถือคทาไม้เนื้อแข็งที่ถูกแกะสลักอย่างประณีต ปลายคทาประดับด้วยคริสตัลสีใสที่เปล่งแสงเรืองรองจางๆ ราวกับกักเก็บพลังเวทไว้ภายในแสงจากโคมไฟติดผนังทอดเงาสะท้อนบนพื้นหินเย็นเยียบ เสียงฝีเท้าของเธอเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน เธอสูดลมหายใจลึกขณะหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ จับจ้องไปยังเงาร่างหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังอยู่ด้านล่างของคฤหาสน์ร่างนั้นคืออาร์วิน เขาสวมชุดข้ารับใช้ในที่ดูเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวคาดด้วยเสื้อกั๊กสีดำเข้ารูปและกางเกงสีน้ำตาลเข้มที่พับปลายไว้เล็กน้อย หมวกแบนทรงกลมที่มียอดยกขึ้นนิดหน่อยปกปิดเส้นผมสีทองที่ยุ่งเล็กน้อย แว่นตาสีน้ำตาลอมแดงช่วยบดบังสายตาของเขาจากผู้พบเห็น ดวงตาสีเทาอันลึกลับถูกซ่อนเร้นไว้ราวกับต้องการปิดบังตัวตนเขาก้าวเดินอย่างเ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 49 หน้ากากแห่งคำลวง

    เอเลน่านั่งอยู่บนเตียง จ้องมองอาร์วินที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ กับเตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเศร้าสร้อย ดวงตาสีเทาที่มองมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ความลึกที่อธิบายไม่ได้ มีบางสิ่งในแววตานั้นที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว แต่เธออ่านมันไม่ออกบรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด เสียงลมเบาๆ จากหน้าต่างที่เปิดแง้มอยู่ดังก้องในห้องที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นของผ้าปูที่นอนใต้ฝ่ามือ พยายามดึงสติกลับมา แต่ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เหมือนถูกตรึงด้วยแรงบางอย่างที่มองไม่เห็นอาร์วินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังรวบรวมความกล้าอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา"เอเลน่า... ฉันไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน แต่ฉันจะพยายามเล่าให้เธอฟัง"เสียงของเขานุ่มลึก แต่สั่นเครือเล็กน้อย เธอรู้ว่าเขากำลังแบกรับอะไรบางอย่างที่หนักหนา ทว่าในใจของเธอเองก็เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่รู้จบ เอเลน่านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงให้เขาพูดต่อ แม้ในใจจะปั่นป่วนจนแทบระเบิดอาร์วินถอนหายใจยาว เสียงนั้นเหมือนลมหายใจที่พยายามปลดปล่อยความกดดันบางอย่าง"ตอนที่ฉันถูกจับอยู่ในคุก... ฉ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 48 ชื่อที่ไม่ควรถูกเอ่ย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ เอเลน่าค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆ กลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันที่ไม่อยากตื่นจากมันเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งหลับพิงเก้าอี้อยู่ ใบหน้าสงบนิ่งในเงามืด เส้นผมสีทองของเขาดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เอเลน่าจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ช่วงเวลานี้เผยให้เห็นอีกด้านของเขา—ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนเร้นก่อนหน้า ทำให้เธอโล่งใจเล็กน้อย ดวงตาของเธอสบเข้ากับใบหน้าอ่อนล้าของเขา ความรู้สึกปะปนกันระหว่างความสับสนและความอบอุ่นไหลเวียนในอก“อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆเหมือนจะยืนยันว่าเขาอยู่ตรงนี้จริงๆ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อเหลือบมองตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งเธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่เตียงของเธอ แต่เป็นของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงข

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 47 ในความสงบของรุ่งสาง

    เอรอสก้าวออกจากป่าทึบในรูปลักษณ์ของอาร์วิน สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านตัวเขาอย่างแผ่วเบา แสงจันทร์ยังคงสลัวทำให้เห็นเงาของคฤหาสน์ตระกูลวัลธอเรนลางๆ อยู่ไม่ไกล จุดที่เขามุ่งหน้าไปคือบริเวณใต้หน้าต่างห้องพักของเขาเองก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เขาเคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายแปลกหน้าที่เอรอสช่วยเหลือไว้ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาวราวกับหยิบยกมาจากยุคโบราณ ชายคนนี้ดูเหมือนนักเดินทางที่หลงยุค เขาอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เอรอสจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยมาให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 46 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกของโจชัว ตั้งอยู่ในเขตสามัญชน ตัวอาคารหินสีซีดดูเรียบง่ายแฝงความล้าสมัย ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว คลินิกนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนโรงพยาบาล แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยประมาณสิบคน เหมาะสำหรับการดูแลแบบส่วนตัวยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น เอรอสยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามคลินิก แม้ลมหนาวจะพัดแรง แต่ร่างกายของเอรอสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อความเย็น ราวกับความหนาวนั้นไม่อาจแตะต้องเขาได้ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท นั่นเป็นห้องทำงานของโจชัว ซึ่งเขาใช้สำหรับจัดการเอกสารในช่วงกลางวัน แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status