แชร์

ตอนที่ 8 ผู้เฝ้าแห่งโดม

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-28 23:07:41

เอรอสค่อยๆได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังอยู่ไกลๆราวกับเสียงคลื่นซัดกระทบชายฝั่ง มันเป็นเสียงที่เขาไม่คุ้นเคย แต่กลับฟังดูปลอบโยน ในที่สุด เขาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตายังพร่ามัวราวกับยังติดอยู่ในห้วงฝันอันยาวนาน

เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไร รู้เพียงว่าร่างกายที่เคยเล็กและอ่อนแรงกลับรู้สึกหนักแน่น และ มีเรี่ยงแรงขึ้นอีกครั้ง นิ้วมือที่เคยดูเล็กเหมือนของเด็ก ตอนนี้กลับมาเรียวยาวและหยาบกร้าน เขาก้มมองมือตัวเองในความมืด นิ้วที่เคยเปื้อนดิน และ รอยแผลเก่าๆที่คุ้นเคยปรากฏกลับมาอย่างชัดเจน

ร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ—เป็นร่างของผู้ใหญ่ที่เขาจำได้

เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ขาและลำตัวที่กลับมาสมส่วนให้ความรู้สึกมั่นคง เสื้อโค้ทสีดำกับกางเกงขายาวของเขาก็กลับคืนมาแทนที่เสื้อผ้าแบบเด็กที่เขาเห็นในภาพหลอน เอรอสลูบแขนเสื้อเบาๆเพื่อยืนยันว่ามันเป็นของจริง

"มันเกิดอะไรขึ้นกัน..." เขาพึมพำ เสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย แต่หนักแน่นกว่าในฝัน

เขาสูดหายใจลึกและหันมองรอบตัวอีกครั้ง แม้จะยังคงปกคลุมด้วยหมอกสีดำ แต่มีบางสิ่งดึงดูดสายตาของเขาไปที่ใจกลางพื้นที่นั้น โดมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางความมืดลึกลับ รูปทรงของมันดูเหมือนสิ่งที่เขาเคยเห็นในภาพหลอนนั้น โดมขาวมุกสะท้อนแสงเลือนรางจากหมอก สร้างความรู้สึกทั้งน่าค้นหาและน่าหวาดหวั่นในคราวเดียวกัน

“นี่ไม่ใช่ความฝัน...หรือมันคือเขตแดน?” เอรอสพูดกับตัวเอง ขณะก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวของเขาหนักแน่น รู้สึกถึงพื้นดินที่แข็งใต้ฝ่าเท้า แม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่เห็นทั้งหมด แต่เขารู้สึกได้ว่ามันเป็นหัวใจสำคัญของที่แห่งนี้ ทุกสิ่งในหมอกสีดำรอบตัวเหมือนจะหมุนวนเข้าหาโดมนี้ ราวกับมันเป็นจุดศูนย์กลางของโลกที่เขาตื่นขึ้นมา

"ฉันต้องเข้าไป" เสียงเขาแผ่วเบา แต่แน่วแน่ขึ้น

แม้หัวใจจะยังเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ แต่เท้าของเขาเริ่มก้าวไปข้างหน้า ร่างกายที่กลับมาเป็นปกติทำให้เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เคยสูญเสียไปนาน...ทุกย่างก้าวที่เข้าใกล้โดมนั้น กลับเหมือนกำลังถอยห่างจากบางสิ่งที่เคยคุ้นเคยในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ

เอรอสก้าวเข้าไปในโดม เสียงฝีเท้าของเขากระทบกับพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบดังก้องในความเงียบ บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ยากจะอธิบาย มันไม่ได้เป็นเพียงกลิ่นธรรมชาติของไม้ใบ แต่เหมือนจะมีบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในอากาศ ความสงบที่ปกคลุมบริเวณนี้กลับสร้างความอึดอัดในใจของเขา

เขามองขึ้นไปยังเพดานกระจกที่แตกร้าวเป็นบางส่วน แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านรอยร้าวนั้นกระทบพื้นหินเป็นลวดลายที่เหมือนเงาของรอยประทับแห่งเวลา เงาของกิ่งไม้ใหญ่ทาบทับทั่วทั้งพื้นที่ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ใต้ร่มเงาของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจ

เอรอสเดินตรงไปยังศาลาเล็กๆที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ โครงสร้างของมันเป็นไม้เก่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา แต่ยังคงตั้งตระหง่านอย่างมั่นคง เบาะนั่งหินที่ตั้งเรียงรายมีมอสเขียวเกาะเต็มไปหมด ราวกับไม่ได้มีใครใช้มันมานานหลายปี

เขาสัมผัสขอบไม้ของศาลาเบาๆ ผิวไม้หยาบกร้าน แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ในใจของเขาเหมือนมีบางสิ่งกำลังเตือนให้ระลึกถึงอดีต เสียงหัวเราะเบาๆของเด็กเล็กๆดังสะท้อนในหัว ความทรงจำที่ไม่ชัดเจนราวกับภาพในฝันค่อยๆ ปรากฏขึ้น

เด็กชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนี้—ตรงที่เขายืนอยู่ตอนนี้ พร้อมกับเด็กสาวอีกสองคน ทั้งสามดูมีความสุข รอยยิ้มของพวกเขาสดใสและบริสุทธิ์ เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่ว แต่ภาพเหล่านั้นจางหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนหมอกที่ถูกลมพัด

เอรอสหลับตาลง พยายามรวบรวมภาพความทรงจำที่เลือนรางนั้นไว้ แต่มันกลับหลุดลอยออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนทรายที่ร่วงหล่นผ่านนิ้วมือ เสียงหัวเราะใสๆและรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของเด็กสามคนยังคงสะท้อนก้องในใจเขา แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ภาพเหล่านั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความเงียบงันที่กดดัน

เขาเพ่งมองพื้นที่ว่างตรงศาลา ก่อนจะสะดุดตากับร่างของใครบางคนที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นมาก่อน

ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งพิงเสาไม้ของศาลาอยู่ ผมยาวสีดำขลับของเธอพลิ้วเบาๆรอบใบหน้าที่นิ่งสงบเหมือนคนกำลังหลับใหล ทว่าในอ้อมแขนของเธอกลับกุมบางสิ่งไว้ มันคือกรงเหล็กสีดำเล็กๆวางแนบกับอกของเธอ

เอรอสก้าวเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองเห็นชัดขึ้นว่าภายในกรงนั้นมีบางสิ่งที่เคลื่อนไหว หัวใจสีแดงฉานที่ยังคงเต้นอยู่ในจังหวะที่คงที่ โซ่เงินเส้นบางพันธนาการหัวใจนั้นไว้ และแสงสะท้อนจากโซ่ทำให้มันดูราวกับสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรถูกปลดปล่อย

ดวงตาของเขาเลื่อนไปที่หญิงสาวซึ่งนั่งพิงศาลาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผมดำขลับของเธอรับแสงจากเพดานกระจกเหนือศีรษะ เผยความเงางามที่ราวกับถูกขับให้โดดเด่นในความมืด ดวงหน้าเรียวได้รูปที่แต่งแต้มด้วยความสง่ากลับดูนิ่งสงบจนชวนให้ขัดแย้งกับภาพของหัวใจที่ถูกจองจำตรงหน้า

เธอสวมชุดเดรสสีดำสนิทที่ตัดเย็บอย่างประณีต ลวดลายปักด้วยดิ้นเงินสะท้อนแสงสลัวจากเพดานโดม เส้นขอบและรายละเอียดของเดรสดูเหมือนมาจากยุคที่เขาไม่รู้จัก สไตล์ของมันสง่าแต่ก็ดูล้าสมัยในขณะเดียวกัน แขนเสื้อพองเล็กน้อย ไล่ลงมาถึงข้อมือที่ปกคลุมด้วยถุงมือผ้าลูกไม้บางๆ

ผิวของเธอขาวนวลดุจไข่มุก เมื่อแสงกระทบ มันสะท้อนเงาอ่อนๆ ที่ชวนให้นึกถึงรูปปั้นแกะสลักด้วยมือที่เชี่ยวชาญ เส้นผมสีดำขลับของเธอยาวสลวยราวกับได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคลอเคลียอยู่รอบไหล่และแผ่นหลัง ปลายผมตกลงมาถึงขอบพื้นเดรสที่เธอนั่งพิงอยู่

เอรอสพยายามปรับลมหายใจที่เริ่มติดขัด มันไม่ใช่เพราะความงามของเธอเท่านั้น แต่เป็นเพราะบางสิ่งที่มากกว่านั้น บางสิ่งที่เขารู้สึกผ่านสัญชาตญาณ

บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวดูเหมือนจะบิดเบี้ยวเล็กน้อยเหมือนอากาศที่ปั่นป่วนในวันร้อนจัด แต่ไม่ได้มองเห็นด้วยตาเปล่า หากเป็นความรู้สึกที่กดดันและลึกลับ มานาที่แผ่ออกมาจากตัวเธอเหมือนจะสัมผัสได้ในทุกย่างก้าวที่เขาเข้าใกล้

มันไม่เหมือนกับมานาของมนุษย์ที่เขาเคยพบในอดีต ความรู้สึกนี้หนักหน่วงเกินไป หนาแน่นและทรงพลังจนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงโดยไม่อาจควบคุม

เอรอสหยุดยืนห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว ความรู้สึกเหมือนแบกรับน้ำหนักของโลกไว้บนไหล่เพิ่มมากขึ้นในทุกวินาทีที่เขามองตรงไปยังหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังหลับไหลตรงหน้า

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 9 แรงดึงดูดของพลังที่ซ่อนเร้น

    แสงสีทองส่องลอดผ่านช่องว่างระหว่างกิ่งไม้ใหญ่ที่ทอดตัวเหนือศาลาสีขาว หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงตาสีเงินเข้มของเธอจับจ้องไปที่เบื้องหน้า ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อยราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหล เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ทำให้ใบไม้สั่นไหว ก่อให้เกิดบรรยากาศอันสงบนิ่งแฝงความลึกลับที่แผ่คลุมทั่วพื้นที่ ศาลาแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดหนึ่งที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เธอสูดลมหายใจลึก พยายามสงบความรู้สึกประหลาดที่วนเวียนอยู่ในใจในตอนที่คิดว่าทุกอย่างเป็นปกติ เฉกเช่นทุกวันที่ผ่านมา ความคิดที่ยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ก็เกิดความสงสัย เมื่อดวงตาของเธอเหลือบไปเห็นเงาของบุคคลที่ไม่คาดคิด—เอรอส ชายที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงที่สะท้อนมาจากใบไม้ ห่างจากเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ราวกับว่าธรรมชาติโดยรอบหยุดนิ่งเพื่อต้อนรับการมาถึงของเขาพริบตานั้น หัวใจของเธอกระตุกด้วยความตกใจ สัญชาติญาณของเธอกำลังกู่ร้องถึงความอันตรายของชายที่อยู่ตรงหน้า เอรอสสามารถลอบผ่านสัมผัสรับรู้ถึงเวทมนตร์ของเธอ และ เข้ามาใกล้โดยไม่ทันตั้งตัว พลังเวทย์ที่สงบอยู่ในกายของเธอพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรงเหมือนถูกกระตุ้นโดยอารมณ์ที่สั่นไหว ดวงตาสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 10 หัวใจต้องห้ามของจอมปราชญ์

    หญิงสาวนั่งอยู่บนม้านั่งหินในศาลา ท่าทางดูสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กรงโลหะที่บรรจุหัวใจสีแดงกำลังส่องแสงริบหรี่จางๆอยู่ข้างๆตัวเธอ ดวงตาสีเงินเข้มของเธอจ้องมองเอรอสตรงหน้า แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนสายตานับพันกำลังจับจ้องเขาอยู่รอบทิศทาง ราวกับทุกมุมมองถูกตรวจสอบจนหมดสิ้น นั่นเป็นผลจากพลังเวทย์ของเธอที่แทรกซึมอยู่ในมานาบริเวณโดยรอบบรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกจนแผ่ซ่านไปถึงกระดูก มวลมานาอันเข้มข้นที่แฝงด้วยพลังเวทย์ของหญิงสาวกดทับบรรยากาศไว้ ราวกับมันกำลังตอบสนองต่อเจตจำนงที่เธอปลดปล่อยเสียงที่เย็นเยียบแต่แฝงความหนักแน่นดังขึ้นขัดความเงียบงัน"นายเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?" เธอเอ่ยถาม สายตาของเธอไม่ได้ลดละจากตัวเขา "ยังไม่ถึงเวลาทดสอบเลย..."คำพูดนั้นเหมือนคำเตือนที่ทำให้เอรอสต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่เขายังคงนิ่งเงียบ ความเงียบของเขาไม่ได้ทำให้เธอหงุดหงิด ตรงกันข้าม มันเหมือนทำให้เธอสนใจในตัวเขามากขึ้น"ถ้านายไม่อยากตอบ ฉันก็ไม่บังคับ" เธอกล่าวพลางเอนตัวพิงพนักม้านั่ง รอยยิ้มบางจางปรากฏขึ้นที่มุมปาก"ถึงจะเป็นผู้บุกรุก แต่ฉันจะยอมให้นายถามคำถามก่อนก็ได้ เห็นแก่ความกล้านั้นของนาย"เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 11 ในเงามืดแห่งความสงสัย

    "น่าสนใจใช่ไหม?" หญิงสาวพูดขึ้น เธอสังเกตสีหน้าของเอรอสอย่างพึงพอใจ “แต่ละคนก็มีเรื่องราวและพลังของตัวเอง น่าเสียดายที่ไม่มีใครผ่านการทดสอบได้เลย”เธอพูดอย่างนั้น ก่อนจะสบัดมืออีกครั้ง คริสตัลเหล่านั้นหายไปเบื้องหน้าเขาเพียงชั่วพริบตา ทิ้งไว้เพียงร่องรอยของพื้นดินที่ถูกคริสตัลเหล่านั้นกดทับ แต่เพียงชั่วครู่ พื้นที่เหล่านั้นก็ถูกฟื้นฟูจนกลับมาเหมือนใหม่ รู้สึกได้ถึงมานาโดยรอบกำลังซึมลงสู่พื้นดินอย่างช้าๆ คล้ายหยาดน้ำค้างตอนรุ่งอรุณ อากาศโดยรอบมีกลิ่นหอมจางๆ เหมือนกลิ่นไม้สดใหม่ พื้นที่ที่เคยถูกคริสตัลกดทับกลับมาเรียบเนียนอีกครั้งราวกับเวลาถูกย้อนคืน พื้นที่นั้นฟื้นฟูด้วยตัวเอง ราวกับมีชีวิต มานาที่แทรกซึมลงดินกลับทำหน้าที่โดยไม่ต้องอาศัยพลังเวทย์ของหญิงสาว เอรอสหันกลับไปมอง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความไม่ไว้ใจ"พวกเขาเข้ารับการทดสอบด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ?"หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบอย่างเรียบง่าย "ใช่ พวกเขามาที่นี่ด้วยความสมัครใจ ตั้งแต่พวกเขาก้าวเข้าสู่วงเวทย์ที่สุ่มเกิดขึ้นด้านนอก ในตอนนั้นก็ถือว่าพวกเขาต้องการเข้ารับการทดสอบแล้ว"หญิงสาวยักไหล่เบาๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 12 รอยขีดแห่งอดีต

    เอรอสหยุดพูดไปชั่วครู่หลังจากเอ่ยปากว่าจะเล่าเรื่องให้หญิงสาวฟัง ดวงตาสีเทาหม่นของเขามองลงต่ำ ราวกับกำลังพยายามจับความทรงจำที่กระจัดกระจาย“จริงๆแล้ว...ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่ซ่อนอารมณ์บางอย่างลึกลงไป“ที่นี่…มันให้ความรู้สึกแปลกๆ….เหมือนว่าฉันเคยมาที่นี่ แต่ฉันกลับจำอะไรไม่ได้เลย”หญิงสาวมองเขาด้วยความสนใจ ดวงตาสีน้ำเงินของเธอเปล่งประกายด้วยความอยากรู้“แล้วอะไรที่ทำให้นายมั่นใจว่านายเคยมาที่นี่จริงๆ?”เอรอสไม่ได้ตอบในทันที เขาเบือนสายตามองไปรอบๆราวกับพยายามค้นหาเศษเสี้ยวความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ ทันใดนั้น เขาก็หยุดนิ่ง ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังมุมเสาของศาลา รอยขีดเล็กๆบนเนื้อไม้ดึงดูดสายตาเขาอย่างประหลาดเขาเดินเข้าไปใกล้ มือยื่นออกไปแตะเสาเบาๆ รอยขีดสามเส้นเล็กๆที่มีระยะห่างเล็กน้อยกันปรากฏชัดในสายตา แม้จะดูธรรมดา แต่กลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว “นี่มัน…”นิ้วมือของเขาไล้ไปตามรอยขีดนั้น ความหยาบกร้านของเนื้อไม้สะกิดความทรงจำที่เลือนลางให้ชัดเจนขึ้น ดวงตาของเขาเผยแววอารมณ์ที่ซับซ้อน ก่อนจะพึมพำออกมาราวกับพูดกับตัวเอง“เหมือนกับ...ที่ๆเราเค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 13 มรดกแห่งต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

    สายลมที่พัดผ่านต้นไม้ใหญ่นั้นแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่กลับนำพาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า—กลิ่นอายของอดีตที่หวนคืนมาในทุกลมหายใจเอรอสพลิกสมุดภาพในมืออย่างแผ่วเบา ทุกหน้ากระดาษเหมือนพาเขาดำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ ภาพเลือนรางที่เคยจางหายกลับชัดเจนขึ้น เสียงหัวเราะในวัยเยาว์สะท้อนขึ้นมาในใจ คำสัญญาที่หลงลืมกลับมาก่อตัวอีกครั้ง ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อยหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล หันมามองเขาด้วยสายตาสงสัย "เกิดอะไรขึ้น..." เธอเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะหยุดชะงักเมื่อสายลมรอบๆ ต้นไม้เริ่มพัดไหวเบาๆ เหมือนกำลังแหวกม่านบางๆ เผยให้เห็นบางสิ่งที่อยู่อีกฟากของเวลาและแล้ว...ภาพในสมุดภาพก็เหมือนจะก้าวข้ามหน้ากระดาษเบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นภาพลวงตาที่ไม่อาจอธิบายได้ เด็กชายในชุดเรียบง่ายปรากฏตัวพร้อมเด็กสาวสองคน พวกเขาหัวเราะสดใสราวกับไม่ได้รับรู้ถึงสายตาของผู้ชมจากอนาคต ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนมองผ่านหน้าต่างแห่งเวลาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เอรอส มองภาพเหล่านั้นอย่างตกตะลึง "นี่มัน..." เธออ้าปากค้าง แต่เสียงของเธอกลับถูกกลืนหายไปกับเสียงหัวเราะแผ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 14 พันธนาการแห่งคำสัญญา

    ในความมืดมิด เอรอสลืมตาขึ้นมา ท่ามกลางเงาดำไร้ขอบเขต พื้นที่เขาเหยียบย่ำเป็นแอ่งน้ำสีดำสนิท ลึกจนไร้ก้นบึ้ง ทุกสิ่งเงียบงันจนดูเหมือนเวลาได้หยุดลง ความเย็นเฉียบของบรรยากาศนั้นไม่เพียงแค่โอบล้อมร่างกายของเขา แต่ราวกับแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก เย็นจนแสบซ่าน ทรมานจนหัวใจของเขาเต้นรัว เสียงกระซิบแผ่วเบาจากเงามืดดังขึ้นรอบตัวเขา คล้ายกับความคิดแฝงซ่อนอยู่ในหัวของเขาเองที่คอยกัดกร่อน“ยังมีสัญญาที่ยังทำไม่สำเร็จอีกไม่ใช่หรือ? จะยอมแพ้แล้วงั้นหรอ?”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง เมื่อนั้นเอรอสหันไปมอง เขาเห็นตัวเอง... ในอีกรูปแบบหนึ่ง รูปร่างนั้นผ่ายผอม ใบหน้าอิดโรย ความเหนื่อยล้าฉายชัดบนใบหน้าของร่างนั้น แต่ดวงตา และ ท่าทางกลับแน่วแน่ดั่งก้อนหินที่ไม่อาจถูกทำลายเมื่อเอรอสหันมองไปรอบๆ เขาพบว่ามีตัวเองอีกนับสิบยืนล้อมรอบเขาอยู่ บางคนดูมั่นคง เยือกเย็น ราวกับผู้นำที่ยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบพร้อมด้วยชุดเกราะสีเงินที่เปล่งประกาย บางคนสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่ท่าทางยังแฝงความเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้ ทั้งหมดล้วนสะท้อนตัวตนของเขาในแง่มุมที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกสายตาจับจ้องมาที่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 15 เสี้ยวแห่งความหวัง ท่ามกลางความสิ้นหวัง

    เอรอสยังคงนั่งอยู่ในความเงียบ หัวใจของเขาเต้นช้าลงเมื่อความคิดเยือกเย็นและสิ้นหวังเริ่มแผ่ซ่านไปทั่ว ความจริงที่ว่าเขาอาจหายไปจากโลกนี้โดยไม่มีใครพบเจอ ทำให้ทุกอย่างในห้องขังหนักอึ้งกว่าเดิม แม้เขาพยายามปิดกั้นความคิดเหล่านั้น แต่เงาแห่งความกลัวก็ยังคืบคลานเข้ามาความเย็นชาจากพื้นหินและผนังคุกเหมือนซึมลึกเข้ามาในใจ ความสิ้นหวังที่หนักอึ้งขึ้นทุกวินาที แต่ในขณะเดียวกัน เอรอสยังคงบอกตัวเองให้ยืนหยัด และต้องหาทางเอาชีวิตรอดเขามองไปรอบๆ ห้องขังที่เย็นเยียบ พื้นหินแตกร้าวและมีน้ำซึม กลิ่นอับชื้นชวนให้คิดถึงสถานที่ที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสนใจ และไร้ทางออก แม้เขาบอกตัวเองว่าไม่กลัว แต่ลึกๆ เขารู้ดีว่าการอยู่ที่นี่นานเกินไปจะกัดกร่อนจิตใจของเขา เหมือนกำแพงหินที่ถูกเวลาบั่นทอนลงเรื่อยๆเสียงฝีเท้าของเฟลิเซียยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา แม้ว่าเธอจะเดินจากไปแล้ว สีหน้าของเธอตอนที่บอกว่า “นายจะต้องอยู่ที่นี่... จนกว่าเราจะตัดสินใจ” ยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเอรอส เขาจำได้ถึงความสั่นไหวเล็กน้อยในน้ำเสียงของเธอ ราวกับว่าเธอเองก็ไม่ได้มั่นใจในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ แต่เธอไม่มีทางช่วยเขาแน่นอนบานประตูเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 16 เงาที่กรอบประตู

    ในยามที่ดวงจันทร์หลบซ่อนอยู่หลังม่านหมอกหนา ความเงียบเยือกเย็นปกคลุมทั่วบริเวณเหมือนกับผืนโลกถูกแช่แข็ง เสียงลมหวีดหวิวผ่านทางเดินแคบๆ ของอุโมงค์ใต้ดินรกร้าง บรรยากาศอึมครึมที่ไม่มีแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตอื่นเพิ่มความรู้สึกอึดอัดเข้าไปอีกเสียงฝีเท้าหนักแน่นของยามคนใหม่สะท้อนก้องภายในอุโมงค์ เสียงนั้นเชื่องช้า หนักหน่วงเหมือนพลังงานในตัวเขาเหลือเพียงน้อยนิด ราวกับเขาถูกถ่วงด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมายาวนานจนไม่ใส่ใจความรวดเร็วอีกแล้ว เขายกมือขึ้นลูบเคราที่เริ่มยาวและหยาบ พลางหาวเบาๆ ความง่วงค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่จิตใจถึงกระนั้นเขายังคงก้าวเดินต่อไปตามหน้าที่ จนมาถึงหน้าห้องขัง เหลียวมองเห็นยามหนุ่มคนหนึ่งยืนพิงกำแพงหินเย็นเยียบด้วยท่าทางเงียบขรึม“มาช้าจัง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงแววความสงสัยในน้ำเสียง ดวงตาของเขาจ้องอีกฝ่ายอย่างคมกริบ“ตีสามตรงขนาดนี้ ยังจะเรียกว่าช้าอีกรึ??” ชายแก่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ ขณะยักไหล่อย่างไม่คิดมากชายแก่เดินเข้าไปใกล้ประตูเหล็กหนาที่กั้นหน้าห้องขัง มองมันอย่างเชื่องช้า ดวงตาแสดงถึงความชินชาในการทำงานแบบนี้มา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 49 หน้ากากแห่งคำลวง

    เอเลน่านั่งอยู่บนเตียง จ้องมองอาร์วินที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ กับเตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเศร้าสร้อย ดวงตาสีเทาที่มองมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ความลึกที่อธิบายไม่ได้ มีบางสิ่งในแววตานั้นที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว แต่เธออ่านมันไม่ออกบรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด เสียงลมเบาๆ จากหน้าต่างที่เปิดแง้มอยู่ดังก้องในห้องที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นของผ้าปูที่นอนใต้ฝ่ามือ พยายามดึงสติกลับมา แต่ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เหมือนถูกตรึงด้วยแรงบางอย่างที่มองไม่เห็นอาร์วินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังรวบรวมความกล้าอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา"เอเลน่า... ฉันไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน แต่ฉันจะพยายามเล่าให้เธอฟัง"เสียงของเขานุ่มลึก แต่สั่นเครือเล็กน้อย เธอรู้ว่าเขากำลังแบกรับอะไรบางอย่างที่หนักหนา ทว่าในใจของเธอเองก็เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่รู้จบ เอเลน่านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงให้เขาพูดต่อ แม้ในใจจะปั่นป่วนจนแทบระเบิดอาร์วินถอนหายใจยาว เสียงนั้นเหมือนลมหายใจที่พยายามปลดปล่อยความกดดันบางอย่าง"ตอนที่ฉันถูกจับอยู่ในคุก... ฉ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 48 ชื่อที่ไม่ควรถูกเอ่ย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ เอเลน่าค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆ กลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันที่ไม่อยากตื่นจากมันเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งหลับพิงเก้าอี้อยู่ ใบหน้าสงบนิ่งในเงามืด เส้นผมสีทองของเขาดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เอเลน่าจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ช่วงเวลานี้เผยให้เห็นอีกด้านของเขา—ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนเร้นก่อนหน้า ทำให้เธอโล่งใจเล็กน้อย ดวงตาของเธอสบเข้ากับใบหน้าอ่อนล้าของเขา ความรู้สึกปะปนกันระหว่างความสับสนและความอบอุ่นไหลเวียนในอก“อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆเหมือนจะยืนยันว่าเขาอยู่ตรงนี้จริงๆ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อเหลือบมองตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งเธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่เตียงของเธอ แต่เป็นของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงข

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 47 ในความสงบของรุ่งสาง

    เอรอสก้าวออกจากป่าทึบในรูปลักษณ์ของอาร์วิน สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านตัวเขาอย่างแผ่วเบา แสงจันทร์ยังคงสลัวทำให้เห็นเงาของคฤหาสน์ตระกูลวัลธอเรนลางๆ อยู่ไม่ไกล จุดที่เขามุ่งหน้าไปคือบริเวณใต้หน้าต่างห้องพักของเขาเองก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เขาเคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายแปลกหน้าที่เอรอสช่วยเหลือไว้ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาวราวกับหยิบยกมาจากยุคโบราณ ชายคนนี้ดูเหมือนนักเดินทางที่หลงยุค เขาอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เอรอสจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยมาให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 46 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกของโจชัว ตั้งอยู่ในเขตสามัญชน ตัวอาคารหินสีซีดดูเรียบง่ายแฝงความล้าสมัย ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว คลินิกนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนโรงพยาบาล แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยประมาณสิบคน เหมาะสำหรับการดูแลแบบส่วนตัวยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น เอรอสยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามคลินิก แม้ลมหนาวจะพัดแรง แต่ร่างกายของเอรอสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อความเย็น ราวกับความหนาวนั้นไม่อาจแตะต้องเขาได้ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท นั่นเป็นห้องทำงานของโจชัว ซึ่งเขาใช้สำหรับจัดการเอกสารในช่วงกลางวัน แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    คาร์ลีนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในดันเจี้ยนที่ผสานเขากับเขตแดนของเธอ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ความสัมพันธ์ลึกลับนี้ ทำให้คาร์ลีนรับรู้ถึงทุกการเคลื่อนไหวของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของชายที่มีฉายาว่า จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มาเนิ่นนาน แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากของเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับคำพูดนั้นหนักเกินกว่าจะเปล่งออกมาดวงตาสีม่วงเข้มของเธอสะท้อนแสงจากโคมไฟ เธอนั่งนิ่งราวกับขบคิด แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ ความหนักใจเหมือนสายลมหนาวที่แผ่วผ่านกลับถูกเติมเต็มด้วยความหวังอันเปราะบาง เธออยากให้เขามาหา อยากได

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 เรียนรู้

    เอรอสค่อยๆตื่นขึ้นในห้องประชุมท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีเพียงแสงริบหรี่ที่ส่องลอดเข้ามาจากขอบประตู ร่องรอยของเวทมนตร์เก่าก่อนยังคงอบอวลอยู่ในอากาศจางๆ แม้แสงจากเทียนเวทมนตร์ที่เคยให้ความสว่างจะดับไปจากการตัดการเชื่อมต่อกับเวทมนตร์ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกและว่างเปล่า แต่กลิ่นอายของพลังที่เหลืออยู่ยังคงสร้างแรงกดดันให้ผู้ที่อยู่ภายในเล็กน้อยเขาขยับตัวกึ่งลุกกึ่งนั่งจากเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะทำให้เขาหลับไปลึกเกินคาด โต๊ะยาวตรงหน้าเขามีแฟ้มเอกสารเล็กๆวางไว้อยู่ ดูเหมือนจะเป็นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะรับปากจะจัดการให้เขาหยิบแฟ้มเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะมาตรวจสอบ ใช้มือสีคล้ำที่มีกล้ามเนื้อชัดเจนลูบเส้นผมสีเทาของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกความกระปรี้กระเปร่า สายตาสีแดงฉานของเขากวาดมองไปทั่วห้องเล็กๆที่ยังคงอบอวลด้วยบรรากาศที่ชวนให้รู้สึกพิศวง พลางเหลือบมองเวลาที่บอกเขาว่านี้เป็นเวลาตี 1 ดูเหมือนเขาจะเผลอหลับไปแค่ชั่วโมงเดียว ยังดีที่เสียเวลาแค่นั้นหลังจากตรวจดูเอกสารครู่หนึ่งโดยที่ไม่มีใจความสำคัญอะไรที่ทำให้เขาต้องรีบร้อนเป็นพิเศษ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ และก้าวออกจาก

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 ผู้รับรอง

    เสียงกระซิบแห่งเวทมนตร์ แผ่วเบา แต่ทรงพลัง ดังก้องอยู่ในอากาศอันเย็นเยียบ ริบบิ้นสีดำ ที่ราวกับเงาแห่งความมืดจากอีกโลกหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า มันเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต เลื้อยวนรอบร่างของ เอรอส ซ้อนชั้นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับงูพิษที่กำลังจู่โจมเหยื่อ ความแน่นหนาของริบบิ้นทำให้แม้แต่ลมหายใจยังรู้สึกตึงเครียด แขนขาถูกตรึงแน่น ริบบิ้นเลื้อยขึ้นสูง ปิดริมฝีปาก และบดบังดวงตาของเขาไว้อย่างมิดชิด ไม่ว่าจะดิ้นรนหรือใช้พลังทั้งหมดที่มี พันธนาการเหล่านั้นยังคงรัดแน่น น้ำหนักของเวทมนตร์ที่โอบล้อมร่างเขาเหมือนโซ่ตรวนหนักอึ้งที่ไม่มีวันปลดได้จอมเวทย์ผู้ร่ายมนตรามองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา รอยยิ้มที่มุมปากของเขา แฝงความพอใจอย่างปิดไม่มิด ในขณะที่อีกคนหนึ่งในกลุ่มของเขาเดินเข้ามาใกล้ กระชากคอเสื้อของเอรอสอย่างรุนแรง พร้อมๆกับลากเขาไปกับพื้น ราวกับเป็นเพียงสิ่งของไร้ค่าไม่ไกลออกไป ไอลีน ยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างขณะมองสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้ ก่อนที่วิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่ แล้วตะโกนเสียงดังลั่น"หยุดเดี๋ยวนี้! คุณตั้งใจจะพาเขาไปที่ไหน?"น้ำเสียง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง

    เมื่อเอรอสเฝ้ามองไอลีนอยู่นาน สีหน้าเย็นชาของเขาเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ช่วยหลบไปหน่อย"เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้าง เตรียมเดินผ่าน แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกไป ไอลีนก็ยื่นมือออกมาคว้าข้อมือเขาไว้ ดวงตาของเธอที่เคยลังเลกลับแน่วแน่ขึ้น"ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว" ไอลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็บความกังวลเอรอสหยุดชะงัก แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นไม่พอใจชัดเจนยิ่งขึ้น เขาหันไปมองรอบๆ เห็นสายตาของเด็กบางคนที่อาจกำลังแอบมองอยู่จากหน้าต่าง และหญิงชราที่ครัวกำลังหันมามองเช่นกันหลังจากที่ประเมินสถานการณ์ เขาเลื่อนสายตาไปยังมุมโล่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก"ตามมา" เขาเอ่ยสั้นๆก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของเธอ และเดินนำไปยังที่ที่เขาเลือกไว้ไอลีนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินตามเขาไป ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ สายลมอ่อนๆพัดผ่านเบาๆ ท่ามกลางความเงียบที่อึดอัด ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน เอรอสกอดอกและเอนตัวพิงต้นไม้ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา"พูดมา จะพูดอะไรก็รีบพูด" เขาเร่งด้วยน้ำเสียงที่ราวกับไม่สนใจ แต่ก

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ปลายทางของเหรียญทอง

    บรรยากาศในห้องทำงานของผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้าช่างอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กลิ่นอับของเอกสารเก่าผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ โอบล้อมพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกองเอกสารและบัญชีการเงิน ผู้อำนวยการนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้หนังเก่าซึ่งดูเหมือนพร้อมจะพังได้ทุกเมื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาชวนให้รู้สึกระแวงมากกว่าสบายใจ"คุณเอรอสใช่ไหม? ฉันได้รับการแจ้งมาว่าคุณต้องการบริจาคเงินให้เหล่าเด็กๆที่คุณหนูไอลีนพามา" เสียงของเขาเนิบนาบ ท่าทางเหมือนพยายามจับจุดอีกฝ่ายเอรอสนั่งนิ่งอยู่ตรงข้าม เขาสูงโปร่งสำหรับเด็กหนุ่มวัย 16 ปี สายตาสีเทาของเขาเย็นชาและไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ“ใช่ ผมมาที่นี่ บริจาคเงิน ให้เด็กๆที่เพิ่งเข้ามา" เขาเอ่ยเสียงเรียบผู้อำนวยการชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ"อืม น่าชื่นชมจริงๆนะครับ แต่การรับผิดชอบเงินจำนวนมากขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอมาจากครอบครัวไหนหรือ ถึงได้ใจกว้างขนาดนี้?"คำถามนั้นเหมือนมีความนัย แต่เอรอสไม่แสดงอาการใดๆ เขาเพียงหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋าแล้ววางมันลงบนโต๊ะ เสียงเหรียญกระทบกันดังชัดเจน"ไม่จำเป็นต้องถาม" เขาตอบสั้นๆน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น

DMCA.com Protection Status