แชร์

ตอนที่ 36 ข้อตกลงใต้แสงไฟ

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-04 09:44:35

ห้องทำงานของโจชัวยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด แสงจากโคมไฟด้านบนส่องวูบไหวไปตามผนังห้องที่เรียงรายด้วยชั้นหนังสือสูงตระหง่าน เงาของเฟอร์นิเจอร์ทอดยาวอย่างบิดเบี้ยว ราวกับมีบางสิ่งกำลังคืบคลานในความมืด

โจชัวยืนพิงโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งกำปากกาแน่นจนปลายเล็บซีดขาว ส่วนอีกข้างวางทับลงบนหนังสือเวทมนตร์เก่าๆที่เปิดค้างไว้ หน้าเอกสารเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และสูตรเวทที่ซับซ้อนซึ่งสะท้อนแสงแวววาว

ตรงหน้าของเขา—ชายวัยกลางคน ผิวสีแทน ผมสีเทา ดวงตาสีแดงฉาน กำลังยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน เรย์นาร์ค ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน ราวกับเงาที่โผล่จากความมืด ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาในรูปลักษณ์ของเด็กหนุ่มขุนนาง แต่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนกลับมาเป็นรูปลักษณ์ที่เขาเคยเจอในอดีต

โจชัวมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจแต่ก็ยังคงระแวดระวัง

"นี่มันอะไรกัน? รูปลักษณ์ก่อนหน้านี้คืออะไร? คุณเปลี่ยนร่างได้งั้นเหรอ?"

เรย์นาร์คไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงมองมา สายตาของเขาเยือกเย็นแต่แฝงไปด้วยแรงกดดันที่หนักอึ้ง ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้น

"ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตอบคำถามของนาย"

น้ำเสียงเรียบเฉยของเขาเหมือนมือที่กดลงบนไหล่โจชัว เพิ่มน้ำหนักให้กับบรรยากาศในห้อง

"ฉันมาที่นี่เพื่อทวงบุญคุณ"

ดวงตาของโจชัวหรี่ลง ร่างกายแข็งเกร็งกับคำพูดที่คาดไม่ถึง แน่นอนว่าไม่กี่ปีก่อน เขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากชายตรงหน้าจริง แต่การที่เรย์นาร์คปรากฏตัวในลักษณะนี้ พร้อมกับคำเรียกร้องที่ดูคลุมเครือ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ น้ำเสียงของเขากดดันเกินไป ราวกับเป็นคำประกาศ มากกว่าการร้องขอ

"บุญคุณ?" โจชัวเอ่ยช้าๆ พยายามทำให้เสียงของตัวเองมั่นคง "คุณต้องการให้ผมทำอะไร?"

ชายตรงหน้าก้าวเข้ามาใกล้ๆ แสงจากโคมไฟส่องกระทบใบหน้าของเขา ทำให้ตาสีแดงของเขาดูเจิดจ้าและน่ากลัวขึ้นไปอีก

"ตอนนี้…. ฉันต้องการให้นายช่วยฉันทำอะไรบางอย่าง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะแฝงเจตนาบางอย่าง

โจชัวรู้สึกได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้น เขามองไปที่ไอลีน หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนโซฟา เธอยังคงไม่รู้สึกตัวจากการถูกวางยาก่อนหน้านี้

"แล้วผู้หญิงคนนี้หล่ะ?" เขาถาม "เธอเกี่ยวกับคำขอนั้นรึเปล่า?"

ชายตรงหน้าเหลือบมองหญิงสาวเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับมามองโจชัวอีกครั้ง

"เธอก็แค่คนรู้จักที่บังเอิญตามฉันมาเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ" เขาตอบอย่างรวบรัด

โจชัวจ้องมองเขาอย่างไม่วางตา บางสิ่งบางอย่างในตัวชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจ พลังเวทย์ที่แตกต่างไปจากเดิมของเขา ทำให้ไม่อาจมั่นใจได้ว่าชายตรงหน้าเป็นคนเดียวกับที่เคยช่วยเขาไว้จริงๆ

"…คุณเป็นเรย์นาร์คตัวจริงหรือเปล่า?" เขาถาม น้ำเสียงของเขาหนักแน่นขึ้น

“หลังจากเห็นพลังของคุณ ผมก็ไม่แน่ใจว่าคุณเป็นคนเดียวกับที่ผมเคยเจอมาก่อน ลองบอกเรื่องที่พวกเราเท่านั้นที่รู้ ผมถึงจะเชื่อ”

เรย์นาร์คหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง สายตาของเขาดูเฉียบคมขึ้น

"ฉันเป็นคนให้นายตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเอกสารการวิจัยที่ภรรยาของนายโดนทดลอง... นายจำได้หรือเปล่า?" 

เขาพูดช้าๆ แต่ละคำที่เปล่งออกมาราวกับเป็นคมมีดกรีดเข้าไปในความทรงจำของโจชัว

ร่างของโจชัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ คำพูดนั้น... มีเพียงเขากับเรย์นาร์คเท่านั้นที่รู้

เรย์นาร์คยิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวต่อ "และแน่นอนว่าคำตอบที่นายเลือก... ก็คือตัวนายคนปัจจุบัน"

โจชัวเผลอกำหมัดแน่นไม่รู้ตัว ความทรงจำเก่าๆที่ไม่อยากนึกถึงหวนกลับมาในหัวของเขา คำพูดของชายตรงหน้า ทำให้เขารู้ว่าเขาคือคนเดียวกับที่เคยช่วยเขาในอดีตจริงๆ

"แล้วคุณต้องการให้ผมทำอะไร?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะคลายความระวังตัวเล็กน้อย

ชายตรงพยักหน้าเล็กน้อย ราวกับว่าเขารอคำถามนี้มานานแล้ว

“ฉันต้องการให้นายหาวิธีให้ฉันสามารถใช้เวทมนตร์ได้ โดยที่ไม่ต้องดึงพลังเวทย์จากหัวใจมาใช้โดยตรง”

“การใช้เวทมนตร์โดยไม่ดึงพลังจากหัวใจ... นั่นมันเป็นไปไม่ได้” โจชัวตอบทันที น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและขึงขัง

เรย์นาร์คยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ

"เพราะแบบนั้น ฉันถึงมาหานายไง... เพราะว่าสิ่งที่ฉันต้องการ ก็คือความรู้ที่ได้มาจากการเฝ้ามองการทดลองที่เกิดขึ้นกับในอดีต"

โจชัวกัดฟันแน่น รู้สึกถึงบางอย่างที่เย็นเฉียบคืบคลานขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง ความอดกลั้นภายในปะทุขึ้นมาเมื่อเขาตระหนักว่าเรย์นาร์คกำลังให้เขาทำอะไร

“อย่าบอกนะว่าคุณต้องการ—”

“อย่างที่นายคิด” เรย์นาร์คพูดขัดขึ้นทันที ดวงตาสีแดงวาวโรจน์

“ฉันต้องการให้นายปลูกฝังแก่นพลังเวทย์เข้ามาในร่างกายของฉัน…. เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับภรรยาของนาย”

เสียงของเรย์นาร์คยังคงก้องอยู่ในความคิดของเขา ราวกับแรงกดดันที่หนักอึ้งไม่ยอมจางหาย แต่ก่อนที่เขาจะเอื้อนเอ่ยคำใด เสียงลมหายใจของหญิงสาวที่หลับไหลอยู่จะสะดุดเล็กน้อย เปลือกตาของเธอสั่นไหว ร่างกายตึงเครียดขึ้น คล้ายกับว่าจิตใจของเธอกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงฝันที่ไม่อาจหลีกหนี

ภาพความทรงจำพรั่งพรูเข้ามา—เรื่องราวของใครบางคนที่เธอเฝ้าตามหามานาน ทั้งที่เขาอยู่ใกล้เพียงนี้ แต่เธอกลับไม่อาจรับรู้ได้ ผู้มีพระคุณที่จากไป ทิ้งเธอไว้กับคำถามมากมาย แม้ว่าครั้งหนึ่ง... พวกเขาทั้งสามจะเคยอยู่ร่วมกันมาก่อน

ใต้ดินที่มืดมิดและอับชื้น กลิ่นดินและสนิมเหล็กตลบอบอวลเหมือนกลิ่นความตาย กรงขังที่ทำจากเหล็กเส้นเก่าๆ ถูกสร้างไว้ตามผนังของคุกโบราณแห่งนี้ แสงจากรูเล็กๆบนเพดานสูงเปิดให้เห็นเพียงเศษเสี้ยวของท้องฟ้าด้านบน เป็นแสงที่ไม่เพียงพอจะทำให้พื้นที่รอบตัวสว่าง แต่เพียงพอที่จะเตือนให้เธอจำได้ว่ายังมีโลกภายนอก

เด็กหญิงคนนึงนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของกรง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองแสงที่ลอดผ่านลงมา ราวกับหวังว่ามันจะพาเธอหลุดพ้นจากกรงแห่งนี้ ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงของเธอห้อยปิดหน้าซีดเซียวที่ครั้งหนึ่งเคยดูสดใส แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเธอถูกกักขังในฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น

เธอจำได้ถึงคืนที่ทุกอย่างพังทลาย หมู่บ้านเล็กๆที่เคยสงบสุขกลายเป็นนรกบนดินเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา เพลิงไฟโหมกระหน่ำ เสียงกรีดร้องของผู้คน เสียงไม้ลั่นดังขณะบ้านพังถล่ม ทุกสิ่งดูเหมือนภาพฝันร้ายที่เธอไม่มีวันลืม สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือเสียงแม่ตะโกนเรียกเธอท่ามกลางควันไฟ แล้วความมืดก็เข้าครอบงำ

สองเดือนก่อน เธอยังอยู่บนเรือค้าทาส ลอยกลางทะเลอันกว้างใหญ่ เสียงน้ำทะเลซัดกระแทกกับไม้กระดานดังแผ่วเบา เสียงโซ่กระทบกัน เสียงร้องไห้ และเสียงคำสั่งของผู้คุมยังคงดังก้องในหัว สำหรับเด็กสาวไร้ชื่อ เสียงเหล่านั้นคล้ายกับบทเพลงแห่งความสิ้นหวัง ที่สะท้อนถึงชีวิตบนนั้น 

เรือสินค้าที่เธอถูกขังอยู่นี้ไม่ได้เป็นแค่เรือสินค้าทั่วไป แต่มันคือ "เรือค้าทาส" ที่เต็มไปด้วยเด็กและผู้คนจากดินแดนต่างๆ เสียงร้องไห้ เสียงคร่ำครวญดังขึ้นจากทุกมุมของกรงใต้ท้องเรือ กลิ่นอับของเหงื่อและเลือดลอยอบอวลจนแทบหายใจไม่ออก

"อย่ายอมแพ้" เสียงของเด็กสาวคนนึงดังก้องอยู่ในใจ ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้ายในยามที่เรือโคลงเคลงไปตามแรงคลื่น เด็กสาวผู้นั้นยื่นมือมาจับเธอแน่น ราวกับส่งผ่านความหวังสุดท้าย

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราสักคนต้องมีชีวิตรอดต่อไป ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ข้างเธอ เธอก็อย่ายอมแพ้เด็ดขาด"

คำพูดนั้นฝังอยู่ในใจเธอ และมันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยืนหยัดจนถึงตอนนี้ แต่แล้วเด็กสาวที่เปรียบเสมือนพี่สาวของเธอนั้นถูกแยกตัวออกจากเธอทันทีที่เรือจอดเทียบท่า เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน หรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเธอถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ กรงขังใต้ดินที่ไร้ซึ่งความหวัง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 37 ความฝันของนกในกรง

    เมื่อเรือเดินทางมาถึงชายฝั่ง เธอถูกส่งตัวไปยังสถานที่ที่เรียกว่า "ตลาดทาส" ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสถานกักกันที่มืดมิดและสกปรก เด็กๆ ถูกแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มตามอายุและรูปลักษณ์ เด็กสาวถูกประเมินเหมือนสิ่งของ มีการตรวจสอบรูปร่าง ผิวพรรณ และความบริสุทธิ์เธอถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเด็กสาวอายุ 8-12 ปีที่ยัง "บริสุทธิ์" พวกมันบอกว่าเด็กกลุ่มนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดทาส เพราะสามารถขายให้กับคนร่ำรวยที่ต้องการเด็กสำหรับงานรับใช้ หรือในบางกรณี…สำหรับความต้องการที่เลวร้ายกว่าเธอต้องทำงานหนักทุกวัน ล้างจาน ขัดพื้น และทำความสะอาดห้องขังของตัวเองและคนอื่นๆ อาหารที่ได้รับมีเพียงขนมปังแข็งและน้ำเปล่า เสียงคร่ำครวญแผ่วเบาจากกรงขังข้างๆ ดังขึ้นตลอดเวลา เด็กคนอื่นๆ ในคุกนี้ต่างมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง บางคนถึงกับซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ร่างกายของพวกเขาผอมแห้งจนดูเหมือนเงาของตัวเอง สายตาที่เคยแวววาวนั้นมืดมิด ราวกับดวงตาเหล่านั้นตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงเธอเองก็รู้สึกถึงความกลัวที่แทรกซึมอยู่ในทุกวินาทีของการมีชีวิตที่นี่ ข่าวลือที่ได้ยินมาเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่เคยพยายามหลบหนีแต่ถูกจับได้ยังคงวนเวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 38 บทเพลงของ ขวานสีทองและเสียงกรีดร้อง

    เสียงฝีเท้าของผู้คุมหยุดชะงักกะทันหัน ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่เพียงชั่วพริบตาแล้วร่างนั้นก็พุ่งผ่านเธอไปรวดเร็วเกินกว่าสายตาจะมองทัน—ราวกับสายลมสีดำที่พัดผ่านไปเงียบงันเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นก่อนเด็กสาวจะทันหันไปมอง ขวานสีทองตวัดฟาดลงอย่างไร้ความลังเล เสียงเนื้อฉีกสะท้อนก้องในอากาศ ลำคอของชายคนแรกถูกกรีดขาดสะบั้น เลือดพุ่งเป็นสายสาดกระเซ็นลงบนกำแพงหินเย็นเฉียบ ก่อนร่างนั้นจะทรุดลงราวกับหุ่นเชิดที่ขาดด้าย ร่างนั้นปรากฏตัวกลางวงศัตรู ราวกับปีศาจที่โผล่ออกมาจากความมืดเหล่าผู้คุมที่เหลือแข็งค้าง—ลมหายใจขาดห้วงในอก พวกมันพึ่งเริ่มตระหนักถึงภัยที่กำลังกลืนกินแต่ไม่ทันแล้วชายสองคนที่อยู่ใกล้สุดตั้งสติได้ก่อน เงื้อดาบหมายจะสังหาร ทว่าเสียงโลหะเฉือนเนื้อดังกึกก้องก่อนที่พวกมันจะฟันลง ขวานสีทองพุ่งเป็นแนวเฉียง ตัดทะลุร่างทั้งสอง รอยแผลฉีกลึกถึงกระดูก เลือดร้อนๆ กระเซ็นเปรอะเต็มพื้นหินเสียงร่ายมนตร์ดังขึ้นจากพวกด้านหลัง—แต่เขาเร็วกว่าพวกมันขวานถูกเหวี่ยงออกไปด้วยพลังและความแม่นยำ ปักเข้ากลางอกของนักเวทย์คนหนึ่งเต็มแรง เสียงเนื้อฉีกกระชากดังก้องในอากาศ ร่างนั้นทรุดลง มือขาวซีดสั่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 39 ชื่อของฉันคือ....

    โพรงหินขนาดมหึมาขยายตัวออกเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นลงไปในความมืด เสาหินโบราณตั้งเรียงรายตามระเบียงทางเดินสูงต่ำ ราวกับขั้นบันไดแห่งอารยธรรมที่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาแต่แทนที่สถานที่แห่งนี้จะเป็นเพียงซากโบราณสถานที่รกร้าง กลับมีเหล็กกล้าสนิมเขรอะ ปราการคุมขัง และกรงเหล็กที่แขวนห้อยอยู่ตามแนวผนัง บ่งบอกว่ามันได้ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นคุกใต้ดินอันโหดร้ายและในตอนนี้—มันเป็นเพียงซากปรักหักพังที่เปรอะไปด้วยเลือดเสียงฝีเท้าก้องสะท้อนจากกำแพงหินขรุขระ ขณะที่เหล่าผู้ช่วยเหลือนำกลุ่มทาสเด็กที่รอดชีวิตฝ่าความเงียบสงัดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เปลวไฟริบหรี่สาดเงาทอดยาวไปตามพื้นหินที่เต็มไปด้วยรอยแตกและคราบสีแดงฉาน"อย่าหันไปมองรอบๆ มุ่งหน้าต่อไป" เสียงกระซิบดังขึ้นเป็นระยะๆจากเหล่าผู้นำทางเด็กหลายคนก้มหน้าลง มองเพียงเงาของตัวเองที่ทอดยาวบนพื้นหินเย็นเยียบ แต่ความอยากรู้อยากเห็น และกลิ่นเลือดคาวคลุ้งที่อบอวล ทำให้บางคนอดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมองรอบด้านร่างของผู้คุมถูกแขวนคว่ำอยู่กับเสาหิน ศพของพวกเขาถูกแทงทะลุด้วยหอกและดาบ บางร่างถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่บนบันไดหินที่ทอดยาวลงไปสู่ระดับลึกกว่า เลือดไหลเป็นทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-10
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 1 ภาพหลอนที่ไม่จางหาย

    เด็กชายเดินโซเซผ่านช่องแคบในกำแพงหินออกมา หลังจากการต่อสู้ในความมืด เขาพบกับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ทาบลงบนใบหน้า ความอุ่นและความสว่างของแสงทำให้เขาต้องหยีตา แต่ไม่นาน เขาก็เริ่มมองเห็นภาพรอบตัวอย่างชัดเจนตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งชาย และ หญิงหลากหลายวัย ท่าทางของพวกเขาเคร่งเครียด สายตาจับจ้องไปยังกลุ่มนักผจญภัย และ เจ้าหน้าที่ ที่ยืนปรึกษากันด้วยสีหน้าวิตกกังวล ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขา ซึ่งดูเล็ก และ ไร้เสียงท่ามกลางความโกลาหลนี้ขณะที่เด็กชายพยายามก้าวไปข้างหน้า ร่างกายที่อ่อนล้าก็ค่อยๆสูญเสียพละกำลัง ความเหนื่อยล้ากดทับเขาราวกับไม่อาจพยุงตัวได้อีกต่อไป ในที่สุด ขาของเขาอ่อนแรงจนต้องทรุดลงกับพื้นเสียงเบาๆของเขาที่กระแทกพื้นเรียกความสนใจจากฝูงชน บรรยากาศเคร่งเครียดหยุดลงชั่วขณะ ผู้คนเริ่มหันมามองที่เขาทันใดนั้น เด็กหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มประชาชนร้องออกมาด้วยความตกใจ"นั่นเขาใช่ไหม!?" เธอพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นสะท้าน ก่อนจะรีบแหวกฝูงชนเข้ามาหาเด็กชายเด็กหญิงในชุดเสื้อผ้าที่ดูหรูหรา วิ่งเข้ามาใกล้เขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเป็นห่วง ดวงตาสีเขี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 2 ด้านมืดของรุ่งอรุณ

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเครื่องแบบสีดำสนิทออกมา มันเป็นชุดที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต—เสื้อเชิ้ตพอดีตัวเน้นความคล่องตัว และเสื้อโค้ทยาวที่ชายเสื้อจรดสะโพก ด้านในบุซับกันหนาวและมีกระเป๋าลับซ่อนอยู่หลายจุด เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้ในงานเฉพาะทางของเขาเมื่อสวมชุดเรียบร้อย ชายหนุ่มเดินไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำขึ้นมาเพื่อดับกระหาย แต่ทันทีที่สัมผัสเขาก็ชะงัก อุณหภูมิของมันอุ่นเกินไป ตู้เย็นไม่ทำงานเหมือนเคยเขาเลิกคิ้ว สายตาคมจ้องไปยังแหล่งพลังงานด้านหลังตู้เย็น ก่อนจะเปิดช่องเล็กๆ ออกมา ข้างในมีแก่นพลังเวทย์ขนาดเล็กที่เคยเปล่งแสงสีเหลืองอ่อน แต่ตอนนี้กลับซีดจางจนแทบไร้สี บ่งบอกว่าพลังงานในนั้นหมดสิ้น“หมดอีกแล้วสินะ...” เขาพึมพำเบาๆ ถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่เตียง ยื่นมือไปใต้ฐานเตียงแล้วหยิบแก่นสำรองที่ซ่อนไว้ออกมามือหนึ่งถือแก่นที่ซ่อนเอาไว้ ส่วนอีกมือจับแก่นที่หมดพลังงาน เขาจัดท่าทางให้มั่นคง ระบายลมหายใจยาวช้าๆ ขณะที่เริ่มถ่ายเทพลังเวทย์จากแก่นหนึ่งไปสู่อีกแก่นหนึ่งกระแสพลังงานไหลเวียนจากฝ่ามือของเขาเหมือนน้ำในลำธารสงบ แก่นที่เคยซีดจางค่อยๆ เปลี่ยนสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 3 อำนาจสามตระกูล

    ขณะที่ชายหนุ่มก้าวไปตามถนนที่มุ่งหน้าสู่ที่ทำงานอย่างคุ้นเคย ภาพของพวกทาสในรถม้าคันนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ใบหน้าอ่อนล้าของพวกเขาสะท้อนความหมดหวังอย่างเงียบงัน ทว่าเพียงพริบตาเดียวที่เขาได้เห็น มันกลับฝังลึกในความคิดหากย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน รถม้าแบบนี้คงไม่มีทางเข้ามาถึงเมืองได้อย่างแน่นอน พวกเราสองคน เคยร่วมกันตระเวณทำลายเครือข่ายค้าทาสในทวีปจนราบคาบ ทำให้ชื่อเสียง และ ตัวตนของ "จอมเชือด" เป็นที่หวาดกลัว และ โจษจัน จนพวกมันไม่แม้แต่จะกล้าเอาเรือเฉียดเข้ามาในทวีปด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป นับตั้งแต่ตอนที่เธอหายตัวไปพลังที่เขาใช้สร้างชื่อเสียง และ ความหวาดกลัวนั้นไม่ใช่ของเขาเอง แต่มาจากตัวตนที่เขาเคยใช้พลังกลืนกินเมื่อเกือบสิบปีก่อน ในตอนที่ยังอยู่ในตระกูล แม้เหตุการณ์จะผ่านมานาน แต่จิตวิญญาณของมัน ก็ยังคงติดอยู่ในตัวเขา และทุกครั้งที่เขาใช้พลังนั้น มันก็จะทิ้งร่องรอย และ ความเสียหายไว้ในจิตใจเสมอเมื่อก่อนเธอเป็นเหมือนกำลังใจสำคัญ ทุกครั้งที่เขาเริ่มถูกครอบงำ เธอจะดึงเขากลับมา แต่เมื่อไม่มีเธอ ทุกอย่างก็เหมือนจะพังทลาย พลังนั้นเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกัน มันกลับต่อต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 4 ปลายทางของอุดมคติ

    ชายหนุ่มก้าวเข้าสู่ห้องทำงานในแผนกสืบสวน แสงอ่อนจากหน้าต่างสูงเพียงจุดเดียวพาดลงบนพื้นไม้เย็น เงาทอดยาวไปบนความว่างเปล่ารอบตัว เขากวาดสายตามองรอบห้อง—โต๊ะเก้าอี้จัดเรียงอย่างเรียบร้อยแต่ไร้ชีวิต ราวกับมีเขาคนเดียวที่มาที่นี้สายตาเหล่มองนาฬิกาบนฝาผนัง ก่อนจะพึมพำเบาๆ “เรียกมาตั้งแต่เช้า แต่ไม่เห็นโผล่หัวออกมาสักตัว อะไรกันว่ะเนี่ย?” เสียงสะท้อนกลับมากระทบห้องว่างเปล่ามือเอื้อมหยิบลูกบอลแสงสีทองจากกระเป๋าหนัง มันเปล่งแสงสลัวคล้ายจันทร์คืนมืด ก่อนจะถูกวางลงบนแท่นเล็กที่โต๊ะ สัญญาณแสงสีฟ้ากะพริบขึ้นช้าๆ เป็นจังหวะบอกว่าการรายงานตัวเสร็จสมบูรณ์ แต่ความเงียบยังคงปกคลุมทั่วบริเวณโดยรอบชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนเดินไปตามทางเดินเล็กมุมห้องที่นำไปสู่ห้องทำงานส่วนตัว ห้องนั้นเล็ก และ อับแต่สงบ โต๊ะไม้เก่าเต็มไปด้วยฝุ่นและกองเอกสารที่วางกองกันอยู่ มุมหนึ่งยังมีปากกาดินสอที่เริ่มกร่อนตามกาลเวลา บ่งบอกถึงการถูกทิ้งร้างเขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้เสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แขนกอดอกแน่น สายตาจ้องเอกสารบนโต๊ะที่ดูเหมือนถูกจัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ ภายในรายงานคือข้อมูลการหายตัวไปของจอมเวทย์หนุ่มสาวจากตระกูลขุนนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 5 เมื่อหมอกทับซ้อนความจริง

    เอรอสเดินงัวเงียผ่านซอกซอยในย่านเมืองหลวง หลังจากที่ไปพบกับกลุ่มผู้เสียหายที่เพิ่งถูกพบตัวไม่นาน หลายคนให้ความร่วมมือกับเขาด้วยท่าทางอ่อนล้า เหมือนยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้เต็มที่ บางคนแม้จะมองเห็นเขาอยู่ตรงหน้า แต่ก็เหมือนสายตาล่องลอยออกไปที่อื่นขณะที่เอรอสคุยกับพวกเขา เขาสังเกตได้ว่าความทรงจำที่ขาดหายไปนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ช่วงเวลาที่พวกเขาหายตัวไปเท่านั้น แต่ยังมีบางส่วนของเหตุการณ์ก่อนการหายตัวที่ดูเหมือนจะถูกลบออกไปด้วย ผู้เสียหายแต่ละคนต่างจำเหตุการณ์หรือสถานการณ์ก่อนหน้าของตัวเองได้เพียงลางๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสูญเสียช่วงเวลาสำคัญของตัวเองไปแม้ว่าการสอบปากคำจะไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆ ที่สำคัญ แต่เอรอสยังพอจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง—ร่องรอยของมานาที่ดูแปลกประหลาด แผ่กระจายอำนาจและพลังที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของโลก ในนั้นมีความรู้สึกอันรุนแรงบางอย่างที่เขาสัมผัสได้ชัดเจน ราวกับเป็นอำนาจที่สามารถหักล้างทุกกฎที่เคยรู้จักหนึ่งในตัวตนที่เขานึกถึงก็คือแม่มด ผู้ที่ลือกันว่าเป็นผู้เดียวที่มีพลังสามารถดัดแปลงและฝืนกฏเกณฑ์ของโลกได้ เอรอสจดบันทึกข้อมูลนี้ไว้ในใจ พลางเดินเปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 39 ชื่อของฉันคือ....

    โพรงหินขนาดมหึมาขยายตัวออกเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นลงไปในความมืด เสาหินโบราณตั้งเรียงรายตามระเบียงทางเดินสูงต่ำ ราวกับขั้นบันไดแห่งอารยธรรมที่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาแต่แทนที่สถานที่แห่งนี้จะเป็นเพียงซากโบราณสถานที่รกร้าง กลับมีเหล็กกล้าสนิมเขรอะ ปราการคุมขัง และกรงเหล็กที่แขวนห้อยอยู่ตามแนวผนัง บ่งบอกว่ามันได้ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นคุกใต้ดินอันโหดร้ายและในตอนนี้—มันเป็นเพียงซากปรักหักพังที่เปรอะไปด้วยเลือดเสียงฝีเท้าก้องสะท้อนจากกำแพงหินขรุขระ ขณะที่เหล่าผู้ช่วยเหลือนำกลุ่มทาสเด็กที่รอดชีวิตฝ่าความเงียบสงัดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เปลวไฟริบหรี่สาดเงาทอดยาวไปตามพื้นหินที่เต็มไปด้วยรอยแตกและคราบสีแดงฉาน"อย่าหันไปมองรอบๆ มุ่งหน้าต่อไป" เสียงกระซิบดังขึ้นเป็นระยะๆจากเหล่าผู้นำทางเด็กหลายคนก้มหน้าลง มองเพียงเงาของตัวเองที่ทอดยาวบนพื้นหินเย็นเยียบ แต่ความอยากรู้อยากเห็น และกลิ่นเลือดคาวคลุ้งที่อบอวล ทำให้บางคนอดไม่ได้ที่จะเหลือบตาไปมองรอบด้านร่างของผู้คุมถูกแขวนคว่ำอยู่กับเสาหิน ศพของพวกเขาถูกแทงทะลุด้วยหอกและดาบ บางร่างถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่บนบันไดหินที่ทอดยาวลงไปสู่ระดับลึกกว่า เลือดไหลเป็นทา

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 38 บทเพลงของ ขวานสีทองและเสียงกรีดร้อง

    เสียงฝีเท้าของผู้คุมหยุดชะงักกะทันหัน ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่เพียงชั่วพริบตาแล้วร่างนั้นก็พุ่งผ่านเธอไปรวดเร็วเกินกว่าสายตาจะมองทัน—ราวกับสายลมสีดำที่พัดผ่านไปเงียบงันเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นก่อนเด็กสาวจะทันหันไปมอง ขวานสีทองตวัดฟาดลงอย่างไร้ความลังเล เสียงเนื้อฉีกสะท้อนก้องในอากาศ ลำคอของชายคนแรกถูกกรีดขาดสะบั้น เลือดพุ่งเป็นสายสาดกระเซ็นลงบนกำแพงหินเย็นเฉียบ ก่อนร่างนั้นจะทรุดลงราวกับหุ่นเชิดที่ขาดด้าย ร่างนั้นปรากฏตัวกลางวงศัตรู ราวกับปีศาจที่โผล่ออกมาจากความมืดเหล่าผู้คุมที่เหลือแข็งค้าง—ลมหายใจขาดห้วงในอก พวกมันพึ่งเริ่มตระหนักถึงภัยที่กำลังกลืนกินแต่ไม่ทันแล้วชายสองคนที่อยู่ใกล้สุดตั้งสติได้ก่อน เงื้อดาบหมายจะสังหาร ทว่าเสียงโลหะเฉือนเนื้อดังกึกก้องก่อนที่พวกมันจะฟันลง ขวานสีทองพุ่งเป็นแนวเฉียง ตัดทะลุร่างทั้งสอง รอยแผลฉีกลึกถึงกระดูก เลือดร้อนๆ กระเซ็นเปรอะเต็มพื้นหินเสียงร่ายมนตร์ดังขึ้นจากพวกด้านหลัง—แต่เขาเร็วกว่าพวกมันขวานถูกเหวี่ยงออกไปด้วยพลังและความแม่นยำ ปักเข้ากลางอกของนักเวทย์คนหนึ่งเต็มแรง เสียงเนื้อฉีกกระชากดังก้องในอากาศ ร่างนั้นทรุดลง มือขาวซีดสั่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 37 ความฝันของนกในกรง

    เมื่อเรือเดินทางมาถึงชายฝั่ง เธอถูกส่งตัวไปยังสถานที่ที่เรียกว่า "ตลาดทาส" ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสถานกักกันที่มืดมิดและสกปรก เด็กๆ ถูกแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มตามอายุและรูปลักษณ์ เด็กสาวถูกประเมินเหมือนสิ่งของ มีการตรวจสอบรูปร่าง ผิวพรรณ และความบริสุทธิ์เธอถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเด็กสาวอายุ 8-12 ปีที่ยัง "บริสุทธิ์" พวกมันบอกว่าเด็กกลุ่มนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดทาส เพราะสามารถขายให้กับคนร่ำรวยที่ต้องการเด็กสำหรับงานรับใช้ หรือในบางกรณี…สำหรับความต้องการที่เลวร้ายกว่าเธอต้องทำงานหนักทุกวัน ล้างจาน ขัดพื้น และทำความสะอาดห้องขังของตัวเองและคนอื่นๆ อาหารที่ได้รับมีเพียงขนมปังแข็งและน้ำเปล่า เสียงคร่ำครวญแผ่วเบาจากกรงขังข้างๆ ดังขึ้นตลอดเวลา เด็กคนอื่นๆ ในคุกนี้ต่างมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง บางคนถึงกับซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ร่างกายของพวกเขาผอมแห้งจนดูเหมือนเงาของตัวเอง สายตาที่เคยแวววาวนั้นมืดมิด ราวกับดวงตาเหล่านั้นตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงเธอเองก็รู้สึกถึงความกลัวที่แทรกซึมอยู่ในทุกวินาทีของการมีชีวิตที่นี่ ข่าวลือที่ได้ยินมาเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่เคยพยายามหลบหนีแต่ถูกจับได้ยังคงวนเวี

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 36 ข้อตกลงใต้แสงไฟ

    ห้องทำงานของโจชัวยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด แสงจากโคมไฟด้านบนส่องวูบไหวไปตามผนังห้องที่เรียงรายด้วยชั้นหนังสือสูงตระหง่าน เงาของเฟอร์นิเจอร์ทอดยาวอย่างบิดเบี้ยว ราวกับมีบางสิ่งกำลังคืบคลานในความมืดโจชัวยืนพิงโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งกำปากกาแน่นจนปลายเล็บซีดขาว ส่วนอีกข้างวางทับลงบนหนังสือเวทมนตร์เก่าๆที่เปิดค้างไว้ หน้าเอกสารเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และสูตรเวทที่ซับซ้อนซึ่งสะท้อนแสงแวววาวตรงหน้าของเขา—ชายวัยกลางคน ผิวสีแทน ผมสีเทา ดวงตาสีแดงฉาน กำลังยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน เรย์นาร์ค ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน ราวกับเงาที่โผล่จากความมืด ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาในรูปลักษณ์ของเด็กหนุ่มขุนนาง แต่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนกลับมาเป็นรูปลักษณ์ที่เขาเคยเจอในอดีตโจชัวมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจแต่ก็ยังคงระแวดระวัง"นี่มันอะไรกัน? รูปลักษณ์ก่อนหน้านี้คืออะไร? คุณเปลี่ยนร่างได้งั้นเหรอ?"เรย์นาร์คไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงมองมา สายตาของเขาเยือกเย็นแต่แฝงไปด้วยแรงกดดันที่หนักอึ้ง ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้น"ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตอบคำถามของนาย"น้ำเสียงเรียบเฉยของเขาเหมือนมือที่กดลงบนไห

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 35 รสขมของความจริง

    โจชัวถือถาดที่วางชาและขนมอบสดใหม่ เขาก้าวเข้ามาในห้องพยาบาลอย่างเงียบเชียบ ภายในห้องนั้นมีเพียงอาร์วินและไอลีนที่กำลังรออยู่ อาร์วินนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ริมเตียง ท่าทีเฉยชา แต่นัยน์ตาของเขาดูคมกริบราวกับจับสังเกตทุกสิ่งรอบตัว ในขณะที่ไอลีนยังคงรักษามารยาทสมบูรณ์แบบ นั่งหลังตรง มือวางบนตักอย่างสง่างาม"ชาร้อนและขนมอบสดใหม่ครับ" โจชัวกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ ก่อนจะวางถาดลงบนโต๊ะเล็กๆ ตรงกลางห้อง"ผมโจชัว เป็นหมอเวทย์ที่นี่ ยินดีที่ได้พบ" เขากล่าวแนะนำตัว ก่อนหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งข้างไอลีน "แล้วคุณคือ...?"อาร์วินสบตาเขาด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนตอบเสียงเรียบ "ขอผมแนะนำตัว อาร์วิน แคร์นัส ส่วนนี้ไอลีน ตอนนี้น่าจะกำลังคุ้มกันผมอยู่""น่าจะ อะไรของนาย" ไอลีนหันไปแย้งเบาๆ ก่อนจะยิ้มสุภาพ แต่ดวงตายังคงแฝงความระแวงเล็กน้อย"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณโจชัว ฉันเป็นนักเวทย์ฝึกหัดของตระกูลวัลธอเรน และกำลังให้การคุ้มครองเขาอยู่ค่ะ""ยินดีเช่นกันครับ คุณไอลีน" โจชัวตอบรับ ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบมองไปยังอาร์วิน ซึ่งกำลังหยิบขนมขึ้นมากัดโดยไม่ลังเลขนมที่ดูปกติกลับมีรสขมจัด แต่ชายหนุ่มกลับกินมันได้อ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 34 มรดกของจอมเวทย์สติเฟื่อง

    "นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย?" หญิงสาวถามขึ้น ขณะที่พวกเขาเลี้ยวเข้าตรอกซอยแคบๆแห่งหนึ่ง กลิ่นอายของความวุ่นวายในย่านนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น"ฉันไม่ได้พาเธอ เธอตามฉันมาเอง" ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าตอบเสียงห้วนๆ แต่ยังไม่หยุดเดิน เขาไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นคนที่พูดจานุ่มนวล สุภาพ และมีมารยาทเสมอเมื่ออยู่ใกล้เธอ แต่ทุกสิ่งที่เธอรู้จักเกี่ยวกับตัวเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อคมมีดหันมาจ่อที่ตาของเธอ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คืออาร์วินคนเดิมที่เธอเคยรู้จักแววตาของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เลนส์แว่นสีน้ำตาลอมแดง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เหมือนกับเด็กน้อยที่พึ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรก มันเป็นสายตาที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความแปลกใจอย่างชัดเจนเธอมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ในขณะที่เขาก้าวเดินอย่างชำนาญ แต่ทุกย่างก้าวกลับเต็มไปด้วยความระแวง เขามองไปรอบตัวเหมือนกับคนที่กำลังหลบหนี หรือไม่ก็เหมือนคนที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป เธอเริ่มสงสัยว่าเขากำลังกลัวอะไรอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาสูญเสียวงแหวนเวทมนตร์ไป ทำให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษหญิงสาวหยุดชะงักเมื่ออาร์วินหย

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 33 คนประหลาด

    ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในแนวป่าจนถึงเขตเมือง กลิ่นอายของผู้คนเริ่มแตะจมูกของเธอที่แอบตามมาเงียบๆ เสียงพูดคุยและความเคลื่อนไหวของตลาดกลางคืนแว่วเข้ามา เธอหยุดอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบระหว่างร้านค้าเล็กๆ“ทำไมต้องแอบมาเข้าเมืองมาในเวลานี้ด้วย น่าสงสัยจริงๆ…” หญิงสาวคิดในใจ ก่อนปรับผ้าคลุมไหล่ให้กระชับและเริ่มตามเขาเข้าไปในตรอกที่ดูคับแคบและอับทึบ มีกลิ่นอับของความชื้นผสมกับกลิ่นไม้เก่าจากกำแพงร้านค้าหญิงสาวที่กวาดสายตาเหลือบมองไปรอบข้าง ก่อนที่จะเห็นเงาของเขาเลี้ยวหายเข้าไปในซอยเล็กๆ เธอเห็นดังนั้น จึบรีบเร่งก้าวตามโดยไม่ลดความระมัดระวัง แต่เมื่อพ้นมุมซอยเข้าไป ร่างสูงของชายหนุ่มก็พุ่งพรวดเข้ามามาจากมุมที่เขาเข้าไป ชายหนุ่มเคลื่อนตัวรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว เธอถูกผลักชนเข้าติดกับกำแพงผนังด้านหลัง“อึก—!” เสียงร้องสั้นกระชับของเธอดังขึ้นในความเงียบ คทาในมือถูกปัดกระเด็นไปด้วยแรงที่เหนือชั้น ตัวเธอแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็ง ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอหยุดชะงักทันที ปลายมีดเย็นเฉียบจ่ออยู่ห่างจากดวงตาของเธอเพียงเส้นขน ความหวาดกลัวที่ท่วมท้นทำ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 32 ติดตาม

    หลังจากที่หญิงสาวหลับไป ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไฟไหม้สองจุดในคืนเดียว—หนึ่งคือห้องของเขาเอง สถานที่ที่เคยอบอวลไปด้วยเงาของความทรงจำ ทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นชีวิตของเขาและเธอ หนังสือที่เคยวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ บัดนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน เฟอร์นิเจอร์ที่เขาเลือกเองถูกเผาผลาญจนไม่เหลือเค้าเดิม ทุกสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวันคืนที่เคยมีร่วมกัน มอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวเพลิง ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก…มือขวาของเขากำแน่นจนข้อกระดูกปูดขึ้นมา เขาบีบมือจนเจ็บ แต่พยายามข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ แม้จะพยายามทำเช่นนั้น แววตากลับยังคงสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ภายใน เขาหายใจเข้าลึก พยายามประคองสติขณะที่ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวอีกแห่งคือโรงพยาบาลกลางเมือง... สถานที่ๆซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย หากต้องการลบตัวตนของเขาจริงๆ แค่เผาห้องพักก็เพียงพอ แต่ทำไมต้องเผาโรงพยาบาล?เรื่องมันใหญ่เกินไป… หรือทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตอนที่เกิดเรื่องกับเขาพอดี? แต่ถ้านี้เป็นแผนของใครบางคน แล้วพวกมันจะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนี้?ชายหนุ่มนั่งครุ่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 31 คำลวง

    ความกังวลในใจของเธอคลี่คลายลง แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น ราวกับไม่สามารถสลัดคำถามนั้นออกจากหัวไปได้ ก่อนจะหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าอีกครั้ง“ฉันรู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะที่จะถามอะไรแบบนี้ ในตอนที่นายเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา…”เธอหยุดเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา แต่ชายหนุ่มยังคงนิ่ง เหมือนไม่มีความสับสนใดๆ“มันมีหลายเรื่องที่ฉันอยากจะถามนาย แต่…” เธอลดสายตาลงมองแก้วชาที่อุ่นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “เรื่องที่สำคัญกว่านั้น—ฉันอยากรู้... นายได้รับอะไรจากการทดสอบนั้น?”ชายหนุ่มมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบอย่างอึดอัด"ขอโทษด้วย มันเป็นความลับเฉพาะฝ่ายนักเวทย์ ไม่สามารถบอกได้""ฉันรู้เกี่ยวกับการทดสอบนั้นแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าของรางวัลอาจจะเป็นชิ้นส่วนร่างกายของจอมปราชญ์ไรอัส นายไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก"เขาชะงักเล็กน้อย หยุดคิดไปชั่วขณะก่อนจะพูดออกมา"รู้มาจากไอริสสิน่ะ? เธอคนนั้นไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของฝ่ายอัศวิน กับ จอมเวทย์รึไง?""แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ารู้แล้ว?""ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นอะไร" เขาพูดเสียงต่ำ แล้วเขาก็ถอนหายใจ"ฟังแล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะ แล้วก็ห้ามบอกด้วยว่าเธอรู้มาจากไอริ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status