Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 19 กระดุมข้อมือ

Share

ตอนที่ 19 กระดุมข้อมือ

เอรอสค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ร่างของอาร์วินที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น กลิ่นอับชื้นในห้องลับผสานกับกลิ่นเลือดและเหงื่อรุนแรงทำให้บรรยากาศยิ่งกดดัน ดวงตาของเขาสำรวจไปทั่วร่างกายของชายผู้ที่เคยหายตัวไป อาร์วิน แคร์นัส—ชายหนุ่มที่มีความมั่นใจ นัยน์ตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ดูอ่อนแอเกินกว่าจะลุกขึ้นได้ ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนที่ขาดสารอาหารมานาน

เอรอสนั่งลงข้างๆเขา มือหนึ่งจับที่คอเพื่อตรวจสอบชีพจรที่เต้นแผ่วเบา เอรอสเคยพบเห็นเขาบ่อยๆในตอนที่เขามารับงานปราบมอนเตอร์ในกิล แต่นี่คือครั้งแรกที่เอรอสเห็นอาร์วินในสภาพที่เปราะบางเช่นนี้

"เกิดอะไรขึ้นกับนาย..." เขาพึมพำเบาๆ พลางสำรวจบาดแผลตามร่างกายของอาร์วินใกล้ๆ

บนแขนและขาของอาร์วินเต็มไปด้วยรอยช้ำสีน้ำเงินและดำ บ่งบอกถึงการถูกทุบตีและทำร้ายอย่างรุนแรง ที่แผ่นหลังมีรอยบาดลึกและรอยแส้ที่ขีดข่วนเป็นแผลเก่าและใหม่สลับกันไป บาดแผลเหล่านี้ไม่ได้มาจากการถูกซ้อมเพียงอย่างเดียว แต่บางรอยมีลักษณะผิดธรรมชาติ เหมือนถูกทำร้ายด้วยเวทมนตร์บางอย่าง ร่องรอยที่เอรอสเห็นได้จากบาดแผลเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกหนาวเยือกไปทั้งตัว

"นี่มัน.….สายเกินไปแล้ว"เอรอสคิดในใจ พลางเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพยายามหาเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

นอกจากบาดแผลที่น่ากลัวแล้ว ร่างของอาร์วินยังดูซูบผอมจนเห็นโครงกระดูกชัดเจน เขาเหมือนคนที่ถูกกักขังและไม่ได้รับอาหารมาเป็นเวลานาน ร่างกายของเขาขาดสารอาหารจนแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง

เอรอสพยายามใช้พลังเวทของตัวเองเล็กน้อยเพื่อประคองชีพจรของอาร์วินไม่ให้ขาดหาย ก่อนที่ดวงตาของเขาจะหันไปเห็นสิ่งที่สำคัญกว่านั้น—แผ่นหลังของอาร์วินบริเวณที่ควรจะมีวงเวทย์สลักอยู่—ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ถูกจองจำในหอคอยเวทมนตร์ที่ทุกคนที่นี้ควรมี—กลับว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของการสลักเวทย์ใดๆ ซึ่งเป็นไปได้แค่อย่างเดียว… อาร์วินไม่ได้ถูกจับโดยหอคอย เขาถูกนำมาที่นี่โดยคนอื่น และถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่ผ่านการพิจารณาคดี หรือ กฎระเบียบใดๆของพวกนั้น

"ไม่ใช่ฝีมือของหอคอยงั้นหรือ... แล้วใครทำแบบนี้กับเขา?" เอรอสคิดพลางตั้งข้อสงสัยในใจ เมื่อสำรวจร่างของอาร์วินเสร็จแล้ว เอรอสหันไปมองรอบๆห้องที่พวกเขาอยู่ ห้องนี้ดูเหมือนจะเป็นห้องขังเล็กๆที่ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงกำแพงหินทึบทั้งสี่ด้าน และไม่มีทางออกอื่นนอกจากทางที่เขาเพิ่งพังกำแพงเข้ามา สิ่งที่น่าสงสัยคือ กำแพงที่เขาเพิ่งทลายลงดูเหมือนถูกสร้างอย่างเร่งรีบ มันถูกปิดทับอย่างหยาบๆ ราวกับใครบางคนต้องการซ่อนห้องนี้โดยเร็วที่สุด

เอรอสชายตาสำรวจพื้นที่รอบๆ เห็นรอยหินบางส่วนที่ถูกย้ายมาปิดทับอย่างไม่เป็นระเบียบ บางก้อนยังดูเหมือนเพิ่งถูกก่อขึ้นใหม่ ทั้งที่ส่วนอื่นของคุกนั้นเก่าแก่และเต็มไปด้วยรอยสึกกร่อน

"ห้องนี้ถูกซ่อนเอาไว้... ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น?" เอรอสตั้งคำถามกับตัวเอง ขณะที่ถ่ายเทพลังเวทย์ให้กับอาร์วิน

ในขณะที่เอรอสกำลังใช้ความคิดอยู่ จู่ๆร่างกายของอาร์วิน ก็เริ่มสั่นสะท้านเล็กน้อย ร่างกายที่ถูกทรมานจนอ่อนแรงขยับโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่แขนของเขาจะกระตุกอย่างแรง ทันใดนั้น กระดุมข้อมือที่ติดอยู่ก็หลุดกระเด็นออกมาและกระทบพื้นด้วยเสียงแผ่วเบา

เอรอสสะดุ้งเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาของเขาจับจ้องไปที่กระดุมข้อมือที่หลุดออกจากร่างอาร์วิน มันไม่ได้แค่เป็นกระดุมธรรมดา ขณะที่มันนอนนิ่งอยู่บนพื้น มีกระแสลมอ่อนๆพัดออกมาเป็นระลอกเล็กๆ

บรรยากาศภายในห้องยิ่งกดดัน สายลมที่เป่าออกมาจากกระดุมทำให้เอรอสรู้สึกถึงบางสิ่งที่คุ้นเคย เขาก้มลงหยิบกระดุมขึ้นมาอย่างระวัง และในวินาทีนั้นเอง เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่ถูกบรรจุไว้ในกระดุม มันเป็นพลังเวทที่เขารู้จักดี—สายลมที่อบอุ่น และ อ่อนโยน

“เอเลน่า…” เอรอสพึมพำชื่อเธอออกมาเบาๆ ความรู้สึกบางอย่างท่วมท้นในใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน นี่ไม่ใช่แค่กระดุมข้อมือธรรมดา—มันเป็นเครื่องหมายของความผูกพัน และ ความห่วงใยที่เอเลน่ามีต่ออาร์วิน

ขณะที่เอรอสมองกระดุมในมือ ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในใจ กระดุมข้อมือนี้ เป็นสิ่งที่เอเลน่ามอบให้กับอาร์วินเพื่อเป็นของแทนใจ มันเต็มไปด้วยพลังเวทย์ที่เธอใส่ลงไปอย่างมุ่งมั่น แม้จะไม่ใช่สิ่งของที่สามารถป้องกันอันตรายใดๆได้ แต่มันสามารถนำทางเจ้าของพลังมาหาคนที่สวมกระดุมเม็ดนี้ได้ หากอยู่ไม่ไกลเกินไป

อย่างไรก็ตามแต่ ในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ พลังเวทย์ในกระดุมกลับไม่สามารถส่งสัญญาณไปถึงเอเลน่าได้เลย สายลมที่กระดุมเม็ดนี้ปล่อยออกมาครั้งสุดท้ายกลับสูญเปล่า เหมือนกับความพยายามที่จะเอื้อมผ่านความยากลำบาก แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็สายเกินไป

เอรอสมองกระดุมในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนที่จะวางมันไว้ข้างๆกับอาร์วิน เขาพยายามตรวจดูว่าอาร์วินได้สติรึยัง หลังจากที่เขาถ่ายเทพลังเวทย์ไปให้ แม้จะดูเหมือนกับการเทน้ำในแก้วที่แตกไปแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังพอยืดชีวิตไปได้เล็กน้อย

เอรอสจ้องมองร่างของอาร์วินที่นอนนิ่งอยู่ขณะที่ถ่ายพลังเวทย์ แม้ในตอนแรกจะไม่มีการตอบสนองใดๆนอกจากชักกระตุก ใบหน้าดูซีดเซียว ดวงตาล่องลอย ไม่มีการโฟกัสใดๆ ราวกับเขาได้หลงทางในความมืดลึกที่ไม่อาจหวนคืน

แม้รู้ดีว่าร่างกายของอาร์วินได้แตกสลายและยากจะฟื้นฟูได้เต็มที่ แต่เอรอสยังคงไม่ยอมแพ้ เขาค่อยๆส่งพลังเวททีละน้อยเพื่อยื้อชีวิตของอาร์วินกลับมาทีละนิด สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ดวงตาที่ดูไร้สติเป็นเวลานาน ก่อนจะสังเกตเห็นบางอย่างที่แตกต่าง

ดวงตาของอาร์วินเริ่มกระพริบเล็กน้อย เขาเคลื่อนไหวตาช้าๆ ราวกับเพิ่งพยายามค้นหาทางกลับสู่ความรู้สึกตัว แม้จะยังเลือนลาง แต่การตอบสนองเล็กน้อยนี้ก็เป็นสัญญาณแรกของการฟื้นตัว

เอรอสโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้น สำรวจดวงตาที่เคยว่างเปล่าค่อยๆเริ่มมีการโฟกัสทีละน้อย แสงริบหรี่ภายในแววตานั้นเริ่มฉายออกมา แม้ร่างกายของเขายังคงอ่อนแออย่างมาก แต่ภายในจิตใจของอาร์วินดูเหมือนกำลังค่อยๆฟื้นจากความมืดมิด

เอรอสพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยความโล่งใจ “นายได้สติแล้วหรอ?”

ทันใดนั้น อาร์วินพูดขึ้นเสียงแผ่ว ราวกับความทรงจำที่ลางเลือนกำลังค่อยๆ กลับคืนมา “เอรอส...เหรอ?”

เอรอสชะงัก ดวงตาเขาหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่มองอาร์วิน ความประหลาดใจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ แต่ไม่ถึงกับแสดงออกอย่างชัดเจน เขาคิดในใจ—อาร์วินรู้ได้ยังไง? เขาไม่ควรจำได้ โดยเฉพาะในรูปลักษณ์นี้...

แววตาของอาร์วินยังคงสั่นไหว ราวกับว่าเขาเห็นแสงสว่างสุดท้ายของชีวิต เอรอสจับตามองอย่างเงียบงัน คำถามในใจลอยวนไปมา—อาร์วินรู้มาตลอดอย่างนั้นหรือ? หรือเป็นเพียงการละเมอที่บังเอิญบ่งบอกความจริงที่ถูกฝังอยู่ลึกสุดในจิตวิญญาณกันแน่...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status