แชร์

12/2 นักโทษ

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 16:09:12

หลังออกมาจากคุกใต้ดินที่ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ เหยาอี้เหยาตั้งใจเดินทางกลับจวนสกุลฉู่ทันที ทว่าเวลานั้นฝนหิมะโปรยปรายลงมาหนักหน่วงจนมืดฟ้ามัวดิน หากคิดจะเดินฝ่าพายุอันหนาวเหน็บ พรุ่งนี้นางต้องจับไข้แน่

จ้าวสือที่เห็นว่าสภาพอากาศเลวร้าย เลยแนะให้นางอยู่ก่อน “ฝนหิมะตกหนักยิ่ง เกรงว่าคุณหนูเหยาอาจจะเดินทางกลับไปจวนไม่สะดวกนัก มิสู้รอสักครู่ ข้าจะให้คนไปเรียกเกวียนมาให้”

จวนเจ้าเมืองกับจวนสกุลฉู่อยู่ไม่ไกลกันมาก แต่หากให้เดินตากฝนปนหิมะกลับไป เกรงว่าจะไม่ไหว ยิ่งรู้ว่าถ้ากลับไปต้องเจอออะไร นางก็ยิ่งหมดแรงยกเท้า

“เช่นนั้นคงต้องรบกวนท่านแล้ว”

“เป็นหน้าที่ คุณหนูอย่าได้เกรงใจ” จ้าวสือผายมือ “ระหว่างรอเกวียน เชิญคุณหนูและแม่ทัพซ่างพักผ่อนด้านนี้”

“ไม่ลำบากท่านแม่ทัพจ้าว ข้าน้อยกับแม่ทัพซ่างขอยืนรอตรงนี้จะเป็นการดีกว่า “เหยาอี้เหยาพูดอย่างเกรงใจ ขณะนั้นเสียงรถม้าดังให้ได้ยินมาแต่ไกล คาดว่าคนในรถม้าคงเป็นเจ้าเมืองฉู่ แล้วก็เป็นเขาจริงๆ

เมื่อรถม้าจอดลงตรงประตูจวน ฉู่ซีห่าวในชุดคลุมเดินลงมาจากรถ ร่มกระดาษในมือไม่สามารถปกป้องเข้าจากสายฝนได้มากนัก ทำให้ร่างกายเปียกชื้น ซึ่งหากเป็นคนปกติทั่วไป เกรงว่าคงหนาวสั่น แต่ฉู่ซีห่าวเป็นแม่ทัพรบอยู่แนวหน้านอกด่านมานาน ดังนั้นจึงไม่สะท้านกับฝนหนาวเลย

“คุณหนูเหยา แม่ทัพซ่าง” ฉู่ซีห่าวเห็นนางแต่ไกล เนื่องจากนางสวมชุดสีขาวคลุมด้วยชุดไว้ทุกข์ จนเตะตา อีกทั้งเส้นผมดำขลับดุจขนกายังขับเน้นให้ดวงหน้าวัยเยาว์ดูน่าสงสารลงอีกหลายเท่า

ซ่างเจวี๋ยคาราวะ ถอยไปหลายก้าวตามจ้าวสือ

“คำนับเจ้าเมืองฉู่” เหยาอี้เหยาถอยสามก้าว ตอนนี้พวกนางอยู่ด้านหน้าเรือน ระหว่างประตูจวนกับประตูใหญ่

“ตามสบายเถอะ คุณหนูเหยา ได้พบหน้าฟู่เจิ้งชิวแล้วหรือไม่” ฉู่ซีห่าวเอ่ยถาม เมื่อครู่เขาเดินฝ่าสายฝนมายังไม่รู้สึกหนาวเท่ายืนอยู่ใกล้นาง

“พบแล้วเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาตอบ ไม่กล้าสู้หน้าเขา หรือหากเป็นไปได้ นางอยากคุกเข่าขอโทษเขาสักครั้งกับสิ่งที่ท่านตาทำ

ฉู่ซีห่าวไม่ได้ถามต่อ เขารู้อยู่แล้วว่านางมาพบฟู่เจิ้งชิวด้วยเรื่องใด ทั้งยังรู้ว่าคำตอบที่ได้คงทำนางปวดใจไม่น้อย

“ท่านฝ่าฝนมาคงหนาวน่าดู” เหยาอี้เหยากระชับเสื้อคลุม อากาศทั้งชื้นและเย็น

“ข้าไม่เป็นไร” เขายืดมือออก ท่าทีอบอุ่น

“ท่านเจ้าเมืองร่างกายแข็งแรงมาก ฝนหิมะยังทำอะไรท่านไม่ได้” เหยาอี้เหยาแสร้งไอ ในใจลึกๆ ยังไม่พร้อมจะกลับจวน อีกทั้งท่าทีของฉู่ซีเย่ในวันนี้ยังทำให้นางไม่อยากกลับ

กระนั้นอีกใจนางก็หวั่นว่าเขาอาจจะไม่พอใจที่นางผิดคำพูด แต่ถ้านางทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจผิดคำพูด แต่มีเหตุบังเอิญเล่า…เช่นฝนหิมะในคืนนี้

เขาจะมาเอาผิดนางได้อย่างไร จริงหรือไม่?

“ฝนหิมะในวันใกล้ปีใหม่จะเหน็บหนาวเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่ควรโดนร่าง ไม่งั้นคืนนี้เจ้าก็นอนที่จวนของข้าสักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับไป”

“ข้าน้อยไม่กล้าเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาเกรงใจยิ่ง “อีกอย่างก่อนหน้านี้ข้าน้อยขออนุญาตซื่อจื่อออกมาเพียงครู่เดียว เกรงว่าหากไม่กลับไป คงดูเป็นการไม่รักษาคำพูด”

ฉู่ซีห่าวยิ้มเอ็นดู ฟังออกว่านางกำลังพูดอ้อมๆ ให้เขาออกหน้าให้ที

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะให้คนไปบอกเขาเอง” ฉู่ซีห่าวไม่ทิ้งช่องว่างให้ปฏิเสธ “ตกลงเอาตามนี้ จ้าวสือ พาคุณหนูเหยาและแม่ทัพซ่างไปพักผ่อน”

“ขอบคุณที่กรุณาเจ้าค่ะ”

“เรื่องเล็กน้อย” ฉู่ซีห่าวเดินห่างออกไป เหยาอี้เหยาเงยหน้ามองแผ่นหลังของเขาด้วยความรู้สึกปวดใจ

เขารู้ดีว่านางเป็นหลานสาวของคนที่สังหารบิดาของตน แต่ก็ยังดีต่อนางเพียงนี้…ช่างทำให้นางรู้สึกละอายใจจริงๆ จนนอนข่มตาแทบไม่หลับ

แต่วันนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งนางยังเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ จึงทำให้พอเอนตัวลงนอน ก็หลับใหลอย่างรวดเร็ว

ใกล้ยามอิ๋น เหยาอี้เหยานอนกระสับกระส่าย เหงื่อผุดพราวออกมาตามกรอบหน้าและฝ่ามือฝ่าเท้า นางสะบัดร้อนสะบัดหนาวจนอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น

จนกระทั่งรู้สึกว่ามีไอร้อนโอบรัดเข้ามา รวมทั้งมือแกร่งที่สอดเข้ามาในสาบเสื้อก็ทำให้นางสะดุ้งตื่น

เหยาอี้เหยาลืมตาในความสลัวอย่างตื่นตระหนก นางนอนหันข้างจึงเห็นเงาสะท้อนผ่านคันฉ่องว่ามีเงาขนาดใหญ่ซ่อนทับอยู่ด้านหลัง ทว่ากลิ่นสมุนไพรและไอร้อนอันคุ้นเคยทำให้นางรู้ว่าเขาคือใคร

“ซื่อจื่อ…” เหยาอี้เหยาประคองสติ ร่างกายแข็งทื่อโดยพลันพร้อมคิดว่าฉู่ซีเย่เข้ามาตอนไหน

"อี้เหยา… " เขาพูดเสียงเบาแต่ชิดริมหู รวมทั้งยังจงใจเป่ารดลมหายใจใส่ต้นคอนาง "ข้าบอกให้เจ้ากลับมาหาข้าไม่ใช่หรือ”

ฉู่ซีเย่สอดมือเข้าไปอีก เขาไม่ได้ทำอะไร แค่สอดมือแล้ววางไว้เหนือเนินอกนาง แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เหยาอี้เหยาหายใจไม่สะดวกแล้ว

"ข้าน้อยเหน็ดเหนื่อยยิ่ง อีกทั้งฝนหิมะยังตกหนักจนเดินทางกลับไม่ได้ จึงคิดว่าคงดีกว่า หากนอนพักที่จวนเจ้าเมืองสักคืน” ฝนหิมะด้านนอกยังคงตกกระหน่ำจนหนาวเหน็บ แต่ภายในห้องตอนนี้ร้อนระอุเพราะสายตาจ้องเขม็งของฉู่ซีเย่

“ไม่ใช่ว่าเจ้าตั้งใจหลบหน้าข้าหรือ” ฉู่ซีเย่ใช้สันจมูกถูไถซอกคอนาง ก่อนจะกัดเบาๆ ราวกับเป็นการลงโทษ

“มะ…ไม่เจ้าค่ะ “เหยาอี้เหยาตอบเสียงสั่น เมื่อกำลังถูกฉู่ซีเย่รั้งตัวเข้าไปใกล้เขาจนแนบสนิท

“ข้าไม่เชื่อ” ฉู่ซีเย่สูดกลิ่นหอมบนผมนุ่มดุจแพรไหม เขาไม่แน่ใจว่านางใช้อะไร ถึงทำให้มีกลิ่นกายที่หอมละมุนขนาดนี้ อีกทั้งร่างกายเย็นๆ ของนาง ก็ทำให้ร่างกายที่ร้อนจัดเพราะพลังหยางไม่สมดุลของเขาดีขึ้น

ฉู่ซีเย่เลยดั้นด้นมาหานางเพื่อดับความร้อนเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่น

“ซะ…ซื่อจื่อ ข้าไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้น” นางกลัวยิ่ง กลัวจนร่างกายแทบจะกลายเป็นหิน

“ไม่ฝืนเจ้า”

“เช่นนั้น…เช่นนั้นท่านอย่าใกล้ข้าขนาดนี้ได้หรือไม่”

ได้ แต่เขาไม่อยากทำ

“ข้าร้อน”

“ซื่อจื่อ หากท่านบังคับให้ข้าน้อยทำเช่นนั้นอีก ข้าจะตัดมือทิ้ง” คำพูดนางทำฉู่ซีเย่หัวเราะ

“งั้นถ้าข้าให้เจ้าใช้ปาก เจ้าจะตัดปากทิ้ง?”

เหยาอี้เหยาตื่นตระหนกเท่าทวีคูณ

“วางใจเถอะ ข้าแค่อยากหายร้อนเท่านั้น” ฉู่ซีเย่เอามือออกจากสาบเสื้อให้นางสบายใจ “สาบานว่าข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า แค่นอนด้วยก็พอ”

ฉู่ซีเย่นอนไม่หลับเพราะร่างกายอันร้อนจัดมาหลายวันแล้ว แต่พอได้กอดร่างกายที่เย็นกว่าคนปกติของนาง เขาก็เริ่มง่วง

“ข้าน้อย…”

“ข้าง่วงแล้ว”

ฉู่ซีเย่รั้งนางไว้ในอ้อมกอด จมูกวางอยู่ใกล้ต้นคอ เขารู้สึกว่ากลิ่นของนางทำให้ความง่วงทำงานดีขึ้น จนหลับไปในเวลาอันสั้น

แต่เหยาอี้เหยานอนไม่หลับเลย นางพยายามงัดมือและขาซึ่งเกยตัวของฉู่ซีเย่ทั้งคืน แต่เขาไม่ปล่อยเลย แถมเวลาพลิกตัว ยังหอบนางไปด้วย

เหยาอี้เหยาระย่อท้อ แล้วนางก็หลับไปในเวลาต่อมา

ฝนหิมะหยุดลงในตอนรุ่งสาง เหยาอี้เหยาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะเรียกจากฉู่ซีห่าว ครั้นนางหันไปทางที่นอนข้างๆ ฉู่ซีเย่ก็นอนตะแคงมองนางด้วยสายตาไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ท่านเจ้าเมืองมา” นางคิดว่าคงจะกลับไปแล้ว ไม่คาดว่ายังอยู่ ทำให้ลนลานกลัวคนอื่นรู้ว่าเมื่อคืนนอนหลับกับฉู่ซีเย่

“อืม” เขาพูดสั้นๆ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

“เรื่องนี้…ข้าน้อยหมายถึง ท่านคงไม่อยากให้ผู้ใดรู้เป็นแน่ เช่นนั้นเอาเช่นนี้ดีกว่า” นางปีนลงจากเตียงหยิบเสื้อคลุมมาสวมอย่างรวดเร็ว เคราะห์ดีที่เมื่อคืนอากาศหนาว นางเลยไม่ได้ถอดเสื้อนอก “ซื่อจื่อ ประเดี๋ยวข้าน้อยจะออกไปรับหน้า ท่านฉวยโอกาสเวลานั้น ออกไปเงียบๆ นะเจ้าคะ”

ไม่มีเสียงตอบรับ ดังนั้นเหยาอี้เหยาเลยหันไปมองว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เห็นคือฉู่ซีเย่เดินไปเปิดประตูแล้ว

แย่แล้ว! เขาทำอะไรนะ

เหยาอี้เหยารีบวิ่งไปซ่อนแต่ไม่ทันแล้ว

“อื่นจื่อ?” ฉู่ซีห่าวเผยสีหน้างุนงง เมื่อคนมาเปิดประตูคือน้องชาย “เจ้ามาที่จวนตั้งแต่เมื่อใด?”

“เมื่อคะ…”

“เมื่อครู่เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยารีบพูด นางกลัวว่าเขาจะพูดว่าเมื่อคืน "ซื่อจื่อมาเมื่อครู่"

“ดียิ่ง มาแล้วก็ดี จะได้คุยเรื่องคดีความของวัดชิงเฉิน” ฉู่ซีห่าวเห็นชุดก็พอเดาได้ว่าน้องชายคงมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ไม่อยากพูดออกไป เกรงจะส่งผลกระทบไม่ดีต่อเหยาอี้เหยา แต่ภายหลังต้องสอบถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน

“ท่านพี่รอสักครู่ เดี๋ยวข้าตามไป”

“ได้ ข้ารอเจ้าที่ห้องหนังสือ” ฉู่ซีห่าวหันหลัง แต่นึกขึ้นได้ว่ามาหาเหยาอี้เหยาเพราะมีเรื่อง “จริงสิคุณหนูเหยา ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า พอดีทางกองทัพเรียกตัวแม่ทัพซ่างด่วน เขาเลยต้องรีบไปโดยไม่ลาเจ้า”

“เจ้าค่ะ ข้าน้อยทราบแล้ว” เหยาอี้เหยาเชื่อว่านี่เป็นฝีมือฉู่ซีเย่ เขาตั้งใจตัดกำลังนาง

“กลับไปรอข้าที่จวน ข้ากลับไปต้องเห็นเจ้า” ฉู่ซีเย่ทิ้งท้ายก่อนจะไป

“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยารับคำไปก่อน แต่พอพ้นจากสายตาคนของฉู่ซีเย่ที่จับตามองนางทุกฝีก้าว นางก็ปีนหนีออกไปข้างนอกเพื่อพบกับเมียนเมี่ยนและจี๋เฉวียนอย่างลับๆ

หากจะช่วยฟู่เจิ้งชิวออกมาจากคุกใต้ดิน นางจำเป็นต้องมีพรรคพวกและวางแผนอย่างรัดกุม

ทว่าเมื่อไปถึง จดหมายฝากฝั่งจากพี่ชายก็ทำให้เหยาอี้เหยารู้สึกหวั่นใจยิ่ง

“มีเรื่องอันใดหรือ ถึงได้เคร่งเครียดนัก” เมียนเมี่ยนรับฝากจดหมายจากเหยาอี้ร่างมาตลอด เพราะรู้ว่าถ้าส่งทางช่องทางปกติ กว่าจะถึงมืออี้เหยา ต้องถึงมือฉู่ซีเย่ก่อน

“คุณชายหลี่ที่เคยหมั้นหมายกับข้าในตอนเด็ก กำลังทำเรื่องสู่ขอข้าอีกครั้ง”

จี๋เฉวี่ยน “ไม่ใช่ว่าถอนหมั้นไปแล้ว?”

“ถอนแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มีหนังสือถอนหมั้น ดังนั้นในทางกฏหมาย ยังมีสัญญาอยู่ “เหยาอี้เหยารู้สึกตัวชา ตอนนี้ชีวิตนางขึ้นอยู่กับฉู่ซีเย่ แล้วเหตุใดต้องมีเรื่องแต่งงานเข้ามาแทรกด้วย

“ผู้ชายคนนี้ดียิ่ง มาได้จังหวะหายนะพอดิบพอดี”

“ให้ข้าลงมือเถอะ” จี๋เฉวี่ยนพร้อมลงมือ

“ไม่ได้ คุณชายหลี่มีศักดิ์เป็นหลานของไทเฮา แถมยังได้รับการแต่งตั้งเป็นหลี่โหว หากเขามาตายที่นี้อีกคน เกรงว่าต้าหย่งคงไม่อยู่เฉย”

“หากฉู่ซื่อจื่อรู้เข้า เขาไม่มีทางช่วยเจ้าอีกแน่”

เหยาอี้เหยารู้ ฉู่ซีเย่ช่วยเพราะเขาคิดว่านางจะอยู่ทำประโยชน์ให้เขาในแดนเหนือ แต่ถ้านางจะแต่งงานกับหลี่โหว ต่อให้อ้อนวอนขอร้องเพียงใด เขาไม่มีทางช่วยนางแน่

…ดีไม่ดีเขาจะฆ่านางเพื่อปิดปากที่รู้มากไป

“อี้เหยา ข้าว่าเจ้าควรเร่งมือแก้พิษแมลงคุณไสยในเร็ววัน ให้ดีคือก่อนที่หลี่โหวจะมาถึง จะได้หนีได้" เมียนเมี่ยนพูดพร้อมบีบมือนาง

"ข้าจะพยายามให้เร็วที่สุด”

เหยาอี้เหยากดดันยิ่ง นางรู้ว่าเงื่อนไขเวลาบีบรัด ดังนั้นเพื่อเอาตัวรอดจากความตาย นางก็พอหลับตาให้ผ่านไปได้ แต่ฉู่ซีเย่ไม่โง่ ถ้านางแสดงท่าทีอยากร่วมหอมากเกินไป เขาต้องจับสังเกตได้แน่ว่านางต้องการแก้พิษแมลงคุณไสยเพื่อแต่งงานกับหลี่โหว

แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อนชั่วคราว นางต้องหาแผนการช่วยฟู่เจิ้งชิวในอีกสองวันข้างหน้าก่อน

“จัดการเจ้าเมืองฉู่ไม่ง่าย แต่จัดการฉู่ซีเย่นั้นยากกว่า คนผู้นี้ฉลาดเจ้าเล่ห์ หากไม่ระวังแม้เพียงครึ่งก้าว พวกเราพ่ายแพ้ยับเยินแน่” จี๋เฉวียนพูด

“ไม่ใช่ มีคนน่ากลัวกว่านั้น” เมียนเมี่ยนพูดอย่างมั่นใจ “วันเกิดฉู่ซีเย่ปีนี้ ฉู่อ๋องจะกลับเมืองโจวอี้”

เหยาอี้เหยาคาด “เขากลับมาเพราะเรื่องฟู่เจิ้งชิว”

“คิดดูว่าฉู่อ๋องที่ไม่กลับมาเหยียบเมืองโจวอี้นับสิบปี กลับมาเพราะนักโทษอย่างฟู่เจิ้งชิว”

เหยาอี้เหยามองออกไปด้านนอก นางรู้สึกว่าท้องฟ้าสีหม่นวันนี้ทำให้ทุกอย่างดูอึมครึม

"เรื่องราวดูจะยากกว่าที่ข้าคิดไว้มาก"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   12/3 นักโทษ

    เมืองเซียงฝาน อำเภอชีชิวหลังถูกปลดออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาท หย่งสวินในนามนักโทษถูกเนรเทศมาอยู่หมู่บ้านใกล้ปืนเที่ยง รับราชการในอำเภอเล็กๆ ให้ผู้คนดูแคลน ถึงยังงั้นต่อให้พบเจอความอดสูแร้นแค้นใดใด หย่งสวินพยายามดิ้นรนเอาชีวิตไปให้ได้ เพราะตราบใดที่ยังมีชีวิตรอด เขาก็ยังมีโอกาสทวงคืนในสิ่งที่ควรเป็นของเขากลับคืนมาทว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เมื่อหย่งสวินที่ไร้อำนาจโดยพลันถูกคนไล่ล่า ดังนั้นเพื่อเอาชีวิตรอด หลายปีมานี้เขาเลยผูกสัมพันธ์กับหลี่หลินผู่ หรือในตอนนี้คือหลี่โหวคนใหม่ของจวนสกุลหลี่เพื่อรับความคุ้มครองแม้การขอร้องผู้อื่นจะเป็นสิ่งที่เขาเกลียดชังยิ่งก็ตามความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี สามารถเอื้อประโยชน์ต่อกัน รวมทั้งหย่งสวินไม่อยากเชื่อว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลี่โหวยอมยื่นมือช่วยเหลือเขาในยามตกทุกข์เป็นเพราะเขาให้ข้อมูลเหยาอี้เหยาได้แน่นอนว่าหย่งสวินที่ต้องการความช่วยเหลือไม่มีทางบอกหลี่โหวเรื่องยาพิษทว่าในใจหย่งสวินมีคำถามหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเหยาอี้เหยามีชีวิตรอดมาได้อย่างไร เพราะเขามียาระงับพิษให้นางแค่นั้น แต่หลายปีมานี้นางก็ยังคงมีชีวิตรอดมาได้แล้วยอดฝีมือค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   13/1 วันส่งท้ายปีเก่า

    “ข้าเอง” ฉู่ซีเย่เอ่ยต่อ “ข้าวางยาพิษเขาเอง”“ท่านวางยาพิษเขา เพื่ออะไร?” นอกจากเหยาอี้เหยาแล้ว คนที่ต้องการให้ฟู่เจิ้งชิวมีชีวิตรอดต่อไปก็คือฉู่ซีเย่ แต่เขากลับวางยาพิษอีกฝ่าย“ไม่ทำเช่นนี้ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าวางแผนจะช่วยฟู่เจิ้งชิวออกมา” ฉู่ซีเย่ลองวางยาพิษเพื่อดูว่าคนทั้งสองมีข้อตกลงอะไรกัน ซึ่งไม่ยากอะไรที่จะเค้นคำตอบจากคนใกล้ตายแต่ไม่คาดว่าเหยาอี้เหยาจะมอบยาแก้พิษให้ฟู่เจิ้งชิว เขาเลยต้องลงมือหนักขึ้น “หากเจ้าอยากรู้เรื่องเมื่อสิบปีก่อน คนที่เจ้าควรจะถามคือข้าไม่ใช่หรือ”บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนไปแล้ว ระหว่างทั้งสองมีความรู้สึกขุ่นมัวคลี่คลุมอยู่“ถามแล้วท่านจะบอกความจริงหรือ” ย่อมไม่มีทางที่ฉู่ซีเย่จะบอกนางทุกอย่าง “ถ้าไม่ได้ฟู่เจิ้งชิว ตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้ว่าท่านตาถูกใส่ร้าย”“ข้าจำไม่ได้ว่าเคยบอกเจ้าว่าท่านตาเจ้าผิด”ใช่แล้ว ฉู่ซีเย่ไม่เคยพูด“แต่พวกท่านไม่เคยออกหน้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าท่านตาไม่ผิด” เหยาอี้เหยามองสบตากับเขา “พวกท่านปล่อยให้ท่านตาตายในฐานะกบฏ กระทั่งจะฝั่งอย่างถูกต้องตามประเพณีก็ไม่ได้ แล้วตอนนี้ท่านตาก็กลายเป็นแค่หนึ่งในหลุมศพไร้ญาติ ทั้งๆ ที่ท่านตาบริสุทธิ์”ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   13/2 วันส่งท้ายปีเก่า

    "แต่งงานกับข้า"เหยาอี้เหยาเบื้อใบ้ นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉู่ซีเย่จะเอ่ยปากขอนางแต่งงานเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งแผนการของนางคือรีบรักษาพิษแมลงคุณไสยแล้วหาทางหนีจากเขา ไม่ใช่จบลงด้วยการแต่งงานอีกอย่าง คนอย่างนางจะกล้าแต่งงานกับซื่อจื่อได้อย่างไร ไม่รวมว่านางยังมีสัญญาหมั้นหมายผูกติดกับหลี่โหวอีกถึงยังงั้นใจนางก็เต้นแรงยิ่ง ในท้องราวกับมีดอกไม้เบ่งบาน"เหตุใด...ท่านถึงอยากแต่งงานกับข้า" ความรู้สึกของฉู่ซีเย่ที่มีต่อนาง ไม่มีความลึกซึ้งถึงขั้นแต่งงาน เขาดีกับนางมากกว่าคนอื่น เพราะนางมีประโยชน์เท่านั้น "ท่านไม่ได้ชอบข้าเสียหน่อย"ฉู่ซีเย่ตอบ "จำเป็นต้องชอบรึ ในเมื่อคนอย่างข้าจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์มากกว่า""ประโยชน์ในส่วนของข้าน้อยมีมาก แล้วประโยชน์ในส่วนของท่านเล่า" ถ้าได้แต่งงานกับเขา นางก็ไม่ต่างอะไรกับหนูตกถังข้าวสาร"ข้าเป็นซื่อจื่อ มีหน้าที่สืบทอดตำแหน่งและทายาท เจ้ามีลูกให้ข้าได้"เหยาอี้เหยาไม่คิดว่าเขาจะมองไกลถึงขั้นนี้ ใบหน้านางจึงเห่อร้อน"ทำไม เจ้าไม่พอใจที่จะแต่งกับข้า?"กว่าฉู่ซีเย่จะพูดประโยคเมื่อครู่ได้ เขาใช้ความพยายามไม่น้อย"ข้าน้อยเพียงแต่ คิดไม่ถึงมาก่อนว่าท่านจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   13/3 วันส่งท้ายปีเก่า

    ท้องฟ้าสว่างมากแล้ว เมื่อฉู่ซีเย่ควบม้ามาถึงประตูเมืองร่างสูงในชุดสีดำองอาจลงจากอาชา เขาเหยียบย่ำหิมะเพื่อขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ทหารรักษาประตูเมืองคาดไม่ถึงว่าฉู่ซีเย่จะมาในวันนี้ จึงไม่ได้เตรียมการต้อนรับ กระทั่งไม่มีเวลาแต่งกายให้เรียบร้อย ท่าทีจึงลนลานและประหม่าอย่างเห็นได้ชัดฉู่ซีเย่เห็นท่าทีของทหารก็ได้แสดงสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้พูดแต่ตำหนิทางสายตาจนคนอยากกระโดดหอในทันที"ขอซื่อจื่อโปรดลงโทษ ข้าน้อยผิดไปแล้ว"ช่วงนี้ใกล้วันส่งท้ายปีเก่า ทหารบางรายอาจหละหลวมไปบ้าง ฉู่ซีเย่จึงคาดโทษไว้ แต่หากมีครั้งหน้า ย่อมไม่เอาไว้"ลุกขึ้น ไปแต่งกายให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉู่อ๋องจะกลับมา"ฉู่ซีเย่ไม่อยากให้ท่านตามาเห็นเหล่าทหารในสภาพนี้แม่ทัพแสดงสีหน้ามึนงงยิ่ง "ซื่อจื่อ มิใช่ว่าท่านอ๋องเข้าเมืองมาแล้วหรือ?"ฉู่ซีเย่หันไปมองธงด้านตรงข้าม ปกติหัวธงประจำกองทัพจะไม่ขึ้น เพื่อบอกว่าฉู่อ๋องไม่อยู่ เมื่อครู่เขาไม่เห็นเพราะหมอกหนาตา ครั้นเห็นชัดเต็มสองตา มือเรียวข้างลำตัวกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงิน"ฉู่อ๋องเข้าเมืองมาเมื่อใด""มะ...เมื่อคืนขอรับ"ความอำมหิตอันเข้มข้นนี่คืออันใด?ฉู่ซีเย่แทบจะพุ่งลงจากหอส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   14/1 ฉู่ซีเย่

    ลูกธนูพุ่งมาอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถหลบพ้นเหยาอี้เหยามองเห็นลูกธนูผ่านม่านหิมะ เสี้ยววินาทีนั้นแสนสั้นแต่เหมือนได้เห็นภาพบางอย่างที่ยาวนานในหัว ทุกสรรพสิ่งเหมือนหมุนย้อนกลับ แต่แล้วสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดทำให้นางตัดสินใจหลบแต่ช้าเกินไป เหยาอี้เหยารู้ตัวว่าถูกยิงเข้าที่ต้นขา แต่นางไม่คิดมัวโอ้เอ้ กัดฟันกลั้นความเจ็บแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งหนีคนร้ายในชุดดำปิดบังใบหน้าไต่กำแพงตามอย่างกระชั้นชิด พร้อมง้างธนูพุ่งเข้ามาหานางด้วยความอาฆาตมุ่งร้าย“ช่วยด้วย!” นางวิ่งได้ช้าเพราะขาซ้ายเจ็บ เบื้องหน้าเป็นตรอกตันไร้ผู้คน นางหันไปมองด้านหลังครู่เดียวก่อนจะพุ่งตัวหลบไปอีกด้านหนีลูกธนู ร่างไถลไปกับพื้นโคลนจนธนูหักคาต้นขาความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นสมอง เวลานั้นนางจะหยิบนกหวีดขึ้นมาเป่าหาซ่างเจวี๋ย ทว่าคนร้ายกระชากทิ้งอย่างไม่ใยดีเหยาอี้เหยาสู้ไม่ได้จึงถอยหลังจนหิมะกระจาย ด้านหลังนางคือกำแพงทึบสูง ส่วนตรงหน้าคือคนร้ายที่ถือธนูเล็งมาตรงศีรษะ“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร หรือผู้ใดส่งเจ้ามา แต่อย่างน้อยก็บอกเหตุผลที่จะฆ่าข้าหน่อยเถอะ” จมูกนางได้กลิ่นสนิทเข้มข้น เลือดอุ่นๆ จากบาดแผลกำลังหยดลงพื้นหิมะสีขาวโพลนราวกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   14/2 ฉู่ซีเย่

    บาดแผลบนขาซ้ายได้รับการรักษาแล้ว เหยาอี้เหยาจึงขึ้นเกี้ยวกลับจวนให้เร็วที่สุด เนื่องจากนางยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ นางอยากสลับจดหมายจากรัชทายาท ก่อนจะถึงมือฉู่ซีเย่ เพราะถ้าเขารู้เรื่องสัญญาหมั้นหมาย เขาคงไม่อยู่เฉยยิ่งเรื่องราวในอดีตเปิดเผย ชีวิตนางยิ่งต้องต้องระมัดระวังและรอบคอบฉู่ซีห่าวสละเสื้อคลุมให้นาง ชุดกระโปรงของนางเป็นสีขาว ครั้นเปื้อนเลือด จึงยิ่งน่ากลัวขึ้นอีกหลายส่วน“อี้เหยา กินยานี่ก่อน พอจะแก้ปวดได้” ฉู่ซีห่าวไม่ขึ้นไปด้วย เขาต้องอยู่จัดการศพก่อน“ขอบคุณเจ้าค่ะ…” เหยาอี้เหยากลืนยาลงท้อง ก่อนจะเอ่ยกับเขา “ท่านเจ้าเมือง เรื่องที่ข้ารู้ความจริงแล้ว ได้โปรดอย่างบอกซื่อจื่อนะเจ้าคะ”ฉู่ซีเย่ทุ่มเทเล่นละครฉากใหญ่ ทำถึงขั้นให้ฟู่เจิ้งชิวมาหลอกนางอีกคน ดังนั้นจึงพอคาดเดาได้ว่าเขาคงไม่อยากให้นางรู้ความจริงแม้แต่น้อย ซึ่งหากเขารู้ว่านางรู้ทุกอย่างแล้ว คนเลือดเย็นเช่นเขา คงจัดการเด็ดขาด“ได้” ฉู่ซีห่าวตั้งใจจะเก็บเป็นความลับอยู่แล้ว เพราะไม่รู้ว่าน้องชายจะทำอะไรบ้างหากนางรู้ รวมทั้งท่านปู่ที่คงกลับมาเพื่อเก็บนางเช่นกัน ดังนั้นหากเป็นไปได้ เขาอยากให้นางหนีไปเสีย“อี้เหยา เจ้าเคยค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   14/3 ฉู่ซีเย่

    "แน่นอนว่าขัดไม่ได้ เช่นนั้นไม่สู้ให้ซื่อจื่อมาหาข้าน้อยที่เรือนเป็นอย่างไร" เหยาอี้เหยาพูดประโยคนี้เพื่อปกป้องตัวเองจากเขา อีกทั้งนางยังต้องการรักษาชื่อเสียงให้พ้นข้อครหาใดใดก็ตามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อสำคัญที่ทำให้นางต้องรู้จักวางตัวเพราะภายในจวนแห่งนี้มีผู้สูงศักดิ์อย่างท่านอ๋องที่ควรให้เกียรติยิ่ง ดังนั้นจะข้ามศีรษะเขาไปหาหลานชายในคืนแรกคงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี“ซื่อจื่อมีธุระต้องจัดการมาก ไม่อาจมาหาคุณหนูได้ คงดีกว่าหากท่านเดินทางไปเอง ดังเช่นที่เคยทำ” บ่าวรับใช้อาวุโสยังคงกล่าวอย่างเคารพนอบน้อม แต่ปลายประโยคเจือถ้อยคำดูแคลนด้วยการยกสิ่งที่นางเคยทำมาพูด ราวกับจะบอกว่านางเคยไปร่วมหลับนอนกับฉู่ซีเย่แล้ว จะมาเล่นแง่รักษาหน้าตาอีกเพื่ออะไร“เป็นความจริงที่ข้าเคยไป ทว่าซื่อจื่อเองก็เคยมาหาข้าบ่อยครั้ง” เหยาอี้เหยายิ้ม นางรู้สึกว่าบ่าวรับใช้อาวุโสตั้งแง่กับนางเป็นพิเศษ อาจจะเพราะคิดว่านางแย่งตำแหน่งอนุกับสตรีที่นางรับเงินเพื่อประเคนให้ฉู่ซีเย่ “เรื่องนี้เจ้าก็รู้ดีไม่ใช่หรือ ซื่อจื่อถึงกับตามข้าไปที่จวนเจ้าเมือง”บ่าวรับใช้อาวุโสทำหน้าปั้นยาก แต่ต้องถอยออกมาพร้อมยอบกายลง“บ่าวคิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   15/1 ค่ำคืน

    ฉู่ซีเย่เกิดในคืนหนาวเหน็บรอบร้อยปี ฤดูหนาวของปีนั้นแช่แข็งเมืองโจวอี้ให้ขาวโพลน เขาเกิดมาตัวเล็กเท่าฝ่ามือ ทว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงยิ่ง ฉู่เหวยจึงตั้งชื่อให้เขาว่า ‘ซีเย่’ ที่แปลว่าค่ำคืนซึ่งเขาได้ผ่านมา ทั้งยังคล้องจองกับ ‘ฉูซีเย่’ (除夕夜) คืนในวันสิ้นปีเพราะเขาเกิดในวันสิ้นปีพอดีฉู่เหวยจำวันที่หลานชายคลอดได้ดี ความโกลาหลมาเยือนในยามวิกาล บ่าวรับใช้วิ่งวุ่นทั่วเรือนทิศใต้จวบจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วยาม เสียงร้องไห้ของหัวใจแห่งแดนเหนือดังแผดไปทั่วจวนพร้อมเสียงแห่งความยินดีทว่าไม่กี่เดือนให้หลัง จวนทั้งหลังต้องผูกผ้าขาวเพื่อไว้อาลัยให้ซื่อจื่อฉู่ฮั่นและพระชายาเฝิงอันความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุตรชายยังคงซ่อนลึกในดวงวิญญาณ ทิ้งร่องรอยไว้บนหน้าผากที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลา ไหล่หนักอึ้งราวแบกน้ำหนักหลายพันชั่งชั่วขณะหนึ่งฉู่เหวยราวกับเหน็ดเหนื่อยจนไม่อยากแม้แต่จะขยับนิ้ว หายใจยังฝืนเค้นพลังออกมา แต่ท้ายที่สุดเขาก็ลุกขึ้นมาจากตั่งเตียงไม่รู้ว่าคุ้นเคยกับดินทรายนอกด่านมากไปหรือไม่ เขาถึงทนนอนบนตั่งไม่ได้เลย“ท่านอ๋อง ฟ้ายังไม่สางดี ท่านควรพักผ่อนอีกหน่อยดีหรือไม่”ฉู่เหวยบอกว่าไม่แล้ว เขาลุกข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status