หลังจากวันนั้นที่พี่สีครามไปส่งใบตองที่บ้านพี่เขาก็หายไปเลย ถ้านับแล้วก็ผ่านมาสองเดือนเต็มที่ไม่เห็นหน้าพี่สีครามหรือกระทั้งกลุ่มเพื่อนของเขาเองก็หายไปด้วย จากหนึ่งวันที่หายไปเป็นหนึ่งอาทิตย์ จนผ่านมาถึงหนึ่งเดือน และปัจจุบันเข้าเดือนที่สองที่พี่สีครามเขาเหมือนค่อยๆ หายไปจากชีวิตของใบตอง แต่ความเสียใจที่โดนย้ำว่าพี่เขาคิดกับเธอแค่น้องสาวก็คอยย้ำเตือนให้เธอเสียใจ จำได้คืนนั้นนอนร้องไห้จนถึงหกโมงเช้าขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าเลย
“น้องใบตองจ๊ะ เหม่ออะไรฮึเรา?” พี่อุ้มเจ้าของร้านและเจ้านายของใบตองเดินมาสะกิดแขนของเธอที่ยืนเหม่ออยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน ตอนนี้เป็นเวลา10.30นาทีร้านพึ่งเปิดได้แค่30นาทีทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการยังมีไม่มาก
“เปล่าค่ะ” ใบตองยิ้มให้พี่อุ้มอย่างคนที่ไม่มีอะไรจะพูดต่อ
“ว่าแต่พรุ่งนี้สิ้นเดือนน้องใบตองก็ทำงานเป็นวันสุดท้ายแล้วเสียดายจัง พอเปิดเทอมพี่ขอให้ใบตองมาช่วยทำงานที่ร้านคาเฟ่เสาร์-อาทิตย์ได้ไหมจ๊ะ พี่จะให้ค่าจ้างสองวัน1000บาท” ด้วยความที่ใบตองเป็นเด็กที่ขยันขันแข็งไม่เคยลาหยุดมาทำงานตรงเวลาทุกวัน พี่เจ้าของร้านเลยอยากให้ทำช่วงเปิดเทอมด้วยอาทิตย์ล่ะ2วัน แค่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์
“ได้เลยค่ะพี่อุ้ม ขอบคุณที่รักเอ็นดูหนูและให้ค่าจ้างเยอะขนาดนั้นดีใจจังเลย” ใบตองยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณเจ้านายสาวที่เอ็นดูเธอ
“ขอบคุณน้องใบตองเหมือนกันที่ยอมมาช่วยงานพี่ตอนเปิดเทอม แล้วก็เที่ยวอเมริกาให้สนุกนะเจ้าเด็กเซ่อ” พี่อุ้มยกมือขึ้นขยี้ผมใบตองด้วยความเอ็นดูเธอ
“เดี๋ยวใบตองจะซื้อของฝากมาให้พี่อุ้มนะคะ แล้วก็ไม่ลืมของพี่แยมพี่แก้มพี่ข้าวหอมด้วยนะคะ” ใบตองคุยเล่นกับพี่อุ้มและพี่พนักงานอีกสามคนที่เธอทำงานร่วมกันมาเกือบ3เดือนเต็ม ระหว่างที่ยังไม่มีลูกค้า
“ว้าวมีของพวกพี่ด้วย ขอบใจล่วงหน้านะน้องใบตองแต่ไม่ต้องมีอะไรพวกพี่ทั้งสามคนก็รักและเอ็นดูหนูอยู่แล้ว น้องสาวคนเล็กของคาเฟ่”
“ไม่ได้หรอกค่ะ อาทิตย์ที่แล้วที่พี่ข้าวหอมกลับบ้านที่นครสวรรค์ยังมีขนมโมจิมาฝากหนูเลย หนูก็ต้องมีของฝากเหมือนกัน” ใบตองไม่ยอมถึงพวกพี่เขาจะเกรงใจแต่ใบตองเต็มใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ของฝากจากเธอราคาอาจจะไม่สูงแต่จะมีให้ทุกคนที่ทำงานในร้านคาเฟ่
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่เกร็งใจนะน้องใบตอง” พี่แยมพูดขึ้นมาแล้วยิ้ม
“อยากได้อะไรเป็นพิเศษบอกหนูมาได้เลยค่ะ” ใบตองยิ้มแย้มด้วยความเต็มใจ
“พี่อยากได้จัสตินบีเบอร์ได้ไหมน้องใบตอง เอามาฝากพี่หน่อยฟังเพลงเขาก่อนนอนทุกคืนเลยชอบมาก” ใบตองถึงกับหลุดขำพร้อมกับทุกคน จะเอาศิลปินระดับโลกมาเป็นของฝากได้ยังไงล่ะเนี้ยเป็นโจทย์ยากสำหรับคนที่พึ่งได้ใช้นางสาวไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
“เป็นของฝากที่เอามายากมากๆ เลยนะนั้นพี่แยมฮ่าๆ หนูจะลักพาตัวเขาแล้วยัดใส่กระเป๋ายังไงตำรวจอเมริกาถึงจะจับไม่ได้ฮ่าๆ” แค่คิดตามทุกคนก็หัวเราะกันลั่นร้านที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการนั่งอยู่ภายในร้าน
กริ๊งงงง
เสียงกริ๊งส่งสัญญาณว่ามีลูกค้ากำลังเปิดประตูเข้ามาภายในร้าน ทำให้เราทุกคนที่คุยกันเสียงดังต้องหยุดนิ่งแล้วต่างยืนยิ้มรอรับบริการลูกค้าที่จะเข้ามาสั่งเครื่องดื่มหรือขนมของร้าน
“ยินดีต้อนรับค่ะคุณลูกค้า!!!”
“เอาเอสเปรสโซ่เย็นหวานน้อย1แก้วครับ” ใบตองกำลังกดพิมพ์เมนูตามที่ลูกค้าสั่งโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่เข้ามาสั่ง จนได้ยินเสียงที่ไม่ได้ยินมาเกือบสองเดือน
“พี่สีคราม!” เสียมารยาทกับลูกค้าแต่เพราะดีใจจนลืมตัว เธอเลยร้องเรียกชื่อเขาเสียงดังยิ้มกว้างให้พี่สีครามด้วยความตื่นเต้นหัวใจเต้นแรง
“และอีกแก้วลงบิลเดียวกันเอาชาเขียวเย็นหวานน้อยนะคะ” ผู้หญิงตัวสูงผมยาวถึงสะโพกหน้าตาสวยตามสมัยนิยมเดินเข้ามาสั่งเมนูและขอลงบิลอันเดียวกับพี่สีคราม ความดีใจแทนที่ด้วยความสงสัยมองดูผู้หญิงตรงหน้าสลับกับพี่สีครามที่ใบตองแสนจะคิดถึง
“อะ…เอ่อได้ค่ะ จะรับขนมอะไรเพิ่มด้วยไหมคะ” หลังจากที่สตั้นไปเกือบนาทีใบตองก็เค้นเสียงพูดออกมาได้ แล้วถามผู้หญิงตรงหน้าแต่สายตาจ้องมองพี่สีครามด้วยความตัดพ้อน้อยใจ อยู่ๆ ก็หายหน้าหายตาไปเกือบสองเดือนพอจะโผล่มาดันมากับผู้หญิงคนอื่นมันหมายความว่ายังไง พวกเขาสองคนเป็นอะไรกัน
“ครามจะเอาอะไรเพิ่มไหม เค้าอยากกินชีทเค้กสักชิ้นด้วย” ผู้หญิงคนนั้นมองตู้ขนมแล้วหันไปพูดด้วยท่าทางอ้อนพี่สีครามท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเข้ากับรูปร่างหน้าตาของเธอ แต่ไม่ใช่กับใบตองที่กำลังเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้แอบมองบนนิดหน่อย นี่ยัยเจ้อายุก็ดูไม่ใช่น้อยๆ แล้วอ้อนผู้ชายเหมือนเด็กปัญญาอ่อนเลยเถอะ
“เดี๋ยวไปหาที่นั่งรอนะ นี่เงินค่าเครื่องดื่ม” พี่สีครามเปิดกระเป๋าตังของเขาหยิบแบงก์พันให้ยัยเจ้คนนั้น เขามองใบตองเหมือนคนกลั้นขำแล้วเดินตรงไปบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นสองของคาเฟ่ ใบตองถลึงตาใส่พี่สีครามอย่างหมั่นไส้
“ตกลงเอาชีสเค้กเพิ่ม1ชิ้นใช่ไหมคะ” ใบตองถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้น้ำเสียงห้วนจนเกินไปสำหรับพนักงานอย่างเธอที่ใช้พูดกับลูกค้า
“ใช่ค่ะ” จากนั้นก็คิดเงินและเอาเพจเจอร์ให้ผู้หญิงปริศนาคนนั้นเพื่อรอคิวที่กำลังเตรียมเครื่องดื่มและขนม
“น้องสีครามสุดหล่อประจำโรงเรียนน้องใบตอง ไม่เห็นหน้าตั้งเกือบสองเดือนโผล่มาอีกทีดันพาผู้หญิงสาวสวยมาด้วยเฮ้อ…คนหล่อรวยก็เลือกได้มีผู้หญิงวิ่งเข้าหาเยอะแยะแบบนี้สินะเรื่องธรรมดาเนอะน้องใบตองว่าไหม” พี่แยมพูดขึ้นแล้วมองตามพี่สีครามและยัยเจ้คนนั้นไป ส่วนใบตองอารมณ์ตอนนี้คืออยากขึ้นไปชั้นสองแล้วถามให้มันรู้เรื่องไปเลยว่าผู้หญิงที่พี่สีครามพามาด้วยเป็นอะไรกันแค่เพื่อนหรือเป็นมากกว่าเพื่อน ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนไปเลย
“น้องใบตอง เฮ้ย!ฟังพี่พูดอยู่ไหมใจลอยไปไหนเนี้ยเรา" พี่แยมโบกมือผ่านหน้าใบตองยิ้มให้อยู่ตรงหน้า ใบตองถึงกับผงะถอยหลังไปสองก้าวแล้วถอดหายใจ ดึงความคิดมโนในสมองกับมาแล้วยิ้มแก้เก้อให้พี่แยม
“เหอะ!เรื่องธรรมดาแบบที่พี่แยมว่ามั้งค่ะ ใบตองขอตัวเอาขยะไปทิ้งหลังร้านก่อนนะ” ไปทิ้งขยะคือข้ออ้างที่จริงเธอกำลังอยากไปสงบสติอารมณ์กำลังร้อนให้เย็นลง ก่อนที่จะกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ถึงตอนนี้ในใจคือขึ้นไปโวยวายพี่สีครามแล้วแต่ก็แค่ความอยากเธอรู้ว่าทำตามใจตัวเองไม่ได้ด้วยหน้าที่การทำงาน ถ้าทำอะไรแบบนั้นไปมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี แต่ยิ่งเจอแบบนี้อย่าคิดว่าใบตองจะยอมแพ้ไม่มีทางเพราะใบตองจะแย้งพี่สีครามมาเป็นของใบตองคนเดียวเท่านั้น!
“น้องใบตองกำลังทำอะไรอยู่ครับ!” กำลังตั้งเป้าหมายเพื่อแย้งพี่สีครามอยู่ๆ ก็มีคนโผล่หน้ามาทักทายโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“กำลังคิดแผนการจะแย้งพี่สีครามอยู่!” ปากพูดไปไวเกินเพราะสมองกำลังคิดแผนการอยู่เลยทำให้เธอเผลอพูดในสิ่งที่กำลังคิดออกไป
“หะ!? จะแย้งไอ้สีครามเนี้ยนะ?” ใบตองจ้องมองหน้าผู้ชายที่อยู่ๆ ก็โผล่มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอชัดๆ และอาฟเตอร์ช็อกเป็นรอบที่สอง
“พะพี่บีม!!!” หายหน้าหายตาไปทั้งกลุ่มเกือบสองเดือนพอโผล่มาทำไมต้องมาเจอแต่เรื่องให้ใบตองต้องช็อกด้วยเฮ้อถอดหายใจด้วยความเหนื่อยใจ
“ใช่แล้วพี่บีมคนหล่อคนเดิมเพิ่มเติมคือกำความลับของใครบางคนแถวๆ ถังขยะเอาไว้ด้วยแหละ”
“โหพี่เปรียบเทียบซะดูเหม็นเลยแถวๆ ถังขยะเลยเหรอ” ใบตองทำหน้าอี๋แล้วถอดหายใจอีกรอบ
“ใช่ถ้าไม่ได้เดินมาทิ้งกล่องนมโฟร์โมสต์รสสตรอว์เบอร์รีที่ถังขยะหลังร้าน คงไม่ได้ยินอะไรดีๆ ของเด็กแก่แดดแถวนี้เข้าให้แล้วหึ” สีหน้าพี่บีมดูภูมิใจที่ได้เสือกเรื่องชาวเราจริงๆ ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก
“เฮ้อตกลงหนูซวยเพราะกล่องนมรสสตรอว์เบอร์รีแค่หนึ่งกล่องใช่ไหมนะ…” จากที่เหมือนเธอจะอับอายกับขอยอมใจในความปัญญาอ่อนของรุ่นพี่ที่กำลังจะขึ้นเกรด12ของโรงเรียนตัวเอง เขากำลังจะเป็นพี่ใหญ่แต่นิสัยแลดูเหมือนเด็กกำลังพึ่งจะเข้าโรงเรียน
“เดี๋ยวๆ ทำสีหน้าแบบนี้กำลังด่าว่าพี่ปัญญาอ่อนอยู่ในใจใช่ไหมน้องใบตอง เดี๋ยวเถอะจะฟ้องไอ้เจว่าเรากำลังรังแกพี่!”
“ฟ้องเลยไม่สน” ใบตองเทขยะทิ้งถังใหญ่หลังร้าน แล้วกำลังจะเดินเปิดประตูเข้าไปภายในหลังร้าน
“เอ่อ…ถ้าไม่สนพี่จะฟ้องไอ้เจว่าน้องใบตองแก่แดด!” เอากับเขาสิพี่บีมเนี้ยจะต้องเถียงให้ตัวเองชนะให้ได้เลยใช่ไหม
“หนูไม่กลัวพี่ไม่ใช่พี่สีคราม ไปทำงานต่อแล้วเดี๋ยวโดนหักเงินเดือน” ใบตองผลักประตูเข้าหลังร้านไม่ได้อยู่คุยกับพี่บีมต่อปล่อยให้เขาพูดอะไรแว่วๆ ตามหลังที่เธอไม่ได้ยินและรับรู้เพราะปิดประตูล็อกหลังร้านเรียบร้อย
หลังเลิกงานใบตองเดินกลับบ้านเองเหมือนทุกวันในเวลา19.45นาที หลังจากปิดร้านเวลา19.00นาทีพนักงานภายในร้านก็ทำความสะอาดและเก็บโต๊ะล้างอุปกรณ์ชงเครื่องดื่มทิ้งขยะและกวาดถูพื้นทั้งชั้นล่างและชั้นบนของคาเฟ่เป็นอันเสร็จงานแล้วต่างก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเองเหมือนทุกวันตลอดที่เธอทำงานมาจะครบสามเดือน“ทำไมไม่นั่งวินกลับบ้าน” ใบตองถึงกับยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงของพี่สีครามที่มาเดินอยู่ข้างๆ กับเธอ“บ้านใบตองเดินไปแค่5นาทีเองเสียดายตัง เดินไปและดูของกินที่ขายข้างทางไปด้วยเผื่อซื้ออะไรอร่อยๆ กลับไปกินที่บ้านด้วย” ใบตองยิ้มไปด้วยขนาดที่พูดมองใบหน้าหล่อๆ ของพี่สีครามอย่างเคลิบเคลิ้ม“อืม” พี่สีครามตอบรับแล้วมองไปข้างหน้าโดยไม่หันมาสนใจใบตองอีก เธอถึงกับยิ้มค้างเก้อสะบัดหน้างอนๆ ใส่คนตัวสูงเอ่อทำเป็นไม่สนใจกันแบบนี้คิดว่าทำเป็นอยู่คนเดียวเหรอไงใบตองก็ทำเป็นเหมือนกันเชอะ“อาบังหนูเอาโรตีใส่ไข่หนึ่งอันแล้วก็อีกอันเอาใส่กล้วยช็อกโกแลตค่ะ” ใบตองเดินๆ อยู่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบมองไปเห็นร้านโรตีเจ้าดังที่ปกติจะมีคนต่อแถวรอยาวมากแต่วันนี้ไม่มีลูกค้า นับว่าวันนี้เป็นโชคดีของเธอเพราะปกติจะไม่ได้กินเพราะเธอขี้
วันเปิดเทอม“ใบตองของฝากสำหรับแก” เบลส่งกล่องของขวัญที่ห่ออย่างบิดเบี้ยวเอ่อนั้นเรียกว่าผูกโบหรือเปล่านะ“…” ใบตองจับกล่องพลิกไปมามองสำรวจ“โอ๊ยนี่เพื่อนตั้งใจห่อมากๆ เลยนะ แต่ทำได้ดีสุดเท่านี้จริงๆ เฮ้อห่อกล่องของขวัญตั้งห้ารอบ เบลว่างานฝีมือไม่ใช่ทางจริงๆ” ยัยเบลบ่นเมื่อเห็นสายตาของใบตอง เธอยิ้มให้เพื่อนแล้วกระโดดกอดตบบ่าอย่างให้กำลังใจ“เอาตรงๆ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แกฝึกห่อบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละอย่าท้อสิเพื่อนรัก”“หวังว่าจะดีขึ้นนะ งั้นพรุ่งนี้เบลจะลองห่อข้าวกล่องมากินตอนเช้าเพื่อฝึกฝีมือ!” เบลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสายตาเธอดูมุ่งมั่นมาก“ส่วนนี้ของนัทตี้ ไม่ได้ห่ออะไรนะใส่ถุงมาเลยเพราะฉันก็ไม่ต่างกับยัยเบลฝีมือไม่ได้เรื่องเหมือนกันเฮ้อ” นัทตี้ยื่นถุงของฝากจากต่างประเทศให้ใบตอง“ขอบใจพวกแกสองคนมากๆ เลยนะ ส่วนสองกล่องนี้ให้พวกแกเป็นของฝากจากใบตอง” ใบตองยื่นกล่องของฝากให้เพื่อนสนิททั้งสองของเธอ“โอ้โหทำไมแกห่อกล่องของขวัญสวยแบบนี้ใบตอง!!” เพื่อนสนิททั้งสองคนร้องตะโกนเสียงดังแล้วจับกล่องของขวัญมองสำรวจ“แกก็พูดเว่อร์ไม่ขนาดนั้น ไหนขอแกะกล่องของขวัญเลยนะคะ” พวกเราสามคนนั่งอยู่ในห้อ
“ฉันเข็ดไปจนวันเรียนจบแล้วพวกแก” เบลคำครวญหลังจากทำความสะอาดห้องน้ำห้องสุดท้ายเสร็จ พวกเราสามคนถึงกับนอนลงกับพื้นโดยที่ไม่รังเกียจว่ามันจะสกปรกเลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ร่างกายมันเหนื่อยจนลุกไม่ไหวมันเป็นแบบนี้นี่เอง พวกหนูเข็ดแล้วจะไม่ทำอีกแล้วอะไรที่ผิดกฎของโรงเรียน“จริงไม่กล้าแล้วค่า” นัทตี้พูดขึ้นอีกคน ส่วนฉันทำเพียงพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนๆ อย่างคนที่เหนื่อยจนพูดไม่ออก“ว่าแต่แกจะเดินกลับบ้านไหวไหมใบตองติดรถกับฉันกลับเดี๋ยวให้คนขับรถแวะไปส่งนะ” ปกติฉันจะเลือกปฏิเสธเพื่อนสนิททั้งสองเสมอ เมื่อพวกมันสองคนอาสาจะไปส่งที่บ้านเพราะด้วยความเกรงใจเพื่อนๆ แต่ตอนนี้คงต้องพยักหน้าตอบตกลงแล้วเพราะคงเดินกลับไม่ไหวแน่ๆ เย็นนี้“อื่อตกลง” จากนั้นเราทั้งสามก็ลุกขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนบนห้องเรียนแล้วกลับบ้าน โชคดีที่วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกไม่มีการบ้านอะไรที่ครูสั่งเพราะถือว่ายังไม่ได้เริ่มเรียนแต่เป็นวันที่ครูเล่าแจกแจงเนื้อหารายวิชาที่จะต้องเรียนในเทอมนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสามคนคงไม่มีการบ้านส่งแน่ๆ กลับถึงบ้านหัวถึงหมอนคงนอนหลับยาวถึงเช้าเหนื่อยขนาดนี้หน้าบ้านใบตอง“ขอบใจที่มาส่งนะเบล
วันเวลาผ่านไปถึงวันกีฬาสีประจำปีมาถึงทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนคึกครื้นเพราะถือว่าเป็นสัปดาห์แห่งการแข่งกีฬาแทบจะไม่ต้องเข้าเรียนทั้งสัปดาห์ยิ่งคนเป็นนักกิจกรรมยิ่งวิ่งวุ่นทำกิจกรรมทั้งวัน"พี่สีครามอยู่สีเดียวกับห้องเราด้วย ใครจะคิดว่าผู้ชายหล่อๆ เวลารับตำแหน่งประธานสีจะดุขนาดนั้น แกเลิกชอบเถอะใบตอง" ยัยเบลทำหน้าตาสยอง ภาพพี่สีครามคุมซ้อมแสตนเชียร์ลอยเข้ามาในหัวตะโกนสีหน้าเขร่งขรึมพร้อมจะลงโทษคนผิดจังหวะ โอ๊ยน่ากลัวจริงๆ"อืมน่ากลัวจริงพวกแก ส่งสารน้อยมอต้นที่ต้องขึ้นแสตนเชียร์เลยพวกแก" ฉันสะดุ้งยิ้มแหย่ๆ ด้วยความเห็นด้วยกับเพื่อนๆ พูดถึงพี่สีคราม"นัทตี้เคยได้ยินพี่น้ำลูกพี่ลูกน้องที่อยู่มอหกเล่าว่าพี่สีครามโหดเอาเรื่องเลย เขาเคยยกพวกตีกับโรงเรียนพาณิชย์ที่อยู่อีกสองซอยนี้เอง สภาพฝ่ายตรงข้ามเลือดอาบทุกคน!" ยัยนัทตี้ผู้มีสายข่าวเยอะพูดอแกมาอย่างออกรส"ไม่มั้งจากที่ใบตองได้สัมผัสนิสัยพี่สีครามดีมากเลย ข่าวเลื่อนลอยเกินจริงหรือเปล่า" ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดพี่สีครามของฉันออกจะเป็นคนดีสุภาพบุรุษชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน"จริงและไม่ใช่แค่พี่สีครามยังมีเพื่อนของเขาทั้งกลุ่มเลย แกไม่ค่อยสนใจใค
หลังจากจบงานกีฬาสีก็เข้าสู่ช่วงเวลาเรียนเหมือนปกติที่เริ่มจะเข้มข้นเพราะมีเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนกว่าๆ ก็จะเข้าสู่เดือนสอบปลายภาคแล้ว"ช่วงหลังกีฬาสีคือช่วงเรียนต่อที่เข้มข้นประจำปีเฮ้อจะอ้วกออกมาเป็นตัวหนังสือแล้วตอนนี้"เบลบ่นฟุตหน้าลงกลางหนังสือที่เปิดกางเอาไว้อยู่"เห็นด้วยจะอ้วกแล้วแม่" นัทตี้ฟุตหน้าลงกับหนังสือไปอีกคนด้วยความอ่อนล้าอาจารย์ที่สอนเสร็จแล้วสั่งงานกลุ่มและงานเดี่ยวติดกันสองชิ้นเร่งส่งก่อนสอบปลายภาคเท่าน้้น ไม่อย่างนั้นต้องติดF"ใช่เลยสั่งงานเยอะมากจริงๆ คราวนี้" ฉันเห็นด้วยกับเพื่อนๆ ที่บ่นไม่หยุด ก้มมองหัวข้อที่จดใส่กระดาษเอาไว้แล้วปรากฏว่าช่วงนี้สั่งงานทุกวิชาพร้อมกันอย่างกับนักเรียนมีคนล่ะสิบมือถึงจะว่างทำทันทั้งหมด"พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้านเถอะวันนี้"หน้าโรงเรียนฉันโบกมือลาเพื่อนๆ แล้วเดินกลับบ้านเองเช่นทุกวัน"อ้าวน้องใบตองนี่ครับ" พี่ลีเพื่อนพี่สีครามเหลือบสายตามองมาเห็นฉันพอดีขนาดที่พวกพี่เขาทั้งกลุ่มกำลังยืนเกาะกลุ่มเหมือนคุยกันอยู่ข้างรั้วโรงเรียน"สวัสดีค่ะพี่ๆ" วันนี้ไม่เพียงมีแค่พวกพี่เขาทั้งสี่คนเหมือนปกติยังมีผู้หญิงอีกสองคนยืนอยู่ในกลุ่มด้วย"สวัสดีครั
ฉันรู้สึกว่าน้ำตาของตัวเองกำลังไหลออกมาไม่หยุดความรู้สึกเจ็บแป๊บอยู่ภายในใจ ตอนนี้เริ่มจินตนาการว่าพี่สีครามกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกันภาพที่พวกเขาจะสวีทหวานกันก็ฉายออกมาเป็นเรื่องราวฮื่อๆ ทำไมคนไม่สมหวังต้องเป็นใบตองคนนี้ด้วย"เหมี่ยว!เหมี่ยว!เหมี่ยว!""โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!" ฉันที่กำลังอารมณ์อกหักเศร้าเสียใจเหมือนในเอ็มวีต้องหยุดสะงักอารมณ์ทันที"ไอ้เจ้าชาแปงไอ้ชาเปามาส่งเสียงดังอะไรตอนนี้มันใช่เวลาไหมเนี้ย!" ฉันร้องตะโกนขึ้นด้วยความขัดใจสุนัขกับแมวเพื่อนชี้ต่างสายพันธุ์สองตัวที่ถีบประตูจนเกิดเสียงดังอยู่กน้าประตูห้องนอนตอนนี้"โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!"ปังๆ ตึกๆเสียงดังเร่งให้ฉันเดินไปเปิดประตูให้พวกมันสองตัว เฮ้อชีวิตมีน้องๆ เป็นสุนัขกับแมวนี้จะต้องไม่ให้มีเวลาเศร้าอกหักกันเลยหรือไง"มาแล้วๆ" ฉันเช็ดคราบน้ำตาออกแล้วถืออุปกรณ์การทำรายงานออกไปทำที่หน้าทีวีกับคุณยาย"โฮ่ง!เหมี่ยว!" เจ้าลูกสุนัขลูกแมวต่างกระโดดเข้ามาคลอเคลียอ้อนฉันกันอย่างประจบ"คุณยายใช้ให้มาตามพี่ใบตองสินะ เฮ้อไป!ลงไปข้างล่างกัน" เจ้าชาเปาเจ้าชาแปงรีบวิ่งลงไปข้างล่างนำหน้าฉันทันทีท่าทางพวกมันสองตัวจะวิ่งแข่งกันเล่นอย่างซุกซนจนทำให
"หืมเข้าใจ?" พี่สีครามยังจะมาถามเพื่อความแน่ใจของเขาอีกเหรอ"ค่ะก็ใบตองเข้าใจเรื่องที่สงสัยแล้ว" ใบตองยอมรับความจริงที่กลัวมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายความจริงที่ได้รับเธอก็ไม่สามารถหนีมันพ้นอยู่ดี"พี่คิดว่าเรากำลังคิดไปไกลแล้วนะใบตอง" เสียงผู้ชายตรงหน้าเข้มดุขึ้นอย่างแปลกกว่าปกติจนฉันที่กำลังเหม่อลอยก็ยังสัมผัสมันได้"ไม่ได้คิดไปไกลเสียหน่อย ก็พี่สีครามกับพี่ผู้หญิงคนนั้นกำลังคบกันไม่ใช่เหรอคะ!" เขาจะจี้ให้เธอพูดถึงว่าเขากำลังคบกับผู้หญิงคนอื่นให้ฉันที่แอบชอบเขาไปทำไมกัน"พี่ไม่ได้คบกับเมย์เป็นแฟนกันแล้วครับตอนนี้ ที่บอกว่าไม่เชิงเพราะตอนม.4เคยคุยคบกันอยู่1อาทิตย์ แล้วก็เลิกกันมาจะสองสามปีแล้ว เหลือไว้เพียงความเป็นเพื่อนต่างห้องที่รู้จักกันเท่านั้นเข้าใจไหมครับ" ใบตองมองพี่สีครามพูดออกมาด้วยประโยคยาวๆ ของเรื่องราวที่ใบตองกำลังเข้าใจผิดแบบกระจ่าง"พี่สีครามพะพูดจริงเหรอคะ" น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจอย่างปิดไม่มิดของใบตองรู้สึกเลยว่าตอนนี้แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่แล้ว"เอานี่เดี่ยวเด็กแถวนี้จะไม่ยอมเชื่อ!" พี่สีครามกดโทรออกหาพี่เมย์ตามที่เขาบันทึกรายชื่อเอาไว้รอไม่นานปลายสายก็กดรับ"ฮัลโหลสีครามม
"อืมคือว่า..." ใบตองหยุดด้วยความเขินอายเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจ้องมาอย่างรอคอยคำตอบจากปากของเธอ"ว่า!?" สองสาวต่างกดดันให้เธอรีบๆ เล่าออกมาเดียวนี้"เอ่อๆ เล่าแล้วสรุปพี่สีครามกับพี่เมย์ไม่ได้คบกัน" ใบตองรีบตอบแบบเคลียร์ให้จบๆ แบบไม่ลงรายละเอียดจะได้กระชับเข้าใจง่ายเพราะตอนนี้คนเข้ามานั่งเยอะจนเต็มทุกโต๊ะแล้วดูท่าจะไม่เหมาะที่จะเล่าแบบลงรายละเอียดกันเดียวคนอื่นได้ยินจะเอาไปนินทาต่อ"ว่าอยู่ทำสีผน้าดูดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ" นัทตี้พูดขึ้นพยักหน้าเออออ"แล้วใบตองนั่งเหม่อลอยอะไรตั้งนาน" เบลถามอย่างสงสัย"เดียวบอกในแชทนะ" ใบตองหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความเหล่าเรื่องและบอกเพื่อนสนิททั้งสองว่าตอนนี้เธอคบกับพี่สีครามเป็นแฟนแล้ว"จริงดิ๊!!" สองสาวเงยหน้าจากจอขึ้นมาถามพร้อมๆ กัน สีหน้าตกใจสุดขีด"จริงพี่เข้าพูดขอใบตองเองเมื่อกี้" เธอพูดด้วยความเขินอายจนต้องหันไปมองทางอื่นเพื่อหลบหลีกสายตาของเพื่อนทั้งสองคน"โอ้ไม่อยากจะเชื่อ" เบลเอามือทาบอกอ้าปากค้างด้วยความตกใจ"ไม่ๆ ต้องบอกว่ายินดีด้วยนะเพื่อน!!" เบลจับมือของใบตองเขย่าด้วยความตื่นเต้นเมื่อตั้งสติได้"ใช่ๆ ยินดีด้วยนะใบตอง" นัทตี้ก็เ
"อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้วครับอดทนหน่อยนะ" พี่สีครามจับมือใบตองกระชับแล้วปล่อยกลับไปขับรถมองมือเหมือนเดิมเมื่อถึงแยกที่ต้องเลี้ยว"ตื่นเต้นจังเลยพี่สีคราม" บอกแฟนตัวเองเสียงสั้นอย่างควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต้องปล่อยให้ใบตองต้องตื่นเต้นนานเกินไปเพราะบ้านของคุณยายพี่สีครามที่เป็นมรดกให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองนักถือว่าเข้าเมืองสะดวกไม่ได้ไกลเหมือนรีสอร์ทและไร่ของเขาที่เป็นธุรกิจของครอบครัวตอนนี้"ถึงแล้วครับใบตอง" พี่สีครามกดรีโมทเปิดรั้วบ้านแล้วเคลื่อนรถเข้าไปในรั้วบ้านจอดรถเอาไว้โรงรถที่มีรถยนต์สองคันสองเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว"ค่ะ" ใบตองเอาแต่แอบแหล่ตามองสำรวจบ้านสองชั้นสไตล์ล้านนาประยุกต์ปรับปรุงขึ้นใหม่แต่ยังเหลือเค้าโครงเอกลักษณ์ให้ได้เห็นอยู่"เอ้าใบตองลงมาได้แล้วเรา" แฟนหนุ่มฉถดแขนดึงให้เธอลงจากรถ"ค่ะ" ใบตองเกรงเดินตามหลังพี่สีครามรู้สึกว่าตนเองขาสั้นจนเดินแทบไม่ไหว"คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมพาแฟนมาแนะนำครับ" พี่สีครามจูงมือใบตองเดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีชายหญิงวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งคุยกันรออยู่ในห้องรับแขก"อืม!" คุณพ่อหันมายิ้มบางๆ พร้อมพยักหน้ารับ"..." ส่วนคุณแม่เพี
เมื่อตอนเย็นพี่สีครามพาฉันไปหาข้าวเย็นกินในห้างดังในเมืองพอกินเสร็จก็เดินซื้อของก่อนที่เขาจะมาส่งที่หอ"พี่สีครามขับรถกลับคอนโดดีๆ นะคะ""ครับ แต่ว่าคืนนี้พี่มีนัดกับเพื่อนออกไปเที่ยวร้านเหล้านะ" ฉันไม่ได้บังคับให้เขารายงายอะไรตัวเอง ให้อิสระในการใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่เราจะกลับมาเป็นแฟนกันได้ตามสบาย"ค่ะ พี่สีครามก็จะดื่มเยอะมากถ้าขับรถไม่ไหมก็เรียกรถจากแอปให้ไปรับนะมันอันตรายใบตองเป็นห่วง" พี่สีครามยิ้มรั้นฉันเข้าไปกอดแต่ไม่ต้องห่วงว่าจะดูประเจิดประเจ้อจนคนเอาไปนินทาเพราะว่าคนของเขาติดฟิล์มดำมืดมองเขามมาไม่เห็นข้างใน"ครับ แต่หอมแก้มพี่หน่อยสิ" เขาอ้อนฉันพร้อมกับยื่นแก้มเข้ามารอ"ฟอดฟอด""พอใจยังคะ" พอหอมเสร็จฉันก็ดันตัวออกจากออ้อมกอดของเขา"พอใจแล้วครับ" พี่สีครามยิ้มหน้าบานที่ได้สมใจเขาแล้ว"ถ้าอย่างนั้นใบตองไปแล้วนะบายบ่ายค่ะ" พอลากันแล้วเธอก็ออกจากในรถเดินเข้าหอตามปกติแต่ว่าอยู่ๆ เจมส์ก็เข้ามายืนขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน"เจมส์!" ถึงเราจะไม่ได้คบกันแต่ก็ยังคุยๆ กันแต่ฉันดันลืมเขาไปได้หลังจากตกลงคบกับพี่สีครามเมื่อคืนไม่น่าเลยยัยใบตองสมองทึบเอ้ยเธอทำอะไรลงไปเนี้ย"ขอเจมส์คุยด้วยได้ไหม
"พอแล้วใบตองไม่ไหวแล้ว" หลังจากเสร็จสมกันแล้วอยู่ๆ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวเธอก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากประสบการณ์เมื่อครู่สอนให้เธอรู้ว่าเขาต้องการมันอีกครั้ง"แต่พี่ยังไม่พอ" พี่สีครามซุกไซร์ดูดสองเต้าอย่างหลงไหลสร้างความเสียวให้กับฉันไม่หยุด"แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของใบตองมันไม่ไหวแล้วพี่สีคราม" ฉันจับหน้าหล่อหน่าที่เงยขึ้นมาสบตากันของเรา"อืมก็ได้ครับ" พอเห็นสีหน้าอ่อนล้าซีดเชียวของเธอทำให้เขายอมผละตัวออกแม้จะเสียดายก็ตาม"ไปอาบน้ำอุ่นล้างตัวแล้วเข้าไปนอนพักบนเตียงนุ่มๆ ดีกว่าครับ" พี่สีครามอุ้มใบตองเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้วพามานอนบนเตียงของเขาทำเพียงนอนกอดเอาไว้"นอนสักตื่นแล้วเดียวพี่สั่งอาหารเย็นมาให้กินรอบดึก" เขาจูบหน้าผากของฉัน ที่พยักหน้ารับไม่มีแรงแม้จะพูดคุยกับเขารู้สึกว่าครั้งแรกใช้พลังงานไปมากจนเกินไปแล้ว"ใบตองครับลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยค่อยหลับต่อ" แรงเขย่าให้รู้สึกตัวจากเจ้าของเสียงอันคุ้นเคยปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น"อื่อกี่โมงแล้วค่ะพี่สีคราม" พอตื่นเต็มตาเรื่องราวตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนี้ก็ไหลเข้ามาจนรู้สึกเขินอายที่เรามีอะไรกันครั้งแรก"สี่ทุ่มครับ ตอนเย็นกินน้อยล
"ใบตองคุยกับใครเหรอ" ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินสุกี้เป็นมื้อเย็นกับพี่สีครามหลังจากกลับมาจากเที่ยวร่วมเดือนแล้ววันนี้แรกว่าเป็นวันแรกในรอบเดือนที่ฉันได้เจอหน้าเขา"อ่อคนคุยค่ะ" ก็ในเมื่อฉันกับพี่สีครามเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจะเลือกว่าคนคุยก็ไม่ชัดเจนขนาดเจมส์ที่เข้ามาจีบฉันตลอดเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ"เดียวนะมีคนมาจีบใบตองเหรอ?" พี่สีครามถามเสียงขรึมมองมายังฉันดุๆ แต่ตัวฉันที่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาเลยจ้องกับพร้อมพยักหน้าตอบรับ"ใช่ค่ะ เขาเรียนวิดวะปี2อายุเท่ากันจีบใบตองมาเดือนกว่าแล้วแต่เรายังไม่ได้ตกลงคบกันหรอกนะคะตอนนี้""แล้วเรื่องของเราละ" สีหน้าพี่สีครามแสดงออกว่าเขากำลังโกรธไม่พอใจกับสิ่งที่ฉันกำลังบอกเล่าให้เขาฟังด้วยท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลยแบบนี้"อ่อเราสองคนก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามที่พี่สีครามบอกอย่างไงละค่ะ""เลิกคุยกับมันซะ!" ใบตองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ วางซ้อนรวบไว้ชามสุกี้แล้ว"ก็ใบตองโสดมีสิทธ์คุยกับใครก็ได้ไม่ได้ทำอะไรผิดชักหน่อย" พี่สีครามเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลขึ้น"ไม่ผิดแต่ไม่ได้!" เขาจ้องเขม็งเหมือนจะเอาเรื
"แหม่ๆ กักเหรอเปล่าวะไอ้คราม" เพื่อนคนแรกของเขาแซวออกมา"ไอ้ครามแม้งตรงโว้ย!" เสียงเพื่อนคนที่สองของเขาพูดขึ้นตามมา"กูแม้งเดาถูกว่ะ" เพื่อนคนที่สามหันไปชกมือกับเพื่อนอีกคนของเขาพวกพี่ๆ ผู้ชายต่างเอ่ยปากแซวไม่หยุดกันอย่างคึกครื่นขึ้นมา แต่คนที่มีส่สนเกี่ยวข้องอย่างฉันกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้าง"พวกมึงพอๆ ได้แล้วแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่จองเอาไว้กันได้แล้ว" พี่สีครามบอกพร้อมกับผลักเพื่อนให้เลิกพูดแซวแล้วแยกย้ายกัน"เอ่อๆ ดูมันไล่พวกเราโว้ย" เพื่อนของพี่สีครามต่างโวยวายเสียงดังเหมือนกำลังแกล้งเขามากกว่าแล้วต่างแยกย้ายออกไปจากห้องอาหาร"ไปกันเถอะใบตอง" ฟ้าจับแขนฉันเขย่าเพื่อตามพวกพี่ๆ ไปเที่ยวในโปรแกรมต่อ"อือไปก็ไป" น้ำอิงกับฟ้าเดินไปพร้อมกับใบตองโดยไม่ได้พูดแซวแต่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดกิจกรรมแอดเวิร์นเจอร์ต่างๆ ที่มีให้ทำเช่นโหนสะลิงค์ลงจากที่สูง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าให้ความรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็สนุกมากเช่นกันหลังจากเล่น พวกเรานอนค้างอีกหนึ่งคืนแล้วก็กลับไปยังมหาลัยแต่เช้าเพื่อให้ได้พักก่อนจะต้องกลับไปเรียนหอพัก"นั่งลงตั้งหลายชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงห้องสักที" น้ำอิงพูดขึ้นพร้อมจะทิ
"กว่าจะมาได้นะครับเสี่ยคราม!" พี่สีครามเดินเข้ามาในชุดเดิมตอนออกไปทำงานเมื่อตอนบ่าย"โทษทีนะพวกมึงกว่าจะเสร็จมีปัญหานิดหน่อยดีที่แก้ไขแล้วเสร็จเร็ว" พวกเพื่อนของเขาพยักหน้ารับ"พวกกูแค่แซวมึงเฉยๆ เข้าใจมึงไปทำงานไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวเหมือนพวกกูเป็นกำลังใจให้โว้ยเพื่อน!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตบบ่าให้กำลังใจขนาดที่เดินไปนั่งลงวงเหล้าของพวกผู้ชาย"เออๆ ขอบใจ มาๆ ตั้งเตากินดื่มกันได้เต็มที่เลย" เมื่อเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของสถานที่พูดเปิดกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายก็เริ่มเปิดเหล้าพร้อมกับปิ้งย่างกันควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วเพราะถูกจุดพร้อมๆ กันหลายเตาจากทีแรกที่เตาของพวกผู้หญิงมีแต่น้ำหวานก็ถูกแทนที่ด้วยแอลกอฮอร์จากต่างประเทศอย่างเช่นโซจูที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคอซีรี่ย์เกาหลีมีให้เห็นจนอดไม่ได้ที่จะไปซื้อมาลิ้มลองกันอย่างแพร่หลาย"เอ้าชน!!!" เสียงเฮฮาของกลุ่มวัยรุ่นดังขึ้นจากทีแรกที่ใบตองและเพื่อนอีกสองคนแอบเกร็งเพราะอายุน้องที่สุดและไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมคณะกันเหมือนพวกพี่เขาก็เริ่มคุ้นชินจนเข้ากันได้ดีทำให้เกิดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะกัน"ฮึก!ไม่ไหวแล้วค่ะพี่มินพอก่อน" ใบตองยกมือขึ้นห้
"อือเริ่มรู้สึกดีแล้ว" ใบตองรับยาดมมาดมเองพอมือว่างจากการจับยาดมแล้วน้ำอิงก็ไม่อยู่เฉยมีการบีบนวดตามต้นคอบ่าไหล่ให้กับใบตอง"เอาดื่มน้ำหวานจะได้สดชื่น" พี่สีครามหายปแล้วกลับมาพร้อมน้ำหวานหนึ่งขวดให้ฉันดื่ม"ขอบคุณค่ะ" เขาพยักหน้ารับ"เอานี้กุญแจห้องพวกมึงส่วนค่าห้องจ่ายคนล่ะห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลงกันไว้นะโว้ย" พี่สีครามพูดขึ้นพร้อมกับแจกจ่ายให้กุญแจห้องพักให้กับเพื่อนของเขา"เอ่อขอบใจมากเพื่อน" มองดูแล้วก็นับคร่าวทั้งเพื่อนผู้ชายและผู้หญิงสิบคนได้ก็รถตั้งสี่คันคนย่อมเยอะเป็นธรรมดาแล้วคือเธอดันมาเมารถอยู่คนเดียวน่าขายหน้านัก ใบตองได้แต่ยิ้มเจือนตอบรับการทักทายของรุ่นพี่เพื่อนพี่สีคราม"ให้น้องไปพักเถอะสีครามดูหน้าไม่ค่อยจะไหวแล้วนะมึง" เพื่อนครหนึ่งของเขามองมายังฉันอย่างเห็นใจส่วนคนอื่นๆ ก็มีมองมาแต่หลากหลายอารมณ์ตามปะสาคนที่ไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่"เอ่อๆ พวกมึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วถ้าอยากทำกิจกรรมอะไรก็มาบอกที่เคาท์เตอร์เดียวพวกเขาจัดโปรแกรมให้อันนี้กูสั่งไว้แล้วฟรีได้เลย""ขอบใจมากเสี่ยคราม" เพื่อนอีกคนของพี่สีครามแซวเขา ส่วนเจ้าตัวก็หยักไหล่แบบยอมรับแล้วพากันเดินไปยังห้องพักต
ข้อความถูกส่งเข้ามาหลายครั้ง ทำให้ฉันจำต้องวางปากกาที่จดสรุปลงไว้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา"พี่มาถึงแล้ว" พร้อมทั้งรูปถ่ายใบหน้าหล่อเหลายิ้มแฉ่งนับสิบรูปถูกส่งเข้ามาในไลน์ไม่หยุด"โอเคค่ะเดียวใบตองลงไปนะ" เธอบอกเขาแล้วหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสะตังค์เพราะว่าคิดจะแวะไปเซเว่นเพื่อซื้อของกินมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นที่ของกินกำลังจะหมดลง"มาแล้วค่ะ รอนานไหม" ใบตองยิ้มให้คนตัวสูงที่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์เช่นเดิมเพราะเขาวางเครื่องลงก็เห็นเกมส์ในหน้าจอแสดงอยู่ฉันถึงรู้"ไม่นานครับ พี่ซื้อทั้งข้าวทั้งขนมและของกินเล่นมาให้เราหลายอย่างเลยกินกันเถอะ" พี่สีครามเปิดข้าวกล่องให้ฉันแล้วเลื่อนมาตรงหน้า"ขอบคุณพี่สีครามมากนะคะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณน้ำใจของเขา"ไม่เป็นไรครับ" เขาพยักหน้ารับ"แล้วค่าข้าวพวกนี้เท่าไหร่คะเดียวใบตองออกเงินช่วย""ไม่ต้องหรอกครับ ถือว่าพี่เลี้ยงแล้วกันมื้อนี้" พอเขาพูดมาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเกรงใจขึ้นมาเลย"ไม่เอาค่ะ ใบตองเกรงใจขอจ่ายตังค์ช่วยนะ" ฉันไม่ยอมแพ้และไม่อยากเอาเปรียบเอามากนัก"แต่พี่ไม่เอาครับเต็มใจเลี้ยง กินเถอะจะได้รีบขึ้นไปทำรายงานต่อยังไงล่ะ" เอาส่ายห
"นี่คือเหตุผลที่แม้กระทั้งโซเซียลพี่สีครามก็ไม่อัพเดรสอะไรเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..." พอคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเจอกับความยากลำบากของชีวิตที่ถาโถมเอาใสคงไม่ใช่ว่าจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่โดนฉันบอกเลิกหรอกนะ"นั้นก็ใช่ แต่ว่ามันมีอีกเหตุผลนึงที่ไม่อยากเล่นโซเซียล" พี่สีครามที่ได้ยินฉันพึมพำกับตัวเองก็เฉลยออกมา"อีกเหตุผลนึงคืออะไรพอบกได้ไหมคะ" เราสองคนมองสบตากันนิ่ง ฉันมองเขาอย่างรอคอยคำตอบส่วนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยบอก"เพราะใบตองยังไงล่ะ" พอได้รับคำตอบที่คาดการเอาไวว้ในใจก็ถึงกับหน้าเสียเพราะตนเองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะลบออกไปแม้กระทั้งโลกโซเซียลก็ไม่เล่นเพราะไม่อยากจะเห็นแม้กระทั้งรูปถ่าย"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยครับ พี่ไม่ได้จะหมายความแบบที่ใบตองกำลังคิดอยู่แน่" สติเริ่มกับมาเมื่อเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองใบตองก็มีความโล่งใจเกินขึ้น"แล้วทำไม""เพราะคิดถึง" จากที่หน้าซีดฉันรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนพร่าวและขึ้นสีแดงระรื่นแน่นอนตอนนี้"..." หาคำพูดมาต่อบทสนทนาของเราได้อีกต่อไปเลยทีนี้"เอ้าเงียบเลย แล้วใบตองไม่คิดถึงพี่บ้างเลยเหรอครับ" คำถามของเขาเหมือ