ที่โรงพยาบาล คิริต้า หรือครีมหอม นั่งอยู่ในห้องพักของคนเป็นพ่อ เธอนั่งมองพ่อที่หลับอยู่ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว ก่อนจะเพิ่งเห็นว่าเขาเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“ อ้าวครีมหอม ลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่ปลุกพ่อ “
“ ฉันเห็นว่าคุณกำลังหลับเลยไม่อยากรบกวน “ ผู้เป็นบิดาพยายามจะลุกนั่ง ครีมหอมจึงเข้าไปช่วยปรับเตียงให้ แล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงเหมือนเดิม
“ ได้ยินพี่เคเปอร์บอกว่า ลูกยอมไปอยู่กับเสี่ยโอมเพื่อให้เขาช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พ่องั้นหรือ?” ครีมหอมยิ้มเล็กน้อยให้กับคำถามและพยักหน้า
“ ใช่ค่ะ “
“ พ่อขอโทษน่ะที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกลำบาก “
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันอยู่กับเสี่ยโอมก็ไม่ได้ทุกข์ยากลำบากอะไร ที่สำคัญ ถึงคุณจะไม่ได้ตั้งใจให้ฉันเกิดมา แต่ยังไงคุณก็ทำให้ฉันเกิดมาแล้ว คุณก็คือผู้มีบุญคุณคนหนึ่งในชีวิตของฉัน “ ครีมหอมพูดทั้งคิดเห็นวันนั้น วันที่คงยุทธพูดว่าไม่ได้ตั้งใจให้เธอเกิดมา แล้วก็น้ำตาไหล เธอลุกและหันหลัง
“ เมื่อไหร่ครีมจะเรียกพ่อว่าพ่อสักที ถึงจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ครีมก็เป็นลูกของพ่อ เป็นสายเลือดเดียวกันกับพ่อน่ะ “ คงยุทธพูด ครีมหอมก็ทำได้เพียงยืนฟังเงียบ ๆ จนมาลาลัยเปิดประตูเข้ามา
“ นังครีม แกมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง “
“ คุณนั่นแหละมาลา คุณไปไหนมา ทำไมถึงเพิ่งจะมาให้เห็น “ คงยุทธพูดทักเมีย
“ ฉันก็นึกว่าครีมหอมจะไปต่างประเทศกับเสี่ยโอมเสียอีก นี้เสร็จธุระแล้วใช่ไหม “ มาลัยหันไปพูดกับครีมหอม ครีมหอมจึงหลบสายตาแล้วหันหน้าไปทางอื่น
“ ถ้าหมดธุระแล้วก็กลับไปสิ! จะมาอยู่แย่งอากาศฉันหายใจทำไม “
“ มาลาลัย!! “ คงยุทธทำได้เพียงร้องเรียกชื่อเมีย และมองลูกสาวที่กำลังเดินออกไป
“ อะไรกันคะ คุณปลื้มมันมากเลยหรือคะ ที่มันยอมไปขายตัวมาจ่ายค่ารักษาให้คุณน่ะ “ พอได้ฟังที่เมียตอบกลับมาเช่นนั้น คงยุทธก็รู้สึกเบื่อหน่ายมาก เขาจึงได้หันหน้าหนีไปทางอื่น
ครีมหอมเดินหน้าแดงออกมาจากห้องของคงยุทธทั้งรีบเดินจนลืมมองทางแล้วไปชนเข้ากับคน ๆ หนึ่ง
“ โอะ ขอโทษค่ะ ขอโทษจริง ๆ อะ พี่เทียน ! “
“ อ้าว ครีม “
ครีมหอมได้พบกับแท่งเทียน ซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และเขาก็เป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมของเธอ ซึ่งแท่งเทียนนั้นได้เข้ามาทำงานในเมือง ทั้งสองจึงได้มานั่งคุยกันอยู่ที่คาเฟ่ ในโรงพยาบาล
“ พี่มาหางานทำที่นี้เหรอพี่เทียน?”
“ ใช่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าพี่จะได้มาเจอครีมที่นี้ ครีมเป็นอะไรหรือเปล่า “ เทียนถามด้วยความเป็นห่วง
“ หน้าครีมเหมือนคนป่วยหรือคะ?”
“ ก็ไม่น่ะ พี่แค่ไม่คิดว่า จะมาเจอครีมอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้ “
“ คนที่เป็นไม่ใช่ครีมหรอกค่ะ แต่เป็นคุณพ่อ”
“ แสดงว่าครีมได้เจอกับคุณพ่อแล้วสิ ไม่น่าล่ะ ถึงไม่กลับไปหาพี่เลย “
“ อย่าดราม่าได้ไหมพี่เทียน ว่าแต่พี่เถอะ มาทำอะไรที่โรงพยาบาล คงไม่ได้มาสมัครงานเป็นหมอหรอกนะ “ ครีมหอมถามคนพี่ไปด้วยท่าทีกวน ๆ พร้อมกับยิ้มด้วยความสดใส
“ ใบรับรองช่างยนต์ กับใบประกาศช่างไฟ มาสมัครเป็นหมอได้เหรอครีม “ ครีมหอมหัวเราะคิกคักเมื่อได้ฟัง แท่งเทียนก็เป็นคนบ้านนอกไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ถึงแม้ว่าในอดีตเขาเคยมีความฝันว่าอยากจะเป็นหมอ แต่เพราะแม่ของเขามีเงินส่งเพียงเรียนช่างยนต์ระยะสั้นเท่านั้น เทียนจึงได้มาเรียงช่างยนต์ 1ปี พอมีงานทำแล้วก็ไปเรียนช่างไฟฟ้าต่อ
“ พี่แค่รู้สึกไม่สบายก็เลยมาตรวจดูเฉย ๆ “ เขาว่าต่อ
“ แล้วผลตรวจเป็นยังไงคะ พี่เป็นอะไรหรือเปล่า “ ครีมรีบถามกลับเมื่อได้ยินว่า คนเป็นพี่นั้นไม่สบาย
“ แค่พักผ่อนไม่เพียงพอน่ะ นี่หมอก็ให้ยาบำรุงพี่มาเยอะเลย “ เขาโชว์ถุงยาในมือให้น้องดู
“ โห่ พี่เทียนก็อย่าทำงานหนักมากสิคะ “
“ ถ้าพี่ไม่ทำงานหนักแล้วเมื่อไหร่จะรวยละหือ “
“ โอ๊ย รวยน่ะจะรวยวันไหนก็ได้ หรือว่า พี่เทียนอยากมีเมียแล้วหรือคะ ถึงได้อยากจะรีบรวย” ครีมหอมพูดด้วยท่าทีหยอกล้อ แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวัง ว่าชายหนุ่มจะตอบเธอมาว่า
“ จะมาเป็นให้พี่ไหมล่ะครับ “ เล่นเอาครีมหอมนั่งนิ่งหน้าแดงไปไม่ถูก เพราะในสายตาของเธอ แท่งเทียน คือผู้ชายที่อบอุ่นกับเธอที่สุด รองจากผู้เป็นตาและก็เป็นคนที่เธอแอบรักมาเกือบ 5 ปี
“ ฮ่า ๆ พี่พูดเล่นน่ะ “ แต่แล้วครีมหอมก็ต้องรีบหุบยิ้ม เมื่อชายหนุ่มดักฟิวเธอ เทียนแอบหัวเราะใส่ท่าทีของครีมหอมเบา ๆ และพูดกับเธออีกว่า
“ ครีมหอมในสายตาของพี่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย ยังไม่สมควรมีแฟน หรือเป็นเมียของใครตอนนี้หรอก ครีมยังต้องมีอนาคตที่ดีกว่านี้” ครีมหอมยิ้มให้กับแท่งเทียน เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันมา เทียนทำให้เธอรู้สึกว่าเขาคอยทะนุถนอมเธอมาตลอดจนเธอแอบคิด ถ้าหากเทียนรู้ว่าเธอได้กลายเป็นเด็กของเสี่ยโอมไปแล้ว เทียนยังจะคอยห่วงเธอแบบนี้อีกอยู่หรือเปล่า
“ อ้าว ทำไมหน้าบูดอีกแล้ว มานี่มาเดี๋ยวพี่เลี้ยงเค้กเลี้ยงไอติมดีกว่า “
“ ดีเลยค่ะ ไม่ได้กินไอติมที่พี่เลี้ยงมานานแล้วเหมือนกัน “ ครีมหอมรีบยิ้มให้กับข้อเสนอของชายหนุ่ม ทั้งสองนั่งคุยกันด้วยความสนิทสนมผ่านสายตาของ
“ คุณหมอณัฐชัยคะ ของที่ฝากซื้อได้แล้วค่ะ “
“ ขอบคุณครับ” หมอไนยะหันไปรับถุงของจากแม่ค้า ก่อนจะหันมามองที่ครีมหอมกับชายแปลกหน้าจากที่ไกล ๆ
“ ไอ้โอมมันจะหลอกเด็กหรือเด็กจะหลอกมันวะเนี่ย “ หมอไนยะ บ่นพึมพำออกมาและไม่ลืมเก็บภาพหลักฐานไปฝากเพื่อน หัวงูของเขาด้วย
เพนท์เฮ้าส์
ครีมหอมเดินออกมาจากลิฟท์ ก็เห็นบอดี้การ์ดยืนมองหน้าเธอแปลก ๆ เธอก็งุนงงรีบหันซ้ายหันขวา
“ ทำไมถึงมีลางสังหรณ์แปลก ๆ แบบนี้น่ะ”
“ ทำไมถึงมีลางสังหรณ์แปลก ๆ แบบนี้น่ะ” เธอบ่นแล้วก็เดินเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์ ก่อนที่เธอจะเห็นว่า มีร่างสูงนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องโถง ครีมหอมพยายามจะเดินเลี่ยงหนีไปทางอื่น“ คุณไปไหนมา “ เสี่ยโอมถามเสียงแข็ง จนขนแขนของคิริต้าลุกซู่ขึ้นมาทันที“ ฉันนึกว่าคุณจะกลับมาพรุ่งนี้ “ เธอหันไปเผชิญหน้ากับเขาด้วยรอยยิ้ม“ แล้วปล่อยให้คุณไปพลอดรักกับไอ้ช่างยนต์นั่นน่ะเหรอ !” คิริต้าหุบยิ้มทันทีเมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้คนตรงหน้าโมโหเธออยู่ เขาลุกมายืนจ้องหน้าเธอ“ ทำไมล่ะคะ หรือว่าการที่ฉันมาเป็นเด็กของคุณ คือการที่ฉันห้ามพบปะกับผู้คนเหรอ?” ครีมหอมตอบกลับเขา พร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างใจสู้“ มันเป็นใคร!” เขากัดฟันถามเธอ“ คุณจะอยากรู้ไปทำไมล่ะ “ “ ผมถามว่ามันเป็นใคร!” เสี่ยโอมตอนที่โมโหนี่ น่ากลัวจริง ๆ จนครีมหอมไม่กล้าที่จะทำให้เขาหัวร้อนไปมากกว่านี้“ พี่เทียนเป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกันตอนอยู่บ้านนอก พี่เขามาทำงานที่นี้ ส่วนฉันเองก็ไปหาพ่อ แล้วเขาก็ไปหาหมอ เลยไปเจอกันที่โรงพยาบาล ตอนที่ฉันไปเยี่ยมพ่อเฉย ๆ “ ครีมหอมตอบเสร็จ ก็รีบหลบหน้าเขา เพราะตอนนี้เขาจ้องหน้าเธอเหมือนกำลังจะกินหัวเธออยู่แล้ว“ มันไม่
เสียงเคาะประตูดังลั่น แล้วมีร่างเล็กเดินออกมาเปิดให้“ เสี่ยโอม! “ มีมี่ เจ้าของห้อง รีบพุ่งตัวเข้ามาสวมกอดชายหนุ่มทันทีเมื่อได้เห็นหน้า“ มี่ คิดว่าเสี่ยทิ้งมี่ไปแล้วเสียอีก รู้ไหมว่ามี่คิดถึง “ “ ไปที่เตียง “ ชายหนุ่มเอ่ยพูดน้ำเสียงเฉยชา ทั้งเดินนำเข้ามาในห้อง2 ร่างกายเสียดสีกันไปมาบนเตียงด้วยความกระหาย“ เสี่ย….อ้า…” “ ครีม ครีมหอม “ “ เสี่ยโอม คุณจะไปไหนคะ “ พอเสร็จกิจเสี่ยโอมก็ลุกอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวใส่เสื้อผ้า มีมี่ที่เห็นเช่นนั้นก็เลยรีบร้องถาม เสี่ยโอมจึงเดินเข้ามาหา แล้วยื่นแบงค์เทาให้เธอ 2-3 ใบ“ อะไรกันคะ ทำไมคุณถึงทำกับมี่แบบนี้ ไหนจะผู้หญิงที่ชื่อครีม ที่คุณร้องออกมาตอนนั้นอีก “ เธอลุกยืนและพูดกับเสี่ยโอมที่กำลังจะเดินจากไป แต่เสี่ยโอมที่ยืนหันหลังอยู่หาได้สนใจไม่ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วก็เดินออกไปอย่างไม่ใยดี“ อ๊าย! คอยดูนะ สักวันหนึ่งคุณต้องเป็นของฉัน “ เพนท์เฮ้าส์เสี่ยโอมเดินเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ มุ่งหน้ามาที่ห้องนอนของคิริต้า แล้วยืนดูเธอที่กำลังนอนหลับ“ ทำไมฉันต้องคิดเห็นหน้าเธอ ตอนที่ฉันอยู่กับคนอื่นด้วย “ เขาบ่นพึมพำอยู่ที่ปลายเตียงอย่างคนไม่เข้าใจ5:35 น
หลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จ เสี่ยก็พาเธอมาแถวตลาดในเมือง“ คุณพาฉันมาแถวนี้ทำไมคะ “ พอลงจากรถเธอก็หันไปถามเขาทันทีด้วยความสงสัย ที่เขาพาเธอมาแถวศูนย์การค้าไอที“ ผมก็พาคุณมาดูโทรศัพท์เครื่องใหม่ไง เครื่องเก่าพังไปแล้วไม่ใช่เหรอ มานี่” พูดจบประโยคเขาก็จูงแขนเด็กของเขาข้ามถนนไปอีกฝั่งนึง“ สวัสดีค่ะคุณลูกค้า สนใจสินค้าตัวไหนเป็นพิเศษไหมคะ “ พอเข้ามาถึงในร้านพนักงานก็ทักทาย“ ผมขอดูรุ่นใหม่ล่าสุดรุ่นที่แพงที่สุดครับ “ เสี่ยโอมหันไปสั่งกับพนักงาน เล่นเอาครีมหอมอ้าปากค้าง ตั้งแต่เกิดมาเวลาไปซื้อของ เธอจะขอดูสินค้าที่ราคาถูกที่สุดในร้านตลอดเลยไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มาสัมผัสกับอะไรแบบนี้“ รุ่นนี้เลยค่ะ กล้องก็สวยคมชัด เล่นสะดวกว่องไวชาร์จเร็วทันใจแน่นอน เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลย ”เสี่ยโอมพยักหน้าฟังที่พนักงานแนะนำ ก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าเด็กเลี้ยงของเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ ชอบไหมรุ่นนี้ “ “ ไม่รู้ค่ะ มันแพงเกินไปหรือเปล่า ราคาตั้งหลายหมื่น“ หลายหมื่นแล้วทำไม ดูนี่สิ “ เสี่ยโอบไหล่ครีมหอมเข้ามาชิดตัว ก่อนจะจับมือถือ เครื่องนั้นขึ้นมาเซลฟี่กับน้องไปหลายรูป“ ผมว่าเอารุ่นนี้สีนี้แหละ เช็คเครื่อ
เจระวีคาเฟ่“ อ้าวมาแล้วเหรอโอม พาน้องคนนี้มาอีกแล้วน่ะ เด็กใหม่ใช่ไหมเนี่ย” เจระวีหรือพลอยเจนเจ้าของร้านได้ทักทาย หลังจากมาเปิดประตูให้ทั้งสองเข้ามา เสี่ยโอมไม่ตอบอะไรนอกจากจูงมือพาร่างบางเดินเข้ามาในห้อง ที่นี้มีทั้งหนึ่งเดียว จีนเน่ แล้วก็ไนยะคบหน้า“ สวัสดีครับน้องครีม เจอกันอีกแล้วน่ะ “ ไนยะทักทาย ซึ่งครีมหอมก็ยิ้มตอบและยกมือไหว้เขา“ น้องครีมมานั่งกับพี่เถอะ “ จีนเน่ที่สนิทกับครีมหอมประมาณหนึ่งแล้วเรียกหา ซึ่งตัวเล็กก็รีบสะบัดมือออกจากเสี่ยโอม แล้วรีบวิ่งไปหาจีนเน่ทันที ปล่อยให้เสี่ยโอมทำได้เพียงมองตามหลังไป ทุกคนนั่งเล่นด้วยกันไปจนค่ำ“ ไง ไม่คิดเลยว่าวันนี้มึงสองคนจะว่าง มาดื่มกับพวกกูด้วย ปกติเห็นทำแต่งาน “ ไนยะจับแก้วขึ้นมาชนกับเพื่อนทั้งสองแล้วพูดไปด้วย“ มึงก็ถามไอ้เสี่ยนี่ดูสิ ว่ามันไปทำท่าไหนให้กูลางานวันหนึ่ง แล้วขับรถไปไหนมาไหนเอง โดยไม่ต้องการคนขับรถส่วนตัว “ หนึ่งเดียวพูดแซวหางตาก็มองหน้าอศิร“ สงสัยอยากได้ฟิวแฟนกับเด็กมันละมั้ง” ไนยะเสริมขึ้นและหัวเราะ“ มึงหุบปากไปเลยน่ะ จะพูดออกมาทำไม “ เสี่ยโอมรีบปรามแล้วหันไปมองครีมหอม ที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 สาวในมือเธอถือแ
“ คนอะไรหล่อจังเลย “ หญิงสาวพูดทั้งใช้นิ้วชี้ไปที่ปลายจมูกโด่งของเสี่ย ไล่ลงมาที่ริมฝีปากที่เธอคุ้นเคย เธอจ้องริมฝีปากของเขาไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงไป เสี่ยโอมเห็นแบบนั้น เขาก็รีบโต้ตอบอย่างไม่ให้เสียโอกาส เขาพยายามหักห้ามใจแล้วนะ แต่เธอมารุกเร้าเขาแบบนี้คงจะยอมปล่อยโอกาสให้เสียเปล่าไม่ได้หรอก คิดแล้วเขาก็ซ้อนร่างบางขึ้นมาแนบตัว แล้วพาทั้งสองร่างของเขาและเธอเดินไปที่เตียง เสี่ยค่อย ๆ วางเธอลงบนเตียง แล้วโน้มตัวตามลงไป ปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากันอีกครั้ง มือเรียวยาวของเข้าล้วงเข้าไปในเสื้อบาง จับคลึงยอดอกของคนใต้ล่างอย่างสมใจ“ อ๊า…” เสียงร้องหวาดเสียวของเธอทำให้เขามีความสุขอย่างมาก ปากของเขาคลายออกจากปากอิ่ม แล้วเรื่อยลงมาจูบที่ลำคอ หญิงสาวร้องงึมงำออกมาเบา ๆ เพราะความเจ็บ ตอนนี้เธอรู้สึกมีสติขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้เธอห้ามเขา หน้าคมซุกไซ้ลงไปที่อกของครีมหอม“ สวยจังเลย “ เขาพึมพำในขณะที่กำลังปลดเสื้อของเธอขว้างทิ้งไป เผยให้เห็นหน้าอกใหญ่อวบอิ่มที่เธอซ่อนเอาไว้ “ อย่ามองนะคะ “ คนเมานึกอาย รีบเอามือขึ้นไปปิดที่จุกดอกบัวสีสวย เสี่ยโอมรีบส่ายหน้า “ ไม่เอ
“ ครีม! ครีม!! “เสี่ยโอมลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียง ด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าเขารีบบิดตัวลุกนั่งเพราะความตกใจ เมื่อเห็นว่า หญิงสาวที่เป็นความสุขของเขาเมื่อคืนนั้นตอนนี้เธอได้หายไปแล้ว เธอไม่ได้อยู่บนเตียงกับเขา เสี่ยรีบลุกแล้วสวมใส่กางเกงกับเสื้อ“ ครีมหอมออกไปไหน เห็นเธอหรือเปล่า “ เมื่อเดินหาจนทั่วห้องแล้วไม่เจอ เขาจึงเดินออกมาถามการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก“ วันนี้ยังไม่เห็นเธอแต่เช้าเลยนะครับเสี่ย” พอบอดี้การ์ดตอบกลับมาแบบนั้น เสี่ยโอมจริงนึกออกทันทีว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก เขาจึงเดินไปที่ชั้นดาดฟ้าครีมหอมตื่นขึ้นมาด้วยเนื้อตัวที่ปวดร้าว เธอตกใจมาก เมื่อคืนเธอยอมรับว่าสติไม่ครบร้อย แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอสมยอมเขา“ แกทำบ้าอะไรลงไปว่ะครีมหอม “ เธอพึมพำแล้วเดินร้องไห้ออกมาจากห้องนอน หาที่เงียบ ๆ เพื่อที่จะได้อยู่กับตัวเอง หญิงสาวเดินมาที่ชั้นดาดฟ้าแล้วร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ“ แกทำบ้าอะไรลงไป ไหนแกเคยบอกว่าจะเก็บมันไว้ให้คนที่แกรักไง “ เธอพูดกับตัวเอง พร้อมกับเอามือขึ้นมาจับที่หัวแล้วส่ายไปมา เมื่อคืนเธอคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำเช่นนั้นลงไป ทำไมเธอไม่ห้ามเขา จนถึงตอนนี้ครีมหอมเองก็ยังไม่เ
“ ว่าแต่ครีมพักอยู่ที่ไหน” “ อยู่กับผัว “ เสี่ยโอมเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ครีมหอม และไม่ลืมยื่นมือไปโอบเอวเธอมากอดไว้“ คุณเป็นใคร “ แท่งเทียนรีบมองคนมาใหม่ตาเหลือกโผน ไอ้นี่มันเป็นใคร แล้วมันมาจับต้องตัวครีมหอม ที่เขาพยายามทะนุถนอมมาตั้งนานแบบนี้ได้ยังไง“ ผัว ฉัน เป็น ผัว ของ ครีมหอม “เสี่ยโอมตอบกับเน้น ๆ จนครีมหอมที่นั่งอยู่ข้างกันถึงกับกุมขมับรู้สึกอยากจะร้องไห้“ หมายความว่ายังไงครีม พี่นึกว่าครีมอยู่กับพ่อไม่ใช่เหรอ หรือว่าไอ้นี่มันบังคับขืนใจครีม “ “ ไม่ใช่แบบนั้นน่ะพี่เทียน ตอนนี้ครีมไม่รู้จะพูดอะไร แล้วครีมจะเล่าให้ฟังน่ะ ครีมขอตัวก่อน “ครีมหอมที่ตอนนี้ทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกละอายต่อเทียน เธอรีบแกะมือของเสี่ยโอมออกจากเอว แล้วก็ลุกหนีทันที เสี่ยโอมเห็นแบบนั้นก็ลุกตามไป แต่เขาก็ไม่ลืมหันมาย้ำกับเทียนว่า“ อย่ามายุ่งกับเมียกู “ “ ครีมหอมหยุดเดี๋ยวนี้ “ เสี่ยโอมเดินสับขาออกมาตามเมีย ก่อนจะร้องขึ้นให้ร่างบางหยุด ครีมหอมที่ยังมีพันธ์เรื่องสัญญา และคำพูดที่เคยเอ่ยไว้ เธอจึงต้องสั่งให้ขานั้นหยุดแม้ในใจจะไม่อยากก็ตาม“ มันใช่ไหม ผู้ชายที่คุณมีความรู้สึกอะไรนั่นด้วย” “ คุณจะมาพูดอะไรอย
[“ อย่าลืมนะครับเสี่ย วันนี้มีประชุม “] ลูกน้องโทรมาย้ำบอกกับเขา“ เออ! เดี๋ยวกูออกไป “ ร่างของเสี่ยโอมที่กำลังใส่เสื้อผ้า วางสายจากลูกน้อง แล้วหันมามองร่างบางที่นอนไร้สติอยู่คนเดียว“ ถ้าไม่ติดประชุม เธอคงไม่ได้พักหรอก “ เขาพูดแล้วจับเอาเสื้อสูท เดินออกไปอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้หญิงสาวที่มีเพียงผ้าห่มผืนเดียวปิดกายไว้ ให้หลับอยู่ตามลำพังบริษัทศิลาทรัพย์“ ทำไมถึงรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีแบบนี้ “ พอมาถึงบริษัท อศิรก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา“ เป็นอะไรหรือเปล่า อีก 5 นาทีจะเริ่มประชุมแล้วน่ะ “ หนึ่งเดียวเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารที่เตรียมไว้ให้กับเขา“ ไอ้หนึ่ง มึงช่วยกลับไปดูครีมหอมที่คฤหาสน์ให้กูหน่อยดิ “ “ นี่มึง.. “ หนึ่งเดียวกำลังจะด่าเขาแต่เขาก็รีบตัดบท“ กูก็แค่รู้สึกผิด มึงรีบไปเถอะ “ “ โอเคก็ได้ เดี๋ยวจะรีบไปดูให้ “ บ้านศิลาแดงในห้องนอนที่เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ร่างบางก็ยังไม่ได้สติ ซึ่งมันได้มีร่างของชายร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามา มันคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุข“ ไอ้โอมนี่มันร้ายจริง ๆ “ อนันดาพูดทั้งยังมองไปที่ร่างบางบนเตียง เขามองแว๊บแรกก็รู้ว่าภายใต้ผ้าห่มนั่น คงไม่มีอะไรปิดบังเป็