วันต่อมา
“คุณยายครับผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย” ภูผาตัดสินใจจะคุยกับพิกุลในรุ่งเช้าของอีกวันเพราะเขาจะปล่อยให้ผ้าแพรเครียดแบบนี้อยู่ไม่ได้มันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวผ้าแพรเองและลูกในท้องเขาเชื่อว่าพิกุลนั้นต้องรับฟังเขาแน่นอน แต่แค่เมื่อคืนนี้แค่โมโหมากเพราะพึ่งรู้เรื่องราวเก่าๆที่ไม่ดีเท่านั้น
“ว่ามาสิ” พิกุลมองหน้าหลานเขยของเธอด้วยสายตาสงสัยว่าเขานั้นมีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอแต่เช้า
“แพรเธอต้องการพ่อนะครับคุณยาย...แต่เธอรักคุณยายมากเกินกว่าที่จะพูดตรงๆเพราะกลัวว่าจะทำร้ายจิตใจคุณยาย” ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงนั่งลงตรงหน้าหญิงชราได้ก็เอ่ยสิ่งที่ต้องการจะพูดทันทีที่เขามาพูดเพราะรู้ดีว่าผ้าแพรคงไม่กล้าพูดกับยายของตนแน่นอนและเขาก็เชื่อว่าพิกุลรักผ้าแพรมากพอที่จะยอมรับในการตัดสินใจของผ้าแพร
“ฉันทำร้ายหลานฉันสินะ...ถ้าเราเป็นยายเราจะทำยังไง” พิกุลเชิดหน้าหนีภูผาเล็กน้อย
“ผมรู้ครับว่าคุณยายเจ็บปวดแต่ถ้าเป็นผม..ผมจะเคารพในการตัดสินใจของคนที่ผมรัก”
“ลองให้หนูแพรตัดสินใจเอาเองนะคะแม่” พิมพรรณที่ได้ยินภูผาเอ่ยมาตั้งแต่แรกครั้งนี้เธอจึงช่วยเอ่ยเสริมเพราะเธอก็รักผ้าแพรมากเสียจนไม่อยากให้หลานของเธอที่เลี้ยงมาเหมือนลูกเสียใจ
นับว่าสิ่งที่ภูผาตัดสินใจขอร้องพิกุลนั้นได้ผล พิกุลเอ่ยปากว่าจะไม่กีดกันธีรดลอีกต่อไปแต่จะให้เธอดีกับธีรดลเลยคงเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้
ธีรดลรู้ข่าวจากภูผาว่าพิกุลอนุญาตให้เขาได้เจอกับผ้าแพรแล้วจึงรีบมาที่บ้านสวนของพิกุลทันทีแต่ก็ไม่กล้าที่จะขึ้นไปบนเรือนเพราะรู้ดีว่าพิกุลนั้นยังไม่อยากเห็นหน้าของเขาตอนนี้จึงทำได้แค่นั่งคุยกับผ้าแพรที่ใต้ถุนบ้านเท่านั้น
“พ่อดีใจนะที่ยายเราเค้ายอมใจอ่อน” ธีรดลยื่นมือหนาของเขาลูบหัวลูกสาวที่พึ่งจะเจอกันด้วยความเอ็นดูเธอนั้นเหมือนกับพรทิพย์ไม่มีผิดทั้งหน้าตาและนิสัยใจคอ
“แพรก็ดีใจเหมือนกันค่ะ” ดวงตากลมโตมองคนเป็นพ่อไม่อยากจะกะพริบตาเพราะกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
“หนูโกรธพ่อหรือเปล่าแพร”
“ไม่ค่ะ...แค่ชีวิตนี้รู้ว่าหน้าพ่อเป็นยังไงก็พอแล้วส่วนเรื่องในอดีตพ่อก็ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งแพรนี่คะ” หญิงสาวส่ายหัวเบาๆ
“ต่อไปนี้พ่อจะชดเชยให้หนูทุกอย่าง” คำสัญญาของธีรดลมีน้ำเสียงหนักแน่นและเขาก็จะทำตามคำพูดที่เขาได้พูดเอาไว้แน่นอน
“ไม่ต้องทำอะไรให้แพรหรอกค่ะตอนนี้แพรมีความสุขดีแค่แพรรู้ว่ามีพ่ออยู่ใกล้ๆแค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ” สิ่งที่ผ้าแพรต้องการไม่ใช่คำสัญญาหรือสิ่งของอะไรจากพ่อของเธอขอแค่เธอได้มีพ่อกับเค้าเธอก็พอใจแล้ว
“ฉันดีใจที่มีเธอเป็นน้องทีนี้คุณพ่อจะได้ไม่ต้องมาหวังอุ้มหลานที่ฉันแล้วไหนเรียกพี่ซิ” เพียงฟ้ากุมมือน้อยของผ้าแพรเอาไว้แน่น
“ค่ะพี่ฟ้า” คนที่เอาแต่ร้องสะอื้นเมื่อคืนตอนนี้ยิ้มร่าอย่างมีความสุขที่สุดเธอคิดว่าเธอจะไมมีโอกาสคุยกับคนเป็นพ่ออีกแล้ว
“อารมณ์ดีแล้วสิ” ภูผาเข้ามาหาผ้าแพรหลังจากที่เพียงฟ้าและธีรดลกลับไปแล้วเขาดีใจที่เห็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของผ้าแพรกลับมาเหมือนเดิม
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยพูดกับยายให้” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณคนตัวโตตรงหน้าจากใจจริงที่เขากล้าไปพูดคุยกับยายของเธอจนท่านอนุญาตให้เธอนั้นพบเจอกับคนเป็นพ่อได้
“รู้ได้ไง” ภูผาเลิกคิ้วถามหญิงสาวอย่างแปลกใจเพราะเขายังไม่ทันบอกกับเธอเลยว่าเขานั้นเป็นคนพูดกับยายของเธอให้
“น้าพิมบอกค่ะ” ริมฝีปากบางยิ้มอ่อนมือน้อยกุมมือของเขาไว้หลวมๆน้าสาวของเธอบอกทุกอย่างว่าภูผาพูดอะไรกับยายของเธอบ้างยายของเธอถึงได้ยอมใจอ่อนลงได้
วันต่อมา
“แพรไปนะคะยาย” ผ้าแพรเข้ามาเอ่ยปากบอกยายของเธอพร้อมภูผาที่ในครัวใต้ถุนบ้านในตอนเช้าก่อนจะออกไปข้างนอก
“อย่าพากันกลับดึกนักล่ะแถบนั้นมันอันตราย” พิกุลเห็นหน้าแป้นแล้นอารมณ์ดีของผ้าแพรเธอก็เริ่มสบายใจทั้งเตือนทั้งสองว่าอย่ากลับดึกเพราะแถบนั้นมันไม่ค่อยมีบ้านคนแถมยังเป็นแถบชายแดนอีกด้วย
“ครับคุณยาย” เมื่อได้รับคำอนุญาตภูผาก็เดินหันหลังพาผ้าแพรออกไปทันทีเพราะต้องออกไปรวมกับธีรดลที่บ้านของเพียงฟ้าก่อนจะออกเดินทางตรงไปที่แม่อาย
สามชั่วโมงต่อมา
กว่าทุกคนจะขับรถกันมาถึงที่ดินที่ธีรดลซื้อเอาไว้ก็ร่วมสามชั่วโมงกว่าในนี้ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะไม่มีบ้านคนอยู่เลยสักหลังเพราะทยอยกันย้ายออกไปหมดแล้วหลังจากที่ขายที่ขายทางได้ตอนนี้ก็มีแต่เหล่าคนงานก่อสร้างอยู่ที่นี่เท่านั้น
“ที่ตรงนี้สองร้อยไร่เลยเหรอครับ” ภูผาลงรถได้ก็เดินดูสถานที่ศูนย์กลางที่พึ่งจะเริ่มสร้างเป็นเรือนรับรองของที่นี่เขามองไปรอบๆยอมรับว่าพื้นที่ที่นี่สวยมากจนเขาเกือบไม่เชื่อในราคาที่ธีรดลได้มาในราคาที่ต่ำ
“ใช่แล้ว..ทางซ้ายมือจะติดกับไร่ศรีน่านทางขวาจะติดกับไร่ปรานโชคชาวบ้านที่ขายที่ดินที่นี่ก็พึ่งจะย้ายออกไปกันไม่นานนี้เอง”
“คุณพ่อรู้หรือเปล่าครับว่าทำไมเค้าถึงพร้อมใจกันขาย” เป็นเรื่องที่ภูผาค่อนข้างแครงใจไม่น้อย
“เห็นนายหน้าบอกว่าอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับการเป็นชุมชนแถมราคาที่ให้ก็ค่อนข้างน่าพอใจพ่อก็เลยรับซื้อเอาไว้” ครั้งนั้นที่รับซื้อเขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะสอบถามรายละเอียดเท่าไรเห็นว่าที่สวยทำเลดีแถมราคาถูกจึงรับซื้อเอาไว้ก่อนแล้วก็พึ่งจะมาคิดใช้สอยประโยชน์จากพื้นที่นี้ไม่นานนี้เอง
“งั้นเหรอครับ” ภูผายังคงมองรอบๆด้วยสายตาที่สงสัยเพราะที่นี่เป็นที่ๆบรรยากาศดีแถมทั้งน้ำทั้งพื้นที่ทำกินก็อุดมสมบูรณ์มันเหมาะกับการเป็นชุมชนที่สุดแต่คนกลับอยากย้ายออกเสียอย่างนั้น
“พวกพี่อยู่แถวนี้เหรอคะ” ผ้าแพรเห็นชายฉกรรจ์สองคนสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดโพกผ้าข่าวม้าปิดหน้าเหลือเพียงแค่ดวงตาแตกต่างจากคนงานที่นี่ยืนมองพวกเธอนานสองนานไม่ใกล้ไม่ไกลนักจึงเดินเข้าไปถามเผื่อจะเป็นคนแถวพื้นที่นี้ แต่สองคนนั้นพอเห็นผ้าแพรเดินเข้ามาหาก็รีบเดินหนีกลับกันไปทันที“อะไรเหรอแพร” เพียงฟ้าเห็นผ้าแพรเดินแยกออกมาจึงเดินมาตาม“แพรเห็นพวกพี่เค้านั่งดูเรานานแล้วพอเดินไปถามก็หนีไปเลย” ผ้าแพรขมวดคิ้วเล็กน้อย“คงเป็นคนที่ไร่แถวนี้ล่ะมั้ง” เพียงฟ้าไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคนที่เดินผ่านทางนี้ก็ไม่พ้นคนในไร่ใดไร่หนึ่งที่อยู่ข้างๆที่ผืนนี้เมื่อเดินดูพื้นที่กันพักใหญ่จนเริ่มร้อนมากแล้วทุกคนก็มานั่งพักที่เต้นสนามใต้ต้นไม้ใหญ่“ข้าวผัดกับขนมค่ะ” ผ้าแพรหยิบกล่องอาหารที่เธอเตรียมมาเผื่อทุกคนออกจากถุงผ้าและยื่นให้ทุกคนคนละกล่องในนั้นเป็นข้าวผัดไข่ที่เธอเป็นคนเตรียมเอง“ร้อนหรือเปล่า” เมื่อร่างบางหย่อนก้นลงนั่งข้างๆภูผาจึงแกะห่อผ้าเย็นซับหน้าผากให้กับผ้าแพรเพราะตอนนี้เธอเหงื่อออกจนไรผมเปียกไปหมด“ไม่เท่าไรค่ะ” ใบหน้าหวานหันไปยิ้มขอบคุณคนข้างๆมือน้อยก็คอยแกะกล่องข้างให้กับเขาธีรดลนั่งมองพฤติกรรมของทั้งสอ
เมื่อพิกุลรู้ว่าภูผาถูกหมามุ่ยมาจึงให้เขาถอดเสื้อผ้าออกให้หมดใส่แต่ผ้าขาวม้าผูกเอวเอาไว้แล้วนั่งที่แคร่ใต้ถุนบ้านแล้วจึงใช้เทียนขี้ผึ้งลนไฟจนอ่อนคลึงไปตามเนื้อตัวเพื่อให้ขนหมามุ่ยนั้นหลุดออกจากผิวหนัง“อีกเดี๋ยวก็จะเบาแล้วล่ะ”พิกุลใช้เทียนคลึงตามเนื้อตัวหลานเขยพร้อมกับผ้าแพรโดยพิกุลคลึงด้านหลังและผ้าแพรนั้นจัดการคลึงที่แผงอกด้านหน้า“ดีนะที่ยังรู้ตัวทันไม่งั้นคงเกาเป็นลิงล่ะทีนี้” พิกุลพูดไปอมยิ้มไปสงสารหลานก็สงสารแต่ก็ยังรู้สึกขบขันที่ภูผานั้นไม่ระวังจนเจอพิษของหมามุ่ยจนได้“เอ..ย่าว่าโดนที่ตัวแต่ทำไมแดงที่หน้าล่ะ” สายทองยืนมองหลานเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วรู้สึกว่าหน้าของหลานเธอจะแดงเป็นพิเศษทั้งที่ไม่ใช่จะถูกหมามุ่ยคงจะเป็นพิษความเขินคนที่ก้มๆเงยๆตรงหน้ามากกว่า“ที่หน้าก็โดนหมามุ่ยเหมือนกันเหรอคะ” ใบหน้านวลได้ยินสายทองว่าเช่นนั้นจึงหยุดมือจากการคลึงเทียนขี้ผึ้งบนหน้าอกของภูผาและเงยหน้ามาจับจ้องผิวหน้าของภูผาใกล้ๆจนคนตัวโตเบนหน้าหนี“อ๋อ..เปล่าไม่มีอะไรหรอก” ภูผาเอ่ยเสียงเรียบทั้งเพ่งมองไปยังต้นไม้ต้นหญ้าใกล้ๆที่ไม่ใช่ใบหน้าหวานของหญิงสาว“จะว่าไปมันก็แดงอย่างที่คุณย่าว่าจริงๆนะคะ” มือน้อ
“ช่วยแพรด้วยค่ะแพรร้อน.. อืม.. “ ตอนนี้ผ้าแพรเธอทั้งร้อนทั้งหายใจไม่ออกน้ำเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือค่อยๆอ่อนลงแล้วสติของเธอก็ค่อยๆดับวูบลงปั้ง..ๆๆ แกร๊กกภูผาถอดเสื้อของเขาชุบน้ำแล้วหยิบขวานที่อยู่ใกล้ๆวิ่งฝ่ากองไฟจามขวานใส่กุญแจสองสามทีก็หลุดออกเมื่อประตูเปิดได้เข่าของเขาก็แทบทรุดเมือเห็นหญิงสาวหมดสติกองอยู่กับพื้นไปแล้ว “แพร..” ชายหนุ่มรีบเอาเสื้อของเขาคลุมตัวหญิงสาวแล้วอุ้มเธอออกมาอย่างรวดเร็วแล้วรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลอย่างด่วนที่สุดชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลตอนนี้ทุกคนจดจ่ออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินรอฟังอาการของผ้าแพรด้วยความกังวลไม่นานนักหมอหนุ่มก็ได้ออกมาเจ้งอาการของผ้าแพรกับทุกคน“แม่กับเด็กปลอดภัยครับดีนะครับที่สูดควันไปไม่มากยังไงให้เธอนอนดูอาการที่นี่คืนนึงนะครับ” คำพูดของหมอหนุ่มทำสถานการณ์ที่ตรึงเครียดค่อยๆดีขึ้น“เฮ่อ..” ภูผาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เขาคิดว่าทั้งสองจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว“...” ธีรดลและเพียงฟ้ากอดกันกลมโล่งใจไปตามๆกันที่ผ้าแพรและหลานของพวกเขาปลอดภัยไม่มีคำพูดอะไรออกมาเพราะดีใจจนพูดไม่ออกRrrrrRrrrr“ได้ค่ะ..โอเค” เพียงฟ้าผละออกจากอกของพ่อเธอเมื่อมีสายเข้า“พ่อค
โรงพยาบาล“อืม..” ผ้าแพรรู้สึกตัวตื่นมาในช่วงหัวค่ำสายตาของเธอตอนนี้มองไปรอบๆอย่างตื่นกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นภูผานั่งอยู่ข้างๆเธอจึงรีบดึงแขนของเขามาจับเอาไว้“เป็นยังไงบ้าง..” คนตัวโตรีบลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วกอดร่างบางเอาไว้แน่นเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังตัวสั่นยิ่งคิดถึงเหตุการณ์วันนี้ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดที่ปล่อยเธอเอาไว้คนเดียว“.....” ผ้าแพรเงยหน้ามองภูผาด้วยน้ำตาเธอไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าเธอจะไม่รอดกลับมาเสียแล้ว“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายอีกแล้วไม่มีเรื่องร้ายอะไรแล้วนะแพร” มือหนายกลูบหัวทุยของหญิงสาวเบาๆยิ่งเห็นเธอดูกลัวมากเท่าไรเขาก็ยิ่งใจไม่ดีมากเท่านั้น“เป็นยังไงบ้างล่ะ” พิกุลและทุกคนที่เรือนตอนนี้นั่งมองโสพิศที่กำลังคุยกับภูผาอย่างใจจดใจจ่อเมื่อเห็นโสพิศวางสายได้พิกุลก็รีบถามอาการของผ้าแพรทันที“ตาภูบอกว่าหนูแพรฟื้นแล้วค่ะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วค่ะ” หญิงวัยกลางคนยิ้มอ่อนโล่งใจที่ตอนนี้ผ้าแพรและลูกในท้องไม่เป็นอะไรหมอขอดูอาการแค่คืนนี้หากไม่มีอะไรแทรกซ้อนพรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้วันต่อมาไร่ปรานโชคเรือนสา
โรงพยาบาล“เป็นยังไงบ้างลูก” หลังจากที่ธีรดลและเพียงฟ้ากลับจากไร่ปรานโชคแล้วก็เดินทางมาหาผ้าแพรกับภูผาที่โรงพยาบาลต่อ“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ...เมื่อวานแพรคิดว่าจะไม่ได้เจอทุกคนซะแล้ว” ผ้าแพรกอดพ่อเธอเอาไว้แน่นแววตาของเธอตอนที่เอ่ยคำนี้ออกมาค่อนข้างเศร้าจนทุกคนต่างก็สลดไปตามๆกัน“เรื่องเมื่อวานเราจะไม่พูดถึงมันแล้วนะลูกเพราะวันนี้เรายังอยู่ด้วยกัน” ธีรดลลูบหัวลูกสาวของเขาเบาๆเรื่องไม่ดีที่มันผ่านไปแล้วเขาก็ไม่อยากให้พูดถึงเพราะจะเป็นการตอกย้ำความกลัวของผ้าแพรและพวกเขาเย็นของวันบ้านสวน“ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” เมื่อภูผาพาผ้าแพรกลับมาบ้านได้พิกุลและพิมพรรณก็รับเข้ามาสวมกอดเรียกขวัญหลานสาวของตนทันที“แล้วนี่จับคนร้ายได้แล้วใช่ไหม” สายทองเอ่ยกับภูผาด้วยสีหน้าร้อนใจ“ครับคุณย่าพวกมันแค่อยากก่อกวนไม่ให้คุณพ่อสร้างรีสอร์ทต่อ” คนตัวโตกอดอกพยักหน้าเบาๆ“ตายจริงทำกันเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปได้” หญิงชรายกมือทาบอกอย่างตกใจนี่ขนาดก่อกวนยังเล่นกันถึงเอาชีวิตแล้วถ้าจงใจที่จะทำร้ายคนเลยจะทำถึงขนาดไหน“ไม่ใช่ก็คล้ายๆครับคุณย่า” ภูผาเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เขาคิดว่าไม่ใช่แค่ทำเป็นบ้านป่าอย่างที่คุณย่าของเขา
“เออ..” มนัสได้ยินเช่นนั้นจึงค่อยๆลดปืนลงด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจแล้วทำท่าจะเดินกลับแต่เขาก็แว้งกัดอัสนีในขณะที่เผลอใช้กระบอกปืนในมือฟาดไปที่ใบหน้าของอัสนีอย่างจังพลั้ก“ว้ายย” เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นต่อหน้าหญิงสาวระยะประชิดทำให้เธอตกใจอย่างมากจึงกรีดร้องออกมาเสียงดังพลั้กก อัสนีหันกลับมาชกมนัสจนอีกฝ่ายล้มพับลงไป“หยุดนะโว้ย” จักรกฤษมือขวาของอัสนีเห็นว่าพัสสนกำลังชักปืนจ่อมาที่เจ้านายของเขาจึงรีบจ่อปืนไปที่หัวของพัสสนก่อนพร้อมกับลูกน้องอีกสี่ห้าคนที่ยืนอยู่“หมาหมู่เหรอวะกูไปก็ได้โว้ย” มนัสเอ่ยเสียงฝาดด้วยความแค้นจัดวันนี้เขาเสียหน้าวันหน้าเขาจะต้องเอาคืนอัสนีให้ได้เอ่ยจบก็รีบขึ้นรถตัวเองออกไปเรือนสายฟ้า“โอ้ยย..ผู้หญิงอะไรมือหนักชะมัด” อัสนีเอี้ยวหน้าหนีมือเพียงฟ้าแทบไม่ทันไม่รู้ว่าเธอจะทำแผลให้เขาหรือจะทำให้เขาระบมหนักมากกว่าเดิม“ฉันเบามือสุดแล้วนะคุณ...” เพียงฟ้าหน้าเสียเล็กน้อยเธอคิดว่าเธอเบามือสุดแล้วด้วยซ้ำกับการใช้สำลีเช็ดเลือกที่มุมปากของเขา“แล้วมาทำอะไรที่นี่คนเดียวไม่รู้หรือไงมันอันตรายถ้าพวกผมไม่ผ่านไปแถวนั้นป่านนี้..”“รู้แล้ว.. ไม่ต้องพูด..ฉันแค่มาดูความเสียหายเฉยๆไม่คิด
“เปล่านะคะฉันไม่เคยคิดแบบนั้น” ผ้าแพรส่ายหัวพัลวันเธอไมได้มีเจตนาแบบที่ทับทิมกล่าวหาแม้แต่น้อย“อย่ามาตอแหล” เสียงฝาดของทับทิมทำเอาผ้าแพรสะดุ้งเฮือก“อย่ามาทำกิริยาต่ำๆในบ้านของฉันนะ” โสพิศได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงออกมาดูเมื่อเห็นว่าผ้าแพรกำลังถูกทับทิมทำร้ายเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปผลักทับทิมออกและชี้หน้าต่อว่าด้วยความไม่พอใจ“คุณแพร” ดวงใจเห็นผ้าแพรนั่งกองกับพื้นจึงรีบพยุงให้ลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งที่โซฟา“สวัสดีค่ะคุณแม่ทับทิมแค่แวะมาคุยกับนังนี่แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละค่ะขอตัว” ทับทิมยกมือไหว้ทักทายโสพิศเสียงแข็งก่อนจะเดินเชิดหน้าออกไปอย่างไม่มีมารยาท“ตาภูไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกันมารยาททรามที่สุด” โสพิศส่ายหัวด้วยสีหน้าระอาที่ลูกชายของเธอไม่เลือกผู้หญิงที่ยุ่งด้วยเอาเสียเลย“เป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย..ดวงรีบไปเอายามาทาเร็ว” เมื่อทับทิมกลับไปแล้วโสพิศจึงรีบเข้ามาดูตามเนื้อตัวผ้าแพรเพราะเนื้อตัวมีรอยแดงหลายแห่งและรีบให้ดวงใจไปหายามาทาลูกสะใภ้ของเธอก่อนที่จะช้ำไปมากกว่านี้หลายชั่วโมงต่อมา“กลับมาก็ดีแล้วมาคุยกับย่าหน่อยซิ” สายทองเห็นหลานชายเธอกลับบ้านมาในช่วงบ่ายก็รีบเรียกไปคุยทันทีเพราะ
เมื่อถึงเวลาแถลงข่าวนักข่าวหลายคนต่างก็มุ่งประเด็นของข่าวที่ออกมาเมื่อเช้ากันก่อนเป็นอันดับแรก“เรื่องราวที่เกิดขึ้นผมยอมรับครับว่าคนในรูปเป็นผมแต่ผมกับทับทิมเราไม่ได้เป็นแฟนกันครับ” และนี่ก็เป็นคำตอบของภูผาที่ให้ข่าวแก่ทุกคนทำเอานักข่าวหลายสิบคนต่างก็มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจหากไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมถึงมีภาพหลุดแบบนั้นออกมา“ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วมีภาพหลุดว่านอนด้วยกันได้ยังไงคะ” เสียงนักข่าวสาวตะโกนออกมาระหว่างที่ตอนนี้มีแต่ความเงียบ“เสร็จงานก็จ่ายเงินคำนี้พี่ๆนักข่าวน่าจะเข้าใจนะครับ” ชายหนุ่มตอบคำถามสั้นๆแต่ความหมายของมันก็ทำให้ทุกคนต่างก็ตาลุกวาวเพราะไม่คิดว่าดาราสาวสวยที่กำลังดังอย่างทับทิมจะขายบริการ“หมายความว่าคุณทับทิมขายตัวอย่างนั้นเหรอคะ” ความเป็นนักข่าวแม้จะเข้าใจความหมายก็อยากจะถามซ้ำเพื่อที่จะได้รับคำตอบจากปากภูผาตรงๆ“ตามที่ผมพูดเมื่อครู่ครับ” เขาจะพูดเพียงแค่ครั้งเดียวและคิดว่าคำพูดของเขาเมื่อครู่ก็น่าจะกระจ่างแล้ว“ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคุณภูแต่งงานแล้วแต่ยังซื้อบริการงั้นเหรอครับ” เมื่อคำถามประเด็นหลักหมดไปประเด็นต่อมาก็ถูกถามขึ้นเสียงดังฟังชัดจากนักข่าวชายหนุ่มอีกสำนั