Share

ตอนที่22

“ผอมเยอะเลยไหนดูซิมีลูกกี่ตัว...ตั้งสองตัวแน่ะอ้วนมากเลย..เจ้าอ้วน” ผ้าแพรเห็นเจ้าข้าวเหนียวก้รีบพุ่งเข้าไปหาทั้งลูบหัวมันด้วยความเอ็นดูและนั่งอุ้มลูกของเจ้าข้าวเหนียวทั้งสองตัวมาไว้ในอ้อมอกกอดเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว

แฮ่ๆๆๆ

“มันจะกัดฉันหรือเปล่าเนี่ย” ภูผาได้แต่ยืนตัวเกร็งเพราะดูเจ้าข้าวเหนียวจะไม่เป็นมิตรกับเขาเท่าไร

“คุณภูรีบเทข้าวกับน้ำให้มันสิคะ”

“โอเค..” คนตัวโตหยิบกะละมังสองใบที่วางอยู่ตรงหน้าเจ้าข้าวเหนียวเขารับเทข้าวให้มันจนเต็มกะละมังและเทน้ำตามอีกกะละมังอย่างรวดเร็วพอเจ้าข้าวเหนียวเห็นว่าเขาเป็นคนให้อาหารก็เริ่มกระดิกหางให้จึงทำให้ภูผาค่อยกล้าเข้าใกล้มันหน่อย

“คุณภูว่าฉันจะตั้งชื่อลูกหมาว่าอะไรดีคะ” ผ้าแพรชูลูกหมาตัวอ้วนกลมสีขาวกับสีน้ำตาลทองทั้งสองให้ภูผาได้ดูหากเธอเดาม่ผิดพ่อของเจ้าสองตัวคงเป็นสีขาวแน่นอนเพราะไม่อย่างนันเจ้าตัวสีขาวนี้จะออกมาเป็นสีนี้ได้อย่างไร

“ไหนฉันขอดูหน่อยตัวนี้สีทองก็ชื่อทองตัวนี้สีขาวก็ชื่อขาวไงไม่เห็นยาก” 

“คิดให้เยอะกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอคะเหมือนคุณพูดออกมาแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย” ใบหน้าหวานเริ่มขมวดคิ้วเป็นปมที่รู้สึกว่าภูผาจะตอบผ่านๆ

“นี่ถ้าฉันไม่เห็นว่าเธอซื่อฉันคงคิดว่าเธอด่าฉันอยู่” ภูผาเหลือบสายตามองผ้าแพรอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

“คุณภูก็...อืม..แม่ชื่อข้าวเหนียวลูกชื่อข้าวขาวกับข้าวทองดีไหม” สาวเจ้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ้มออกและถามความเห็นจากภูผาถึงความคิดของเธอ

“มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับที่ฉันพูดเมื่อกี้เลยนะแพร” ใบหน้าคมหันมองคนข้างๆด้วยความทึ่งที่เธอช่างคิดได้ไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด

“ต่างสิคะมีข้าวนำหน้าเหมือนกับแม่ของมัน”  ผ้าแพรเถียงอีกฝ่ายเสียงดังฟังชัดเธอคิดว่าสิ่งที่เธอคิดมันต่างจากชายหนุ่มอยู่มาก

“หึ่...” ภูผาสบถในลำคอทั้งส่ายหัวเล็กน้อยหากเขาเถียงกับหญิงสาวไปคงจะไม่ชนะอยู่ดีจึงหยุดพูดให้เธอภูมิใจกับความคิดของเธอไปคนเดียว

“อิ่มแล้วเหรอข้าวเหนียวพรุ่งนี้ฉันจะเอามาให้อีกนะ” ผ้าแพรและภูผานั่งเล่นเจ้าลูกหมาสองตัวอยู่พักใหญ่จนแม่ของมันเริ่มเข้ามาคลอเคลียกับเธอเพราะอยากจะเล่นด้วยบ้าง

“เมื่อกี้ยังขู่ฉันอยู่เลย” เจ้าข้าวเหนียวกระดิกหางไปมาซบใบหน้าคลอเคลียผ้าแพรครู่หนึ่งแล้วจึงมากระดิกหางตรงหน้าภูผาจนเขาอดยิ้มไม่ได้

“หมาแม่ลูกอ่อนก็แบบนี้แหละค่ะขี้ระแวงเป็นธรรมดาถ้าคุณให้อาหารมันแล้วมันก็จะจำไปตลอดจะไม่ระแวงอีกต่อไป” ผ้าแพรรู้ดีว่าเจ้าข้าวเหนียวฉลาดแค่ไหนมาที่บ้านแรกๆมันก็ขู่เธอเหมือนกันแต่พอเธอแบ่งกล้วยให้มันก็เริ่มเป็นมิตรกับเธอตั้งแต่วันนั้น

หลังจากทานข้าวเย็นกันเรียบร้อยฟ้าก็เริ่มมืดแล้วเหล่าคนโตก็นั่งคุยเล่นที่ชานบ้านกันตามประสาส่วนสองสามีภรรยาอย่างภูผาและผ้าแพรก็เดินออกมาดูดาวในยามค่ำคืนที่ฟ้าโปร่ง

“ไม่หนาวหรือไงคืนนี้อากาศเย็นพอสมควรนะ”  ภูผารู้สึกว่าอากาศที่นี่เย็นพอสมควรทั้งที่ยังไม่มืดดีทั้งหญิงสาวยังสวมแค่ชุดนอนผ้าฝ้ายตัวโคร่งเขาจึงกลัวเธอจะหนาว

“ตัวแพรใกล้กับตัวคุณภูแบบนี้ก็ไม่ค่อยหนาวหรอกค่ะ”  ร่างบางเงยหน้ามองชายหนุ่มเธอยิ้มร่าและค่อยๆเขยิบเข้าใกล้ตัวของภูผาแต่ก็ไม่ได้ใกล้จนแนบชิดแค่นี้ก็ใช้ความอบอุ่นจากตัวของเขาบรรเทาความเย็นให้เธอได้แล้ว

ริมฝีปากหนายิ้มอ่อนหากเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นคนพูดตรงไปตรงมาคงคิดว่าเธอกำลังหยอดคำหวานเขาอยู่เป็นแน่

“ที่คุณภูมาพักที่นี่ทำให้คุณเสียงานหรือเปล่าคะ”  ดวงตากลมมองวาดไปทั่วท้องฟ้าทั้งนึกขึ้นได้กะทันหันว่าภูผามาที่นี่ก็ต้องหยุดงานจึงหันกลับมาถามภูผา            

“ไม่หรอกฉันมีคนดูแลให้อยู่แล้ว”  คนตัวโตตอบพร้อมเขยิบตัวแนบชิดหญิงสาวอีกนิดเพื่อที่จะให้เธอนั้นอุ่นยิ่งขึ้น

“รู้แบบนี้ค่อยสบายใจ...ถ้าคืนนี้มีดาวตกก็ดีสิคะคุณภูแพรจะได้อธิษฐาน” ได้รู้คำตอบเช่นนี้ผ้าแพรเองก็ยิ้มออกสบายใจแล้วหันหน้าไปจดจ่อบนท้องฟ้าที่มีกลุ่มดาวระยิบระยับอีกครั้ง

“เธอจะอธิษฐานอะไร” ภูผาหันหน้ามองหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย

“ขอให้ลูกเราแข็งแรงค่ะแล้วก็ขอให้ความสุขอยู่กับเรานานๆ” มือน้อยลูบหน้าท้องนูนของเธอทั้งมองด้วยสายตาเอ็นดูไม่ใช่แค่เธอที่ยิ้มแต่พฤติกรรมของหญิงสาวตอนนี้ทำเอาภูผายิ้มไปด้วย

วันต่อมา

ช่วงสายของวันนี้หลังจากที่ภูผาและผ้าแพรให้ข้าวให้น้ำเจ้าข้าวเหนียวที่กอกล้วยท้ายสวนมะม่วงเรียบร้อยแล้วจึงเดินดิ่งพร้อมตะกร้าหวายใบไม่ใหญ่มากนักมาที่ต้นมะม่วงเพื่อที่จะเก็บมะม่วงสุกที่เห็นเมื่อวาน

“ลูกนั้นค่ะ” มือน้อยของผ้าแพรชี้ซ้ายชี้ขวาให้ภูผานั้นเด็ดมะม่วงใส่ตะกร้าด้วยความสูงของเขาจึงเอื้อมมือหยิบลูกมะม่วงห้อยตามต้นได้อย่างไม่ลำบาก

“เหลืองอร่ามน่าทานมากเลย” ภูผามองมะม่วงในตะกร้าที่ตนถือระหว่างเดินกลับก็อดที่จะน้ำลายไหลกับมะม่วงพวกนี้ไม่ได้เพราะทั้งสีที่เหลืองอร่ามและกลิ่นหอมมันเตะจมูกจนอยากจะลิ้มรสสัมผัส

“นั่นไงสองคนนั้นมาพอดี” พิกุลกำลังยืนคุยกับคนินทร์ชายหนุ่มวัยสามสิบที่เป็นสารวัตรประจำสำนักงานตำรวจอีกอำเภอไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

“พี่คิณคะ...คิดถึงจังเลยค่ะ..พี่คิณมาพอดีเมื่อกี้แพรไปเก็บมะม่วงกับคุณภูมาพี่คิณเอากลับไปทานนะคะเผื่อป้านาด้วย” ผ้าแพรเห็นหน้าคนินทร์เธอก็ยิ้มร่าวิ่งแจ้นเข้าไปกอดพี่ชายที่เธอคิดถึงใจจะขาดเพราะนานๆทีคนินทร์จะแวะมาที่นี่ด้วยมีงานไม่ค่อยว่าง

“ขอบคุณนะแพร” คนินทร์กอดร่างบางเอาไว้หลวมๆเพราะตอนนี้สายตาของคนที่เขาไม่คุ้นเคยกำลังจับจ้องเขามาเป็นตาเดียว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status