"เอาไว้ถามคุณพ่อผมเองก็ได้"
"ปล่อยบัวได้หรือยังคะบัวบอกความจริงไปหมดแล้ว"
"ไม่..ผมจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับคุณเด็ดขาดเพราะคุณดันเอาหัวใจผมไปหมดแล้วจะมาทิ้งขว้างกันง่ายๆได้ยังไง"
"คุณภพ"
กอบัวตกใจกับคำพูดตรงไปตรงมาของข้ามภพพอสมควร
"คุณไม่เคยมีใจให้ผมบ้างเลยหรือไงถึงได้จะตัดผมไปง่ายๆ..อย่างว่าเวลาที่รู้จักกันของเรามันไม่ได้มากมายคงไม่ทำให้คุณรู้สึกอะไร..แต่ผมมันดันคิดไปไกลแล้ว"
"มันไม่เกี่ยวกับเวลาไม่ใช่ว่าบัวไม่รู้สึกดี..แต่บัวแค่เข้าใจความเป็นจริง"
"ยิ่งคุณพูดผมยิ่งคิดว่าคุณไม่เข้าใจ..ผมก็อธิบายไปแล้วไงว่าพ่อผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิด"
ข้ามภพเริ่มเอ่ยเสียงอ่อนทั้งสายตาที่มองไปยังหญิงสาวดูตัดพ้อพอสมควรเพราะมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ยังจะมาคิดเรื่องความเหมาะสมบ้าบอที่เขาไม่สนใจทั้งยังไม่ยอมบอกว่ายัยหนูคือลูกสาวของเขาอีก
"อื้อ.."
ข้ามภพบดจูบคนใต้ร่างอีกรอบหากว่าเธอจะไม่ยอมเข้าใจอะไรที่เขาพูดเขาก็จะทำกับเธอแบบนี้จนกว่าเธอจะเข้าใจและจะเค้นจนเธอยอมบอกความจริงจากปากตัวเองมาให้ได้
“คุณภพพอเถอะค่ะ”
เมื่อริมฝีปากหนาผละออกจากปากตัวเองได้สาวเจ้าก็ขอร้องให้ชายหนุ่มหยุดด้วยท่าทีไม่พอใจที่เอะอะเขาก็เอาแต่จูบเธอและไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระเสียทีทั้งที่เธอก็บอกสิ่งที่เขาอยากจะรู้ไปแล้ว
“เชื่อผมหรือเปล่า..บอกมาก่อน”
“เชื่อก็ได้ค่ะ”
กอบัวจำต้องตอบปัดออกไปเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้เลิกยุ่มย่ามกับปากของเธอเสียที
“ดี..งั้นคุณก็ต้องกลับไปทำงานกับผมเหมือนเดิมห้ามหลบหน้าห้ามบอกเลิกอีกเข้าใจหรือเปล่า”
“ค่ะ”
ข้ามภพรวบร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกันก่อนที่เขาจะลุกออกจากเตียงเดินไปล็อกประตู
“คุณภพ..จะทำอะไรคะ”
กอบัวเริ่มนั่งไม่ติดเตียงเมื่อจู่ๆข้ามภพก็เดินไปล็อกประตูแทนที่จะรีบขับเรือพาเธอกลับ
“จัดการกับแม่ของลูกที่ปากแข็งไง”
“ว่าไงนะคะ..”
หญิงสาวลุกพรวดออกจากเตียงยืนมองข้ามภพด้วยท่าทีตระหนกหากเขาพูดออกมาเช่นนี้เท่ากับว่าเรื่องของยัยหนูชายหนุ่มคงจะรู้แล้วแน่นอน
“ผมพาคุณมาเค้นคำตอบถึงที่นี่แล้วคุณยังจะให้ผมเหนื่อยถามความจริงจากปากคุณอีกตอนนี้คุณต้องเหนื่อยเพราะผมบ้างแล้ว”
คนตัวโตปรี่เข้ามารวบกอดร่างบางเอาไว้แน่นทั้งก้มมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหยาดเยิ้มเช่นเดียวกับกำลังมองอาหารอันโอชะ
“คุณภพ..”
หัวใจดวงน้อยของกอบัวเต้นระรัวประหม่าจนทำอะไรไม่ถูกแล้วร่างบางก็ถูกอุ้มขึ้นเตียงอีกครั้ง
“ไม่ผิดที่ผมจะทำแบบนี้กับเมียผม”
ข้ามภพก้มลงจูบริมฝีปากบางด้วยความนุ่มนวลกอบัวมีท่าทีขัดขืนบ้างในคราแรกก่อนจะโอนอ่อนด้วยลีลาเล้าโลมของคนตัวโตและแล้วห้องนอนเล็กในเรือยอร์ชก็ดูจะอบอุ่นอบอวลไปด้วยไฟสวาทอยู่ค่อนคืน
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากที่ข้ามภพและกอบัวได้นอนคุยเคลียใจกันในตอนที่อยู่บนเรือตอนนี้ข้ามภพก็ให้กอบัวและยัยหนูพารักย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่ออยู่ให้ชินก่อนจะถึงวันแต่งงาน
คราแรกเขาจะย้ายทั้งครอบครัวของเธอมาอยู่บ้านอีกหลังที่ซื้อเอาไว้ใกล้ๆกันแต่ทางชำนาญและมาลัยปฏิเสธพราะสบายใจที่จะอยู่ทำกิจการของตัวเองที่บ้านเก่าในส่วนของกอแก้วก็ไม่ได้อยากรบกวนอะไรข้ามภพขออยู่ดูแลพ่อกับแม่ที่บ้านจะดีกว่า
ส่วนคนป่วยที่นอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างเปรมรับรู้เรื่องกอบัวและพารักก็ดีใจจนอาการป่วยหายวันหายคืนอยากจะให้ข้ามภพและกอบัวจัดงานแต่งโดยเร็ววันแต่ทั้งคู่ก็ยืนยันว่าจะรอให้เปรมนั้นหายดีก่อนจึงจะจัดงานโดยที่ไม่กังวลอะไร
ทางด้านคนในบริษัทตอนนี้ก็รู้หมดแล้วว่าเรื่องของกอบัวและข้ามภพเป็นมายังไงทุกคนต่างก็เข้าใจว่าชีวิตของกอบัวและข้ามภพคือพรหมลิขิตที่แท้จริงและต่างก็ยินดีกับทั้งคู่ที่จะแต่งงานกันในเร็วๆนี้ด้วย
โรงพยาบาล
“ผมรู้ข่าวเรื่องภพแล้วดีใจด้วยนะ”
บรรจงเข้ามาเยี่ยมเปรมแต่เช้าหลังจากที่เขาพึ่งกลับจากดูงานที่สิงคโปร์ยิ่งรู้ข่าวเรื่องข้ามภพจะแต่งงานเขาก็รีบมายินดีกับเพื่อนตนด้วยตัวเอง
“ขอบคุณ..แล้วนี่หนูนิดาไม่ได้อยู่ไทยเหรอช่วงนี้เงียบหายไปเลย”
เปรมเห็นว่านิดาหายหน้าไปตั้งแต่ที่เข้าใจผิดเรื่องข้ามภพเป็นโรคร้ายจึงอยากรู้ว่าหลานสาวอยู่ที่ไหนถึงไม่ค่อยได้มาเจอกัน
“ก็เที่ยวตามประสาสาวโสด..เสียดายนะที่เราไม่ได้ดองกันแต่ก็ดีใจที่ความฝันของคุณเป็นจริงที่จะเห็นข้ามภพมีครอบครัว..แล้วนี่หมอต้องให้ดูอาการอีกนานเท่าไรล่ะ”
“อีกเป็นอาทิตย์”
“เอ่อ...แล้วข้ามภพได้บอกคุณเรื่องคุณโฉมหรือยัง”
“คุณโฉม..ทำไม”
“ก็..คุณโฉมกับปราณถูกจับเพราะมีคดีพยายามฆ่าข้ามภพ”
คำพูดของบรรจงทำเปรมใจหายวาบเขารู้ว่าโฉมสุดาจ้องหาเรื่องทำลายชื่อเสียงของข้ามภพไม่คิดว่าโฉมสุดาจะทำเรื่องร้ายแรงถึงขนาดพยายามฆ่าข้ามภพและปราณก็ร่วมมือด้วย
ชั่วโมงต่อมา
หลังจากนั่งคุยกับบรรจงพักใหญ่จนเพื่อนตนนั้นกลับไปเปรมก็รับโทรหาข้ามภพให้เข้ามาหาทันทีเพราะต้องการจะคุยเรื่องที่พึ่งจะได้รับรู้หมาดๆ
“ทำไมถึงไม่บอกพ่อเรื่องคุณโฉม”
เปรมเห็นลูกชายตนเข้ามาหาได้เขาก็รีบเอ่ยถามข้ามภพเสียงอ่อนสีหน้าของเขาเศร้าหมองจนข้ามภพรับรู้ความหดหู่ในใจของพ่อตนได้
“ผมอยากให้คุณพ่อหายดีก่อนครับไม่อยากพูดเรื่องอะไรที่ทำให้คุณพ่อเครียด”
“พ่อขอโทษนะลูก”
เปรมยกมือลูบหัวลูกชายด้วยความรู้สึกผิดมากข้ามภพคือคนที่เขาไม่ค่อยได้ให้ความรักความอบอุ่นมากเท่าไรนักแถมยังเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะคนที่เขาเก็บเอาไว้ในชีวิตอีก
“..มันก็ผ่านมาแล้วผมไม่คิดอะไรมากแล้วล่ะครับ..ต่อไปนี้เราจะเริ่มต้นใหม่กันนะครับ”
ข้ามภพกุมมือพ่อของเขาเอาไว้แน่น
“ผมเข้าใจว่าคุณพ่อคงผิดหวังในตัวคุณโฉมอย่าทำให้ตัวเองเครียดเลยนะครับเดี๋ยวเวลาเลวร้ายนี้ก็จะผ่านพ้นไป”
เปรมฟังข้ามภพพูดจบก็ได้แต่กำมือของข้ามภพเอาไว้เช่นนั้นพักใหญ่ความรู้สึกผิดจุกอกจนพูดอะไรไม่ออกแม้นข้ามภพจะไม่อยากให้เขาเครียดแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินคราวนี้เขาต้องตัวโฉมสุดาให้ได้จริงๆแล้ว
อาทิตย์ต่อมา
ร่วมสองอาทิตย์แล้วที่กวินเข้ามาช่วยเป็นลูกมือกอแก้วทำขนมเอาไว้ส่งในช่วงเย็นทุกวันจนชำนาญและมาลัยดูออกว่ากวินตามจีบกอแก้วทั้งสองไม่ได้ห้ามเพราะรู้ดีว่าหากกอแก้วไม่มีความพอใจในกวินบ้างคงไล่ตะเพิดไปแล้ว
“พี่วินไม่มีการไม่มีงานทำหรือไปงคะมาช่วยแก้วได้ทุกวี่ทุกวัน”
กอแก้วหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังแพ็คขนมอยู่ข้างๆเพราะเห็นว่าเขามาหาเธอได้ทุกเย็น
“พี่ไม่ทำงานที่โรงพยาบาลแล้วแต่ออกมาช่วยคุณพ่อบริหารงานแทนเลยเข้างานเป็นเวลาเย็นเลยมาหาแก้วได้”
“ทำไมถึงไม่รักษาคนแล้วล่ะคะ”
“พี่เห็นภพมีครอบครัวก็อยากจะมีบ้าง..เลยเลือกทำงานที่มันพอจะมีเวลาให้ครอบครัว...คนที่พี่อยากให้เป็นแม่ของลูกเค้าจะได้ไม่มาว่าพี่ไม่สนใจคนรัก”
“พูดเหมือนมีแม่ของลูกแล้วอย่างนั้น”
“ก็คนที่พี่มาหาทุกวันไง..รอแค่เธอให้อภัยเรื่องในอดีตแล้วก็ตอบตกลงแต่งงานก็เท่านั้น”
กวินเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานเย้าหยอกคนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆแม้นกอแก้วจะทำใจแข็งกับเขามากเท่าไรคนอย่างกวินก็ไม่คิดยอมแพ้หากเธอจะใจแข็งกับเขาได้ตลอดก็ให้มันรู้ไป
“แก้วขอตัวไปซื้อถุงคุ้กกี้เพิ่มก่อนนะคะ”
ว่าจบร่างบางก็ลุกเดินออกไปจากครัวจากที่เดินสีหน้าเรียบเฉยพอออกมาถึงหน้าบ้านเธอก็อมยิ้มกริ่มนึกขวยเขินกับคำพูดของกวินตอนนี้เธอไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรชายหนุ่มแล้วเพียงแค่อยากจะดูว่าเขาจะอดทนกับเธอได้ถึงไหนคราวนี้ถือว่าเป็นการเอาคืนที่เขาปล่อยให้เธอเสียใจอยู่คนเดียวในครั้งนั้น
สองอาทิตย์ต่อมาตอนนี้อาการของเปรมดีขึ้นมากเขากลับมาพักฟื้นที่บ้านของข้ามภพได้เป็นอาทิตย์แล้ววันๆก็ง่วนอยู่แต่กับหลานสาวตัวกลมที่เรียกหาคนเป็นปู่ไม่เว้นว่างซึ่งนั่นก็เหมือนยาดีที่ทำให้เปรมรู้สึกกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษบางวันก็มีมาลัยและชำนาญมาคอยอยู่พูดคุยให้บรรยากาศดูครื้นเครงชีวิตของเปรมจึงกลับมามีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนหลายเท่ามีความสุขมากๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ข้ามภพและกอบัวจะจัดงานแต่งงานกันแล้วแต่คนในครอบครัวก็ไม่ได้เตรียมอะไรมากนักเพราะงานไม่ได้ใหญ่โตเชิญเพียงแค่คนสนิทกับคนในบริษัทของข้ามภพมาเท่านั้น“วันแต่งเจ้าสาวของผมต้องสวยมากแน่ๆ”ข้ามภพเข้ามาสวมกอดภรรยาตัวเล็กที่ยืนมองชุดแต่งงานสีขาวอยู่พักใหญ่ในช่วงเวลาก่อนนอนกอบัวหันมายิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งชะเง้อไปที่เตียงมองหาเจ้าก้อนว่าหลับหรือยังหลังจากที่สามีของเธออุ้มเดินกล่อมพักใหญ่“ยัยหนูล่ะคะ”“ผมอุ้มไปห้องคุณพ่อแล้วยัยหนูก็นอนที่นั่น”“กวนคุณพ่อเปล่าๆนะคะ”“ไม่หรอกคุณพ่อให้ยัยหนูนอนที่นั่นเอง..เพราะว่า..คุณพ่ออยากได้หลานเพิ่มแล้ว”ข้ามภพว่าจบก็อุ้มร่างบางในชุดนอนไปวางที่เตียงหน้าระรื่นเขาค่อยๆถอดแว่นของกอ
ค่ำคืนในระแวกแถวหน้าวัดในชานเมืองกรุงเทพมหานครค่อนข้างเงียบสงัดเป็นผลดีต่อกอบัวคุณแม่ยังสาวที่ต้องการกล่อมพารักลูกน้อยวัยขวบกว่าได้นอนกอบัวเป็นหญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่าชังอายุ25ปีเธอสูง158หนัก45ผิวขาวอมชมพูใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตขนตางอนยาวหวานคิ้วเรียวบางได้รูปจมูกเป็นสันเล็กแก้มพองๆมีลักยิ้มหญิงสาวสวมแว่นตลอดเวลาเพราะเป็นคนที่สายตาสั้นตั้งแต่เด็กเรือนผมของเธอดำตรงสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆคนหนึ่งจนคนในครอบครัวพากันเป็นห่วงในความดีของเธอบ้านของหญิงสาวเป็นทาวน์เฮ้าส์3ชั้นอยู่กัน5คนพ่อแม่พี่สาวเธอและลูกชั้นล่างของบ้านเปิดเป็นร้านสังฆภัณฑ์เป็นธุรกิจของครอบครัวชั้นสองเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่และพี่สาวส่วนชั้นบนเป็นของเธอและเจ้าก้อนกลมเพียงแค่สองคนร่างบางวางเจ้าก้อนหลมในอ้อมอกลงกับเปลสีชมพูข้างเตียงอย่างเบามือหลังจากที่กล่อมให้ลูกน้อยนั้นนอนหลับได้พักใหญ่จนแน่ใจแล้วว่าเจ้าขนุนน้อยจะไม่แยกเขี้ยวใส่อีกเมื่อวางลงบนเปล"หลับได้ซะทีนะเจ้าขนุนน้อย"มือเรียวยกเท้าเอวเล็กน้อยหลังจากเงยหน้าขึ้นเพราะรู้สึกปวดตัวไม่น้อยด้วยต้องอุ้มลูกเป็นเวลานานกอบัวยืนมองแก้มย้วยๆของคนที่นอ
ในเช้าวันนี้ทุกคนต่างมานั่งหารือกันกันก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านกอแก้วรีบเอาเงินเก็บทั้งหมดที่ตัวเองมีมากองตรงหน้าพ่อกับแม่รวมประมาณหนึ่งแสนกว่าบาทเธอเก็บมันตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไปเรื่อยๆจนดาวน์บ้านหลังใหม่อีกหลังแต่ตอนนี้คงต้องเอามาช่วยครอบครัวก่อน"นี่เงินเก็บแก้วค่ะพ่อกับแม่เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟส่วนที่เหลือก็น่าจะส่งธนาคารได้บ้าง..แล้วเงินที่ต้องจ่ายหนี้ธนาคารแก้วจะรับผิดชอบเองค่ะ..แก้วจะคิดว่าจะทำขนมฝากร้านคนรู้จักขายหารายได้อีกทาง”"แม่ก็คิดว่าแม่จะให้พ่อเฝ้าร้านคนเดียวแล้วออกไปหางานแม่บ้านทำอีกแรง"กอบัวที่นั่งฟังทุกคนหารือช่วยกันหารายได้เสริมเธอเองก็เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกไปทำการทำงานเสียทีหากจะให้แม่เธอไปเป็นแม่บ้านทำงานหนักเธอคงไม่สบายใจแน่"ไม่ต้องนะคะแม่..แม่ดูแลยัยหนูส่วนบัวจะไปทำงานประจำเองค่ะ"“แต่พี่ว่า...”"แต่แม่ว่า..."ทั้งมาลัยและกอแก้วต่างหันมามองกอบัวเป็นตาเดียวกันคิดค้านความคิดของกอบัวเพราะที่พวกเธอต้องการให้กอบัวอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูกด้วยไม่อยากให้คนที่มองโลกในแง่ดีอย่างกอบัวต้องไปเจออะไรที่มันเลวร้ายอีก"บัวอยากออกไปทำงานค่ะยัยหนูก็
ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่แสนสดใสวันนี้ก่อนออกจากบ้านไปสมัครงานกอบัวในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกระโปรงพีชสีชมพูคลุมเข่ารวบผมตึงแต่งหน้าอ่อนสวมแว่นหนาเตอะประจำตัวเข้ามากอดลูกสาวตัวกลมที่นั่งอยู่บนตักคนเป็นยายเพื่อขอกำลังใจก่อนจะไปสมัครงานในวันนี้"วันนี้แม่จะไปสัมภาษณ์ขนุนน้อยอวยพรให้แม่ได้งานด้วยนะคะ""งาน.. งาน.. แฮร่ๆ.."เจ้าก้อนกลมยิ้มปากบานให้คนเป็นแม่เป็นกำลังใจอย่างดีที่ทำให้กอบัวนั้นมีพลังมากขึ้นฟอดดก่อนออกจากบ้านกอดหอมลูกสาวฟอดใหญ่"แม่จะรีบไปรีบกลับนะคะ""ไปเถอะลูกเดี๋ยวจะสาย..โชคดีนะลูก/โชคดีลูก"มาลัยและชำนาญไม่ลืมที่จะอวยพรให้ลูกสาวคนเล็กโชคดีด้วยเชื่อมาตลอดว่าพรของพ่อกับแม่นั้นดีกับลูกเสมอ“ค่ะแม่”หลังจากออกจากบ้านไปได้กอบัวก็รีบเดินไปที่รถเก๋งคันสีเทาคนเก่าของบ้านแม้มันจะเป็นรถรุ่นเก่าหลายสิบปีแต่พ่อของเธอก็เช็ดถูมันอย่างดีจนดูใหม่เอี่ยมอยู่ตลอดเวลาหญิงสาวรีบขับรถไปสมัครงานก่อนเวลาเป็นชั่วโมงแม้นจะอยู่ใกล้กับบริษัทที่นัดสัมภาษณ์วันนี้ด้วยกลัวว่ารถจะติดและหากไปถึงก่อนเวลาที่ถูกนัดก็เป็นเรื่องที่ดีไม่นานนักกอบัวก็ขับรถมาถึงหน้าบริษัทXXXที่เป็นบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภ
"ม..ไม่ถามก่อนเหรอคะว่าฉันทำอะไรได้บ้าง"กอบัวได้ยินเช่นนั้นเธอก็ถึงกับนั่งตัวเกร็งหน้าของเธอแสดงออกถึงความฉงสนใจอย่างเห็นได้ชัดที่จู่ๆก็ได้งานโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามอะไรมากมาย"ไม่ครับ..ยังไงก็ต้องมาเรียนรู้หน้างานอยู่ดี...วันจันทร์หน้าเตรียมตัวพบกับคุณข้ามภพได้เลยนะครับเค้าเป็นเจ้านายที่ไม่ค่อยพูดเท่าไรคุณทำงานด้วยอย่างสบายใจแน่นอนครับ"พิพัฒน์ส่ายหัวเรื่องงานรู้ว่าข้ามภพคงจะมาอธิบายกับเธอเองอยู่แล้วแต่เรื่องที่จะหาผู้หญิงอย่างกอบัวนี่สิยากกว่า"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"กอบัวลุกออกจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ยังมีความฉงนติดอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยังมีรอยยิ้มดีใจเธอเดินออกไปจากห้องพร้อมกับพิมลดายังแอบคิดว่าตัวเองฝันจนหลุดจากภวังค์ได้เมื่อพิมลดาเอ่ยทักขึ้น“วันจันทร์เจอกันนะคะคุณกอบัว”“ค่ะ..บัวกลับก่อนนะคะสวัสดีค่ะ”สาวเจ้ายกมือไหว้พิมลดาก่อนจะเดินลงบันไดมาชั้นล่างเธอเลี้ยวซ้ายจะมาที่ลานจอดรถเห็นศาลเจ้าศาลใหญ่จึงรีบปรี่เข้ามายกมือไหว้“ท่านเจ้าที่ใจดีกับบัวมากเลยนะคะ...วันจันทร์บัวจะเอาหัวหมูกับพวงมาลัยมาถวายนะคะ”เมื่อเอ่ยปากสัญญากับเจ้าที่เสร็จกอบัวก็เดินหน้าบานขับรถกลับบ้านคิดว่าคนที่บ้านเธอคงดีใจไม่น้
"ฉันเจอพ่อนาย""ทำไม"ข้ามภพชะงักมือในการยกขวดไวน์ขึ้นดื่มเล็กน้อยเขาทำเป็นไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะกระดกขวดไวน์ในมือดื่มต่อ"ท่านดูอาการไม่ดีเลย...นายกลับไปดูพ่อบ้างหรือเปล่า"กวินมาที่นี่ก็เพราะอยากจะบอกกับเพื่อนรักด้วยตัวเองเพราะรู้ว่าคงไม่ข้ามภพรู้เรื่องนี้แน่นอน"ฉันไม่อยากเข้าไปเหยียบที่บ้านเท่าไร""ฉันเข้าใจว่านายไม่ถูกกับแม่เลี้ยงนายเท่าไรแต่ไปหาพ่อนายที่บริษัทบ้างก็ได้นี่""ไปก็ไม่ได้ทำให้พ่อฉันดีขึ้น...แต่ก็จะลองหาเวลาก็แล้วกัน"“..เฮ้อ..”กวินยกขวดไวน์ที่พึ่งเปิดเสร็จขึ้นดื่มเขาไม่รู้ว่าข้ามภพนั้นจะมีทิฐิกับพ่อตัวเองไปถึงเมื่อไรทั้งที่บ้านตัวเองที่อยู่ตอนนี้กับบ้านของคนเป็นพ่อไม่ได้ไกลกันนักแต่ไม่ยักจะหาเวลาไปเขารู้ว่าข้ามภพนั้นไม่ค่อยชอบแม่เลี้ยงกับลูกติดเท่าไรแต่การที่เพื่อนเขาหาเวลาไปดูคนเป็นพ่อบ้างคงจะดีกวินเป็นหมอหนุ่มรูปหล่อเจ้าระเบียบเขาค่อนข้างนิสัยเหมือนกับข้ามภพเขาเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังและยังเป็นหมอศัลยแพทย์กระดูกฝีมือดีชายหนุ่มมีใบหน้าเกลี้ยงเกลาคื้วเข้มตาตี่จมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับผิวขาวตัดผมรองทรงสูงรูปร่างสูงใหญ่หุ่นบึกบึนเป็นที่ต้องตาพยาบาลในโรงพ
"นี่ห้องทำงานผม"ข้ามภพเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองก่อนจะหันมาบอกให้หญิงสาวได้ทราบเสียทีว่าเขานั้นเป็นใครแอบหงุดหงิดในใจเล็กน้อยที่หญิงสาวมาทำหน้าที่เลขาของเขากลับไม่รู้จักหน้าตาของเจ้านายตัวเองว่าเป็นอย่างไรทั้งที่ในบริษัทก็มีบอร์ดบริหารงานติดอยู่"อย่าล้อเล่นสิคะถามเป็นการเป็นงาน"กอบัววางเก้าอี้ลงยกมือเกาหัวแกรกๆแสยะยิ้มอ่อนที่ดูอีกฝ่ายท่าจะเล่นตลกใส่เธอข้ามภพเริ่มยกมือเท้าเอวกรอกตามองบนหนึ่งรอบก่อนจะชี้ให้หญิงสาวเดินกลับไปดูบอร์ดบริหารตรงหน้าลิฟท์ที่เดินออกมา"ไปดูบอร์ด"กอบัวชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มปิดประตูห้องไปแล้วจึงรีบสาวเท้าไปดูบอร์ดให้แน่ใจว่าตกลงชายหนุ่มพูดจริงหรือพูดเล่นกับเธอกันแน่และแล้วสาวเจ้าก็ได้ยกมือปิดปากเมื่อสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมันคือเรื่องจริง"ท..ท่านประธาน"คิ้วเรียวบางขมวดผูกโบว์ด้วยใครจะไปคิดว่าประธานบริษัทที่นี่จะมาดเซอร์เข้ามาในออฟฟิศในสภาพที่เหมือนคนส่งของแบบนั้นร่างบางรีบสาวเท้ากลับไปหยิบเก้าอี้แล้วปรี่ตรงเข้าไปในห้องเจ้านายของเธอทันที"เอ่อคือเมื่อกี้..บัวขอโทษนะคะ.."มือเรียววางเก้าอี้ลงตรงหน้าคนตัวโตที่นั่งไขว่ห้างมองเธอด้วยสีหน้าแน่น
พิมลดาเดินนำกอบัวตรงมาที่นนทวัฒน์หรือนนนี่กราฟฟิกดีไซน์สาวสองแสนสวยประจำออฟฟิศขณะที่นนนี่กำลังจัดแจงตรวจความเรียบร้อยของชุดนางแบบก่อนที่จะเก็บเพื่อที่จะใช้ในการถ่ายแบบโฆษณาครั้งที่จะถึง"นนนี่.. คนนี้น้องบัวเลขาคนใหม่บอส"“สวัสดีค่ะพี่นนนี่”กอบัวยกมือไหว้สาวสองร่างสูงที่สวยราวกับผู้หญิงแท้หรือมากกว่าเธอก็ว่าได้"ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะหนูบัว...คุณพิพัฒน์นี่ก็เลือกคนได้เหมาะกับบอสดีนะ"นนนี่หันมาแตะบ่าเลขาสาวของเจ้านายเธอมองหน้ากอบัวด้วยสีหน้าเป็นมิตรก่อนจะหันไปสบตากับพิมลดาพูดถึงเรื่องที่พิพัฒน์เลือกเลขาได้เหมาะกับเจ้านายดีด้วยดูแปลกกันทั้งคู่เจ้านายก็เดาอารมณ์ไม่ค่อยถูกส่วนเลขาก็ดูเชยจนนึกว่าหลงยุค"ยังไงเหรอคะ?พี่นนนี่"กอบัวไม่ค่อยเข้าใจคำที่นนนี่สื่อเท่าไรนัก"อ่อ..เปล่าหรอกนนนี่ก็พูดไปงั้น...นั่นลูกตาลกับนัตตี้เป็นพีอาแล้วก็ทำกราฟฟิกด้วย”พิมลดารีบแก้ต่างให้นนนี่ก่อนจะเบนความสนใจแนะนำคนอื่นในห้องให้กับกอบัวได้รู้จัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่ๆ”“เช่นกันจ้า”สาวสวยอย่างนัตตี้และลูกตาลหันมายิ้มอ่อนทักทายกอบัวก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ"งั้นเดี๋ยวพี่พาบัวไปแนะนำคนในแผนกอื่นก่อน