"เดี๋ยว..ตอนนี้มันมีแดดแล้วเหรอ"
นัตตี้ที่เดินเสริฟน้ำให้กับเหล่าตากล้องพร้อมลูกตาลเธอก็หันไปหรี่ตามองประธานหนุ่มที่อยู่อีกมุมของไร่แปลกใจไม่น้อยที่แดดยังไม่ออกมาจนร้อนแต่ทำไมกอบัวต้องคอยกางร่มให้ประธานหนุ่ม
"คงอยากจะใกล้กันตลอดเวลานั่นแหละ"
"บอสเรานี่ก็คลั่งรักกับเค้าเหมือนกันนะ"
"ผู้ชายมาดเสือพอมีความรักก็เป็นลูกแมวกันแทบทุกคน"
ลูกตาลอมยิ้มอ่อนเมื่อมองไปยังคู่รักที่ความรักกำลังผลิบาน
ตกเย็นหลังการถ่ายทำสำเร็จเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ต่างฉลองกันอยู่ที่หน้าบ้านของสันติเป็นกลุ่มเป็นก้อนหนุ่มๆก็ยืนย่างอาหารทานที่กลางลานกางเต็นท์ส่วนสาวๆก็หลบมุมกันเข้ามาในครัว
"มีแอลกอฮอลหน่อยคงดีเนอะนัตตี้"
ลูกตาลหันมาบอกกับนัตตี้ขณะนั่งกัดไก่ทอดคำโต
"ไม่ได้เตรียมมาเลยน่ะสิ"
"ป้าพอจะมีสาโทอยากลองหรือเปล่าล่ะ"
ตองนวลเห็นเหล่าสาวๆอยากจะได้แอลกอฮอลกันเธอไม่มีเครื่องดื่มดีๆราคราแพงมีก็แต่สาโทที่เธอชอบเก็บเอาไว้และอยากจะให้ทุกคนได้ชิม
"ไม่ปฏิเสธค่ะป้านวล"
เป็นนัตตี้ที่เอ่ยตอบรับตองนวลเสียงชัดแจ๋ว
"เดี๋ยวป้าไปเอาให้"
"ป้านวลไม่ต้องค่ะเดี๋ยวบัวไปเอามาให้อยู่ที่เดิมใช่หรือเปล่าคะ"
กอบัวรีบอาสาเพราะเห็นตองนวลเดินเสริฟอาหารไปมาหลายรอบแล้ว
"ที่เดิมนั่นแหละหยิบมาหมดเลยนะลูก"
"ค่ะ"
กอบัวรีบวิ่งขึ้นบันไดปรี่ไปที่ห้องของตองนวลเธอหอบขวดสาโทมาสามสี่ขวดก่อนจะค่อยๆเดินออกมาข้างนอกเมื่อมาถึงบันไดก็เริ่มประหม่าเล็กน้อยเพราะกลัวว่าตัวเองจะซุ่มซ่ามทำอะไรตกหรือไม่เธอก็อาจจะตกไปเอง
แก๊ง.. แก๊งง
"อย่าหลุดมือนะ"
เมื่อก้าวลงบันไดขั้นแรกเจ้าขวดสาโทที่หนีบไว้ที่อกก็ดันเกือบจะล่วงกอบัวจึงค่อนข้างใจเสียไม่น้อยและค่อยๆพยายามลงจากบันไดช้าๆ
ฟึ่บ
"อ๊ายยย.."
ด้วยความที่ห่วงว่าของในมือจะหล่นจึงไม่ทันได้ดูเท้าตัวเองเธอจึงก้าวพลาด
เพล้ง.. ๆๆ ปึกปัก
“โอ้ยย..”
"บัว!"
ร่างบางกลิ้งล่วงลงมาจากบันไดขวดสาโทที่ถือมาก็หล่นตกแตกไม่เหลือดีทุกคนได้ยินเสียงก็รีบกรูกันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นพิมลดาและนนนี่และตองนวลที่ปรี่เข้าไปประคองที่ที่นอนขดอยู่กับพื้นโดยเร็ว
ชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาล
ข้ามภพโล่งใจที่กอบัวนั้นเอ็กซเรย์ดูแล้วว่าไม่มีกระดูกตรงไหนแตกหรือหักตามเนื้อตัวมีเพียงแค่รอยฟกช้ำเท่านั้น
"คุณมีแต่เรื่องเจ็บตัวนะ"
ชายหนุ่มเดินพยุงคนที่เดินกะเผลกกลับมาขึ้นรถหลังจากตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว
"บัว.. ชินแล้วล่ะค่ะ"
"แต่ผมไม่ชิน..ระวังกว่านี้หน่อยสิผมเป็นห่วง"
ว่าจบก็เดินอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่งก่อนจะขับออกมาจากโรงพยาบาล
"บัวก็ระวังสุดๆแล้วค่ะจะให้ทำยังไงก็คนมันซุ่มซ่าม"
"ผมคงให้คุณห่างสายตาไม่ได้แล้วมั้ง"
"บัวดูแลตัวเองได้ค่ะคุณภพไม่ต้องห่วงนะคะ"
"พูดแบบนี้อีกแล้ว"
ข้ามภพหันมาตวัดสายตามองหญิงสาวด้วยความระอาไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรถึงได้หาเรื่องปฏิเสธความรู้สึกดีๆของเขาตลอดเวลา
ความเงียบพักใหญ่ในรถทำให้กอบัวเริ่มครุ่นคิดเรื่องของเปรมว่าเธอจะผิดสัญญากับเปรมบอกกับข้ามภพเรื่องอาการป่วยของเขาดีหรือไม่
“คุณมีอะไรหรือเปล่า”
ข้ามภพสังเกตได้ว่ากอบัวลอบมองเขาในบางครั้งและยังมีท่าทีกังวลในใจจึงอดไม่ได้ที่จะถามกับเธอให้หายสงสัย
"บัวมีเรื่องที่ต้องบอกคุณภพค่ะ"
หลังจากนั่งเงียบมาครู่หนึ่งกอบัวก็ตัดสินใจที่จะบอกเรื่องที่อึดอัดใจกับข้ามภพแม้จะผิดสัญญากับเปรมแต่เธอเห็นว่าข้ามภพควรที่จะรู้เผื่อว่าเขานั้นจะห่วงคนเป็นพ่อและทิฐิในใจที่มีต่อพ่อก็คงจะลดลงบ้าง
"เรื่องอะไร"
"ตอนนี้คุณพ่อของคุณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนะคะ"
"อะไรนะ...แล้วคุณรู้จักคุณพ่อผมได้ยังไง"
ข้ามภพเริ่มชะลอรถให้ช้าลงเพราะเขาตกใจกับเรื่องที่กอบัวบอกพอสมควรและไม่รู้ด้วยว่ากอบัวนั้นไปรู้จักกับพ่อของเขาตอนไหน
"ท่านรู้จักกับพ่อแม่บัวโดยบังเอิญค่ะแล้วก็เอ็นดูยัยหนูท่านมาทานข้าวที่บ้านเมื่อวันศุกร์แล้วก็หมดสติพวกเราเลยพาส่งโรงพยาบาลเลยรู้ว่าท่านเป็นเนื้องอกในสมองหมอต้องการให้ผ่าตัดด่วน..และตอนนี้หมอก็น่าจะทำการผ่าตัดพ่อของคุณภพอยู่ค่ะ"
"ท..ทำไมคุณพึ่งมาบอกผม"
ข้ามภพรีบเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันเพราะเขาคงจะขับต่อไปไม่ได้ด้วยอยากจะรู้เรื่องของพ่อจนไม่อยากจะโฟกัสอย่างอื่น
"อันที่จริงคุณลุงขอพวกเราไว้แต่บัวไม่อยากปิดคุณภพอีกต่อไปแล้ว...บัวรู้ว่าคุณภพเข้าหน้ากับคุณลุงไม่ติดเพราะยังเคืองเรื่องคุณโฉมแต่บัวอยากให้คุณภพเข้าใจว่าคุณลุงก็รู้สึกผิดกับคุณภพเหมือนกัน"
"คุณพ่อน่ะเหรอที่รู้สึกผิดกับผม"
"คุณลุงเล่าให้พวกเราฟังว่าที่เค้าต้องยอมคุณปราณกับคุณโฉมเพราะคุณโฉมขู่เอาไว้ว่าถ้าไม่ยอมทำตามทุกอย่างที่สั่งเธอจะบอกความจริงกับคุณถึงเรื่องในอดีต.. คุณลุงไม่อยากให้คุณภพต้องเสียใจผิดหวังจึงยอมคุณโฉมทุกอย่างท่านห่วงความรู้สึกคุณมากนะคะ...แล้วตอนที่ท่านจับคู่ให้คุณก็เพราะอยากเห็นคุณเป็นฝั่งเป็นฝากับคนดีๆหากท่านเป็นอะไรไปจะได้หมดห่วง...ที่คุณโฉมพูดทุกอย่างกับคุณตอนนั้นเพราะรู้มาว่าคุณลุงทำพินัยกรรมยกบ้านกับบริษัทให้คุณภพคนเดียวค่ะ"
"อะไรนะ"
"คุณลุงอยากคืนทุกอย่างให้กับคุณภพท่านไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น.."
“คุณพ่อ..”
“คุณลุงรักคุณภพมากนะคะ”
ข้ามภพนั่งนิ่งครู่ใหญ่เพราะคิดมาตลอดว่าพ่อไม่เคยสนใจแต่มันกลับตรงกันข้ามแม้นพ่อของเขาจะเคยมีเรื่องที่ปิดบังแต่ก็ยังห่วงความรู้สึกของเขาตลอดเวลาข้อนี้ทำให้เขาใจฟูขึ้นมาที่รู้ว่าพ่อก็รักเขาเหมือนกัน
กอบัวนั่งเงียบข้างๆข้ามภพหวังว่าการที่เธอพูดอะไรไปครั้งนี้จะทำให้ข้ามภพเข้าใจพ่อของเขามากขึ้นส่วนเรื่องของปราณที่ไม่ใช่ลูกของเปรมเรื่องนี้เธอไม่ขอพูดถึงเพราะมันไม่จำเป็น
วันต่อมา
โรงพยาบาล
วันนี้เป็นวันที่กวินไม่ได้เข้เวรแต่เขาก็ต้องบึ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพราะข้ามภพโทรมาวานให้เขามาดูความคืบหน้าของการรักษาคนเป็นพ่อให้ว่าดำเนินไปถึงไหนแล้วบ้าง
เมื่อเขามาถึงก็คุยกับหมอสิทธิศักดิ์พักใหญ่จนได้รู้ว่าตอนนี้การผ่าตัดของเปรมผ่านไปได้ด้วยดีเหลือเพียงแค่รอให้ฟื้นและดูอาการอีกทีว่ามีอะไรแทรกซ้อนหรือไม่หลังจากที่คุยธุระเรียบร้อยแล้วกวินก็มาเยี่ยมคนป่วยที่นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องพักฟื้น
"คุณลุงจะรู้ไหมคับว่าตอนนี้ความจริงที่ผมรู้มีอะไรบ้าง"
กวินนั่งมองเปรมที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยสายตาสงสารตอนนี้เขารับรู้จากนักสืบแล้วว่าคนที่ต้องการทำร้ายข้ามภพในสองปีก่อนคือโฉมสุดาเพียงแค่รอให้นักสืบหาหลักฐานเพิ่มเติมที่จะมัดตัวโฉมสุดาเท่านั้นเขาก็จะส่งเรื่องถึงตำรวจได้หากเปรมได้รับรู้เรื่องนี้กวินเชื่อว่าเปรมต้องเสียใจไม่น้อยแต่ก็มีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องที่เขาอยากให้เปรมรับรู้เช่นกันก็คือเรื่องของกอบัวและลูก..ความคิดที่เปรมอยากจะให้ข้ามภพมีครอบครัวเป็นจริงแล้วเพียงแค่รอให้กอบัวพูดกับข้ามภพเองเท่านั้นแกร๊กกเสียงประตูที่กำลังเปิดทำให้กวินต้องหันกลับไปดูแล้วสายตาของเขาก็จ้องมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยความฉงนไม่รู้ว่าเธอเข้าห้องผิดหรือรู้จักกับเปรมกันแน่"พี่วิน""แก้ว...รู้จักคุณลุงด้วยเหรอ"สิ้นคำถามของชายหนุ่มทั้งสองก็ออกมาคุยกันข้างนอก"คุณลุงเจอกับพ่อแม่แก้วโดยบังเอิญค่ะเค้าถูกชะตากับยัยหนูก็เลยขอมาหากันเรื่อย""รู้ตั้งแต่เมื่อไรว่าคุณลุงป่วยหนัก""เมื่อวันศุกร์ค่ะ..คุณลุงมาทานข้าวที่บ้านค่ะ""พี่พึ่งเข้าใจคำว่าโลกกลมจริงจังก็วันนี้""เรื่องที่คุณลุงเป็นพ่อคุณภพน่ะเหรอคะ"“ก็..ใช่”กวินรีบพยักหน้ารับเขาเกือบจะหลุดปากพูดเรื่องที่
“ก็..ตอนแรกบัวรับปากว่าจะบอกความจริงแกเองให้ฉันอยู่เฉยๆ..แต่ตอนนี้ฉันเห็นว่ามันไม่จำเป็นแล้วในเมื่อเธอดันหลบหน้านายชัดเจนขนาดนี้”“เรื่องอะไรรีบพูดมา”ข้ามภพรีบเค้นหมอหนุ่มด้วยท่าทีสงสัยอย่างมากอยากจะรู้ว่ามีเรื่องอะไรสำคัญที่เขายังไม่รู้ชั่วโมงต่อมาหลังจากรับรู้ความจริงจากกวินได้ข้ามภพก็เหยียบคันเร่งรีบมาที่บ้านของกอบัวอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึงก็พบว่าเธอนั้นไม่อยู่และไม่มีใครทราบด้วยว่ากอบัวนั้นลาออกจากบริษัทของข้ามภพแล้วข้ามภพจึงเล่าเรื่องในอดีตทุกอย่างที่ได้ฟังจากกวินให้ทุกคนในบ้านได้ฟังแล้วทุกคนก็นั่งอ้าปากค้างไปตามๆกันเช่นที่เขาเป็นตอนที่ได้ฟังเรื่องราวจากกวินข้ามภพขอโทษกับทุกคนที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นและเขาพร้อมจะรับผิดชอบกอบัวทุกอย่างและยังดีใจมากๆที่ได้เป็นพ่อของยัยหนูพารักจริงๆคนที่เข้าใจโลกความเป็นจริงอย่างครอบครัวของกอบัวให้อภัยข้ามภพกันทุกคนเพราะเรื่องที่เกิดต่างคนต่างก็ไม่ได้ตั้งใจแต่คนในบ้านก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากอบัวหลบหน้าข้ามภพและไม่ยอมบอกความจริงที่รู้กับคนในบ้านหรือข้ามภพเพราะอะไร“แม่เค้าจะหนีพ่อไปไหนกันครับยัยหนู”“ป้อ..”ข้ามภพอุ้มเจ้าก้อนกลมกอดหอมพักใหญ่ง่วนกันอยู่สอง
"เอาไว้ถามคุณพ่อผมเองก็ได้""ปล่อยบัวได้หรือยังคะบัวบอกความจริงไปหมดแล้ว""ไม่..ผมจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับคุณเด็ดขาดเพราะคุณดันเอาหัวใจผมไปหมดแล้วจะมาทิ้งขว้างกันง่ายๆได้ยังไง""คุณภพ"กอบัวตกใจกับคำพูดตรงไปตรงมาของข้ามภพพอสมควร"คุณไม่เคยมีใจให้ผมบ้างเลยหรือไงถึงได้จะตัดผมไปง่ายๆ..อย่างว่าเวลาที่รู้จักกันของเรามันไม่ได้มากมายคงไม่ทำให้คุณรู้สึกอะไร..แต่ผมมันดันคิดไปไกลแล้ว""มันไม่เกี่ยวกับเวลาไม่ใช่ว่าบัวไม่รู้สึกดี..แต่บัวแค่เข้าใจความเป็นจริง""ยิ่งคุณพูดผมยิ่งคิดว่าคุณไม่เข้าใจ..ผมก็อธิบายไปแล้วไงว่าพ่อผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิด"ข้ามภพเริ่มเอ่ยเสียงอ่อนทั้งสายตาที่มองไปยังหญิงสาวดูตัดพ้อพอสมควรเพราะมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็ยังจะมาคิดเรื่องความเหมาะสมบ้าบอที่เขาไม่สนใจทั้งยังไม่ยอมบอกว่ายัยหนูคือลูกสาวของเขาอีก"อื้อ.."ข้ามภพบดจูบคนใต้ร่างอีกรอบหากว่าเธอจะไม่ยอมเข้าใจอะไรที่เขาพูดเขาก็จะทำกับเธอแบบนี้จนกว่าเธอจะเข้าใจและจะเค้นจนเธอยอมบอกความจริงจากปากตัวเองมาให้ได้“คุณภพพอเถอะค่ะ”เมื่อริมฝีปากหนาผละออกจากปากตัวเองได้สาวเจ้าก็ขอร้องให้ชายหนุ่มหยุดด้วยท่าทีไม่พอใจที่เอะอะเขาก็เอาแต่จูบเธอ
สองอาทิตย์ต่อมาตอนนี้อาการของเปรมดีขึ้นมากเขากลับมาพักฟื้นที่บ้านของข้ามภพได้เป็นอาทิตย์แล้ววันๆก็ง่วนอยู่แต่กับหลานสาวตัวกลมที่เรียกหาคนเป็นปู่ไม่เว้นว่างซึ่งนั่นก็เหมือนยาดีที่ทำให้เปรมรู้สึกกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษบางวันก็มีมาลัยและชำนาญมาคอยอยู่พูดคุยให้บรรยากาศดูครื้นเครงชีวิตของเปรมจึงกลับมามีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนหลายเท่ามีความสุขมากๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ข้ามภพและกอบัวจะจัดงานแต่งงานกันแล้วแต่คนในครอบครัวก็ไม่ได้เตรียมอะไรมากนักเพราะงานไม่ได้ใหญ่โตเชิญเพียงแค่คนสนิทกับคนในบริษัทของข้ามภพมาเท่านั้น“วันแต่งเจ้าสาวของผมต้องสวยมากแน่ๆ”ข้ามภพเข้ามาสวมกอดภรรยาตัวเล็กที่ยืนมองชุดแต่งงานสีขาวอยู่พักใหญ่ในช่วงเวลาก่อนนอนกอบัวหันมายิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งชะเง้อไปที่เตียงมองหาเจ้าก้อนว่าหลับหรือยังหลังจากที่สามีของเธออุ้มเดินกล่อมพักใหญ่“ยัยหนูล่ะคะ”“ผมอุ้มไปห้องคุณพ่อแล้วยัยหนูก็นอนที่นั่น”“กวนคุณพ่อเปล่าๆนะคะ”“ไม่หรอกคุณพ่อให้ยัยหนูนอนที่นั่นเอง..เพราะว่า..คุณพ่ออยากได้หลานเพิ่มแล้ว”ข้ามภพว่าจบก็อุ้มร่างบางในชุดนอนไปวางที่เตียงหน้าระรื่นเขาค่อยๆถอดแว่นของกอ
ค่ำคืนในระแวกแถวหน้าวัดในชานเมืองกรุงเทพมหานครค่อนข้างเงียบสงัดเป็นผลดีต่อกอบัวคุณแม่ยังสาวที่ต้องการกล่อมพารักลูกน้อยวัยขวบกว่าได้นอนกอบัวเป็นหญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่าชังอายุ25ปีเธอสูง158หนัก45ผิวขาวอมชมพูใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตขนตางอนยาวหวานคิ้วเรียวบางได้รูปจมูกเป็นสันเล็กแก้มพองๆมีลักยิ้มหญิงสาวสวมแว่นตลอดเวลาเพราะเป็นคนที่สายตาสั้นตั้งแต่เด็กเรือนผมของเธอดำตรงสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆคนหนึ่งจนคนในครอบครัวพากันเป็นห่วงในความดีของเธอบ้านของหญิงสาวเป็นทาวน์เฮ้าส์3ชั้นอยู่กัน5คนพ่อแม่พี่สาวเธอและลูกชั้นล่างของบ้านเปิดเป็นร้านสังฆภัณฑ์เป็นธุรกิจของครอบครัวชั้นสองเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่และพี่สาวส่วนชั้นบนเป็นของเธอและเจ้าก้อนกลมเพียงแค่สองคนร่างบางวางเจ้าก้อนหลมในอ้อมอกลงกับเปลสีชมพูข้างเตียงอย่างเบามือหลังจากที่กล่อมให้ลูกน้อยนั้นนอนหลับได้พักใหญ่จนแน่ใจแล้วว่าเจ้าขนุนน้อยจะไม่แยกเขี้ยวใส่อีกเมื่อวางลงบนเปล"หลับได้ซะทีนะเจ้าขนุนน้อย"มือเรียวยกเท้าเอวเล็กน้อยหลังจากเงยหน้าขึ้นเพราะรู้สึกปวดตัวไม่น้อยด้วยต้องอุ้มลูกเป็นเวลานานกอบัวยืนมองแก้มย้วยๆของคนที่นอ
ในเช้าวันนี้ทุกคนต่างมานั่งหารือกันกันก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านกอแก้วรีบเอาเงินเก็บทั้งหมดที่ตัวเองมีมากองตรงหน้าพ่อกับแม่รวมประมาณหนึ่งแสนกว่าบาทเธอเก็บมันตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไปเรื่อยๆจนดาวน์บ้านหลังใหม่อีกหลังแต่ตอนนี้คงต้องเอามาช่วยครอบครัวก่อน"นี่เงินเก็บแก้วค่ะพ่อกับแม่เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟส่วนที่เหลือก็น่าจะส่งธนาคารได้บ้าง..แล้วเงินที่ต้องจ่ายหนี้ธนาคารแก้วจะรับผิดชอบเองค่ะ..แก้วจะคิดว่าจะทำขนมฝากร้านคนรู้จักขายหารายได้อีกทาง”"แม่ก็คิดว่าแม่จะให้พ่อเฝ้าร้านคนเดียวแล้วออกไปหางานแม่บ้านทำอีกแรง"กอบัวที่นั่งฟังทุกคนหารือช่วยกันหารายได้เสริมเธอเองก็เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกไปทำการทำงานเสียทีหากจะให้แม่เธอไปเป็นแม่บ้านทำงานหนักเธอคงไม่สบายใจแน่"ไม่ต้องนะคะแม่..แม่ดูแลยัยหนูส่วนบัวจะไปทำงานประจำเองค่ะ"“แต่พี่ว่า...”"แต่แม่ว่า..."ทั้งมาลัยและกอแก้วต่างหันมามองกอบัวเป็นตาเดียวกันคิดค้านความคิดของกอบัวเพราะที่พวกเธอต้องการให้กอบัวอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูกด้วยไม่อยากให้คนที่มองโลกในแง่ดีอย่างกอบัวต้องไปเจออะไรที่มันเลวร้ายอีก"บัวอยากออกไปทำงานค่ะยัยหนูก็
ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่แสนสดใสวันนี้ก่อนออกจากบ้านไปสมัครงานกอบัวในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกระโปรงพีชสีชมพูคลุมเข่ารวบผมตึงแต่งหน้าอ่อนสวมแว่นหนาเตอะประจำตัวเข้ามากอดลูกสาวตัวกลมที่นั่งอยู่บนตักคนเป็นยายเพื่อขอกำลังใจก่อนจะไปสมัครงานในวันนี้"วันนี้แม่จะไปสัมภาษณ์ขนุนน้อยอวยพรให้แม่ได้งานด้วยนะคะ""งาน.. งาน.. แฮร่ๆ.."เจ้าก้อนกลมยิ้มปากบานให้คนเป็นแม่เป็นกำลังใจอย่างดีที่ทำให้กอบัวนั้นมีพลังมากขึ้นฟอดดก่อนออกจากบ้านกอดหอมลูกสาวฟอดใหญ่"แม่จะรีบไปรีบกลับนะคะ""ไปเถอะลูกเดี๋ยวจะสาย..โชคดีนะลูก/โชคดีลูก"มาลัยและชำนาญไม่ลืมที่จะอวยพรให้ลูกสาวคนเล็กโชคดีด้วยเชื่อมาตลอดว่าพรของพ่อกับแม่นั้นดีกับลูกเสมอ“ค่ะแม่”หลังจากออกจากบ้านไปได้กอบัวก็รีบเดินไปที่รถเก๋งคันสีเทาคนเก่าของบ้านแม้มันจะเป็นรถรุ่นเก่าหลายสิบปีแต่พ่อของเธอก็เช็ดถูมันอย่างดีจนดูใหม่เอี่ยมอยู่ตลอดเวลาหญิงสาวรีบขับรถไปสมัครงานก่อนเวลาเป็นชั่วโมงแม้นจะอยู่ใกล้กับบริษัทที่นัดสัมภาษณ์วันนี้ด้วยกลัวว่ารถจะติดและหากไปถึงก่อนเวลาที่ถูกนัดก็เป็นเรื่องที่ดีไม่นานนักกอบัวก็ขับรถมาถึงหน้าบริษัทXXXที่เป็นบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภ
"ม..ไม่ถามก่อนเหรอคะว่าฉันทำอะไรได้บ้าง"กอบัวได้ยินเช่นนั้นเธอก็ถึงกับนั่งตัวเกร็งหน้าของเธอแสดงออกถึงความฉงสนใจอย่างเห็นได้ชัดที่จู่ๆก็ได้งานโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามอะไรมากมาย"ไม่ครับ..ยังไงก็ต้องมาเรียนรู้หน้างานอยู่ดี...วันจันทร์หน้าเตรียมตัวพบกับคุณข้ามภพได้เลยนะครับเค้าเป็นเจ้านายที่ไม่ค่อยพูดเท่าไรคุณทำงานด้วยอย่างสบายใจแน่นอนครับ"พิพัฒน์ส่ายหัวเรื่องงานรู้ว่าข้ามภพคงจะมาอธิบายกับเธอเองอยู่แล้วแต่เรื่องที่จะหาผู้หญิงอย่างกอบัวนี่สิยากกว่า"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"กอบัวลุกออกจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ยังมีความฉงนติดอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยังมีรอยยิ้มดีใจเธอเดินออกไปจากห้องพร้อมกับพิมลดายังแอบคิดว่าตัวเองฝันจนหลุดจากภวังค์ได้เมื่อพิมลดาเอ่ยทักขึ้น“วันจันทร์เจอกันนะคะคุณกอบัว”“ค่ะ..บัวกลับก่อนนะคะสวัสดีค่ะ”สาวเจ้ายกมือไหว้พิมลดาก่อนจะเดินลงบันไดมาชั้นล่างเธอเลี้ยวซ้ายจะมาที่ลานจอดรถเห็นศาลเจ้าศาลใหญ่จึงรีบปรี่เข้ามายกมือไหว้“ท่านเจ้าที่ใจดีกับบัวมากเลยนะคะ...วันจันทร์บัวจะเอาหัวหมูกับพวงมาลัยมาถวายนะคะ”เมื่อเอ่ยปากสัญญากับเจ้าที่เสร็จกอบัวก็เดินหน้าบานขับรถกลับบ้านคิดว่าคนที่บ้านเธอคงดีใจไม่น้