“ท่านอ๋องฟางหลินไม่ได้ตั้งใจยื่นขาออกไป นางไม่ระวังเองอีกอย่างข้าเป็นชายาเอกลงโทษสาวใช้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ชายารองไม่ควรจะลงไม่ลงมือกับข้าที่เป็นชายาเอก”“เจ้าตบตีนางก็สมควรแก่โทษของนางแล้วก็ควรจะเลิกเแล้วต่อกัน อีกอย่างอ้ายฉิงยังไม่ทันจะได้ลงมือกับเจ้า”"ท่านอ๋องฟางหลินเผชิญเคราะห์กรรมเพราะท่านอ๋องปล่อยฟางหลินไว้ที่นั่นเพียงลำพัง แล้วมาตอนนี้ยังต้องมาพบเจอกับพวกนางที่จ้องจะระราน ท่านอ๋องเหตุใดจึงลำเอียงเข้าข้างนาง หรือว่าเป็นเพราะนางงดงามกว่าข้า"น้ำตาไหลริน อ้ายฉิงย่อกายลงตรงหน้า"หากพระชายายังยืนยันที่จะลงโทษเจียวหยู หรือต้องการให้ท่านอ๋องลงโทษข้าเช่นนั้นอ้ายฉิงยินดีรับโทษ"หวงเฉิงอู๋ดึงมืออ้ายฉิงให้ลุกขึ้นยืน"ไม่ ฟางหลินเรื่องนี้ขอให้เลิกแล้วต่อกัน อ้ายฉิงแสดงความจริงใจเพียงนี้ เจ้ายังต้องการอะไรอีก" ฟางหลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลง"ข้าความจริง เช่นไรจะกล้าต่อกรกับเจ้า หวงอ้ายฉิงองค์หญิงข้าแค่เพียงชายาเอกบุตรีขุนนาง"แสร้งปรับน้ำเสียงให้สั่นเครือ"รู้ก็ดีแล้วหากเจ้าคิดจะลงไม้ลงมือกับอ้ายฉิงข้าคงไม่ยอมแน่"หวงฉีจิ้งก้าวขานำหน้าจิวอันและขันทีข้างกายเข้ามา ฟางหลินก้มหน้าหลบตาเมื่อ
"เฉิงอู๋อ๋องได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ปลงพระชนม์ฝ่าบาท และได้หลบหนีออกจากวังหลวงตามที่มีประกาศจับกุมตัวติดไว้ทั่วแคว้น ฉะนั้นฮองเฮาอ้ายหลิวในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในขณะนี้ได้มีราชโองการให้แม่ทัพอวินฟง จงปิดด่านชายแดนตรวจค้นคนเข้าออกและห้ามให้การช่วยเหลือแก่เฉิงอู๋อ๋อง หรือแอบให้การช่วยเหลือมิฉะนั้นจะถือว่าเป็นกบฏ อีกทั้งให้แม่ทัพนายกองหากพบเห็นเฉิงอู๋อ๋องให้คุมตัวส่งวังหลวงทันที"อวินฟงขมวดคิ้วเข้มแต่ก็ยังก้มลงรับราชโองการอยู่ดี“ท่านอ๋องแล้วจะทำอย่างไรต่อไป”“โอกาสอันดียิ่งแล้วข้าจะนำทัพ กลับไปวังหลวงระหว่างนี้หากพบเฉิงอู๋อ๋องก็คงจะคุมตัวเขาไว้ อาศัยทัพจากหน้าด่านโดยอ้างบัญชาฮองเฮา ช่างเหมาะเจาะยิ่งนัก”ชิงกวาน ถอนหายใจปาหวางอ๋องยิ่งถลำลึกไปเรื่อยๆด่านเก้าทัพทหารต่างยกกำลังออกมาขวางเฉิงอู๋อ๋องไว้ไม่ให้เข้าไปด้านในด่านเก้าทัพ ที่เคยเชื่อฟังคำสั่งของเฉิงอู๋อ๋องมาตลอดตงเกาชักกระบี่ออกตรงหน้าเช่นกัน ปกป้องหวงฉีจิ้งไว้ อย่างเต็มกำลังโฮ๋วตัวฉินและเป้ยปินก็ อยู่ในท่าเตรียมพร้อม“ฝ่าบาทโปรดวางใจ”หวงฉีจิ้งมีสีหน้าหนักใจยิ่งนัก“พวกเขาสวามิภักดิ์ฮองเฮาเสียแล้ว”“อาจไม่มีใจภักดีแค่เพียงเกรงกลั
กอดร่างบางไว้ทั้งๆ ที่เหงื่อท่วมกายเพราะไปฝึกซ้อมเพลงกระบี่กับเหล่าทหาร“ท่านอ๋อง เหงื่อมากมายเพียงนี้ไปอาบน้ำเสียก่อน อ้ายฉิงตัวเหนียวเพราะท่านอ๋องเสียแล้ว”“ดี ข้าจะได้อาศัยข้ออ้างนี้พาเจ้าไปแช่น้ำอุ่นเสียพร้อมกัน”“อ้ายฉิงกำลังทำเครื่องเสวยให้กับเสด็จพ่อ”“แล้วข้าเล่า จะมีใครไปอาบน้ำเสียด้วยกันกับข้า”“อ้ายฉิงไปไม่ได้ และไม่คิดจะไป”“อย่างนั้นข้าก็ไม่ไป”“ไม่ไปแล้วจะไปทำให้ตัวเองเหงื่อออกทำไมกัน”“ก็เพราะเจ้า เพราะเจ้าเป็นต้นเหตุ หลายวันมานี้อยากอดอยากออกแรงทว่ากลับต้องเก็บกดไว้ อ้ายฉิงไม่เห็นใจข้าบ้างหรือ”น้ำเสียงจริงจัง อ้ายฉิงอดขำเสียไม่ได้“เช่นนั้นท่านอ๋องก็ควรไปออกแรงอีกหน่อยจะได้ลืมเรื่องราวเหล่านั้นเสียคงอีกหลายวันจนกว่า จนกว่า”“ข้าไม่ทนแล้วเห็นหรือไม่ เจ้าฝ่าบาทแคว้นเป่ยเอี่ยนนั่นมองเจ้าตาเป็นมัน” อ้ายฉิงเอี่ยวตัวหลบเมื่อแก้มเนียนถูกจู่โจม“ท่านอ๋องประเจิดประเจ้อ”“ดี ข้าอยากให้เจ้าฝ่าบาทนั่นมาเห็นเจ้ากับข้าตอนนี้ด้วยซ้ำไปเขาจะได้เลิกหวังเสียที”พูดด้วยน้ำเสียจริงจังยิ่งนัก“หากไม่มีแรงกระตุ้นจากผู้อื่นท่านอ๋องก็ไม่เห็นคุณค่าของอ้ายฉิง“ใครบอกเจ้า แค่เพียงข้าเห็นคนอื่น
“ระวังหน่อย เจ้าเดินไหวหรือไม่”“ท่านอาปล่อยข้าเถอะข้าเดินเองได้”หวงเฉิงอู๋ปล่อยมือจิวอัน ทรงตัวลุกขึ้นทว่ากลับลงล้มในอ้อมแขนของเฉิงอู๋อ๋องอีกครั้ง“ องค์หญิง ถึงกลับมาเป็นลมเป็นแล้งกับท่านอาที่นี่เชียวหรือ”ฟางหลินเยื้องย่างเข้ามาอดที่จะเหน็บจิวอันเสียไม่ได้“เจ้าเดินกลับไม่ไหวนอนพักเสียหน่อยประเดี๋ยวเจียวหยูกลับมาข้าให้นางพยุงเจ้ากลับไป”เฉิงอู๋อ๋องเอ่ยปาก“ขอบคุณท่านอา”เดินไปที่แท่นนอนโดยมีเฉิงอู๋อ่องพยุงไป“มาได้แต่กลับเองไม่ไหว เกรงว่าคืนนี้มิต้องค้างเสียที่ห้องของท่านพี่หรือไร”“ฟางหลิน นางป่วยไข้เจ้าไม่แสดงความห่วงใยยังสงสัยในตัวนาง”เฉิงอู๋อ๋องพูด“ท่านพี่ก็นาง..นางเห็นได้ชัดว่าออดอ้อนท่านพี่”“ฟางหลินเลอะเลือนไปใหญ่แล้ว”“ท่านพี่ ข้าไม่ไว้ใจนาง”“ พูดถึงเรื่องไม่ไว้ใจ ข้าว่าเป็นเจ้าที่ไม่น่าไว้ใจเสียกว่า เป็นหญิงตัวคนเดียวหนีออกมาจากคุกหลวงที่มีการคุ้มกันแน่นหนา จริงไหมฟางหลิน”จิวอันพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยฟางหลินก้มหน้าอ้ายฉิงเดินเข้ามาในเรือนพักพร้อมกับเจียวหยู“อ้ายฉิงเจ้ามาแล้ว ข้ารอเจ้าเสียนานไหนบอกข้าว่าแค่เพียงยกเครื่องเสวยไปถวายฝ่าบาทเพียงเท่านั้น”“อ้ายฉิงเสว
“ข้า กระหายที่จะได้อยู่เพียงลำพังกับเจ้า แล้วเช่นไรจึงจะอดใจไหว”“แน้ อ้ายฉิงไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย”สอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานอีกครั้งทั้ง ขมเม้มและดูดกลืน ด้วยความหิวกระหายอย่างที่สุด ก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ เมื่อลิ้มรสความหวานจนพอใจ“เพราะเจ้าเดิน ไปเดินมางดงามต่อหน้าข้าจนข้าแทบจะกลั้นใจตายเมื่อคิดว่าจะต้องอดทนเพียงแค่ไหนไม่ให้เข้าใกล้เจ้า เฉิงอู๋อ๋องจะทนได้กี่น้ำกัน”พรมจูบไปทั่วใบหน้า มือปลดแกะอาภรณ์ของอ้ายฉิง จากไหล่บาง ไล้นิ้วเรียวลงบนไหล่เนียนเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ เพียงเสี้ยวนาทีก็เผยให้เห็นอกอูมชูชัน น่ามอง เปลือยเปล่าเต็มไม้เต็มมือ มืออุ่นเลื่อนลงบีบเคล้นลูบไล้ลิ้นอุ่นๆ วนรอบประทุมถัน ประคองกอดแนบชิดไว้แน่นริมฝีปากเลื่อนขึ้นมาบรรจงจูบที่ริมฝีปาก มือยังลูบไล้ต่ำลงไปเรื่อยๆ จนอ้ายฉิงรู้สึกหวาบหวาม ใจเต้นรัวเร็เมื่อมืออุ่นเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆจนใกล้จะถึงกลีบบุปผาที่ฉ่ำเยิ้ม เผยอกลีบแรกแย้มรอรับน้ำค้างพร่างพรม นิ้วเรียวสอดล้วงเข้าไปในกลีบบุปผาอย่างอ่อนโยน“บอกข้าสิว่าข้าควรจะห้ามใจด้วยหรือในเมื่อข้าปรารถนาเจ้าเพียงนี้ หวางเฟยของข้า” จุมพิตลงที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะกดเอวหนาลงไปเน้นๆ จ
วังหลวง“กำหนดวันประหาร เหว่ยเจื่อหยวนหลอกล่อให้หวงเฉิงอู๋เข้ามาชิงตัว เหว่ยเจื่อหยวน”อ้ายหลิวฮองเฮาสั่งคนสนิท“ฮองเฮาปาหวางอ๋องตอนนี้ถึงด่านชายแดนแล้ว ข้าน้อยเชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะ ออกตามตัวเฉิงอู๋อ๋องแต่ตั้งใจเดินทางไปที่ด่านชายแดนอาศัยพระเสาวนีย์ ในการสั่งการทหารและรองแม่ทัพอวินฟง”“คิดไว้ไม่ผิด ปาหวางอ๋องเดิมข้าก็ไม่เคยไว้ใจแม้ฝ่าบาท เองก็เคยเปรยๆ ไว้ว่าปาหวางอ๋องผู้นี้ จิตใจอ่อนไหวไม่ได้ เด็ดเดี่ยวเช่นเดียวกับหวงเฉิงอู๋ จึงต้องคอยระวังให้มากว่าสักวันจะทำบางเรื่องด้วยอาศัยความรู้สึกของเขาเสียมากกว่าส่วนรวม”“พระนางจะจัดการกับปาหวางอ๋องอย่างไร”“ก็แค่คอยการต้อนรับเหมือนที่ทำกับเฉิงอู๋อ๋องตอนนี้ข้าถือไพ่เหนือกว่าอ๋องทั้งสอง ไม่เห็นต้องกลัวว่าเขาสองคนจะมาไม้ไหนข้าแค่เพียงเตรียมรับมือให้ดีก็เท่านั้น”“เพราะเจ้าจิวอันท่านพี่รู้ทันว่าเจ้า ตั้งใจทำให้ ชายารองหึงหวงท่านพี่จึงต้องเอาใจนางพานางไปคอยเอาอกเอาใจที่อื่น”“ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกหรือฟางหลินที่ทำให้ท่านอาไม่สบายใจ กลัวว่าเจ้าจะเอาเรื่อง ชายารองของท่านอาท่านอาจึงพานางหลบไปเสีย”“เจ้า เจ้าอย่าถือว่าเป็น องค์หญิง”“ฟางหลินหากเจ้าไตร่
ชิงกวานประสานมือ“บุกเข้าไปได้เลย ในเมื่อคนของเรามีมากกว่าด่านเก้าทัพมีคนเพียงหยิบมืออีกทั้งไร้เฉิงอู๋อ๋องบัญชาการเกรงว่าเพียงแค่เห็นหน้าข้าก็ต้องยอมจำนน”กระตุกบังเหียนม้าให้เข้าไปข้างในด่านเก้าทัพ“วันนี้ข้าทำเครื่องเสวยด้วยตัวเอง เสด็จพ่อโปรดเสวยเนื้อแกะย่าง อ้ายฉิงเจ้าอยู่คุยกับเสด็จพ่อก่อนจะดีกว่าข้าขอตัวเจียวหยูให้ช่วย จัดเครื่องเสวย”ฟางหลินยิ้ม อ่อนหวาน“ให้ข้าช่วยท่านดีกว่าองค์หญิงสาม”“ชายาเอกของท่านอา เข้าครัวทำเครื่องเสวยเป็นด้วยหรือ”“ท่านพี่ไม่อยู่ข้าก็เพียงแค่อยากทำประโยชน์เสียบ้างอีกอย่างอยากปรองดองกับพวกเจ้า”จิวอัน ถอนหายใจ“ขอเพียงเจ้าจริงใจ ข้าก็พร้อมจะญาติดีกับเจ้า”ฟางหลินยิ้ม“ท่านพี่ไม่อยู่ที่นี่เงียบเหงา ข้าคิดว่าพวกเจ้าก็คงรู้สึกไม่ต่างจากข้าเช่นนั้นเราทั้งสาม ทำให้ท่านพี่หมดห่วงไม่ทะเลาะเบาะแว้งจึงดี”อ้ายฉิงไม่เข้าใจว่า จิวอันทำไมถึงไม่พอใจฟางหลิน แต่สำหรับอ้ายฉิงไม่ว่าจะเป็นจิวอันหรือฟางหลินล้วนน่าสงสาร พวกนางมีใจให้เฉิงอู๋อ๋องเหมือนกันเนื้อแกะ่ถูกนำมาวางตรงหน้า อ้ายฉิงพยุงหวงฉีจิ้งมาที่โต๊ะเสวย“อืม กลิ่นหอมยิ่งนักจิวอันหลายวันมานี้มีเพียงอ้ายฉิงที่ทำเคร
“อ้ายฉิง อ้ายฉิง” หวงเฉิงอู๋อยู่ๆ ก็รู้สึกคิดถึงอ้ายฉิงขึ้นมาในทันที ยิ้มเศร้าๆ คงคิดถึงนางมากไปจึงเป็นแบบนี้“ท่านหมอ นางเป็นอย่างไรบ้าง”ท่านหมอทำสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อหวงฉีจิ้งเอ่ยปากถาม“นางถูกพิษทำลายช่องท้อง แม้จะไม่ถึงตายทว่า พิษร้ายจะทำลายอวัยวะภายในไปเรื่อยๆ นางจะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง จนกระทั่ง อวัยวะถูกทำลายจนหมดจึงจะสิ้นความทรมาน”หวงฉีจิ้ง ทรุดกายลงกับเก้าอี้ เจียวหยูปาดน้ำตา ฟางหลินแสร้งก้มหน้าซ่อนยิ้ม“แล้วไม่มีทางรักษาหรือแก้พิษได้หรือ”โฮว๋ตัวฉินถามด้วยความห่วงใยท่านหมอส่ายหน้า“จะต้องมียาถอนพิษ คนที่วางยานางจะต้องมียาถอนพิษ”“ข้าจะไปตาม จิวอันพิษชนิดนี้ไม่ต่างจากที่มารดาของอ้ายฉิงรับมันเข้าไป นางทรมานจนกระทั่งตายลงไป”“ข้าน้อยจะลอง หาวิธีรักษา เผื่ออาจจะพอมีทางแต่ คิดว่าช่างยากยิ่งพิษชนิดนี้ทำลายช่องท้องและลุกลามไปยังที่อื่นต่อไปคงยากจะควบคุม”หวงฉีจิ้งพยักหน้า ท่านหมอประสานมือออกไป“ฝ่าบาทหากข้านำนางกลับไปที่ใต้เป่ยเอี่ยนเพื่อให้หมอที่ดีที่สุดดูแลนางเล่า”“นางเป็นชายารองของเฉิงอู๋อ๋องอีกอย่าง นางยังร่างกายอ่อนแอไม่อาจเคลื่อนย้ายทำได้เพียงประคับประคองและห