“ท่านอ๋อง ชายาเอกของท่านอ๋องหนีไปแล้ว”ตงเกาส่งเสียงก่อนจะทันเห็นตัวด้วยซ้ำไป“หนีนางรู้ความผิดของตัวเองจึงจงใจหนี ส่งคนตามหานางให้พบ”“ปาหวางอ๋อง เร่งออกตามตัวชายาเอกของท่านอ๋องแล้ว”“ปาหวางอ๋อง”“ปาหวางอ๋องนำทัพมาจากด่านชายแดนสมทบกับด่านเก้าทัพ ตอนนี้ฝ่าบาทบัญชาให้ ตามชายาเอกของท่านอ๋อง เพื่อไต่สวนเรื่องที่นางวางยานายหญิงชายารองของท่านอ๋อง”“ เราจะต้องพาอ้ายแิงกลับวังหลวงเสียเดี๋ยวนี้”“ข้าเองก็อยากพาอ้ายแิงไปหาทางรักษาที่วังหลวง”“ฝ่าบาทแคว้นเป่ยเอี่ยน เดินทางขึ้นเขาเจ็ดยอดเซียนแต่ไม่ได้ยาถอนพิษกลับมาท่านเซียนพูดถึงเหว่ยจื่อหยวนเรื่องยาถอนพิษ เช่นนั้นมีทางเดียวคือพาอ้ายฉิงกลับไปที่วังหลวงสอบถามเรื่องยาถอนพิษกับเหว่ยจื่อหยวน”“เช่นนั้นออกเดินทางในทันทีจะดีไหม”หวงเฉิงอู๋ประสานมือหันหลังหลับไปพยุง อ้ายฉิงที่นอน หลับใหลไปด้วยอาการอ่อนเพลียและเจ็บปวดในช่องท้อง“อ้ายฉิงเรากำลังจะกลับบ้าน ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่บ้านเพื่อหายาถอนพิษ ท่านพ่อของเจ้าใต้เท้าเหว่ยจะต้องมียาถอนพิษอย่างแน่นอน”อ้ายฉิงฝืนยิ้ม หวงเฉิงอู๋กอดร่างบางไว้แน่น พยายามข่มความรู้สึกอ่อนแอภายในใจไม่อยากให้อ้ายฉิงเห็นเขาจะทำเช่
หวงฉีจิ้งก้าวลงจากเกี้ยวตรงเข้า พยุงเหว่ยจื่อหยวน“ท่านเหว่ยอย่าได้รีรอ อ้ายฉิงตอนนี้ต้องพิษข้าคาดว่าเป็นพิษชนิดเดียวกับที่ อ้ายจิงมารดาของนางได้รับ เราทำทุกวิถีทางแล้วไม่ว่าจะขึ้นเขาเจ็ดยอดเซียนเพื่อขอยาถอนพิษจากท่านเซียนแต่ก็ไร้หนทางถอนพิษร้ายได้”“นางต้องพิษอย่างนั้นหรือ”เหว่ยจือหยวนรีบก้าวขึ้นไปบนเกี้ยวสร่างซุบผอมของอ้ายแิงที่เหว่ยจื่อหยวนเห้นในครั้งรกถึงกับตกตะลึง“อ้ายฉิง แล้วท่านเซียนมไ่ได้มอบยาถอนพิษมาหรือไร”“โฮ๋วตัวฉินฮ่องเต้ ขึ้นเขาเจ็ดยอดเซียนท่านเซียนบอกว่ายาถอนพิษที่ท่านเหว่ย รับมายังไม่ได้ใช้ จึงอาจยังพอมียาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งข้าหวังว่ามันจะอยู่ที่ใต้เท้าเหว่ย”เฉิงอู๋อ๋องพูดขึ้น เหว่ยจื่อหยวนส่ายหน้าสิ้นหวัง“ยาเม็ดนั้นข้ามอบให้มันกับมารดาของนางไปแล้วทว่าไม่อาจรู้ได้ว่านางกินมันเข้าไปหรือเก็บไว้ที่ไหนแต่หากนางกินมันเข้าไปทำไมนางยังต้องตาย”“แล้วเราจะหายาถอนพิษได้จากที่ไหนกัน”“มีคนผู้หนึ่งที่จะต้องรู้เรื่องยาถอนพิษในตอนนั้น ป้าเป่ยอาจเป็นไปได้ว่า ป้าเป่ยนางจะต้องรู้เรื่องยาถอนพิษบ้างไม่มาก็น้อย”“ทหารนำตัวป้าเป่ยเข้ามาที่นี่เดี๋ยวนี้”หวงฉีจิ้ง รีบมีบัญชาไม่นานจาก
“ไม่มีทางไม่มีทางข้าจะไม่ยอมปล่อยท่านให้กับนาง ข้าวางยาพิษนางอีกไม่นานนางก็จะตาย จริงสินางตายไปแล้วพิษที่ไร้ยาถอนพิษ ไม่สิเหนือกว่าข้าก็ยังมีเซียนหญิงผู้นั้นที่บังอาจปรุงยาถอนพิษให้นาง”“อ้ายหลิวแล้วยาถอนพิษนั่นอยู่ที่ไหน ตอนนี้อ้ายแิงต้องพิษของเจ้า“นางโง่ฟางหลินข้าโง่งม ทำการสำเร็จด้วยหรือ”อ้ายหลิวหัวเราะร่วน“ก็อยู่กับนางนางคิดว่าหากลูกของนางใกล้ชิดข้าสักวันจะต้องถูกวางยานางจึงไม่ยอมกินยาถอนนพิษเก็บยาถอนพิษไว้ให้ลูกของนาง 5555 ข้าพยายามหามันมา18ปีเพื่อทำลายมันแต่ไม่เคยพบพานฝ่าบาทคิดว่าแค่เวลาเพียงไม่กี่วันฝ่าบาทจะหามันได้หรือ”หวงฉีจิ้งถอนหายใจยาว“อ้ายฉิง ข้าตามท่านหมอแล้วอีกไม่กี่อึดใจท่านหมอจึงจะมาที่นี่ ตอนนี้ข้ามีเรื่องยากจะถามเจ้า”“จิวอัน มีเรื่องใดอย่างได้เกรงใจเจ้าพูดมาเถอะ”จิวอันยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นกุมมืออ้ายฉิงอย่างปลอบโยน"ตอนนี้เราไม่อาจหายาถอนพิษให้เจ้าได้ แต่ทุกคนไม่มีใครนิ่งวนอนใจ จิวฮัวออกค้นหายาถอนพิษพร้อมกับโฮ๋วตัวฉินฮ่องเต้ส่วน เสด็จพ่อตอนนี้ กำลังหว่านล้อมเสด็จแม่ถามเรื่องยาถอนพิษ ท่านอาทั้งสองกำลังไปค้นหาตลับทองคำที่จวนอ๋อง ข้าจึงอยากจะถามเจ้าว่าตลับทองใบหนั้น
เพียงไม่นานอ้ายฉิงก็ขยับกายลืมตาตื่น“ท่านอ๋อง”“เป็นอย่างไรบ้าง ชายาของข้า”“หายปวดแล้ว แปลกจริงอาการปวดที่เคยเป็นอยู่ตลอดเวลาบัดนี้กลับหายไปจนสิ้น”“ต้องขอบคุณมารดาเจ้าที่ช่างมองการณ์ไกล ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเจ้าอย่างที่สุด ข้าเองยังไม่อาจเทียบได้กับนางไม่ว่าจะห่วงใยเจ้าแค่ไหนทว่าด้วยรักของมารดา ทำให้เจ้ารอดพ้น บาปเคราะห์และรอดพ้นจากการถูกปองร้ายจากคนอื่น”“ท่านแม่ ท่านแม่ที่ห่วงใยข้าแม้นางจะไม่อาจอยู่ปกป้องดูแลข้าได้นางกลับทำสิ่งยิ่งใหญ่ให้ข้า”“ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา จิวอันแจ้งข่าวกับเสด็จพ่อและทุกคนที่รอฟังข่าวดีอยู่ด้านนอก”จิวฮันย่อกายก่อนจะออกจากห้องไป เจียวหยูยิ้มทั้งน้ำตาหวงฉีจิ้ง ยิ้มกว้างดีใจอย่างที่สุดตงเกา กระโดดตัวลอย ปาหวางอ๋องอมยิ้มด้วยความดีใจท้องพระโรง“เรื่องราวร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ฮองเฮาทรงขออนุญาตที่จะออกบวชอีกทั้งอ้ายฉิงไม่ได้ถือโทษนางเพราะเห็นว่านางแบกรับความเจ็บช้ำไว้มากพอแล้ว นับว่าอ้ายฉิงเป็นคนที่จิตใจดีจริงๆ ”“ฝ่าบาท ในครั้งนี้องค์หญิงได้รับยาถอนพิษทำให้เรื่องร้ายๆ ผ่านไป การอภัยนับว่าเป็นเรื่องดี”เฉิงอู๋อ๋อง พูดขึ้นด้วยความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“ชายาเอกของเฉ
“ท่านพี่จะต้องเรียกว่าท่านพี่”จิวอันหลบตาเอียงอาย“ท่านพี่ระหว่าง เปิดผ้าคุลมหน้ากับดื่มสุรามงคลอันไหนควรทำก่อนกันแล้วสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน”หยางปาหวางวางจอกสุราลงข้างกาย ก้มลงกดริมฝีปากบนผ้าแพรบางเบาที่ปิดกั้นริมฝีปากไปก่อนจะเลิกผ้าคุลมหน้าขึ้นช้าๆ ใบหน้างดงาม มีท่าทีตื่นเต้นไม่น้อย ยกจอกสุรากระดกลงคอรวดเร็วกดริมฝีปากลงบนปากอวบอิ่มบดเบียดอ่อนโยนส่งสุรารสเลิศเข้าไปในปากของจิวอัน“ทุกอย่างล้วนสำคัญ เมื่อมีเจ้าข้างกาย”เลิกผ้าคุลมหน้าขึ้นโน้มตัวลงช้าๆ แสงไฟในห้องมอดดับลงแล้วแต่ไฟในกายกำลังลุกโชติช่วง“อย่าตามข้ามา”จิวฮัวตวาดลั่นเมื่อโฮ๋วตัวฉินเดินตามต้อยๆ“แม่งามเจ้าใจร้ายกับข้าเพียงนี้เชียวหรือข้าที่นี่ไม่คุ้นเคยกับใครจะมีเพียงปาหวางอ๋องกับเฉิงอู๋อ๋องที่ร่วมดื่มสุราด้วยกัน ทั้งสองคนก็ล้วนแต่กลับไปพะเน้าพะนอ ชายาของตนแต่ดูเจ้ารึกลับทอดทิ้งให้ข้าไร้คนคอยดูแล”“เสด็จพ่อให้คนจัดเรือนรับรองให้ฝ่าบาทแล้ว ทำไมต้องตาข้า”“เรือนรับรองโอ๊ยๆๆๆ ”เซเข้าหาจิวฮัว“เรือนรับรองนั่นอยู่ที่ไหนกัน องค์หญิงเก้าไม่พาข้าไปเช่นไรข้าจะไปถูก”“อย่ามาทำเจ้าเล่ห์อย่าคิดว่าที่ผ่านมาฝ่าบาทดูแลข้าแล้วข้าจิวฮัวจะต้อ
กว่าจะมีวันนี้ได้งานอภิเษกสมรสระหว่างฮ่องเต้แค้วนเป่ยเอียนกับองค์หญิงเก้าจิวฮัวเพิ่งจะผ่านพ้นไปข้างศาลา งดงามด้วยดอกเหมยสีชมพูและสีแดงสดนางกำนัลยกขนมมากลางศาลาอ้ายฉิงจิวอันและจิวฮัวช่วยกันจัดจานขนมบุรุษรูปงามทั้งสามทั้งเฉิงอู๋อ๋องและปาหวางกำลังผลัดกันเดินหมาก โฮ่วตัวฉินมองคนทั้งคู่ที่กำลังประมือกัน“555หมากเกมนี้ข้าพ่ายแต่เกมหน้าท่านจะต้องเจ็บหนักแน่” ปาหวางพูดยิ้มๆ หมากสีขาวบนกระดานถูกล้อมด้วยหมากสีดำของเฉิงอู๋อ๋อง“555ข้าให้โอกาสคราวนี้ให้ไท่จือกับฝ่าบาทแคว้นเป่ยเอียนรวมหัวกันเลยดีไหม”“โฮ่วตัวฉินด้วยอาวุโสน้อยกว่าท่านทั้งสอง”“อย่างไรก็เป็นสหาย”เฉิงอู๋อ๋องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง“คงต้องเรียก ท่านอาตามจิวฮัว ข้าน้อยโฮ๋วตัวฉินคงขออภัยที่เคยล่วงเกินท่าน”จิวฮัวคล้องแขนไปที่แขนของเฉิงอู๋อ๋อง“ท่านอาไม่มีทางจะกริ้ว”“จะขออภัยทำไมในเมื่อหยางปาหวางไท่จือกับข้าความสัมพันธ์เบ่งบานยิ่งกว่าฝ่าบาท”“เบ่งบาน”โฮ๋วตัวฉินขมวดคิ้ว ปาหวางไท่จือยิ้ม กุมมือจิวอันไว้แน่น“ความสัมพันธ์ร้าวฉานเบ่งบานนะสิ ข้ากับเฉิงอู๋อ๋องเราแข่งขันกันมาตลอดมามีเรื่องหนึ่งที่ข้ากำลังจะมีชัย”อ้ายฉิงยิ้มเมื่อจิว
“ทำไมต้องเป็น เจิ้งอ้ายฉิง (เจิ้งแซ่ของมารดา อ้ายชิง-ความรัก) ”“หวงเจิงอู๋ เจ้ากล้าขัดบัญชาข้าหรือไร”“ฝ่าบาท ข้าเป็นถึงแม่ทัพไร้พ่ายอีกอย่าง นางแค่ลูกอนุเป็นชายารองท่านอ๋องอย่างข้าไม่นับว่ามากไปหน่อยหรือ”“หวงเจิ้งอู๋จะมากไปแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกดูถูกคนอื่นแล้วเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่”“ข้าไม่ขอรับ นางในตำแหน่งชายารอง”หวงฉีจิ้งตบโต๊ะฉาดใหญ่"หากไม่เห็นแก่หน้าฮองเฮาก็เชิญเจ้าปฏิเสธได้ในทันที"หวงเจิ้งอู๋ประสานมือจากไปจวน ขุนนางเหว่ยจื่อหยวน“ท่านแม่ นางอัปลักษณ์เหตุใดจึงได้แต่งกับท่านอ๋องหวงเฉิงอู๋ที่รูปงาม”“ต้องมีสิ่งใดผิดพลาด ไม่สิ ฮองเฮาเป็นถึง น้าสาวคนเล็กของนาง ก็คงไม่น่าจะผิดพลาดอะไร”“ท่านแม่ นางจะเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องหรือไม่”“ไม่สิเจ้าดูนางเกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายแม่ตายแล้วยังใบหน้าอัปลักษ์ ผู้คนล้วนหวาดกลัวเมื่อพบหน้านางเจ้าคิดว่าท่านอ๋องจะทรงโปรดปรานหญิงหน้าตาอัปลักษณ์หรือไร”รอยยิ้มหยันบนใบหน้าสวยสด“ท่านแม่เช่นนั้น ...อีกไม่นานนางคงถูกเฉดหัวออกจากจวนอ๋อง ว่ากันว่าชายาเอกของท่านอ๋อง น่ากลัวเกินใคร”“คงต้องนับวันว่านางจะเข้าไปอยู่ในนั้นได้นานกี่วันจะเหมาะกว่า”เจิ้งอ้า
“ไม่ใช่ข้าที่ตัดสินใจได้เพียงลำพัง”เหมือนจะร้องขอความเห็นใจ“เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องอับอายผู้คน และข้ารังเกียจเจ้าแค่ไหนกับเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้า”“ข้าก็เพียงทำตามบัญชาของฝ่าบาท”“อ้าง บัญชาฝ่าบาท ใจจริงหากเจ้าไม่ยอมแต่งเพราะเห็นแก่ข้าที่ต้องมาแบกรับความอับอายให้เหล่าขุนนางและผู้คนในวังหลวงต้องหัวเราะเยาะ เจ้าก็ควรจะขัดบัญชาฝ่าบาทเสียมิใช่แต่งกับข้า หรือว่าเป็นเพราะเจ้าเองก็แอบดีใจที่ได้แต่งกับข้า”“ข้าไม่เคยดีใจหรือเสียใจ”“ดีข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ต้องแต่งกับข้า และจะต้องขอหย่ากับข้าในอีกไม่นาน”หวงเฉิงอู๋ก้าวขาสะบัดแขนจากไป เจิ้งอ้ายฉิงเอนกายพิงพนักเก้าอี้จ้องมองกระจก เงาที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ของตัวเองอยู่ตรงนั้น ยกมือขึ้นลูบใบหน้างดงามด้านขวาสิบแปดปีก่อน“นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป”“ท่านเซียนแล้วข้าจะต้องทำอย่างไร”ท่านป้าเป่ยตอนนั้นอายุอานามยังไม่เท่าไหร่นางเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้มารดาของเจิ้งอ้ายฉิงอีกที เอ่ยปากถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ“เจ้าก็แค่ ปิดบังใบหน้างดงามของนางเสีย เด็กน้อยคนนี้เมื่อเติบ