สืบทอดตำหนัก

       ก่อนหน้านี้แม่ทัพคู่หมั้นของชิวเพ่ยเพ่ยแวะมาเยี่ยมเยียนนางอยู่บ้าง  แต่หลังจากนั้นนางมารู้ทีหลังว่าเขามีงานด่วนเข้ามา ทำให้ต้องออกจากเมืองหลวงจนถึงกับไม่ได้แวะมาบอกนางเสียด้วยซ้ำ  ชิวเพ่ยเพ่ยรู้ข่าวจากองครักษ์เงาที่ส่งไปเฝ้าคู่หมั้นของนาง เขาส่งพิราบสื่อสารมาบอกเมื่อสามวันก่อน  อีกทั้งท่านตาท่านยายส่งข่าวมาให้นางกลับตำหนักเพื่อสืบทอดตำแหน่งได้แล้ว

       ชิวเพ่ยเพ่ยที่เห็นแก่ทรัพย์สินแต่แรก นางรีบออดอ้อนท่านปู่ท่านยาและท่านพ่อเพื่อไปบ้านท่านตาท่านยายในทันใด  เตียวเฟยหลิวอดหมั่นไส้ลูกสาวตัวดีไม่ได้  หึ หากข้าไม่ปล่อยเจ้าสืบทอด เจ้ามีหรือจะสามารถได้รับสิ่งของพวกนั้น ชิชะ

       หลังได้รับอนุญาตแล้ว ชิวเพ่ยเพ่ยขนของฝากพร้อมเสื้อผ้าไม่กี่ชุดขึ้นรถม้าออกจากจวนไปอย่างรวดเร็ว คราวนี้นางไม่รอสิ่งใดมากมายแล้ว  นางอยากได้สมบัติ วะ ฮ่า ฮ่า

       สามวันต่อมา ชิวเพ่ยเพ่ยมาถึงตำหนักเมฆาดับในช่วงเย็นเหมือนเช่นคราก่อน  ท่านตาท่านยายรอต้อนรับอยู่ในห้องโถงด้านหน้าแล้ว  พวกเขาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันไม่นานนัก  จึงพาหลานสาวไปทานอาหารก่อนจะรีบไล่นางไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีพิธีรับตำแหน่งเจ้าตำหนักที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเสร็จสิ้น

       เช้าตรู่วันต่อมา บ่าวคนสนิทของเจียวไฉ่หลานพาบ่าวอีกสี่คนไปช่วยชิวเพ่ยเพ่ยอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดประจำตำแหน่งเจ้าตำหนักที่เจียวไฉ่หลานเตรียมเอาไว้ให้หลานสาวสุดที่รัก  ชุดผ้าไหมสีดำปักสัญลักษณ์ตำหนักเมฆาดับนี้ ทำจากวัสดุพิเศษที่สามารถป้องกันไฟ ดาบ กระบี่และอาวุธลับได้เป็นอย่างดี  กว่าจะทอผ้าชนิดนี้ได้แสนยากลำบาก ตัวไหมถูกเลี้ยงดูมามากกว่า5ปี พวกมันจึงจะเริ่มผลิตเส้นไหมครั้งแรกได้  และกว่าจะได้เส้นไหมจนสามารถทำชุดนี้ได้ ยังต้องใช้เวลารวบรวมเส้นไหมอีก 5 ปี  ในใต้หล้านี้มีเพียงตำหนักเมฆาดับที่สามารถทำได้  ผู้มีสิทธิสวมใส่ชุดสุดพิเศษนี้มีเพียงทายาทและครอบครัวของเจ้าตำหนักเท่านั้น

       เมื่อถึงเวลา ชิวเพ่ยเพ่ยเดินตามบ่าวคนสนิทของท่านยายไปจนถึงลานรวมตัวด้านหน้าตึกรับภารกิจที่คนภายนอกสามารถเข้ามาติดต่อจ้างงานได้  แต่วันนี้ตำหนักเมฆาดับปิดประตูใหญ่แต่แรก เหล่าผู้คนในตำหนักทั้งหมดที่ไม่ติดภารกิจล้วนมารวมกันที่นี่ทั้งหมด  ชิวเพ่ยเพ่ยมองผู้คนมากมายในลานน่าจะประมาณหนึ่งพันคนได้ นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่านตาท่านยายของนางจะปกครองคนมากขนาดนี้

       เตียวหย่งไจ้และเจียวไฉ่หลานเห็นหลานสาวมาถึงจึงสั่งให้ผู้อาวุโสใหญ่คนใหม่เริ่มพิธีการได้  ชิวเพ่ยเพ่ยละทิ้งท่าทางของคุณหนูผู้ดีไปเสียสิ้น  ตอนนี้นางมีเพียงสีหน้าและแววตาเย็นชา  พร้อมทั้งยังปล่อยพลังปราณกดดันออกมาไม่น้อย  นางที่เป็นเด็กอัจฉริยะย่อมมีพลังปราณมากกว่าคนอื่นจนประเมินค่าไม่ได้  ขนาดเตียวหย่งไจ้ประลองกับหลานสาวบ่อยๆ เขายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้พลังปราณของนางมากกว่าเขาถึงขนาดไหนแล้ว  เรื่องนี้ต้องโทษเจ้าเฒ่าเซียวฟางที่ทะลึ่งทำยาเพิ่มปราณ ยาขยายเส้นลมปราณ และยาบำรุงสารพัดมายัดให้หลานสาวเขาตั้งแต่เล็กแต่น้อย  ไหนมันจะให้หลานสาวเขาแช่ตัวเพื่อต้านหมื่นพิษนั่นอีก กระทั่งหลานสาวเขาสามารถดูดซับและปล่อยปราณพิษได้ตามใจชอบ เขามารู้เรื่องนี้ในตอนที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว  หลานคนดีของเขาแทบจะกลายเป็นผู้อยู่ยงคงกระพันจากพิษทั้งหมดในใต้หล้า

       พิธีการรับตำแหน่งเจ้าตำหนักอันศักด์สิทธิ์ ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องให้ระคายใจเจ้าตำหนักคนใหม่แม้แต่น้อย  พวกเขายังอยากมีลมหายใจและใช้ชีวิตอยู่นะ  ข่าวของเจ้าตำหนักคนนี้แพร่กระจายให้คนของตำหนักทั่วทั้งห้าแคว้นรับรู้มานานแล้ว  ขนาดกลุ่มของผู้อาวุโสใหญ่คนก่อนที่ว่าแน่ ยังตายตาไม่หลับเพราะฝีมือการวางยาพิษของเจ้าตำหนักตัวน้อยคนนี้เลย  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เหล่าสมาชิกของตำหนักเมฆาดับทั้งห้าแคว้น  ต่างสาบานในใจว่าจะไม่มีวันทำให้นางขุ่นเคืองเด็ดขาด ถ้าใครอยากรีบตายก็ไปก่อนเลย  พวกเขาจะไม่ยุ่ง!

       หลังจบสิ้นพิธี  ชิวเพ่ยเพ่ยใช้เสียงที่ถูกขยายจากลมปราณบอกกับทุกคนว่า

“ข้าชิวเพ่ยเพ่ยหวังว่า พวกท่านจะซื่อสัตย์และภักดีกับตำหนักเมฆาดับในรุ่นของข้า เช่นเดียวกับที่เคยภักดีกับท่านตาข้านะ ไม่เช่นนั้นล่ะก็ พวกท่านจงไปสั่งลาคนรักและครอบครัวเสีย  ถึงข้าจะอายุยังน้อยแต่ข้ารับภารกิจมาตั้งแต่ 10 ขวบแล้ว ดังนั้น นี่จะเป็นคำเตือนครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ข้าเมตตากับคนเก่าแก่ของท่านตาข้า  หวังว่าพวกท่านจะเข้าใจ”

       เหล่าสมาชิกต่างรีบแข่งกันตะโกนแสดงความภักดีกับเจ้าตำหนักคนใหม่ที่แสนน่ากลัวในทันใด  เสียงดังกึกก้องของคนนับพันแทบจะทำให้สัตว์ป่าห้าใจวายตาย

       เตียวหย่งไจ้ที่เห็นการแสดงออกตรงหน้าก็มีรอยยิ้มสมใจได้เสียที  ไม่เสียแรงที่เป็นหลานสาวสุดที่รักของพวกเขาจริงๆ นางสามารถสยบผู้คนนับพันได้ในไม่กี่ประโยค