Share

บทที่ 14 เจ้าแย่งเขาไปจากข้า

บทที่สิบสี่

เจ้าแย่งเขาไปจากข้า

         หลิวผิงผิงกลับไปที่จวนของตัวเองด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและความแค้น ความคิดที่ว่าหลี่รุ่ยหลินได้แย่งหวังข่ายไปจากนางทำให้รู้สึกโกรธเคืองจนแทบจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ นางคิดถึงทุกสิ่งที่นางทำเพื่อพยายามเข้าหาหวังข่าย ตั้งแต่การเป็นสหายที่ดี การทำให้เขาเห็นถึงความทุ่มเทและการแสดงออกถึงความรักความเอาใจใส่ แต่ทุกอย่างก็กลับถูกทำลายลงเพราะการปรากฏตัวของหลี่รุ่ยหลิน

นางยืนมองตัวเองในกระจก มองรูปลักษณ์ที่งดงามและถูกอบรมมารยาทอย่างดีจากตระกูลผู้ดี ทุกคนล้วนกล่าวว่านางเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อม แต่เหตุใดหวังข่ายถึงไม่เห็นค่านาง เหตุใดหัวใจของเขาถึงเลือกหลี่รุ่ยหลินแทนที่จะเป็นนาง

ความคิดนี้ยิ่งทำให้รู้สึกโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดความคิดที่จะทำร้ายหลี่รุ่ยหลินก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ นางไม่อาจทนเห็นหลี่รุ่ยหลินมีความสุขอยู่กับหวังข่ายได้ นางต้องการที่จะเห็นหลี่รุ่ยหลินทุกข์ทรมาน ต้องการที่จะทำให้นางเสียใจเช่นเดียวกับที่ตนเองกำลังเสียใจในตอนนี้

แต่หลิวผิงผิงไม่รู้เลยว่าหลี่รุ่ยหลินไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาทั่วไป หลี่รุ่ยหลินมีวรยุทธ์ที่เก่งกาจและถูกฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็กในวิถีการต่อสู้และการป้องกันตัว หลี่รุ่ยหลินอาจดูอ่อนโยนและสงบเสงี่ยมภายนอก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องป้องกันตัวก็สามารถกลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดคาดคิดได้

ในยามบ่ายที่แดดส่องสว่างเจิดจ้าหลี่รุ่ยหลินเดินไปยังย่านการค้าที่คึกคักเพื่อทำสัญญารับงานกับคหบดีผู้หนึ่ง เสียงผู้คนที่เดินสวนกันไปมาดังอยู่รอบตัวและกลิ่นหอมของอาหารจากร้านค้าต่าง ๆ ก็ลอยมาในอากาศ แต่เบื้องหลังความคึกคักนั้นกลับมีสายตาหลายคู่จ้องมองมาที่นางอย่างเงียบ ๆ พวกคนร้ายที่หลิวผิงผิงจ้างมากำลังซุ่มรอจังหวะที่เหมาะสม

ขณะที่หลี่รุ่ยหลินเดินลัดเลาะไปในซอยแคบ ๆ เพื่อลัดทางไปยังจุดนัดพบก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ อาการเย็นยะเยือกที่รู้สึกได้ทำให้นางระแวดระวัง นางจึงหยุดเดินและมองไปรอบ ๆ อย่างรอบคอบ

ทันใดนั้นเองคนร้ายสี่ห้าคนก็ปรากฏตัวขึ้น พวกมันพุ่งออกมาจากเงามืดของซอย จู่โจมเข้าหานางอย่างไม่ทันตั้งตัว หลี่รุ่ยหลินไม่ได้หวั่นไหวแต่ตั้งท่าเตรียมสู้กลับในทันที

"จัดการนางเสีย ให้รวบรัดและรวดเร็วที่สุด" หนึ่งในพวกคนร้ายตะโกนก่อนจะพุ่งเข้ามาหาหลี่รุ่ยหลินพร้อมกับมีดสั้นในมือ

แต่หลี่รุ่ยหลินยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวหลบการโจมตีของมันได้อย่างง่ายดาย และในชั่วพริบตานางก็ซัดหมัดอันทรงพลังออกไปที่กลางท้องของมัน คนร้ายผู้นั้นกระเด็นไปไกลล้มลงกับพื้นในทันที

คนร้ายคนอื่น ๆ ที่เห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาล้อมหลี่รุ่ยหลิน ทั้งหมดมีอาวุธในมือตั้งแต่ดาบยาวถึงกระบองเหล็ก แต่หลี่รุ่ยหลินยังคงสงบตั้งท่าพร้อมที่จะต่อสู้ หมัดของนางนั้นเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วและความแม่นยำ การโจมตีของนางพริ้วไหวและคล่องแคล่วจนพวกคนร้ายแทบตั้งตัวไม่ทัน

คนร้ายคนหนึ่งเหวี่ยงดาบยาวใส่นางด้วยความโกรธ แต่นางกลับสามารถหลบหลีกได้โดยไม่ยากเย็น จากนั้นนางก็ซัดหมัดเข้าใส่กรามของมันจนมันล้มลงไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

อีกคนพุ่งเข้ามาจากด้านหลังแต่นางหมุนตัวกลับพร้อมกับซัดหมัดลงบนกระบองเหล็กที่คนร้ายคนนั้นถืออยู่ กระบองกระเด็นออกจากมือของมันก่อนที่หมัดถัดมาของนางจะกระแทกลงไปบนหน้าอกของมันจนมันล้มลงไปด้วยความจุก

แม้จะมีหลายคนล้อมรอบแต่นางก็ไม่ได้หวาดกลัว หลี่รุ่ยหลินใช้วิชาหมัดที่สวยงามและเข้มแข็งดุดัน หมัดแต่ละหมัดของนางเป็นการผสมผสานระหว่างความรวดเร็วและความแข็งแรง ทำให้พวกคนร้ายที่เข้ามาโจมตีไม่สามารถรับมือได้เลย พวกมันต่างโดนซัดลงไปกองกับพื้นทีละคนสองคน

ในที่สุดคนร้ายคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก็เริ่มถอยหลังด้วยความกลัว มันเห็นสหายของมันล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงนั่นทำให้มันรู้ว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่มันจะเอาชนะได้ มันพยายามจะหนีแต่หลี่รุ่ยหลินกลับไม่ปล่อยให้มันหลุดรอดไป นางพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและซัดหมัดสุดท้ายลงบนท้องของมัน ทำให้มันล้มลงไปอย่างหมดสติ

หลี่รุ่ยหลินยืนอยู่ท่ามกลางคนร้ายที่ถูกซัดลงไปกองกับพื้น มองดูสภาพของพวกมันด้วยสายตาที่เรียบเฉย แต่ในใจรู้ดีว่าการต่อสู้นี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น รู้สึกได้ถึงความผิดปกติและสงสัยว่าเหตุใดพวกคนร้ายเหล่านี้ถึงได้โจมตีนาง การจู่โจมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญและนางก็ต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าใครเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง

เมื่อคนของทางการมาถึงที่เกิดเหตุพวกเขาเข้าจับกุมคนร้ายทั้งหมดที่กองอยู่กับพื้น คนร้ายถูกมัดไว้แล้วนำตัวไปยังสำนักตรวจการ หลี่รุ่ยหลินยังคงยืนอยู่ในสภาพสงบแม้ในใจจะเดือดดาลจากการที่ต้องถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว แต่ภายนอกกลับแสดงออกเพียงความเยือกเย็น ปล่อยให้คนของทางการดำเนินการไปตามหน้าที่โดยไม่พูดอะไร

ไม่นานหลังจากนั้นหวังข่ายก็ทราบเรื่องราวและรีบมายังสำนักตรวจการด้วยความโกรธแค้น เมื่อเห็นสภาพของคนร้ายที่ถูกจับตัวไปก็ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจในใจของเขามากขึ้น เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับหลี่รุ่ยหลินผู้ซึ่งเป็นคนรักของเขาและเขาได้สัญญากับนางไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปกป้องนาง

หวังข่ายเรียกร้องให้มีการสอบสวนทันที พวกคนร้ายถูกนำมาสอบปากคำทีละคนภายใต้การกดดันจากสายตาแข็งกร้าวของเขาที่นั่งอยู่ด้วย คนร้ายที่หวาดกลัวจึงยอมรับสารภาพทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง พวกมันซักทอดว่าผู้ที่จ้างพวกมันมาเพื่อทำร้ายหลี่รุ่ยหลินนั้นคือคุณหนูหลิวบุตรสาวของท่านเจ้ากรมการคลัง

คำสารภาพนี้ทำให้หวังข่ายเดือดดาลมากขึ้นไปอีก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าสหายที่เขาเคยไว้ใจจะกล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ เมื่อได้ฟังทุกคำจากปากของคนร้ายเขาก็บอกกับทางการให้ดำเนินการลงโทษหลิวผิงผิงตากฎหมายโดยไม่ร้องขอความเมตตาใด ๆ ให้กับนางเลยแม้แต่น้อย

หลิวผิงผิงถูกนำตัวมาที่สำนักตรวจการ นางรู้ว่าความผิดในครั้งนี้มิอาจหลุดพ้นได้แน่จึงยอมรับแต่โดยดี และรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของนางกับหวังข่ายอาจไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก หลิวผิงผิงรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังพังทลายลงต่อหน้าต่อตา

"หวังข่าย..." หลิวผิงผิงเอ่ยชื่อเขาด้วยเสียงสะอื้น นางคุกเข่าลงต่อหน้าเขา น้ำตาไหลพรากจากดวงตาอย่างไม่หยุดหย่อน "ข้าขอโทษ ข้ายอมรับผิดทุกอย่าง ที่ข้าทำไปนั้นก็เพราะข้ารักเจ้า"

หวังข่ายยืนอยู่ต่อหน้านางด้วยความเยือกเย็น สายตาของเขาสะท้อนความผิดหวังและโกรธเกรี้ยว เขามองหญิงสาวที่เคยเป็นสหายที่ดีของเขาโดยไม่มีความอ่อนโยนหลงเหลือ

"หลิวผิงผิง…เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าไว้ใจเจ้ามากเพียงใด ข้าเห็นเจ้าเป็นสหายมาตลอด แต่สิ่งที่เจ้าทำมันเกินกว่าที่ข้าจะให้อภัยได้" หวังข่ายกล่าวด้วยเสียงที่เยือกเย็น

หลิวผิงผิงสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พยายามจะอ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ได้โปรด... ได้โปรดอย่าตัดความสัมพันธ์กับข้า ข้าไม่ต้องการเสียเจ้าไป ข้ารู้สึกผิดจริง ๆและจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว ได้โปรดให้ข้ามีโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้งเถอะ"

หวังข่ายมองนางด้วยสายตาเย็นชาและส่ายศีรษะเบาๆ "โอกาสนั้นไม่มีอีกแล้วหลิวผิงผิง สิ่งที่เจ้าทำมันทำลายความไว้ใจของข้าไปหมดสิ้น ข้าขอไม่ข้องเกี่ยวกับเจ้าอีกต่อไป"

คำพูดของหวังข่ายเหมือนดาบที่แทงทะลุหัวใจของหลิวผิงผิง นางทรุดตัวลงไปกับพื้นร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาที่ไหลออกมาไม่เพียงแต่เป็นเพราะความเจ็บปวดจากการที่เสียหวังข่ายไป แต่มันยังเป็นการรับรู้ว่าตัวเองได้ทำผิดมหันต์ที่ไม่มีทางแก้ไขได้

"หวังข่าย... ข้าขอโทษ... " นางร้องขอด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

หวังข่ายหันหลังให้กับนางโดยไม่พูดอะไรอีก การกระทำของเขาชัดเจนว่าไม่มีที่ว่างให้กับความรู้สึกเก่าๆ อีกต่อไป เขาเดินออกจากสำนักตรวจการไปพร้อมกับหลี่รุ่ยหลิน ปล่อยให้หลิวผิงผิงอยู่กับความเสียใจและความเจ็บปวดที่นางสร้างขึ้นมาเอง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status