“พ่อของแกยุ่ง แกก็รู้ เขาอาจจะไม่มีเวลามานะ ถ้าแกต้องการอะไรบอกฉันได้ ฉันให้คนจัดการให้” คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงทื่อๆและคุณย่าค่อยๆพับแขนเสื้อเขาขึ้น
เย่จื่อหยางเหลือบมองพวกเขา "พวกคุณกลับไปเถอะ ผมอยู่เองได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ"
คุณปู่อารมณ์เสียเมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงยกไม้ค้ำขึ้นตีที่ตัวและมือสองสามครั้ง อยากตีต่อแต่ถูกภรรยาห้ามไว้ “ตีอะไรของคุณ! มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากันไม่ได้เหรอ? จื่อหยาง ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้ คุณปู่พูดอะไรแค่เออออไปด้วยก็พอแล้ว ทำไมต้องทำตัวต่อต้านกับท่านขนาดนั้น ”
“แล้วพวกคุณมาที่นี่ครั้งนี้เพื่อมาเยี่ยมผมจริงๆเหรอ? ตอนที่ฉันถูกจับเป็นตัวประกันโดยเจ้าพ่อค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำที่ยูนหนาน ถูกพวกเขาทรมานจนแทบจะหมดลมหายใจ พวกคุณมาเยี่ยมหรือเปล่า? “น้ำเสียงของ เย่จื่อหยาง เต็มไปด้วยความดูถูก
“ไอ้เด็กเวรนี่! วันนี้ฉันจะตีแกให้ตาย!” คุณปู่ยกไม้เท้าขึ้นสูงเหนือศีรษะ คาดว่าถ้าฟาดลงครั้งนี้อาจเจ็บจนตีลงครั้งจะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว คุณย่ารีบคว้าไม้เท้าออกจากมือ
“ฉันทุบหลานจนตาย!” มาดูกันว่าใครจะสืบทอดตระกูลเย่ของคุณ!"
หลังจากตะโกนแบบนี้ คุณปู่ก็สงบลง แต่ยังไม่ยอมจำนนยังทำสีหน้าไม่พอใจ และคุณย่าจึงปล่อยให้เขานั่งบนเก็าอี้ข้าง ๆ
"ครั้งนี้มาก็ไม่ใช่ว่าจะมาพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ คุณยังกล้าจะตีหลานให้ตาย ตาแก่ หยุดพูดเลย เดี๋ยวฉันคุยเอง”
คุณยายถลึงตามองคุณปู่ จากนั้นชั่วพริบตาก็หันหน้ามายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเย่จื่อหยาง
"จื่อหยาง คุณปู่ของหลาน พ่อของหลานและย่าคิดเรื่องนี้มานานแล้ว และแม่ของหลานที่อยู่บนฟ้าก็คงจะรอเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นเร็วๆ"
ถ้าหลานคิดว่าการไปดูตัวหรือการมีแฟนมันยุ่งยาก พวกเราได้หาครอบครัวที่ฐานะเหมาะสมกับหลานไว้แล้ว แค่หลานไปเจอหน้าฝั่งนั้นสักครั้งรู้สึกเข้ากันได้ พวกเราก็จัดงานแต่งทันที”
เย่จื่อหยางนึกว่าเรื่องสำคัญอะไร แต่เขาไม่คาดคิดว่ามันยังคงเป็นเรื่องของการแต่งงาน เขาหัวเราะ "ตาแก่เจ้เลห์ อย่าได้คิดจะจับผมแต่งงานทางการเมืองเชียว แต่อาจจะทำให้คุณปู่ผิดหวังเช่นกัน เพราะผมแต่งงานแล้ว"
คุณปู่ถึงกับรีบลุกพรวดพราดจากเก็าอี้ทันที "แกพูดจริงหรอ?"
"ผมจะหลอกเพื่อ?" เย่จื่อหยางพูดอย่างจริงจัง
ถ้าคุณย่าไม่ยืนอยู่ระหว่างพวกเขาสองคน คุณปู่คงได้ตีเจ้าหลานชายไปนานแล้ว ไอ้เจ้าเด็กนี่ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ คุณย่าอึ้งไปสักพักจนได้สติกลับมา หลานชายของเธอเคยไม่ชอบการพูดถึงการแต่งงานมากที่สุด แต่ครั้งนี้เขายอมรับด้วยตัวเอง นี่ต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ?
“ตาแก่ เราจะทำอย่างไรดี? เราได้ทำข้อตกลงกับครอบครัวของฝั่งนั้นไว้แล้ว ถ้าเรากลับคำ พวกเราต้องรู้สึกผิดกับครอบครัวฝั่งนั้นแน่ๆเลย”
ไม่ว่ายังไงคุณปู่ก็ไม่เชื่อว่าเย่จื่อหยางแต่งงานแล้ว เขาส่งเสียงในลำคอ
"ฮึ”ฉันจะไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าแกแต่งงานแล้วจริงๆ ออกจากโรงพยาบาลแล้วพาภรรยาของแก่กลับบ้านทันที ถ้าแกโกหกพวกเรา ฉันจะไม่บังคับแก ฉันจะจับแกมัด และจับจัดงานแต่งงานอย่างไม่มีข้อแม้ แล้วอีกอย่างอย่าหาคนมาหลอกฉัน
“กลับ!”
คุณปู่จ้องเขม็งมาที่เย่จื่อหยาง แม้ว่าเขาจะอายุมากแต่เขายังคงมีพฤติกรรมเหมือนนายพล โดยไม่พูดเรื่องไร้สาระ เขาก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องคนไข้กับภรรยาของเขา
แพทย์บอก เย่จื่อหยาง ว่าแม้ว่าน่องของเขาจะหัก แต่เขาควรเคลื่อนไหวบ่อยๆ และกินซุปกระดูกที่อุดมด้วยแคลเซียมให้มากขึ้น เย่จื่อหยาง ถูกย้ายไปที่ชั้นสี่ของอาคารพักฟื้นสมรรถภาพของทหาร ผู้ป่วยทั้งหมดเป็นทหารกองทัพใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ในจำนวนนี้เป็นทหารเกณฑ์ เมื่อพบเขาเป็นพันเอก ทุกคนยังคงมีความรู้สึกเกรงกลัว
ในมือขวาของเขาพิงไม้ค้ำยัน เฝือกที่ขาขวาของเขายังไม่ได้ถูกถอดออก เย่จื่อหยางเดินไปตามทางเดินด้วยความยากลำบากและกำลังจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนที่เขาจะกลายเป็นหัวหน้ากองพลพิเศษ เขาฝึกหน่วยรบพิเศษให้ต่อสู้ ต้องเคลื่อนไหวว่องไว ไม่คิดว่าตอนนี้แค่เดินแต่ละก้าวยังยากลำบากเชื่องช้าเหมือนหอยทากแบบนี้ พยาบาลต้องการที่จะมาพยุงเขา แต่เขาผลักเธอออกไป ตอนนี้แค่เขาเดินยังต้องมีคนคอยพยุง ? เกียรติของลูกผู้ชายเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ห้องน้ำอยู่สุดทางเดิน ใกล้กับบันไดและทางเข้าลิฟต์ด้วย เมื่อเขาเดินไปที่ห้องน้ำประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที เย่จื่อหยาง เพียงเหลือบมองเพื่อดูว่าเป็นผู้ชายหรือผู้ชาย ผู้หญิง ใครจะรู้ว่าคน ๆ นั้นบังเอิญเป็นซ่งเสี่ยวเชียน !ซ่งเสี่ยวเชียนกำลังทำธุระให้กับแพทย์ที่เป็นผู้นำการฝึกงานของเธอในวันนี้ เธอไปที่ชั้น 4 ของอาคารฟื้นฟูสมรรถภาพทหารเพื่อขอข้อมูลจากคุณหมอหลิว แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเย่จื่อหยางเมื่อประตูลิฟต์เปิด!ซ่งเสี่ยวเชียนเบิกตากว้าง ปากของเธอเปิดและปิดราวกับว่าเธอมีอะไรจะพูดมากมาย แต่เธอก็ไม่ส่งเสียง เย่จื่อหยางกลับสงบขึ้นมองเธอหัวจรอดปลายท้ายหนึ่งรอบ เธอ
"หัวเราะบ้าอะไรของคุณ! ใครเป็นภรรยาของคุณ? ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ! ฉันต้องการหย่ากับคุณ!" ความแรงที่เธอหยิกลงไปบนหน้าของเย่จื่อหยางแรงจนทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอจึงไปหยิกที่คอของเขาแทน ความล้มเหลวในการต่อต้านของ เย่จื่อหยาง ไม่ได้เกิดจากการที่เขาไม่มีกำลังที่จะป้องกันตัว แต่เป็นเพราะ ซ่งเสี่ยวเชียนมาถึงก็ทับขาที่บาดเจ็บของเขาไว้ ตีตรงเฝือกน่าจะดีกว่า"ขา! มันเจ็บ! เจ็บเจ็บคุณฆ่าสามีของคุณเหรอไง!" ซ่งเสี่ยวเชียนรีบลุกขึ้น ทั้งงุดหงิดทั้งอารมณ์เสีย แต่ถ้ามันทำให้อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลง เธอเองก็คงจะรู้สึกผิดเล็กเช่นกัน"คุณก็เก็บขาคุณให้ดีๆซิ ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย!"เย่จื่อหยางกอดขาของเขาและจ้องมองเธอ ในที่สุดใบหน้าที่เย็นชาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบในที่สุด"น่ารำคาญ ฉันจะพักผ่อน! รีบทำตามที่ฉันบอกเร็ว ๆ และอย่าลืมปิดประตูเมื่อคุณออกไปด้วย!""ฉันไม่ยอมย้ายมาอยู่กับคุณแน่! ฝันไปเถอะ!" ซ่งเสี่ยวเชียนหันหลังเดินออกไปและกระแทกประตูเสียงดังหลังจากนั้นเธอก็ลืมไปเลยว่าจะไปหาหมอหลิวเพื่อเอาเอกสารและเมื่อเธอกลับไปทำห้องศัลกรรมแพทย์เธอก็ถูกอาจารย์หมอตำหนิเธออีกครั้ง ซ่งเสี่
“พี่สะใภ้ ใจเย็นๆ หัวหน้ากลัวว่าคุณจะหาทางไม่เจอจึงบอกให้เราพาคุณกลับบ้าน คุณแค่ให้ความร่วมมือก็พอแล้ว” ทหารที่อยู่ตรงกลางแสดงรอยยิ้มอ่อนโยนให้ซ่งเสี่ยวเชียน ซ่งเสี่ยวเชียนขยี้ตาเธอเพื่อที่เธอจะไม่โดนพวกมันหลอก! “ออกไป! ฉันจะไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้าทั้งนั้น! คิดว่าฉันโง่หรือไง!”“พี่สะใภ้งั้นพวกเราก็ไม่เกรงใจแล้วนะครับ หวังว่าหลังจากนี้อย่าโกรธแค้นพวกเราเลยนะครับ พวกเราก็รับฟังคำสั่งของหัวหน้ามาด้วยเหมือนกัน” โบกมือ ทั้งสองคนด้านหลังประกบซ่งเสี่ยวเชียนทันที ก่อนที่ซ่งเสี่ยวเชียนจะมีเวลาต่อต้าน พวกเขาก็จับเธอได้ นำตัวออกจากห้อง และพร้อมที่จะลงไปชั้นล่าง"เฮ้! พวกคุณกำลังลักพาตัวฉัน ฉันอยากจะฟ้องพวกคุณ! ฟ้องคุณในศาลทหาร! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้อะไร! ปล่อยฉันไป!" ซ่งเสี่ยวเชียนเตะเท้าของเธอขึ้นไปในอากาศ แต่ คนสองคนจับเธอไว้ มีพลังมหาศาล ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหนพวกเขาก็จับเธอไว้แน่นโดยไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยเลยทหารที่เหลืออยู่ในห้องกล่าวขอโทษพ่อแม่ของซ่งเสี่ยวเชียนว่า "ขอโทษทั้งสองท่าน ในอนาคตหัวหน้าของเราจะมาอธิบายให้ทั้งสองท่านฟังด้วยตัวเอง ผมขอตัวก่อนครับ!" พ่อแม่ของซ่งเสี่ยวเชียนมองหน้าก
หลังจากอิ่มท้องแล้ว ซ่งเสี่ยวเชียนก็มองไปรอบ ๆ และจินตนาการว่าตัวเองเป็น เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เพื่อดูว่าเธอจะหาลู่ทางที่จะหนีจากที่นี่ได้หรือไม่มีเสื้อเชิ้ตผู้ชายธรรมดาๆ เนคไท กางเกงยีนส์ สองสามตัว และชุดนอนสีเข้มสองสามตัวแขวนอยู่บนตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ไม่มีอะไรพิเศษ เมื่อเดินไปดูห้องหนังสือ ตู้หนังสือก็ล็อคทั้งหมด เปิดไม่ออก บนโต๊ะหนังสือมีคอมพิวเตอร์วางเอาไว้ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดมัน แต่ไม่มีอะไรในคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดดิสก์ก็ว่างเปล่าราวกับว่ามันถูกลบโดยใครบางคนมันดูผิดปกติเกินไป แม้ว่าจะไม่ได้ใช้มันเพื่อเก็บข้อมูลอะไร แต่ก็มักจะมีหน้าต่อไปบ้าง ประวัติดูหนังงี้ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย ซ่งเสี่ยวเชียนสรุปว่า คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ต้องถูกดัดแปลงและไม่สามารถเชื่อมต่ออะไรได้เลยเดินไปห้องน้ำดูอีกครั้ง มีแต่ของใช้สำหรับผู้ชายเหมือนเดิม หลังจากนั้น ไม่มีแล้ว ไปดูที่ห้องรับแขกก็ไม่มีอะไรเลย บ้านว่างทั้งหลังมีแต่ของจิปาถะกองพะเนินเท่านั้น หลังจากดูทั้งห้องแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกซะจากเจ้าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ หลังจากยุ่งเรื่องต่างๆเสร็จ ซ่งเสี่ยวเชียนรู้สึกเจ็บหลังเล็กน้อยและจำได้ว่า
หมุนที่จับประตูเบา ๆ และเสียงปัง ประตูก็เปิดออก หัวใจของซ่งเสี่ยวเชียนแทบจะกระออกมา ไม่คาดคิด ประตูถูกเธอเปิดออกอย่างง่ายดาย... เมื่อเปิดประตู เธอยื่นศีรษะออกไปเพื่อดูว่ามีใครคอยเฝ้าอยู่รอบๆ หรือไม่ ไม่มีแม้แต่เงา อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ป้าคนหนึ่งถือถุงขยะลงมาจากชั้นบนและมองไปที่ซ่งเสี่ยวเชียนที่กำลังแอบย่องไปรอบประตูอย่างน่าสงสัย อาคารนี้ไม่สูงมากมีเพียงชั้น 6ชั้น แม้ว่าจะมีลิฟต์ แต่ทุกคนเลือกที่จะเดินลงบันไดและทุกคนที่ขึ้นลงก็คุ้นเคยกับมันมาก ความลับๆล่อๆของ ซ่งเสี่ยวเชียนดึงดูดความสนใจของป้าได้อย่างสมบูรณ์ซ่งเสี่ยวเชียนปิดประตู เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของเธอเองอย่างรวดเร็ว สะพายกระเป๋า แล้ววิ่งหนีไปในสามวินาที เธอวิ่งตรงไปที่ถนนใหญ่ พบเจอกับค่ำคืนแห่ง "การลักพาตัวเฉียดตาย” เสี่ยวเชียนรู้สึกว่าความกล้าหาญของเธอได้เพิ่มขั้นอีกขั้นก่อนอื่นเธอต้องไปที่สถานีตำรวจ แล้วบอกว่ามีคนลักพาตัวเธอ! สารภาพความขมขื่น คนที่ลักพาตัวเธอยังเป็นทหารใส่ชุดลายพราง บ้านเราขาดระบบกฎหมายขนาดนี้เลยเหรอ! ? อย่าคิดว่าถ้าเธอไม่ได้กลับประเทศเป็นเวลาสิบปีแล้ว เธอจะถูกหลอกให้ไม่รู้กฎหมายของประเทศได้! เรื่องนี้ต
หลังจากที่ซ่งเสี่ยวเชียนพูดจบ เย่จื่อหยางก็เงียบไปสักพักแล้วพูดว่า "ซ่งเสี่ยวเชียน คุณเป็นคนไม่มีหัวคิดหรือเปล่า" "คุณยังกล้าด่าฉัน!?" ซ่งเสี่ยวเชียนโกรธมากอยากจะรีบกระชากคอและตายไปพร้อมกับเขา แต่ใครจะรู้ เธอเดินเร็วเกินไปทำให้เท้าข้างหน้าขัดกับเท้าด้วย ตัวเธอเซล้มลงบนเตียงของเย่จื่อหยางทุกคนจ้องมองอย่างตกตะลึง ซ่งเสี่ยวเชียนที่กำลังกระโจนใส่เย่จื่อหยาง เขาวางหนังสือลงจากมือ และภายในหนึ่งในสามวินาที ซ่งเสี่ยวเชียนก็ล้มลงบนร่างของเย่จื่อหยาง เขาคว้ามือของเธอและพยุงเธอไว้ แต่ริมผีปากของพวกเขากลับสัมผัสกันแล้วเหมือนเวลาหยุดนิ่งไปสักพัก และทุกคนก็จ้องมองพวกเขาสองคนที่กำลังจูบกันในท่านี้อย่างอึ้งๆ ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก แล้วก็มีเสียงกรีดร้องเสียบหูของผู้หญิงคนหนึ่ง ซ่งเสี่ยวเชียนคิดในใจว่า ฉันยังไม่ร้องเลย ใครหน้าไหนมีสิทธิ์มากรีดร้อง "แก! แก! ยัยผู้หญิงลามก ลุกขึ้นจากตัวพี่ชายของฉันเดี๋ยวนี่!"เสียงหวานป่นเลี่ยนทำให้ ซ่งเสี่ยวเชียนขนลุกไปทั้งตัว แต่เธอลืมไปว่าริมฝีปากของเธอยังคงสัมผัสอยู่กับเย่จื่อหยาง เขาควบคุมสติแล้วใช้แขนพยุงให้เธอลุกขึ้นแล้วพูดว่า"คุณจะจูบอีกนานไ
“พี่เย่ คุณปู่บอกว่าพี่เข้าโรงพยาบาล ฉันเป็นห่วงจึงกลับมาหาพี่จริงๆ แล้วยังมาหาว่าฉันมาก่อเรื่องให้พี่อีก? พี่ หรือว่าพี่ไม่รักฉันแล้วเหรอ?” เย่จื่อซินเปลี่ยนจากผู้หญิงชั่วร้ายอำมหิต กลายเป็นลูกแมวน้อยในทันที ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับพบกลืนน้ำลายอีกครั้ง แม้ว่านิสัยจะรุนแรงไปบ้าง แต่ว่าสิ่งสำคัญคือหน้าตาอ่า สวยสุดๆ ซ่งเสี่ยวเชียนซึ่งแอบฟังอยู่ข้างนอกประตูเช็ดปากของเธอและมีอาการขนลุกไปทั่วทั้งตัวอีกครั้ง เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่มีเด็กผู้หญิงเช่นนี้ “เข้าใจแล้ว ทีนี้ก็เห็นแล้ว ฉันไม่เป็นอะไร พักผ่อนเดือนกว่าๆ ก็ไม่ต้องใช้ไม้ค้ำแล้ว เธอกลับไปได้แล้ว”“พี่เดินยังต้องใช้ไม้เท้านะ! นิคือไม่เป็นอะไรแบบนี้ทำอะไรก็ไม่สะดวก ให้ฉันอยู่ดูแลพี่เถอะ ฉันพยุงพี่เข้าห้องน้ำได้ ยังช่วยพี่อาบน้ำได้ด้วยนะ” เย่จื่อซินยิ้มด้วยสีหน้าทะเล้น ผู้เห็นเหตุการณ์กลืนน้ำลายอีกครั้ง แกล้งชี้แขนชี้ขาของพวกเขา “คนสวย ฉันก็บาดเจ็บเหมือนกัน คุณช่วยดูแลฉันด้วยได้ไหม” “ไม่จำเป็นหรอก มีพี่สะใภ้ของเธออยู่ที่นี่ เธอเป็นหมอ เธอสามารถดูแลพี่ได้ดีกว่าเธอ” เย่จื่อหยางมองผ่านรอยแยกของประตู เขารู้ว่าใครกำลังแอบฟ
เย่จื่อหยางมองไปที่ ซ่งเสี่ยวเชียนอย่างเสน่หา ซ่งเสี่ยวเชียนถูกดึงดูดด้วยดวงตาที่ลึกล้ำน่าลุ่มหลงของ เย่จื่อหยางอยู่ครู่หนึ่ง และสิ่งที่เขาพูดก็น่าสนใจมากเช่นกัน แต่หลังจากผ่านไปสิบวินาที ซ่งเสี่ยวเชียนก็หรี่ตาลง "อย่าคิดจะใช้สายตาที่น่าหลงไหลนั้นมาทำให้ฉันสับสน ฉันจะไม่ยอมถูกหลอก!” เธอพูดอย่างระมัดระวัง "คุณเป็นคนของผมแล้ว คุณจะแต่งงานกับใครได้อีก?" เย่จื่อหยางตัดสินใจใช้ไม้ตาย ซึ่งทำให้สีใบหน้าของซ่งเสี่ยวเชียน เปลี่ยนเป็นกังวลและสับสน "คืนนั้น... คุณ คุณจริงๆ...? พวกเรา?" ซ่งเสี่ยวเชียนสับสนมากจนเธอพูดไม่ชัดเจน “คุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าใช่ไหม?” เย่จื่อหยางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตาของเขามีสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ซ่งเสี่ยวเชียนตื่นตระหนก น่ากลัว น่ากลัวมากเนื่องจากวันนั้นเธอเมาเกินไป ความทรงจำของซ่งเสี่ยวเชียนจึงยุ่งเหยิงไปหมด เหมือนปริศนาที่เธอจึงต้องค้นหามันอย่างละเอียดแล้วจึงค่อยๆรวบรวมให้เป็นแผ่นเดียวกัน ถึงจะสามารถจดจำได้ เธอตื่นขึ้นมาในโรงแรมโดยไม่สวมเสื้อผ้า แต่เธอรู้สึกว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลย เป็นไปไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้น เธอคิดเสมอว่าคืนนั้นไม