ภายในไม่กี่วันหลังจากการแต่งงานแบบฟ้าแลบของพวกเขา ซ่งเสี่ยวเชียนขาดการติดต่อจากเย่จื่อหยางอย่างสิ้นเชิง กลับกัน ซ่งเสี่ยวเชียนอยากจะติดต่อเย่จื่อหยางเธอก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์เขา
เมื่อภารกิจของเย่จื่อย่างสิ้นสุดลง แต่เขาถูกหามกลับไปบนเปล กระดูกขาหัก หลังจากพันผ้าพันแผลแบบง่ายๆ เฮลิคอปเตอร์ก็นำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลของรัฐในเมืองหลวง ส่งตัวเข้ารับผ่าตัดทันที หลังจากนั้นหมอผ่าตัดได้ทำการผ่าตัดทันถ่วงที ทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างสำเร็จ แค่พักผ่อนให้มากๆ ขาของคุณในไม่ช้าก็จะหายดี
สมาชิกในทีมที่มากับ เย่จื่อหยางรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินดังนั้น เพราะเย่จื่อหยางยังคงอยู่ในอาการโคม่าก่อนที่ยาชาจะหมดฤทธิ์ไป และในช่วงบ่ายเขาน่าจะตื่น น่องขาขวาอยู่ในเฝือกและดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้ไม้ค้ำอยู่ระยะหนึ่ง
แม้แต่สมาชิกในทีมยังคิดว่ามันแปลกที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ภารกิจสืบสวนดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อพวกเขาถอยกำลังกลับ เย่จื่อหยางก็ก้าวเข้าไปในกับดักด้วยขาขวาของเขาและติดกับดักที่น่อง เขาได้รับบาดเจ็บและ กระดูกแตกหักและเกือบจะถูกศัตรูพบเข้า
มันเป็นความประมาทอย่างมาก ความผิดพลาดครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดระดับต่ำที่สุด โดยสมาชิกของกลุ่มพิเศษ ไม่คาดคิดว่า หัวหน้าอย่างเย่จื่อหยางจะทำผิดพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร ซึ่งทำให้สมาชิกในทีมสับสนมึนงงอย่างมาก
ทุกคนคิดว่า เย่จื่อหยาง เหยียบกับดักโดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่ที่จริงแล้วคนที่ทำผิดพลาดคือถังซุน แต่เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเอง
ถังซุน เป็นทหารผ่านศึกในหน่วยพิเศษ แต่เขามีบุคลิกสบายๆ และไม่ค่อยระมัดระวัง เขาเป็นคนที่มีปัญหามากที่สุดระหว่างปฏิบัติภารกิจ ถ้าเขาไม่ใช่ทหารผ่านศึก และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่จื่อหหยางและหัวหน้าหลายคน ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะถูกไล่ออกจากกองกำลังพิเศษนานแล้ว
ในความเป็นจริงเมื่อถอยกำลังกลับ ถังซุน คิดว่ากับดักได้จัดการเรียบร้อยแล้ว เขาจึงวิ่งไปหา เย่จื่อหยาง และพูดด้วยน้ำเสียงต่ำเบา เขาหลุดสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง โดยไม่สังเกตว่ามีกับดักอยู่ตรงหน้าเขา เย่จื่อหยางกลับมองเห็นทันที เขาก้าวไปหนึ่งก้าวเพื่อคว้าตัวถังซุนไว้ และเหยียบกับระเบิดเอง
เขายังได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วย ถังซุน เพื่อนร่วมทีมแสนโง่เง่าไว้ แต่ทุกคนกลับคิดว่ามันเป็นความประมาทของเขาในระดับขั้นต่ำสุด
ถังซุน จุดบุหรี่ยืนสูบบนระเบียง เขารู้ผิดกับเย่จื่อหยางจริง ๆ อีกทั้งเย่จื่อหยางยังเป็นหัวหน้าทีม และตอนนี้หัวหน้าทีมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการกระดูกหักที่เกิดจากเขา ในใจของเขาเกิดความรู้สึกผิดและกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายเขาถูกนางพยาบาลตำหนิที่มายืนสูบบุหรี่ตรงนี้
“คุณ คุณนั้นแหละคุณไม่ได้อ่านป้ายเหรอคะ ตรงนี้ไม่ให้สูบบุหรี่หรือว่าตาบอดคะ รีบดับเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“ตรงนี้คือระเบียงที่ระเบียงสูบบุหรี่ไม่ได้แล้ว”ถังซุนพูดสวนกลับ
“บอกว่าสูบไม่ได้ก็คือสูบไม่ได้ยังไงคะ ที่นี้คือตึกพักคนไข้ ถ้าจะสูบบุหรี่ ลงบันไดเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาเดินตรงไปจะมีสวนดอกไม้ตรงนั้นสูบบุหรี่ได้ค่ะ อย่าคิดว่าคุณใส่ชุดลายพรางเป็นทหารแล้วจะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แล้วจะสามารถไม่ปฏิบัติตามกฏได้รับ ดับมันเดี๋ยวนี้ค่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาที่ดับเพลิงฉีดดับควันบุหรี่แทนคุณ
“ถังดับเพลิงเล็กๆวางอยู่ข้างๆ”
“คุณพยาบาลอยากจะถูกโยนออกไปใช่ไหม” ถึงแม้ว่าจะพูดไม่ยอมรับผิด แต่มือก็ดึงบุหรี่ทิ้งลงพื้นและใช้เท้าขยี้ไฟให้ดับ
“ฉันไม่ใช่พยาบาลฉันเป็นหมอเห็นไหมคะ”
ซ่งเสี่ยวเชียนอธิบายไม่รู้กี่คนต่อกี่คนว่าเธอไม่ใช่พยาบาล ป้ายชื่อก็ติดอย่างชัดเจนว่าเป็นศัลยแพทย์ทุกคนไม่แหกตาดูหือยังไง
ถังซุนเดินเข้ามาดูใกล้ๆ
“โอ๊ะ นักศึกษาศัลยแพทย์ฝึกหัด น้องสาว ถ้าฝึกงานไม่ผ่านก็อาจจะลดขั้นมาเป็นพยาบาลเนอะแต่ว่าผมดูคุณชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ไม่สนใจหน้าที่ของตัวเอง ผมก็ขอให้คุณได้มาเป็นหัวหน้าพยาบาลไวๆล่ะกัน”พูดอย่างยั่วโมโห้
“ไปลงนรกซะ”
ซ่งเสี่ยวซุนยกเท้าขึ้น และใช้แรงทั้งหมดของเธอกระแทรกลงบนเท้าของถังซุน ทำให้ถังซุนกุ้มเท้าตัวเองด้วยความเจ็บปวด !!
“ซ่งเสี่ยวเชียน คุณทำอะไรอยู่ข้างนอก เรียกให้คุณมาดูคนไข้ทำไมคุณไม่ตั้งใจเลย” ศัลยแพทย์ผู้มากประสบการณ์กวักมือเรียกซ่งเสี่ยวเชียนให้ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว ซ่งเสี่ยวเชียนตอบกลับ“ค่ะ” เอามือปัดๆ เสื้อกาวน์ หลังจากนั้นเธอก็ถลึงตาใส่ถังซุน ก่อนจะหันศีรษะกลับไปอย่างเย็นชา และรีบตามอาจารย์แพทย์ที่พาเธอเข้าไปในวอร์ดข้างในมีผู้ป่วยสามถึงสี่คน บางคนมือหักบางคนขาหัก แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นแค่กระดูกหัก ไม่ใช่กระดูกหักทั้งหมด... อาจารย์แพทย์อธิบายให้ซ่งเสี่ยวเชียน ฟังมากมาย และ ซ่งเสี่ยวเชียนสับสนมึนงงไปหมด ดูเหมือนคนที่ไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรเลย จริงๆ แล้วช่วงนี้เธอเหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ช่วงสองสามวันนี้เธอคิดถึงแต่เย่จื่อหยาง ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็แต่งงานกันแล้ว แต่หลังจากวันนั้นโทรศัพท์สักสายก็ไม่ติดต่อมาหาเธอ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองโดนหลอก อาจารย์แพทย์ที่พาเธอเดินสำรวจคนไข้เห็นเธอใจเหม่อไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจึงตำหนิเธอให้ตั้งใจมากกว่านี้ หลังจากการอธิบายที่แสนยาวนาน ในที่สุดอาจารย์แพทย์ก็มีธุระต้องไปสะสางเรื่องอื่น ทำให้เธอถอดหายใจด้วยความโล่งอกบังเอิญผ่านห้อง
“เย่จื่อหยางทำความเคารพ "ผู้บัญชาการ!" หลู่เซียงหรงโบกมือห้าม "คุณได้รับบาดเจ็บ ทำไมคุณถึงทักทายด้วยล่ะ พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วฉันจะมาถามสถานการณ์และบันทึกมันตามปกติ"หลู่เซียงหรง และ เย่จื่อหยาง เป็นพี่น้องกันมานานกว่าสิบปี เขาอายุมากกว่าเย่จื่อหยางไม่กี่ปี เนื่องจากเขาเข้าร่วมกองทัพเร็วกว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก หลังจากที่รู้จักพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน พวกเขาเคยออกไปทำภารกิจด้วยและไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นอย่างมาก หลู่เซียงหรง จดบันทึกอย่างจริงจัง เย่จื่อหยางรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย และถามขึ้นทันทีว่า"นายแจ้งพ่อของฉันเกี่ยวกับขาที่หักของฉันหรือยัง?"หลู่เซียงหรงหยุดเขียน เงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "เขาไม่มาหานายเหรอ?" เมื่อมองอีกครั้งใบหน้าของ เย่จื่อหยางก็แสดงอารมณ์ผิดหวังเล็กน้อย และ หลู่เซียงหรง ก็เข้าใจทันที เขาตบไหล่เขาและปลอบโยน"พ่อนาย เป็นเจ้านายของบริษัทใหญ่ เขาคงจะยุ่งมาก น่าจะมาหานายทีหลัง ฉันแจ้งนายพลเย่ด้วย และเขาก็บอกทางโทรศัพท์ว่าเขาจะมา”นายพลเย่ที่หลู่เซียงหรงพูดถึงก็คือปู่ของ เย่จื่อหยางนั้นเอง เขาสวมชุดทหารมาครึ่งชีวิตและประสบความสำเร็จมานับไม่ถ้วน ปีนี้เ
“พ่อของแกยุ่ง แกก็รู้ เขาอาจจะไม่มีเวลามานะ ถ้าแกต้องการอะไรบอกฉันได้ ฉันให้คนจัดการให้” คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงทื่อๆและคุณย่าค่อยๆพับแขนเสื้อเขาขึ้น เย่จื่อหยางเหลือบมองพวกเขา "พวกคุณกลับไปเถอะ ผมอยู่เองได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ"คุณปู่อารมณ์เสียเมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงยกไม้ค้ำขึ้นตีที่ตัวและมือสองสามครั้ง อยากตีต่อแต่ถูกภรรยาห้ามไว้ “ตีอะไรของคุณ! มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากันไม่ได้เหรอ? จื่อหยาง ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้ คุณปู่พูดอะไรแค่เออออไปด้วยก็พอแล้ว ทำไมต้องทำตัวต่อต้านกับท่านขนาดนั้น ” “แล้วพวกคุณมาที่นี่ครั้งนี้เพื่อมาเยี่ยมผมจริงๆเหรอ? ตอนที่ฉันถูกจับเป็นตัวประกันโดยเจ้าพ่อค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำที่ยูนหนาน ถูกพวกเขาทรมานจนแทบจะหมดลมหายใจ พวกคุณมาเยี่ยมหรือเปล่า? “น้ำเสียงของ เย่จื่อหยาง เต็มไปด้วยความดูถูก“ไอ้เด็กเวรนี่! วันนี้ฉันจะตีแกให้ตาย!” คุณปู่ยกไม้เท้าขึ้นสูงเหนือศีรษะ คาดว่าถ้าฟาดลงครั้งนี้อาจเจ็บจนตีลงครั้งจะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว คุณย่ารีบคว้าไม้เท้าออกจากมือ“ฉันทุบหลานจนตาย!” มาดูกันว่าใครจะสืบทอดตระกูลเย่ของคุณ!"หลังจากตะโกนแบบนี้ คุณป
ในมือขวาของเขาพิงไม้ค้ำยัน เฝือกที่ขาขวาของเขายังไม่ได้ถูกถอดออก เย่จื่อหยางเดินไปตามทางเดินด้วยความยากลำบากและกำลังจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนที่เขาจะกลายเป็นหัวหน้ากองพลพิเศษ เขาฝึกหน่วยรบพิเศษให้ต่อสู้ ต้องเคลื่อนไหวว่องไว ไม่คิดว่าตอนนี้แค่เดินแต่ละก้าวยังยากลำบากเชื่องช้าเหมือนหอยทากแบบนี้ พยาบาลต้องการที่จะมาพยุงเขา แต่เขาผลักเธอออกไป ตอนนี้แค่เขาเดินยังต้องมีคนคอยพยุง ? เกียรติของลูกผู้ชายเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ห้องน้ำอยู่สุดทางเดิน ใกล้กับบันไดและทางเข้าลิฟต์ด้วย เมื่อเขาเดินไปที่ห้องน้ำประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที เย่จื่อหยาง เพียงเหลือบมองเพื่อดูว่าเป็นผู้ชายหรือผู้ชาย ผู้หญิง ใครจะรู้ว่าคน ๆ นั้นบังเอิญเป็นซ่งเสี่ยวเชียน !ซ่งเสี่ยวเชียนกำลังทำธุระให้กับแพทย์ที่เป็นผู้นำการฝึกงานของเธอในวันนี้ เธอไปที่ชั้น 4 ของอาคารฟื้นฟูสมรรถภาพทหารเพื่อขอข้อมูลจากคุณหมอหลิว แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเย่จื่อหยางเมื่อประตูลิฟต์เปิด!ซ่งเสี่ยวเชียนเบิกตากว้าง ปากของเธอเปิดและปิดราวกับว่าเธอมีอะไรจะพูดมากมาย แต่เธอก็ไม่ส่งเสียง เย่จื่อหยางกลับสงบขึ้นมองเธอหัวจรอดปลายท้ายหนึ่งรอบ เธอ
"หัวเราะบ้าอะไรของคุณ! ใครเป็นภรรยาของคุณ? ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ! ฉันต้องการหย่ากับคุณ!" ความแรงที่เธอหยิกลงไปบนหน้าของเย่จื่อหยางแรงจนทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอจึงไปหยิกที่คอของเขาแทน ความล้มเหลวในการต่อต้านของ เย่จื่อหยาง ไม่ได้เกิดจากการที่เขาไม่มีกำลังที่จะป้องกันตัว แต่เป็นเพราะ ซ่งเสี่ยวเชียนมาถึงก็ทับขาที่บาดเจ็บของเขาไว้ ตีตรงเฝือกน่าจะดีกว่า"ขา! มันเจ็บ! เจ็บเจ็บคุณฆ่าสามีของคุณเหรอไง!" ซ่งเสี่ยวเชียนรีบลุกขึ้น ทั้งงุดหงิดทั้งอารมณ์เสีย แต่ถ้ามันทำให้อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลง เธอเองก็คงจะรู้สึกผิดเล็กเช่นกัน"คุณก็เก็บขาคุณให้ดีๆซิ ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย!"เย่จื่อหยางกอดขาของเขาและจ้องมองเธอ ในที่สุดใบหน้าที่เย็นชาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบในที่สุด"น่ารำคาญ ฉันจะพักผ่อน! รีบทำตามที่ฉันบอกเร็ว ๆ และอย่าลืมปิดประตูเมื่อคุณออกไปด้วย!""ฉันไม่ยอมย้ายมาอยู่กับคุณแน่! ฝันไปเถอะ!" ซ่งเสี่ยวเชียนหันหลังเดินออกไปและกระแทกประตูเสียงดังหลังจากนั้นเธอก็ลืมไปเลยว่าจะไปหาหมอหลิวเพื่อเอาเอกสารและเมื่อเธอกลับไปทำห้องศัลกรรมแพทย์เธอก็ถูกอาจารย์หมอตำหนิเธออีกครั้ง ซ่งเสี่
“พี่สะใภ้ ใจเย็นๆ หัวหน้ากลัวว่าคุณจะหาทางไม่เจอจึงบอกให้เราพาคุณกลับบ้าน คุณแค่ให้ความร่วมมือก็พอแล้ว” ทหารที่อยู่ตรงกลางแสดงรอยยิ้มอ่อนโยนให้ซ่งเสี่ยวเชียน ซ่งเสี่ยวเชียนขยี้ตาเธอเพื่อที่เธอจะไม่โดนพวกมันหลอก! “ออกไป! ฉันจะไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้าทั้งนั้น! คิดว่าฉันโง่หรือไง!”“พี่สะใภ้งั้นพวกเราก็ไม่เกรงใจแล้วนะครับ หวังว่าหลังจากนี้อย่าโกรธแค้นพวกเราเลยนะครับ พวกเราก็รับฟังคำสั่งของหัวหน้ามาด้วยเหมือนกัน” โบกมือ ทั้งสองคนด้านหลังประกบซ่งเสี่ยวเชียนทันที ก่อนที่ซ่งเสี่ยวเชียนจะมีเวลาต่อต้าน พวกเขาก็จับเธอได้ นำตัวออกจากห้อง และพร้อมที่จะลงไปชั้นล่าง"เฮ้! พวกคุณกำลังลักพาตัวฉัน ฉันอยากจะฟ้องพวกคุณ! ฟ้องคุณในศาลทหาร! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้อะไร! ปล่อยฉันไป!" ซ่งเสี่ยวเชียนเตะเท้าของเธอขึ้นไปในอากาศ แต่ คนสองคนจับเธอไว้ มีพลังมหาศาล ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหนพวกเขาก็จับเธอไว้แน่นโดยไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยเลยทหารที่เหลืออยู่ในห้องกล่าวขอโทษพ่อแม่ของซ่งเสี่ยวเชียนว่า "ขอโทษทั้งสองท่าน ในอนาคตหัวหน้าของเราจะมาอธิบายให้ทั้งสองท่านฟังด้วยตัวเอง ผมขอตัวก่อนครับ!" พ่อแม่ของซ่งเสี่ยวเชียนมองหน้าก
หลังจากอิ่มท้องแล้ว ซ่งเสี่ยวเชียนก็มองไปรอบ ๆ และจินตนาการว่าตัวเองเป็น เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เพื่อดูว่าเธอจะหาลู่ทางที่จะหนีจากที่นี่ได้หรือไม่มีเสื้อเชิ้ตผู้ชายธรรมดาๆ เนคไท กางเกงยีนส์ สองสามตัว และชุดนอนสีเข้มสองสามตัวแขวนอยู่บนตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ไม่มีอะไรพิเศษ เมื่อเดินไปดูห้องหนังสือ ตู้หนังสือก็ล็อคทั้งหมด เปิดไม่ออก บนโต๊ะหนังสือมีคอมพิวเตอร์วางเอาไว้ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดมัน แต่ไม่มีอะไรในคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดดิสก์ก็ว่างเปล่าราวกับว่ามันถูกลบโดยใครบางคนมันดูผิดปกติเกินไป แม้ว่าจะไม่ได้ใช้มันเพื่อเก็บข้อมูลอะไร แต่ก็มักจะมีหน้าต่อไปบ้าง ประวัติดูหนังงี้ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย ซ่งเสี่ยวเชียนสรุปว่า คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ต้องถูกดัดแปลงและไม่สามารถเชื่อมต่ออะไรได้เลยเดินไปห้องน้ำดูอีกครั้ง มีแต่ของใช้สำหรับผู้ชายเหมือนเดิม หลังจากนั้น ไม่มีแล้ว ไปดูที่ห้องรับแขกก็ไม่มีอะไรเลย บ้านว่างทั้งหลังมีแต่ของจิปาถะกองพะเนินเท่านั้น หลังจากดูทั้งห้องแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกซะจากเจ้าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ หลังจากยุ่งเรื่องต่างๆเสร็จ ซ่งเสี่ยวเชียนรู้สึกเจ็บหลังเล็กน้อยและจำได้ว่า
หมุนที่จับประตูเบา ๆ และเสียงปัง ประตูก็เปิดออก หัวใจของซ่งเสี่ยวเชียนแทบจะกระออกมา ไม่คาดคิด ประตูถูกเธอเปิดออกอย่างง่ายดาย... เมื่อเปิดประตู เธอยื่นศีรษะออกไปเพื่อดูว่ามีใครคอยเฝ้าอยู่รอบๆ หรือไม่ ไม่มีแม้แต่เงา อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ป้าคนหนึ่งถือถุงขยะลงมาจากชั้นบนและมองไปที่ซ่งเสี่ยวเชียนที่กำลังแอบย่องไปรอบประตูอย่างน่าสงสัย อาคารนี้ไม่สูงมากมีเพียงชั้น 6ชั้น แม้ว่าจะมีลิฟต์ แต่ทุกคนเลือกที่จะเดินลงบันไดและทุกคนที่ขึ้นลงก็คุ้นเคยกับมันมาก ความลับๆล่อๆของ ซ่งเสี่ยวเชียนดึงดูดความสนใจของป้าได้อย่างสมบูรณ์ซ่งเสี่ยวเชียนปิดประตู เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของเธอเองอย่างรวดเร็ว สะพายกระเป๋า แล้ววิ่งหนีไปในสามวินาที เธอวิ่งตรงไปที่ถนนใหญ่ พบเจอกับค่ำคืนแห่ง "การลักพาตัวเฉียดตาย” เสี่ยวเชียนรู้สึกว่าความกล้าหาญของเธอได้เพิ่มขั้นอีกขั้นก่อนอื่นเธอต้องไปที่สถานีตำรวจ แล้วบอกว่ามีคนลักพาตัวเธอ! สารภาพความขมขื่น คนที่ลักพาตัวเธอยังเป็นทหารใส่ชุดลายพราง บ้านเราขาดระบบกฎหมายขนาดนี้เลยเหรอ! ? อย่าคิดว่าถ้าเธอไม่ได้กลับประเทศเป็นเวลาสิบปีแล้ว เธอจะถูกหลอกให้ไม่รู้กฎหมายของประเทศได้! เรื่องนี้ต