เธอแค่อยากลองใจโดยการให้ของขวัญสุดพิเศษกับคนรัก แต่...เขาดันไม่ดีใจ แล้วมาบอกให้เราอยู่ห่างกันสักพัก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอท้องลูกของเขา ผัวเฮงซวยเอ๊ย!!! อยากไปก็ไป ฉันจะหาพ่อใหม่ให้ลูก ไปแล้วอย่ามาหอนทีหลังนะ ชิ! ***************************** คำโปรย "นี่พี่จะโทษว่ามี่ตั้งใจปล่อยท้องงั้นเหรอ" "เปล่า พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่า...พี่ยังไม่พร้อมจะแต่งงานหรือมีลูกตอนนี้ มี่เข้าใจพี่หน่อยได้ไหม" มิรันดาสะอึกเมื่อได้ฟังเหตุผลห่วยแตกของเขา คำว่าไม่พร้อมนั่นคืออะไร "พี่ไม่พร้อมแต่งงาน ไม่พร้อมมีลูก แต่พร้อมจะไปจากมี่ นี่หรือเปล่าที่พี่อยากให้มี่เข้าใจ" หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตาที่ไหลรินกลบภาพคนรักตรงหน้าจนมองไม่เห็นความรักในดวงตาคู่นั้นอีกแล้ว คนหนึ่งหมดรัก หมดใจ แต่อีกคนกลับยังรักหมดใจ ใครควรเจ็บกว่าถ้าไม่ใช่เธอ "พูดกันให้รู้เรื่องตอนนี้เลยดีกว่า ในเมื่อพี่รู้ว่ามี่กำลังจะมีลูก พี่ก็ยังอยากไปอยู่ใช่ไหม"
ดูเพิ่มเติมน่าเอ็นดูจังแฮะ มือหนายื่นไปลูบที่เส้นผมสวยเบาๆ“ทำอะไรของพี่เนี่ย ผมแคทยุ่งหมดแล้ว” หญิงสาวแหวใส่ พลางขยับหนีมือเขา ด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก“ผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพี่ตั้งนานแล้ว และไม่มีค่าพอให้เราต้องเข้าใจผิดกันหรอก”“แล้วมาบอกแคททำไม ใครอยากรู้มิทราบ”“พี่อยากบอก เพราะยังไม่อยากถูกเธอเตะก้านคอสลบคาที่โทษฐานนอกใจ”“ทำไมแคทต้องทำแบบนั้นด้วย ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย...”“เป็นสิ ก็เป็นแม่ของลูกไง”“ฮึ” แคทรียาสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างหงุดหงิด“เอาเถอะ เลิกสนใจคนอื่นแล้วมาพูดเรื่องของเราดีกว่า เรื่องลูก...”“ทำไมคะ อย่าบอกนะว่าพี่จะให้แคทเอาลูกออก เพราะพี่ไม่ต้องการให้พี่มี่กับคนอื่นๆ รู้ว่ามีลูกกับแคท”“จะบ้าเหรอ ใครจะทำแบบนั้น” ดิฐกรเคาะหน้าผากมนเบาๆ เรียกสติ“ก็พี่ไง พี่ดิวบอกเองว่าเห็นแคทเป็นแค่น้องสาวไม่ใช่หรือไง”“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เธอกำลังท้องลูกของพี่”“แล้วถ้าแคทไม่ท้องล่ะ พี่ก็จะเห็นแคทเป็นแค่น้องสาวอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม”“...”“งั้นพี่ก็อย่าเสียเวลาเลย บอกแล้วว่าลูกคนเดียวแคทเลี้ยงได้”“แต่ว่าพี่ก็เป็นพ่อ...”“แต่แคทไม่ได้อยากได้แค่พ่อของลูก” หญิงสาวโ
“นี่เธอหมายความว่ายังไง!” “แคท...ที่นี่โรงพยาบาลนะ อย่ามีเรื่อง” ดิฐกรรีบดึงมือแม่สาวขาลุยไว้ พลางกระซิบเตือนสติเกรงว่าจะเกิดเรื่อง ตอนนี้แคทรียาไม่ได้ตัวคนเดียว แต่ยังมีเจ้าตัวเล็กในท้องอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องคอยระวัง“พี่ดิวคะ ผู้หญิงคนนี้ใครเหรอคะ”“พี่ดิวขา...รีบตอบเขาไปสิคะว่าแคทเป็นใคร และเราเป็นอะไรกัน” ดิฐกรหันไปมองดวงหน้าหวานที่ส่งยิ้มร้ายๆ มาให้เหมือนจะบอกว่าหากเขาตอบไม่ดี อาจจะโดนดีได้“นี่แคทรียา...แม่ของลูกผมเอง!”คำนั้นทำให้เจนิสาถึงกับสะอึก อึ้งกิมกี่“แม่ของลูกเหรอคะ...”ดวงตาเขียวปัดหันไปมองชายหนุ่ม แม้คำตอบของเขาจะไม่หักหน้ากัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอพอใจเสียทีเดียวสำหรับดิฐกร...เธอก็เป็นได้แค่แม่ของลูกเท่านั้นสินะแม่ของลูกที่ไม่ใช่เมีย!หญิงสาวหันไปทางดิฐกรด้วยสีหน้าตึง“ส่งยากับใบเสร็จของแคทมา เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้ทีหลัง แล้วถ้าอยากจะรำลึกความหลังต่อกับกิ๊กเก่าก็เชิญตามสบาย”แคทรียาว่าพลางคว้าถุงยาจากมือเขามาถือไว้แล้วรีบปิดจมูก เพราะกลิ่นน้ำหอมฉุนแรงจากกายของเจนิสากำลังทำให้ร่างกายเธอปั่นป่วนจนอยากอาเจียนขึ้นมาอีกครั้ง“อุ๊บ!”“แคทเป็นอะไรไป” ดิฐกรรีบถามอย่างห่วงใย แ
ปลายสายมีเสียงขลุกขลักก่อนจะเปลี่ยนจากเสียงของมิรันดามาเป็นเสียงทุ้มของคีรินแทน“ผมขอคุยกับน้องแคทหน่อยได้ไหมครับ”“ไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาหลับอยู่”“พี่คิ...อุ๊บ!” มือหนาตะปบปิดปากที่เตรียมจะฟ้องพี่ชายให้เงียบลง และปรามด้วยสายตาดุ“งั้นแค่นี้ก่อนนะ”ดิฐกรกดวางสายหน้าตาเฉย ก่อนจะปล่อยมือจากปากหญิงสาว“พี่ดิวทำอะไร ทำไมไม่ให้แคทพูดกับพี่คิม”“ชู่ว์...พูดเบาๆ หน่อยได้ไหม เดี๋ยวลูกในท้องก็ตกใจหมดหรอก”แคทรียาฟังแล้วคันไม้คันมืออยากทุบคนตรงหน้าขึ้นมาตงิดๆ ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอย่างที่คิด ก็มีเสียงประกาศเรียกชื่อให้ไปรับยาและชำระเงินที่เคาน์เตอร์เสียก่อน ทำให้ทั้งสองต้องสงบศึกชั่วคราว“นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ อย่าหนีไปไหน เดี๋ยวพี่มา”ชายหนุ่มกำชับสาวจอมดื้อก่อนจะเดินไปจัดการชำระเงินและรับยาให้จนเสร็จเรียบร้อย แต่ตอนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวที่นั่งรออยู่ ไม่ทันเห็นใครบางคนที่เดินจ้ำมาจากอีกด้านจึงชนกันอย่างจัง“ว้าย! เดินภาษาอะไรเนี่ย ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลย”“ขอโทษครับ” ดิฐกรรีบขอโทษ พลางก้มเก็บถุงยาขึ้นมาจากพื้น แต่ทว่าพอเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าคู่กรณีชัดๆ เท่านั้นชายหนุ่มก็ถึงกับเบิกตาค้าง อุทาน
คนกำลังซาบซึ้งช็อตฟีลเสียดื้อๆ และถอนสายตาจากภาพหน้าจอก้มมองคนพูดตาเขียวปัด แต่หญิงสาวแกล้งทำเมินใส่ ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วหันไปถามคุณหมอสาวที่ทำการอัลตราซาวน์ให้“คุณหมอคะ ฉันจะรู้เพศของลูกได้เมื่อไหร่หรือคะ”คำถามนั้นพลอยทำให้ดิฐกรหูผึ่งไปด้วย“ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติเราสามารถอัลตราซาวน์เพื่อทราบเพศได้เมื่ออายุครรภ์ประมาณสิบสองถึงสิบหกสัปดาห์ ค่ะ แต่หมอจะนัดคุณแม่มาตรวจครรภ์ทุกเดือนเพื่อดูพัฒนาการของเด็กในครรภ์อีกทีนะคะ ระหว่างนี้หากคุณพ่อคุณแม่พบว่ามีอาการผิดปกติก็ให้รีบมาตรวจที่โรงพยาบาลก่อนวันนัดได้”“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ” ดิฐกรโพล่งถามขึ้นอย่างกระตือรือร้นโดยไม่สนใจสีหน้าตึงด้วยความหมั่นไส้ของว่าที่แม่ของลูก“ระหว่างที่ตั้งครรภ์คุณพ่อมีหน้าที่ต้องคอยดูแลสุขภาพคุณแม่ให้ดีค่ะ ในคู่มือที่หมอให้ไปจะมีวิธีดูแลตัวเองของคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ รวมถึงข้อควรระวังสำหรับการตั้งครรภ์ อาหารต่างๆ และเรื่องอารมณ์ของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ก็สำคัญนะคะ พยายามอย่าให้เธอต้องเครียดหรือมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจก็จะดีต่อเด็กในครรภ์ที่สุดค่ะ”สองหนุ่มสาวหันมาสบตากัน ก่อนที่แคทรียาจะเบือนหลบสายตาไปมองทางหน้าจออัลตร
ดิฐกรถึงกับนิ่งอึ้ง งุนงง เมื่อเห็นอากัปกิริยาของคนตรงหน้า และด้วยสีหน้าท่าทางของเขาทำให้หญิงสาวตีความเอาเองในวินาทีนั้นว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการมีลูกกับเธอ หรือไม่เขาก็คงกลัวว่าเธอจะเอาลูกมามัดมือชกบังคับให้เขาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบเหมือนที่เคยโดนมิรันดาทำน่ะสิไร้สาระ!“พี่ดิวไม่ดีใจเหรอคะที่แคทจะมีลูก...” หญิงสาวแกล้งถามหยั่งเชิงเขา“...”การนิ่งของเขาถือเป็นคำตอบที่ตอกย้ำให้เธอยิ่งแน่ใจในความคิดของตัวเองมากขึ้น ผู้ชายตรงหน้าเหมาะเป็นกิ๊กเท่านั้น แต่ไม่เหมาะจะเป็นสามีหรือพ่อของลูกเธอหรอก“โอเคค่ะ แคทเข้าใจแล้ว”“เธอเข้าใจอะไร”“ก็เข้าใจว่าพี่ดิวไม่อยากมีลูกกับแคท ไม่พร้อมแต่งงาน ไม่อยากโดนผูกมัด เพราะพี่ยังรักและลืมพี่มี่ไม่ได้ใช่ไหม”คำพูดนั้นแทงใจดำของเขาอย่างจัง จนพูดไม่ออก“งั้นพี่ก็อย่าห่วงเลย เพราะแคทจะเป็นซิงเกิลมัม!”“หะ...หา!”“ระหว่างเราจะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น พี่กับแคทไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วเด็กคนนี้ก็ไม่ใช่ลูกพี่ เขาเป็นลูกของแคทคนเดียว พี่ไม่เกี่ยว สบายใจหายห่วงได้เลย จบนะคะ”ดิฐกรได้ฟังแล้วก็ถึงกับสะอึกอึ้งไป“ว่าไงนะ!”“ดีเหมือนกัน ถ้าลูกอยากมีพ่อ แคทก็จะหาพ่อหล่อๆ โปรไฟ
แคทรียาอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง โดยมีชายหนุ่มที่อุ้มเธอเข้ามาโดยไม่แคร์สายตาผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำแห่งนั้น เขาคอยช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้ จนอาการค่อยทุเลาลง ทว่ายังวิงเวียนไม่หายดิฐกรมองใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของเธออย่างเป็นห่วงระคนสงสัยอะไรบางอย่าง“เธอไม่ได้ท้องใช่ไหม”คำถามนั้นทำเอาแคทรียาสะดุ้งในใจ“ไปให้หมอตรวจหน่อยดีกว่า เดี๋ยวพี่พาไปเอง”“ไม่ต้องค่ะ แคทไปเองได้”“อย่าดื้อกับพี่” ชายหนุ่มกำราบด้วยเสียงดุเข้มหากเป็นในยามปกติ เธอคงไม่ยอมง่ายๆ แต่ในยามนี้เธอทั้งเวียนหัวคลื่นไส้ ร่างกายปั่นป่วนและอ่อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ไม่อาจต่อกรกับผู้ชายตรงหน้าได้“เดี๋ยวค่ะ แคทต้องไปบอกคุณชลก่อน”ดิฐกรฉุนกึก ตวัดสายตามองคนป่วยแทบคลาน แต่ยังไม่วายห่วงคู่ดูตัวหนุ่มหล่อนั่น“ทำไมล่ะ กลัวไม่ได้สามีหรือไง เอาตัวเองให้รอดก่อนไหม ส่องกระจกดูหน้าเธอตอนนี้สิ ซีดอย่างกับผีตายซาก ขืนออกไปสภาพนี้มีหวัง เจ้าหมอนั่นคงเผ่นหนีกระเจิงมากกว่าจะมาขอแต่งงาน เฮอะ”โอ้โห! นั่นปากหรือตำแยเนี่ยแคทรียาค้อนตาคว่ำ ได้แต่สูดหายใจเข้าออกแรงๆ เพื่อระงับความคุกรุ่นในอกไว้ไม่ให้เผลอโบกคนพูดให้หน้าแหกคามือ โทษฐ
“พี่ดิว...”“เพื่อนคุณแคทเหรอครับ” ชลธัชหันไปถามหญิงสาวอย่างแปลกใจ“เพื่อนงั้นหรือ ผมเป็นมากกว่าเพื่อนเสียอีก มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไง...”“ไม่ใช่นะคะ เขาเป็นแค่พี่ชายที่เคยรู้จักกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนักหรอกค่ะ”คำตอบนั้นทำให้ดิฐกรบดสันกรามแน่น เขารู้ดีว่าเธอกำลังประชด หรือไม่ก็อาจกลัวคู่ดูตัวคนล่าสุดเข้าใจผิดล่ะสิ“ว้า...พี่เป็นได้แค่พี่ชายเองเหรอ นึกว่าเราเป็นกิ๊กกันอยู่เสียอีก แล้วคุณคือ...”“สวัสดีครับ ผมชื่อชลธัช เป็น...”“คู่ดูตัวรายล่าสุดของน้องแคท ผมเข้าใจถูกไหมครับ”แคทรียาขึงตาใส่แขกไม่ได้รับเชิญที่จงใจถือวิสาสะนั่งลงเบียดข้างๆ กายเธอบนโซฟาตัวเดียวกัน แถมยังยื่นแขนมาพาดพนักพิงของเธอราวกับโอบไหล่กรายๆ เสียด้วย“ผมชื่อดิฐกร หรือดิวครับ เป็นกิ๊กคนล่าสุดของน้องแคท และขอแก้ข่าวหน่อยว่าจริงๆ แล้ว เรายังไม่ได้เลิกกิ๊กกันอย่างที่เธอบอกคุณเมื่อครู่”“พี่ดิว! คิดจะทำอะไรเนี่ย” แคทรียาหันไปกระซิบถามลอดไรฟัน ชักสีหน้าใส่คนตัวร้ายที่คิดจะมาทำลายนัดดูตัวของเธออย่างไม่เกรงใจ“ก็กำลังช่วยเธอไง”“ช่วยเนี่ยนะ” แคทรียางุนงง ก็เห็นๆ อยู่ว่ามาป่วน นี่เขาช่วยเธอตรงไหนมิทราบ“ใช่สิ ช
สถานที่นัดหมายดูตัวคราวนี้เป็นร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุง แคทรียาเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ชั่วครู่ก็ได้พบคู่นัดที่นั่งรออยู่ เธอจึงดูรูปถ่ายและลองกดโทรตามเบอร์ที่พ่อให้มาเพื่อยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายจนมั่นใจว่าใช่แล้วจริงจึงเดินตรงเข้าไปหา“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแคทรียา”เธอแนะนำตัว พร้อมกับแอบสำรวจคู่ดูตัวคนล่าสุด ชายหนุ่มหน้าตาคมคาย ท่าทางสะอาดสะอ้าน แต่งกายภูมิฐานมีมาดเหมือนคุณชายผู้ดี แต่...ไม่ใช่สเปก!“สวัสดีครับ ผมชลธัช ยินดีที่ได้รู้จัก เชิญนั่งก่อนสิครับคุณแคทรียา”คนพูดลุกขึ้นยืนต้อนรับตามแบบสุภาพบุรุษ พร้อมกับส่งยิ้มผูกมิตรมาให้“เรียกแคทก็ได้ค่ะ”“ครับคุณแคท ตัวจริงคุณดูสวยกว่าในรูปภาพเสียอีกนะครับ” ชายหนุ่มชมจากใจ ทำให้คนถูกชมอดยิ้มไม่ได้“งั้นเหรอคะ”“อยากดื่มอะไรดีครับ น้ำส้มดีไหม”“แคทไม่ใช่นางเอกสักหน่อย ขอเป็นน้ำมะนาวเปรี้ยวๆ ดีกว่าค่ะ” ชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกรให้ “สั่งอาหารเลยไหมครับ ผมไม่ทราบว่าคุณชอบรับประทานอะไร เลยรอคุณมาก่อนค่อยสั่ง นี่ครับเมนู”“แคทกินอะไรก็ได้ค่ะ คุณสั่งมาเถอะ”“งั้นก็ได้ครับ” ชายหนุ่มตอบรับพร้อมกับจัดการสั่งอาหารให้ บุคลิกท่าทางไ
อีกด้าน...แคทรียาจ้องมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง พอเสียงโทรศัพท์เงียบลง ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาแทน จะใครถ้าไม่ใช่คนที่กำลังก่อกวนหัวใจกันคนเดิม ซึ่งเธอก็ทำใจแข็งไม่เปิดอ่านอีก แม้ในใจจะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายส่งข้อความอะไรมาก็เถอะแต่จะส่งอะไรมาแล้วอย่างไรล่ะ ในเมื่อระหว่างเรามันไม่ควรมีอะไรให้สานต่อได้อีก เขาก็บอกเองว่าสถานะเธอก็เป็นได้แค่น้องสาว แถมเธอยังพูดแรงไปขนาดนั้นก็ไม่ได้คิดหวังว่าเขาจะมารักใคร่ไยดีอะไรหรอก แต่มันก็อดจี๊ดในใจไม่ได้ น่าแปลก...ตอนโดนวรพลนอกใจ เธอยังไม่รู้สึกเคืองมากเท่ากับคำพูดจากปากของดิฐกรไม่กี่คำนั่นเลยคิดกับเธอแบบน้องสาวเนี่ยนะเหอะ…พี่น้องท้องชนกันน่ะสิ ตาบ้าเอ๊ย!ช่างเถอะ จะไปสนใจทำไม ในเมื่อชีวิตมันต้องมูฟออนไปข้างหน้า แถมวันนี้เธอยังมีนัดต้องไปดูตัวกับคนที่พ่อเฟ้นหามาให้อีกราย หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วงกับหินที่ตัวเองยกมาใส่เท้าตัวเอง ในเมื่อรับปากกับพ่อไปแล้ว จะบิดพลิ้วอีกหนก็คงโดนตัดหางปล่อยวัดหรือไม่ก็ถูกจับขังลืม จริงๆ ก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นหรอก แต่เธอแค่ไม่อยากทำให้พวกท่านผิดหวังต่างหากเป็นแบบนี้ก็คงดีแล้วตกลงปลงใจกับผู้ชายดีๆ สักคนที่พ่อหาให้ แล้วแต่งงานกันไปเส
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู...” เสียงเพลงวันเกิดดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง พร้อมกับร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินถือเค้กน่ารักออกมาทำให้เจ้าของวันเกิดสาวถึงกับยกมือปิดปากน้ำตารื้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนจัดเซอร์ไพร์สวันเกิดให้เธอ และที่สำคัญที่สุดเขาคนนั้นคือชายผู้เป็นรักแรกและคนแรกของเธอ “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู...ยู” พอเพลงจบชายหนุ่มก็ยื่นเค้กวันเกิดมาตรงหน้าของเจ้าของวันเกิด “อธิษฐานก่อนเป่าสิมี่” มี่ หรือ มิรันดา ยิ้มรับก่อนหลับตาลงเพื่ออธิษฐานขอพรวันเกิดในใจ...‘ขอให้พี่ดิวรักมี่คนเดียว และเราสองคนได้อยู่ร่วมฉลองวันเกิดแบบนี้ในทุกๆ ปีตลอดไป’เมื่ออธิษฐานเสร็จหญิงสาวก็รีบลืมตาขึ้น และเป่าเทียนวันเกิดจนดับทั้งหมด“สุขสันต์วันเกิดนะมี่ พี่มีของขวัญพิเศษให้ด้วยนะ หลับตาก่อนสิ” หญิงสาวมองหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างสงสัย แต่ก็ยอมหลับตาลงรอคอยหากแล้วอะไรบางอย่างก็ทาบลงที่ต้นคอของเธอเบาๆ ทำให้ลมหายใจสะดุด หัวใจเต้นรัวแรง เมื่อหูได้ยินเสียงอ่อนโยนกระซิบที่ข้างหูเบาๆ“เป็นแฟนกันนะมี่...”มิรันดาหัวใจกระตุกวาบรีบลืมตาขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างดีใจจนพูดไม่ออก ม...
ความคิดเห็น