“หมอภีร์” ตลอดชีวิตของเขาโหยหา “ความรัก” และ “ความอบอุ่น” มาตลอด และมีเพียง “อ้อมดาว” คนเดียวเท่านั้นที่เติมเต็มให้เขาได้ แม้จะได้รับความรักความอบอุ่นจาก “เมียเด็ก” มามากเท่าไหร่แต่ในใจก็ยังหนาวเหน็บ.....แล้วใครเล่าเติมเต็มให้หมอหนุ่มได้? ++++++ “ดาวดีขึ้นรึยังฮึ ถ้าไม่ดีฉีดยาให้นะ” เขาลุกจากเตียงเดินเข้ามาถามคนตัวเล็กที่นั่งส่องกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง “หมอภีร์ฉีดยาให้คงจะป่วยหนักกว่าเดิม เพราะหมอภีร์ฉีดยาให้เนี่ยแหละ ดาวถึงปวดหัวแบบนี้ หมอหื่น!”
ดูเพิ่มเติมอุ๊ย! เด็กน้อยในชุดนักเรียนคอซอง ผมสั้นเห็นติ่งหูล้มลงกับพื้นหญ้าเมื่อชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ตรงหน้า ด้วยความไม่ทันระวัง นายแพทย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับเด็กนักเรียนที่วิ่งมาทางตนพอดี “เป็นอะไรรึเปล่าหนู” ภีร์ถามพร้อมย่อตัวคุกเข่ากับพื้นหญ้าหนึ่งข้างแล้วส่งยื่นมือไปให้เด็กนักเรียนจับลุกขึ้น “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณหมอ” เด็กหญิงอ้อมดาวยื่นมือไปจับมือใหญ่นุ่มของคุณหมอแล้วคุณหมอก็จับดึงพาลุกขึ้น “แล้วจะรีบไปไหนเด็กหญิงอ้อมดาว” เมื่อช่วยดึงเด็กนักเรียนลุกขึ้นก็เอ่ยถามเมื่อได้อ่านชื่อของอ้อมดาวที่อกเสื้อ “หนูรีบกลับบ้านไปหาข้าวให้ยายทานค่ะ พอดีวันนี้ยายหนูไม่สบายค่ะคุณหมอ”&
ณ จังหวัดกำแพงเพชร บ้านเกิดของอ้อมดาว ตอนนี้อ้อมดาวในวัยยี่สิบสามปี เธอเรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีสามีและลูกแล้ว แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เธอโชคดีที่ได้เจอกับหมอภีร์และครอบครัวของหมอภีร์ ที่รักและเอ็นดูตนเอง “ขอบคุณนะคะที่พาดาวกลับมาไหว้ยาย ตา และพ่อกับแม่” เธอหันมาขอบคุณสามีหลังจากไหว้อัฐิของทั้งสามคนที่จากตนไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่ง “ฉันจะพาดาวและลูกมาไหว้พวกท่านทุกปี อาทิตย์มาไหว้คุณยายทวด คุณตาทวด และคุณตา คุณยายเร็วลูก” ภีร์เรียกลูกชายวัยสี่ขวบให้มากราบไหว้ท่านทั้งสี่พร้อมตนและภรรยา “ก๊าบ!” หนุ่มน้อยอาทิตย์ ผู้ถอดแบบพ่อมาทุกตารางนิ้วและมีสิ่งเดียวที่เหมือนแม่คือลักยิ้ม และนั่นทำให้พ่อหลงลูกชายมาก จิ้มหยิกแก้มหอมแก้มลูกได้ทั้งวันไม่เบื่อ “ระวังล้มนะลูก” อ้อมดาวบอกลูกชายพร้อมยื่นมือไปให้ลูกน้อยจับ&n
ภีร์ไม่รู้จะขอบคุณอ้อมดาวยังไงดี เพราะมีสาวน้อยเข้ามาในชีวิต โลกของเขาก็เริ่มสว่างสดใสขึ้น เงาดำมืดที่เกาะกินจิตใจก็ถูกดวงดาวดวงนี้ทอแสงกลบจนไม่เหลือเงาดำแฝงเร้นในจิตใจ เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นเหตุผลของผู้ใหญ่ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องแยกทางและทิ้งตนและน้องชาย พอมาวันนี้ตนเองได้มีครอบครัว เป็นหัวหน้าครอบครัวและกำลังจะเป็นพ่อคนก็ได้รู้และเข้าใจท่านทั้งสอง หากวันนั้นท่านทั้งสองไม่ตัดสินใจแยกทางกันแบบนั้นก็คงจะมีข่าวหน้าหนึ่งสามีภรรยาทะเลาะกันจนพลั้งมือทำร้ายกันถึงชีวิตเป็นได้ “ขอบคุณนะดาว ขอบคุณที่อยู่กับฉันและทำให้ฉันกับพ่อและแม่เข้าใจกัน เพราะมีเธอ ฉันถึงไม่ติดใจเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ขอบคุณที่ฉุดดึงฉันออกมาจากความมืดนั้น” ภีร์บอกภรรยาที่นอนซบอกตนเองพร้อมกับจับกุมมือน้อยทาบทับอกขึ้นมาจูบ “ดาวดีใจนะคะที่หมอภีร์กับคุณพ่อคุณแม่เข้าใจกันได้ จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับดาวเลยสักนิด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เพราะหมอภีร์ ดาวรู้นะคะ แม้ว่าหมอภีร์จะพูดถึงท่านทั้งส
“หมอภีร์คุยกับท่านทั้งสองนะคะ ดาวจะไปช่วยที่ห้องครัวเผื่อมีอะไรให้ช่วยค่ะ”เมื่อเห็นว่าตัวเองควรปล่อยให้พ่อแม่ลูกอยู่คุยกันตามลำพัง แม้ก่อนหน้าบอกสามีแพทย์ว่าตนจะอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เขาควรอยู่กับพ่อกับแม่เขาตามลำพังมากกว่า “ไหนบอกจะอยู่กับฉัน” “ดาวไม่ได้ไปไหนค่ะ ดาวก็อยู่ตรงนี้ของหมอภีร์แล้วไงคะ ดาวอยู่ตรงนี้ตลอดค่ะจะไม่ไปไหนจนกว่าหมอภีร์ไม่ต้องการดาวแล้ว” มือเล็กยกจิ้มอกซ้ายของสามีบอกเขาว่าตนอยู่ตรงนี้ของเขาตลอด “ขอบใจนะดาว ขอบใจที่เข้าใจฉัน ระวังด้วยนะเข้าไปในครัวน่ะ ห้ามยกของหนักรู้ไหม”ก่อนหญิงสาวจะลุกเดินจากไปก็ไม่ลืมบอกเธอด้วยความเป็นห่วง “รู้แล้วค่ะ ดาวไปนะคะ คุยกันดีๆ นะคะ หมอภีร์ถามใจตัวเองดีๆ นะคะว่าลึกๆ แล้วหมอภีร์มีความสุขกับที่ผ่านมาแล้วรึยัง ไปนะคะ” แล้วอ้อมดาวก็ลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นปล
ภีร์มองภรรยาเด็กของตนลุกจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กในครรภ์อายุได้สี่เดือนสองสัปดาห์ ร่างเล็กเปราะบางเพรียวระหงตอนนี้จับเคล้นตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ จะว่าไปล้นมือเสียด้วยซ้ำ อ้อมดาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มและสวยวันสวยคืนจนเขาเริ่มหวงเธอ เพราะได้ยินเธอบอกว่าวันสอบปิดภาคเรียนมีหนุ่มต่างคณะมาทำความรู้จัก แต่เธอก็บอกผู้ชายคนนั้นไปว่า ‘แต่งงาน’ แล้ว “ดาวไปซื้อแหวนแต่งงานกันเถอะ เพื่อกันไม่ให้ใครเข้ามาจีบเมียฉัน” ภีร์เดินมาสวมกอดอ้อมดาวจากด้านหลังที่กำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงตัวเองกับของเขา “ใครจะมาจีบได้อีกคะ ตอนนี้ท้องดาวก็เริ่มโตแล้วนะคะ ใครก็มองออกว่าดาวกำลัง ‘ท้อง’ ค่ะ” สาวน้อยตอบ “แต่ท้องดาวมองเผินๆ ก็ไม่เหมือนคนท้องนะ” เขาบอกเธอ “แปรงฟันกันเถอะค่ะ แล้วรีบไปทานมื
ภีร์วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ เขามาส่องกระจกดูตัวเองในห้องน้ำแล้วก็ขบกรามแน่น เมื่อกี้เขาร้องไห้ ร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้น สองมือกำแน่นเข้าหากันแล้วเปิดน้ำวักน้ำใส่หน้าตัวเองจนเปียกไปทั้งตัวแล้วทุบชกกระจกตรงหน้าตัวเองเมื่อเห็นว่าตนกำลังอ่อนไหวกับคนที่ทิ้งตนไปตอนนั้นตุ้บ!กระจกร้าวแตกเมื่อโดนกำปั้นใหญ่ชกเต็มแรง และกำปั้นของเขาก็แตกไม่ต่างจากกระจกที่ชก เจ็บมือไม่เท่าไหร่ แต่ใจของเขานี่สิ มันเจ็บเหลือเกินตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรกันแน่“ให้ช่วยไหมครับ?” เสียงของคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นเขาเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ส่วนกระจกที่ร้าวเขาค่อยไปแจ้งให้ฝ่ายช่างมาจัดการ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะเขาใช้มันระบายอารมณ์“ภีร์” เมริษาร้องเรียกคนที่กำลังเดินผ่านตนเองรั้งไว้พร้อมกับฉวยโอกาสคว้าจับข้อมือใหญ่ดึงรั้งไว้ให้หยุด“ปล่อยเมย์” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเสี
จนตอนนี้ผ่านมาสองเดือนแล้วที่ภีร์ไม่แวะมาบ้านหลังใหญ่หลังนี้ ตอนนี้ไรอันกับเจฟ สามีก็พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านของอดีตสามี แม้ว่าสามีของนางจะอยากไปพักโรงแรมข้างนอก แต่ภพก็ชักชวนให้เจฟอยู่ด้วยกันที่นี่ เพราะถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว “ขับรถดีๆ นะไรอัน” ญาดาบอกลูกเลี้ยง “ครับ คุณแม่” ไรอันรับคำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ไปนะที่รัก” เจฟเดินมาก้มหอมแก้มภรรยาที่เดินออกมาส่งตัวเองขึ้นรถจะไปสนามบินกลับประเทศอังกฤษ “เดินทางปลอดภัยนะคะที่รัก ถึงแล้ววิดีโอคอลหาด้วยนะคะ” “ครับ แล้วเจอกันที่รัก” แล้วเจฟก็เดินไปขึ้นรถที่ลูกชายติดเครื่องรอท่าก่อนหน้า “ไปนะครับคุณแม่” ไรอันบอกแม่เลี้ยงแล้วก็ออกตัวเคลื่อนรถพาพ่อไปยังส
“ชูว์...ไม่ร้องนะเด็กดีของหมอ ไม่ร้องนะ ใครเขาจะไปกัน เมียอยู่นี่ก็ต้องอยู่กับเมียสิ ฉันรู้ว่าเมย์ต้องพูดอะไรกับเธอถึงได้แกล้งพูดให้เธอหึงฉัน ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้องไห้สักหน่อย ไม่ร้องนะเด็กดี โอ๋เอ๋...” ภีร์ดึงคนขี้แยเข้ามากอดปลอบ “อึก! หมอภีร์รู้ไหมคะว่าหมอเมย์จะแย่งหมอภีร์ ถ้าดาวเผลอ” เธอสะอื้นดังกว่าเดิมพร้อมกอดคนตัวโตแน่นราวกับว่าเขาจะหายไปจากตน “ไม่มีใครมาแย่งฉันไปจากดาว นอกจากฉันจะไปของฉันเอง เชื่อใจฉันได้ ฉันเลือกดาวแล้วก็ต้องเป็นดาวเท่านั้นที่ฉันจะอยู่ด้วย เนี่ยสินะเขาว่าฮอร์โมนคุณแม่ เริ่มคิดมากเริ่มกังวลแล้ว” เขาบอกคนตัวเล็กแล้วดันอ้อมดาวออกจากอกแล้วก้มลงจุ๊บเปลือกตาสวยที่หลับร้องไห้อยู่ “คงจะจริงค่ะ ดาวไม่ได้อยากจะขี้แยงี่เง่ากับหมอภีร์ แต่ดาวห้ามตัวเองไม่ได้ อึก! ฮือ...” “ฉันรู้ว่าดาวของฉันเป็นเด็กดี มีเหตุผล
ครรภ์แรกของอ้อมดาวตอนนี้อายุได้เจ็ดสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่แค่ว่าที่คุณแม่ดีใจ ว่าที่คุณพ่อก็ดีใจและอดจะโทรไปพูดอวดน้องชายไม่ได้ถึงความสำเร็จของตัวเอง ก็ครั้งก่อนน้องชายดูถูกหาว่าตน ‘ไม่มีน้ำยา’ มาดูตอนนี้สิ เขา ‘มีน้ำยา’ และดีมากด้วย “วันนี้ฉันนัดกินข้าวกับธีร์ และอยากแนะนำดาวให้รู้จักธีร์ด้วย เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน” เขาเคยแต่พูดเรื่องน้องชายให้ภรรยาเด็กฟัง แต่ยังไม่เคยพาทั้งสองมาเจอกันสักครั้ง ส่วนธีร์นั้นเคยเห็นอ้อมดาวแล้วหลายครั้งแบบผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้ทักทายทำความรู้จักกันแบบจริงจัง “จะดีเหรอคะหมอภีร์” อ้อมดาวถามคนเป็นสามี “ทำไมถึงคิดว่าไม่ดีล่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว และเธอก็เป็นพี่สะใภ้ของธีร์มันแล้วตอนนี้ ไม่ใช่เด็กในปกครองฉันแล้วนะ เปลี่ยนจากเด็กในปกครองเป็น ‘เมีย’ ในปกครองของฉันแล้ว” ภีร์บอกภรรยาเด็กของตน
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั...
ความคิดเห็น