“หมอภีร์” ตลอดชีวิตของเขาโหยหา “ความรัก” และ “ความอบอุ่น” มาตลอด และมีเพียง “อ้อมดาว” คนเดียวเท่านั้นที่เติมเต็มให้เขาได้ แม้จะได้รับความรักความอบอุ่นจาก “เมียเด็ก” มามากเท่าไหร่แต่ในใจก็ยังหนาวเหน็บ.....แล้วใครเล่าเติมเต็มให้หมอหนุ่มได้? ++++++ “ดาวดีขึ้นรึยังฮึ ถ้าไม่ดีฉีดยาให้นะ” เขาลุกจากเตียงเดินเข้ามาถามคนตัวเล็กที่นั่งส่องกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง “หมอภีร์ฉีดยาให้คงจะป่วยหนักกว่าเดิม เพราะหมอภีร์ฉีดยาให้เนี่ยแหละ ดาวถึงปวดหัวแบบนี้ หมอหื่น!”
View Moreภีร์วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ เขามาส่องกระจกดูตัวเองในห้องน้ำแล้วก็ขบกรามแน่น เมื่อกี้เขาร้องไห้ ร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้น สองมือกำแน่นเข้าหากันแล้วเปิดน้ำวักน้ำใส่หน้าตัวเองจนเปียกไปทั้งตัวแล้วทุบชกกระจกตรงหน้าตัวเองเมื่อเห็นว่าตนกำลังอ่อนไหวกับคนที่ทิ้งตนไปตอนนั้นตุ้บ!กระจกร้าวแตกเมื่อโดนกำปั้นใหญ่ชกเต็มแรง และกำปั้นของเขาก็แตกไม่ต่างจากกระจกที่ชก เจ็บมือไม่เท่าไหร่ แต่ใจของเขานี่สิ มันเจ็บเหลือเกินตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรกันแน่“ให้ช่วยไหมครับ?” เสียงของคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นเขาเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ส่วนกระจกที่ร้าวเขาค่อยไปแจ้งให้ฝ่ายช่างมาจัดการ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะเขาใช้มันระบายอารมณ์“ภีร์” เมริษาร้องเรียกคนที่กำลังเดินผ่านตนเองรั้งไว้พร้อมกับฉวยโอกาสคว้าจับข้อมือใหญ่ดึงรั้งไว้ให้หยุด“ปล่อยเมย์” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเสี
จนตอนนี้ผ่านมาสองเดือนแล้วที่ภีร์ไม่แวะมาบ้านหลังใหญ่หลังนี้ ตอนนี้ไรอันกับเจฟ สามีก็พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านของอดีตสามี แม้ว่าสามีของนางจะอยากไปพักโรงแรมข้างนอก แต่ภพก็ชักชวนให้เจฟอยู่ด้วยกันที่นี่ เพราะถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว “ขับรถดีๆ นะไรอัน” ญาดาบอกลูกเลี้ยง “ครับ คุณแม่” ไรอันรับคำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ไปนะที่รัก” เจฟเดินมาก้มหอมแก้มภรรยาที่เดินออกมาส่งตัวเองขึ้นรถจะไปสนามบินกลับประเทศอังกฤษ “เดินทางปลอดภัยนะคะที่รัก ถึงแล้ววิดีโอคอลหาด้วยนะคะ” “ครับ แล้วเจอกันที่รัก” แล้วเจฟก็เดินไปขึ้นรถที่ลูกชายติดเครื่องรอท่าก่อนหน้า “ไปนะครับคุณแม่” ไรอันบอกแม่เลี้ยงแล้วก็ออกตัวเคลื่อนรถพาพ่อไปยังส
“ชูว์...ไม่ร้องนะเด็กดีของหมอ ไม่ร้องนะ ใครเขาจะไปกัน เมียอยู่นี่ก็ต้องอยู่กับเมียสิ ฉันรู้ว่าเมย์ต้องพูดอะไรกับเธอถึงได้แกล้งพูดให้เธอหึงฉัน ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้องไห้สักหน่อย ไม่ร้องนะเด็กดี โอ๋เอ๋...” ภีร์ดึงคนขี้แยเข้ามากอดปลอบ “อึก! หมอภีร์รู้ไหมคะว่าหมอเมย์จะแย่งหมอภีร์ ถ้าดาวเผลอ” เธอสะอื้นดังกว่าเดิมพร้อมกอดคนตัวโตแน่นราวกับว่าเขาจะหายไปจากตน “ไม่มีใครมาแย่งฉันไปจากดาว นอกจากฉันจะไปของฉันเอง เชื่อใจฉันได้ ฉันเลือกดาวแล้วก็ต้องเป็นดาวเท่านั้นที่ฉันจะอยู่ด้วย เนี่ยสินะเขาว่าฮอร์โมนคุณแม่ เริ่มคิดมากเริ่มกังวลแล้ว” เขาบอกคนตัวเล็กแล้วดันอ้อมดาวออกจากอกแล้วก้มลงจุ๊บเปลือกตาสวยที่หลับร้องไห้อยู่ “คงจะจริงค่ะ ดาวไม่ได้อยากจะขี้แยงี่เง่ากับหมอภีร์ แต่ดาวห้ามตัวเองไม่ได้ อึก! ฮือ...” “ฉันรู้ว่าดาวของฉันเป็นเด็กดี มีเหตุผล
ครรภ์แรกของอ้อมดาวตอนนี้อายุได้เจ็ดสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่แค่ว่าที่คุณแม่ดีใจ ว่าที่คุณพ่อก็ดีใจและอดจะโทรไปพูดอวดน้องชายไม่ได้ถึงความสำเร็จของตัวเอง ก็ครั้งก่อนน้องชายดูถูกหาว่าตน ‘ไม่มีน้ำยา’ มาดูตอนนี้สิ เขา ‘มีน้ำยา’ และดีมากด้วย “วันนี้ฉันนัดกินข้าวกับธีร์ และอยากแนะนำดาวให้รู้จักธีร์ด้วย เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน” เขาเคยแต่พูดเรื่องน้องชายให้ภรรยาเด็กฟัง แต่ยังไม่เคยพาทั้งสองมาเจอกันสักครั้ง ส่วนธีร์นั้นเคยเห็นอ้อมดาวแล้วหลายครั้งแบบผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้ทักทายทำความรู้จักกันแบบจริงจัง “จะดีเหรอคะหมอภีร์” อ้อมดาวถามคนเป็นสามี “ทำไมถึงคิดว่าไม่ดีล่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว และเธอก็เป็นพี่สะใภ้ของธีร์มันแล้วตอนนี้ ไม่ใช่เด็กในปกครองฉันแล้วนะ เปลี่ยนจากเด็กในปกครองเป็น ‘เมีย’ ในปกครองของฉันแล้ว” ภีร์บอกภรรยาเด็กของตน
“อือ...หมอภีร์เดี๋ยวดาวตกค่ะ”เธอถือแปรงสีฟันแล้วกอดคอหนาแน่นด้วยกลัวว่าตนเองจะพลัดตกหลุดจากอ้อมกอดแข็งแรง แม้รู้ว่าเขาไม่ปล่อยให้ตนมีอันตรายแน่นอน“มีฉันอยู่ไม่ตกหรอก อีกอย่างฉันอุ้มเพราะฉันดีใจ พรุ่งนี้ไปฝากท้องกันนะ แล้วฉันจะไปส่งดาวที่มหา’ลัย”“ค่ะ หมอภีร์”“น่ารัก มีแค่เธอที่ตามใจฉันแบบไม่มีข้อแม้และข้อสงสัยเด็กน้อย” แล้วภีร์ก็ปล่อยคนตัวเล็กยืนเอง“หมอภีร์ออกไปข้างนอกได้แล้วค่ะ ถ้าไม่แปรงฟัน ดาวจะแปรงฟันแล้วรีบนอน”“คืนนี้ขอหน้ากระจกนี้ได้ไหม อยากให้ดาวเห็นหน้าตัวเองตอนโดนฉัน ‘เอา’ น่ะ...นะเด็กดี” เขาลูบผมยาวสลวยคนตัวเล็กตรงหน้าแล้วจับขึ้นมาดมแล้วก้มหน้าซุกไซ้ซอกคอระหงคนยืนหันหลังให้ตัวเองแล้วย่อตัวคุกเข่ากับพื้นแล้วถอดกางเกงนอนตัวบางของอ้อมดาว“อือ...หมอภีร์ ดาวยังไม่ได้อนุญาตเลยนะคะ”“ฉันรู้ว่าลึกๆ แล้วดาวก็อยากลองตรงนี้และอยากเห็นหน้าตัวเองตอนหื่นด้วยใช่ไหมล่ะ”“หมอหื่น
เปิดเรียนวันแรกก็เหนื่อย อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็สั่งงานเยอะมาก เหมือนเก็บกด แต่เธอก็ดีใจที่ได้เจอเพื่อนๆ ร่วมคณะเดียวกัน อ้อมดาวเดินออกมาจากตึกเรียนเดินมาหารถยนต์คันหรูที่เจ้าของรถนั่งรออยู่ในรถ พอมาถึงก็เคาะกระจกรถบอกเขาแล้วเขาก็ปลดล็อกแล้วเธอก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ “รัดเข็มขัดให้นะ” ภีร์รัดเข็มขัดนิรภัยให้อ้อมดาว วันนี้วันหยุดเขาจึงมาส่งเธอและมารับเธอกลับบ้านได้ อยากทำหน้าที่สามีไม่ให้เธอรู้สึกน้อยใจ “หมอภีร์รู้ไหม ชุดที่หมอภีร์ให้ดาวใส่ทำให้เพื่อนดาวในคณะหัวเราะ กระโปรงก็ยาวถึงข้อเท้า เสื้อก็ตัวใหญ่หลวมโพรก” “น่ารักดีออก ดีกว่าใส่รัดๆ อีกอย่างดาวเป็นของฉัน เนื้อหนังมังสาให้ฉันดูและสัมผัสได้คนเดียวรู้ไหม” “มันก็เกินไปไหมคะ ปกติดาวก็ไม่ได้ใส่สั้นใส่รัดอยู่แล้ว กระโปรงก็คุมเข่าอยู่แล้ว แต่เนี่ยหมอภีร์ให้ดาวแต่งตัว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ภีร์เพิ่งถอดชุดกาวน์จะออกเวรกลับไปหาอ้อมดาวก็ต้องหยุดมือที่กำลังจะหยิบจับโทรศัพท์ค้างกลางอากาศแล้วอนุญาตเจ้าของเสียงเคาะประตูหน้าห้อง “เชิญครับ” แล้วเขาก็นั่งลงเก้าอี้ทำงานของตนเองเหมือนเดิม “ภีร์เลิกงานแล้วเหรอ?” “เมย์” เขาเรียกชื่อผู้หญิงที่เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าอดีตคู่จิ้นสมัยเรียนของตนเองจะมาอยู่ตรงหน้าตนเอง “เมย์เองค่ะ เมย์ย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้ได้สองวันแล้วว่าจะมาทักภีร์ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เมื่อวานภีร์หยุด” หล่อนดึงลากเก้าอี้ตรงข้ามกับนายแพทย์หนุ่มออกนั่งโดยไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นึกว่าจะทำงานที่อเม’กาไม่กลับมาเมืองไทยซะแล้ว”
สุดท้ายแล้วก็ต้องนอนค้างที่บ้านหลังนี้ เขาออกจากบ้านนี้ไปตอนเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ไม่ได้กลับมานอนที่นี่อีก และวันนี้ก็ต้องได้นอนค้างที่นี่เมื่อฝนตกไม่หยุด ส่วนมื้อเย็นภีร์พาอ้อมดาวทานในห้องครัวพร้อมกับแม่ครัวและสาวใช้ในบ้าน “อย่าทำแบบวันนี้อีกนะคะ รู้ไหมดาวเป็นห่วง” ในความมืดยามดึกอ้อมดาวนอนซบอกแกร่งพร้อมแขนเล็กพาดกอดเอวสอบใต้ผ้าห่ม “ขอโทษ ฉันจะไม่ทำให้เธอเป็นห่วงอีกแล้วดาว แต่วันนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้” “และอย่าพูดเรื่อง ‘ตาย’ อีกนะคะ หมอภีร์ไม่อยากอยู่กับดาวแล้วเหรอคะ” “ขอโทษ” “ขอโทษดาวคนเดียวไม่ได้หรอกนะคะ ยังมีคุณพ่อคุณแม่ของหมอภีร์ที่หมอภีร์ต้องขอโทษ...” “ทำไม
ญาดาเจ็บเมื่อลูกชายที่อุ้มท้องเก้าเดือนและเบ่งคลอดเขาออกมามองตนเองเป็นคนนอก แต่ก็ไม่ได้โกรธ เกลียดแต่เสียใจ เสียใจที่ในวันนั้นตนเองจากไปแบบนั้นจนทำให้ลูกชายทั้งสองเข้าใจผิด ถ้าวันนั้นอธิบาย ภีร์กับธีร์คงไม่เข้าใจผิดเกลียดชังตนเองกับอดีตสามีหรืออาจจะเกลียด แต่ก็ไม่ได้มากเท่านี้ แต่เวลานี้แม้แต่หน้าของนาง ลูกชายยังไม่อยากมองด้วยซ้ำ“แล้วจัดงานแต่งงานกันรึยัง” ภพถามลูกชาย เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะขัดขวางความ ‘รัก’ ของลูก ตัวเขาดีใจ หวังให้ลูกชายมีครอบครัวที่ ‘สมบูรณ์’ อย่าให้เดินตามรอยของตนเองและแม่ของเขา“ยังครับ ผมจะรอให้ดาวเรียนจบก่อน แต่เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว” ภีร์เอ่ย“อือ...งั้นวันนี้ก็อยู่ทานข้าวด้วยกัน ถือว่าเป็นการเลี้ยงฉลองให้กับชีวิตคู่ของแก” คนเป็นพ่อเอ่ย“นะลูก อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันนะภีร์” เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองควรอยู่ตรงไหน ไม่ควรออกความคิดเรื่องส่วนตัวของลูกชายให้เกลียดชังตนไปมากกว่านี้ แต่ก็อดจะเอ่ยชวนภีร์อยู่ทาน
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั...
Comments