ปึก!
พอกลับมาห้องทำงานก็ทุบมือกับโต๊ะทำงานด้วยความขุ่นเคือง ภาพของแม่และลูกเลี้ยงของแม่ มันทำให้เขาหงุดหงิดโมโหจนต้องกำมือแน่นเข้าหากัน ไรอันเป็นใครกัน ทำไมถึงมาแย่งแม่ไปจากเขากับน้องชาย เมื่อแม่เลือกครอบครัวใหม่แล้ว ทำไมต้องกลับมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเล่า
แอค!
ประตูห้องทำงานเปิดผลักเข้ามาทำให้เขาหันขวับไปมองคนที่เปิดเข้ามา
“ผู้หญิงคนนั้นก็มาหาพี่เหมือนกันเหรอ?” ธีร์ น้องของเขานั่นเองเปิดผลักเข้ามา เขาและน้องชายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเดียวกัน
“ไปหาแกเหมือนกัน?”
“อือ...ไปรอผมที่ห้องทำงานเลยแหละ”
“ทำไมต้องกลับมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่”
“นั่นดิ กลับมาเรียกร้องความเป็นแม่จากเราทำไม ตัวเองก็มีลูกเลี้ยงอยู่แล้ว จะมายุ่งอะไรกับเราก็ไม่รู้” ธีร์เห็นด้วยกับพี่ชาย
“ไปดื่มกันไหม”
“ไปดิพี่”
“ออกเวรพอดี แกล่ะธีร์”
“เหมือนกันครับ”
“งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเถอะ พี่ก็จะเปลี่ยนชุดเหมือนกัน”
“อือ...ผมจะบอกพี่ว่าค่าจ้างพยาบาลพิเศษที่ดูแลพ่อที่บ้าน ผมจ่ายแล้วนะเดือนนี้ และค่าเด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ แม่ครัว ผมก็จ่ายหมดแล้วเดือนนี้”
“อือ...พี่ก็ลืมไปเลย ทำแต่งานจนลืมเรื่องค่าจ้างพวกเขา”
“ผมรู้ไงถึงจ่ายก่อนแล้ว ไปเปลี่ยนชุดละ เจอกันที่รถ วันนี้เอารถพี่ไปนะ”
“อือ...แกขับ”
“ไม่มีปัญหา”
หึ!
หมอภีร์มองน้องชายอายุห่างกับตนสี่ปีเดินออกจากห้องทำงานตัวเองไปก็หันกลับมาสนใจตัวเอง
น้ำสีอำพันแก้วแล้วแก้วเล่าถูกกระดกเข้าปากไหลผ่านลำคอรวดเดียวทุกครั้งที่น้องชายรินเติมให้ จนตอนนี้เริ่มมึนเมาตาลายแล้ว แต่ก็ยังมีสติทุกอย่าง
“ผมมีเวรพรุ่งนี้เช้า ดื่มเยอะไม่ได้” ธีร์บอกพี่ชาย
“แกกลับก่อนพี่เถอะ พี่หยุดพรุ่งนี้”
“ขับรถกลับไม่ไหวก็นั่งแท็กซี่กลับนะพี่ อย่าฝืนตัวเองถ้าเมาแล้ว”
“เออ! ไม่ต้องมาบอก ไปเถอะ เนี่ยก็ห้าทุ่มแล้ว พี่ดื่มอีกสองสามแก้วก็จะกลับ”
“งั้นผมไปนะ”
อือ
หมอธีร์มองพี่ชายจนแน่ใจว่าไม่น่าเป็นห่วงก็เดินออกจากร้านเพื่อไปเรียกแท็กซี่กลับโรงพยาบาล มีบ้าน มีคอนโดให้กลับ แต่ชอบนอนที่ห้องพักทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้มากกว่า เพราะมันสะดวกสบายเวลาเดินทางไปทำงาน
พอน้องชายกลับแล้ว ภีร์ก็จัดการน้ำสีอำพันในขวดคนเดียว จากรินใส่แก้วก็เป็นยกขวดกระดกดื่มรวดเดียวให้ลืมเรื่องราวเมื่อกลางวันในวันนี้
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
เสียงสั่นเตือนโทรศัพท์ปลุกเจ้าของเครื่องที่เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงให้ตื่นนอนมากดรับสาย อ้อมดาวงัวเงียคลำมือหาโทรศัพท์แล้วกดรับสายโดยไม่ดูว่าเป็นใครโทรมาหาตนเวลาดึกดื่นเช่นนี้
“ใครคะ? อา..” เธอกรอกเสียงถามปลายสายพร้อมปิดปากยกมือหาว
“ฉันเองดาว”
“หมอภีร์” อ้อมดาวตื่นเต็มตาทันทีเมื่อได้ยินเสียงปลายสายแล้วดึงโทรศัพท์ออกจากหูมาดูเบอร์ก็อมยิ้มเขินแล้วนำกลับไปแนบหูพูดต่อ
“นอนรึยังดาว”
“ยังค่ะ ดาวยังไม่นอนค่ะหมอภีร์” เธอรีบตอบเขาแม้ว่าเขาจะโทรมาปลุกตัวเองกลางดึกก็เถอะ แต่ขอแค่เป็นผู้ชายในสาย ไม่ว่าจะหลับหรือทำอะไร เธอก็อยากจะคุย
“คุยเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม รบกวนรึเปล่าดาว”
“ไม่รบกวนค่ะ หรือจะให้ดาวไปหาก็ได้นะคะตอนนี้”
“อือ...มันดึกแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กออกมาหาผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ ไม่ดี” หมอหนุ่มเอ่ยตอบกลับมา
“แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นหมอภีร์ ยังไงดาวก็ปลอดภัยค่ะ” สาวน้อยส่งเสียงตอบกลับไปในสาย
“หึหึ...เอาอะไรมาแน่ใจว่าอยู่กับฉันแล้วปลอดภัย อึก!” แล้วเขาก็สะอึก ตอนนี้ภีร์อยากหาผู้รับฟังความเจ็บปวดของตัวเอง และมีแค่อ้อมดาวเท่านั้นที่เขาไว้ใจจะเล่าให้ฟัง
“เพราะเป็นหมอภีร์ยังไงคะ หมอภีร์มีแต่ให้ดาวไม่เคยทำร้ายดาวสักครั้ง”
“เธอยังไม่รู้จักฉันดีเด็กน้อย เธอรู้จักฉันผ่านเสียงเท่านั้น” น้ำเสียงทุ้มตอบกลับมาในสาย
“ดาวเคยเจอหมอภีร์สองครั้งจะว่าผ่านเสียงได้ยังไงคะ”
“แต่สองปีมานี้เราไม่ได้เจอกัน ฉันและเธออาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง อาจไม่เหมือนเดิมที่เคยเห็นแล้วก็ได้เด็กน้อย”
“ดาวยังเป็นเด็กน้อยของหมอภีร์เหมือนเดิมค่ะ ไม่ว่าจะวันแรกที่หมอภีร์เจอจนตอนนี้ดาวก็ยังเป็นเด็กน้อยขี้แยของคุณหมอเหมือนเดิมค่ะ”
“หึหึ...ฉันจะพยายามเชื่อ รู้อะไรไหม เวลาเปลี่ยนอะไรๆ ก็เปลี่ยน แม้แต่จิตใจของคน เฮอะ!” เขาพูดแล้วก็นึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิดของตนเองแล้วเม้มปากแน่น น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลอาบล้นออกมานอกดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
“กับคนอื่นดาวไม่รู้ แต่สำหรับดาวแล้วยังเหมือนเดิมค่ะ ดาวจะอยู่กับหมอภีร์จนกว่าหมอภีร์จะไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้วค่ะ” สาวน้อยตอบกลับเสียงใสและรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงปลายสายว่าเขากำลังเจ็บปวดและร้องไห้อยู่ เป็นแบบนี้ทุกครั้งยามเขาโทรหากลางดึกและไม่ต้องเดาว่าเขาดื่มหรือไม่ดื่ม เขาดื่มและเมาอยู่แน่ๆ
“เธอปีกกล้าขาแข็ง เธอก็จะไม่เห็นหัวฉันแล้วดาว ตอนนี้เธอยังต้องพึ่งพาเงินของฉันในการเรียน พอฉันหมดประโยชน์ เธอ...” ยังไม่ทันได้พูดจบ สาวน้อยก็พูดแทรกส่งกลับไป
“ไม่มีวันนั้นค่ะ ดาวจะไปจากหมอภีร์ก็ต่อเมื่อหมอภีร์ไล่และไม่ต้องการดาวแล้ว ตอนนี้หมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหา” เมื่อก่อนอ้อมดาวอยู่ต่างจังหวัดไปหาภีร์ไม่ได้ แต่ตอนนี้เธออยู่กรุงเทพฯ สามารถไปหาไปปลอบและฟังเขาปรับทุกข์ระบายความเจ็บปวดในใจได้ แม้ว่าตอนนี้หอพักจะปิดแล้วก็ตาม แต่เธอก็สามารถหาวิธีขอผู้คุมหอพักออกไปหาเขาได้
“มันดึกแล้ว อันตราย”
“ดาวเป็นห่วงหมอภีร์มากกว่าค่ะ ตอนนี้อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหา”
“มีแค่เธอที่เป็นห่วงฉัน ขอบใจมากดาว ขอบใจ”
“บอกดาวมาค่ะ อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหาตอนนี้”
“ฉันอยู่ร้าน...มาถึงโทรบอกนะ จะออกไปหาที่หน้าร้านแล้วกลับด้วยกัน”
“ค่ะ และเลิกดื่มด้วยนะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
“อือ...ขอบใจเด็กน้อย” แล้วหมอหนุ่มก็ตัดวางสายจากเธอ ส่วนอ้อมดาวพอวางสายก็ลุกขึ้นลงจากเตียงของตัวเองเปิดไฟหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนจนทำให้เพื่อนร่วมห้องด้วยตื่น เธอจึงรีบขอโทษเพื่อนและบอกเพื่อนว่าจะออกไปข้างนอกจะกลับเช้า ไหนๆ ก็มีเรียนตอนบ่ายกลับเช้าได้
อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง “หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น “ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้ “ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่ “คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็
เขาพูดพร้อมชี้มือไปทางประตูห้องรับแขกที่ไม่เคยมีแขกแวะมาพักผ่อนสักครั้ง เพราะเขาไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว แต่กับเด็กสาวอ้อมดาวคนนี้ เธอไม่ใช่คนนอก แต่เธอเป็นครอบครัวของเขา เพราะเขาเองก็เป็นครอบครัวของเด็กสาวเช่นกัน“งั้นดาวไปนอนก่อนนะคะ ถ้าหมอภีร์จะเอาอะไรปลุกเรียกใช้ดาวได้เลยนะคะ”หึ! ภีร์ไม่ตอบแต่แค่นขำในลำคอแทนแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ส่วนสาวน้อยพอเจ้าของห้องเดินจากไปแล้วก็ยกมือขึ้นทาบอกเป่าปากให้ตัวเองผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้แล้วเดินไปยังห้องที่ติดกันกับห้องที่หมอภีร์เดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้ว้าย!อ้อมดาวตกใจตื่นในตอนเช้าพร้อมรีบดิ้นจะลุกลงจากเตียง แต่ถูกแขนแข็งแรงของคนฉวยโอกาสกอดรั้งไว้“ขอความอบอุ่นอีกสักพักได้ไหมดาว”น้ำเสียงทุ้มดังแผ่วกับลำคอระหง ตอนนี้หมอภีร์นอนกอดเธอบนเตียงและกำลังซุกหน้ากับคอของเธอ“หมอภีร์เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ และทะ...ทำไมกอดดาว”อ้อมดาวนอนเกร็งไม่กล้าขยับตัวเมื่อเขากอดแน่นขึ้นกว่าเดิม“ฉันนอนไม่หลับ และเมื่อคืนก็เคาะประตูห้องแล้วก่อนจะเข้ามา แต่เธอก็หลั
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั
เขาพูดพร้อมชี้มือไปทางประตูห้องรับแขกที่ไม่เคยมีแขกแวะมาพักผ่อนสักครั้ง เพราะเขาไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว แต่กับเด็กสาวอ้อมดาวคนนี้ เธอไม่ใช่คนนอก แต่เธอเป็นครอบครัวของเขา เพราะเขาเองก็เป็นครอบครัวของเด็กสาวเช่นกัน“งั้นดาวไปนอนก่อนนะคะ ถ้าหมอภีร์จะเอาอะไรปลุกเรียกใช้ดาวได้เลยนะคะ”หึ! ภีร์ไม่ตอบแต่แค่นขำในลำคอแทนแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ส่วนสาวน้อยพอเจ้าของห้องเดินจากไปแล้วก็ยกมือขึ้นทาบอกเป่าปากให้ตัวเองผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้แล้วเดินไปยังห้องที่ติดกันกับห้องที่หมอภีร์เดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้ว้าย!อ้อมดาวตกใจตื่นในตอนเช้าพร้อมรีบดิ้นจะลุกลงจากเตียง แต่ถูกแขนแข็งแรงของคนฉวยโอกาสกอดรั้งไว้“ขอความอบอุ่นอีกสักพักได้ไหมดาว”น้ำเสียงทุ้มดังแผ่วกับลำคอระหง ตอนนี้หมอภีร์นอนกอดเธอบนเตียงและกำลังซุกหน้ากับคอของเธอ“หมอภีร์เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ และทะ...ทำไมกอดดาว”อ้อมดาวนอนเกร็งไม่กล้าขยับตัวเมื่อเขากอดแน่นขึ้นกว่าเดิม“ฉันนอนไม่หลับ และเมื่อคืนก็เคาะประตูห้องแล้วก่อนจะเข้ามา แต่เธอก็หลั
อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง “หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น “ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้ “ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่ “คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็
ปึก! พอกลับมาห้องทำงานก็ทุบมือกับโต๊ะทำงานด้วยความขุ่นเคือง ภาพของแม่และลูกเลี้ยงของแม่ มันทำให้เขาหงุดหงิดโมโหจนต้องกำมือแน่นเข้าหากัน ไรอันเป็นใครกัน ทำไมถึงมาแย่งแม่ไปจากเขากับน้องชาย เมื่อแม่เลือกครอบครัวใหม่แล้ว ทำไมต้องกลับมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเล่า แอค! ประตูห้องทำงานเปิดผลักเข้ามาทำให้เขาหันขวับไปมองคนที่เปิดเข้ามา “ผู้หญิงคนนั้นก็มาหาพี่เหมือนกันเหรอ?” ธีร์ น้องของเขานั่นเองเปิดผลักเข้ามา เขาและน้องชายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเดียวกัน “ไปหาแกเหมือนกัน?” “อือ...ไปรอผมที่ห้องทำงานเลยแหละ” “ทำไมต้องกลับมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่” “นั่นดิ กลับมาเรียกร้องความเป็นแม่จากเราทำไม ตัวเองก็มีลูกเลี้ยงอยู่แล้ว จะมายุ่งอะไรกับเราก็ไม่รู้” ธีร์เห็นด้วยกับพี่ชาย “ไปดื่มกันไหม” “ไปดิพี่” “ออกเวรพอดี แกล่ะธีร์” “เหมือนกันครับ” “งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเถอะ พี่ก็จะเปลี่ยนชุดเหมือนกัน” “อือ...ผมจะบอกพี่ว่าค่าจ้างพยาบาลพิเศษที่ดูแลพ่อที่บ้าน ผมจ่ายแล้วนะเดือนนี้ และค่าเด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ แม่คร
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั