ปึก!
พอกลับมาห้องทำงานก็ทุบมือกับโต๊ะทำงานด้วยความขุ่นเคือง ภาพของแม่และลูกเลี้ยงของแม่ มันทำให้เขาหงุดหงิดโมโหจนต้องกำมือแน่นเข้าหากัน ไรอันเป็นใครกัน ทำไมถึงมาแย่งแม่ไปจากเขากับน้องชาย เมื่อแม่เลือกครอบครัวใหม่แล้ว ทำไมต้องกลับมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเล่า
แอค!
ประตูห้องทำงานเปิดผลักเข้ามาทำให้เขาหันขวับไปมองคนที่เปิดเข้ามา
“ผู้หญิงคนนั้นก็มาหาพี่เหมือนกันเหรอ?” ธีร์ น้องของเขานั่นเองเปิดผลักเข้ามา เขาและน้องชายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเดียวกัน
“ไปหาแกเหมือนกัน?”
“อือ...ไปรอผมที่ห้องทำงานเลยแหละ”
“ทำไมต้องกลับมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่”
“นั่นดิ กลับมาเรียกร้องความเป็นแม่จากเราทำไม ตัวเองก็มีลูกเลี้ยงอยู่แล้ว จะมายุ่งอะไรกับเราก็ไม่รู้” ธีร์เห็นด้วยกับพี่ชาย
“ไปดื่มกันไหม”
“ไปดิพี่”
“ออกเวรพอดี แกล่ะธีร์”
“เหมือนกันครับ”
“งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเถอะ พี่ก็จะเปลี่ยนชุดเหมือนกัน”
“อือ...ผมจะบอกพี่ว่าค่าจ้างพยาบาลพิเศษที่ดูแลพ่อที่บ้าน ผมจ่ายแล้วนะเดือนนี้ และค่าเด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ แม่ครัว ผมก็จ่ายหมดแล้วเดือนนี้”
“อือ...พี่ก็ลืมไปเลย ทำแต่งานจนลืมเรื่องค่าจ้างพวกเขา”
“ผมรู้ไงถึงจ่ายก่อนแล้ว ไปเปลี่ยนชุดละ เจอกันที่รถ วันนี้เอารถพี่ไปนะ”
“อือ...แกขับ”
“ไม่มีปัญหา”
หึ!
หมอภีร์มองน้องชายอายุห่างกับตนสี่ปีเดินออกจากห้องทำงานตัวเองไปก็หันกลับมาสนใจตัวเอง
น้ำสีอำพันแก้วแล้วแก้วเล่าถูกกระดกเข้าปากไหลผ่านลำคอรวดเดียวทุกครั้งที่น้องชายรินเติมให้ จนตอนนี้เริ่มมึนเมาตาลายแล้ว แต่ก็ยังมีสติทุกอย่าง
“ผมมีเวรพรุ่งนี้เช้า ดื่มเยอะไม่ได้” ธีร์บอกพี่ชาย
“แกกลับก่อนพี่เถอะ พี่หยุดพรุ่งนี้”
“ขับรถกลับไม่ไหวก็นั่งแท็กซี่กลับนะพี่ อย่าฝืนตัวเองถ้าเมาแล้ว”
“เออ! ไม่ต้องมาบอก ไปเถอะ เนี่ยก็ห้าทุ่มแล้ว พี่ดื่มอีกสองสามแก้วก็จะกลับ”
“งั้นผมไปนะ”
อือ
หมอธีร์มองพี่ชายจนแน่ใจว่าไม่น่าเป็นห่วงก็เดินออกจากร้านเพื่อไปเรียกแท็กซี่กลับโรงพยาบาล มีบ้าน มีคอนโดให้กลับ แต่ชอบนอนที่ห้องพักทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้มากกว่า เพราะมันสะดวกสบายเวลาเดินทางไปทำงาน
พอน้องชายกลับแล้ว ภีร์ก็จัดการน้ำสีอำพันในขวดคนเดียว จากรินใส่แก้วก็เป็นยกขวดกระดกดื่มรวดเดียวให้ลืมเรื่องราวเมื่อกลางวันในวันนี้
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
เสียงสั่นเตือนโทรศัพท์ปลุกเจ้าของเครื่องที่เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงให้ตื่นนอนมากดรับสาย อ้อมดาวงัวเงียคลำมือหาโทรศัพท์แล้วกดรับสายโดยไม่ดูว่าเป็นใครโทรมาหาตนเวลาดึกดื่นเช่นนี้
“ใครคะ? อา..” เธอกรอกเสียงถามปลายสายพร้อมปิดปากยกมือหาว
“ฉันเองดาว”
“หมอภีร์” อ้อมดาวตื่นเต็มตาทันทีเมื่อได้ยินเสียงปลายสายแล้วดึงโทรศัพท์ออกจากหูมาดูเบอร์ก็อมยิ้มเขินแล้วนำกลับไปแนบหูพูดต่อ
“นอนรึยังดาว”
“ยังค่ะ ดาวยังไม่นอนค่ะหมอภีร์” เธอรีบตอบเขาแม้ว่าเขาจะโทรมาปลุกตัวเองกลางดึกก็เถอะ แต่ขอแค่เป็นผู้ชายในสาย ไม่ว่าจะหลับหรือทำอะไร เธอก็อยากจะคุย
“คุยเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม รบกวนรึเปล่าดาว”
“ไม่รบกวนค่ะ หรือจะให้ดาวไปหาก็ได้นะคะตอนนี้”
“อือ...มันดึกแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กออกมาหาผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ ไม่ดี” หมอหนุ่มเอ่ยตอบกลับมา
“แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นหมอภีร์ ยังไงดาวก็ปลอดภัยค่ะ” สาวน้อยส่งเสียงตอบกลับไปในสาย
“หึหึ...เอาอะไรมาแน่ใจว่าอยู่กับฉันแล้วปลอดภัย อึก!” แล้วเขาก็สะอึก ตอนนี้ภีร์อยากหาผู้รับฟังความเจ็บปวดของตัวเอง และมีแค่อ้อมดาวเท่านั้นที่เขาไว้ใจจะเล่าให้ฟัง
“เพราะเป็นหมอภีร์ยังไงคะ หมอภีร์มีแต่ให้ดาวไม่เคยทำร้ายดาวสักครั้ง”
“เธอยังไม่รู้จักฉันดีเด็กน้อย เธอรู้จักฉันผ่านเสียงเท่านั้น” น้ำเสียงทุ้มตอบกลับมาในสาย
“ดาวเคยเจอหมอภีร์สองครั้งจะว่าผ่านเสียงได้ยังไงคะ”
“แต่สองปีมานี้เราไม่ได้เจอกัน ฉันและเธออาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง อาจไม่เหมือนเดิมที่เคยเห็นแล้วก็ได้เด็กน้อย”
“ดาวยังเป็นเด็กน้อยของหมอภีร์เหมือนเดิมค่ะ ไม่ว่าจะวันแรกที่หมอภีร์เจอจนตอนนี้ดาวก็ยังเป็นเด็กน้อยขี้แยของคุณหมอเหมือนเดิมค่ะ”
“หึหึ...ฉันจะพยายามเชื่อ รู้อะไรไหม เวลาเปลี่ยนอะไรๆ ก็เปลี่ยน แม้แต่จิตใจของคน เฮอะ!” เขาพูดแล้วก็นึกถึงมารดาผู้ให้กำเนิดของตนเองแล้วเม้มปากแน่น น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลอาบล้นออกมานอกดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
“กับคนอื่นดาวไม่รู้ แต่สำหรับดาวแล้วยังเหมือนเดิมค่ะ ดาวจะอยู่กับหมอภีร์จนกว่าหมอภีร์จะไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้วค่ะ” สาวน้อยตอบกลับเสียงใสและรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงปลายสายว่าเขากำลังเจ็บปวดและร้องไห้อยู่ เป็นแบบนี้ทุกครั้งยามเขาโทรหากลางดึกและไม่ต้องเดาว่าเขาดื่มหรือไม่ดื่ม เขาดื่มและเมาอยู่แน่ๆ
“เธอปีกกล้าขาแข็ง เธอก็จะไม่เห็นหัวฉันแล้วดาว ตอนนี้เธอยังต้องพึ่งพาเงินของฉันในการเรียน พอฉันหมดประโยชน์ เธอ...” ยังไม่ทันได้พูดจบ สาวน้อยก็พูดแทรกส่งกลับไป
“ไม่มีวันนั้นค่ะ ดาวจะไปจากหมอภีร์ก็ต่อเมื่อหมอภีร์ไล่และไม่ต้องการดาวแล้ว ตอนนี้หมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหา” เมื่อก่อนอ้อมดาวอยู่ต่างจังหวัดไปหาภีร์ไม่ได้ แต่ตอนนี้เธออยู่กรุงเทพฯ สามารถไปหาไปปลอบและฟังเขาปรับทุกข์ระบายความเจ็บปวดในใจได้ แม้ว่าตอนนี้หอพักจะปิดแล้วก็ตาม แต่เธอก็สามารถหาวิธีขอผู้คุมหอพักออกไปหาเขาได้
“มันดึกแล้ว อันตราย”
“ดาวเป็นห่วงหมอภีร์มากกว่าค่ะ ตอนนี้อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหา”
“มีแค่เธอที่เป็นห่วงฉัน ขอบใจมากดาว ขอบใจ”
“บอกดาวมาค่ะ อยู่ไหนคะ ดาวจะไปหาตอนนี้”
“ฉันอยู่ร้าน...มาถึงโทรบอกนะ จะออกไปหาที่หน้าร้านแล้วกลับด้วยกัน”
“ค่ะ และเลิกดื่มด้วยนะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
“อือ...ขอบใจเด็กน้อย” แล้วหมอหนุ่มก็ตัดวางสายจากเธอ ส่วนอ้อมดาวพอวางสายก็ลุกขึ้นลงจากเตียงของตัวเองเปิดไฟหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนจนทำให้เพื่อนร่วมห้องด้วยตื่น เธอจึงรีบขอโทษเพื่อนและบอกเพื่อนว่าจะออกไปข้างนอกจะกลับเช้า ไหนๆ ก็มีเรียนตอนบ่ายกลับเช้าได้
อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง “หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น “ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้ “ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่ “คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็
เขาพูดพร้อมชี้มือไปทางประตูห้องรับแขกที่ไม่เคยมีแขกแวะมาพักผ่อนสักครั้ง เพราะเขาไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว แต่กับเด็กสาวอ้อมดาวคนนี้ เธอไม่ใช่คนนอก แต่เธอเป็นครอบครัวของเขา เพราะเขาเองก็เป็นครอบครัวของเด็กสาวเช่นกัน“งั้นดาวไปนอนก่อนนะคะ ถ้าหมอภีร์จะเอาอะไรปลุกเรียกใช้ดาวได้เลยนะคะ”หึ! ภีร์ไม่ตอบแต่แค่นขำในลำคอแทนแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ส่วนสาวน้อยพอเจ้าของห้องเดินจากไปแล้วก็ยกมือขึ้นทาบอกเป่าปากให้ตัวเองผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้แล้วเดินไปยังห้องที่ติดกันกับห้องที่หมอภีร์เดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้ว้าย!อ้อมดาวตกใจตื่นในตอนเช้าพร้อมรีบดิ้นจะลุกลงจากเตียง แต่ถูกแขนแข็งแรงของคนฉวยโอกาสกอดรั้งไว้“ขอความอบอุ่นอีกสักพักได้ไหมดาว”น้ำเสียงทุ้มดังแผ่วกับลำคอระหง ตอนนี้หมอภีร์นอนกอดเธอบนเตียงและกำลังซุกหน้ากับคอของเธอ“หมอภีร์เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ และทะ...ทำไมกอดดาว”อ้อมดาวนอนเกร็งไม่กล้าขยับตัวเมื่อเขากอดแน่นขึ้นกว่าเดิม“ฉันนอนไม่หลับ และเมื่อคืนก็เคาะประตูห้องแล้วก่อนจะเข้ามา แต่เธอก็หลั
ภพมองอดีตภรรยาที่ตอนนี้กลายมาเป็นเพื่อนและน้องสาวของตนเอง แม้จะเลิกราแยกทางกันไปจนญาดาแต่งงานใหม่ แต่ญาดาก็ไม่ได้มีลูกใหม่ เธอมีลูกกับตนแค่สองคนคือภีร์กับธีร์ ลูกชายทั้งสองเจริญรอยตามเป็นหมอเหมือนตนเอง ส่วนหนุ่มลูกครึ่งข้างๆ อดีตภรรยานั้นคือลูกเลี้ยง ลูกติดของสามีญาดา “กินไข่ต้มและนึ่งปลาแล้วก็ผักต้มนะคะคุณภพ” ญาดาบอกอดีตสามีเมื่อพยาบาลพิเศษเข็นรถเข็นพามาในห้องรับประทานอาหาร “ขอบใจนะญาดาที่เสียสละเวลาตัวเองมาอยู่ดูแลกันตั้งแต่ฉันป่วย” “เราคือครอบครัวเดียวกันนะคุณภพ ถึงเราจะเลิกกัน แต่ใช่ว่าเราจะเป็นคนอื่น” “อือ...เมื่อวานคนขับรถบอกว่าคุณไปหาลูกที่โรงพยาบาลมา” “ครับ คุณลุง เมื่อวานผมพาคุณแม่ไปหาพี่ภีร์กับพี่ธีร์” เป็นไรอันที่ตอบแทนแม่เลี้ยง “ดูจากสีหน้าของคุณแล้วคงไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหมญาดา”ภพเอ่ยเสียงเนิบนาบตามวัย ตอนนี้ก็อายุใกล้จะเจ็ดสิบปี แถมยังมามีโรคตอนแก่อีกต่างหาก ภพจะเจอลูกทั้งสองเฉพาะวันไปฟอกไตที่โรงพยาบาลเท่านั้น ส่วนบ้านน่ะเหรอ ลูกชายทั้งสองไม่กลับมานานแล้ว และเขารู้ดีว่าเพราะอะไร ภีร์และธีร์ถึงไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังใหญ่หลังนี
“ทำไมหมอภีร์จุ๊บหน้าผากดาวอีกแล้วคะ” ภีร์หยุดเท้าที่กำลังจะเดินพ้นประตูห้องแล้วเอี้ยวหน้าหันมามองอ้อมดาว “จองไว้” แล้วเขาก็หมุนเอี้ยวหน้าเดินต่อ ส่วนคำตอบของนายแพทย์หนุ่มก็ดังก้องในหัวจนสาวน้อยทำงานตรงหน้าต่อไม่ไหว “จองไว้? จองไว้แบบไหน หมอภีร์คงไม่ใช่ ไม่หรอกดาว” แล้วเธอก็ล้มตัวดิ้นกลิ้งไปกับพื้นพรมของห้องหยิบเสื้อผ้ามาโยนขึ้นกลางอากาศให้หล่นใส่ตัวเอง แม้เฝ้าบอกตัวเองให้เจียมตัวเจียมใจ แต่ก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าหมอภีร์มีใจปรารถนาตนเองเช่นกันหนึ่งอาทิตย์กับการมีอ้อมดาวมาอาศัยอยู่ด้วย มันไม่ได้ทำให้นายแพทย์หนุ่มรำคาญตาเลยสักนิดกับการตื่นเช้ามาเจอเธอทำมื้อเช้าให้ตัวเอง และมันทำให้อยากกลับมาที่คอนโดทุกวันหลังลงเวรแล้ว ถ้าไม่ง่วงมากก็จะกลับมาที่คอนโด ถ้าขับรถไม่ไหวจะนอนค้างที่โรงพยาบาล“หอมจัง ทำอะไรให้ฉันทานเด็กน้อย”“เช้
ธีร์มองจ้องพี่ชายแล้วก็ยกยิ้ม พี่ชายเอาแต่จ้องจอโทรศัพท์และดูโทรศัพท์ ไม่สนใจน้องชายอย่างตน แปลก...คนไม่ติดโทรศัพท์อย่างพี่ชายตอนนี้ติดแทบไม่ให้ห่างมือตนเอง สายตาก็คอยจับจ้องหน้าจอเหมือนกำลังรอคอยใครบางคนส่งข้อความหรือโทรเข้า “มือถือมีอะไรดีรึเปล่านะ พี่ชายผมถึงเอาแต่จ้องไม่วางตา” ธีร์เอ่ยและนั่นทำให้พี่ชายเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง “ก็ดูหุ้นทั่วไป” เขาตอบแล้วหยิบแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นมาจิบดื่ม “พี่อยากกินอะไรสั่งได้เลย มื้อนี้พี่จ่ายอยู่แล้ว” “นายสั่งเถอะ พี่ยังไงก็ได้” “งั้นผมจะสั่งง่ายๆ แล้วกัน กับข้าวสักสามอย่างก็พอ ทานกันสองคนเอง” “แล้วแต่นาย”&
มันก็แค่ปากสัมผัสกันแผ่วเบา ไม่ได้ดุดันแม้ใจอยากจะดุดันดุนดันปลายลิ้นร้อนเข้าไปควานกลืนกินความหวานในโพรงปากน้อยของสาวเจ้าก็เถอะ แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เพื่อไม่ให้ทุกอย่างมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ แค่ได้สัมผัสแตะเนื้อต้องตัวอ้อมดาวเล็กๆ น้อยๆ เขาก็มีความสุขมากแล้ว และกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะหักห้ามใจไม่ไหวปลุกปล้ำสาวน้อยร่วมคอนโดด้วย แม้ใจอยากจะทำมากก็ตามตอนนี้ “ให้ตายเถอะไอ้ภีร์” เขาบ่นว่าตัวเองเมื่อทำเรื่องไม่ควรกับสาวน้อยแล้วเดินหนีจากมาในห้องและพอก้มมองความเป็นบุรุษของตัวเองก็ต้องขบกรามแน่นเมื่อมันกำลังผงาดคับแน่นเป้ากางเกงจนปวดร้าว “ให้มันได้แบบนี้สิ หรือว่านานแล้วที่เราไม่ได้ปลดปล่อยเลยอารมณ์เปลี่ยวคิดไม่ดีกับดาว”จากจะอาบน้ำนอนก็เดินออกจากห้องนอนออกไปข้างนอกอีกครั้ง ยังไงเสียพรุ่งนี้ก็วันหยุด เขาต้องปลดปล่อยมัน จะให้ใช้อุ้งมือทั้งสองมันก็น่าสมเพชเกินไปที่จะทำ “มะ
ออกจากบ้านหลังใหญ่ก็กลับมาคอนโดมาดื่มที่คอนโดคนเดียว เพราะน้องชายต้องไปทำธุระส่วนตัวต่อจึงไม่ได้ไปดื่มด้วยกัน และทางที่ดีที่สุด ดื่มเมาที่ห้องก็หลับที่ห้อง ปลอดภัย ไม่เดือดร้อนคนอื่นด้วย ภีร์กระดกดื่มทั้งขวด ไม่สนใจรินใส่แก้ว ดื่มอึกใหญ่จนสาวน้อยที่แอบมองอยู่เดินเข้ามาหา เพราะตั้งแต่กลับมาสีหน้าของหมอภีร์เคร่งเครียดกังวล แต่ก็ไม่กล้าถามด้วยกลัวว่าเขาจะโกรธ เอาแต่ดื่มแบบนี้เธอก็ไม่ไหว เธอเป็น ‘ห่วง’ เขา “หยุดดื่มได้แล้วค่ะหมอภีร์” เธอเดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมแย่งขวดบรั่นดีในมือหนามาถือไว้ “เอามาให้ฉันดาว” เขายื่นมือไปหมายจะแย่งมาดื่มต่อ แต่มือน้อยก็ขยับดึงมันไปซ่อนไว้ด้านหลังแทน “เป็นอะไรคะหมอภีร์ ทำไมดื่มเวลานี้ มีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่าคะ บอกดาวได้นะคะ” สาวน้อยถามด้วยความเป็นห่วง &ldquo
“ไม่ต้องพูด ฉันรู้ว่าดาวอายฉัน ฉันไม่เคยมองดาวเป็นคนนอก ดาวเป็นคนในครอบครัว ไม่รู้เริ่มตั้งแต่ตอนไหนที่ฉันอยาก ‘ได้’ เธอ เด็กดีเป็นของฉันนะ รู้ไหมตอนนี้ฉันเหมือนโคแก่เจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งเลยดาว” “หมอภีร์ช่างเปรียบ” “ก็มันจริง ฉันกับดาวอายุห่างกันตั้งเกือบรอบเชียวนะ ฉันจะไม่ทิ้งเธอแน่นอนดาว” “ดาวเชื่อใจหมอภีร์ค่ะ ดาวจะเป็นของหมอภีร์” “ขอบใจนะ ฉันจะไม่ทำให้ดาวเสียใจและผิดหวังในตัวของฉัน อะ...อื้ม” แล้วปากนุ่มของนายแพทย์หนุ่มก็บดจูบปากน้อยแสนหวานของอ้อมดาวอีกครั้งและครั้งนี้ก็เนิ่นนาน เรียวลิ้นอุ่นร้อนไล่ต้อนลิ้นน้อยเจ้าของโพรงปากจนมุมแล้วตวัดกอดเกี่ยวรัดคลึงพร้อมกับมือใหญ่ทั้งสองจัดการปลดเปลื้องชุดของอ้อมดาวออก “อะ...อื้อ” เสียงครางยังคงดังลอดออกมาจากปากของทั้งสอง และเรือนร่างน้อยก็เปลือยเปล่าเมื่อคนตัวโตจัดการ
อุ๊ย! เด็กน้อยในชุดนักเรียนคอซอง ผมสั้นเห็นติ่งหูล้มลงกับพื้นหญ้าเมื่อชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ตรงหน้า ด้วยความไม่ทันระวัง นายแพทย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับเด็กนักเรียนที่วิ่งมาทางตนพอดี “เป็นอะไรรึเปล่าหนู” ภีร์ถามพร้อมย่อตัวคุกเข่ากับพื้นหญ้าหนึ่งข้างแล้วส่งยื่นมือไปให้เด็กนักเรียนจับลุกขึ้น “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณหมอ” เด็กหญิงอ้อมดาวยื่นมือไปจับมือใหญ่นุ่มของคุณหมอแล้วคุณหมอก็จับดึงพาลุกขึ้น “แล้วจะรีบไปไหนเด็กหญิงอ้อมดาว” เมื่อช่วยดึงเด็กนักเรียนลุกขึ้นก็เอ่ยถามเมื่อได้อ่านชื่อของอ้อมดาวที่อกเสื้อ “หนูรีบกลับบ้านไปหาข้าวให้ยายทานค่ะ พอดีวันนี้ยายหนูไม่สบายค่ะคุณหมอ”&
ณ จังหวัดกำแพงเพชร บ้านเกิดของอ้อมดาว ตอนนี้อ้อมดาวในวัยยี่สิบสามปี เธอเรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีสามีและลูกแล้ว แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เธอโชคดีที่ได้เจอกับหมอภีร์และครอบครัวของหมอภีร์ ที่รักและเอ็นดูตนเอง “ขอบคุณนะคะที่พาดาวกลับมาไหว้ยาย ตา และพ่อกับแม่” เธอหันมาขอบคุณสามีหลังจากไหว้อัฐิของทั้งสามคนที่จากตนไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่ง “ฉันจะพาดาวและลูกมาไหว้พวกท่านทุกปี อาทิตย์มาไหว้คุณยายทวด คุณตาทวด และคุณตา คุณยายเร็วลูก” ภีร์เรียกลูกชายวัยสี่ขวบให้มากราบไหว้ท่านทั้งสี่พร้อมตนและภรรยา “ก๊าบ!” หนุ่มน้อยอาทิตย์ ผู้ถอดแบบพ่อมาทุกตารางนิ้วและมีสิ่งเดียวที่เหมือนแม่คือลักยิ้ม และนั่นทำให้พ่อหลงลูกชายมาก จิ้มหยิกแก้มหอมแก้มลูกได้ทั้งวันไม่เบื่อ “ระวังล้มนะลูก” อ้อมดาวบอกลูกชายพร้อมยื่นมือไปให้ลูกน้อยจับ&n
ภีร์ไม่รู้จะขอบคุณอ้อมดาวยังไงดี เพราะมีสาวน้อยเข้ามาในชีวิต โลกของเขาก็เริ่มสว่างสดใสขึ้น เงาดำมืดที่เกาะกินจิตใจก็ถูกดวงดาวดวงนี้ทอแสงกลบจนไม่เหลือเงาดำแฝงเร้นในจิตใจ เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นเหตุผลของผู้ใหญ่ว่าเพราะเหตุใดถึงต้องแยกทางและทิ้งตนและน้องชาย พอมาวันนี้ตนเองได้มีครอบครัว เป็นหัวหน้าครอบครัวและกำลังจะเป็นพ่อคนก็ได้รู้และเข้าใจท่านทั้งสอง หากวันนั้นท่านทั้งสองไม่ตัดสินใจแยกทางกันแบบนั้นก็คงจะมีข่าวหน้าหนึ่งสามีภรรยาทะเลาะกันจนพลั้งมือทำร้ายกันถึงชีวิตเป็นได้ “ขอบคุณนะดาว ขอบคุณที่อยู่กับฉันและทำให้ฉันกับพ่อและแม่เข้าใจกัน เพราะมีเธอ ฉันถึงไม่ติดใจเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ขอบคุณที่ฉุดดึงฉันออกมาจากความมืดนั้น” ภีร์บอกภรรยาที่นอนซบอกตนเองพร้อมกับจับกุมมือน้อยทาบทับอกขึ้นมาจูบ “ดาวดีใจนะคะที่หมอภีร์กับคุณพ่อคุณแม่เข้าใจกันได้ จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับดาวเลยสักนิด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เพราะหมอภีร์ ดาวรู้นะคะ แม้ว่าหมอภีร์จะพูดถึงท่านทั้งส
“หมอภีร์คุยกับท่านทั้งสองนะคะ ดาวจะไปช่วยที่ห้องครัวเผื่อมีอะไรให้ช่วยค่ะ”เมื่อเห็นว่าตัวเองควรปล่อยให้พ่อแม่ลูกอยู่คุยกันตามลำพัง แม้ก่อนหน้าบอกสามีแพทย์ว่าตนจะอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เขาควรอยู่กับพ่อกับแม่เขาตามลำพังมากกว่า “ไหนบอกจะอยู่กับฉัน” “ดาวไม่ได้ไปไหนค่ะ ดาวก็อยู่ตรงนี้ของหมอภีร์แล้วไงคะ ดาวอยู่ตรงนี้ตลอดค่ะจะไม่ไปไหนจนกว่าหมอภีร์ไม่ต้องการดาวแล้ว” มือเล็กยกจิ้มอกซ้ายของสามีบอกเขาว่าตนอยู่ตรงนี้ของเขาตลอด “ขอบใจนะดาว ขอบใจที่เข้าใจฉัน ระวังด้วยนะเข้าไปในครัวน่ะ ห้ามยกของหนักรู้ไหม”ก่อนหญิงสาวจะลุกเดินจากไปก็ไม่ลืมบอกเธอด้วยความเป็นห่วง “รู้แล้วค่ะ ดาวไปนะคะ คุยกันดีๆ นะคะ หมอภีร์ถามใจตัวเองดีๆ นะคะว่าลึกๆ แล้วหมอภีร์มีความสุขกับที่ผ่านมาแล้วรึยัง ไปนะคะ” แล้วอ้อมดาวก็ลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นปล
ภีร์มองภรรยาเด็กของตนลุกจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กในครรภ์อายุได้สี่เดือนสองสัปดาห์ ร่างเล็กเปราะบางเพรียวระหงตอนนี้จับเคล้นตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ จะว่าไปล้นมือเสียด้วยซ้ำ อ้อมดาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มและสวยวันสวยคืนจนเขาเริ่มหวงเธอ เพราะได้ยินเธอบอกว่าวันสอบปิดภาคเรียนมีหนุ่มต่างคณะมาทำความรู้จัก แต่เธอก็บอกผู้ชายคนนั้นไปว่า ‘แต่งงาน’ แล้ว “ดาวไปซื้อแหวนแต่งงานกันเถอะ เพื่อกันไม่ให้ใครเข้ามาจีบเมียฉัน” ภีร์เดินมาสวมกอดอ้อมดาวจากด้านหลังที่กำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงตัวเองกับของเขา “ใครจะมาจีบได้อีกคะ ตอนนี้ท้องดาวก็เริ่มโตแล้วนะคะ ใครก็มองออกว่าดาวกำลัง ‘ท้อง’ ค่ะ” สาวน้อยตอบ “แต่ท้องดาวมองเผินๆ ก็ไม่เหมือนคนท้องนะ” เขาบอกเธอ “แปรงฟันกันเถอะค่ะ แล้วรีบไปทานมื
ภีร์วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ เขามาส่องกระจกดูตัวเองในห้องน้ำแล้วก็ขบกรามแน่น เมื่อกี้เขาร้องไห้ ร้องไห้เพราะผู้หญิงคนนั้น สองมือกำแน่นเข้าหากันแล้วเปิดน้ำวักน้ำใส่หน้าตัวเองจนเปียกไปทั้งตัวแล้วทุบชกกระจกตรงหน้าตัวเองเมื่อเห็นว่าตนกำลังอ่อนไหวกับคนที่ทิ้งตนไปตอนนั้นตุ้บ!กระจกร้าวแตกเมื่อโดนกำปั้นใหญ่ชกเต็มแรง และกำปั้นของเขาก็แตกไม่ต่างจากกระจกที่ชก เจ็บมือไม่เท่าไหร่ แต่ใจของเขานี่สิ มันเจ็บเหลือเกินตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรกันแน่“ให้ช่วยไหมครับ?” เสียงของคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นเขาเอ่ยถาม“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ส่วนกระจกที่ร้าวเขาค่อยไปแจ้งให้ฝ่ายช่างมาจัดการ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะเขาใช้มันระบายอารมณ์“ภีร์” เมริษาร้องเรียกคนที่กำลังเดินผ่านตนเองรั้งไว้พร้อมกับฉวยโอกาสคว้าจับข้อมือใหญ่ดึงรั้งไว้ให้หยุด“ปล่อยเมย์” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเสี
จนตอนนี้ผ่านมาสองเดือนแล้วที่ภีร์ไม่แวะมาบ้านหลังใหญ่หลังนี้ ตอนนี้ไรอันกับเจฟ สามีก็พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านของอดีตสามี แม้ว่าสามีของนางจะอยากไปพักโรงแรมข้างนอก แต่ภพก็ชักชวนให้เจฟอยู่ด้วยกันที่นี่ เพราะถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว “ขับรถดีๆ นะไรอัน” ญาดาบอกลูกเลี้ยง “ครับ คุณแม่” ไรอันรับคำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ไปนะที่รัก” เจฟเดินมาก้มหอมแก้มภรรยาที่เดินออกมาส่งตัวเองขึ้นรถจะไปสนามบินกลับประเทศอังกฤษ “เดินทางปลอดภัยนะคะที่รัก ถึงแล้ววิดีโอคอลหาด้วยนะคะ” “ครับ แล้วเจอกันที่รัก” แล้วเจฟก็เดินไปขึ้นรถที่ลูกชายติดเครื่องรอท่าก่อนหน้า “ไปนะครับคุณแม่” ไรอันบอกแม่เลี้ยงแล้วก็ออกตัวเคลื่อนรถพาพ่อไปยังส
“ชูว์...ไม่ร้องนะเด็กดีของหมอ ไม่ร้องนะ ใครเขาจะไปกัน เมียอยู่นี่ก็ต้องอยู่กับเมียสิ ฉันรู้ว่าเมย์ต้องพูดอะไรกับเธอถึงได้แกล้งพูดให้เธอหึงฉัน ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้องไห้สักหน่อย ไม่ร้องนะเด็กดี โอ๋เอ๋...” ภีร์ดึงคนขี้แยเข้ามากอดปลอบ “อึก! หมอภีร์รู้ไหมคะว่าหมอเมย์จะแย่งหมอภีร์ ถ้าดาวเผลอ” เธอสะอื้นดังกว่าเดิมพร้อมกอดคนตัวโตแน่นราวกับว่าเขาจะหายไปจากตน “ไม่มีใครมาแย่งฉันไปจากดาว นอกจากฉันจะไปของฉันเอง เชื่อใจฉันได้ ฉันเลือกดาวแล้วก็ต้องเป็นดาวเท่านั้นที่ฉันจะอยู่ด้วย เนี่ยสินะเขาว่าฮอร์โมนคุณแม่ เริ่มคิดมากเริ่มกังวลแล้ว” เขาบอกคนตัวเล็กแล้วดันอ้อมดาวออกจากอกแล้วก้มลงจุ๊บเปลือกตาสวยที่หลับร้องไห้อยู่ “คงจะจริงค่ะ ดาวไม่ได้อยากจะขี้แยงี่เง่ากับหมอภีร์ แต่ดาวห้ามตัวเองไม่ได้ อึก! ฮือ...” “ฉันรู้ว่าดาวของฉันเป็นเด็กดี มีเหตุผล
ครรภ์แรกของอ้อมดาวตอนนี้อายุได้เจ็ดสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่แค่ว่าที่คุณแม่ดีใจ ว่าที่คุณพ่อก็ดีใจและอดจะโทรไปพูดอวดน้องชายไม่ได้ถึงความสำเร็จของตัวเอง ก็ครั้งก่อนน้องชายดูถูกหาว่าตน ‘ไม่มีน้ำยา’ มาดูตอนนี้สิ เขา ‘มีน้ำยา’ และดีมากด้วย “วันนี้ฉันนัดกินข้าวกับธีร์ และอยากแนะนำดาวให้รู้จักธีร์ด้วย เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน” เขาเคยแต่พูดเรื่องน้องชายให้ภรรยาเด็กฟัง แต่ยังไม่เคยพาทั้งสองมาเจอกันสักครั้ง ส่วนธีร์นั้นเคยเห็นอ้อมดาวแล้วหลายครั้งแบบผ่านๆ แต่ก็ไม่ได้ทักทายทำความรู้จักกันแบบจริงจัง “จะดีเหรอคะหมอภีร์” อ้อมดาวถามคนเป็นสามี “ทำไมถึงคิดว่าไม่ดีล่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว และเธอก็เป็นพี่สะใภ้ของธีร์มันแล้วตอนนี้ ไม่ใช่เด็กในปกครองฉันแล้วนะ เปลี่ยนจากเด็กในปกครองเป็น ‘เมีย’ ในปกครองของฉันแล้ว” ภีร์บอกภรรยาเด็กของตน