อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง
“หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
“ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้
“ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่
“คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็กซี่และเปิดประตูยัดคนตัวโตเข้าไปในรถแล้ว ตัวเองก็ขึ้นไปนั่งด้วยพร้อมสั่งคนขับรถแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่ไหน
ตุ้บ!
พอพาเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็ทิ้งร่างใหญ่ลงกับโซฟารับแขกของห้องชุดคอนโดสุดหรู แน่ใจว่ามันคือคอนโดสำหรับอยู่คนเดียว อ้อมดาวปล่อยคนเมาไม่รู้ความนอนครางพึมพำกับโซฟา ส่วนตัวเองก็ไปยังโซนห้องครัวใหญ่ของห้องชุดแห่งนี้เพื่อนำน้ำเย็นและผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้คนตัวโต
“ทำไมดื่มจนเมาขนาดนี้คะหมอภีร์” เธอเช็ดหน้าให้เขาเมื่อดึงเขานั่งพิงกับพนักโซฟาแล้ว แต่ตายังหลับอยู่
“ผู้หญิงคนนั้นมาหาฉัน”
อ้อมดาวหยุดมือที่กำลังเช็ดใบหน้าทรงเสน่ห์แล้วลดมือมาวางไว้หน้าตักตัวเอง
หมอภีร์ลืมตาขึ้นมองจ้องใบหน้าของเด็กสาวแล้วยื่นมือคว้าหยิบแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นมาดื่มราวกับว่าไม่ได้มีอาการเมาไม่รู้ความเหมือนก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เมามากขนาดจะไม่รู้เรื่อง เดินเองไม่ได้และพาตัวเองกลับไม่ได้ แต่เป็นใจเขาต่างหากที่อ่อนแอถึงเป็นเช่นนี้ และมีแค่อ้อมดาวเท่านั้นที่เข้าใจความรู้สึกตน
“ท่านกลับมานานแล้ว ท่านคงอยากเจอหมอภีร์” อ้อมดาวไม่ถามว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ คือใคร เพราะรู้ดีว่าหมอภีร์หมายถึงมารดาผู้ให้กำเนิด
“แต่ฉันไม่อยากเจอ ทิ้งไปแล้วจะมาวุ่นวายกับฉันทำไม เข้าใจฉันใช่ไหมดาว เข้าใจความรู้สึกตรงนี้ของฉันใช่ไหมเด็กน้อย” เขาจับมือเล็กที่กำผ้าเย็นในมือมาทาบทับแนบอกซ้ายที่กำลังเต้นไหวแรงของตนเอง
“ดาวเข้าใจความเจ็บปวดของหมอภีร์ค่ะ และดาวก็เชื่อว่าหมอภีร์จะทิ้งความเจ็บปวดนี้ได้” มือน้อยอีกข้างยกขึ้นทาบทับหลังมือหนาที่กุมมือตัวเองบนอกแกร่งพร้อมจับบีบให้กำลังใจ
“ไม่ดาว! ไม่มีวันนั้นหรอก ถ้าฉันทิ้งมันไปได้ มันคงไม่ตามมาถึงทุกวันนี้” มือหนานุ่มอีกข้างที่ว่างก็ยกมากุมมือเล็กที่กุมมือตัวเอง
เพราะความใกล้ชิดทางเสียงทุกวันของเขาและเธอทำให้อ้อมดาวไม่รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกกับสัมผัสของนายแพทย์หนุ่ม
“หมอภีร์ดื่มเยอะแล้ว วันนี้ดาวว่าหมอภีร์นอนดีกว่าไหมคะ ว่าแต่ตอนเย็นทานอะไรรึยังคะ เดี๋ยวดาวทำให้ทานแล้วค่อยนอนนะคะ”
“กินกับธีร์แล้ว ว่าแต่ออกมาได้ยังไง ที่หอพักไม่ว่ารึไงฮึ”
แล้วหมอภีร์ก็หันมาสนใจเด็กสาวแทน ตอนนี้ชายหนุ่มจดจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราของสาวน้อยในอุปการะของตนเอง เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อสองปีก่อน เธอยังเป็นเด็กน้อยกะโปโล แต่วันนี้เธอโตเป็นสาวแล้วและสวยน่ารักมากด้วย และลักยิ้มตรงแก้มนั่นอีก มันช่างน่ามองเหลือเกิน
“ไม่เจอกันนานสองปี ดาวโตขึ้นเยอะมากนะ” เขาผละมือออกห่างมือเล็กแล้วเปลี่ยนมาเท้าศอกกับขาตัวเองแล้วยกมือเท้าคางมองจ้องหน้าอ้อมดาวโดยละเอียดจนสาวน้อยต้องขยับถอยหนีผู้มีพระคุณ
“ดาวบอกผู้คุมหอพักว่าญาติไม่สบายจำเป็นต้องมาดูแลป้า เขาก็ให้มาค่ะ เราไม่เจอกันสองปี แต่ดาวก็ส่งรูปปัจจุบันให้หมอภีร์ในไลน์ตลอดนี่คะ”
เธอตอบไม่กล้าสบตา ตอนนี้สองแก้มนวลของสาวน้อยวัยสิบแปดเห่อร้อนกับสายตาของหมอหนุ่ม และใจสาวน้อยก็สั่นไหวเต้นแรงผิดจังหวะจนต้องกระเถิบถอยห่างอีก ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองที่ดังอย่างกับกลองยาว
“อือ...ก็จริง ฉันเป็นครอบครัวคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่ อีกอย่างรูปกับตัวจริงมันไม่เหมือนกัน ตัวจริง ‘น่ารัก’ กว่าเยอะ”
ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้ารึเปล่าถึงทำให้หมอภีร์กำลังเต๊าะเด็กในอุปถัมภ์ของตนเองแบบนี้และไม่ใช่แค่พูด แต่หมอหนุ่มยังขยับตามคนตัวเล็กที่ขยับถอยหนีไปชิดขอบโซฟาด้านหลังและแขนของเขาก็ยกพาดพิงกับพนักพิงหลังของโซฟาจากที่เท้าคางก่อนหน้านี้
“ขอบคุณค่ะหมอภีร์ที่ชมดาว ตอนนี้ดาวว่าหมอภีร์เมามากแล้วและก็ไปนอนดีกว่าไหมคะ ดาวเองก็จะได้กลับหอพักด้วยค่ะ” เธอขยับลุกขึ้นไปยืนข้างโซฟา ก่อนหน้ารู้สึกปลอดภัย ตอนนี้อ้อมดาวไม่ได้รู้สึกเช่นเดิมแล้ว เธอหวาดหวั่นกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองหากยังอยู่ในห้องนี้ลำพังสองต่อสองกับผู้มีพระคุณ และที่กลัวที่สุดคือใจของเธอ เพราะใจของเธอมัน ‘แอบหมายปอง’ ผู้ชายคนนี้มาตั้งแต่แรกเจอแล้ว
“ไหนบอกว่ามาดูแลญาติที่ป่วยไง กลับไปไม่กลัวผู้คุมหอพักถามเหรอ อีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้วจะเรียกรถแท็กซี่ได้เรอะ นอนที่นี่แหละ ที่นี่มีห้องรับแขก อีกอย่างฉันไม่ได้เมาจนดูแลตัวเองไม่ได้ นั่นห้องรับแขกของฉัน ไปนอนเถอะเด็กน้อย พรุ่งนี้ยังมีเรียนตอนบ่ายโมงนี่”
เขาพูดพร้อมชี้มือไปทางประตูห้องรับแขกที่ไม่เคยมีแขกแวะมาพักผ่อนสักครั้ง เพราะเขาไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว แต่กับเด็กสาวอ้อมดาวคนนี้ เธอไม่ใช่คนนอก แต่เธอเป็นครอบครัวของเขา เพราะเขาเองก็เป็นครอบครัวของเด็กสาวเช่นกัน“งั้นดาวไปนอนก่อนนะคะ ถ้าหมอภีร์จะเอาอะไรปลุกเรียกใช้ดาวได้เลยนะคะ”หึ! ภีร์ไม่ตอบแต่แค่นขำในลำคอแทนแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ส่วนสาวน้อยพอเจ้าของห้องเดินจากไปแล้วก็ยกมือขึ้นทาบอกเป่าปากให้ตัวเองผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้แล้วเดินไปยังห้องที่ติดกันกับห้องที่หมอภีร์เดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้ว้าย!อ้อมดาวตกใจตื่นในตอนเช้าพร้อมรีบดิ้นจะลุกลงจากเตียง แต่ถูกแขนแข็งแรงของคนฉวยโอกาสกอดรั้งไว้“ขอความอบอุ่นอีกสักพักได้ไหมดาว”น้ำเสียงทุ้มดังแผ่วกับลำคอระหง ตอนนี้หมอภีร์นอนกอดเธอบนเตียงและกำลังซุกหน้ากับคอของเธอ“หมอภีร์เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ และทะ...ทำไมกอดดาว”อ้อมดาวนอนเกร็งไม่กล้าขยับตัวเมื่อเขากอดแน่นขึ้นกว่าเดิม“ฉันนอนไม่หลับ และเมื่อคืนก็เคาะประตูห้องแล้วก่อนจะเข้ามา แต่เธอก็หลั
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั
ปึก! พอกลับมาห้องทำงานก็ทุบมือกับโต๊ะทำงานด้วยความขุ่นเคือง ภาพของแม่และลูกเลี้ยงของแม่ มันทำให้เขาหงุดหงิดโมโหจนต้องกำมือแน่นเข้าหากัน ไรอันเป็นใครกัน ทำไมถึงมาแย่งแม่ไปจากเขากับน้องชาย เมื่อแม่เลือกครอบครัวใหม่แล้ว ทำไมต้องกลับมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเล่า แอค! ประตูห้องทำงานเปิดผลักเข้ามาทำให้เขาหันขวับไปมองคนที่เปิดเข้ามา “ผู้หญิงคนนั้นก็มาหาพี่เหมือนกันเหรอ?” ธีร์ น้องของเขานั่นเองเปิดผลักเข้ามา เขาและน้องชายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเดียวกัน “ไปหาแกเหมือนกัน?” “อือ...ไปรอผมที่ห้องทำงานเลยแหละ” “ทำไมต้องกลับมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่” “นั่นดิ กลับมาเรียกร้องความเป็นแม่จากเราทำไม ตัวเองก็มีลูกเลี้ยงอยู่แล้ว จะมายุ่งอะไรกับเราก็ไม่รู้” ธีร์เห็นด้วยกับพี่ชาย “ไปดื่มกันไหม” “ไปดิพี่” “ออกเวรพอดี แกล่ะธีร์” “เหมือนกันครับ” “งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเถอะ พี่ก็จะเปลี่ยนชุดเหมือนกัน” “อือ...ผมจะบอกพี่ว่าค่าจ้างพยาบาลพิเศษที่ดูแลพ่อที่บ้าน ผมจ่ายแล้วนะเดือนนี้ และค่าเด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ แม่คร
เขาพูดพร้อมชี้มือไปทางประตูห้องรับแขกที่ไม่เคยมีแขกแวะมาพักผ่อนสักครั้ง เพราะเขาไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว แต่กับเด็กสาวอ้อมดาวคนนี้ เธอไม่ใช่คนนอก แต่เธอเป็นครอบครัวของเขา เพราะเขาเองก็เป็นครอบครัวของเด็กสาวเช่นกัน“งั้นดาวไปนอนก่อนนะคะ ถ้าหมอภีร์จะเอาอะไรปลุกเรียกใช้ดาวได้เลยนะคะ”หึ! ภีร์ไม่ตอบแต่แค่นขำในลำคอแทนแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปยังอีกห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ส่วนสาวน้อยพอเจ้าของห้องเดินจากไปแล้วก็ยกมือขึ้นทาบอกเป่าปากให้ตัวเองผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เพิ่งเจอก่อนหน้านี้แล้วเดินไปยังห้องที่ติดกันกับห้องที่หมอภีร์เดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้ว้าย!อ้อมดาวตกใจตื่นในตอนเช้าพร้อมรีบดิ้นจะลุกลงจากเตียง แต่ถูกแขนแข็งแรงของคนฉวยโอกาสกอดรั้งไว้“ขอความอบอุ่นอีกสักพักได้ไหมดาว”น้ำเสียงทุ้มดังแผ่วกับลำคอระหง ตอนนี้หมอภีร์นอนกอดเธอบนเตียงและกำลังซุกหน้ากับคอของเธอ“หมอภีร์เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ และทะ...ทำไมกอดดาว”อ้อมดาวนอนเกร็งไม่กล้าขยับตัวเมื่อเขากอดแน่นขึ้นกว่าเดิม“ฉันนอนไม่หลับ และเมื่อคืนก็เคาะประตูห้องแล้วก่อนจะเข้ามา แต่เธอก็หลั
อ้อมดาวบอกกับป้าดูแลหอพักนักศึกษาว่าญาติไม่สบาย ท่านอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล เธอจึงจำเป็นต้องออกจากห้องเวลานี้ พอมาถึงร้านก็โทรหาหมอภีร์ รอไม่นานคนตัวโตสูงใหญ่ก็เดินเซออกมาหาตนเอง เขาเมาแล้วและดีที่เขาโทรหาเธอ ไม่ขับรถกลับเอง “หมอภีร์” ร่างเล็กในเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขากระบอกวิ่งไปโอบประคองร่างใหญ่ที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากร้านด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าไม่ได้เจอกันนานสองปี แต่อ้อมดาวก็จำรูปพรรณสัณฐานของภีร์ได้ดี เขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนแปลงก็แต่อายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น “ดาว...” ภีร์ทิ้งน้ำหนักให้คนตัวเล็กประคองตัวเองเดิน เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ เพราะเขาได้ยินมันทุกวัน น้ำเสียงเล็กหวานนี้ “ดาวเองค่ะหมอภีร์ กลับกันนะคะ คอนโดหมอภีร์อยู่ไหนคะ ดาวจะพานั่งแท็กซี่กลับ” เพราะคุยกันทุกวัน เธอจึงรู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดกับห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นส่วนใหญ่ “คอนโดอยู่...” เขาบอกเธอขณะถูกดึงลากเดินไปเรียกรถแท็กซี่ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดส่งลูกค้าพอดี ซึ่งเป็นจังหวะพอดีทำให้ไม่ต้องประคองคนตัวโตนาน เพราะเขาตัวหนักเหลือเกิน พออ้อมดาวได้แท็
ปึก! พอกลับมาห้องทำงานก็ทุบมือกับโต๊ะทำงานด้วยความขุ่นเคือง ภาพของแม่และลูกเลี้ยงของแม่ มันทำให้เขาหงุดหงิดโมโหจนต้องกำมือแน่นเข้าหากัน ไรอันเป็นใครกัน ทำไมถึงมาแย่งแม่ไปจากเขากับน้องชาย เมื่อแม่เลือกครอบครัวใหม่แล้ว ทำไมต้องกลับมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเล่า แอค! ประตูห้องทำงานเปิดผลักเข้ามาทำให้เขาหันขวับไปมองคนที่เปิดเข้ามา “ผู้หญิงคนนั้นก็มาหาพี่เหมือนกันเหรอ?” ธีร์ น้องของเขานั่นเองเปิดผลักเข้ามา เขาและน้องชายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลเดียวกัน “ไปหาแกเหมือนกัน?” “อือ...ไปรอผมที่ห้องทำงานเลยแหละ” “ทำไมต้องกลับมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่แม่” “นั่นดิ กลับมาเรียกร้องความเป็นแม่จากเราทำไม ตัวเองก็มีลูกเลี้ยงอยู่แล้ว จะมายุ่งอะไรกับเราก็ไม่รู้” ธีร์เห็นด้วยกับพี่ชาย “ไปดื่มกันไหม” “ไปดิพี่” “ออกเวรพอดี แกล่ะธีร์” “เหมือนกันครับ” “งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเถอะ พี่ก็จะเปลี่ยนชุดเหมือนกัน” “อือ...ผมจะบอกพี่ว่าค่าจ้างพยาบาลพิเศษที่ดูแลพ่อที่บ้าน ผมจ่ายแล้วนะเดือนนี้ และค่าเด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ แม่คร
ตลอดเวลาหลายปีได้ยินแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนส่งมาในสาย วันนี้เธอจะได้เจอหน้าของเขาอีกครั้ง จำได้ครั้งแรกที่เจอกันว่าเขาอ่อนโยนมากแค่ไหน ก็หลังจากที่เจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนครั้งนั้น นายแพทย์หนุ่มภีร์ กุมารเวชศาสตร์ วัย 39 ปี ในปีนั้นนายแพทย์หนุ่มอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปออกหน่วยแพทย์อาสาที่จังหวัดกำแพงเพชร ในวันนั้นเขาก็ได้รู้และได้ฟังเรื่องราวของเธอที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก อาศัยอยู่กับคุณยายตั้งแต่จำความได้ และในตอนนั้นอ้อมดาวเพิ่งอายุได้เก้าขวบ จนเมื่อสองปีก่อนคุณยายได้จากไป อ้อมดาวหรือดาว สาวน้อยวัย 18 ปี จึงเหลือตัวคนเดียวในโลก แต่หมอภีร์ไม่ได้ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยว จากเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งพิงก็มีมืออ่อนโยนของคุณหมอแสนดีเข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเธอตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน จากที่เคยเป็นแค่เจ้าของเงินทุนส่งเธอเรียน ตอนนี้เขาขยับมาเป็นผู้ปกครองเต็มขั้น สาวน้อยไร้เดียงสาได้สอบเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้มาอยู่ใกล้ผู้มีพระคุณและตอบแทนหมอภีร์ที่เมตตาเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรอย่างตนเอง สาวน้อยยืนส่องกระจกร้านอาหารอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกับผู้มีพระคุณ ใจสาวน้อยทั