“มันก็เหมือนการแต่งงานของคู่รักทั่วไปจริงๆ นะ แค่หลังจากนี้ชะนีน้อยก็กลายเป็นคุณนายใหญ่ ที่ผัวไปมีเล็กมีน้อยบ้างแต่ไม่ได้เอามาเชิดหน้าชูตาแค่นั้น”
ณัฐพลเริ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด ดูไปแล้วคงไม่ผิดไปจากเธอพูด เพราะคิดว่ามินตราคงจะอยู่กับมาเทโอไปแทบจะตลอดชีวิตแน่นอน แต่พอใจคิดไม่ค่อยตรงกับณัฐพลเท่าไรจึงเริ่มที่จะเอ่ยแย้งขึ้น
“ถ้าเป็นอย่างที่แกว่า ผัวต้องมีความรักให้เมียบ้าง แต่นี่ไม่ใช่”
“เอ้า ใครจะไปรู้วันข้างหน้าคุณเรียวอาจจะรักมะลิจริงๆ ก็ได้ น้องแกสวยน่ารักขนาดนี้ อยู่ด้วยกันทุกวันไม่รักบ้างก็ให้มันรู้ไป”
ณัฐพลกอดอกเอ่ยจีบปากจีบคอ วันหน้าอะไรจะเกิดขึ้นใครจะไปรู้ เพราะวันนี้จู่ๆ ชะนีน้อยของเขายังชีวิตพลิกผันในเวลากะทันหันเลย
“พี่ๆ หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ มะลิหิวแล้วไปหาอะไรทานกันเถอะ”
มินตราไม่ได้อยากจะฟังพี่ๆ ทั้งสองเถียงกันเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เท่าไรนัก เพราะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอคิดมากไปเปล่าๆ ทั้งตอนนี้ท้องน้อยๆ ของเธอยังส่งเสียงร้องแล้วด้วยจึงรีบจูงมือทั้งสองกลับไปที่ซุ้มหน้าบ้านพักริมทะเลหลังใหญ่ แต่ไม่ทันที่ทั้งสามจะได้เดินไปไหนไกล เคนชิก็เดินมาตามมินตราเสียก่อน
“คุณมะลิครับ คุณเรียวให้มาตามไปลองชุดครับ ตอนนี้ช่างรออยู่แล้ว”
“ไปกับคุณเคนก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเตรียมอาหารเอาไว้ให้ ลองชุดเสร็จค่อยมาทานข้าวก็ได้”
“ค่ะ”
หลังจากมินตราเดินตามหลังเคนชิเข้าบ้านไปได้ พอใจก็หันมาดึงไหล่ของณัฐพลเพื่อถามถึงเรื่องที่คุยกันค้างเมื่อครู่
“นี่ตุ๊ด เมื่อกี้ที่แกพูดว่าคนสองคนอยู่ด้วยกันทุกวัน มันอดไม่ได้ที่จะรัก แล้วถ้าคนที่รักเป็นมะลิคนเดียวล่ะ”
“แกกำชับชะนีน้อยแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามคิดเรื่องนี้”
“ฉันพูดเตือน แต่จะบังคับจิตใจใครเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าวันนึงมะลิรักคุณเรียวขึ้นมา ก็จะต้องเจ็บเมื่อเห็นเค้ามีคนอื่นเรื่อยๆ”
พอใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เธอก้มหน้าลงเพราะเริ่มที่จะเห็นเรื่องที่น่ากังวลชัดขึ้นแล้ว
“มันก็ใช่นะ แต่ถ้าคุณเรียวเกิดรักมะลิขึ้นมาจริงๆ เรื่องผู้หญิงคนอื่นคุณเรียวไม่มีทางไปยุ่งแน่ เพราะเค้าเป็นคนจริงแต่จะรักมะลิเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เรารอดูสถานการณ์ไปก่อนเพราะยังไงสองคนนั้นก็ต้องอยู่กันยาวอยู่แล้ว”
“ตอนนี้ฉันคิดว่าอยากจะให้คุณเรียวรักมะลิจริงๆ แล้วสิ ไหนน้องฉันจะอยู่อย่างสุขสบาย ไหนจะไม่ต้องมีเรื่องผู้หญิงของคุณเรียวมากวนใจอีก”
พอใจเริ่มอยากให้เรื่องที่มันจะเป็นไปได้ยากเกิดขึ้นจริงเสียแล้ว
“ฉันมีวิธี”
“ยังไง”
พอใจเบิกดวงตากลมโตจ้องมองณัฐพลด้วยท่าทีตื่นเต้นปนอยากรู้อยากเห็น
“ทำของไง”
ณัฐพลก้มลงมากระซิบข้างหูเพื่อนรัก หลังจากนั้นคนที่ดูจะมีความหลังเริ่มขมวดคิ้ว ด้วยคิดว่าเพื่อนเธอจะมีวิธีอะไรดีๆ เสียอีก
“จะบ้าเหรอตุ๊ด คิดอัปมงคลอย่างงี้ได้ไง”
“เอ้า ก็น่าจะเร็วสุดอะ”
ท่าทางของณัฐพลแสดงออกมาว่าเรื่องที่พูดออกไปไม่ได้พูดเล่นๆ
“เฮ้อ ช่างเถอะเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ขี้เกียจคิด แล้วก็ไม่เอาด้วยกับเรื่องที่แกคิด เลิกคิดเรื่องนี้ไปได้เลย ทำขงทำของใส่คนอื่นคิดได้ไง”
มือเรียวยกชี้หน้าเพื่อนกำชับเด็ดขาด จนณัฐพลยอมที่จะล้มเลิกความคิดนี้ไปได้ หากเพื่อนเธอคิดเรื่องนี้แล้วพูดมาให้ฟังอีกได้ตบปากแตกแน่
“อืมก็ได้ ไปหาอะไรกระแทกปากกันดีกว่า ไหนๆ งานนี้เราอยู่ฟรีกินฟรีแล้วนี่นา”
หนุ่มหน้าหวานว่าจบก็ควงแขนพอใจเดินปรี่ไปที่เต๊นท์อาหารข้างบ้านพักหลังใหญ่ รู้สึกเปรี้ยวปากอยากจะทานอาหารทะเลหลายอย่าง ด้วยรู้ว่าคนที่มารังสรรค์เมนูเลี้ยงทีมงานที่มาจัดสถานที่เป็นเชฟจากโรงแรมดังๆ ทั้งนั้น
“พี่เรียวใส่ชุดนี้ดูดีมากๆ เลยค่ะ”
มินตราเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดได้ เห็นคนตัวโตอยู่ในชุดสูทสีขาวก็มองไปยังชายหนุ่มตาเป็นประกาย ในใจก็ส่งเสียงบอกว่าเขาดูดีมากๆ แต่จะดีมากกว่าถ้าใบหน้าถูกโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา
ดวงตาคมเหลือบมองคนที่อยู่ในชุดเกาะอกรัดรูปสีขาวกระโปรงยาวเป็นหางปลาลากกับพื้นด้วยแววตาชื่นชม แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอ่ยชมอะไรออกมา
“ผมไม่ใช่คนบ้ายอ”
มาเทโออมยิ้มอ่อนพอจะรู้ว่าตัวเองดูดี แต่ก็รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อมีคนมาชมต่อหน้าแบบนี้
“ชมจากจริงจริงนะคะ ไม่ได้เสแสร้งซะหน่อย”
คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน อุตส่าห์ชมจากใจจริงแต่มาเทโอชอบตีความหมายคำพูดเธอผิดเสียอย่างนั้น
“แล้วเรื่องญาติผู้ใหญ่ฝั่งคุณ ผมบอกคุณพ่อไว้แล้วว่าพวกท่านมาไม่ได้เพราะงานแต่งจัดกะทันหัน เข้าใจตรงกันด้วยล่ะ”
“ค่ะ พี่เรียวคะ”
สาวเจ้าพยักหน้ารับขณะที่หมุนตัวส่องกระจก
“อะไร”
“มะลิสวยไหมคะ ไม่ค่อยมั่นใจเลย”
มินตราเห็นว่าชุดของเธอเป็นเดรสหางปลายาวก็จริงแต่ช่วงบนดูจะแน่นไปหน่อย เพราะมันรัดเสียจนหน้าอกหน้าใจของเธอแทบจะทะลักออกมาอยู่แล้ว
“อืม”
“อืม นี่ดีใช่ไหมคะ”
มินตราเริ่มมีน้ำเสียงอู้อี้ ยิ่งเขาให้ความเห็นอย่างไม่ใส่ใจเธอก็ยิ่งไม่มั่นใจ
“คุณสวย สวยมาก โอเคหรือยัง”
มาเทโอไม่รู้ว่าหญิงสาวอยากจะได้ยินคำไหน หากเขาจะพูดไปตามตรงว่าเธอดูสวยมาก แล้วชุดที่รัดจนส่วนนูนของเธอแทบจะทะลักเป็นสิ่งที่เขาชอบมองที่สุด ไม่รู้เลยเธอจะมั่นใจขึ้นกว่าเดิมหรือจะร้องขอให้ช่างรีบหาชุดมาเปลี่ยนให้กันแน่
“โอเค ถึงจะดูประชดก็สร้างความมั่นใจได้เหมือนกัน”
สาวเจ้าเริ่มหันกลับมามองตัวเองในกระจกอีกครั้ง
“เป็นคนพูดมากรู้ตัวหรือเปล่า”
สิ้นคำถามของมาเฟียหนุ่ม สาวเจ้าก็ค่อยๆ เขยิบเจ้าไปใกล้เขา
“รู้นานแล้วค่ะ แต่มะลิไม่ใช่คนชอบพูดโกหกนะคะ ตั้งแต่จำความได้เห็นจะเป็นเพราะพี่เรียวมะลิถึงต้องโกหกคนหลายคน”
คนตัวเล็กกระซิบเสียงเบาจบ มาเทโอก็ก้มลงแนบใบหน้าเขากับข้างพวงแก้มของเธอ
“แล้วก็ห้ามหลุดด้วยเข้าใจไหม เพระนั่นจะทำให้ผมพัง และถ้าผมพัง คุณก็พัง”
เขาเอ่ยย้ำน้ำเสียงเบา ทว่าจุดประสงค์ของการก้มลงมาไม่เพียงแค่ย้ำเรื่องพวกนี้ แต่อยากได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของคนตัวเล็กใกล้ๆ เท่านั้น
“รู้แล้วน่า..ขู่เก่งอยู่ได้”
สาวเจ้าถอยหลังสองสามก้าว รู้สึกประหม่ากับการกระทำของชายหนุ่มทั้งบ่นอู้อี้ที่ถูกย้ำเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ
“อะไร”
“เปล่าค่ะ ลมพัดเย็นดีนะคะ”
มาเทโอได้ยินแต่แรกว่ามินตราพูดอะไร เพียงแค่อยากถามให้ได้คำตอบว่าเธอแน่จริงที่จะพูดดังๆ หรือเปล่า แต่เธอกลับเอ่ยคำพูดยั่วโทสะเขาเสียอย่างนั้น
“กวนประสาทนักนะ”
“แล้วพี่เรียวจะโกนหนวดโกนเคราหรือเปล่าคะ พรุ่งนี้จะได้ถ่ายรูปสวยๆ”
สาวเจ้ารีบเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่”
“ทำไมล่ะคะ”
“ก็ผมไม่อยากโกน คุณมามีปัญหาอะไรกับเคราผมห้ะ แล้วอย่าคิดจะมาสั่งนั่นสั่งนี่กับผม เพราะผมไม่ชอบ”
“ไม่ได้เรียกสั่ง เรียกขอร้อง”
มินตรารู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันไม่ได้สำคัญพอที่จะให้มาเทโอสนใจ แต่เธอและเขาก็คงจะไม่ได้จัดงานแบบนี้บ่อยๆ จึงอยากให้มีภาพเก็บเป็นที่ระลึกให้สวยงามที่สุด
“ทะเลาะอะไรกัน”
เสียงของมาเทโอที่ดุมินตราเมื่อครู่รวมไปถึงเสียงขอร้องของหญิงสาวอยู่ในหูในตามเหศักดิ์ทั้งหมด เขาจึงมีความรู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย เพราะว่าที่บ่าวสาวจะเข้าพิธีแต่งงานในวันพรุ่งนี้มามีปากเสียงกัน
“คุณพ่อ”
มินตราเริ่มนิ่งงันหน้าเสียเป็นอาการเดียวกับมาเทโอ ด้วยไม่รู้ว่ามเหศักดิ์ได้ยินบทสนทนาไหนบ้าง
“ฉันถามว่าทะเลาะอะไรกัน”
“เอ่อ มะลิแค่ขอให้พี่เรียวโกนหนวดโกนเครา แต่พี่เรียวไม่ยอมค่ะมะลิก็แค่อยากให้พรุ่งนี้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ ค่ะคุณพ่อ”
สาวเจ้าว่าจบก็ก้มหน้างุด
“ตามใจเมียแกหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันคิดว่าแกเอามันออกบ้างก็ดีนะ จะได้ดูเป็นผู้เป็นคนบ้าง ปกติฉันนึกว่าฉันเป็นพ่อสิงโต”
มาเทโอและมินคราเริ่มจะหายใจหายคอได้คล่องที่รู้ว่ามเหศักดิ์เพิ่งเข้ามาได้ยินเพียงประโยคหลังๆ ที่พวกเขาสนทนากัน แต่ชายหนุ่มก็อดเคืองใจคนเป็นพ่อไม่ได้ที่ดูท่าจะเข้าข้างว่าที่ลูกสะใภ้ไปเสียหมด ทั้งยังเปรยอ้อมๆ ว่าเขาเหมือนสิงโตอีก
“พี่เรียวเค้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ช่างเค้าเถอะ เดี๋ยวมะลิขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
สาวเจ้าโล่งอกโล่งใจได้ก็รีบกลับเข้าห้องแต่งตัวไปอีกรอบ
“คุณพ่อเข้าข้างเธอแบบนี้ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ได้ใจหรอกครับ”
มาเทโอแสดงสีหน้าไม่ชอบใจให้มเหศักดิ์ได้รับรู้
“ฉันยอมรับว่าฉันเอ็นดูหนูมะลิ แกก็รู้ว่าน่าจะเพราะอะไร”
“ผมเข้าใจครับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตามใจเธอ”
ข้อนี้เขาพอจะเข้าใจ แต่การที่พ่อเขาดูจะให้ท้ายมินตราเช่นนี้กลัวว่าวันหน้าเธออาจจะเหลิงไม่ฟังใคร เพราะย่ามใจว่ามเหศัดิ์หนุนหลังถึงวันนั้นเขาคงเสียการปกครองพอดี
“อะไรที่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยของเธอ แกทำได้ก็ทำไปเถอะ”
“ครับคุณพ่อ”
เห็นทีงานนี้มาเทโอคงต้องถอดรูปจริงๆ แล้ว ด้วยดูท่าพ่อของเขาจะตะล่อมให้ตามใจมินตราเสียเหลือเกิน
“นึกว่าคุณจะไม่มา”มาเทรับโอออกมาต้อนรับการันต์ที่เพิ่งมาถึง คนถูกทักมีสีหน้าที่ไม่ได้ยินดีที่จะมาที่นี่สักเท่าไร แต่เพราะไม่อยากจะมีเรื่องผิดใจอะไรกับมเหศักดิ์อีกจึงต้องจำใจมาทำตัวแสดงความยินดีในงานแต่งงานนี้“ฉันไม่อยากผิดใจกับคุณพ่อมากกว่านี้ เรื่องที่นายยุ่มย่ามเรื่องของฉัน ฉันพยายามลืมๆ มันไปแต่อย่าผิดเรื่องอะไรแล้วกันฉันพร้อมเหยียบซ้ำ”การันต์เอ่ยจบก็เดินผ่านหน้ามาเทโอไปที่ริมชายหาด ไอเซย่ามองตามหลังการันต์ด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์นักที่การันต์ชอบทำตัวเหนือกว่ามาเทโอตลอด แต่เพื่อนเขาก็ดูท่าจะปล่อยผ่านคนๆ นี้ทุกครั้งไป“ทำไมนายยอมให้มันหยามหลายครั้งแล้ว เกรงใจอะไรมัน”“ฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณพ่อไม่สบายใจ”มาเทโอรู้ว่ามเหศักดิ์รักการันต์กว่าใครๆ โดยที่ไม่ต้องพูดออกมา และที่เขาไม่อยากจะมีปัญหากับการันต์ไม่ใช่กลัวชายหนุ่ม แต่สิ่งที่กลัวคือการทำให้คนมีบุญคุณอย่างพ่อตนมาหนักใจเรื่องการมีปัญหาของคนในครอบครัวมากกว่า“เนื้อกุ้งหวานมากเลยค่ะ”มินตราลองชุดเสร็จก็วิ่งพุ่งมาหาพอใจและณัฐพลที่โต๊ะอาหารริมทะเล มาถึงได้ก็ใช้ส้อมตักกุ้งตัวใหญ่เข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่ขาดคำ“อย่าทานเข้าไปเยอะล่ะ เดี
Rrrrr“พี่อุ๋มอิ๋มคะ เด็กของพี่ที่ว่างตามที่เกรซส่งรายชื่อให้หรือเปล่าคะ ดีค่ะ ค่าใช้จ่ายเท่าไรส่งมาในแชทได้เลยนะคะเดี๋ยวเกรซจะรีบโอนให้ แต่พรุ่งนี้เด็กพี่ต้องมาถึงนะคะ”กชกรวางสายได้ยกยิ้มอย่างผู้ชนะ เธอรู้ได้เลยว่าพรุ่งนี้ได้สนุกแน่ งานแต่งของมินตรากับมาเทโอครั้งนี้คงเป็นที่น่าจดจำและติดตามินตราไปตลอดชีวิตก๊อกๆๆไอเซย่างัวเงียตื่นขึ้นหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูหลายครั้ง“คุณแอลคะ ฉันพอใจเองค่ะ”ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองไปยังนาฬิกาก่อนจะลุกพรวดออกไปเปิดประตูตามเสียงเรียก คิดว่าหญิงสาวคงมีเรื่องด่วนไม่อย่างนั้นพอใจไม่มาเคาะห้องของเขาเวลานี้แน่แกร๊กก“มีอะไรครับ”คนที่เปิดประตูเห็นหญิงสาวหน้าตื่นเขาก็เริ่มมีสีหน้ากังวลไปด้วย“ไปที่สนามบินกับฉันหน่อยค่ะ”หลังจากพอใจไปตามไอเซย่าทั้งสองก็รีบเตรียมตัวขับรถออกไปจากบ้าน ชายหนุ่มขับรถออกมาได้ก็อยากรู้ให้หายคาใจว่าพอใจรู้ได้ยังไงว่ากชกรกำลังจะสร้างเรื่อง“คุณพอใจรู้ได้ยังไงครับว่าคุณเกรซโทรให้ผู้หญิงที่เคยนอนกับคุณเรียวมาป่วนที่นี่”“เพื่อนฉันเป็นโมเดลลิ่งค่ะ โทรมาบอกฉันว่าเมื่อคืนคุณเกรซโทรตามผู้หญิงที่เคยนอนกับคุณเรียวแทบทุกโมเดลลิ่งให้มาที่งานน
ใบหน้านวลถูกเชยขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่คนตัวโตจะก้มลงบดจูบริมฝีปากบาง สัมผัสวาบหวามนุ่มนวลเช่นนี้ทำคนที่ไม่เคยผ่านมือชายมวลท้องและไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังตื่นเต้นจนลืมหายใจ ลิ้นร้ายเริ่มลุกเร้าเข้ามาฉกชิมความหวานในปากนุ่มดูดดึงลิ้นเรียวเล่น คิ้วเรียวบางขมวดเข้าหากันอย่างสับสนในอารมณ์ของตัวเองขณะที่คนตัวโตกำลังเล่นลิ้นสนุกในปากของเธอ ตอนนี้หญิงสาวทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว และรู้สึกวาบหวามแปลกใหม่ไปในคราเดียวกัน ไม่นานนักมือน้อยก็ยกขึ้นผลักคนตัวโตออกห่างเพราะเริ่มที่จะหายใจไม่ออก ริมฝีปากหนาผละออกจากเธอได้ มินตราก็รีบสูดลมหายใจเข้าปอดตัวโยนฮื๊ดดด ฟู่...“จูบไม่เป็นหรือไง อย่าหยุดหายใจสิ”เขาว่าขณะเร่งรีบถอดเสื้อผ้าจนเหลือตัวเปล่าโชว์รอยสักและแผงกล้ามเต็มตาหญิงสาว ภาพตรงหน้าทำมินตราเริ่มหน้าร้อนผ่าวอีกรอบและต้องเบนหน้าหนี แม้นในห้องนี้จะมีแค่แสงไฟสีส้มสลัวของโคมไฟหัวเตียง แต่มันก็ทำให้เธอเห็นอะไรๆ ชัดพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นแผงอกกว้าง หรือแม้กระทั่งกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่รวมไปถึงส่วนงอกส่วนย้อยที่กำลังตั้งตรงชี้หน้าของเธออยู่ตอนนี้ด้วยดวงตาคมของมาเทโอเอาเริ่มไล่จ้องรูปร่างและผิวพรรณที่ดึงดูดสายตา เ
เช้าของวันต่อมาเมื่อมาเทโอเห็นว่าอาการของมินตราอาการดีขึ้นพอสมควรแล้วจึงรีบพาเธอกลับบ้าน เพราะเขามีธุระที่จะต้องไปต่างจังหวัดต่อ คราแรกก็คิดจะพาเธอไปด้วยเต่เห็นว่าหญิงสาวยังไม่หายดีจากอาการไข้จึงให้เธอพักอยู่ที่บ้านไปก่อน“พี่เรียวไปทำอะไรเหรอคะ”มินตราเอ่ยถามมาเทโอขณะนั่งทานข้าวเที่ยงด้วยกัน เพราะรู้ว่าวันนี้เขาจะบินขึ้นเหนือตอนเย็นและจะไปอยู่ที่นั่นสองสามวัน“ไปหาสถานที่สร้างความสุข”“อ๋อ ค่ะ”เมื่ออีกฝ่ายตอบหน้าตาเฉยโดยไม่คิดที่จะเงยหน้ามาสบตาของเธอ มินตราก็เริ่มหน้าเจื่อนถึงแม้ว่าเธอและเขาจะไม่ใช่คู่รักกันจริงๆ กับมาเทโอ แต่ก็รู้แก่ใจว่าเธอมีสัมพันธ์กับเข้าไปแล้ว เมื่อเขาจะไปมีความสุขกับคนอื่นเธอรู้สึกไม่ชอบใจแปลกๆ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะต้องทำตามข้อตกลง“ผมต้องไปแล้ว ขาดเหลืออะไรหรืออยากไปไหนก็บอกเคนชิ อย่าลืมทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาด้วยเข้าใจหรือเปล่า”มาเทโอหันมาบอกหญิงสาวที่เดินมาส่งที่รถตู้ในช่วงเย็น“ค่ะ”มินตราพยักหน้ารับหงึกหงักเมื่อเห็นมาเทโอเข้าไปนั่งในรถตู้ได้ เธอก็รีบหันหลังสาวเท้าไปหาไอเซย่าที่กำลังจะเดินขึ้นรถไปอีกคน“คุณแอลคะ”“ครับ”สาวเจ้าล้วงอะไรบางอย่างออกจากกระเป
มาเทโอปิดไฟห้องเหลือเพียงแสงสีส้มสลัวของโคมไฟข้างหัวเตียง และทิ้งตัวลงนอนกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง จมูกโด่งไล่สูดดมกลิ่นหอมบนเรือนผมของหญิงสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ไม่กี่วินาทีที่ได้สัมผัสคนตัวเล็กนุ่มนิ่มภาพคืนนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง และตอนนี้เขาก็เริ่มมีอารมณ์ความเป็นชายพลุ่งพล่านขึ้นมากะทันหัน“อาการคุณดีขึ้นหรือยัง”เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหูขาวเสียงกระเส่า“ค่ะ มะลิหายดีแล้วค่ะ”สาวเจ้าหันหน้ามามองมาเทโอผงกหัวหงึกหงัก เธอเริ่มเบิกตาตกใจที่จู่ๆ มือหนาของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนสอดดึงชั้นในตัวจิ๋วของเธอผ่านขาเรียวเหวี่ยงทิ้งไปข้างเตียง“คือ รออาทิตย์หน้าได้ไหมคะ”มินตราเริ่มถดตัวหนีมาเทโอเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ช่วงล่างของเธอตอนนี้ยังไม่หายเจ็บดีหากต้องมารับแรงกระแทกจากคนตัวโตคิดว่าเธอคงจะรับไม่ไหวแน่“ผมไม่ไหว ขอไม่รอนะ”มาเทโอไม่ได้สนคำร้องขอของคนตัวเล็กเขาวาดขาคร่อมหญิงสาวกดข้อมือสองข้างของเธอเอาไว้กับเตียงนุ่มและเริ่มบดจูบริมฝีปากบางมูมมาม ยิ่งใกล้เธอมากเท่าไรอารมณ์สวาทของเขาก็พลุ่งพล่านประทุเร็วขึ้นเท่านั้น มินตราไม่ได้มีท่าทีขัดขืนซ้ำยังรู้สึกพอใจกับร
มาเทโอที่เตรียมตัวออกไปข้างนอก เขายืนชั่งใจวนไปวนมาหน้าบ้านอยู่หลายนาที ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น“วันนี้ผมน่าจะกลับดึก คุณนอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอผม”มินตรายังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หูทวนลมขณะที่มาเทโอมายืนพูดด้วยตรงหน้า เธอหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนไปมาไม่ยอมพูดยอมจาโต้ตอบกับอีกฝ่าย พฤติกรรมของหญิงสาวที่ทำเหมือนมาเทโอเป็นธาตุอากาศเริ่มที่จะทำให้มาเฟียหนุ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกรอบ“ไม่มีปากหรือไง ถามทำไมไม่ตอบ”เขากระชากข้อมือมินตราให้เธอเลิกจ้องแต่มือถือ“ไม่กล้าพูดเดี๋ยวถูกขังค่ะ”เสียงที่เคยหวานตอนนี้เอ่ยแข็งกร้าว ดวงตากลมโตมองค้อนคนเอาแต่ใจ แทนที่เขาจะเข้ามาขอโทษเธอกลับมาทำพฤติกรรมแย่ใส่อีกครั้งใครเค้าจะอยากคุยกับคนพาลกัน“ประชดเหรอ”มินตราสะบัดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่ม เธอรีบสาวเท้าเดินหนีมาเทโออีกรอบ ครั้งนี้เธอเลือกที่จะเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องหากมีใครตามไปจะได้เข้าไปหาเธอไม่ได้ มาเทโอยืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่ และรีบเดินออกไปขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก เขาต้องปล่อยหญิงสาวไปก่อนเพราะมีงานสำคัญในช่วงเช้านี้“โมเดลลิ่งส่งเด็กใหม่มาให้นาย”ไอเซย่าเดินเข้ายื่นไอแพดตรง
“อืมม อื้ออ”สาวเจ้าแอ่นสะท้านเบาๆ เมื่อมาเทโอเริ่มสอดใส่นิ้วร้ายกับช่องทางรักคับแคบขณะเดียวกันกับที่เขาเริ่มบดจูบมูมมามตวัดลิ้นควานไปทั่งโพลงปากเล็ก เสียงลมหายใจของชายหนุ่มเริ่มฟึดฟัดถี่ขึ้นเพราะอารมณ์สวาทเริ่มประทุพลุ่งพล่าน มือหนาหยอกล้อเล่นกับช่องทางรักสาวเจ้าจนเริ่มรู้สึกเปียกชื้นจึงค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงกับเตียง ก่อนจะถลกชุดเดรสของเธอออกไปกองกับพื้นจนสาวเจ้าเหลือตัวล่อนจ้อนมือทั้งสองดันขาเรียวให้แหกกว้างก่อนจะก้มลงพรมจูบตวัดลิ้นเลียธารน้ำหวานอย่างมูมมาม “อ อื้อ อ้ะ” จนสาวเจ้าหลับตาพริ้มส่งเสียงครางแอ่นตัวเร่า“อืมม”มาเทโอจับขึงสะโพกมนไม่ให้เลื้อยหนีขณะที่ส่งลิ้นร้ายแทงละเลงในร่องสวาทระรัว จนธารน้ำของอารมณ์วาบหวามทะลักให้เขาได้ดูดกลื่นอยู่เรื่อยๆ“อ๊าย อ้ะ”มินตราครางเสียงหลงมือไม้ปัดป่ายจิกหมอนนุ่มจนแทบขาด อกอิ่มตั้งชูชันขนลุกซู่ไปทั่วตัวเริ่มมองคนที่ก้มอยู่กึ่งกลางลำตัวด้วยสายตาปรือเยิ้มเว้าวอน มาเทโอเห็นเช่นนั่นก็รีบถลกผ้าขนหนูที่พันเอวทิ้งเลื่อนตัวขึ้นมาบดจูบริมฝีปากบางอีกรอบ มือทั้งสองบดขยำสองเต้างามนุ่มนิ่มสนุกมือ ไม่นานนักก็เริ่มบดหัวเจ้ามังกรยักษ์ที่กำลังผงาดเต็มที่ถูไถกั
“อ อ้ะ อืมม”มาเทโอตวัดฉกชิมธารน้ำที่ไหลทะลักครู่ใหญ่ สาวเจ้าครางเสียงหวานอยู่ไม่นิ่ง ไม่นานนักคนตัวโตที่กำลังหื่นกระหายก็ยกอุ้มเธอมานั่งพิงหลังที่โซฟาข้างตุ๊กตาหมีตัวโตมาเทโอสอดแขนคล้องขาพับคนตัวเล็กขึ้นคุกเข่ากับโซฟา เขาก้มจูบริมฝีปากบางพร้อมบดสอดใส่แท่งร้อนปูดเป่งก่อนจะสาวสะโพกด้วยลีลาเร่าร้อน“อื้ออ อื้อ อื้อ”มือเรียวกอดรัดเอวหนาแน่น เสียงหวานร้องครางในลำคอเป็นจังหวะที่แท่งร้อนกระแทกสวนเข้ามาในร่องสวาทระงม“อื้ม อื้ออ”มาเทโอหายใจหอบถี่อารมณ์วาบหวามเสียวซ่านเริ่มประทุหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเผลอกระแทกคนตัวเล็กจนตัวโยน ด้วยเสียงครางหวานระบายความกระสันทำเขาควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนเอาไว้ไม่ไหว“พ พี่เรียว มะลิจุก”สาวเจ้าผละจูบหันหน้าหนีส่ายหัวหน้าเหยเก เอ่ยเสียงกระเส่าร้องขอให้คนตัวโตลดจังหวะลง แต่เหมือนเสียงร้องขอของเธอไม่ได้เป็นผลเลยสักนิด“อ่า อ้า อ้าสส”มาเทโอยังรัวสาวสะโพกกระแทกแท่งร้อนไม่มีผ่อน ใบหน้าเชิดแหงนหน้าอ้าปากครางระบายความเสียวกระสันเสียงดังลั่นเพี๊ยะ “มะลิ จุก”เมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดผ่อนปรนจังหวะ มินตราจึงต้องยกมือเรียวฟาดไปที่ต้นแขนชายหนุ่ม ให้เขารับฟังคำประท้วงของเธอบ้าง
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท