“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”
พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน
“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”
มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว
“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”
พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกัน
และแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้
“ผมต้องขอโทษคุณย่ากับคุณแม่ด้วยครับ ที่ไม่มาบอกกล่าวก่อน”
มาเทโอและมินตรามาถึงบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ช่วงเช้าก็รีบถือพานมาขอขมาไพลินและพุดกรอง
“ยังดีที่คิดบอกกันก่อนที่หลานฉันจะท้อง”
หญิงชราร่างท้วมวัย70กว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยรื่นหู แต่เธอก็ยอมรับพานจากทั้งสองแต่โดยดี
“คุณแม่คะ เด็กๆ เค้าก็มารับผิดกันแล้วนะคะ”
ไพลินเห็นทั้งลูกสาวและลูกเขยหน้าเสียก็รีบเอ่ยท้วงคนเป็นแม่ รู้ว่าแม่เธอยังมีความขุ่นข้องหมองใจอยู่บ้าง แต่เธอก็อยากให้แม่นั้นปล่อยผ่านไป เพราะไหนๆ ทั้งสองก็ตกแต่งเป็นสามีภรรยาอยู่กินด้วยกันไปแล้ว
“ฉันก็ไม่ถือสาอะไรแล้วล่ะ แค่อดบ่นไม่ได้เท่านั้นเอง”
“ขอบคุณนะคะคุณย่า”
มินตราหันมายิ้มกับมาเทโอ เธอรีบเข้าไปสวมกอดพุดกรองเอาไว้แน่น ถอนหายใจอ่อนโล่งใจหลังจากที่นั่งอึดอัดมาครู่ใหญ่
“แล้วพ่อเราจะมาถึงตอนไหนล่ะ”
“น่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะครับ”
จากที่มาเทโอโทรหาภาคภูมิเลขาของพ่อเขาเมื่อครู่ ก็รู้ว่าพ่อตนอยู่ห่างจากที่นี่ไม่กี่กิโล คิดว่าไม่กี่นาทีคงจะถึงที่นี่แล้ว สิ้นเสียงมาเทโอทุกคนก็เอี้ยวหลังมองไปยังหน้าบ้าน เพราะได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด
“น่าจะมาถึงแล้วเดี๋ยวพอใจไปรอต้อนรับนะคะ”
เป็นพอใจที่รีบผุดลุดไปต้อนรับผู้ใหญ่
“สวัสดีค่ะคุณเหม สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ”
ชายสูงวัยทั้งสองรับไหว้หญิงสาวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มกันทั้งคู่
“ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าใช่ไหม”
“ค่ะ เชิญด้านในก่อนค่ะ”
พอใจเดินนำหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองเข้ามาในห้องรับแขกหน้าระรื่น
“คุณย่าคะคุณแม่คะ คุณมเหศักดิ์พ่อคุณเรียวค่ะ”
“มเหศักดิ์”
พุดกรองลุกขึ้นพรวดหน้าถอดสีเช่นเดียวกับไพลินที่ตกใจจนหน้าเจื่อนที่เห็นมเหศักดิ์เข้ามายืนอยู่ตรงหน้า ยิ่งได้ยินว่าเขาเป็นพ่อของมาเทโอพวกเธอก็ยิ่งตกใจจนต้องรีบดึงมินตราเข้ามากอดเอาไว้แน่น
“มะลิมาหาย่า”
“อ.. อะไรกันคะคุณย่า”
ทั้งมินตราและพอใจต่างก็มีสีหน้างงงวยไม่ต่างจากทุกคนในบ้าน มาเทโอมองหน้ามเหศักดิ์สลับกับพุดกรองเขาคิดว่าพ่อของเขาตกใจกับพฤติกรรมของผู้ใหญ่ทางบ้านมินตราไม่น้อยไปกว่าเขาเหมือนกัน ที่ตอนนี้กำลังทำท่าทางอย่างกับเห็นพวกเขาเป็นผี
“พวกคุณออกไปจากบ้านฉันให้หมด”
“คุณย่าคะทำไมไล่พวกเค้าแบบนี้ล่ะคะ”
พอใจอ้าปากค้างรีบหันกลับไปกระซิบกระซาบกับย่าของเธอด้วยท่าทีร้อนรน มินตราเริ่มขมวดคิ้วพูดอะไรไม่ออกที่จู่ๆ พุดกรองก็ตวาดเสียงไล่ตะเพิดคนที่เข้ามาสู่ขอเธอทั้งที่เมื่อครู่ยังตกลงกันได้ดีอยู่เลย
“ฉันไม่ยกมะลิให้แล้ว กลับไปแล้วอย่ามายุ่งกับหลานฉันอีก”
“พี่เรียว!”
“คุณย่าครับผมกับมะลิรักกันนะครับ เราแต่งงานอยู่ด้วยกันแล้วด้วย เมื่อกี้เรายังคุยกันดีๆ อยู่เลยทำไมไล่พวกผมแบบนี้ล่ะครับ”
มาเทโอพยายามจะเข้าไปดึงมินตราออกมาแต่เธอก็ถูกทั้งไพลินและพุดกรองขวางเอาไว้
“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณเป็นพวกมาเฟียใจโหดเหี้ยม ฉันไม่คุยดีด้วยหรอก”
หากพุดกรองรู้แต่แรกว่ามาเทโอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวมเหศักดิ์เธอไม่ยอมยกหลานสาวให้ง่ายๆ แน่นอน เพราะถ้าเธอทำเช่นนั้นเท่ากับว่ากำลังส่งหลานตัวเองไปอยู่ในขุมนรก
“ผมไม่รู้ว่าพวกคุณรู้จักผมไปในทางไหน แต่เด็กสองคนนี้รักกัน อย่าขัดขวางความรักของเด็กๆ เลย”
มเหศักดิ์ที่ดูท่าทีอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะรู้เหตุผลของผู้ใหญ่ทางมินตรา เขารู้ว่าตัวเองมีชื่อเสียงทางด้านไม่ดีมามาก แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรักของมาเทโอและมินตราเลยสักนิด
“ฉันแค่ปกป้องหลานฉัน”
“มะลิมาหาพี่”
“ถ้าเลือกคนอื่นก็ไม่ต้องมาเรียกย่าว่าย่า แล้วก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”
“ฮือๆๆๆ”
ไม่ทันที่มินตราจะได้ก้าวไปเลือกทางที่หัวใจต้องการ เธอก็ต้องหยุดชะงักน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา จนพอใจต้องรีบเข้าไปกอดปลอบ
“คุณย่าครับ แน่ใจนะครับว่ากลัวมะลิจะอยู่ในอันตรายเพียงเพราะพ่อผมเคยเป็นมาเฟีย”
มาเทโอขมวดคิ้วมองจ้องไปยังพุดกรองและไพลิน เขาจ้องมองไปยังแววตาผู้ใหญ่ทั้งสอง เห็นถึงความแข็งกร้าวไม่ยอมลดอัตราลงง่ายๆ หากเหตุผลแค่กลัวมินตราจะเป็นอันตรายเมื่ออยู่ในดงมาเฟีย เขาคิดว่ามันไม่ได้มีแค่เหตุผลนั้นอย่างเดียวแน่
“ไม่ต้องพูดมาก รู้แค่ว่าฉันไม่ให้หลานฉันไปอยู่ในดงเสือดงตะเข้ก็พอ”
“ผมไม่รู้นะครับว่าผมไปทำอะไรให้คุณโกรธเกลียดนักหนา เอาเป็นว่าผมขอโทษที่ผมได้ชื่อว่าเป็นมาเฟีย แต่ขอให้คุณเชื่อใจว่าถ้ามะลิมาอยู่ในครอบครัวผม เธอจะไม่มีอันตรายอะไรอย่างที่คุณคิดแน่นอน”
“ฉันไม่เชื่อ”
มเหศักดิ์พยายามทำใจเย็นและคุยกับพุดกรองด้วยเหตุผล แต่ดูท่าคนแก่หัวแข็งคนนี้จะใช้ไม้อ่อนไม่ได้แล้ว
“ผมว่าจะไม่พูดคำนี้แล้ว แต่คุณทำตัวเป็นคนแก่กะโหลกกะลาจริงๆ เด็กสองคนรักกันแต่งงานกันอยู่กินกันแล้วด้วย จะทำตัวขวางโลกไปทำไมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
ในเวลานี้มเหศักดิ์เริ่มฉุนหนักอยู่เหมือนกัน ทั้งที่พุดกรองก็น่าจะผ่านโลกมาไม่น้อยไปกว่าเขา แต่ก็ยังทำตัวเอาแต่ใจออกคำสั่งเป็นเจ้าชีวิตคนอื่นเป็นเด็กๆ ไปได้
“อย่ามาปากดีกับคนอย่างฉัน”
พุดกรองตวัดมองค้อนมเหศักดิ์อย่างไม่มีทีท่าเกรงกลัวแม้แต่น้อย
“ผมรักมะลิจริงๆ นะครับคุณย่า แล้วผมก็เห็นว่าที่คุณย่ากีดกันผมกับมะลิเพราะเห็นว่าครอบครัวผมเป็นมาเฟียมันไม่ยุติธรรม ถ้าคุณย่าไม่ให้ผมกับมะลิอยู่ด้วยกัน ผมก็จะตายตรงนี้”
มาเทโอคุกเข่าลงท่ามกลางการปะทะฝีปากของผู้ใหญ่ทั้งสอง เขาดึงปืนออกมาจากเอวจ่อที่หัวของตัวเอง ประกาศกร้าวเสียงแข็งแววตามุ่งมั่น ไม่ใช่ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเห็นใจ แต่อยากให้ครอบครัวของมินตรารู้ว่าหากเขาไม่มีหญิงสาวอยู่ข้างกายก็ไม่ต่างอะไรกับการตายทั้งเป็น
“พี่เรียว ไม่ทำแบบนี้นะคะ ถ้าพี่เรียวตายมะลิจะตายด้วย ฮือๆๆๆ”
มินตรารีบเข้ามากอดมาเทโอเอาไว้แน่น เธอสะอื้นตัวสั่นเทิ้ม
“ผมพูดจริง ผมวาดฝันว่าจะมีครอบครัวที่มีความสุขกับมะลิ ถ้าไม่มีมะลิผมมีชีวิตอยู่ไปก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น สู้ตายๆ ให้มันจบๆ ไปจะดีกว่า”
“ไม่นะคะ ฮือๆๆๆ”
คนตัวเล็กสะอื้นตัวโยน พูดจาอู้อี้ปนเสียงสะอื้น ฟังไม่ได้ศัพท์ ไพลินเห็นลูกสาวที่เลี้ยงอยู่กับอกมาแต่อ้อนแต่ออกร้องให้สะอื้นเจียนขาดใจ เธอก็เริ่มใจอ่อนยวบมีน้ำตารื้นให้กับความรักที่ทั้งสองมีให้กัน เห็นทีจะทำใจแข็งต่อไม่ได้อีกแล้ว
“คุณแม่คะมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะคะ เรามาคุยกันด้วยเหตุผลจริงๆ ดีหรือเปล่าคะ”
เมื่อเห็นว่าแม่เธอยังไม่มีท่าทีอ่อนลงไพลินจำต้องเขย่าแขนคนเป็นแม่เบาๆ เธอมองออกว่ามาเทโอไม่ได้พูดเพียงเพราะเรียกร้องความเห็นใจ กลัวว่าหากแม่เธอยังไม่ยอมง่ายๆ จะต้องมาเห็นคนทั้งสองตายต่อหน้าต่อตาแน่
“เห็นแบบนี้ยังจะใจจืดใจดำอยู่หรือเปล่า”
มเหศักดิ์เอ่ยเตือนสติของพุดกรองอีกคน สิ้นคำพูดมเหศักดิ์ทุกคนก็อยู่ในความเงียบมีเพียงเสียงสะอื้นของมินตราและพอใจที่ยืนปาดน้ำตาร้องให้กระซิกเพราะสงสารน้องสาวเท่านั้น ภาพของมาเทโอและมินตราที่กอดกันกลมรอการยอมรับจากพุดกรองเป็นภาพที่น่าหดหู่บีบหัวใจกับทุกสายตาที่จับจ้อง
“สัญญาได้หรือเปล่าว่าจะปกป้องมะลิด้วยชีวิต”
แววตาพุดกรองเริ่มเปลี่ยนจากความแข็งกร้าวเป็นไหววูบเมื่อเห็นหลานรักเสียน้ำตาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยกับมาเทโอเสียงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและเดินไปคว้าปืนจากมือของชายหนุ่มมาเก็บเอาไว้
“ครับผมสัญญา ขอบคุณครับคุณย่า”
มาเทโอก้มหัวให้พุดกรองก่อนหลับตาลงด้วยถอนหายใจอ่อน และรวบกอดคนรักที่กำลังสะอื้นตัวสั่นเทาด้วยสองแขนเอาไว้แน่น
“คุณออกมาคุยกับฉันแค่สองคน”
“คุณแม่คะ”
ไพลินรีบคว้าตัวพุดกรองเอาไว้หลังจากแม่ตนได้เรียกมเหศักดิ์ให้ไปคุยกันด้านนอก
“ไม่ต้องห่วงแม่”
“ผมไม่ทำร้ายคนแก่ด้วยกันหรอกวางใจได้”
มเหศักดิ์เกริ่นกับไพลินให้เธอนั้นวางใจเรื่องความปลอดภัยของพุดกรอง และยกปืนที่พกติดตัวให้กับภาคภูมิก่อนจะเดินตามพุดกรองออกไป
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท