มาเทโอปิดไฟห้องเหลือเพียงแสงสีส้มสลัวของโคมไฟข้างหัวเตียง และทิ้งตัวลงนอนกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง จมูกโด่งไล่สูดดมกลิ่นหอมบนเรือนผมของหญิงสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ไม่กี่วินาทีที่ได้สัมผัสคนตัวเล็กนุ่มนิ่มภาพคืนนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง และตอนนี้เขาก็เริ่มมีอารมณ์ความเป็นชายพลุ่งพล่านขึ้นมากะทันหัน
“อาการคุณดีขึ้นหรือยัง”
เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหูขาวเสียงกระเส่า
“ค่ะ มะลิหายดีแล้วค่ะ”
สาวเจ้าหันหน้ามามองมาเทโอผงกหัวหงึกหงัก เธอเริ่มเบิกตาตกใจที่จู่ๆ มือหนาของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนสอดดึงชั้นในตัวจิ๋วของเธอผ่านขาเรียวเหวี่ยงทิ้งไปข้างเตียง
“คือ รออาทิตย์หน้าได้ไหมคะ”
มินตราเริ่มถดตัวหนีมาเทโอเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ช่วงล่างของเธอตอนนี้ยังไม่หายเจ็บดีหากต้องมารับแรงกระแทกจากคนตัวโตคิดว่าเธอคงจะรับไม่ไหวแน่
“ผมไม่ไหว ขอไม่รอนะ”
มาเทโอไม่ได้สนคำร้องขอของคนตัวเล็กเขาวาดขาคร่อมหญิงสาวกดข้อมือสองข้างของเธอเอาไว้กับเตียงนุ่มและเริ่มบดจูบริมฝีปากบางมูมมาม ยิ่งใกล้เธอมากเท่าไรอารมณ์สวาทของเขาก็พลุ่งพล่านประทุเร็วขึ้นเท่านั้น มินตราไม่ได้มีท่าทีขัดขืนซ้ำยังรู้สึกพอใจกับรสจูบของชายหนุ่มไม่น้อย แต่คิ้วเรียวที่ขมวดแสดงความกังวลก็เพราะกลัวว่าจะต้องเจ็บจนเป็นไข้เหมือนตอนที่นอนกับชายหนุ่มครั้งก่อน
“ไม่ต้องกลัว มันจะดีกว่าครั้งที่แล้ว”
เมื่อผละออกจากริมฝีปากบางได้มาเทโอก็เลื่อนจูบหน้าผากมน พูดกล่อมให้หญิงสาวคลายกังวลก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของเขาและเธอจนเหลือตัวเปลือยเปล่ากันใต้ผ้าห่มทั้งคู่ ดวงตาคมปรือเยิ้มลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อได้เห็นสองเต้างามชูชันหลอกล่อสายตา เขานึกถึงความนุ่มนิ่มของมันขึ้นมาได้มือหนาก็คว้าหมับบดขยำสลับกับการดูดดึงขบเม้มมูมมามอย่างคนหิวกระหาย
“อือ อืมม”
มินตราเริ่มขบเม้มริมฝีปากมือไม้ปัดป่ายหาที่จับจนไปจิกเอาไว้กับผ้าปูเตียง ดวงตากลมโตปรือหยาดเยิ้มแอ่นอกเร่าเมื่อความเสียวซ่านเริ่มคืบคลานเข้ามาในร่างกาย
“อ อ้ะ”
ริมฝีปากบางอ้ากว้างเมื่อเม็ดทับทิมสีหวานกลางกลีบกุหลาบงามถูกบดคลึงด้วยนิ้วโป้งของชายหนุ่ม
“อืม”
มาเทโอบดจูบส่งลิ้นร้ายตวัดเข้าโพลงปากเล็กระรัว ขณะที่นิ้วกลางทำหน้าที่เรียกธารน้ำแห่งความสุขโดยการสอดใส่ชักเข้าออกอยู่ในร่องสวาทครั้งแล้วครั้งเล่า จากคราแรกที่คนตัวเล็กยังมีความรู้สึกเจ็บผ่านไปไม่นานนักความสุขจากความวาบหวามก็ทำให้เธอลืมความเจ็บไป
“พร้อมหรือยัง”
มาเทโอผละจากริมฝีปากบางอีกรอบ จ้องมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ก่อนจะถามความพร้อมของหญิงสาว
“ค่ะ”
ใบหน้าหวานที่กำลังเงยมองเขาด้วยสายตาปรือเยิ้มพยักหน้ารับได้ มาเทโอก็รีบแทรกขาทั้งสองกลางขาเรียวสอดใส่เจ้ามังกรหัวปูดเป่งเบียดเข้าร่องสวาทคราเดียวจนสุด
“อื้ออ..อืมม”
มินตราส่งเสียงร้องในลำคอหลับตาปี๋ ความรู้สึกจุกเจ็บแล่นเข้ามาในร่างกายอีกครั้ง แม้นจะเจ็บน้อยกว่าครั้งก่อนหน้าแต่ก็ถือว่าเจ็บมากอยู่ดี
“อึก อ่าสส”
มาเทโอกัดขบฟันจนขึ้นสันกรามเพราะเจ้ามังกรยักษ์ของเขาถูกตอดรัดจนรู้สึกปวดหนึบ ใจอยากสาวสะโพกเข้าออกระรัวแต่ก็ยังทำตามอารมณ์ไม่ได้ด้วยรู้ว่าตอนนี้คนใต้ร่างอารมณ์วาบหวามกำลังจะหายไปเพราะกำลังรู้สึกเจ็บ เขารีบก้มจูบปากคนตัวเล็กอีกครั้งมือหนาข้างซ้ายทำหน้าที่บดขยำอกอิ่มเรียกอารมณ์สวาทของหญิงสาวขึ้นมาอีกรอบ ไม่นานนักก็เริ่มขยับสะโพกด้วยจังหวะนุ่มนวลจนเริ่มเรียกเสียงครางหวานของมินตราออกมาได้
“อื้อ อ่ะ อ้ะ”
มือเรียวไล่จิกฝังเล็บทั่วแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านขณะที่ชายหนุ่มเริ่มอัดกระแทกมังกรยักษ์เข้ามาในตัวของเธอพร้อมกับดูดดึงยอดอกอิ่มสลับข้างกันไปมา
“อื้อ อ อ๊ะ อ๊าย”
ตอนนี้มาเทโอกำลังเร่งจังหวะกระแทกใส่เธอเร็วขึ้น จนคนตัวเล็กแอ่นอกเร่าเสียวกระสันจนแทบกลั้นเสียงร้องไม่ไหว
“อ่าสส อึก อืมม”
“อ้ะ อ๊ายย พ พี่เรียว จ จุก อื้ออ”
มาเทโอชันตัวนั่งหลังตรงมือหนาทั้งสองยกสะโพกมนขึ้นอัดกระแทกถี่รัว ยิ่งเห็นอกอิ่มทั้งสองเด้งขึ้นลงตามแรงกระแทกความเสียวกระสันของเขาก็เพิ่มเป็นทวีคูณ ร่อนสะโพกแกร่งรัวกระแทกร่องสวาทจนสาวเจ้าร้องครางไม่ได้ศัพท์ แรงกระแทกทำธารน้ำรักซ่านกระเด็นเต็มหน้าขาของเขาและเธอ เหงื่อหยดน้อยไหลซิกเต็มตัวคนตัวโตแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งเห็นสาวเจ้ามีความสุขจนครางเสียงหวานแอ่นตัวเร่าเขาก็ยิ่งอยากกระแทกเธออยู่แบบนี้ไม่อยากหยุด
มาเทโอมอบบทรักให้มินตราจวบครึ่งค่อนคืนจนสาวเจ้าสลบเหมือดจึงจำต้องตัดใจดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากตัวของเธอ แต่นั่นก็ใช่ว่าเขาจะหมดอารมณ์ง่ายๆ ยิ่งนอนข้างคนตัวเล็กที่ตัวเปล่าเปลือย อารมณ์ของเขาก็ประทุขึ้นมาได้แทบจะตลอดเวลาจนต้องเข้าไปจัดการตัวเองด้วยมือในห้องน้ำรู้ตัวเองเลยว่าตัวเองเริ่มติดการได้สัมผัสเนื้อตัวของมินตราเข้าแล้ว
“สร้อยอะไร ผมเห็นคุณใส่ติดตัวแทบจะตลอดเวลาเลย”
มาเทโอเอ่ยถามหญิงสาวขณะที่นั่งทานข้าวเช้าด้วยกัน เพราะเป็นอีกครั้งแล้วที่เห็นมินตราหยิบสร้อยที่มีจี้รูปหงส์มาใส่ อีกทั้งเขาเองยังรู้สึกคุ้นกับสร้อยเส้นนี้แปลกๆ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นมันที่ไหน
“ของคุณแม่มะลิค่ะ ตั้งแต่จำความได้มะลิไม่เคยเห็นหน้าพ่อกับแม่ สร้อยนี้เป็นตัวแทนของท่านค่ะ”
“แม่คุณก็อยู่บ้านไม่ใช่เหรอ”
มาเทโอเริ่มวางช้อนส้อมละจากการทานอาหารเพื่อที่จะคุยกับหญิงสาวจริงจังถึงเรื่องแม่ของเธอ
“มะลิเป็นลูกบุญธรรมค่ะ มะลิไม่เคยเห็นแม่กับพ่อหรอกค่ะ แม้แต่รูปก็ไม่มี”
“รู้หรือเปล่าว่าพวกเค้าไปไหน”
สาวเจ้าอมยิ้มส่ายหัว
“คุณย่าเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของมะลิเอามาฝากเอาไว้ แล้วก็หายไปค่ะ พวกท่านไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่มะลิก็ไม่เคยรู้เหตุผลจริงๆ เหมือนกันว่าฝากมะลิไว้กับคุณย่าทำไม”
มินตราว่าจะคุยกับมาเทโอถึงเรื่องพ่อกับแม่ของเธอก่อนหน้าที่จะแต่งงานแล้วแต่ก็ไม่ได้มีจังหวะจะได้คุย วันนี้เขาเอ่ยถามมาเธอก็ถือโอกาสบอกเขาเสียเลย
“ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก นอกจากว่าไร้ความรับผิดชอบ”
มาเทโอเอ่ยเสียงแข็ง คิดว่าพ่อแม่ของหญิงสาวก็ไม่มีความรับผิดชอบไม่ต่างจากพ่อของเขาเลย
“พี่เรียวไม่มีสิทธิ์ว่าพ่อกับแม่มะลินะคะ มะลิเชื่อว่าพวกท่านมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ ขอโทษเดี๋ยวนี้เลย”
มินตราเริ่มยิ้มไม่ออก เธอละมือจากการทานอาหารเงยหน้ามองจ้องคนตรงข้ามด้วยสีหน้าไม่พอใจ เรื่องอื่นมินตราพอจะยอมเขาได้แทบทุกเรื่อง แต่การที่เขามาดูถูกพ่อแม่เธอโดยที่ไม่เคยรู้จักกันเธอยอมไม่ได้
“ผมไม่ขอโทษ”
มาเทโอจ้องหน้ามินตราเขม็ง เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะแสดงกิริยาและน้ำเสียงเช่นนี้ใส่เพียงแค่เขาพูดความจริง
“ผมเข้าใจดีว่าที่ผมต้องกลายมาเป็นลูกบุญธรรมของคุณพ่อ เพราะพ่อผมไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้ผมเกิดมาก็ไม่มีปัญญาเลี้ยง เหมือนกันกับพ่อแม่คุณนั่นแหละ”
“พ่อพี่เรียวบอกเหรอคะ ว่าเค้าไม่มีปัญญาเลี้ยง”
“ไม่ต้องบอกก็รู้”
“คิดบวกสิคะ เค้าอาจจะมีเหตุจำเป็นก็ได้”
“ไม่ แล้วก็เงียบปากซะ”
มาเทโอลุกขึ้นพรวดตวาดใส่มินตราลั่น จนเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกต้องรีบวิ่งมาข้างใน แต่มาเทโอก็ปัดมือให้พวกเขาออกไป ตอนนี้มินตราไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวชายหนุ่มสักนิดเพราะโมโหไม่หายที่เขายังไม่ขอโทษเรื่องที่ว่าพ่อกับแม่ของเธอ
“พี่เรียวยังไม่ขอโทษมะลิเลยนะคะ”
มินตราลุกยืนขึ้นเงยหน้าจ้องมาเทโอไม่วางตา ไม่มีสลดเกรงกลัวกับคำสั่งของเขาหากชายหนุ่มไม่ขอโทษพ่อกับแม่ของเธอ เธอก็จะไม่หายโกรธเขาง่ายๆ
“ไม่ขอโทษ ถ้าพูดมากอีกจะขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนอีกเลย”
มาเทโอเริ่มฟึดฟัดเพราะครั้งนี้ดูจะควบคุมหญิงสาวได้ยาก สิ้นคำประกาศิตของคนไม่มีเหตุผลมินตราก็เริ่มสงบปากสงบคำแต่ก็ไม่วายตวัดมองค้อนชายหนุ่มและเดินหนีเขาออกไปจากโต๊ะอาหารเพราะทานอะไรไม่ลงแล้ว
มาเทโอที่เตรียมตัวออกไปข้างนอก เขายืนชั่งใจวนไปวนมาหน้าบ้านอยู่หลายนาที ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น“วันนี้ผมน่าจะกลับดึก คุณนอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอผม”มินตรายังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หูทวนลมขณะที่มาเทโอมายืนพูดด้วยตรงหน้า เธอหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนไปมาไม่ยอมพูดยอมจาโต้ตอบกับอีกฝ่าย พฤติกรรมของหญิงสาวที่ทำเหมือนมาเทโอเป็นธาตุอากาศเริ่มที่จะทำให้มาเฟียหนุ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกรอบ“ไม่มีปากหรือไง ถามทำไมไม่ตอบ”เขากระชากข้อมือมินตราให้เธอเลิกจ้องแต่มือถือ“ไม่กล้าพูดเดี๋ยวถูกขังค่ะ”เสียงที่เคยหวานตอนนี้เอ่ยแข็งกร้าว ดวงตากลมโตมองค้อนคนเอาแต่ใจ แทนที่เขาจะเข้ามาขอโทษเธอกลับมาทำพฤติกรรมแย่ใส่อีกครั้งใครเค้าจะอยากคุยกับคนพาลกัน“ประชดเหรอ”มินตราสะบัดข้อมือออกจากมือของชายหนุ่ม เธอรีบสาวเท้าเดินหนีมาเทโออีกรอบ ครั้งนี้เธอเลือกที่จะเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องหากมีใครตามไปจะได้เข้าไปหาเธอไม่ได้ มาเทโอยืนเท้าเอวถอนหายใจเฮือกใหญ่ และรีบเดินออกไปขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก เขาต้องปล่อยหญิงสาวไปก่อนเพราะมีงานสำคัญในช่วงเช้านี้“โมเดลลิ่งส่งเด็กใหม่มาให้นาย”ไอเซย่าเดินเข้ายื่นไอแพดตรง
“อืมม อื้ออ”สาวเจ้าแอ่นสะท้านเบาๆ เมื่อมาเทโอเริ่มสอดใส่นิ้วร้ายกับช่องทางรักคับแคบขณะเดียวกันกับที่เขาเริ่มบดจูบมูมมามตวัดลิ้นควานไปทั่งโพลงปากเล็ก เสียงลมหายใจของชายหนุ่มเริ่มฟึดฟัดถี่ขึ้นเพราะอารมณ์สวาทเริ่มประทุพลุ่งพล่าน มือหนาหยอกล้อเล่นกับช่องทางรักสาวเจ้าจนเริ่มรู้สึกเปียกชื้นจึงค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงกับเตียง ก่อนจะถลกชุดเดรสของเธอออกไปกองกับพื้นจนสาวเจ้าเหลือตัวล่อนจ้อนมือทั้งสองดันขาเรียวให้แหกกว้างก่อนจะก้มลงพรมจูบตวัดลิ้นเลียธารน้ำหวานอย่างมูมมาม “อ อื้อ อ้ะ” จนสาวเจ้าหลับตาพริ้มส่งเสียงครางแอ่นตัวเร่า“อืมม”มาเทโอจับขึงสะโพกมนไม่ให้เลื้อยหนีขณะที่ส่งลิ้นร้ายแทงละเลงในร่องสวาทระรัว จนธารน้ำของอารมณ์วาบหวามทะลักให้เขาได้ดูดกลื่นอยู่เรื่อยๆ“อ๊าย อ้ะ”มินตราครางเสียงหลงมือไม้ปัดป่ายจิกหมอนนุ่มจนแทบขาด อกอิ่มตั้งชูชันขนลุกซู่ไปทั่วตัวเริ่มมองคนที่ก้มอยู่กึ่งกลางลำตัวด้วยสายตาปรือเยิ้มเว้าวอน มาเทโอเห็นเช่นนั่นก็รีบถลกผ้าขนหนูที่พันเอวทิ้งเลื่อนตัวขึ้นมาบดจูบริมฝีปากบางอีกรอบ มือทั้งสองบดขยำสองเต้างามนุ่มนิ่มสนุกมือ ไม่นานนักก็เริ่มบดหัวเจ้ามังกรยักษ์ที่กำลังผงาดเต็มที่ถูไถกั
“อ อ้ะ อืมม”มาเทโอตวัดฉกชิมธารน้ำที่ไหลทะลักครู่ใหญ่ สาวเจ้าครางเสียงหวานอยู่ไม่นิ่ง ไม่นานนักคนตัวโตที่กำลังหื่นกระหายก็ยกอุ้มเธอมานั่งพิงหลังที่โซฟาข้างตุ๊กตาหมีตัวโตมาเทโอสอดแขนคล้องขาพับคนตัวเล็กขึ้นคุกเข่ากับโซฟา เขาก้มจูบริมฝีปากบางพร้อมบดสอดใส่แท่งร้อนปูดเป่งก่อนจะสาวสะโพกด้วยลีลาเร่าร้อน“อื้ออ อื้อ อื้อ”มือเรียวกอดรัดเอวหนาแน่น เสียงหวานร้องครางในลำคอเป็นจังหวะที่แท่งร้อนกระแทกสวนเข้ามาในร่องสวาทระงม“อื้ม อื้ออ”มาเทโอหายใจหอบถี่อารมณ์วาบหวามเสียวซ่านเริ่มประทุหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเผลอกระแทกคนตัวเล็กจนตัวโยน ด้วยเสียงครางหวานระบายความกระสันทำเขาควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนเอาไว้ไม่ไหว“พ พี่เรียว มะลิจุก”สาวเจ้าผละจูบหันหน้าหนีส่ายหัวหน้าเหยเก เอ่ยเสียงกระเส่าร้องขอให้คนตัวโตลดจังหวะลง แต่เหมือนเสียงร้องขอของเธอไม่ได้เป็นผลเลยสักนิด“อ่า อ้า อ้าสส”มาเทโอยังรัวสาวสะโพกกระแทกแท่งร้อนไม่มีผ่อน ใบหน้าเชิดแหงนหน้าอ้าปากครางระบายความเสียวกระสันเสียงดังลั่นเพี๊ยะ “มะลิ จุก”เมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดผ่อนปรนจังหวะ มินตราจึงต้องยกมือเรียวฟาดไปที่ต้นแขนชายหนุ่ม ให้เขารับฟังคำประท้วงของเธอบ้าง
“พี่เรียวเค้าฝังใจเรื่องคุณพ่อมากค่ะเลยเป็นแบบนั้น แล้วคุณพ่อมีเหตุผลอะไรที่ต้องฝากพี่เรียวไว้ที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ ล่ะคะ”มินตรานั่งจ้องหน้าซีดเซียวของโทชิโระด้วยสายตาเป็นกังวล อยากจะรู้เหตุผลมากๆ เหมือนกันว่าทำไมโทชิโระถึงได้เลือกที่จะกลับมาหามาเทโอในเวลานี้“ชีวิตของพ่ออยู่ในความเสี่ยง มีธุรกิจใหญ่โตเงินทองล้นมือมากเท่าไรก็ต้องยิ่งระวังตัวมากเท่านั้น ชีวิตพ่อมีคนลอบกัดมาโดยตลอดถึงต้องฝากเรียวไว้กับเหมและขอร้องเหมห้ามบอกความจริงเรื่องพ่อให้เรียวฟัง เพราะกลัวว่าเรียวเลือกที่จะกลับไปหาครอบครัวในขณะที่พ่อยังสะสางอะไรไม่เรียบร้อย ที่พ่อกลับมาก็เพราะมั่นใจแล้วว่าไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้ามายุ่มย่ามกับครอบครัวอีก ที่สำคัญก็อยากจะยกกิจการทั้งหมดให้กับเรียวด้วย...”โทชิโระเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้มินตราได้ฟังอยู่พักใหญ่ มินตราคิดว่าหากมาเทโอได้ฟังเหตุผลของโทชิโระ ทิฐิในใจของเขาน่าละลดลงไปได้มาก มินตรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคนที่เป็นพ่ออย่างโทชิโระและมเหศักดิ์มาก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งสองทำไปก็เพื่อรักษาชีวิตของมาเทโอให้ปลอดภัยเท่านั้นไม่มีเจตนาอื่นเลย“อย่างนี้นี่เอง คุณพ่อเสียสละมากๆ เลยนะคะ
มินตราเห็นมาเทโอเข้าห้องนอนมาในช่วงกลางดึกหญิงสาวที่ตาสว่างโล่รีบล้มตัวฟุบกอดตุ๊กตาหมีหลับตา เพื่อที่จะได้ไม่เห็นชายหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองคำพูดของเขาไม่หาย มาเทโอเปรยสายตามองผ่านคนตัวเล็กอย่างไม่ใส่ใจ แม้จะรู้ว่าเธอรีบล้มตัวนอนหนีหน้าเขา ดีแล้วที่เธอเลือกจะหลับไปจะได้ไม่มาพล่ามเรื่องพ่อให้เขาได้ขุ่นเคืองใจอีกมาเทโออาบน้ำเสร็จก็พันผ้าขนหนูปิดช่วงล่างหมิ่นเหม่เข้ามาสวมกอดหญิงสาวที่นอนกอดตุ๊กตาหมี เขากรอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะยังไม่ทันจะดึงตัวสาวเจ้ามากระชับกอดดีๆ เธอก็ขืนตัวหนีไปกอดตุ๊กตาหมีเช่นเดิม“ผมให้โอกาสคุณพูดแค่ครั้งเดียว”มินตราได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งลืมตากว้างผุดลุกนั่งเปรยยิ้มร่าให้คนที่นอนอารมณ์เสียยกมือก่ายหน้าผากอยู่ข้างๆ“มานอนพูดตรงนี้”มาเทโอวาดแขนอีกข้างพาดยาวให้หญิงสาวได้ล้มตัวนอน มินตรารีบเลื่อนตัวนอนฟุบเทินหัวกับแขนแกร่ง คิดมาตั้งนานว่าจะทำอย่างไรให้มาเทโอรับฟังเธอ จนวางใจไม่อยากจะคิดแต่เขากลับมาขอให้เธอพูดให้ฟังง่ายๆเสียอย่างนั้น และมีหรือเธอจะปล่อยให้โอกาสดีๆเช่นนี้หลุดลอยไป หวังว่าคำพูดของเธอจะทำให้มาเทโอเข้าใจโทชิโระได้ไม่มากก็น้อย“ที่พ่อพี่เรียวทิ้งไปก็เพร
“คุณพ่อกับคุณรันต์กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ถ้าหมอว่ายังไงเดี๋ยวมะลิโทรบอกนะคะ”มินตราเห็นมเหศักดิ์และการันต์มานั่งรอฟังผลการผ่าตัดตั้งแต่เมื่อคืนจวบจนเช้า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าหมอจะออกมา เธอจึงเอ่ยให้ทั้งสองกลับไปพักเพราะรู้ว่าทั้งมเหศักดิ์และการันต์ก็มีงานการกันทั้งคู่“อืม เดี๋ยวฉันกับการันต์ต้องขอตัวก่อน ยังไงหนูมะลิก็บอกให้เรียวได้พักผ่อนด้วยล่ะ”“ค่ะคุณพ่อ”“ขอตัวนะครับ”มินตราค้อมหัวให้ทั้งสองก่อนจะรีบกลับมานั่งกุมมือมาเทโอเอาไว้ สายตาของชายหนุ่มตอนนี้เอาแต่จับจ้องไปยังหน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมละ ในใจของหญิงสาวตอนนี้อยากจะให้หมอออกมาพูดอะไรสักคำก็ยังดีเพราะรู้สึกสงสารมาเทโอเหลือเกิน“หมอยังไม่ออกมาบอกอะไรอีกเหรอ”ไอเซย่าเข้ามาหามาเทโอในช่วงใกล้เที่ยง คราแรกคิดว่าโทชิโระจะได้ออกจากห้องผ่าตัดแล้วเสียอีก“อืม”“ถ้านายอยากฟังข่าวใกล้ชิดฉันว่านายพักที่โรงแรมข้างๆ โรงพยาบาลก็ได้ เดี๋ยวฉันจองห้องให้ คุณมะลิจะได้พักด้วย”ไอเซย่ามองไปยังมินตราที่ยืนดื่มกาแฟร้อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขานับถือหัวใจของหญิงสาวเลยทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแท้ๆ แต่กลับมีท่าทีห่วงใยโทชิโระและมาเทโอไม่ต่างจากคนในครอบค
“เมื่อกี้มะลิขอโทษนะคะ”ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ได้มินตราก็รีบเอ่ยขอโทษมาเทโอเสียงอ่อน สีหน้าของเธอตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะรู้ตัวว่าทำเกินหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ผู้หญิงคนเมื่อครู่บอก“อืม”มาเทโอไม่ได้ถือสาอะไรหญิงสาว แค่เธอทำให้มาริษาเลิกมายุ่มย่ามกับเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว“ค่ะ แล้วคุณพ่อพี่เรียวเป็นยังไงบ้างคะ”“การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่ต้องเฝ้าดูอาการตลอดเวลา”“รู้แบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเห็นพี่เรียวนั่งเศร้าอีก”มาเทโอมองจ้องหญิงสาวที่ทำท่าทางโล่งใจ ริมฝีปากหนาเปรยยิ้มอ่อน ไม่รู้ว่าหญิงสาวห่วงอะไรเขานักหนาคิดไปคิดมาก็ไปสะดุดเมื่อนึกถึงคำพูดของไอเซย่า “ว่าไปคุณมะลิดูห่วงนายเป็นพิเศษแถมยังหวังดีกับนายมากด้วย ถ้าเธอเกิดรักนายขึ้นมาจะทำไง” ไม่แน่ความคิดของไอเซย่าอาจจะเป็นจริง และหากเป็นเช่นนั้นเขาเองก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อย เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้าใจคนเป็นพ่อ ความรู้สึกที่ไม่อยากมีครอบครัวไม่อยากผูกมัดกับใครก็หายไปโดยปริยาย และจะดีไม่น้อยหากได้ผู้หญิงที่คิดห่วงใยคนอื่นโดยไม่มีข้อแม้อย่างมินตรามาเป็นคู่ชีวิต“เป็นอะไรหรือเปล่า ดูซึมๆ ไป”มาเทโอเห็นมินตราดูไม่ค่อยจะร่าเริ
พอใจรีบถือกระเช้าผลไม้เดินปรี่ไปที่ลานจอดรถ เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเดินเลือกซื้อกระเช้าไปเยี่ยมโทชิโระในช่วงเช้าเธอรู้สึกได้ว่ามีคนตามตลอดเวลา และสังเกตเห็นผู้ชายชุดดำใส่หมวกอยู่ถึงสองสามครั้งเธอจึงค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่ได้กำลังคิดไปเอง“พวกคุณเป็นใคร”ไม่ทันที่สาวเจ้าจะสาวเท้าถึงรถ จู่ๆ ก็มีรถตู้ขับมาเทียบตัวของเธอและมีเหล่าชายฉกรรจ์สามสี่คนกรูกันลงมาจากรถขวางหน้าเธอเอาไว้ คนเหล่านั้นไม่พูดไม่จาลงรถมาได้ก็รีบดึงทึ้งตัวของพอใจให้ขึ้นรถไป“ช่วยด้วยค่ะ อ๊ายยย ช่วยด้วย”กระเช้าของหญิงสาวหลุดจากมือไปกองกับพื้น เธอหลับตาปี๋กรีดร้องลั่นตัวสั่นเทาไม่กี่วินาทีก็รู้สึกได้ว่าตัวของเธอกำลังถูกใครบางคนดึงออกจากรถไป เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่โล่งก็รีบลืมตาภาพตรงหน้าตอนนี้คือไอเซย่าและเคนชิกำลังอัดคนพวกนั้นจนไปนอนกองกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที จากคราแรกที่ตกใจจนตัวสั่น ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นกับฝีมือของสองหนุ่มมากกว่า ในใจตอนนี้นึกขอบคุณไปทั่วที่ฟ้านั้นส่งเคนชิและไอเซย่ามาช่วยเธอได้ทันตอนนี้พอใจนั่งอยู่โรงพักมาร่วมชั่วโมงให้ปากคำจนปากเปียกปากแฉะ เพราะไม่ว่าตำรวจจะเค้นถามหาศัต
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง
“ทำไมการันต์ถึงได้ไหวตัวเร็วขนาดนั้น ทั้งที่เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องไม่ถึงวัน”ขึ้นรถได้ไอเซย่าก็หันมาคุยกับมาเทโอด้วยความฉงนใจ“ภาคภูมิ”เป็นมเหศักดิ์ที่ให้ความกระจ่างกับสองหนุ่ม หากเขาไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาเทโอได้ยินเช่นนั้นก็เอาแต่นั่งเงียบลำดับเหตุการณ์เท่าที่สังเกตมาก็คิดว่ามเหศักดิ์น่าจะเดาอะไรไม่ผิด เพราะครั้งที่มารตีและตฤณภพหายตัวไปเขาก็เห็นการันต์และภาคภูมิสุงสิงกันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และหากครั้งนี้ภรรยาของเขาจะต้องเป็นอะไรไปเขาไม่เอาคนพวกนั้นไว้แน่“พาฉันมาทำอะไรที่นี่”มินตราถูกกชกรลากออกมาจากรถตู้มานั่งที่ริมหน้าผาสูง ตอนนี้ฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถตู้คันที่พาเธอมาเท่านั้น มินตรามองซ้ายมองขวาแอบมีแววตาไหวระริก หัวใจเต้นถี่รัวเพราะความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจมากพอสมควร“รอตาแกมาเซ็นยกทุกอย่างให้ฉันไง”“พวกคุณใช่ไหมที่เป็นคนตามฆ่าพ่อกับแม่ฉัน”“ฉลาดนี่ เห็นตรงนั้นไหม พี่ฉันฆ่าพ่อแม่แกแล้วโยนลงน้ำไปตรงนั้น อยากไปอยู่กับพวกมันไหมล่ะ เดี๋ยวถ้าตาแกเซ็นทุกอย่างให้พวกฉันแล้วจะช่วยสงเคราะห์ให้”แม้ตอนนั้นกชกรจะยังเป็นเ
“คุณย่าไปคุยอะไรกับคุณเหมนานสองนานคะ ดูทั้งสองคนท่าทางไม่ดีเลยนะคะ”พอใจชะเง้อมองมเหศักดิ์และย่าของเธอผ่านหน้าต่างแทบจะตลอดเวลา แถมตอนนี้สองคนนั้นยังมีน้ำตากันทั้งคู่จนเธอต้องหันมาถามหาความเห็นจากคนเป็นแม่“อีกเดี๋ยวคงได้รู้เรื่องกันเองนั่นแหละ”ไพลินหันไปมองมินตราที่นั่งกอดกับมาเทโอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนน่าสงสาร เธอไม่รู้เลยว่าหากมเหศักดิ์ได้รู้ว่ามินตราเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองจะยินดีที่จะรับมินตราเป็นคนในครอบครัวหรือจะจองล้างจองผลาญเหมือนกับตอนที่ทำกับมารตีและตฤณภพ ได้แต่ภาวนาในใจขอคุณพระคุณเจ้าว่าอย่างให้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกเลยพุดกรองคุยกับมเหศักดิ์ได้พักใหญ่ก็พากันกลับเจ้ามาในบ้าน ทั้งสองมีคราบน้ำตากันทั้งคู่จนคนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจไปตามๆ กัน“มาหาตาของเราสิมะลิ”“คะ? “มินตรามองหน้ามาเทโอขณะเดียวกันกับเขาก็จับจ้องมาที่หน้าเธอด้วยความสังสัยเหมือนกัน ก่อนที่มินตราจะผละออกจากอกมาเทโอเดินเข้ามาหาพุดกรอง“คุณเหมเป็นพ่อแท้ๆ ของของมารตีแม่ของเรายังไงล่ะ”พุดกรองเข้ามาจับไหล่หลานสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปรยยิ้มและบอกความจริงให้มินตราไ
“พี่คุยกับคุณแม่แล้วก็คุณย่าแล้วนะ ตอนแรกก็เหมือนจะโกรธแต่พวกท่านบอกว่าถ้ารักกันจริงก็ให้ทางคุณเรียวพาผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว”พอใจรีบเข้ามาหามินตราหลังจากจัดการเจรจาเกริ่นกับทางย่าและแม่ของเธอเรื่องการแต่งงานของมินตรา กว่าจะคุยกันให้เข้าใจได้เล่นเอาสมองของเธอแทบจะไหลออกมาจากหู เพราะต้องสรรหาคำพูดชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้แม่และย่าเธอหายเคืองใจมินตรา กว่าจะคุยกันจบปาไปเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงอยู่เหมือนกัน“ขอบคุณพี่พอใจมากๆ เลยนะคะ”มินตราสวมกอดพอใจแน่น น้ำแทบรื้นเพราะความกังวลในใจหายไปก้อนใหญ่หลังจากที่รู้ว่าย่ากับแม่ไม่คิดโกรธเรื่องที่เธอแต่งงานโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวแล้ว“หลังจากนี้จะได้หมดเรื่องอึดอัดใจสักที”พอใจรู้ว่าความฝันของน้องสาวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขของมินตราเธอพร้อมจะช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว ตอบแทนที่มินตราเลือกที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกันและแล้ววันนี้มินตราและมาเทโอก็ได้เดินทางมาที่บ้านสวนของพุดกรองที่จันทบุรี ส่วนไพลินและพอใจเดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเพื่อมาเตรียมตัวรับแขกผู้ใหญ่ฝ่ายมาเทโอกันในวันนี้“ผมต้องขอโท